Monday, 12 May 2025
POLITICS

'โฆษกรัฐบาล' เผย นายกฯ กำชับ ฝ่ายความมั่นคง-มหาดไทย-แรงงาน คุมเข้มแรงงานต่างด้าวทะลักเข้าไทย  เร่ง MOU แก้ปัญหาขาดแรงงานและการลักลอบเข้าเมือง เปิดลงทะเบียน  1 ธ.ค. นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเป็นห่วงคือปัญหาการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว ผิดกฎหมาย ซึ่งยังคงได้รับรายงานการจับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง  จึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวด สกัดกั้นขบวนการขนย้าย ค้าแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนและจุดเสี่ยงช่องทางธรรมชาติรอบด้านทุกช่องทาง

ล่าสุด กองกำลังสุรสีห์หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าร่วมกับชุดปฏิบัติการข่าวกองกำลังสุรสีห์หมวดป้องกันชายแดนที่ 1 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี  จับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จำนวน 47 คน กองกำลังบูรพา กรมทหารพรานที่ 12 กรมทหารพรานที่ 13 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ  หน่วยเฉพาะกิจตาพระยา จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายชาวกัมพูชาได้ 35 คน  ทั้งหมดต้องการไปทำงานในกรุงเทพฯ สมุทรสาคร นครปฐม ปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา   

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยหนึ่งในสาเหตุหลัก คือ การขาดแคลนแรงงานในโรงงาน ก่อสร้าง ภาคอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงานดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี  นำเข้าแรงงานตาม MOU แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่  เมียนมา ลาว กัมพูชา  อย่างถูกกฎหภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้นายจ้างและสถานประกอบการในประเทศมีแรงงานในกิจการเพียงพอ ซึ่งจะเริ่มเปิดลงทะเบียนในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ 8 ขั้นตอนนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามเอ็มโอยู ดังนี้ 

1.นายจ้างยื่นแบบคำร้องกับสำนักงานจัดหางานในพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน 

2.การจัดส่งคำร้องความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว โดยกรมการจัดหางาน สจจ. สจก. 1-10 มีหนังสือแจ้งความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวผ่านสถานเอกอัครราชทูตประเทศต้นทางประจำประเทศไทยไปยังประเทศต้นทาง 

3.ประเทศต้นทางดำเนินการรับสมัคร คัดเลือก ทำสัญญา และจัดทำบัญชีรายชื่อคนงานต่างด้าว (Name List) ส่งให้กรมการจัดหางานผ่านสถานเอกอัครราชทูตประเทศต้นทางประจำประเทศไทย และกรมการจัดหางานส่งให้นายจ้าง

4. นายจ้างที่ได้รับบัญชีรายชื่อคนต่างด้าว (Name List) แล้วยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว 

5.กกจ.มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ ประเทศต้นทางของคนต่างด้าวเพื่อพิจารณาออกวีซ่า (Non – Immigrant L-A) ให้แก่คนต่างด้าวตามบัญชีรายชื่อ และหนังสือแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่ออนุญาตให้คนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองตามที่นายจ้างได้แจ้งไว้ 

6.เมื่อคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรต้องแสดงหนังสือยืนยันการอนุญาตให้เข้ามาทำงาน ใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าไม่เป็นโรคโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR และ ATK (ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง) หลักฐานการได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือใบรับรองแสดงประวัติการเคยติดเชื้อในช่วงไม่เกิน 3 เดือน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะตรวจลงตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เป็นระยะเวลา 2 ปี 

7.คนต่างด้าวต้องเข้ารับตรวจสุขภาพ 6 โรคเป็นขั้นตอนแรก หากพบเป็นโรคต้องห้ามจะส่งกลับประเทศต้นทาง เพราะไม่สามารถอนุญาตให้ทำงานได้ตามกฎหมาย หากไม่พบเป็นโรคต้องห้ามจะเข้าสู่กระบวนการกักตัว และตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธี RT – PCR 

8.คนต่างด้าวรับการอบรมผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เร้นซ์ ณ สถานประกอบการ เมื่อผ่านการอบรมแล้ว คนต่างด้าวรับใบอนุญาตทำงาน โดยการอนุญาตให้ทำงานจะเริ่มจากวันที่คนต่างด้าวได้รับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ให้เดินทางเข้ามาในประเทศ 

โฆษกกองสลาก เผยสาเหตุ ‘ล็อตเตอรี่แพง’ ชี้!! นักลงทุนออนไลน์ ไล่ซื้อ-ปั่นราคา

เพจเฟซบุ๊ก ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว’ ได้โพสต์ข้อความถึงปัญหาล็อตเตอรี่ขายเกินราคา และทางแก้ จาก นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า…

ปัญหาราคาสลากสลากกินแบ่งรัฐบาลแพงขึ้นมาก จนทำให้ผู้ค้ารายย่อยหลายรายปิดแผงไป โดยระบุว่า สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากมีนักลงทุนออนไลน์ไปกว้านซื้อสลากจากรายย่อยในราคาสูงจากต้นทาง เพื่อนำมาขายช่วง ส่งผลให้ราคาสลากในตลาดขายส่งปรับสูงขึ้นตาม

ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ ได้แจ้งเตือนแพลตฟอร์ม ซึ่งไม่มีโควตาสลากอย่างเป็นทางการว่า ไม่ควรเข้ามาในกระบวนการซื้อขาย เพราะการรับซื้อในราคาสูง เพื่อนำไปขายช่วง จะเป็นการนำไปสู่กระบวนการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งก็คือการขายสลากเกินราคา

'ณัฐชา' จี้ ‘นายกฯ-ชัยวุฒิ’ ใช้งบจ้างแฮกเกอร์ ล้วงข้อมูลแนวร่วมกลุ่ม 3 นิ้วหรือไม่

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองการ การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน แถลงข่าวกรณีที่มีนักวิชาการและนักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ได้รับอีเมลจากบริษัท Apple เตือนว่าแฮกเกอร์กำลังพยายามเข้าถึงโทรศัพท์ของคุณ (นักวิชาการ/นักกิจกรรมที่ได้รับ e-mail) ด้วยเหตุผลเพราะคุณเป็นใคร (who you are) หรือไม่ก็เพราะสิ่งที่คุณกำลังทำ (what you do) 
โดยใน e-mail ทางบริษัท Apple ระบุชัดว่าแฮกเกอร์เหล่านี้เป็น State-sponsored attackers หรือแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ 

“เรื่องนี้ไม่ใช่การกล่าวหาลอย ๆ เพราะทาง บริษัท Apple กำลังฟ้องร้อง nso group บริษัทเทคโนโลยีจากอิสราเอลผู้อยู่เบื้องหลัง ‘สปายแวร์พีกาซัส’ ซอฟต์แวร์สอดแนมข้อมูลซึ่งใช้เทคโนโลยีระดับสูงเกรดกองทัพในข้อหาคุกคามผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการของ Apple" ณัฐชา ระบุ 

เขายังกล่าวอีกว่า ผู้ได้รับอีเมลดังกล่าวประกอบด้วยกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมือง อาทิ กลุ่มศิลปะปลดแอก, กลุ่ม WeVo, แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, FreeYouth, ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย 

‘แรมโบ้’ กร้าว!! ท้าเดิมพันตำแหน่งฯ ไล่ออกจากไทยไม่ได้ พร้อมลาออก!!

‘แรมโบ้’ ประกาศ ท้าเดิมพันตำแหน่ง หากไล่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ออกจากประเทศไม่ได้ พร้อมลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนร่วมกับภาคประชาชนที่จงรักภักดีปกป้องสถาบัน

นายนพดล พรหมภาสิต กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันและเครือข่ายปกป้องสถาบัน 6 องค์กร ได้มายื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ขอให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบการทำงานขององค์กร แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Amnesty International Thailand) มีพฤติกรรมการกระทำเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์

เนื่องจากปรากฏเหตุการณ์ว่า แอมเนสตี้ไทย ได้ประกาศแคมเปญเขียนจดหมายล้านฉบับถึงทั่วโลก จี้ทางการไทยให้หยุดดำเนินคดีกับ น.ส. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ถือว่าองค์กรดังกล่าวเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 64 นั้น ผูกพันทุกองค์กร ซึ่งการกระทำขององค์กรดังกล่าวอาจถือได้ว่า อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลกระทำการจาบจ้วงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้หากพบข้อมูลหลักฐานอันเชื่อได้ว่าองค์กรดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายแทรกแซงกิจการความมั่นคงของประเทศ ขอให้มีมาตรการทางกฎหมายจัดการกับองค์กรนี้ให้พ้นออกไปจากประเทศไทย 

นายเสกสกล กล่าวว่า ตนได้ประกาศเปิดแคมเปญลงชื่อขับไล่แอมเนสตี้ 1 ล้านชื่อ ขณะนี้มีประชาชนมาลงรายชื่อแล้วมากกว่า 5 แสนรายชื่อ และมีเครือข่ายของภาคประชาชนที่ออกมาปกป้องสถาบัน ทั่วประเทศได้ออกมาเคลื่อนไหวตามแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ตนเองจะเดินสายไปรับรายชื่อ ในทุกภาค ทุกจังหวัด พร้อมกับล่ารายชื่อประชาชนขับไล่ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เห็นว่าประชาชนคนไทยไม่เอาองค์กรที่มาชังชาติทำลายความสงบสุข ทำลายบ้านเมือง และคิดร้ายต่อสถาบัน ปล่อยเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด   

‘สุทิน’ เชื่อ ‘ดอน’ ไปเยือนเมียนมา ต้นเหตุสหรัฐฯ ไม่เชิญไทย ร่วมประชุม

‘สุทิน’ เชื่อ ‘ดอน’ ไปเยือนเมียนมา ต้นเหตุสหรัฐฯ ไม่เชิญไทย ร่วมประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย 110 ประเทศ บี้ขอฟังคำตอบจากรัฐบาล

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า ในวันนี้ ตนจะตั้งกระทู้ถามนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ที่เดินทางไปเยือนประเทศเมียนมา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด มีรายงานข่าวจากสหรัฐอเมริกาว่า การประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย จำนวน 110 ประเทศ ปรากฏว่าประเทศไทยไม่ได้ถูกเชิญเข้าร่วมด้วย

เรื่องดังกล่าวถือเป็นความเสียหาย มีผลต่อความน่าเชื่อถือของประเทศ ซึ่งรัฐบาลต้องชี้แจงเหตุผล และอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

‘สิระ’ จี้ ศบค. ทบทวนเปิดสถานบันเทิง ย้อนถามลืมภาพคนตายข้างถนนแล้วหรือ

‘สิระ’ จี้ ศบค. รับผิดชอบหากเกิดคลัสเตอร์สถานบันเทิงใหม่ ถามลืมภาพคนไทยตายข้างถนนแล้วหรือ แนะคิดให้ดีหยุดเอาชีวิตประชาชนไปเสี่ยงตาย จี้ ผบ.ตร. จัดการให้เด็ดขาด

วันที่ 25 พ.ย. 64 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาเปิดสถานบันเทิงของ ศบค. ว่า ประเทศไทยเคยได้รับบทเรียนจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นบทเรียนที่ทำลายชีวิตของคนไทยไปจำนวนมหาศาล รวมทั้งยังทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศชาติพังยับ เพราะฉะนั้น ผู้ที่รับผิดชอบในการพิจารณาให้เปิดสถานบันเทิง ต้องคิดให้รอบคอบ และขอให้คิดเผื่อเอาไว้ด้วยว่า หากเปิดแล้วเกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 กระจายไปในวงกว้างซ้ำอีกครั้ง ศบค. จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งนี้

โฆษกรัฐฯยัน “บิ๊กตู่” ย้ำดูแลชาวนาและเกษตรกร เดินหน้าจ่ายเงินช่วยเหลือโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ชาวนาฝากขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใยและเข้าใจความเดือดร้อนและทุกข์ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ยังรอรับเงินประกันรายได้ตามนโยบายประกันรายได้ของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลสามารถจัดสรรเงินให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้เพิ่มเติมอีก 155,000 ล้านบาท ซึ่งจะนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติภายในวันอังคารหน้า (30 พ.ย. 64)  จากนั้น ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งเบิกจ่ายโอนถึงบัญชีพี่น้องเกษตรกรโดยตรงต่อไป ซึ่งพี่น้องเกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวทราบแล้ว สบายใจและฝากขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมาด้วย 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ วานนี้ (24 พ.ย.64) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบปรับกรอบอัตรายอดคงค้างรวมทั้งหมดของภาระที่รัฐต้องชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 จากไม่เกินร้อยละ 30 เป็นไม่เกินร้อยละ 35 เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับปีงบประมาณ 2565 เพื่อเปิดวงเงินให้สำหรับโครงการประกันรายได้พืชผล ส่งผลให้มีวงเงินตามมาตรา 28 ฯ เพิ่มอีก 155,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับวงเงินคงเหลือ (ณ วันที่ 19 พ.ย. 64) จำนวน 5,360 ล้านบาท เป็น 160,360 ล้านบาท ทำให้มีวงเงินเพียงพอสำหรับการจ่ายชดเชยประกันรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและยางพารา ในรอบที่ 2 ได้

จากนี้ จะได้มีการออกประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดอัตราชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 ต่อไป ซึ่งในการประชุม ครม. สัปดาห์หน้า จะสามารถพิจารณาอนุมัติโครงการประกันรายได้ข้าวในส่วนที่เหลือ และโครงการประกันรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เพื่อจ่ายเงินประกันรายได้ให้กับเกษตรกรได้ภายในเดือน ธ.ค. 64 

“บิ๊กตู่” พอใจความคืบหน้าสนามบินเบตง คาดว่าจะสามารถเปิดใช้เต็มรูปแบบภายในเดือนมกราคม 2565 สอดรับนโยบายเปิดประเทศเพิ่มเติม กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบความคืบหน้าการก่อสร้างท่าอากาศยาน สนามบินเบตง จังหวัดยะลา ตามโครงการ 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยท่าอากาศยานเบตง ตั้งอยู่ อ. เบตง จ. ยะลา  มีอาคารที่พักผู้โดยสารขนาด 7,000 ตารางเมตร ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 300 คนต่อชั่วโมง หรือ กว่า 8 แสนคน/ปี  ปัจจุบันได้มีการให้บริการเพื่อสนับสนุนภารกิจเที่ยวบินของทางราชการ และเที่ยวบินส่วนบุคคลแล้ว  คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2565 สอดรับกับมาตรการเปิดประเทศของมาเลเซียในวันที่ 1 มกราคม 2565 รวมทั้งรองรับการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยด้วยกันเช่นกัน 

'รัฐบาล' ขอบคุณผู้ประกอบกิจการขนส่ง เข้าใจและตอบรับความพยายามแก้ปัญหาปรับสูตรไบโอดีเซลเหลือเพียง B7 คุมค่าการตลาด 1.40 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่ 1 ธ.ค.64 – 31 มี.ค.65 กองทุนน้ำมันยังคงตรึงราคาขายดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร คาดเดือนหน้าเหลือ28 บาท

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขอบคุณนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและผู้ประกอบการขนส่ง ที่ตอบรับความพยายามและพอใจการแก้ปัญหาของรัฐบาลตามมติ กบง. ล่าสุด ถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการ ในการแก้ไขปัญหา ด้วยการพูดคุยและเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อก้าวข้ามสถานการณ์ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญดูแลผู้ประกอบการทุกกลุ่ม เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 สถานการณ์น้ำท่วม รวมทั้งราคาพลังงานโลกที่ปรับตัวสูงและยังมีแนวโน้มไม่แน่นอน 

นายธนกร กล่าวว่า ทั้งนี้  การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้น เพิ่มเติม โดยมีแนวทางดำเนินการในช่วงเดือนธันวาคม 2564 – มีนาคม 2565  ดังนี้ 1. ปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากเดิมมีการผสมอยู่ 3 สัดส่วน คือ ร้อยละ 7 (บี7) ร้อยละ 10 (บี10) และร้อยละ 20 (บี20) ให้มีสัดส่วนผสมเดียว คือ ร้อยละ 7 (บี7) 2.ขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร 3.ให้กองทุนน้ำมันฯ ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ให้สอดคล้องกับมาตรการบรรเทาผลกระทบฯ โดยยังคอยดูแลราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร

‘ก้าวไกล’ ซัด!! ควบรวม ‘ดีแทค-ทรู’ สะท้อนรัฐบาลทำงานเอื้อกลุ่มทุนฯ

พรรคก้าวไกล จี้!! รัฐบาลมีหน้าที่ป้องกันการผูกขาด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน หลัง รมว.ดิจิทัล แสดงความเห็นการควบรวมทรู-ดีแทค ว่าเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ รัฐบาลไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ และหลายประเทศก็มีผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือเพียงรายเดียว

วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และโฆษกคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน กล่าวว่า ในเอเชีย มีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่มีผู้ให้บริการรายเดียว 

ประเทศแรกที่เป็นต้นแบบของรัฐบาลไทย คือ ประเทศเกาหลีเหนือ ที่มีผู้ใช้มือถือเพียง 3.8 ล้านราย จากประชากร 26 ล้านราย

ประเทศที่สอง คือ หมู่เกาะโซโลมอน ที่มีประชากร 700,000 คน

คล้ายกับ 4 ประเทศในยุโรปที่มีผู้ให้บริการเพียงรายเจ้าเดียว อย่าง อันดอร์รา ที่มีประชากร 77,265 คน, ยิบรอลตาร์ ที่มีประชากร 33,691 คน, โมนาโก ที่มีประชากร 39,244 คน และ ซานมารีโน ที่มีประชากร 33,938 คน

“ประเทศไทยมีประชากร 69 ล้านคนนะครับ ตลาดโทรคมนาคมก็มีมูลค่าปีหนึ่งกว่า 600,000 ล้านบาท ถ้าไม่คิดจะปกป้องประโยชน์ของประชาชนคนที่เสียภาษีเป็นเงินเดือนให้รัฐบาล ที่กำลังจะได้รับผลกระทบจากการผูกขาด อย่างน้อยก็อย่าถือหางกลุ่มทุนจนออกนอกหน้าขนาดนั้น เดี๋ยวประชาชนจะสับสนว่า รัฐบาลนี้ทำงานเพื่อประชาชนหรือเพื่อกลุ่มทุนกันแน่”

ด้าน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DES ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการควบรวมบริษัทระหว่างทรูและดีแทค โดยวิโรจน์กล่าวว่า การที่รัฐมนตรี DES กล่าวว่าการควบรวมบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือยักษ์ใหญ่ 2 เจ้าไม่ได้อยู่ในอำนาจการกำกับดูแลของตน และการควบรวมครั้งนี้เป็นเรื่องปกติ แสดงให้เห็นว่า รัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้มองเห็นแต่ผลประโยชน์ของกลุ่มทุน แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ของตนเองว่า รัฐบาลมีหน้าที่ป้องกันการผูกขาดทางธุรกิจ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน

“เชื่อว่า กรณีนี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DES ที่จบมาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ คงจะคำนวณค่าดัชนี HHI เป็นอยู่แล้ว คงไม่ต้องให้ใครมาสอนวิธีการคำนวณให้ และควรต้องรู้อยู่แล้วว่า การควบรวมกิจการเครือข่ายโทรคมนาคม นั้นเป็นหน้าที่ที่รัฐมนตรี DES ต้องเข้าไปตรวจสอบดูแล ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยอย่างนี้ ป้ายชื่อกระทรวงด้านท้ายที่ระบุว่า “เพื่อเศรษฐกิจและสังคม” ก็น่าจะผ่านตานายชัยวุฒิบ้างอยู่แล้ว”

‘โฆษกพรรคกล้า’ ซัดรัฐใช้ภาษีปชช. ฟุ่มเฟือย ชี้! เงินเดือนสูงทั้งนั้น ทำไมไม่ซื้อมือถือเอง

'โฆษกพรรคกล้า' เปิดเงินเดือน ข้าราชการการเมือง - รัฐมนตรี เงินเดือนสูง ๆ ทั้งนั้น ทำไมไม่ซื้อมือถือเอง ท้าประกาศไม่รับไอโฟนตามนายกฯ ชี้เป็นบทเรียนจัดซื้อเกินจำเป็น 

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone 12 จำนวน 111 เครื่อง วงเงิน 2.68 ล้านบาท ว่าที่ปรึกษานายกฯ ออกมาชี้แจง ทั้งเรื่องความจำเป็นในภารกิจและ iPhone 7 ที่ใช้งานมากกว่า 6 ปี เริ่มชำรุด เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ แต่บุคคลที่จะได้โทรศัพท์ส่วนใหญ่กลับเป็นระดับผู้อำนวยการ อธิบดี ข้าราชการการเมือง ไปจนถึงรัฐมนตรี มีเงินเดือนสูง มีโทรศัพท์มือถือใช้กันอยู่แล้วทุกคน รัฐมนตรีและข้าราชการการเมืองทุกคน ก็ควรจะประกาศไม่รับโทรศัพท์เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และหาทางลดจำนวนการจัดซื้อให้เหลือเท่าที่จำเป็น 

กบง.เคาะปรับสูตรดีเซลเหลือบี 7 กดราคาเหลือลิตรละ 28 บาท

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) นัดพิเศษที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธาน เพื่อเห็นชอบให้ปรับสูตรน้ำมันดีเซลเหลือ 1 ชนิดคือ บี7 จากปัจจุบันมี 3 ชนิดคือ บี7 บี10 และบี20 ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลจะลดลงลิตรละประมาณ 50-80 สตางค์ จึงส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณลิตรละ 28 บาท

สำหรับปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อเดือนเพื่อไปช่วยตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท และผลจากมติครั้งนี้ทำให้กองทุนฯ มีภาระชดเชยเหลือ 3,886 ล้านบาท ฐานะกองทุนล่าสุดอยู่ที่ 2,596 ล้านบาท

‘โบว์ ณัฎฐา’ ค้านสังคมตาต่อตา ฟันต่อฟัน ยัน เป็นแนวคิดสวนทางหลักการเสมอภาค

นางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือ ‘โบว์’ นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ระบุว่า

“บางครั้งการต่อต้านเผด็จการมิได้หมายความว่าคุณจะเป็นประชาธิปไตยไปโดยปริยาย บางครั้งคุณอาจเป็นเพียงศัตรูของเผด็จการกลุ่มหนึ่งรูปแบบหนึ่งเท่านั้น และอาจเป็นเผด็จการอีกแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม”

'เสกสกล' ซัดนายเก่า ถนัดแต่ให้คนอื่นโล้ชิงช้าให้  ไม่ทำเอง ยก 'บิ๊กตู่' กำลังแก้ปัญหาโควิด ไม่คิดปมการเมือง

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม ร่วมสนทนาในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse พูดถึงการย้ายสังกัดพรรคของนายกฯ และนายกฯถนัดขึ้นชิงช้าให้คนอื่นโล้ ทำเองไม่เป็นนั้น โฆษกรัฐบาลออกมายืนยันแล้วว่านายกฯยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่านายกฯประยุทธ์ไม่มีแนวคิดไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือคิดเรื่องทางการเมืองในขณะนี้ เพราะอยู่ระหว่างแก้ไขปัญหา ฟื้นฟูประเทศอยู่

ขยายกรอบชดเชยมาตรา 28 เพิ่ม 1.5 แสนล. จ่ายเงินประกันรายได้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการขยายกรอบอัตรายอดคงค้างรวมทั้งหมดของภาระที่รัฐต้องรับชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 จากที่กำหนดไว้ไม่เกิน 30% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นเป็น 35% เป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับปีงบประมาณ 65 เพื่อเปิดเป็นวงเงินให้สำหรับโครงการประกันรายได้พืชผลเกษตรตามนโยบายของรัฐบาล 

“เหตุผลที่ต้องขยายกรอบครั้งนี้ เพราะวงเงินภายใต้กรอบอัตรายอดคงค้าง ณ วันที่ 19 พ.ย.64 มีวงเงินคงเหลือเพียง 5,360 ล้านบาท ไม่เพียงพอกับการดูแลโครงการประกันรายได้ ดังนั้นเมื่อขยายกรอบเพิ่มขึ้นมาอีก 5% จะมีวงเงินเพิ่มได้อีก 1.55 แสนล้านบาท รวมเป็น 160,360 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอกับโครงการประกันรายได้ โดยเฉพาะโครงการที่รอการอนุมัติในส่วนที่ 2 ทั้งการประกันรายได้ข้าว และยางพารา เพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินจากโครงการประกันครบทั้งหมด  และเมื่อผ่านการเห็นชอบแล้ว คาดว่า ในเดือนธ.ค.นี้ ธ.ก.ส.จะเร่งจ่ายเงินได้แล้วเสร็จสิ้นภายในฤดูเก็บเกี่ยวนี้”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top