Monday, 28 April 2025
CRIMES

'ตร.สงขลา' จับมือ 'ป.ป.ส.' นำทีมจับยาบ้า 8 แสนเม็ด ไอซ์ 30 กก. จนท.เร่งขยายผลหาเอเย่นต์ใหญ่

(20 ก.พ. 66) เปิดภาพเบื้องหลังปฏิบัติการจับกุมยาบ้า 8 แสนเม็ด และไอซ์ 30 กิโลกรัม ที่ใส่กล่องพัสดุ นำมาวางไว้ริมถนนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และขยายผลจับกุม 3 ผู้ต้องหา ยึดทรัพย์รถยนต์ 3 คัน บัญชีธนาคารรวมมูลค่า 3 ล้านบาท

จากกรณีตำรวจสงขลาและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 9 จับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ ซึ่งเป็นยาบ้าจำนวน 8 แสนเม็ด และไอซ์ 30 กิโลกรัม มูลค่ารวมกันกว่า 11 ล้านบาทในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งซุกซ่อนมาในกล่องพัสดุ และสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่มารับของได้ 3 คนและยึดรถยนต์ 3 คันมูลค่า บัญชีธนาคาร รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 3 ล้านบาท และทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่มาแถลงข่าวคดีนี้ ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ. 66) ทีมข่าวมีภาพเบื้องหลังเหตุการณ์ปฏิบัติจับกุมยาบ้า ยาไอซ์และเครือข่ายค้ายากลุ่มนี้ได้ทั้ง 3 คน โดยเริ่มจากเมื่อเวลาประมาณ 4 โมงเย็นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ตำรวจ สภ.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งพบกล่องพัสดุต้องสงสัยจำนวน 10 กล่องถูกนำไปวางไว้ในพงหญ้าริมถนนเส้นทางออกจากนิคมอุตสาหกรรมฉลุง หมู่ 4 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จึงประสานตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ชุดสืบสวนภาค 9 และฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ เข้าทำการตรวจสอบและเก็บไปตรวจลายนิ้วมือแฝงที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 พบว่าภายในกล่องพัสดุมียาบ้าอยู่ 8 แสนเม็ด และไอซ์อีก 30 กิโลกรัม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับข้อมูลชูวิทย์ หลังพบต่อวีซ่าเกษียณที่ชลบุรี แต่เป็นบ้านร้างมีสุนัข 2 ตัว พร้อมขยายจับสมาคมจีนเถื่อน

วันนี้ (20 ก.พ.66) เวลา 9.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมายัง สน.นางเลิ้ง เพื่อร่วมรับข้อมูลร้องทุกข์จากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ให้ดำเนินคดีกับ นายหยูซินฉี ประธานสมาคมจีนจื้อกงแห่งอาเชียน และสมาคมชาวจีนอื่นๆ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังพบว่านายหยู ได้ตั้งสมาคมเถื่อนและมีการแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อหาผลประโยชน์

จากข้อมูลของนายชูวิทย์พบว่า นายหยูได้มีการตั้งสมาคมจีนจื้อกงแห่งอาเซียน โดยมิได้มีการจดแจ้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังมีพฤติการณ์ในการแอบอ้างตนว่ามีความสนิทสนมกับข้าราชการทหาร ตำรวจ นักการเมือง รวมไปถึงสถาบันของประเทศ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง ในสายตาของคนจีน และใช้โอกาสดังกล่าวในการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง นอกจากนี้จากการตรวจสอบการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรพบว่า นายหยูได้รับการอนุญาตให้ต่อวีซ่าในลักษณะเกษียณให้อยู่ที่ อ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วจะพบว่า สถานที่ที่แจ้งที่อยู่ไว้เป็นบ้านร้าง ภายในบ้านมีสุนัขอยู่ 2 ตัว แต่ตัวนายหยูอาศัยอยู่จริงที่กรุงเทพฯ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ นายชูวิทย์ได้เคยมอบให้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล นำไปอภิปรายในสภามาแล้ว

ตำรวจบุกรวบ 'บอล หนองนก' เอเยนต์ค้ายานรก ยึดยาบ้า-ยาไอซ์-ของผิดกฎหมายเพียบ

ชป.ไล่ล่าเมืองคอนบุกรวบ 'บอล หนองนก' เอเยนต์ค้ายานรก -ยึดยาบ้า ,ไอซ์ และอาวุธปืนอื้อ-ผกก.สั่งสอบสวนขยายผลตามจับกุมเอเยนต์ใหญ่มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้จนได้

(19 ก.พ. 66) พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับรายงานว่าการการลักลอบค้ายาเสพติด ในพื้นที่หมู่ 10 ต.บางจาก อ.เมือง โดยผู้ค้ามีฉายาว่า 'บอล หนองนก' จะตระเวนขับรถนำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป.พ.ต.ต.มนัส พิทักษ์บูรพา สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำกำลังออกสังเกตการณ์ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

จนกระทั่งเมื่อเย็นวานนี้ (17 ก.พ.) ร.ต.อ.พศวีร์ จันทอง รอง สวป. สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นำหลังตำรวจและ อส.ตร.ชุดปฏิบัติการไล่ล่า ออกลาดตระเวนตรวจตรามาถึงบริเวณริมทางสาธารณะหน้าบ้านเลขที่ 64/11 บ้านทุ่งสงวน หมู่ 10 ต.บางจาก อ.เมืองจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทราบว่าเป็นบ้านของ 'นายบอล หนองนก' ผู้ต้องสงสัยที่ได้รับรายงานว่าเป็นแหล่งค้ายาเสพติดยาบ้า ยาไอซ์ และยังมีอาวุธปืนพกประจำกายด้วย

วัยรุ่นเมา เล่นรัสเซียนรูเล็ต ยิงศีรษะตัวเอง กระสุนทะลุเข้าขมับเพื่อน ดับคู่กลางวงเหล้า

พระนครศรีอยุธยา - หนุ่มเมาเล่นรัสเซียน รูเล็ต ยิงใส่หัวตัวเองทะลุเข้าขมับเพื่อนดับคู่กลางวงเหล้า บริเวณริมถนนโรจนะ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 12 อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันนี้ (18 ก.พ.66) พ.ต.ท.นราธิป สุทนต์ สว.(สอบสวน) สภ.บางปะอิน ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืน 2 ราย เหตุเกิดบริเวณริมถนนโรจนะ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 12 มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง ข้างร้านสภาฟุตบาทชิว หมู่ที่ 2 ตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา 

ในที่เกิดเหตุบริเวณโต๊ะต่อกัน 2 ตัว พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย ถูกอาวุธปืนยิงบริเวณศีรษะ นอนฟุบเสียชีวิตอยู่บนพื้นริมฟุตปาธ และบนโต๊ะ ทราบชื่อต่อมาคือ นายลิขิต คำมี อายุประมาณ 31 ปี ใส่เสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ นั่งเสียชีวิตคาเก้าอี้หน้าฟุบกับโต๊ะ ถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณขมับขวา 1 นัด ทะลุขมับซ้าย เลือดไหลออกมาจำนวนมาก ในมือข้างขวายังกำอาวุธปืนขนาด.38 และในลูกโม่ ยังพบปลอกกระสุนปืนคาอยู่อีก 1 นัด ส่วนอีกรายสวมใส่ชุดนักเรียน มีบาดแผลถูกยิงที่ ขมับขวา 1 นัด นอนจมกองเลือดอยู่ใต้โต๊ะ ทราบชื่อต่อมาคือ นายเอกลักษณ์ หรือเก๋ง อินทรลักษณ์ อายุประมาณ 21 ปี บนโต๊ะพบขวดเหล้าและขวดโซดาตั้งอยู่ บริเวณใต้โต๊ะพบลูกกระสุนปืน จำนวน 4 ลูก ตกกระจายอยู่บนพื้น

'ตำรวจ' จับกุม 3 สาวร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงเหยื่อสูญเงินกว่า 150 ล้านบาท

เมื่อวานนี้ (17 ก.พ.66) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. แถลงผลการปฏิบัติงาน นำโดย พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. และ พ.ต.ต.วรุฒ คำหล้า สว.กก.3 บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 และทีมสืบสวนนครบาลแกะรอยจับกุม น.ส.ขวัญนรินทร์ หรือนิว สายบุตร อายุ 23 ปี ที่อยู่ 78 ม.7 ต.โคกสาร อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ น.ส.นวลอนงค์ จากจะโป๊ะ อายุ 21 ปี ที่อยู่ 35/3 ม.4 ต.มะค่า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา และน.ส.สุทธิดา อายุวรรณะ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 187 หมู่ 10 ต.พังตรุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ประกอบอาชีพค้าขายส้มตำ ขายอาหารอีสาน และขายข้าวแกงในตลาดนัด 

โดยกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดนหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน จับกุม บริเวณตลาดนัดเพชรเกษม 77 ถ.เพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร

'เลขา ป.ป.ส.' สั่ง ขยายผล คดีจับยาบ้า 1 ล้านเม็ด เผย เฉพาะ 4 เดือน ยอดยึดทรัพย์กว่า 2 หมื่นล้านบาท!!

(17 ก.พ. 66) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวถึง กรณีที่เจ้าหน้าที่ ตร.บก.สส.ภ.9 จับกุมผู้ต้องหาชาวอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวม 3 คน คือ นายสรายุทธ เศรษฐรินทร์ อายุ 37 ปี, นายวีรยุทธ วิรัชวรกร อายุ 39 ปี และนายทรงพล โสภาสิทธิ์ อายุ 35 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1 ล้านเม็ด เหตุเกิดที่ริมถนนเพชรเกษมขาเข้าหาดใหญ่ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กลางดึกของคืนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “คดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ตรวจสอบในฐานข้อมูลการข่าวของ ป.ป.ส. พบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จ.สงขลา ค้ายาเสพติดมาเป็นระยะเวลานาน และล้วนแต่มีประวัติเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดมาก่อน ทั้งยังมีสมาชิกเครือข่ายอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ทั้งที่ทำหน้าที่กระจายยาเสพติด และดำเนินการเรื่องการเงินและทรัพย์สิน บางรายในอดีตเคยต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ แต่ยังลักลอบใช้โทรศัพท์ติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดจำนวนมาก จากนักค้าในประเทศเพื่อนบ้านและพื้นที่ภาคเหนือ ลงไปกระจายจำหน่ายใน จ.สงขลา, จ.สตูล และจังหวัดใกล้เคียง

'บิ๊กจ๋อ' ส่งทีมลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล แกะรอย 'ตั้ม ร่มเกล้า' ยอดฝีมือโจรกรรม จยย. ทั่วเมืองกรุง นาน 2 เดือน ก่อนลุยถึงหอพักที่กบดาน ตะครุบตัวพร้อมของกลางเพียบ

(16 ก.พ. 66) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. แถลงผลการปฏิบัติงานของ พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บช.น. ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บช.น. ,พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.พิสิฐ เตชะ สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล เข้าจับกุมตัวนายบุญฤทธิ์ หรือตั้ม โชคสิริ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.5 ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ 

ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้า หรือจำหน้าได้” โดยจับตัวได้ ภายในหอพักพฤกษาเฮ้าส์ ห้องพักเลขที่ 106 ซอยเคหะร่มเกล้า 20 แขวงสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง เสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุจำนวนทั้งสิ้น 11 ตัว คีบตัดเหล็กที่ใช้ตัดดิสล็อคล้อ หรือ สายเหล็กคล้องล้อ ค้อน ไขควง คัดเตอร์ ที่ใช้งัดแงะรถคันประทุษร้าย สายไฟต่อตรง 5 เส้นกุญแจรถมอเตอร์ไซคันที่ถูกลัก 5 คัน ทะเบียนรถคันที่ถูกลักมาจำนวน 2 แผ่น แม่กุญแจที่ใช้คล้องล้อรถ 6 ดอก และเอกสารเกี่ยวกับรถที่ถูกลัก 7 คัน

พฤติการณ์สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้รับทราบสถิติการก่ออาชญากรรมของกลุ่มมิจฉาชีพที่ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์สินของชาวบ้านในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ตามหอพัก และแฟลตตามชุมชนต่างๆทั่วกรุงเทพฯ จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ซึ่งรับผิดชอบงานโจรกรรมรถ ทำการสืบสวนนครบาลติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ทั้งขบวนการ จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จัดวางแนวทางการป้องกันและปราบปราม

ตำรวจไซเบอร์ เรียนชี้แจงความคืบหน้าคดีแชร์ออมเงิน 'บ้านร่ำรวยเงินทองปี 4'

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เรียนชี้แจงความคืบหน้าคดีแชร์ออมเงิน “บ้านร่ำรวยเงินทองปี 4” ดังนี้

ตามที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีมีผู้เสียหายหลายรายเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายวงแชร์ “บ้านร่ำรวยเงินทองปี 4” ที่ได้หลอกลวงชักชวนผู้เสียหายให้เล่นแชร์ออมเงิน เพื่อรับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย ในอัตราสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินลงทุน ต่อมาพบความผิดปกติ มีสมาชิกวงแชร์รายใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ผู้เสียหายเชื่อว่านายวงแชร์หลอกลวงใช้สมาชิกที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง หรือที่เรียกว่ามือผี มาทำการรับผลตอบแทน หรือเปียแชร์แทน ทำให้ได้รับความเสียหายรวมประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีการตั้งวงแชร์มากกว่า 10 วง ทั้งแบบรายวัน รายอาทิตย์ และรายเดือน มีวงเงินตั้งแต่ 10,000 ไปจนถึง 1,000,000 บาท อีกด้วย

จึงขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า จากการตรวจสอบมีผู้เสียหายบางส่วนแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ที่ www.Thaipoliceonline.com โดยจากการวิเคราะห์ พบความเชื่อมโยงทางคดีมากกว่า 50 เรื่อง (Case ID) ซึ่งคาดว่าภายในต้นสัปดาห์ถัดไป ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. จะมีความเห็นเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นไปยังผู้บริหารคดี ระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาสั่งการให้รวบรวม สั่งโอนสำนวนคดีไปยังพนักงานสอบสวนหน่วยที่รับผิดชอบทำการสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 468/65 เรื่องการรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ฯ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการชักชวนหลอกลวงลงทุนออนไลน์ การระดมทุนที่ผิดกฎหมาย โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ความผิดตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ.2534 มาตรา 6 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ตามมาตรา 4, 5 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 ถึง 1,000,000 บาทและปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ” หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามพฤติการณ์ในแต่ละกรณี

ผบ.เด่นสั่งสืบนครบาลแกะรอยรวบตั้ม ร่มเกล้ายอดฝีมือตัวลักรถจักรยานยนต์จำนวนมากทั่วเมืองกรุง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลเฝ้าแกะรอยขบวนการลักรถจักรยานยนต์ตามหอพัก และแฟลตตามชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ ตร.ดูแลประชาชนผู้หากินสุจริต และรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม เนื่องจากรถจักรยานยนต์เป็นเครื่องมือในการทำมาหากินของคนรากหญ้า โดยจากการสืบสวนภาพกล้องวงจรปิดพบมีวิธีการลักรถจักรยานยนต์ที่เป็นที่นิยมในท้องตลาด คือจะทำการถีบคอรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมทำการต่อสายตรง โดยการสืบสวนพบว่านายตั้ม ร่มเกล้าเป็นตัวลักมือฉมังตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ทั่วเมืองกรุง พร้อมดำเนินการเร่ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานโจรกรรมรถ ให้ สืบสวนนครบาลติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ทั้งขบวนการ

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระรองออย รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บช.น. , พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.พิสิฐ เตชะ สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายบุญฤทธิ์ หรือตั้ม โชคสิริ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.5 ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหา ตามหมายจับในคดี “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้า หรือจำหน้าได้”

โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหอพักพฤกษาเฮ้าส์ ห้องพักเลขที่ 106 ซอยเคหะร่มเกล้า 20 แขวงสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง ได้แก่
1. เสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุจำนวนทั้งสิ้น 11 ตัว
2. คีบตัดเหล็กที่ใช้ตัดดิสล็อคล้อ หรือ สายเหล็กคล้องล้อ
3. ค้อน ไขควง คัดเตอร์ ที่ใช้งัดแงะรถคันประทุษร้าย
4. สายไฟต่อตรง 5 เส้น
5. กุญแจรถมอเตอร์ไซค์คันที่ถูกลัก 5 คัน
6. ทะเบียนรถคันที่ถูกลักมาจำนวน 2 แผ่น
6.1 9กข 3090 นายศักดิ์สิทธิ์ จันยุทา เจ้าของทรัพย์แจ้งรถจักรยานยนต์หายไว้ที่ สน.ลาดกระบัง
6.2 4ขธ 8215 นางสาวบุษบา พลพวก เจ้าของรถ แจ้งความหายไว้ที่ สน.โคกคราม วันที่ 9 ก.พ. 2566 15.00 น.
7. แม่กุญแจที่ใช้คล้องล้อรถ 6 ดอก
8. เอกสารเกี่ยวกับรถที่ถูกลัก 7 คัน

‘ตำรวจ’ รวบ ‘เจ้าแม่เปิดบัญชีม้า’ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับ!! เปิดบัญชีจำนวนมาก ส่งให้ ‘บอสใหญ่ชาวจีน’

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรม ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 และทีมสืบสวนนครบาลแกะรอยสืบสวนทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการปราบปรามขบวนการเปิดบัญชีม้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเดือนร้อนให้ประชาชนอย่างเด็ดขาด พบว่ามีการเปลี่ยนรูปแบบการหาบัญชีม้าต่างไปจากเดิม โดยล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 สืบสวนพบว่านางสาวมลเป็นเจ้าแม่เปิดบัญชีม้าให้กับบอสชาวจีน หัวหน้าแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาท

(16 ก.พ.66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ผอ.ศปอส.ตร. (PCT), พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หน.PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. รอง หน. PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.มาโนช ทองแก้ว สว.กก.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.4, ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2, ร.ต.อ.หญิง ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และสืบนครบาล จับกุม น.ส.ดวงกมล บุ้งทอง อายุ 37 ปี หรือ มล ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายจับข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 391/11 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดในปัจจุบันซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้วางแนวทางการป้องกันและปราบปรามในทุกมิติ เสมือนการทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้มีการจัดตั้งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมคอยวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ 

ซึ่งต่อมาได้สืบสวนกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบ ‘หลอกให้หลงรักและลงทุนเหรียญดิจิทัล’ จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุด PCT5 ทำการสืบสวนจนทราบแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้คือ จะมีการสร้างโปรไฟล์เป็นหนุ่มเกาหลีที่มีโปรไฟล์ดี อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาตีสนิท โดยพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อพูดคุยก็รู้ว่าคนร้ายเป็นคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้จริง ๆ ทำให้เกิดความเชื่อใจ คนร้ายจึงชักชวนลงทุนเทรดสกุลเงินดิจิทัล Crytocurrency ผู้เสียหายก็มีความรู้ด้านสกุลเงินดิจิทัล Crytocurrency อยู่บ้าง จึงหลงกลคนร้ายลงทุนเทรดผ่าน MetaTrader 5 และ ในเว็บไซต์ www.bithumbgjcoltd.com ก็สามารถถอนออกได้จริง จึงหลงกลอุบายของคนร้าย ทำให้ใช้เงินลงทุนมากขึ้น 

โดยมีการโอนเงินไปให้กับคนร้ายที่บัญชีชื่อ น.ส.ดวงกมล บุ้งทอง ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020385181480 จากการสืบสวนทราบว่ามีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับ น.ส.ดวงกมล บุ้งทอง 3 หมาย คือ หมายจับศาลอาญา ที่ จ.1098/2565 ลงวันที่ 8 มิ.ย. 2565 ในข้อหา ‘ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น’, หมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.27/2566 ลงวันที่ 11 ม.ค. 2566 ในข้อหา ‘ร่วมกันฉ้อโกง’ และหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.114/2566 ลงวันที่ 10 ก.พ. 2566 ในข้อหา ‘ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน’   

ต่อมาวันที่ 15 ก.พ. พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 และสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ดวงกมลฯ คนร้ายกบดานอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และมีพฤติกรรมพบปะกับ ‘บอสชาวจีน’ ที่โรงแรมชื่อดังในพื้นที่พัทยาบ่อยครั้ง จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.ดวงกมลฯ ตามหมายจับ โดยจับกุมได้ที่บริเวณ หน้าบ้านเลขที่ 415/17 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในชั้นจับกุม น.ส.ดวงกมลให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top