Wednesday, 18 June 2025
NEWS FEED

ศธ.จัดทัพการเรียนการสอนใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รองรับเปิดเทอมเพื่อดึงเด็กกลับสู่ระบบการศึกษาให้ได้มากที่สุด

กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เดินหน้าจัดกระบวนการเรียนการสอนใหม่ รองรับเปิดเทอม ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ พร้อมดึงเด็กนักเรียนกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้มากที่สุด

(29 ต.ค. 65) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวในรายการคุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า...

ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ส่งผลกระทบให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป โดยเฉพาะระบบการศึกษา เนื่องจากต้องมีการปิดการเรียนการสอน รัฐบาลจึงหาแนวทางโดยจัดวัคซีนมาฉีดให้กับครูเป็นกลุ่มแรก เพื่อให้ทันต่อการเปิดภาคเรียน จากนั้นทยอยนำวัคซีนมาฉีดให้กับเด็ก จนปีการศึกษาที่ผ่านมาสามารถเปิดเรียนได้ถึง 100% 

‘บัวขาว’ ชนะน็อก ‘ซาโตะ’ ตั้งแต่ยกแรก นับเป็นนัดล้างตาแบบ ‘ทบต้นทบดอก’

ศึกมวยราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ รายการ KAT Presents Legend of Rajadamnern คู่เอก บัวขาว บัญชาเมฆ สุดยอดนักชกขวัญใจชาวไทย พบ โยชิฮิโระ ซาโตะ ยอดกำปั้นชาวญี่ปุ่น ดวลกันในรูปแบบ Exhibition Match กติกาคิกบ็อกซิ่ง

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อ 14 ปีก่อน โยชิฮิโระ ซาโตะ คือชายผู้เดียวที่สามารถเอาชนะน็อก บัวขาว บัญชาเมฆ ในการชกที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเวลานั้นกำปั้นจากไทยเพิ่งจะมีอายุได้ 26 ปี และครั้งนี้ถือเป็นไฟต์ที่ บัวขาว จะได้ล้างตา

วางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5

กระทรวงคมนาคม จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) สานสัมพันธ์ไทย-สปป.ลาว เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งภูมิภาคอาเซียน หนุนขนส่งสินค้าและท่องเที่ยว “ศักดิ์สยาม” ชี้เพิ่มโครงข่ายเชื่อม 5 ประเทศอาเซียน คืบหน้า 60% คาดเปิดใช้ปี 2567 

วันที่ 28 ตุลาคม 2565 ที่โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ร่วมเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลไทย และสปป.ลาว เข้าร่วมพิธี ทั้งนี้ มีนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองผวจ.บึงกาฬ รักษาราชการแทน ผวจ.บึงกาฬ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เจ้าหน้าที่หน่วยงานในพื้นที่ ประชาชน ให้การต้อนรับ 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศไทย ทั้ง 4 มิติ (บก ราง น้ำ และอากาศ) ให้เชื่อมโยงการเดินทางสู่ภูมิอาเซียนอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้สามารถเข้าถึงการเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ด้วยระบบการคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันประเทศไทยกับสปป.ลาว มีสะพานข้ามแม่น้ำโขงขนาดใหญ่เพื่อเชื่อมโยงระหว่างประเทศแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์), สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต), สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) และสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4  (เชียงของ-ห้วยทราย)

“โครงการนี้จึงเป็นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ที่จะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างไทย-สปป.ลาว ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยคณะรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงฯ โดยกรมทางหลวง (ทล.) ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งต่อมา ในปี 2562 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าว และผู้แทนรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่งแห่ง สปป.ลาว ได้มีการลงนามความตกลงว่าด้วยการก่อสร้าง ณ จ.บึงกาฬ เพื่อกำหนดขอบเขตงานก่อสร้าง รวมทั้งกำหนดแนวทางในการบริหารโครงการก่อสร้างร่วมกัน”

นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า สำหรับรูปแบบการก่อสร้างของโครงการนี้ ทล. ได้ออกแบบเป็นสะพานขึงคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง ขนาด 2 ช่องจราจร ความยาว 1,350 เมตร พร้อมอาคารด่านพรมแดนสำหรับกระบวนการข้ามแดน และถนนเชื่อมต่อโครงข่ายของทั้ง 2 ฝั่ง ปัจจุบันมีความก้าวหน้าในการก่อสร้างเฉลี่ย 60% คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนของทั้งสองประเทศได้ในปี 2567 ทั้งนี้ โครงการก่อสร้าง สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ระยะทาง 16.18 กม. วงเงิน 4,010.067 ล้านบาท โดยฝ่ายไทยมีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ วงเงิน 2,630 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 2,553 ล้านบาท และค่าควบคุมงานก่อสร้าง 77 ล้านบาท) ฝั่ง สปป.ลาว โดยกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง (MPWT) เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ วงเงิน 1,380.067 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 1,256 ล้านบาท/ค่าที่ปรึกษา 44 ล้านบาท/ค่าบริหารจัดการ 15 ล้านบาท/ค่าเผื่อเหลือเผิ่อขาด 63 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมบริหารของ สพพ. 2.067 ล้านบาท) ความคืบหน้าการก่อสร้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 แบ่งงานก่อสร้างฝั่งประเทศไทย คืบหน้าแล้ว 60% ส่วนความคืบหน้าฝั่ง สปป.ลาว คืบหน้าแล้ว 57.37% เร็วกว่าแผนที่ต้องคืบหน้า 56.33% คาดว่าจะเปิดใช้ได้ในปี 2567

แนวเส้นทางประกอบด้วยโครงข่ายทางหลวงในประเทศไทยมีจุดเริ่มต้นที่ อ.เมือง จ.บึงกาฬ บริเวณทางหลวงหมายเลข 222 กม. 123+430 ตัดผ่านทางหลวงชนบทหมายเลข บก.3217, ทางหลวงชนบทหมายเลข บก.3013 และทางหลวงหลวงหมายเลข 212 ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) สิ้นสุดโครงการที่ทางหลวงหมายเลข 13 ในฝั่ง สปป.ลาว เพื่อให้สอดคล้องกับโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงกับประเทศเวียดนาม

“โดยฝั่งไทย มี 3 สัญญา ประกอบด้วย 1. โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ตอน 1 งานถนนฝั่งไทย ระหว่าง กม.0+000 - กม.9+400 ค่าก่อสร้าง 831 ล้านบาท, 2. โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ตอน 2 งานถนนฝั่งไทย และด่านพรมแดนฝั่งไทย ระหว่าง กม.9+400 - กม.12+082.930 ค่าก่อสร้าง 883 ล้านบาท, 3. โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ)  ตอน 3 งานสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่งไทย (รวมงานปรับปรุงสี่แยกทางหลวงหมายเลข 212 และลานอเนกประสงค์ใต้สะพาน) ระหว่าง กม.12+082.930 - กม.13+032.930 ค่าก่อสร้าง 787 ล้านบาท”

ขณะที่ฝั่งสปป.ลาวแบ่งเป็น 2 สัญญา สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่ง สปป.ลาว ค่าก่อสร้าง379 ล้านบาท ปัจจุบันคืบหน้า43.22% เนื้องานคืองานก่อสร้างสะพานข้ามแม่นาโขง (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) 405 เมตร (แบ่งครึ่งกับฝ่ายไทยแล้ว) รูปแบบงานสะพานเป็นแบบ Extra-dosed Prestressed Concrete และโครงสร้างเชิงลาดในฝั่ง สปป.ลาว ระยะทาง 130 เมตร วันเริ่มต้นสัญญา 4 ม.ค. 2564 วันสิ้นสุดสัญญา 3 ม.ค. 2567, สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างถนนและอาคารด่านพรมแดนฝั่ง สปป.ลาว ค่าก่อสร้าง 773 ล้านบาท ปัจจุบันคืบหน้าที่ 64.31% เนื้องานคือ 1. งานก่อสร้างถนนระยะทาง 2.86 กม. เป็นถนน 4 ช่องจราจร มีความกว้างช่องจราจร 3.50 เมตร จุดสลับทิศทางจราจรในฝั่ง สปป.ลาว รวมระบบงานระบายน้ำและระบบ ไฟฟ้าแสงสว่าง และ 2. งานอาคารด่านพรมแดนก่อสร้างตามมาตรฐานสากลประกอบด้วย 2 ส่วน แยกทางเข้า ออกจากกัน คือกลุ่มอาคารสาหรับตรวจผู้โดยสารและกลุ่มอาคารสำหรับตรวจสินค้า พร้อมองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบสื่อสาร วันเริ่มต้นสัญญา 4 ม.ค. 2564 วันสิ้นสุดสัญญา 3 ก.ค. 2566

นอกจากนี้ แนวคิดในการออกแบบโครงสร้างสะพานได้มีการนำ “แคน” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีท้องถิ่น มาใช้ในการกำหนดรูปแบบทางสถาปัตยกรรม สะท้อนให้เห็นถึงความสนุก รื่นเริง ความเป็นมิตรไมตรี ความคุ้นเคย และความเป็นกันเองในวัฒนธรรมของไทยและสปป.ลาว ส่งเสริมสัมพันธไมตรีอันดีระหว่าง 2 ประเทศ สร้างความเจริญทางด้านสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

'เทศบาลตำบลแพรกษา' ส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกาย สนับสนุนมอบเครื่องเล่นเด็กและเครื่องออกกำลังกายกว่า 10 ชุมชน

ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงพื้นที่มอบอุปกรณ์ประเภทเครื่องเล่นเด็กและเครื่องออกกำลังกายแก่ชุมชนต่างๆจำนวน 10 ชุมชน ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลแพรกษา

โดยท่าน ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 และ นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย จึงได้จัดทำโครงการเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ประเภทเครื่องเล่นเด็กและเครื่องออกกำลังกาย ประจำปีงบประมาณ  2565 พร้อมทั้งลงพื้นที่ส่งมอบเครื่องเล่นเด็กและเครื่องออกกำลังกายแก่ชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลแพรกษา รวม 10 ชุมชน อาทิ...

ชุมชนเอื้ออาทร 3 หมู่บ้านพฤกษา 28 หมู่บ้านพฤกษา 28 / 1 หมู่บ้านพูนทรัพย์ ชุมชนเอื้ออาทร 14 หมู่บ้านอุบลศรี หมู่บ้านปัญฐิญา หมู่บ้านศุภาลัย หมู่บ้านเดอะแกลเลอรี่ แพรกษา และ หมู่บ้านพฤกษาเนเชอร่า โดยมี ประเภทอุปกรณ์เครื่องเล่นเด็ก จำนวน 31 เครื่อง เครื่องออกกำลังกาย จำนวน 49 เครื่อง 

เนื่องจาก ทางเทศบาลตำบลแพรกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย และการรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวนี้ขึ้นมา เพื่อสนับสนุนให้เด็กๆ ที่อยู่ในชุมชนสามารถพัฒนาศักยภาพทางด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา พร้อมทั้งสร้างความสามัคคีในหมู่คณะและฝึกให้มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักแบ่งปันและสามารถดำเนินชีวิตร่วมกันในชุมชนได้ อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขให้กับเด็กๆ ได้อีกด้วย

'เพื่อไทย' ปล่อยคลิปครบรอบ 1 ปี เปิดตัว ‘แพทองธาร’ ประธานที่ปรึกษาฯ ทีมนวัตกรรม พร้อมเดินหน้าสร้าง ‘พรุ่งนี้ของประเทศไทย’ ร่วมกัน

พรรคเพื่อไทย เผยแพร่คลิปสั้นผ่านโซเชียลมีเดียพรรค ‘ครบรอบ 1 ปี คณะที่ปรึกษาการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม’ ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย โดยเนื้อหาภายในคลิป นางสาวแพทองธาร ระบุว่า 1 ปีที่ผ่านมา ตนและทีมนวัตกรรม ได้ทำหน้าที่ริเริ่มสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ร่วมกับพี่น้องประชาชน ผ่านหัวใจของ 2 สิ่งคือ นวัตกรรม และการมีส่วนร่วม โดยการนำเสนอนโยบายที่นำเอา ‘นวัตกรรมทางความคิด’ และ ‘นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี’ เข้ามาผสมผสานการออกแบบนโยบายในทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมทั้งในพรรค และนอกพรรค ผสานความร่วมมือของคนทุกเจเนอเรชัน เรามีคนรุ่นใหม่ๆ ที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงเข้ามาในพรรคมากขึ้น มีการผนึกกำลังจากกลุ่มคนหลายภาคส่วนมากขึ้น มีไอเดียใหม่ๆ ที่คนหลายกลุ่มนำเสนอเข้ามา ซึ่งเราพยายามนำเอาไอเดียเหล่านี้มาพัฒนาเพื่อสร้างนโยบายที่ครอบคลุมตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม ทุกรุ่น ทุกวัย ทั้งหมดนี้นำพาตนและทุกคนมาพบกัน ในการเปิดพื้นที่ เพื่อร่วมกันคิด ร่วมมือกันสร้างพลังแห่งความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย

ทั้งนี้ภายในคลิปยังได้มีการรวบรวมกิจกรรมที่นางสาวแพทองธารและทีม ได้ร่วมกันหารือแลกเปลี่ยน และลงพื้นที่ในการรับฟังความคิดเห็นพี่น้องประชาชนในหลากหลายกลุ่ม ซึ่งถือเป็นการนำเอา ‘นวัตกรรมทางความคิด’ และ ‘นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี’ มาใช้ผสมผสานเข้ากับการออกแบบนโยบาย ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการบ้าน 5 ข้อ ที่นางสาวแพทองธาร ได้ประกาศไว้ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 

ได้แก่...

1. การเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ เช่น UNISEC กลุ่มเยาวชนที่สนใจทางด้านอวกาศ การจัดกิจกรรมนิทรรศกี (นโยบายสวัสดิการผ้าอนามัยฟรีถ้วนหน้า),  ร่วมสนับสนุน PRIDE month (นโยบายการสมรสเท่าเทียม), การพูดคุยกลุ่มชาติพันธ์เพื่อผลักดันสิทธิความเท่าเทียม, การสร้าง Big data ทางด้านการศึกษา ที่ต้องการสร้าง platform การเรียนรู้แบบออนไลน์  (นโยบาย life long learning life long earning)

2. Soft power เฟ้นหาศักยภายในแต่ละครอบครัว เพื่อเพิ่มรายได้ใหม่ (One family one soft power : OFOS หนึ่งครอบครัวหนึ่งศักยภาพ ) 

3. นโยบายเกษตรสมัยใหม่ ด้วยการเข้าเยี่ยมชมศึกษาการทำการเกษตรของบริษัท  Sunsweet เพื่อผลักดันการใช้ application listenfield เพื่อปรับหน้าดิน,  ชูนโยบายตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ ตลอดจนส่งเสริมการใช้ foodtech agritech

4.ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ราชการด้วยแพลตฟอร์มรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government)  การทำรัฐราชการให้เข้าถึงง่ายและการกระจายอำนาจคือกุญแจสำคัญ ดังนั้นโครงการข้าราชการคลิกเดียวที่ทางพรรคได้วางแพลนไว้เป็นก้าวแรกของการมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าว

5.เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุค metaverse คือการพยายามพูดคุยและเชื่อมต่อกับภาคธุรกิจ digital currency กับ เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งการร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางธุรกิจและเศรษฐกิจกับนักธุรกิจในสาขาต่างๆ 

“ขอขอบคุณทุกท่าน ที่ร่วมเดินทางกับเรามาตลอด 1 ปี และจะร่วมเดินทางกับเราต่อไปบนเส้นทางนี้ อิ๊งค์เชื่อมั่นในศักยภาพของทุกคน ที่จะมาร่วมกันสร้างพรุ่งนี้ของประเทศไทยร่วมกัน” นางสาวแพทองธาร กล่าว 

กรมชลประทานเดินหน้าป้องกันน้ำท่วมเพชรบุรีส่งเรือขุดลอกลุยคลองบางจากช่วย 4 อำเภอ

กรมชลประทานเดินหน้าป้องกันน้ำท่วมเพชรบุรีส่งเรือขุดลอกลุยคลองบางจากช่วย 4 อำเภอ นายกอบต.ขอบคุณ 'เฉลิมชัย-อลงกรณ์-กรมชลฯ' ทำไวทำจริงร้องขอ 48 ชั่วโมงลงมือทันที

วันนี้ (28 ต.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำทีมชลประทานเพชรบุรีและคณะทำงานเพชรบุรีโมเดลลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการขุดลอกผักตบชวาและวัชชพืชในคลองบางจากโดยเรือขุดลอกของกรมชลประทานมีนายวิชา ทองยืน นายกอบต.บางจาก นางพรนภา คนคล่อง รองนายกอบต. ปลัดอบต.และสมาขิกอบต. ให้การต้อนรับร่วมลงพื้นที่โดยนายกอบต.ตำบลบางจาก ได้กล่าวขอบคุณดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.และกรมชลประทานที่ส่งเรือขุดลอกมาดำเนินการอย่างรวดเร็วภายใน2วันหลังจากแจ้งปัญหาคลองบางจากให้ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.ทราบซึ่งเป็นคลองที่รับน้ำมาจากอำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอเมืองและอำเภอบ้านแหลมโดยก่อนหน้านี้มีผักตบชวาและวัชชพืชจำนวนมากกีดขวางทางน้ำ ทำให้หวั่นวิตกว่าหากมีพายุฝนตกหนักในจังหวัดเพชรบุรีจะทำให้น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรและชุมชนหมู่บ้านที่คลองบางจากไหลผ่านโดยเฉพาะตำบลหัวสะพาน ตำบลวังตะโก ตำบลบางจากและคำบลบางครก เพราะส่วนใหญ่เพชรบุรีจะเกิดน้ำท่วมช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

‘อุ๊บ วิริยะ’ อัดแรง นางงามรุ่นเก่างามอย่างมีคุณค่า ส่วนนางงามรุ่นนี้ ‘ปากจัด-มั่นหน้า-เจ้าของเวทีให้ท้าย’

(28 ต.ค. 65) ‘อุ๊บ วิริยะ’ นักปั้นดาราชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเตือนสติ ว่า นางงามรุ่นเก่า งามอย่างมีคุณค่า แต่นางงามรุ่นลูก-รุ่นเหลนพฤติกรรมปากจัด ด่าเก่ง กินเหล้า เจ้าของเวทีให้ท้าย จนทำตัวกร่างผยอง

จนคนอ่านคิดไปต่าง ๆ นานา ว่างานนี้ คุณอุ๊บ กำลังหมายถึงนางงามคนใดและเจ้าของเวทีคนไหนกันแน่?

“นางงามสมัยก่อน..ตัวอย่างเช่น คุณอาภัสรา หงสกุล, คุณจีรนันท์ เศวตนันท์, คุณสาวิณี ปะการะนัง, คุณภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นั้นงามอย่างมีคุณค่า..

งามด้วยกาย..วาจาใจ..ชาติตระกูลและการศึกษาอย่างแท้จริง...พวกเธอจึงคู่ควรกับตำแหน่งของ #ยอดพธูไทย

'บิ๊กตู่' จูงมือ 'นายกฯ ลาว' เปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ตอกย้ำความสัมพันธ์​สองประเทศที่ไม่มีวันตัดขาด

ไทย-ลาวชื่นมื่น นายกรัฐมนตรีไทย​ - สปป.ลาว​ เดินจูงมือกระหนุงกระหนิง​​วาง ศิลาฤกษ์​ เปิดสะพานมิตรภาพไทย​- ลาวแห่งที่ 5 ด้าน ‘นายพันคำ​‘ ย้ำ ความสัมพันธ์​สองประเทศตัดไม่ขาด​ ‘กินข้าวร่วมนา กินปลาร่วมน้ำ’

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (28 ต.ค. 65) ที่บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย​ - ลาว​ แห่งที่ 5 บึงกาฬ​ - ​บอลิคำไซ

โดยนายพันคำ​ กล่าวว่า​ ตนมีความยินดี ที่ได้รับเกียรติ เป็นประธานร่วมกับนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งมีคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย ​- ลาว เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งการวางศิลาฤกษ์​ล่าช้า เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ในส่วนของการก่อสร้างได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้ และเป็นที่น่าพึงพอใจ ซึ่งเกินความคาดหมาย 

ซึ่งโครงการนี้เป็นหนึ่งในความพยายามในการพัฒนาของ 2 รัฐบาล ภายใต้เงื่อนไขอำนวยความสะดวกในการสัญจรไปมาของประชาชนทั้งสองฝั่ง รวมไปถึงภาคการขนส่งระหว่างประเทศ ส่งเสริมการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว โดยใช้ที่ตั้งยุทธศาสตร์อันสำคัญของทั้งสองประเทศ เกี่ยวกับอนุภาคพื้นลุ่มแม่น้ำโขง และภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เป็นการอำนวยความสะดวกสนับสนุนการเชื่อมโยงการขนส่ง ทั้งฝั่งไทยลาวและอนุภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกให้เกิดผลประโยชน์สูง

นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวว่า โครงการนี้ได้มีการวางแผนการปฏิบัติงานว่า ด้วยการเป็นผู้ร่วมยุทธศาสตร์ การเจริญเติบโตและการพัฒนา ในระยะ 5 ปี 2022-2026 ซึ่งได้มีการลงนามข้อตกลง เมื่อ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองต่อเจตนารมณ์ ของประชาชนทั้งสองชาติ ในการเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกัน และสายผูกพันมิตรภาพการร่วมมือ ที่มีมาอย่างยาวนาน พร้อมกันนี้โครงการสะพานมิตรภาพไทย ​- ลาวแห่งที่ 5 จะเป็นการตอบสนอง ให้แก่กันปฏิบัติเป้าหมายที่ 5 ในการร่วมมือเชื่อมโยง ภายในภาคพื้นสากลให้มีความทันสมัย เข้มแข็ง ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติตั้งแต่ปี 2021 -​ 2025 และยุทธศาสตร์ การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 10 ปี 2016 -​ 2025 โดยการนำเอาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่มีชายแดนติดต่อกัน เป็นการเชื่อมโยงศูนย์กลางการเชื่อมโยง

ผบ.ตร.มอบ รองฯต่อศักดิ์ ลุยจัดระเบียบสังคม ยาแรงฝ่าฝืนเสนอสั่งปิดทันที 5 ปี หากทำผิดซ้ำจำคุก 1 ปี เตือน ตร.ท้องที่ห้ามปล่อยปละละเลย

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ที่ดูแลงานป้องกันปราบปราม เปิดเผยว่า “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงงานป้องกันปราบปราม ที่ สง.ผบ.ตร. พร้อมมอบหมายให้ดูแลจัดระเบียบสถานบริการทั่วประเทศ โดยให้ดำเนินการตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 22/2558 และแก้ไขเพิ่มเติมที่ 46/2559 โดยทุกสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดบริการคล้ายสถานบริการ จะต้องไม่ยินยอม ปล่อยปละละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการไม่เปิดเกินเวลา ไม่ปล่อยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด ยาเสพติดเข้าไปในสถานบริการ รวมถึงต้องไม่มีการค้ามนุษย์ในสถานบริการ หรือปล่อยให้มีการเล่นการพนันในสถานบริการ” 

มทบ. 18 จัดพิธีอำลาผู้บังคับบัญชาและมอบประกาศเกียรติคุณให้ทหารกองประจำการที่ครบกำหนดปลดประจำการรุ่นปี 2563 ผลัดที่ 2

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ณ หน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 พลตรี อภิชัยวิไลเนตร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 เป็นประธานพิธีอำลาผู้บังคับบัญชาพร้อมมอบประกาศเกียรติคุณให้ทหารกองประจำการ รุ่นปี 2563 ผลัดที่ 2 ซึ่งทหารกองประจำการที่ครบกำหนดปลดประจำการ ในวันที่ 1 กันยายน 2565 ของหน่วยทหารปลดทั้งหมด จำนวน150 นาย และรับใบประกาศทหารดีเด่น 48 นาย ณ หน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 ด้วยทหารกองประจำการ รุ่นปี2563 ผลัดที่ 2 ซึ่งได้เข้ารับราชการทหาร ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช 2497ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2563 ซึ่งจะครบกำหนดปลดเป็นทหารกองหนุน ในวันที่ 1กันยายน 2565

โดยทหารกองประจำการเหล่านี้ ที่รับราชการอยู่ เป็นผู้ที่มีระเบียบวินัย มีความประพฤติดีเรียบร้อย มีความเสียสละ  ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ไม่เคยนำความเสื่อมเสียมาสู่หน่วย และปฏิบัติหน้าที่ จิตอาสาฯ ด้วยความดีดังกล่าวข้างต้นนี้ จึงได้จัดให้มีพิธีอำลาผู้บังคับบัญชา และประกาศเกียรติคุณ ในวันนี้ขึ้นมาเพื่อตอบแทนคุณงามความดี ที่ได้กระทำมาเพื่อเป็นเกียรติยศแก่วงศ์ตระกูลของกำลังพลดังกล่าว 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top