Saturday, 21 June 2025
NEWS FEED

'หมอยง' ชี้!! นักท่องเที่ยวชาวจีน ไม่ได้น่ากลัวกว่า 'ยุโรป-อเมริกา'

(6 ม.ค. 66) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ 'โควิด-19 การรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชาวจีน ไม่ได้น่ากลัวกว่าชาติอื่น' ระบุว่า...

การรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ชาวจีน ไม่ได้น่ากลัวไปกว่า ยุโรปและอเมริกา ด้วยเหตุผลดังนี้...

1. สายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทยขณะนี้เป็น โอมิครอน BA.2.75 ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมาในช่วงโอมิครอน ประชากรไทยติดเชื้อไปแล้วประมาณ 70% หรือประมาณ 50 ล้านคน และการระบาดสายพันธุ์ในประเทศไทยเริ่มต้นตั้งแต่ BA.1 BA.2 แล้วเป็น BA.4- BA.5 ซึ่งสายพันธุ์ BA.5 ได้ระบาดผ่านพ้นไปแล้วและขณะนี้เป็น BA.2.75 ขณะเดียวกันในยุโรปและอเมริกา สายพันธุ์ต่างๆ เกิดก่อนประเทศไทย และระบาดเข้าสู่ประเทศไทย สายพันธุ์ BA.2.75 ระบาดในยุโรปและอเมริกาเมื่อหลายเดือนก่อน ผ่านพ้นไปแล้ว ขณะนี้ในยุโรปและอเมริกา ได้เปลี่ยนเป็น เป็น BQ1 และ BQ1.1 แต่ขณะเดียวกันในจีนขณะนี้ยังเป็นสายพันธุ์ในกลุ่ม BA.5 ตามหลังประเทศไทย ถ้านักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสู่ประเทศไทยนำเชื้อโควิด-19 เข้ามา จะเป็นสายพันธุ์ที่เคยระบาดผ่านไปแล้วในประเทศไทย ตรงกันข้ามกับยุโรปและอเมริกา จะเป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยระบาดในประเทศไทย เรื่องของสายพันธุ์ในปัจจุบันนี้ ถ้ามาจากประเทศจีน จึงไม่น่าวิตกแต่อย่างใด เพราะของเราผ่านพ้นไปแล้ว ถ้าจะกลัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ สายพันธุ์ที่ยังไม่มีในประเทศไทยโดยเฉพาะ BQ ที่จะมาจาก ประเทศทางตะวันตกยังน่ากลัวกว่า เราก็ไม่ได้ตรวจ และไม่สามารถบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยได้ด้วย 

2. การเกิดสายพันธุ์ใหม่ สามารถเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ทุกแห่งในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน หรือทางตะวันตก แม้กระทั่งในอินเดีย แอฟริกา ก็เกิดได้ทั้งนั้น แต่ทั่วโลกขณะนี้ มีระบบการเฝ้าระวังด้วยการถอดรหัสพันธุกรรม เข้าธนาคารกลาง และทุกประเทศได้เรียนรู้ร่วมกัน ทำไมเราจึงต้องถอดรหัสพันธุกรรมอยู่ทุกวัน ห้องปฏิบัติการผมก็ทำอยู่ทุกวันเป็นการเฝ้าระวังสายพันธุ์ใหม่ เมื่อยังไม่รู้ว่าสายพันธุ์ใหม่ จะเกิดที่ประเทศใด ก็ไม่รู้จะไปป้องกันปิดกั้นชาติใด เพราะการป้องกันประเทศจีน ประเทศเดียวไม่ใช่เป็นวิธีการแก้ปัญหา อาจจะมาจากประเทศใดก็ได้

ไทยรับนักท่องเที่ยวจีน 200 คน เที่ยวแรก 9 ม.ค.นี้ ด้าน 'WHO' ชี้ ยังไม่พบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ในจีน

ไม่นานมานี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากประเทศจีนประกาศเปิดประเทศ โดยผ่อนคลายมาตรการโควิดสำหรับผู้เดินทางเข้าจีน ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป จะมีเที่ยวบินจากจีนที่นำนักท่องเที่ยวทยอยเข้าไทยมาไฟล์ทแรกตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม นี้ เป็นเที่ยวบินที่มาจากเมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตอนใต้ของจีน ประมาณ 200 คน

ส่วนการเพิ่มไฟล์ทบินจากประเทศจีนมายังไทย เบื้องต้นมองเห็นสัญญาณการเพิ่มขึ้น โดยจะเป็นการเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน ซึ่งชาวจีนจะออกเดินทางท่องเที่ยว พร้อมพิจารณาการกระจายเที่ยวบินไปยังจังหวัดท่องเที่ยวทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ และจังหวัดภาคอีสาน เช่นเดียวกับการพิจารณาเจรจาขอเปิดเส้นทางบินคุณหมิง-หาดใหญ่ด้วย

"ในช่วงโลว์ซีซั่น ประมาณเดือนเมษายน - มิถุนายน ประเมินว่า ประเทศไทยจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง"

ด้าน นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ประเมินจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาไทยไตรมาสแรกปี 2566 ประมาณ 3 แสนคน แบ่งเป็น มกราคม 6 หมื่นคน กุมภาพันธ์ 9 หมื่นคน และมีนาคม 1.5 แสนคน และทั้งปีน่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน

รัฐบาล ยกระดับบริการ ‘บัตรทอง’ เจ็บป่วยเล็กน้อย รับยาที่ ‘ร้านยาชุมชนอบอุ่น’ ทันที

‘ทิพานัน’ โชว์รัฐบาล ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ยกระดับบริการบัตรทอง 'รับยาใกล้บ้าน' เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการดูแลทันที ชี้กว่า 2.2 หมื่นราย เข้าถึงการรักษาที่รวดเร็ว ชี้รัฐบาลมุ่งสร้างโอกาสความเท่าเทียม ลดเหลื่อมล้ำทุกมิติ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งสร้างโอกาสความเท่าเทียม ลดเหลื่อมล้ำในทุกมิติให้กับประชาชน โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ ได้มีการยกระดับและปรับปรุงสิทธิประโยชน์และการรักษาพยาบาลในเชิงรุก เพื่อดูแลให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ รับทราบและพอใจผลการดำเนินการดูแลผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ให้เข้าถึงบริการปฐมภูมิดูแลโรคทั่วไปหรือการเจ็บป่วยเล็กน้อย (common illnesses) 16 อาการ ในร้านยาที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถรับยาได้ทันที ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับสภาเภสัชกรรม โดยมีร้านยาจำนวนกว่า 650 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ 'ร้านยารูปแบบใหม่' ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีกระแสตอบรับที่ดีจากพี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก โดยข้อมูลล่าสุด (เดือนธันวาคม) ผ่านข้อมูลสรุประบบแดชบอร์ด (Dashboard) พบว่ามีผู้ป่วยเข้ารับบริการ common illnesses ที่ร้านยาแล้วจำนวน 22,842 ราย สะท้อนความเชื่อมั่นโครงการและการจัดระบบดูแลสุขภาพของรัฐบาล

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนอาการเจ็บป่วยที่ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองเข้ารับบริการมากที่สุด  5 อันดับแรก ได้แก่ อาการไข้ ไอ และเจ็บคอ จำนวน 12,177 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของผู้มารับบริการทั้งหมด รองลงมาคืออาการปวดข้อและเจ็บกล้ามเนื้อ จำนวน 6,557 ราย อาการผื่นผิวหนัง ผื่น คัน จำนวน 3,513 ราย อาการปวดท้อง จำนวน 2,515 ราย และความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตาม จำนวน 1,515 ราย

'อนุทิน' เผย อุปทูตจีน ‘หยาง ซิน’ ขอบคุณไทย หลังไม่เลือกปฏิบัติ รับนักท่องเที่ยวเท่าเทียม

อนุทิน เผย อุปทูตจีน ขอบคุณไทยไม่เลือกปฏิบัติ รับ นทท.เท่าเทียม ชี้ ซื้อประกันโควิด-19 รองรับหากติดเชื้อก่อนขึ้นเครื่องกลับ ปท.

เมื่อวานนี้ (5 ม.ค. 66) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาประเทศ ว่า สำหรับข้อกำหนดเรื่องการซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ในประเทศที่มีข้อกำหนดว่า จะต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศ ก็เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทย เพราะหากก่อนขึ้นเครื่องแล้วผลเป็นบวก ก็ไม่สามารถเดินทางกลับได้ ดังนั้น ก็ต้องมีประกันมารองรับ ส่วนเรื่องวงเงินประกันขั้นต่ำ เป็นเรื่องที่ทุกประเทศที่มีกำหนดอยู่แล้ว เป็นปกติของการเดินทาง ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวล

'Becky Hill' ราชินีเพลงแดนซ์ เที่ยวปีใหม่ที่เกาะสมุย โพสต์ “การมาเที่ยวครั้งนี้ เหมือนความฝันที่เป็นจริง”

‘Becky Hill’ ราชินีเพลงแดนซ์ มาเที่ยวพักผ่อนช่วงปีใหม่ที่เกาะสมุยประเทศไทย ก่อนโพสต์อินสตราแกรมของเธอว่า การมาเที่ยวครั้งนี้ เหมือนความฝันที่เป็นจริง

เฟซบุ๊กเพจ ‘ศูนย์ข้อมูลภูเก็ต’ โพสต์ภาพจากอินสตราแกรม beckyhill ของราชินีแห่งเพลงแดนซ์ ‘Becky Hill’ ที่ได้มาเที่ยวเกาะสมุยช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา พร้อมข้อความว่า

♥️🇹🇭 ใครได้มาเยี่ยมแผ่นดินไทย ก็รักเมืองไทย ทุกคน #Thailand

‘Becky Hill’ ราชินีแห่งเพลงแดนซ์ที่กำลังมาแรง ศิลปินเดี่ยวหญิงที่ยอดสตรีมสูงเป็นอันดับ 3 ของอังกฤษเมื่อปีที่ผ่านมา ใช้เวลาช่วงปีใหม่กับการมาเยือน #เกาะสมุย

‘ผช.ผบ.ทร.’ เยี่ยม 3 สหกรณ์ทหารเรือ ระดมช่วยเหลือกำลังพล รล.สุโขทัย

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ (ผช.ผบ.ทร.) ตรวจเยี่ยมสหกรณ์ภายในกองทัพเรือ พื้นที่สัตหีบ 3 แห่ง เพื่อติดตามการดำเนินการ และระดมกำลังให้ความช่วยเหลือครอบครัวกำลังพลกองทัพเรือ ที่ประสบภัยจากเหตุการณ์ ร.ล.สุโขทัยประสบเหตุอับปาง

(5 ม.ค.66) พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ และประธานกรรมการส่งเสริมสหกรณ์ทหารเรือพร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมสหกรณ์ภายในกองทัพเรือ พื้นที่สัตหีบ 3 แห่ง ประกอบด้วย สหกรณ์ออมทรัพย์กองการฝึก กองเรือยุทธการ, สหกรณ์ออมทรัพย์นาวิกโยธิน และสหกรณ์ออมทรัพย์ฐานทัพเรือสัตหีบ 

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ‘ศ.นพ.ประสิทธิ์’ เป็น ผอ.รพ.จุฬาภรณ์ แทน ‘ศ.นพ.นิธิ’

โปรดเกล้าฯ #แต่งตั้ง ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา เป็น​ #ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์

เมื่อวานนี้​ (4 มกราคม​ 2566) ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และประธานมูลนิธิจุฬาภรณ์ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์​ รายละเอียด​ประกาศ​โปรดเกล้า​ฯ ดังนี้...

ด้วยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ซึ่งข้าพเจ้าได้ก่อตั้งเมื่อปี 2547 ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๖ รอบ โดยมีวัตถุประสงค์ให้เป็นศูนย์วิจัยศึกษา และบำบัดโรคมะเร็งที่นำวิทยาการที่ทันสมัยมาพัฒนาการรักษาพยาบาลโรงมะเร็งให้ประเทศไทย

‘อนุทิน’ ชี้ ประเทศไหนที่ต้องตรวจโควิดก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพ ไม่เฉพาะแค่ประเทศจีน

‘อนุทิน’ ยันมาตรการรับ ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ รัดกุม เผยให้ซื้อประกันสุขภาพ สำหรับประเทศตีกรอบต้องตรวจRT-PCR พร้อมจับมือตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกฯ ลั่น!! อย่าตระหนก จนเสียโอกาสฟื้นเศรษฐกิจ เผยจับมือ ‘ศักดิ์สยาม-พิพัฒน์’ รับนักท่องเที่ยวไฟลท์แรกถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 12 ม.ค.นี้

(5 ม.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกระทรวงคมนาคม กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้าร่วม ว่า วันนี้เป็นการทำความเข้าใจเรื่องของการรับนักท่องเที่ยว ทั้งด้านการคมนาคม ท่องเที่ยว และสาธารณสุข โดยแต่ละหน่วยงาน รับทราบมาตรการและรับปฏิบัติ ขณะที่ กทม.พร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี ยืนยันว่ามีมาตรการพร้อมรับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ และสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ตลอดตามความเหมาะสม โดยจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารขอให้คงมาตรฐานชาพลัส (SHA+) ผู้ให้บริการสวมหน้ากากอนามัย

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าประเทศที่มีข้อกำหนดให้นักท่องเที่ยวจะต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศตัวเองนั้น จะต้องซื้อประกันสุขภาพ ทุกประเทศไม่เฉพาะแค่ประเทศจีนประเทศ โดยเงื่อนไขของประกันเป็นไปตามหลักสากลในการรักษาพยาบาล และยังครอบคลุมโควิด-19 หากตรวจพบสามารถรักษาตามปกติ ส่วนประเทศใดที่ไม่มีเงื่อนไขต้องตรวจRT PCR ขอแนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพไว้เช่นกัน เพื่อความสะดวกด้านต่าง ๆ หากมีการติดเชื้อหรือเจ็บป่วย จะมีสถานที่รักษา สำหรับประเด็นค่าเหยียบแผ่นดิน ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงการท่องเที่ยวถือเป็นคนละเรื่องกัน และยังไม่ได้มีผลบังคับใช้

‘บิ๊กป้อม’ สั่งฟัน ‘พนันออนไลน์’ แฝงเว็บราชการ ย้ำ ‘ดีอีเอส’ อุดช่องโหว่ ยกระดับความปลอดภัย

(5 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) ครั้งที่ 1/2566 

โดยที่ประชุมเห็นชอบ กรอบแนวทางการดำเนินการสร้างความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ให้กับเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐ สืบเนื่องจากที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐถูกโจมตีด้วยการแฝง เว็บพนันออนไลน์ โดยอาศัยช่องโหว่จากการพัฒนาเว็บไซต์ และจุดอ่อนของระบบปฏิบัติการ รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ที่ให้บริการฝากเว็บไซต์ เป็นจำนวนมาก ส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของหน่วยงานภาครัฐของไทย โดยมีการกำหนดแนวทาง การดำเนินงานออกเป็น ระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว พร้อมเห็นชอบรายงานเหตุการณ์ภัยคุกคาม ห้วง 1 ต.ค. 64 - 30 ก.ย. 65 รวมทั้งสิ้น 551 เหตุการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการแฮ็กเว็บไซต์ จำนวน 367 เหตุการณ์ และจะมีการรายงานให้ ครม.ทราบ ต่อไป รวมทั้งได้เห็นชอบรายงานประจำปี 65 ของสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ซึ่งมีการพัฒนาไปมาก ทั้งด้านการขับเคลื่อนนโยบาย ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ การเฝ้าระวัง การรับมือภัยคุกคาม ตลอดจนการสร้างความตระหนักรู้ ให้แก่ประชาชน โดยมีผลการประเมินร้อยละ 91.83 ซึ่งจัดอยู่ในระดับดีมาก

'Forbes' ยก ‘ไทย’ ติดท็อป 10 ประเทศน่าอยู่หลังเกษียณ

ไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ของเอเชีย และเป็นลำดับที่ 9 ของโลก ในฐานะ ‘ประเทศที่น่าพำนักอยู่ภายหลังเกษียณ’ ประจำปี 2023 จากการจัดอันดับของ Annual Global Retirement Index

เมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 66) เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เปิดเผยผลสำรวจ 10 ประเทศที่น่าพำนักอยู่ภายหลังเกษียณ (10 Cheapest Places To Live Afer Retiring) ประจำปี 2023 ซึ่งจัดทำโดย Annual Global Retirement Index ซึ่งระบุว่า ไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับคนหลังเกษียณเท่านั้น แต่ยังรวมอยู่เป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตไม่แพง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และอาจอยู่ได้โดยแทบไม่ต้องทำงานหรือใช้เงินจำนวนมาก โดยประมวลข้อมูลจากทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต สภาพอากาศ วีซ่า ค่าอาหาร ที่พัก และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ

โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับ 9 จากทั้งโลก (เท่ากับอิตาลี) และอันดับ 1 ในเอเชีย โดยอธิบายว่าถึงประเทศไทยว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลก แม้ว่าการท่องเที่ยวจะมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ แต่ประเทศไทยเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตทั้งผ่อนคลายและเต็มไปด้วยการผจญภัย ประเทศไทยเป็นดินแดนที่สวยงามทั้งภูมิประเทศและขนบธรรมเนียมประเพณี ส่วนหนึ่งมาจากการที่ไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก ทำให้ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี

Annual Global Retirement Index ยังแนะให้ผู้สนใจเลือกที่จะใช้ชีวิตทั้งในกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงสีแลตึกใหญ่ หรือเลือกอยู่ในจังหวัดทางภาคเหนือทีอากาศเย็นสบาย ขณะที่ค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่อาศัยก็ไม่แพง สามารถเลือกซื้อคอนโดมิเนียมขนาด 2 ห้องนอนได้ในราคาไม่ถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเลือกเช่าได้ในราคาเพียงเดือนละ 180 ดอลลาร์สหรัฐฯ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top