‘พ่อน้องเตย’ เผย เหตุไม่ได้ส่งเสียลูก เพราะรายได้ไม่พอ ยืนยันไม่เคยทิ้งลูก ลั่น!! ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเงินบริจาค

‘พ่อน้องเตย’ เปิดใจ!! เหตุที่ไม่ได้ส่งเงินไปให้ เพราะรายได้ไม่พอ ดีใจลูกได้รับการช่วยเหลือ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเงินบริจาค เตรียมกลับไปหาลูกสาววันหยุดยาว เดือน ส.ค.

จากกรณี ‘น้องเตย’ เด็กหญิง วัย 4 ขวบ ชั้นอนุบาล 2 ดูแลนางเสา จินดาศรี อายุ 68 ปี ย่าที่พิการตาบอดทั้งสองข้างตามลำพัง หลังเป็นข่าวออกไป มีธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือ ยอดเงินบริจาคทะลุล้าน รองผู้ว่าฯ รุดช่วย รวมถึงพิธีกรดังอย่าง ‘นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา’ ประกาศขอส่งเสียน้องจนจบปริญญาเอก นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานเตรียมซ่อมแซมบ้านให้ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 14 มิ.ย. 66 นายศักดิ์สยาม (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี พ่อของน้องเตย อายุ 4 ขวบ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า ปัจจุบันตนทำงานอยู่ในบริษัทผลิตยางรถยนต์แห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยแม่ของน้องเตยก็ทำงานและพักอาศัยอยู่ด้วยกัน กรณีที่เสนอข่าวออกไปว่า ตนไม่เคยกลับไปเยี่ยมลูกสาวและแม่เลย ซึ่งความจริงแล้ว ตนและแม่ของน้องเตย เพิ่งเดินทางกลับไปหาน้องเตย ในช่วงเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องการส่งเงิน ตนยอมรับว่า ไม่ได้ส่งเงินไปช่วยเหลือเลย เพราะมีภาระทั้งค่าผ่อนรถ ค่าเช่าบ้าน จึงไม่พอต่อการส่งไปช่วยเหลือ แต่ก็เตรียมจะส่งเงินไปช่วยเหลือในเดือน ต.ค.นี้ หลังผ่อนรถหมดแล้ว และเตรียมเดินทางกลับไปเยี่ยมน้องเตยกับแม่ในเดือน ส.ค.นี้ ในช่วงวันแม่ เพราะเป็นวันหยุดยาว ที่ผ่านมาแม่ของตนจะมีเงินช่วยเหลือจากภาครัฐไว้ใช้จ่ายกัน 2 คน เป็นรายได้ทางเดียว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ตนมีลูก 2 คน อีกคนให้ยายเป็นคนเลี้ยง ส่วนน้องเตยให้ย่าเป็นคนช่วยเลี้ยงตั้งแต่อายุ 8 เดือน จนถึงปัจจุบัน เพราะตนและภรรยาต้องเดินทางมาทำงานที่ จ.ระยอง ดีใจที่ลูกสาวได้รับความช่วยเหลือ พร้อมทั้งขอขอบคุณ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ที่เสนอตัวขอเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ส่งน้องเตยเรียนเท่าที่เรียนไหว รวมถึงขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การช่วยเหลือลูกสาวและแม่

“ผมกับภรรยาขอสัญญาว่า จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับยอดเงินบริจาคทั้งหมด แค่เห็นแม่และลูกสาวมีคนช่วยเหลือ แค่นี้ก็ดีใจแล้ว โดยเฉพาะน้องเตยที่จะได้เรียนสูงๆ ส่วนผมเองกับภรรยาก็จะขอทำงานอยู่ที่จ.ระยองต่อไป จึงวอนขอให้สังคมเข้าใจด้วย เพราะรายได้ไม่เพียงพอ จึงทำให้ไม่สามารถส่งเงินไปให้น้องเตยและแม่ได้ ผมและภรรยา ก็เหมือนกับพ่อแม่ทุกคน ที่ต้องรักลูกและเป็นห่วงลูกอยู่แล้ว แต่ด้วยความยากจน เงินเดือนที่ได้ก็แค่มีใช้เพียงเดือนชนเดือนเท่านั้น จึงขอให้สังคมเข้าใจด้วย” พ่อน้องเตย กล่าว