Friday, 11 July 2025
NEWS FEED

ส่อแขวนสตั๊ด!! ‘อีริคเซ่น’ ส่อปิดฉากอาชีพ หลังวูบคาสนามหัวใจหยุดเต้น

ควันหลงฟุตบอลยูโร 2020 หลังจาก คริสเตียน อีริคเซ่น วูบหมดสติไปคาสนามระหว่างการลงสนามนัดแรกของ เดนมาร์ก ในศึกยูโร 2020 เมื่อคืนวันเสาร์ และโชคดีที่เพื่อนร่วมทีมเข้าไปช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมถึงแพทย์สนามเข้าไปช่วยทำ CPR ยื้อชีวิตกลับมาได้ทันนั้น คาดเป็นอาหารหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ราว 5 นาที

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายครึ่งแรก ทุกฝ่ายโล่งอก มิดฟิลด์จาก อินเตอร์ มิลาน อาการพ้นขีดอันตรายและฟื้นกลับมาพูดอะไรได้บ้างแล้วหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตอนพักครึ่ง

ถึงกระนั้นด้าน ดร.สกอตต์ มาร์รีย์ แพทย์หัวใจของ NHS เผย อีริคเซ่น อาจไม่ได้กลับมาเล่นฟุตบอลได้อีก โดยเชื่อว่ากฎในฟุตบอลลีกของอิตาลี อาจจะแบนเขาจากการลงเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมในสนาม หรือก็คือ มิดฟิลด์ชาวเดนมาร์กรายนี้ น่าจะทำให้เขาต้องปิดฉากการค้าแข้งในเซเรีย อา ไปด้วย

"มันอาจเป็นการสิ้นสุดอาชีพของเขาในอิตาลี เพราะตามกฎหมายที่นั่นห้ามใครก็ตามที่พบว่ามีความผิดปกติของหัวใจอย่างมีนัยสำคัญ ลงเล่นกีฬาอาชีพอย่างเด็ดขาด พวกเขาทำอย่างนั้นมาเป็นเวลานานเกินกว่า 20 ปี พวกเขาสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นในการแข่งขันกีฬาจากกว่า 3% เหลือต่ำกว่า 1% ได้"

แม้ อีริคเซ่น จะอาการทรงตัวแล้วที่โรงพยาบาล แต่แฟนบอลและอดีตนักฟุตบอลหลายคนแสดงความไม่พอใจทางยูฟ่าอย่างแรงที่ยังสั่งให้เกมต้องดำเนินต่อไปจนจบทั้งที่เพิ่งหวิดเกิดโศกนาฎกรรมในสนาม แต่ทางยูฟ่า ก็ได้มีการประกาศในสนามว่าทั้งสองทีมต้องการเตะกันต่อจบจบแมทช์

สำหรับเดนมาร์ก ที่ลงเตะในฐานะเจ้าบ้าน หลังเจอเรื่องอกสั่นขวัญแขวนไปในช่วงท้ายครึ่งแรก และเสียผู้เล่นสำคัญอย่าง อีริคเซ่น ไป จากที่เล่นด้วยฟอร์มที่เหนือกว่า สถานการณ์ก็พลิกทันที และตกเป็นฝ่ายตามหลังในช่วงต้นครึ่งหลัง จากการทำประตูของ โยเอล โปยันปาโล นาทีที่ 59 ก่อนจะพ่ายไปหวุดหวิด 0-1

 

ที่มา: https://www.thaipost.net/main/detail/106281


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์ข้อความพบปัญหาผู้ได้รับวัคซีน ‘Sinovac’ 2 เข็มแล้ว แต่ภูมิคุ้มกันขึ้นน้อยถึงน้อยมาก ย้ำต้องระมัดระวัง

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า

“เริ่มเห็น ปัญหาภูมิขึ้นน้อยถึงน้อยมากมาก…ต้องเริ่มระมัดระวัง

นพ.เขตต์ ศรีประทักษ์

คุณชนิดา รุจิศรีสาโรช

นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา

ผู้ที่ได้รับวัคซีนชิโนแวค ครบสองเข็มไปแล้ว สามถึงสี่สัปดาห์พบว่ามีหลายรายที่ neutralizing antibody ไม่มี หรือที่สูงเพียง 20-30%

การวัด ตัดที่ 20% inhibition คือความสามารถในการยับยั้งไวรัสได้ต้องมากกว่า 20% จึงจะถือว่ามีภูมิคุ้มกัน (ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬา)

ทั้งนี้ อาจจัดแบ่งออกได้ เป็นสามลักษณะ

1.) คนที่ได้รับวัคซีนตามปกติจะมีการตอบสนองที่สูง กลางและต่ำเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ต้องขึ้น

วัคซีนเทคนิคเชื้อตายเช่นวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าต้องฉีดสามเข็มในวันที่ศูนย์ สามและเจ็ดถึงจะเริ่มเห็นภูมิคุ้มกันในเลือดประมาณวันที่ 10 และขึ้นในทุกคนในวันที่ 14

ดังนั้น วัคซีนซิโนแวค ฉีดสองเข็มห่างกันหนึ่งเดือนจึงทำการประเมินที่สามหรือสี่สัปดาห์หลังจากเข็มที่สอง แต่ทั้งนี้ ควรจะต้องมีภูมิขึ้นในระดับน่าพอใจในทุกคน

2.) แต่ในบางกลุ่มที่ได้รับวัคซีนในวันเดียวกัน รับการฉีดที่เดียวกัน ปรากฏว่าไม่มีภูมิขึ้นเลย (น้อยกว่า 20%) อาจเป็นไปได้ว่าวัคซีนในชุดเดียวกันนั้นอาจจะมีปัญหา

3.) มีภาวะประจำตัวที่สำคัญเช่น สูงอายุและมีเบาหวาน ที่ภูมิไม่ขึ้น ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลของสถาบันแห่งหนี่ง

4.) เริ่มมีการรายงานผู้ป่วย covid-19 ทั้ง ๆ ที่ฉีด Sinovac ครบ 2 เข็ม และ astra 1 เข็มแล้ว

บางรายที่ติดมีการตรวจวัดภูมิคุ้มกันหลังฉีดแล้วว่าขึ้น แต่ไม่สูงมาก

• ดังนั้น ในกรณีที่ภูมิไม่ขึ้นหรือขึ้นน้อยกว่า 68% ซึ่งเป็นตัวเลขในทางทฤษฎีที่มีความสัมพันธ์กับการป้องกันการติด อาจจะต้องพิจารณาถึงการได้รับวัคซีนเข็มที่สามไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อเก่าหรือยี่ห้อใหม่ก็ตาม

• นอกจากนั้น ในกรณีของการเกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงไม่ว่าจะเป็นวัคซีนอะไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าทำให้ภูมิคุ้มกันยิ่งสูงขึ้น เพราะเป็นการอักเสบผ่านทางคนละระบบ

• ทางการสิงคโปร์ยินยอมให้ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาหรือแพ้อาหารอย่างรุนแรงฉีด mRNA ได้ แต่ปรากฏว่าด้วยสาเหตุอะไรอธิบายไม่ได้ คนสิงคโปร์มีปฏิกิริยาแพ้ค่อนข้างรุนแรงต่อวัคซีน ดังนั้น ให้เป็นข้อปฏิบัติว่าถ้ามีอาการแพ้ดังกล่าวให้ไปฉีดวัคซีนอื่นเช่นซิโนแวค”


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“เสี่ยโจ้” อัดนายกฯ สอบตก ถามม้าตอบช้าง ไม่มีรายละเอียดใช้เงินกู้ ซัดกองทัพเรือยังจะซื้อเรือดำน้ำทั้งที่ประเทศต้องกู้เงิน จี้ทำโพลถาม ปชช.ควรซื้อไหม

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชรภารณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรค พท.ร่วมแถลงข่าว โดยนายยุทธพงศ์ ในฐานะโฆษกรรมาธิการงบประมาณฯ กล่าวถึงความคืบหน้าของกรรมาธิการงบประมาณ 65 ว่า เราเริ่มประชุมเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เริ่มจากภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยสภาพัฒน์ฯ ยืนยันว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตร้อยละ 4-5 ส่วนงบประมาณ 65 จำนวน 3.10 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการจัดเก็บ 2.60 ล้านบาท เงินกู้ 7 แสนล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังระบุว่าจะจัดเก็บตามเป้าได้ ส่วนงบประมาณปี 64 ที่กำลังใช้อยู่ประมาณ 3.30 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ 2.67 ล้านบาท ซึ่งปีนี้กระทรวงการคลังคาดว่าจัดเก็บต่ำกว่าเป้าประมาณ 2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ จะพิจารณาตั้งอนุกรรมาธิการรวม 8 คณะโดยจะตั้งอนุกรรมาธิการชุดต่างๆ ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ และในสัปดาห์นี้จะพิจารณากระทรวงการคลังต่อ กระทรวงพาณิชย์ และกระทวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้กองทัพเรือได้เปิดเพจเรือดำน้ำทางเฟซบุ๊ก "เรือดำน้ำไทย Thai Submarine" โดยยอมรับว่าตั้งงบซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำ จำนวน 22,500 ล้านบาทอยู่ในงบประมาณปี 65 โดยอ้างว่ามีความจำเป็น เพราะเคยมีเรือดำน้ำประจำการมาก่อนตั้งแต่ปี 2481 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาถึงตอนนี้มีความจำเป็นเพราะเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ทางทะเล แต่ตอนนี้มีวิกฤตเศรษฐกิจ คนอดอยาก และการแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้เราไม่มีเงินจะซื้อ ต้องไปกู้เงินมา โดยปี 65 กู้ 7 แสนล้านบาท และสัปดาห์ที่ผ่านมาก็กู้อีก 5 แสนล้านบาท ถามว่าเรือดำน้ำสำคัญอย่างไรกว่าปากท้องและวัคซีนประชาชน หากกองทัพเรือมั่นใจว่าเรือดำน้ำเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ขอท้าให้กองทัพเรือทำโพลสอบถามประชาชน ว่าในภาวะเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่ที่จะซื้อเรือดำน้ำใหม่อีก 2 ลำ ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ จะได้ไม่ต้องมีปัญหาว่ากรรมาธิการฯ คัดค้านหรือมีอคติกับกองทัพเรือ แต่วันนี้ประเทศไม่มีงบประมาณ เป็นความเดือดร้อนของประชาชน อีสานบ้านตนตอนนี้วัวยังติดเชื้อ ไม่มีเงินช่วยเขาเลย ดังนั้นกู้เงินมาแล้วก็ต้องเอามาช่วยประชาชนก่อน

นายยุทธพงศ์ กล่าวถึงการอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่การพิจารณาของรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายกฯ ตอบไม่ตรงคำถาม ใช้เทคนิคถามม้า ตอบช้าง ไม่ตอบสาระสำคัญ พรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายว่าเหมือนตีเช็คเปล่าให้นายกฯ 5 แสนล้าน โดยไม่มีรายละเอียดการใช้เงิน มีเนื้อหาเพียง 3 บรรทัดว่า เพื่อแก้ไขเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากไวรัสโควิด-19 ใช้ในการแพทย์และสาธารณสุข 3 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและเกษตรกร 3 แสนล้านบาท และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 1.7 แสนล้านบาท ขณะที่เงินกู้เก่า 1.0 ล้านล้านบาท ก็ยังเหลืออยู่ 2.9 แสนล้านบาท ดังนั้นที่ฝ่ายค้านเสนอให้ออก พ.ร.บ.งบประมาณกลางปีเพื่อให้ตรวจสอบการใช้งบได้ ก็ไม่ยอมทำ ตอนนายกฯ มาถึงสภาฯ ก็ไม่ตอบคำถาม แถมมาก็ยังมาพูดข่มขู่ว่าพวกพูดข้างนอกให้ระวัง ตนถือว่าสอบตกเพราะชี้เแจงไม่ได้เลย ส่วนที่บอกว่าไม่โง่หรอกที่จะกู้ถึง 60% ก็ไม่อธิบาย ไปพูดสำนวนโวหาร แล้วก็พูดเลยไปพูดถึง ส.ส.พปชร.ที่ไปพาใครมาแถลงข่าวแทน สรุปไม่ตอบคำถามเรื่องวัคซีนเลย ไม่ตอบว่าจะเอาเงินกู้ไปทำอะไร ที่สำคัญที่ฝ่ายค้านถามเรื่องวัคซีนแอสตร้าฯ ว่าซื้อเท่าไร กำหนดส่งมอบเมื่อไร ที่บอกจะฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา สุดท้ายก็ฉีดได้ 4.1 แสนคน ฉีดไม่ถึงวันละ 5 แสนคนตามที่ตั้งเป้าไว้

ด้านนายจิรพงษ์ กล่าวว่า คนที่มีฐานะสามารถไปฉีดวัคซีนในต่างประเทศได้ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ท่านทำได้ แต่ชนชั้นกลางและชนชั้นล่างของประเทศกลับไม่มีสิทธิเลือกวัคซีนได้เลย คนที่ป่วยยังต้องไปนอนโรงพยาบาลสนาม สะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยได้อย่างชัดเจน รัฐบาลพยายามฉีดวัคซีนให้ประชาชน แต่จำนวนการฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลับลดลงเรื่อยๆ จนหมอชนบทออกมาแนะนำให้กระทรวงสาธารณสุข ออกมาพูดความจริงว่าวัคซีนไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ก็เครียดเพราะกังวลเรื่องการถูกเพ่งโทษ ขณัที่บุคลากรทางการแพทย์ไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง ไม่สามารถเบิกเบี้ยเลี้ยงได้ ให้ใช้งบฯจากโรงพยาบาลไปก่อน ตนจึงขอเรียกร้องให้นำเงินจากการกู้เงินนำมาจัดสรรให้บุคลากรเหล่านี้ด้วย

รัฐบาล ชี้ ผลงานปราบยาเสพติดข้ามชาติ อื้อ! จ่อถก 6 ชาติลุ่มน้ำโขง-UNODC 5 ก.ค. นี้

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการรายงานข่าวการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายข้ามพรมแดนและข้ามชาติในหลายกรณี แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วนประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพไทย ตำรวจปรามปรามยาเสพติด กรมศุลกากร เครือข่ายภาคประชาชน และหน่วยงานต่างประเทศ เป็นต้น โดยสถิติการตรวจยึด นับตั้งแต่ปี 2562 มีปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะยาไอซ์ และเฮโรอีน ที่ถูกนำเข้าเพื่อส่งผ่านไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง เป็นต้น ถือเป็นปัญหาร่วมกันของประเทศในภูมิภาค 

ทั้งนี้รัฐบาลโดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ คือ จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม และไทย และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในวันที่ 5 ก.ค.นี้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยตั้งแต่ ต.ค.63-มิ.ย.64 ยึดยาบ้า 344 ล้านเม็ด ไอซ์ 20,662 กก. และเฮโรอีน 2,760 กก. ยาอี 279,868 เม็ด รวมทั้งจับกุมยาเสพติดที่เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ รวม 84 คดี เป็นยาบ้า 39,002 เม็ด ไอซ์ 72.08 กก. เฮโรอีน 285.69 กก. ยาอี 1,922 เม็ด นอกจากดำเนินการจับกุมแล้ว กระทรวงยุติธรรม ยังได้ทำงานเชิงรุกเรื่องการขยายผลการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดคดียาเสพติด ส่งผลให้ ตัวเลขการยึดทรัพย์ ในสามไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ 2564 มีมูลค่า 4,549 ล้านบาท มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3,480 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ได้ทั้งปี 6,000 ล้านบาท

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน และวาระแห่งชาติ ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณ สำหรับยกระดับเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเอาผิดยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมปรับปรุงกฎหมาย โดยครม. ผ่านร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ซึ่งขณะนี้รอการเห็นชอบจากรัฐสภา ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างประมวลกฎหมายคดียาเสพติด ร่างพระราชาบัญญัติคดียาเสพติด มีสาระสำคัญ เกี่ยวกับการกำหนดอัตราโทษใหม่ที่เหมาะสม การขยายผลการยึดทรัพย์ ส่งผลทำให้การตัดวงจรและทำลายเครือข่ายยาเสพติดได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายกฯ สั่ง สตช.-ดีอีเอส-ฝ่ายปกครอง เข้มงวด ปราบ โต๊ะพนันบอลยูโร พนันออนไลน์ พร้อมจี้ จนท. ตรวจร้านอาหารแอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฝ่าฝืนมาตรการโควิด-19

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงสถานการณ์การเล่นการพนันในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย จึงได้กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ฝ่ายปกครอง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดในการตรวจสอบ ป้องกันการพนันฟุตบอล ทั้งการลักลอบเปิดโต๊ะพนันในพื้นที่ต่างๆ และการพนันออนไลน์ ซึ่งมีอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีละเว้น 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ส่งความสุขให้ประชาชน ได้รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุด ผ่านช่อง NBT2HD โดยเห็นว่าจะช่วยลดความเครียดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเล่นการพนัน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ที่สำคัญยังเสี่ยงต่อการสูญเสียทรัทย์สินจากการเล่นการพนันด้วย นอกจากนี้ ยังขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา พบการลับลอบเปิดโต๊ะพนัน รวมถึงแหล่งพนันออนไลน์ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดี

นอกจากนี้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับรายงานการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร โดยเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดในมาตรการควบคุมโรคตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. จึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หมั่นตรวจตราร้านอาหารทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันการกระทำความผิด พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่ไม่ปล่อยปละละเลย อันจะเป็นเหตุของแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง เพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ของทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ

จู้ด เบลลิงแฮม กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในศึกยูโร หลังถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทน แฮร์รี่ เคน ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และทำผลงานได้ดีแม้จะมีเวลาให้โชว์ของเพียงไม่นานก็ตาม

เจ้าหนูเบลลิงแฮมสร้างประวัติศาสตร์

อังกฤษ ในยุคนี้มีนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นมาประดับวงการลูกหนังมากมาย ล่าสุด จู้ด เบลลิงแฮม ปีกฟอร์มฮอต ได้กลายเป็นนักเตะแห่งประวัติศาสตร์ เมื่อเขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในเกม ยูโร แมตช์ที่ อังกฤษ เฉือน โครเอเชีย

ดาวเตะจากทัพ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน แฮร์รี่ เคน ในนาทีที่ 82 ทำให้เขาเป็นแข้งที่อายุน้อยที่สุดในวัย 17 ปี 349 วัน ทำลายสถิติของ เจโตร วิลเลมส์ ดาวเตะชาวฮอลแลนด์ ที่ทำเอาไว้เมื่อ 9 ปีก่อน

 

ที่มา: https://www.siamsport.co.th/football/euro2020/view/240347


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

แฟนบอลไทย ดีใจ บิ๊กตู่ หนุน ให้ได้ดู บอลยูโร คลายเครียดจากโควิด-19 ขอบคุณ "โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ" ผู้เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พี่น้องแฟนฟุตบอลชาวไทย ฝากขอบคุณนายกฯ และรัฐบาลที่ทำให้คนไทยได้ดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป2020 หรือ ยูโร 2020 ที่กรมประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอด ในขณะที่ประเทศเกิดวิกฤตการระบาดเชื้อโควิด-19 อยู่ ประชาชนเกิดความเครียดอยู่บ้าง

หากได้ชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร ที่สามารถดูได้ทุกบ้านนั้นจะทำให้คนได้ผ่อนคลายขึ้นได้ การแข่งขันฟุตบอลยูโร เป็นรายการที่ประชาชนคนไทยให้ความสนใจมาก นายกฯ จึงมีแนวคิดที่ต้องการให้คนไทยได้ชมการแข่งขันฟุตบอล จึงประสานงานหลายส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันเพื่อให้สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรให้ได้ แสดงให้เห็นว่านายกฯได้ให้ความสำคัญกับประชาชนในทุกเรื่อง ซึ่งแม้ในขณะที่ประเทศกำลังเจอกับวิกฤตโควิดก็ตาม แต่นายกฯ ก็ไม่ลืมที่จะดำเนินการเรื่องนี้เพื่อให้ความสุขแก่คนไทย แฟนฟุตบอลชาวไทยก็ฝากขอขอบคุณผู้สนับสนุน นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ที่เป็นผู้เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2020 ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือกันในขณะที่ประเทศกำลังประสบปัญหาอยู่ หลังจากนายกฯได้มอบให้นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เจรจาเป็นผลสำเร็จในการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรได้ชมกันทั่วประเทศ 

นายกฯ สั่ง หน่วยงาน รับมือ สถานการณ์ฝน ย้ำ 10 มาตรการ ต่อเนื่องถึงแล้งหน้า

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งบูรณาการหน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครองและทหาร เตรียมความพร้อมรับสถานกาณ์ช่วงฤดูฝน รวมถึงวางแผนการบริหารจัดการน้ำต่อเนื่องจนถึงฤดูแล้งหน้า รวมทั้งให้สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำทั้งเพื่อการอุปโภค-บริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม และการรักษาสภาพแวดล้อม สำหรับการวางแผนรับมือสถานการณ์ฤดูฝน ในเชิงป้องกันก่อนเกิดภัย ประกอบด้วย 10 มาตรการ ดังนี้

1.) คาดการณ์ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและฝนทิ้งช่วง โดยจะมีการประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ เพื่อเตรียมแผนในเชิงป้องกันล่วงหน้า

2.) การบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก รวมทั้งการจัดทำแผนการชดเชยให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำเข้าทุ่ง

3.) ทบทวน ปรับปรุงเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลางและเขื่อนระบายน้ำ โดยติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการบริหารจัดการน้ำรวมทั้ง จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง ในช่วงภาวะวิกฤติ

4.) ซ่อมแซมปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำสถานีโทรมาตรให้พร้อมใช้งาน โดยตรวจสอบสภาพความมั่นคง และซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำ อาคารควบคุมบังคับน้ำ รวมทั้งระบบระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง 

5.) ปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ สำรวจ และดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เกิดจากการก่อสร้างและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการปรับปรุงคูคลอง เพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำ และระบายน้ำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

6.) ขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา กำจัดวัชพืชในแม่น้ำ และคูคลอง ทั่วประเทศด้วยการบูรณาการเครื่องจักรเครื่องมือในการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชของทุกหน่วยงาน 

7.) เตรียมพร้อม วางแผนเครื่องจักรเครื่องมือ ประจำพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและฝนน้อยกว่าค่าปกติ เตรียมพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและเข้าช่วยเหลือได้ทันสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง

8.) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและปรับปรุงวิธีการส่งน้ำ วางแผนการจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ 

9.) การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์

10.) ติดตามประเมินผลปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัย

นายอนุชา กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลในช่วงปี 2561 ถึงปัจจุบัน รัฐบาลขับเคลื่อนแผนงานโครงการด้านน้ำตามแผนแม่บทน้ำ 20 ปีไปแล้ว 125,162 โครงการ วงเงิน 314,182 ล้านบาท มีผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญ เช่น การเพิ่มน้ำต้นทุน ระบบส่งน้ำ การพัฒนาและขยายเขตประปาหมู่บ้าน 3,214  แห่ง พัฒนาน้ำบาดาลเกษตรและธนาคารน้ำใต้ดิน ได้น้ำ 100  ล้าน ลบ.ม. ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 135,170 ไร่ ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์แล้ว 2,274,737 ครัวเรือน รวมทั้งยังจะมีการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่และโครงการสำคัญรวม 526โครงการภายในปี 2564-2566 นี้

เจอโรคเลื่อน! กทม.ประกาศเลื่อนฉีดวัคซีน คนลงทะเบียน 'ไทยร่วมใจ' ตั้งแต่ 15 มิ.ย.

14 มิ.ย. 64 - เพจ ‘กรุงเทพมหานคร โดย สำนักงานประชาสัมพันธ์’ โพสต์ข้อความว่า ไทยร่วมใจ “กรุงเทพฯ ปลอดภัย" SAFE BANGKOK ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ลงทะเบียนในโครงการ "ไทยร่วมใจ" ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 64 เป็นต้นไป

"ไทยร่วมใจ" ยืนยันว่า จะรีบดำเนินการจัดฉีดวัคซีนให้ทุกท่านโดยเร็วที่สุด ทันทีที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน จะมี SMS แจ้งให้ท่านสามารถเลือกวันและเวลานัดหมายใหม่ ขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้

ที่มา : https://www.facebook.com/prbangkok/photos/a.340316886067939/3569037779862484/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โรงพยาบาลพญาไท 3 เสริมกำลังใจ พร้อมสร้างมาตรฐานความปลอดภัย ให้แก่ผู้รับบริการ

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์ ปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค เอ็ม ซี ซี ฮอลล์ ชั้น4

โดยเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ภายใต้ความร่วมมือของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) นำทีมโดยรศ.คลินิก พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการแพทย์โรงพยาบาลพญาไท 3 และคุณณัฐชานันท์ นิธิโชติวรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลพญาไท 3 พร้อมด้วย ทีมแพทย์และพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมด้วยผู้บริหารของกลุ่มความร่วมมือ โดยมี กฤษณา อัมพุช พร้อมด้วย นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์, ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล, รุจิรา อารินทร์, ดร.พรชัย มงคลวนิช ให้การต้อนรับ

ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงาน อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริหารจัดการที่มาพร้อมความปลอดภัยให้แก่ประชาชนผู้เข้ารับบริการในครั้งนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top