Monday, 28 April 2025
CRIMES

ผู้การปทุมฯ เตือนประชาชนงดเดินทาง คุมเข้มตั้ง 5 ด่านเคอร์ฟิวสกัดโควิด

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สำหรับจังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เราต้องถือปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล โดยในเรื่องของการเดินทาง ตามประกาศได้มุ่งเน้นให้ประชาชนอยู่กับบ้านไม่เดินทางไปไหน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดหรือแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 จึงขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าเดินทางออกจากบ้าน โดยเฉพาะการเดินทางข้ามเขตข้ามจังหวัด ขอให้ Work from Home ทำงานอยู่ที่บ้าน หากไม่มีอะไรทำ ให้หาอาชีพเสริม ที่ทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อจะได้มีรายได้เสริมขึ้นมา ส่วนเรื่องห้างสรรพสินค้าในจังหวัดปทุมธานี ให้เปิดทำการแล้ว โดยเวลาปิดไม่เกิน 20.00 น. สามารถดำเนินกิจการได้ในส่วนของซุปเปอร์มาเก็ต รวมถึงร้านยา และการใช้สถานที่เป็นสถานที่สำหรับฉีดวัคซีน

ในเรื่องของร้านอาหาร เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. ห้ามนั่งกินในร้าน สุราเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ห้ามจำหน่าย สุดท้ายในเรื่องของเคอร์ฟิว เรามีการตั้งด่านเคอร์ฟิว 5 ด่าน ประกอบด้วย

1.บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส นวนคร (พหลโยธินขาออก) อำเภอคลองหลวง

2.บริเวณแยกบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี

3.บริเวณหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต (พหลโยธินขาเข้า) อำเภอธัญบุรี

4.บริเวณหน้าโรงพยาบาลธัญบุรี อำเภอธัญบุรี และ

5.บริเวณแยกตลาดใหญ่ อำเภอลำลูกกา นอกจากจะเป็นด่านเคอร์ฟิวแล้วยังมีจุดคัดกรองโควิด-19 จำนวน 4 ด่าน (ยกเว้นด่านหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต)

ฝากถึงประชาชนว่าหลังจากเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่นขึ้น หากไม่มีความจำเป็นพบแพทย์หรือเหตุจำเป็นเร่งด่วน หรือไม่ใช้บุคคลที่อนุญาตให้เดินทางได้  ก็อย่าได้ออกมาเลย เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเข้มงวด ต้องปฏิบัติตามกฎมายอย่างเคร่งครัด ต้องจับกุมดำเนินคดีท่าน ขอร้องไม่มีความจำเป็นอย่าออกมา เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านในการสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด และไม่เป็นการกระจายหรือทำให้เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่น นอกจากนี้ในเวลากลางคืน ตนเชื่อว่าการเดินทางเพื่อความปลอดภัย ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูงเนื่องจากจะมีรถยนต์ที่ได้รับอนุญาต อาจจะใช้ความเร็ว จะสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ และการเดินทางข้ามจังหวัดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในช่วงเคอร์ฟิว หลังเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ขอความร่วมมืออย่าได้ปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยของท่านเอง


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

ตำรวจน้ำ ออกลาดตระเวนป้องกันการกระทำความผิด พบของกลางพืชใบกระท่อมสด พร้อมส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล ดำเนินคดีต่อไป

วันนี้ 20 กรกฎาคม 2564  การตรวจยึดยาเสพติดในครั้งนี้จากภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ. จตุรวิทย์ คชน่วม ผกก.9 บก.รน.และ พ.ต.ท.บรรเจิด มานะเวช รอง ผกก.9 บก.รน. ได้กำชับให้ พ.ต.ท.ศิโรดม สนุ่นดี สว.ส.รน.3 กก.9 บก.รน. ปฎิบัติตามนโยบายเพื่อความปลอดภัยและความสุขของพี่น้องประชาชน จนเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 พ.ต.ท.ศิโรดม สนุ่นดี สว.ส.รน.3 กก.9 บก.รน.

หลังได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่ามีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดบริเวณพื้นที่ป่าชายเลน หมู่ 2 ตำบลตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล พ.ต.ท.ศิโรดม ฯ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และสั่งการให้ ร.ต.ท.นราธร เทียมประทีป พร้อมด้วยกำลัง เรือ รน.28 จำนวน 5 นาย และ ร.ต.ท.พีรวัส เหมนแก้ว นำกำลัง ชุด สืบสวน จำนวน 4 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ

จนเมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณริมคลองจระเข้ไข่ ในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชนคลองเข้ไข่ หมู่2 ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล พร้อมกับประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อร่วมกันตรวจสอบ ภายหลังจากการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย พบว่าเป็นของกลางพืชใบกระท่อมสด มัดห่อด้วยถุงพลาสติกใส บรรจุในถุงพลาสติกสีดำ จำนวนทั้งหมด 21 ถุง น้ำหนักถุงละประมาณ 10 กิโลกรัม รวมน้ำหนักประมาณ 210 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง ไม่มีใครทราบว่าของกลางดังกล่าวเป็นของผู้ใด เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล ดำเนินคดีต่อไป


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. บูรณาการจัดการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบสังคม ป้องกันการมั่วสุมและการกระทำผิดกฎหมายและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 ในจังหวัดเชียงราย

เมื่อ 19 ก.ค. 64 เวลา 20.00 น. พ.อ. กิตติพล ไพรหิรัญ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ช.ร. (ท.) มอบหมายให้ ร.ต.นพดล รวมจิตร หน.ฝ่ายโครงการและงบประมาณฯ และ จนท.กอ.รมน.จังหวัด ช.ร.ได้ประสานงานบูรณาการร่วมกับคณะทำงานจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการระดับจังหวัด เพื่อปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล การป้องกันและหยุดหยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด การจัดระเบียบสังคมการป้องกันการรวมกลุ่มหรือมั่วสุม และการกระทำผิดกฎหมาย รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในจังหวัดเชียงราย

พร้อมด้วย ศปก.จ.เชียงราย ได้ดำเนินการออกตรวจตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ที่ 47/2564 และ 57/2564 และออกตรวจสอบแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบกิจการ ซึ่งเป็นสถานบริการในเขตพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 7 แห่ง ดังนี้

               1. ร้านนวดแผนโบราณ / ร้านอาหารญี่ปุ่น Natsu บริเวณรอบ ๆ โรงแรมวังคำ

               2. บริเวณสถานีขนส่ง (เก่า)

               3. บริเวณตลาดศิริกรณ์                                                                                                           

               4. ร้านสองสลึงคาราโอเกะ                                                                                                          

               5. ร้านยาดองป่าตึงริมกก                                   

               6. ร้านย่างเนยบ้านดู่                                      

               7. ร้านพะณครบ้านดู่

ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบการกระทำผิดกฎหมายและฝ่าฝืนคำสั่ง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายและคำสั่งโดยเคร่งครัด

ศรชล.ส่งเรือรบร่วมเรือประมง ค้นหาลูกเรือพลัดตกทะเล ยังไร้วี่แวว

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดระยอง (ศรชล.จว.รย.) โดยนาวาเอก อนุพงค์ จันทร์พฤกษ์ รอง ผอ.ศรชล.จว.รย. และนาวาเอก พิศาล หาญภักดี หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดระยอง (ศคท.จว.รย.) ได้รับแจ้งเกิดเหตุลูกเรือประมงพลัดตกน้ำ ในพื้นที่ จว.ระยอง เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ค. 64 เวลา 23.00 น. จาก นางสาว ดวงนภา อ่อนละมูล ลูกเจ้าของเรือ ว่าเรือประมงเกรียงไกร 14 ขนาด 89.52 ตันกรอส เครื่องมืออวนติดตา

มีลูกเรือชื่อ นายพอลล่า กอด อายุ 28 ปี ชาวกัมพูชา คาดว่าพลัดตกน้ำ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. บริเวณห่างจากเกาะเสม็ด ระยะประมาณ 22.80 ไมล์ โดย นายนิสารัตน์ สรรพสุข ไต๋เรือ ได้นำเรือค้นหาบริเวณที่คาดว่าลูกเรือพลัดตกทะเล แต่ยังไม่พบลูกเรือดังกล่าว จึงร้องขอการช่วยเหลือค้นหาผู้ประสบภัย

และเมื่อ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 19 ก.ค.64  ศคท.จว.รย. และ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจประมงระยอง ได้ประสานทางเครือข่ายวิทยุมดดำนาวี ขอความช่วยเหลือจากเรือประมง บริเวณใกล้เคียง จำนวน 3 ลำ ได้แก่ เรือ ป.สินมีสุข 929  เรือ สินชัยนาวี 88 และ เรือ มังกรสมุทร 555 ช่วยเหลือค้นหาผู้ประสบภัย

ในการนี้ ศยก.ศรชล.ภาค 1 บูรณการร่วมกับ ศปก.ทรภ.1 สั่งการให้เรือ ต.115 เข้าพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือค้นหาผู้ประสบภัย แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศคลื่นลมแรง ทำให้เป็นปัญหาต่อการค้นหา จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันนี้ ยังไม่พบลูกเรือที่สูญหายแต่อย่างใด จึงได้ยุติการค้นหาในเบื้องต้น ก่อนจะร่วมประสานงานทำการค้นหา ในวันรุ่งขึ้นต่อไป


ภาพ/ข่าว สนง.ศรชล.ภาค 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ผบช.ภ.3 !! แถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ได้ยาบ้า 408,784 เม็ด ยึดทรัพย์มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 นายณรงค์ วรหาญ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกัปราบปรามยาเสพติดภาค 3 และนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สันติ เหล่าประทาย และคณะ ได้ร่วมก้นแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ภายใต้ยุทธการ พิฆาตทรชน คนค้ายา อีสานใต้ และ ยุทธการ 238 พิทักษ์นครลำดวน ในห้วงระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน ถึงวันที่19 กรกฎาคม 2564 โดยมี พล ต.ต. คิรีศักดิ์ ต้นดินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ สรรพสามิตพื้นที่ศรีสะเกษ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดศรีสะเกษ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้แทนผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน ที่ 23 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตชด.224 กันทรลักษ์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน ที่ 23 และสื่อมวลชนจังหวัดศรีสะเกษ 

เข้าร่วมรับฟังการแถลงผลการจับกุม โดยมีผลการจับกุมรวมทั้งสิ้น 413 คดี ได้ผู้ต้องหา 534 คน ของกลาง ยาบ้า 408,784 เม็ด /กัญชาสด 29 ต้น /กัญชาแห้ง 55.99 กรัม  ไอซ์ 102.55 กรัม กระท่อม 441.8 กรัม และอาวุธปืน 34 กระบอก จับกุมตามหมายจับคดียาเสพติด ข้อหา ครอบครองเพื่อจำหน่าย 2 หมาย  ยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯจำนวน 8 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท พร้อมทั้งมีการแถลงผลการตรวจยึดบุหรี่เถื่อนนำเข้าโดยผิดกฎหมายของสรรพสามิตพื้นที่ศรีสะเกษอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลในการคำเนินการปราบปราม จับกุม ทำลายเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเพื่อลดปัญหายาเสพติดให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ต่อไป

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังทั้งระบบ โดยเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ปราบปราม แหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ทั้งพื้นที่แนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน โดยให้เป็นการแก้ไขปัญหาภายในของประเทศด้วยกฎหมายไทยและหลักสากล ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดให้วาระที่ 2 ของ 10 วาระเร่งด่วนในการพัฒนาจังหวัด เป็นเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด  

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 กล่าวต่อไปว่า ตร.ภ.จว.ศรีสะเกษร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้จับกุมเครือข่ายคดียาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่ สภ.กันทรลักษ์ บึงมะลู โนนคูณ รวม 13 ราย ผู้ต้องหา 16 คน ของกลาง ยาบ้า 388,500 เม็ด ไอซ์ 13.47 กรัม และดำเนินการยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ จำนวน 8 รายการ มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหารายสำคัญประกอบด้วย นายจตุพล หรืออั๋น ไชยศาสตร์ อายุ 32 ปี ชาว ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จับในพื้นที่ สภ.กันทรลักษ์ ของกลาง ยาบ้า 124,000 เม็ด รายที่ 2  คือ นายเปรม (นามสมุติ) อายุ 18 ปี  ชาว ต.ภูเงิน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จับกุมในเขตพื้นที่ สภ.กันทรลักษ์ ของกลาง ยาบ้า 186,806 เม็ด โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติด ให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ยังกล่าวด้วยว่า  ตร.ภาค 3 จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน ให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งผู้เสพ ผู้ค้า โดยแจ้งข้อมูลผ่าน สายด่วนยาเสพติด 1594 , สายด่วน 191, Application Police I lert U และ เบอร์สายด่วน 1386 ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม (https://www.oncb.go.th/) ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ สายด่วน 1567 ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการปราบปราม จับกุม ทำลายเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อลดปัญหายาเสพติดให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป


ข่าว/ภาพ  บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สลุย พร้อม ฝ่ายปกครอง จังหวัดชุมพร บุกจับนักพนัน ลักลอบชนไก่ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 เวลา 13.00 น. ภายใต้การอำนวยการของนายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายพิทักษ์ พิศสิริวัฒนสุทธิ์ ปลัดจังหวัดชุมพร พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร  พ.ต.อ.จิโรจน์ สาธุการ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ชุมพร รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สลุย ชุดจับกุมนำโดย นายทวีป ไทยสวี ป้องกันจังหวัดชุมพร นายสุจินต์ สว่างศรี ผบ.ร้อย อส.จ.ชุมพรที่ 1 นายเกียรติภูมิ โภคผล เจ้าหน้าที่ปกครองและสมาชิก อส. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สลุย. ชุดเฉพาะกิจ ภ.จว. ชุมพร และชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ชุมพร  ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาลักลอบเล่นพนันชนไก่พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 10 ราย พร้อมด้วยของกลาง ไก่ชน 7 ตัว และอุปกรณ์ประกอบการเล่น

โดยกล่าวหาว่า

1. ร่วมกันลักลอบเล่นพนันชนไก่พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมมั่วสุมในสถานที่แออัดอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดและคำสั่งจังหวัดชุมพร เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรน่า 2019

เหตุเกิดที่ อาคารร้างในสวนปาล์มน้ำมัน  พื้นหมู่ที่ 10 ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพื่อโปรดทราบ

จากนั้น ได้นำตัวผู้ถูกจับ พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุยชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

ตร.จับเน็ตไอดอลจริง เตือนอย่ายุยง ส่งเสริม สนับสนุนให้เล่นการพนันออนไลน์ มีสิทธิถูกจับกุมดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในเรื่องการปราบปรามการพนันทุกรูปแบบโดยเฉพาะการพนันออนไลน์ที่มีการแพร่กระจายเป็นวงกว้างอยู่ในโลกโซเชียล เนื่องจากมีพี่น้องประชาชนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก แม้จะเร่งปราบปรามแต่ก็ยังไม่หมดไป

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ฯ ยังกล่าวต่อไปว่า สาเหตุสำคัญอีกประการ ที่อยากจะเน้นย้ำ สำหรับ เน็ตไอดอล อินฟลูเอ็นเซอร์หรือผู้สนับสนุน ดารานักแสดงนายแบบนางแบบ ยูทูปเบอร์ วีดิโอ ครีเอเตอร์ ที่มีส่วนชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนัน จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนันฯ มาตรา 12 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสองเดือน บุคคลเหล่านี้อาจจะเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อการชักชวนให้บุคคลอื่นทั้งผู้ใหญ่หรือเด็กและเยาวชนเล่นการพนัน เว็บไซต์การพนันจึงพยายามติดต่อว่าจ้างให้โฆษณาเว็บไซต์การพนันให้

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้เล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะ ข้อมูลผู้เล่นมีตั้งแต่เป็นเยาวชนที่ใช้เวลาอยู่กับสื่อออนไลน์ หลงเชื่อการชักชวนจากบุคคลดังกล่าว จึงได้สั่งกำชับให้ทุกหน่วยงานให้กวดขันจับกุมและทำการสืบสวนปราบปรามการพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลอย่างจริงจัง ทั้งผู้จัดให้มีการเล่น ผู้เล่น รวมทั้งกลุ่มเน็ตไอดอลหรือผู้มีชื่อเสียงที่ชักชวนผู้อื่นเล่นการพนันโดยให้มีผลการปฏิบัติชัดเจน

ล่าสุด บก.ปอท.สามารถสืบสวนจับกุมมาแล้วหลายราย เช่น เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. ได้ร่วมกันจับกุมตัว 1.นาย อนุพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี 2.น.ส.ภคมน (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี 3.นาย ชวนากร (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ทั้งสามรายเป็นเน็ตไอดอล มีผู้ติดตามในบัญชีเฟซบุ๊กและยูทูปรายละหลายแสนคน

อีกราย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท.ได้จับกุม น้องพลอย น.ส.สิริกานต์ นางแบบเพลย์บอย อ้างตัวเป็น ครีเอเตอร์วีดิโอ เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 3.8 หมื่นคน  และเพจที่มีผู้ติดตามกว่า 1.3 ล้านคนที่มีการกระทำความผิดด้วยการแฝงโฆษณาชักชวนเล่นพนันออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊กและยูทูป ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา “เป็นผู้ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน ในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงอยากจะฝากเตือนเหล่าเน็ตไอดอลทั้งหลายพึงระลึกเสมอก่อนกระทำหรือคิดจะรับการว่าจ้างจากเว็บไซต์การพนัน หากถูกจับกุมจะอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ หากศาลพิจารณาตัดสินว่ามีความผิดอาจจะต้องรับโทษตามพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478  มาตรา 12 มีอัตราโทษโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำความผิดหลายกรรม อาจถูกดำเนินคดีในลักษณะต่างกรรมต่างวาระได้  และขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันหยุดวงจรการพนันออนไลน์ โดยหากพบเห็นการกระทำความผิดหรือพบเบาะแสเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ สามารถแจ้งไปยังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

เมียนมาส่ง 3 คนไทย เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำในเมียนมากลับประเทศ พบ 1 ใน 3 คนมีหมายจับติดตัว กักตัว 14 วันก่อนดำเนินการต่อ

ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่สาย นำโดยนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ในฐานะหัวหน้าศูนย์ฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่รับมอบตัว คนไทย 3 คน โดยทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เมียนมา ได้นำตัวคนไทยมาส่งให้ คือ นายวุฒิชัย สิโปด อายุ 24 ปี ชาว อ.กันตัง จ.ตรัง  นายชัยวัฒน์ มโนรมย์ อายุ 24 ปี ชาว อ.เมืองเลย จ.เลย และนายรณชัย สะดาแนน อายุ 36 ปี ชาว อ.เอราวัณ จ.เลย มาส่งให้กับทางการไทย ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โดยทั้ง 3 คน มีรายชื่ออยู่ในจำนวน 20 คนที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งให้ทาง อ.แม่สาย รับตัวโดยทั้งหมดส่งรายชื่อผ่านทางสถานเอกอัคราชฑูตประเทศไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ซึ่งพบว่าอีก 17 คนไม่ได้ถูกส่งตัวมาด้วย โดยทางการเมียนมาให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างการสอบสวน ก่อนหน้านี้นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปถึงผู้ว่าราชการ จ.ท่าขี้เหล็ก ขอให้อำนวยความสะดวกในการส่งตัวคนไทยกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน หลังมีหญิงไทยอายุ 26 ปี กลับมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ในภาวะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่มีอาการหนักแล้วทำให้เสียชีวิตในวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับทั้ง 3 คน พบว่าเพิ่งพ้นเพราะทำผิดกฎหมายในประเทศเมียนมา โดยมีผู้ทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประเภทยาบ้าจำนวน 37 เม็ด และพกพาอาวุธปืนจำนวน 1 คน และอีกคนถูกดำเนินคดีพกพาอาวุธปืน ส่วนคนสุดท้ายเป็นข้อหาหลบหนีเข้าเมืองเมียนมา ทั้งหมดถูกจำคุกที่เมืองเชียงตุงเป็นเวลา 2-3 ปี  บางคนได้รับการลดโทษจึงถูกส่งตัวกลับ  จากการตรวจสอบประวัติพบว่ากรณีนายรณชัยมีหมายจับศาล จ.เลย ในข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานไปยัง สภ.นาดินดำ จ.เลย ไปรับตัวเพื่อนำไปดำเนินคดีต่อไป ส่วนอีก 2 คนที่เหลือถูกส่งตัวไปยังสถานกักกันรูปแบบเฉพาะที่ร้อย ตชด.327 อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ / เชียงราย

 

ปส.รวบขบวนการค้ายาเสพติดจากภาคเหนือ มุ่งเข้า กทม. สะกดรอยจับกุมได้ที่บริเวณถนนสายเอเชีย (หมายเลข 32) ได้ของกลาง 6.2 ล้านเม็ด

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1– กก.2 บก.สกส. บช.ปส.อำนวยการโดย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. , พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ , พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ , พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล , พล.ต.ต. อนุภาพ ศรีนวล รอง ผบช.ปส. , พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส. , พ.ต.อ.วัสสา วัสสานนท์ , พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร , พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก.สกส.บช.ปส. ได้บูรณาการร่วมกันทำการจับกุมตัว ขบวนการจำหน่ายยาเสพติด จากภาคเหนือ ได้ผู้ต้องหาได้จำนวน 3 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายสุทัศน์ แซ่ว่าง , นายหวาน ลาเซ และ นายกิตติพิชญ์ แซ่ม้า กับพวก มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ และจะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ทางกลางและปริมณฑล ตามสั่งการของผู้ว่าจ้างอยู่เป็นประจำ

โดยสายลับแจ้งว่าในระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2564 จะร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จว.เชียงราย เพื่อนำไปส่งมอบให้กับลูกค้าตามสั่งการของผู้ว่าจ้าง โดยจะใช้รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA แบบมีหลังคาด้านท้าย (แครี่บอย) สีเทา หมายเลยทะเบียน บพ 4127 พะเยา และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ CHEVROLET รุ่น OPTRA สีดำ หมายเลขทะเบียน กษ 7674 เชียงราย เป็นยานพาหนะในการขนลำเลียง จึงวางแผนในการตรวจค้นจับกุมบุคคลดังกล่าวหากพบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจริง

โดยในช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจชุดจับกุมพบรถยนต์ทั้งสองคันในพื้นที่ จว.สิงห์บุรี ตรงกับที่สายลับแจ้ง จึงได้สะกดรอยติดตาม และให้ทำการตรวจค้นจับกุมในที่ปลอดภัย และเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมสามารถสกัดกั้นรถยนต์ทั้งสองคันได้ที่บริเวณลานจอดรถยนต์ ตลาดกลางกุ้ง ถนนสายเอเชีย (หมายเลข 32) ตำบลหันตรา อำเภอ พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยผู้ต้องหา 3 ราย 1. นายหวาน ลาเซ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 257 หมู่ 9 ตำบลดงมหาวัน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย 2. นายสุทัศน์ แซ่ว่าง อายุ 23 ปี ที่อยู่ 0/89 หมู่ที่ 07 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายและ 3. นายกิตติพิชญ์ แซ่ม้า อายุ 21 ปี ที่อยู่ 203 หมู่ที่ 12 ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 4 รายการ 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 3,100 มัด รวมเป็นยาบ้าเบื้องต้นทั้งสิ้นประมาณ 6,200,000 เม็ด ตรวจยึดได้จากรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA แบบมีหลังคาด้านท้าย (แครี่บอย) สีเทา หมายเลขทะเบียน บพ 4127 พะเยา รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ CHEVROLET รุ่น OPTRA สีดำ หมายเลขทะเบียน กษ 7674 เชียงราย จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกัน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้น ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนพร้อมของกลาง มาที่ กก.2 บก.สกส.บช.ปส. เพื่อรอทำการขยายผลการจับกุม และทำการจับกุมผู้รับปลายทางต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุจินดา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา

DSI สนธิกำลังตรวจที่เกิดเหตุ จังหวัดนราธิวาสในคดีพิเศษที่ 22/2564

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฏาคม 2564 พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะกำกับดูแล นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้มอบหมายให้ นายพิเชฐ ทองศรีนุ่น ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการแผนที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับ สำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (สขว.กอ.รมน.ภาค4สน.),หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 49 (ฉก.ทพ.49),กองร้อยทหารพรานที่ 4908,สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13, สำนักงานที่ดินจังหวัดนราธิวาส สาขาสุไหงปาดี, ปลัดอำเภอสุคิริน, ผู้ปกครองท้องที่กำนันตำบลทุ่งไทร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4  ตำบลทุ่งไทร, ศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้, สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.), ผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ ที่ปรึกษาคดีพิเศษ และเจ้าของที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ เขากูยิ ตำบลร่มไทร อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส โดยแยกการดำเนินการเป็น 2 ส่วน ดังนี้

1) ตรวจตอไม้ที่มีการอ้างว่าตัดจากที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ จำนวน 21 ตอ เพื่อตรวจสอบ ชนิด ขนาด วงปี และพิกัดตอไม้ว่าอยู่ในเขตป่าหรือไม่

2) ตรวจตำแหน่ง สภาพที่ดิน และการทำประโยชน์ในที่ดินจำนวน 6 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 200 ไร่ โดยมีผู้มีชื่อเจ้าของที่ดินเป็นผู้นำชี้ ประกอบกับการเดินสำรวจของเจ้าพนักงานที่ดินว่าเอกสารสิทธิดังกล่าวได้ออกโดยถูกต้องหรือไม่

โดยก่อนดำเนินการมีเจ้าหน้าที่และบุคลากรด้านสาธารณสุขจากจังหวัดนราธิวาส มาทำการคัดกรองและให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการการป้องกันโควิด และมีเจ้าหน้าที่หน่วยทหาร EOD หน่วยสุนัขทหาร K9 มาสนับสนุนการปฏิบัติการ เพื่อการระวังความปลอดภัยตลอดเส้นทางและขณะทำการตรวจสอบ

ในการดำเนินการในคดีพิเศษที่ 22/2564 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และทำการวิเคราะห์ เพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top