Wednesday, 21 May 2025
NEWS

เชิญชม คอนเสิร์ตลูกทุ่งการกุศล 'ยุพราชมหาชน ยกก๊วน ม่วนสงกรานต์'

โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เชียงใหม่ จัดคอนเสิร์ตลูกทุ่งการกุศล 'ยุพราชมหาชน ยกก๊วนม่วนสงกรานต์' โดย YRC band & YRC combo อำนวยการสร้าง นายพูลศักดิ์ จิตสว่าง ผู้อำนวยการโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย  ผู้สนับสนุน สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย  มูลนิธิพระราชชายาเจ้าดารารัศมี รายได้สนับสนุนเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เป็นนักแสดง และพัฒนาวงดนตรีลูกทุ่ง และวงโยธวาทิตด้วย วันที่ 12 เมษายน 2566 เวลา 19:30 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

นายพูลศักดิ์ จิตสว่าง ผู้อำนวยการโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กล่าวว่า  โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยได้ส่งเสริมความสามารถพิเศษเด็กนักเรียนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นวิชาการ ศิลปะ ดนตรี กีฬา ประกอบกับปีนี้โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ได้ส่งการแข่งขันชิงช้าสวรรค์ ซึ่งเป็นที่มาของวง YRC. COMBO ของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ไปได้รับรางวัลรองชนะเลิศและเป็นขวัญใจมหาชนทั่วประเทศ ทำให้เป็นแรงบันดาลใจว่า อยากจะให้ลูกๆหลังจากที่ผ่านการแสดงเวทีชิงช้าสวรรค์ ได้มีโอกาสได้แสดงออก จากการที่ได้ไปแสดงให้ชุมชนต่างๆก็อยากจะจัดเพื่อให้กลุ่มที่เป็น FC และนักเรียนได้ร่วมกันในการที่จะจัดคอนเสิร์ต สำหรับให้นักเรียนได้แสดงออกได้อย่างเต็มที่ซึ่งในการจัดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้เราถือว่าเป็นการจัดให้ FC โดยตรง 

จะมีกลุ่มที่เป็นศิลปินที่เป็นศิษย์เก่า เท่ อุเทน พรหมมินทร์ เป็นผู้ที่จะเล่นคอนเสิร์ตตรงนี้ด้วย และมีศิลปินที่เป็นเจ้าของเพลงที่เราจะใช้เล่นในครั้งนี้ประมาณ 30 กว่าเพลง FC และพี่น้องประชาชนคงพึงพอใจ เนื่องจากว่าเราซ้อมกันมาเป็นเดือนๆ ช่วงนี้เด็กนักเรียนปิดภาคเรียนด้วย และยังมีโรงเรียนอื่นๆมาร่วมกับเราด้วย เช่น รร.โยธินบูรณะ กรุงเทพฯ รร.ผดุงปัญญา จังหวัดตาก ก็มาร่วมซ้อมกับพวกเรา และยังมีดนตรีของโรงเรียนสันกำแพง และมีนักร้องจาก รร.เชียงกลมวิทยา ที่เคยไปแข่งชิงช้าสวรรค์ มาเล่นด้วยกัน ซึ่งวันนั้นก็คิดว่าเป็นวันหนึ่งที่จะสร้างความสำเร็จให้โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยอีกครั้งหนึ่ง 

สำหรับรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตการกุศลครั้งนี้ ส่วนแรกสนับสนุนเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เป็นนักแสดง ซึ่งมีประมาณเกือบ 60 ชีวิต ซึ่งตรงนี้ จะเป็นต้นทุนการศึกษา โดยเฉพาะนักเรียนที่จะจบ ชั้น ม.6 นักเรียนบางคนมีฐานะยากจน เพราะฉะนั้นจะเป็นทุนการศึกษาให้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะใช้ในการพัฒนาวงดนตรีลูกทุ่ง และวงโยธวาทิตด้วย ซึ่งในอนาคตคงมีการส่งเสริมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้รุ่นน้องๆสานต่อจากรุ่นพี่ ได้แสดงออกได้มากขึ้นต่อไปในอนาคต

ผู้อำนวยการโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน พี่น้องประชาชน รวมทั้งกลุ่ม FC ทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงและทั่วประเทศได้ช่วยกันและเชิญชวนให้ทุกท่านได้ร่วมชมคอนเสิร์ต สามารถชมได้ทั้งในหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีจำนวนจำกัด และผ่านระบบ Live Streaming สามารถนั่งดูที่บ้านได้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับลูกหลานของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยในการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้

คุณครูรมย์ลักษณ์ เนียมเครือ หรือ “ครูโบว์” ครูพิเศษเฉพาะทางโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย/ผู้กำกับการแสดง กล่าวว่า ได้รับบทมาเป็นผู้สอนผู้ควบคุมการแสดงและกำกับการแสดงในคอนเสิร์ตยุพราชมหาชน ยกก๊วน ม่วนสงกรานต์ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 เมษายนนี้ ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รูปแบบในคอนเสิร์ตในครั้งนี้ มีครบรสอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นทั้งความสุข ความเศร้า ความตื่นเต้น ความสนุก ทุกอย่างจะมารวมในคอนเสิร์ตนี้ 

โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยมีวงดนตรีลูกทุ่ง อย่างที่ทุกคนได้รู้กัน เมื่อแข่งในรายการชิงช้าสวรรค์ 2022 จบลง สิ่งที่จะบอกคือโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยได้รับรางวัลเป็น ”ขวัญใจมหาชน” คือเป็นการตอบรับไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้อง ดนตรี และเรื่องโชว์ เป็นที่ประทับใจของคนรุ่นใหม่ในยุค 2022  แต่วันนี้คาบเกี่ยวมาสู่ 2023 ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย นำโดย นายพูลศักดิ์ จิตสว่าง มีแนวคิดและจุดประกายที่จะจัดคอนเสิร์ตให้กับเด็กๆรุ่นนี้ เพื่อประกาศความสามารถต่างๆ ความยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นไม่ได้ 

นิพนธ์ ยัน คุณสมบัติครบถ้วน พร้อมแจง กกต.เรียบร้อย เตือน เรืองไกร เป็นผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ ส่อเจตนาใส่ร้ายป้ายสี ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

 วันที่ 7 เมษายน 2566 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการร้องให้กกต.ตรวจสอบเรื่องการขาดคุณสมบัติของตนว่า เรื่องดังกล่าวนั้น ตนได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคุณสมบัติไปยังประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งและกรรมการอีก 5 ท่านแล้วเมื่อที่ 4 เม.ย.66 ที่ผ่านมา โดยได้ชี้แจงกกต.


  1. กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งที่ 1524/ 2564 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 
นายนิพนธ์ บุญญามณี พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ในวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ ๔ สิงหาคม 2556 ถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2562 


 2. เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ข้าพเจ้าได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ) ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1314/2565 โดยมีคำร้องขอทุเลาการบังคับคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งข้าพเจ้าได้ระบุในคำขอทุเลาไว้อย่างชัดเจนว่า ถ้าให้คำสั่งของกระทรวงมหาดไทยในข้อ 1 มีผลบังคับใช้ต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้ฟ้องคดี เนื่องจากแม้ปัจจุบันผู้ฟ้องคดีได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว 


  3.เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 1528/2564 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 เรื่อง ให้นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พ้นจากตำแหน่งในวาระการดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2556 ถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น อันมีผลเป็นการชะลอหรือระงับการบังคับตามผลของคำสั่งทางปกครองไว้เป็นการชั่วคราวตามข้อ 72 วรรคสาม และข้อ 69 วรรคสอง ระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 ทั้งนี้ ศาลได้วินิจฉัยถึงเงื่อนไขในการที่ศาลปกครองจะมีอำนาจออกคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ตามคำขอของข้าพเจ้า (ผู้ฟ้องคดี)สรุปความได้ว่า เงื่อนไขประการที่หนึ่ง คำสั่งกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และในเงื่อนไขประการที่สองว่า คำสั่งกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว มีผลกระทบต่อคุณสมบัติของผู้ฟ้องคดีในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การที่ผู้ฟ้องคดีขาดคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น เป็นกรณีที่จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้ฟ้องคดีจนยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังได้ ดังนั้น การให้คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 1528/2564ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ที่สั่งให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลามีผลใช้บังคับต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้ฟ้องคดีจนยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง


   4.การที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 1528/2564 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ทำให้คำสั่งกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวสิ้นผลลงโดยเหตุอื่น ตามมาตรา 42 วรรคสอง พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 และมีผลทำให้ข้าพเจ้ามิใช่บุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อีกต่อไป


  5.เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 กระทรวงมหาดไทย(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้ทำคำชี้แจงกรณีที่ข้าพเจ้าได้ยื่นคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง (ครั้งที่ สาม ต่อศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ 1314/2564 รายละเอียดสรุปความได้ว่าการออกคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 1528/2564 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ที่ให้นายนิพนธ์ บุญญามณี พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาฯ น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายตามแนวคำวินิจฉัยคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 581/2565 จึงยอมรับและไม่คัดค้านคำขอทุเลาตามคำสั่งทางปกครองของข้าพเจ้า

‘ดีอีเอส’ ชี้!! กรณี 9near โทษแรงส่อคุกได้ถึง 100 ปี แนะ!! ปชช.ต่อจากนี้ เลี่ยงตั้งรหัสด้วย ‘เลขบัตรฯ-วันเกิด’

จากกรณีที่แฮกเกอร์ 9near อ้างว่ามีข้อมูลคนไทยจำนวนกว่า 55 ล้านคน นั้น ในวันนี้ (7 เม.ย.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวว่า... 

“เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระบุตัวและชื่อของแฮกเกอร์ได้แล้ว อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม สำหรับสาเหตุการรั่วของข้อมูลอยู่ระหว่างการหาข้อเท็จจริง”

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีกฎหมาย PDPA ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีคนร้ายขโมยข้อมูลและนำข้อมูลไปใช้อย่างผิดกฎหมายจะมีโทษ ขณะเดียวกันผู้ที่นำข้อมูลจากคนร้ายนำไปเผยแพร่หรือใช้ต่อจะมีโทษด้วย ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลตนเองกับผู้ที่ไม่รู้จัก

ขณะเดียวกันก็ควรระวังการตั้ง Username และ Password ซึ่งไม่ควรใช้เลขที่บัตรประชาชนและวันเดือนปีเกิดหรือเบอร์โทรศัพท์ และขอย้ำเตือนว่าเรามีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและลงโทษแฮกเกอร์หลายฉบับ ผู้กระทำความผิดก็จะมีโทษหนัก

รัฐมนตรี ดีอีเอส กล่าว “กระทรวงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล และให้ทำการตรวจสอบและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบฐานข้อมูล ปิดช่องโหว่ต่างๆ เพื่อดูแลข้อมูลประชาชนให้ได้มาตรฐานสูงสุด”

ด้านพลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวว่า “สำหรับผู้กระทำความผิดกรณีนี้ เป็นทหาร ยศจ่าสิบโท ทั้งนี้ จากข้อมูลชี้ว่าแฮกเกอร์คนนี้เป็นคนมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์”

‘ธิอาโก เทเซียรา’ โร่ฟ้องสื่อบราซิล ปมโปรโมท 'กุนขแมร์' หลังโดน ‘WMO’ ถอดตำแหน่งแชม์มวยไทยโลก

ธิอาโก เทเซียรา! ร้องสื่อบราซิลช่วย หลังโดนปลด แชมป์โลก มวยไทย

ธิอาโก เทเซียรา นักมวยชาวบราซิล ตัวแทนมวย 'กุนขแมร์' ถูกองค์กรมวยไทยโลก WMO (World Muaythai organization) ถอดจากตำแหน่งแชมป์โลกอย่างเป็นทางการ และถูกแบนจากกิจกรรมของ WMO ในอนาคตทั้งหมด โดยให้เหตุผล พฤติกรรมทำให้กีฬามวยไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่มีน้ำใจนักกีฬา เจตนาทำให้กีฬาประจำชาติไทยเสื่อมเสีย ยุยงให้เกิดความเกลียดชัง

ล่าสุด ธิอาโก เทเซียรา ได้โพสต์ไอจี ระบุว่า “หากใครสามารถติดต่อกับสถานีโทรทัศน์ใด ๆ ในบราซิลและช่วยให้ผมพูดเรื่องนี้ ผมถูกทำให้เสียชื่อเสียงและถูกโจมตี ผมไม่ต้องการอะไรตอบแทน ทุกคนเห็นและรู้ว่าใครคือแชมป์ตัวจริง ผมอยากให้คนบราซิลต้องรับรู้เรื่องนี้”

‘รพ.เมดพาร์ค’ แจง กรณีงานมอบรางวัล The People Awards 2023 เผย ทาง รพ.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังพบโลโก้ของ รพ.ปรากฎในงาน

(7 เม.ย. 66)  จากกรณีการมอบรางวัล The People Awards 2023 เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีชื่อ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ‘ตะวัน’ และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ ‘แบม’ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 รวมอยู่ด้วย และภายในงานได้มีภาพโลโก้ของโรงพยาบาลเมดพาร์ดปรากฎอยู่นั่น ล่าสุดทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของโรงพยาบาลเมดพาร์ค ได้ออกหนังสือชี้แจง โดยมีเนื้อหาระบุว่า…

“MedPark ชี้แจงเกี่ยวกับงานมอบรางวัล The People Awards 2023

ตามที่ปรากฎโลโก้ของโรงพยาบาลเมดพาร์ดในงานมอบรางวัล The People Awards 2023 ซึ่งจัดโดย The People สื่อออนไลน์ในเครือของเนชั่น นั้น รพ.เมดพาร์ค ขอชี้แจงว่าที่ผ่านมา โรงพยาบาลฯ ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ที่แจ้งถึงวัตถุประสงค์ที่ดี โดยมีเจตนารมณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

ทั้งนี้ รพ.เมดพาร์ค ขอชี้แจงว่า โรงพยาบาลฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการการตัดสินรางวัล The People Awards 2023 หรือบุคคลผู้ที่ได้รับรางวัลแต่อย่างใดรวมทั้งไม่ได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ได้รับรางวัลมาก่อน

โรงพยาบาลเมดพาร์ค เป็นองค์กรที่ประกอบกิจการ ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยและป้องกันโรค ตามมาตรฐานสากล ภายใต้หลักธรรมาภิบาลในกรอบของกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เรายึดมั่นในชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ฝักใฝ่หรือเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น”

ในขณะเดียวกัน ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘Seiko Club by Seiko Thailand’ ก็ได้มีการออกมาโพสต์หนังสือชี้แจง ถึงกรณีงานมอบรางวัล The People Awards 2023 ว่า ทางบริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินผู้ได้รับรางวัลทั้ง 10 ท่าน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับความขัดแย้งทางการเมือง และไม่ทราบรายละเอียดของผู้ที่จะเข้ารับรางวัลจากการตัดสินของคณะกรรมการล่วงหน้า

ทางบริษัทฯ จึงขอแจงรายละเอียดเพื่อป้องกันความเข้าใจอันคลาดเคลื่อน และเน้นย้ำ ถึงการเล็งเห็นความสำคัญของสังคม เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม โดยทางบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่ ดำเนินงานอันเป็นประโยชน์แก่สังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป

ทว่าในเวลาต่อมา ทาง 'Seiko Club by Seiko Thailand’ ก็ได้ลบแถลงการณ์ดังกล่าวไปจากหน้าเพจ


ที่มา: https://www.facebook.com/medpark.thailand/posts/pfbid02HtrS4gX2a5wRSzpRX4pc92BmhLXGzd692B7rpuHzkmaHxitZptY7zDjD6QUUXeSBl

‘อาจารย์มศว.’ ผุดไอเดีย ช่วยนักศึกษาได้รู้จักตัวเอง สั่งงานหัวข้อออกไปใช้ชีวิต-ไปเที่ยว เพื่อสร้างแรงบัลดาลใจ

ออกไปใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ! โซเชียลฯ แชร์ อาจารย์สั่งงานนิสิต ด้วยหัวข้อสุดฉีกให้นิสิตออกไปใช้ชีวิต-ออกไปเที่ยว สร้างแรงบันดาลใจ

เมื่อไม่นานนี้ กลายเป็นที่ให้ความสนใจ หลังผู้ใช้ทวิตเตอร์ ‘@marchyblue’ โพสต์ใบสั่งงานจากอาจารย์ ของคณะมนุษยศาสตร์ เอกจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) จนกลายเป็นไวรัลในหัวข้อ “ให้นิสิตออกไปใช้ชีวิต” และกลับมาเขียนแรงบันดาลใจการออกไปใช้ชีวิตมาส่ง

โดยในโพสต์อาจารย์ให้ความคิดอิสระเสรีกับนิสิต เพื่อให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นอีกด้วย งานนี้เรียกได้ว่าตอบโจทย์มีผู้สนใจเพียบ

“ประกาศๆ พรุ่งนี้ เป็นการให้นิสิตออกไปใช้ชีวิตนะครับ โดยโจทย์ คือ การให้นิสิตได้ออกไปเที่ยว เน้นย้ำว่าออกไปเที่ยว ไม่ใช่แค่อ่าาห์ ฉันขี้เกียจ ฉันนอนไปค่อนวัน ฉันเดินไปหน้าปากซอยซื้อข้าวกลับมากิน…เย้

‘บิ๊กป้อม’ กร้าว!! 3 ปี ดันเน็ตชุมชน 24,654 แห่ง มุ่งเป้าครอบคลุม ‘หมู่บ้าน-โรงเรียน-โรงพยาบาล’

(7 เม.ย.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผ่านระบบ VTC ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ 

ที่ประชุมรับทราบ เรื่องสำคัญประกอบด้วย ผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการและคณะทำงานภายใต้คำสั่งแต่งตั้งของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ระบบบริหารความเสี่ยง ระบบบริหารจัดการสารสนเทศ และระบบบริหารทรัพยากรบุคคล 

ต่อจากนั้น ได้ร่วมพิจารณาและเห็นชอบหลักการ การใช้จ่ายเงินตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ.2560 และพิจารณาอนุมัติโครงการ ตามมาตรา 26 (3) ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยอนุมัติ โครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะและบำรุงรักษา โครงข่ายเน็ตชุมชนและส่วนต่อขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ (WI-FI) ประจำหมู่บ้านในพื้นที่ที่มีการใช้งานจริง จำนวน 24,654 แห่ง และขยายโครงข่ายต่อไปยังโรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและสุขศาลาพระราชทาน จำนวน 1,671 แห่ง มุ่งสนับสนุนชุมชนผู้มีรายได้น้อยและแออัดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และโครงการสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับนักเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาและอาชีวะ ภายใน ปี 69 

ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’ เปิดประตูสู่ภาคตะวันออก เยือนพัทยาสร้างความมั่นใจ จัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย

‘ทีเส็บ’ เปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” ให้งบสนับสนุนองค์กร จัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศจำนวน 1,000 กลุ่ม หวังสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท จัดโรดโชว์ปลายทางเมืองไมซ์ซิตี้ทั่วประเทศ กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย ณ โรงแรมอมารี พัทยา จังหวัดชลบุรี


ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนหน่วยงาน หรือองค์กรที่ดำเนินการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 โดยในปี 2566 นี้ ทีเส็บได้เดินหน้าให้การสนับสนุนต่อภายใต้ชื่อโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เพื่อเร่งกระตุ้นนักเดินทางไมซ์และสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยใช้กลไกการสนับสนุนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไมซ์ ชุมชน รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ได้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ก่อเกิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ


สำหรับงานโรดโชว์ในครั้งนี้ที่พัทยา เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็น 1 ใน 10 “เมืองแห่งไมซ์” ด้วยความพร้อมของสถานที่จัดประชุมสัมมนา เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมไมซ์ และการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลให้กับพนักงาน รวมถึงการจัดงานไมซ์ในสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ เช่น ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ศูนย์ประชุมนานาชาติพีช พัทยา (PEACH) ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา (NICE) ที่ได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย TMVS (Thailand MICE Venue Standard) สามารถรองรับผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานได้อย่างครบครัน พัทยาจึงมีศักยภาพและความพร้อมในทุกด้านที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานไมซ์ได้อย่างยอดเยี่ยม


ภายในงานโรดโชว์ได้รับเกียรติจาก คุณนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดงาน และคุณทิฐิพันธ์ เพ็ชรตระกูล รองนายกเมืองพัทยา ร่วมเปิดงาน โดยมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเสวนาในหัวข้อ “กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ด้วยกิจกรรมประชุมไมซ์ในประเทศ” โดย คุณสุวิมล ตวงวุฒิกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดชลบุรี  คุณสรรเพ็ชร ศุภบวรเสถียร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก และ คุณบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา โดยมี คุณรัตนชัย สุทธิเดชานัย ผู้แทนการตลาดด้านอุตสาหกรรมไมซ์ ภาคตะวันออก มาให้ข้อมูลโครงการประชุมเมืองไทยฯ และ คุณนราศักดิ์ ม่วงแก้ว ผู้จัดการส่วนงาน MICE Innovation ร่วมให้ข้อมูลเรื่องแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect

 
นอกจากนี้ยังมีการบรรยายในหัวข้อ “จับตาชีพจรไมซ์ปี 2566” โดย คุณภูมินทร์ มีถาวรกุล ผู้ปฏิบัติการอาวุโส ฝ่าย MICE Intelligence และ นวัตกรรม และยังมี Thai MICE Connect: Exclusive Clinic คลินิกให้คำปรึกษาการใช้งาน Thai MICE Connect แบบตัวต่อตัวอีกด้วย


สำหรับโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เป็นโครงการสนับสนุนด้านงบประมาณการจัดงานไมซ์ให้แก่ผู้ประกอบการและนิติบุคคลตามกฎหมายที่มีแผนการจัดการประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศ โดยต้องมีการจัดกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 ประเภท ได้แก่ กิจกรรมการประชุม (Meetings) กิจกรรมการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) กิจกรรมสัมมนา (Seminars) กิจกรรมการอบรม (Training) กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Outing) และกิจกรรมศึกษาดูงาน (Field trip)

ตำรวจไซเบอร์ ห่วงใยเยาวชนไทยห้วงสงกรานต์ จับฉีดวัคซีนป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หวั่นตกเป็นเหยื่อ พร้อมให้ความรู้ขับขี่ปลอดภัย ปิดเทอม ไม่แว้น ไม่ซิ่ง ไม่แข่ง มอบหมวกกันน็อก แทนความห่วงใย

วันที่ 7 เมษายน 2566 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมโรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคาร ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 และ ทีมวิทยากรวัคซีนไซเบอร์ ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา มูลนิธิเมาไม่ขับจังหวัดนครราชสีมา ชมรมฮักเขาใหญ่ และคณะครูนักเรียน โรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคาร 

ร่วมเปิดกิจกรรม 'เตือนภัยไซเบอร์ ห่วงใยเด็กไทย ปลอดภัยสงกรานต์ ๒๕๖๖' รวมรณรงค์ สวมใส่หมวกกันน็อก โดยมี เด็กนักเรียน โรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคาร จำนวน 150 คน และภาคประชาชน เครือข่ายความปลอดภัยบนท้องถนน เมาไม่ขับ โดยมีการอบรมให้ความรู้เรื่องพิษภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะหวันเกรงเด็กเยาวชนตกเป็นเหยื่อ จากทีมงานตำรวจไซเบอร์

ร้านซีฟู้ดเจ้าดัง ตามหาลูกค้าโอนเงินผิด ระบุ กินแค่หลักพัน แต่โอนเป็นหมื่น

(7 เม.ย. 66) เพจเฟซบุ๊ก แห้วซีฟู๊ด ปูดอง หัวปลาหม้อไฟ - บนถนนพุทธมณฑลสาย2 ประกาศตามหาลูกค้าที่โอนเงินค่าอาหารเกิน โดยระบุข้อความว่า "ตามหาลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารที่ร้านแห้วซีฟู๊ด พุทธมณฑลสาย 2 เนื่องจากลูกค้าทำการโอนเงินเกินยอดบิล ทานอาหาร 2,018 บาท ลูกค้าโอนมา 20,183 บาท วันที่ 4/4/66 เวลา 19.57 น. ตำแหน่งโต๊ะในรูป

หากลูกค้าเห็นโพสต์นี้ สามารถติดต่อเพื่อ ขอรับเงินคืนได้ที่ เบอร์ 089-4974595, 062-8764595 เพจ แห้วซีฟู๊ด ปูดอง หัวปลาหม้อไฟ ได้เลยค่ะ รบกวนเพื่อนๆ ช่วยแชร์ให้ด้วย"

ผบ.ตร. ชื่นชม ผกก.สภ.เมืองนครปฐมเข้าชาร์จช่วยเหลือชีวิตชายคิดสั้นอุ้มลูกพยายามกระโดดสะพาน

วันนี้ (7 เม.ย.66) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ ผกก.สภ.เมืองนครปฐมเข้าชาร์จช่วยเหลือชีวิตชายอุ้มลูกพยายามกระโดดสะพาน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ พบชายอุ้มลูกมีท่าทีจะกระโดดสะพานลอย ย่านถนนเพชรเกษม จึงได้ประสาน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยควบคุมสถานการณ์เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบชายวัยกลางคนยืนกอดรัดเด็กชายบนสะพานลอยฝั่งมุ่งหน้าเข้าจังหวัดราชบุรี มีความสูงจากพื้นถนนประมาณ 20 เมตร ซึ่งมีรถสัญจรผ่านไปมาบนถนน สร้างความหวาดเสียวให้กับประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการปิดกั้นการจราจรเพื่อป้องกันอันตราย และประสานทางเทศบาลนครปฐมกางเบาะลมเพื่อรองรับเหตุที่คาดไม่ถึง ซึ่งชายคนดังกล่าวแจ้งว่า ต้องการพบหน้าอดีตภรรยาและสามีใหม่ของเธอ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเจรจาเกลี่ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมงแต่ไม่เป็นผล

ต่อมา พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม จึงได้ตัดสินใจเดินขึ้นสะพานเพียงคนเดียวเพื่อให้ชายคนดังกล่าวเชื่อใจ ในขณะที่ชายคนดังกล่าวและลูกชายเริ่มมีสภาพอิดโรยเพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัด และช่วงจังหวะที่ชายคนดังกล่าวเผลอ พ.ต.อ.ภูภณฯ จึงฉวยโอกาสจู่โจมชาร์จตัวไว้ได้สำเร็จ ตามหลักยุทธวิธีตำรวจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่รอจังหวะอยู่ห่างๆ จะกรูเข้าไปช่วยกันจับแยกลูกชายออกมาได้ แล้วนำชายคนดังกล่าวนำตัวไปสงบสติอารมณ์ ที่ สภ.เมืองนครปฐม และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป 

ผบ.ตร. และภาคีเครือข่าย มอบรางวัลคลิปกล้องหน้ารถ “โครงการอาสาตาจราจร” พร้อมเตรียมเปิดรับคลิปอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ มอบรางวัลวันละ 1 คลิป เงินรางวัลร่วม 200,000 บาท

วันนี้ (7 เม.ย.66) เวลา 10.00 น.ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์        กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พร้อมด้วย  นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณ พิศเพลิน วิริยะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณนิตยา ลีธีระกุล รองผู้จัดการฝ่ายรายการ สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ คุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือน ม.ค. และ ก.พ. 2566 จำนวน 20 รางวัล เงินรางวัลคลิปสูงสุดคลิปละ 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่มอบทั้งสิ้น จำนวน 100,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล

ผบ.ตร.กล่าวว่า ความร่วมมือจากภาคประชาชนเป็นพลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาสังคมหลายเรื่อง รวมทั้งปัญหาการจราจร ประชาชนสามารถช่วยกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน โดยร่วมกันเป็นตาจราจร สอดส่องพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ฝ่าฝืนกฎจราจร ที่เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ เมื่อสังคมเกิดการรับรู้ว่า การขับขี่บนถนนมีกล้องหน้ารถ หรือมีผู้ร่วมทางอาจใช้กล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎจราจร และจะเป็นพยานหลักฐานจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาดำเนินคดีในภายหลังได้ ก็จะช่วยยับยั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่ผิดกฎหมายบนท้องถนน สำหรับคลิปที่ส่งมาร่วมโครงการทุกคลิป จะเป็นพยานหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี หรือใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษผู้ทำผิด  คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากประชาชนจะได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ด้วย 

** นอกจากนั้น ผบ.ตร.กล่าวเน้นย้ำ 3 ประเด็น เพิ่มเติมว่า

1) การส่งคลิปมาร่วมโครงการ ประชาชนสามรถใช้โทรศัพท์มือถือในการบันทึกอุบัติเหตุ หรือการกทำผิดกฎจราจรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้องหน้ารถเท่านั้น  
2) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จะมีแคมเปญพิเศษเพิ่มเติม ในชื่อว่า “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” สำหรับให้ประชาชน  ส่งคลิปอุบัติเหตุช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นของเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 2566 มาร่วมในโครงการ และจะทำการคัดเลือกคลิปสำคัญที่เป็นพยานหลักฐานทางคดี จำนวน 7 คลิป รางวัลคลิปละ 10,000 บาท รวม 70,000 บาท 
3) เน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.66 เป็นต้น มา ตร.           และกรมการขนส่งทางบก ได้เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกัน เพื่อบังคับใช้มาตรการชะลอการ ออกป้ายภาษี ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งจะเป็นมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพของกฎหมายจราจร ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

ทั้ง 3 ประเด็นนี้ อันจะเป็นมาตรการส่งเสริมการรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุ  เพื่อให้ลดสถิติได้ตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 แลภาพรวมตลอดทั้งปีต่อไป  ** 

ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้ และทางมูลนิธิได้หาทุนสนับสนุนเงินรางวัลเพิ่มเติม ตั้งแต่เดือน มี.ค. 66 เป็นต้นไปจะมีการมอบรางวัลเพิ่มจากเดือนละ 10 คลิป เป็นเดือนละ 20 คลิป เนื่องจากขณะนี้มีประชาชนส่งคลิปมาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยนอกจากคลิปกล้องหน้ารถแล้ว ก็ยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกการกระทำผิดกฎจราจรส่งมาร่วมโครงการได้เช่นกัน ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นอาสาตาจราจร พบเห็นการทำผิดกฎจราจร ให้รีบบันทึกภาพและส่งคลิปมาร่วมโครงการ

ชาวบ้านสุโขทัย ขุดบ่อบาดาลเจอน้ำคล้ายโซดา ลุ้นเป็น ‘น้ำแร่’ คุณภาพเทียบระดับโลก

(7 เม.ย. 66) ที่สวนหลังบ้านเลขที่ 146 หมู่ 7 ต.นาเชิงคีรี อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย มีการขุดเจาะบ่อบาดาลแล้วปรากฏว่าเจอน้ำมีรสชาติคล้ายโซดา ซ่าติดลิ้น ไร้กลิ่น สามารถดื่มกินได้ ชาวบ้านสงสัยว่าอาจจะเป็นน้ำแร่คุณภาพเทียบระดับโลก เหมือนกับที่พบในพื้นที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2564 จึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปพิสูจน์ตรวจสอบ

พ.ท.คะเนตร  รักวุ่น อายุ 62 ปี ข้าราชการบำนาญ (สังกัด กอ.รมน.จว.สุโขทัย) เจ้าของบ้าน บอกว่า เมื่อ 2 เดือนก่อนได้ว่าจ้างช่างให้มาขุดเจาะบ่อบาดาล ตรงทุ่งนาติดกับสวนผลไม้หลังบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากประปาหมู่บ้านแค่ 200 เมตร โดยขุดเจาะลึกลงไป 70 เมตรก็เจอน้ำพุ่งขึ้นมา แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าน้ำมีรสซ่าคล้ายโซดา กระทั่งได้จ้างช่างมาติดตั้งปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ แล้วพวกช่างได้ลองดื่มน้ำจากบ่อที่เพิ่งขุดเจาะ จึงรู้ว่ามีรสชาติแปลกคล้ายโซดา และซ่าติดลิ้น ไร้กลิ่นใดๆ พอลองเอาไปรดต้นไม้ ก็สังเกตพบว่าต้นไม้ใบหญ้าจะมีสีเขียวเข้มกว่าปกติ เหมือนกับว่าในน้ำมีแร่ธาตุบำรุง

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย SMS แอบอ้างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าดูแลปัญหาภัยแล้ง

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ส่งข้อความสั้น (SMS) พร้อมโทรศัพท์ไปยังประชาชนแจ้งว่าจะคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า แล้วหลอกลวงให้แอดไลน์ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือโอนเงินออกจากบัญชี ดังนี้

ได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ว่า พบผู้เสียหายหลายรายได้รับข้อความสั้น (SMS) จากมิจฉาชีพซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แจ้งว่า ผู้เสียหายมีสิทธิได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืน เพื่อช่วยเหลือประชาชนตามมาตรการเร่งด่วน เมื่อผู้เสียหายกดลิงก์ที่แนบมากับข้อความดังกล่าว จะเป็นการเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่มิจฉาชีพปลอมขึ้นมา จากนั้นมิจฉาชีพจะสอบถามรายละเอียดต่างๆ เริ่มจากสอบถามว่าได้รับการแจ้งเตือนมาจากช่องทางใด แจ้งผู้เสียหายว่าจะได้รับเงินประกันคืนในอัตราตั้งแต่ 2,000 - 6,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของมิเตอร์ที่ใช้ สอบถามว่าโทรศัพท์ที่ใช้งานใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ IOS พร้อมทั้งขอหมายเลขโทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับ เมื่อตอบคำถามเสร็จสิ้น จะมีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยโทรมายังผู้เสียหาย 

อ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แล้วทำการส่งลิงก์ทางไลน์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปลอม อ้างว่าเป็นแอปพลิเคชันเวอร์ชันใหม่ล่าสุด สามารถตรวจสอบปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ได้ในแต่ละวัน โดยมีการขอสิทธิ์ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก (ไฟล์อาจเป็นอันตราย หรือไฟล์นามสกุล .apk) มีการหลอกให้ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก จำนวนหลายๆ ครั้ง เพื่อหวังให้ผู้เสียหายกรอกรหัสชุดเดียวกับรหัสเข้าถึง หรือทำธุรกรรมการเงินของแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย รวมไปถึงขอสิทธิ์ในการควบคุมอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ เช่น ดูและควบคุมหน้าจอ ดูและดำเนินการ เป็นต้น โดยในขั้นตอนนี้มิจฉาชีพจะแสร้งหวังดีสอนผู้เสียหายว่าทำอย่างไร โดยการโทรศัพท์มาแจ้งวิธีการด้วยตนเอง กระทั่งเมื่อมิจฉาชีพได้สิทธิ์ควบคุมอุปกรณ์หรือโทรศัพท์มือถือแล้ว จะทำการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้เสมือนโทรศัพท์ค้าง ซึ่งมักจะแสดงข้อความว่า อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ห้ามใช้งานโทรศัพท์มือถือ ทำให้มิจฉาชีพสามารถนำรหัสที่ผู้เสียหายเคยกรอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแอบอ้างเป็นหน่วยงานต่างๆ หลอกลวงให้ประชาชนติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเอาทรัพย์สินของประชาชน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการป้องกันสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน

ที่ผ่านมา บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบมาโดยตลอด มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า การหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าวยังคงเป็นการหลอกลวงในรูปแบบเดิมๆ เพียงแต่มิจฉาชีพจะเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน และเปลี่ยนเนื้อหาไปตามวันเวลา และสถานการณ์ในช่วงนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งว่าได้รับสิทธิ หรือได้รับเงินคืน ให้อัปเดตข้อมูล โดยในขั้นตอนสุดท้ายจะหลอกลวงให้เหยื่อกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมของหน่วยงานที่แอบอ้าง ที่ผ่านมาก็ปรากฏในหลาย ๆ หน่วยงาน มิจฉาชีพจะอาศัยความไม่รู้ และความโลภ ของประชาชนเป็นเครื่องมือ ใช้ความสมัครใจของเหยื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม มีการใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงาน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันหลายหน่วยงานได้ประกาศยกเลิกการส่งข้อความสั้น (SMS) หรือส่งอีเมลไปยังประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันการเงิน หรือธนาคารต่างๆ ทั้งนี้ฝากย้ำเตือนไปยังประชาชน ไม่ว่ามิจฉาชีพจะมาในรูปแบบใดๆ ก็ตาม ให้ระมัดระวังและมีสติอยู่เสมอ โดยหากพบเห็นข้อความสั้น (SMS) หรือลิงก์ ในลักษณะดังกล่าวให้แจ้งเตือนไปยังบุคคลใกล้ชิด และหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานนั้น ๆ ให้ช่วยตรวจสอบทันที เพื่อลดการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

​ทั้งนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงแนวทางการป้องกัน ดังนี้
​1. ไม่กดลิงก์ที่เเนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือที่ส่งมาทางสื่อสังคมออนไลน์ ไม่กดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูล หรือการฝังมัลแวร์ของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาพร้อมกับข้อความในลักษณะการให้สิทธิพิเศษ ให้รางวัล หรือโปรโมชันต่างๆ
2. หากได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย และมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ให้ขอชื่อนามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับของเจ้าหน้าที่ โดยให้แจ้งว่าจะติดต่อกลับไปภายหลัง
3. ตรวจก่อนว่ามาจากหน่วยงานนั้น ๆ จริงหรือไม่ โดยการโทรศัพท์ไปสอบถามผ่านหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ หรือผ่านเว็บไซต์ทางการของหน่วยงานนั้น โดยตรง รวมถึงตรวจสอบว่ามีการประกาศแจ้งเตือนการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวหรือไม่

ประชาธิปัตย์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 78 'จุรินทร์' ชวนสนับสนุนสถาบันการเมืองให้เติบโตก้าวหน้ารับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป

เมื่อวานนี้ (6 เม.ย. 66) เวลา 08.00 น. ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์จัดพิธีทำบุญครบรอบ 77 ปี ของการก่อตั้งพรรคขึ้นที่สำนักงานใหญ่ งานดังกล่าวจัดขึ้นทุกปีโดยเริ่มจากช่วงเช้าจะมีการเริ่มพิธีทางศาสนาอิสลาม ต่อด้วยพิธีพราหมณ์เพื่อบวงสรวงพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของพรรค จากนั้นจะได้ประกอบพิธีทางศาสนาพุทธ 

สำหรับช่วงทำพิธีศาสนาอิสลามมีแกนนำพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายสุทัศน์ เงินหมื่น ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ไปจนถึงผู้สมัคร ส.ส. ทั้งจาก กทม. และต่างจังหวัดเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในพิธีของทุกศาสนา

หลังเสร็จพิธีทางศาสนาอิสลาม นายจุรินทร์ได้กล่าวกับพี่น้องมุสลิมที่ร่วมในพิธีว่า พี่น้องชาวประชาธิปัตย์ทุกท่าน วันนี้ถือว่าเป็นวันมงคลยิ่งอีกวันหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของพรรคซึ่งเวียนมาบรรจบครบ 77 ปีบริบูรณ์ในวันนี้ และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 78 ซึ่งทุกปี เราก็ทำพิธีศาสนาทั้ง 3 ศาสนา คือทั้งศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธ เป็นดังนี้นับเนื่องมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับทุกศาสนาเพราะว่าทุกศาสนาล้วนสอนคนให้เป็นคนดีและซื่อสัตย์สุจริต ดังเช่นที่ประชาธิปัตย์ก็ได้ยึดมั่นต่อเนื่องตลอดมา

อย่างไรก็ตาม ขออนุญาตเรียนกับพวกเราว่าก้าวที่เราเดินข้ามปีที่ 77 หลังจากนี้ไปสู่ปีที่ 78 นั้น เราไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ ผมยังมั่นใจว่าภายใต้อุดมการณ์ ภายใต้ผลงาน ภายใต้ความซื่อสัตย์ สุจริต ที่พวกเรายึดมั่นเสมอมาตลอดระยะเวลาตั้งแต่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งพรรค มาจนวันนี้และวันหน้า จะทำให้เราก้าวต่อไปไม่มีวันสิ้นสุดสำหรับความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ 

และสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ภายใต้ความเป็นเอกภาพ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพวกเรา ผมมั่นใจว่าเราสามารถที่จะจับมือกันขับเคลื่อนพรรคไปสู่ความสำเร็จในการเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศทั้งที่เคยเลือกเรา แล้วก็ไม่เคยเลือกเรา ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ผมต้องขอถือโอกาสนี้ขอบคุณด้วยความจริงใจจากพวกเราชาวประชาธิปัตย์ทุกคน และขอถือโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศได้โปรดช่วยกันสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศ พรรคการเมืองที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ความซื่อสัตย์ สุจริต การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวมและประเทศอันเป็นที่รักยิ่งของเรา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top