Monday, 19 May 2025
NEWS

ศลต.ตร.คุมเข้มรักษาความปลอดภัยรถขนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ส่งเก็บรักษาที่ไปรษณีย์ไทยเรียบร้อย เตรียมส่งต่อหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ

ศลต.ตร. สั่งการให้ตำรวจ ภ.1, ภ. 7 กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมอำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัยในการขนส่งบัตรเลือกตั้งจากโรงพิมพ์ไปยังศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง บจก.ไปรษณีย์ไทย ภารกิจเรียบร้อยเตรียมส่งต่อหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ 
 ศูนย์รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศลต.ตร. สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 1 , 7 , กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมอำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัยในการขนส่งบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ในการเลือกตั้งล่วงหน้า จากโรงพิมพ์ไปยังบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. เพื่อเตรียมนำส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตามที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ลงทะเบียนไว้ 

พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ โฆษก ศลต.ตร. เปิดเผยว่า ในวันนี้ (29 เมษายน 2566) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ล่วงหน้า จากโรงพิมพ์ 2 แห่ง ในเขตพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 1 และ ตำรวจภูธรภาค 7 ไปเก็บรักษายังศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. โดยตั้งแต่ช่วงเวลา 06.00 น. ของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 และ ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ร่วมในการรักษาความปลอดภัย ในขบวนรถขนส่งนำบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ออกจากโรงพิมพ์ ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่นำบัตรเลือกตั้งขึ้นรถ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งประจำรถขนบัตร มีตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจจราจร อำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยขนส่งบัตรเลือกตั้งถึงบริษัทไปรษณีย์ไทย ฯ ในเวลา 09.00 น. และ 10.30 น. ตามลำดับ เพื่อรอทำการส่งต่อบัตรเลือกตั้งทั้งหมดไปยังหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า ทั่วประเทศในวันที่ 1 - 4 พฤษภาคม 2566 นี้

ก.แรงงาน มอบประกาศนียบัตรเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รุ่นที่ 1 นำนโยบายสู่การปฏิบัติ มุ่งไทยสู่เทียร์ 1 

วันที่ 29 เมษายน 2566 นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีปิดและมอบใบประกาศนียบัตรโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับปี พ.ศ. 2565) รุ่นที่ 1 โดยมี นางสาวโสภณา บุญ-หลง ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการศูนย์บัญชาการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน กล่าวรายงานผลการฝึกอบรม และนายสมพจน์ กวางแก้ว รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ๊มครองแรงงานร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้ ณ โรงแรมพาลาซโซ่ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร 

นายนันทชัย กล่าวว่า ตามที่ได้รับทราบรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการศูนย์บัญชาการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานว่า โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับปี พ.ศ. 2565) รุ่นที่ 1 ในครั้งนี้นั้น ฝึกอบรมในระหว่างวันที่ 24 - 29 เมษายน 2566 กำหนด 6 วัน ซึ่งผู้ร่วมฝึกอบรมประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการจัดหางาน กรมการปกครอง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้ง 39 คน โดยมีเนื้อหาการฝึกอบรมฯ ได้แก่ ความรู้พื้นฐานทั่วไปเกี่ยวกับการค้ามนุษย์  กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ความรู้และทักษะในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้รับความรู้จากวิทยากรผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการป้องกันการค้ามนุษย์ทั้งภาครัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) และได้ผ่านเกณฑ์การทดสอบทั้งทฤษฎีและปฏิบัติทั้งหมด ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับปี พ.ศ. 2565) ต่อไป
  

การอพยพพี่น้องคนไทยจากซูดาน ยามศึกเรารบ...ยามสงบเราช่วยเหลือประชาชน ตอบคำถาม..ทหารมีไว้ทำไม!

เหตุการณ์ความไม่สงบในซูดาน จากปากของนักเรียนไทยซึ่งเพิ่งลงเครื่องบินลำเลียง C-130 ของกองทัพอากาศที่ปัตตานี ว่าสถานการณ์ที่ซูดาน เลวร้าย ชนิดที่โรงพยาบาลไม่พอรองรับผู้บาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิตตามท้องถนนให้เห็นโดยทั่วไป


สำหรับคนไทยในซูดานมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศไปรับจากที่พักขึ้นรถบัสเพื่อไปลงเรือเดินทางไปยังเมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย เพื่อขึ้นเครื่องบินที่รัฐบาลไทยส่งมารับรอบแรก 73 คน ต้องเดินทางและรอ 2 วัน จึงได้ขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศไทยกลับบ้าน


เรื่องที่เหนือความคาดหมายคือ บรรดาประเทศใหญ่ ๆ ที่มีสถานทูตตั้งอยู่ในซูดานในเบื้องต้นได้ทำการอพยพเฉพาะเจ้าหน้าที่สถานทูตและครอบครัวออกมาหมด ก่อนประกาศปิดสถานทูต แต่ยังไม่ได้อพยพพลเมืองของตัวเองออกมา เพียงแต่บอกว่า ให้ระวังตัว และอย่าออกมานอกบ้าน (สหรัฐฯเริ่มทำการอพยพพลเมืองที่อยู่ในซูดานเมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน) แต่ไทยซึ่งไม่มีสถานทูตตั้งอยู่ในซูดาน ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการอพยพคนไทยออกจากซูดาน ตอนนี้คนไทยอพยพออกจากกรุงคาร์ทูมซึ่งเป็นจุดที่มีการสู้รบรุนแรงที่สุดออกมาได้ คนไทยและนักศึกษาไทยทุกคนช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ พยายามหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อันนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภารกิจประสบผลสำเร็จ จึงต้องขอแสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและพี่น้องคนไทยเหล่านั้นด้วย


วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางมายังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เพื่อต้อนรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบในสาธารณรัฐซูดาน ที่เดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศ เป็นชุดแรก จำนวน 78 คน แบ่งออกเป็นผู้ชาย 38 คน และผู้หญิง 40 คน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ


เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง แล้ว คนไทยทั้ง 78 คน ได้รับบริการตรวจสุขภาพ โดยกรมควบคุมโรค และกรมสุขภาพจิต, การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจเอกสารการเดินทาง โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, การตรวจสอบสิทธิ์และให้คำแนะนำด้านต่าง ๆ โดยกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น

‘เสกสรร’ นักมวยไทยชื่อดัง โพสต์ขอบคุณ ‘พล.ต.อ.อัศวิน’ หลังเมตตาให้การสนับสนุน จนคว้าชัยในศึก ‘ONE ลุมพินี’

(29 เม.ย.66) นายวสันต์ อิสลาม หรือ ‘เสกสรร อ.ขวัญเมือง’ นักมวยไทยชื่อดังระดับแนวหน้า ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอบคุณ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่คอยให้การสนับสนุนตนมาตลอด หลังสามารถคว้าชัยในรายการ ONE Championship ศึก ‘กิ่งซางเล็ก’ งัดฟอร์มเด็ดพิชิต ‘ช่อฟ้า’ | ‘เสกสรร’ ประชัน ‘ฌอน แคลนซี’ นักมวยจากประเทศอิตาลี โดยระบุว่า…

เก็บชัยชนะอีกครั้ง🥇
ขอขอบคุณลูกพี่ ส.สมหมาย ที่สนับสนุนผม🙏🏻
ขอขอบคุณท่าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่สนับสนุนผม🙏🏻
ขอขอบคุณพี่ ชาตรี ศิษย์ยอดธง สำหรับเงินโบนัสที่มอบให้ผมเป็นครั้งที่ 3 🙏🏻
ผมขอขอบคุณรายการ ONE ลุมพินี ที่ทำให้ชีวิตและครอบครัวของผมดีขึ้นเป็นอย่างมากจริงๆ

ที่มา : https://www.facebook.com/wasan.islam/posts/pfbid0Yh9ZBFnoZrKMe9kADsSXMAm2ZYkSS8sELwaMmsiH5f6wjz4uWzCk8LAR6nmDt68bl

(สุรินทร์) กกล.สุรนารี จัดกิจกรรม เยาวชนชายแดนสัมพันธ์ ตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนาน ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา

วันที่ 28 เมษายน 2566 พันเอก ปิยวัฒน์ สุประการ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เป็นประธานเปิดจัดกิจกรรม เยาวชนชายแดนสัมพันธ์ ตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนาน ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ณ ห้องล้านช้าง อาคารฝึกประสบการณ์วิชาชีพล้านช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์  มี พันเอก จิตรกร จันทร์สว่าง รองเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 2  พันเอก จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ เสนาธิการกองกำลังสุรนารี   ผศ.ดร.ฉลอง สุขทอง อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์  

ผศ.ดร.สำเนาว์  เสาวกูล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์  คุณวลีรัตน์ วรรณฆษิตพงศ์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ ผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์  พันเอก พิทักชัย กิ่งเกษ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 1  พันเอก กฤติพงศ์ สมุทรสาคร รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3  พันโท ครุชน บุญเทศ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และ Manny chiuith รองนายอำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร ราชอาณาจักรกัมพูชา เข้ารวมกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งกองกำลังสุรนารี ได้จัดกิจกรรมเยาวชนชายแดนสัมพันธ์ ตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดนด้านไทย – กัมพูชา ในห้วงวันที่ 28 - 29 เมษายน 2566 จังหวัดสุรินทร์

โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนในพื้นที่ชายแดน ได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งศึกษาเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมให้เยาวชนในพื้นที่ชายแดนได้ใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียนอย่างสร้างสรรค์ และได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อวางรากฐานที่ดีในอนาคต ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ดำเนินการคัดเลือกเยาวชนตามคุณสมบัติ เข้าร่วมกิจกรรมฯ รวมทั้งสิ้น 40 คน  

ประกอบด้วย เยาวชนไทยและเยาวชนกัมพูชาในหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน ด้านไทย-กัมพูชา ทั้ง 5 พื้นที่ จำนวน 30 คน  และเยาวชนบุตรหลานกำลังพล ในพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 10 คน โดยมีกิจกรรม ที่สำคัญประกอบไปด้วย กิจกรรมสันทนาการกลุ่ม ทำความรู้จักกัน  การศึกษาดูงานโครงการทหารพันธุ์ดี  การแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ งานเลี้ยงสัมพันธ์  กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดสุรินทร์ ชมการแสดงช้าง ณ ศูนย์คชศึกษาจังหวัดสุรินทร์ กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และทัศนศึกษา ณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาสุรินทร์ ทั้งนี้ในการจัดกิจกรรม กองกำลังสุรนารี ได้รับความอนุเคราะห์ และความร่วมมือจากจังหวัดสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ หาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ และส่วนราชการ หน่วยทหาร ในพื้นที่ชายแดน เป็นอย่างดี
ปุรุศักดิ์  แสนกล้า  ข่าว/ภาพ

วิเคราะห์แก่นแห่งศาสนา ผ่านปมดรามา ‘เฌอเอม VS ณวัฒน์’ ‘รสนิยม’ หรือ ‘คุณค่าแห่งชีวิต’ อยู่ที่สิทธิอันชอบธรรมของแต่ละบุคคล

ควันหลงประเด็นดรามาที่เหล่าแฟนๆ นางงามและคนทั่วไปยังติดตามกันอยู่ห่างๆ กรณี ‘เฌอเอม’ มิสแกรนด์ลำพูน 2023 ปฏิเสธการดูดวงพร้อมขอวางไมค์ จนทำให้ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล บอสใหญ่ต้องร่ายยาวสั่งสอน ว่า “ศาสนาเป็นเพียงรสนิยม ไม่ใช่ชีวิต ไม่ใช่จิตใจ” พร้อมทั้งยังบอกว่าทางเวทีต้องการนางงามที่มีความพร้อมใช้งาน ไร้เงื่อนไข จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาจากบรรดาแฟนนางงาม

ล่าสุด ได้มีผู้ใช้ ติ๊กต๊อก ชื่อ ‘papernonsaint’ ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงดรามาดังกล่าว โดยเฉพาะในประเด็นคำพูดของนายณวัฒน์ ที่กล่าวว่า “ศาสนาเป็นเพียงรสนิยม” โดยผู้ใช้ติ๊กต๊อกรายนี้ได้มองว่า…

“ศาสนาเป็นเพียงรสนิยมใช่หรือไม่? อันนี้ก็แล้วแต่ปัจเจกเลยครับ ผมมองว่า หากคนคนหนึ่งเลือกที่จะให้ศาสนาเป็นเพียงรสนิยม มันก็อยู่ในสิทธิอันชอบธรรมของเขา แต่ถ้าหากว่าคุณศึกษาศาสนาของคุณอย่างลึกซึ้งจริงๆ ไม่ว่าจะศาสนาใดก็ตาม ผมยังไม่เจอศาสนาไหนที่เคลมว่าตัวเองเป็นแค่รสนิยมเลย เพราะฉะนั้น ผมก็ไม่อาจทราบได้เหมือนกันว่า หลักคิดของคุณณวัฒน์ ที่กล่าวว่า “ศาสนาเป็นเพียงรสนิยม” นี้ ไปเจอมาจากที่ไหน"

อีกคำพูดถึงหนึ่งของคุณณวัฒน์ ที่กล่าวว่า “ศาสนาไม่ใช่ชีวิต ไม่ใช่จิตใจ” ผู้ใช้ติ๊กต๊อกได้กล่าวด้วยว่า…

“ในแต่ละศาสนาแทบจะสอนในเรื่องนี้หมดเลย คือ พยายามที่จะชี้ในผู้คนเห็นถึงชีวิตและจิตใจ ผ่านคุณค่าทางศาสนานั้นๆ และสุดท้ายแล้ว คนที่ยึดมั่นในศานาใดก็ตาม ศาสนานั้นก็จะกลายเป็นชีวิตและจิตใจส่วนหนึ่งของเขาไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาสนาคริสต์ ซึ่งสำหรับศาสนาอื่นผมไม่ทราบ แต่ผมก็เชื่อว่าพุทธศาสนาก็เป็นชีวิตและจิตใจของพระพุทธเจ้าเช่นกันครับ”


ที่มา : https://vt.tiktok.com/ZS8Td5ptL/

“ส.สื่ออาชญากรรม”เชิดชูคนทำดี มอบรางวัล“ต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์-นักข่าว-คนดีศรีสังคม”ประจำปี 2566

วันที่ 29 เมษายน ที่ศูนย์ปฏิบัติการสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ นายสมชาย จรรยา อุปนายกฯ นายสุรชัย นิโคธานนท์ อุปนายกฯ นายธนากร ริตุ ประชาสัมพันธ์สมาคมฯ พร้อมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ แถลงข่าวการประชุมคัดเลือก และพิจารณามอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ “ต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” สาขาต่างๆ ให้กับข้าราชการตำรวจที่มีผลงานดีเด่น รวมทั้งมอบรางวัลให้กับ “นักข่าวภาคสนามดีเด่น” ผู้ประกาศข่าวดีเด่น และ“คนดีศรีสังคม” 

นายไพโรจน์ กล่าวว่า สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย จัดให้มีการมอบทุนการศึกษาแก่บุตร-ธิดาของผู้สื่อข่าวที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งเป็นทุนต่อเนื่องตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนจบปริญญาตรี เพื่อส่งเสริมการศึกษาและสร้างขวัญและกำลังใจให้กับสมาชิกสมาคมฯ 

นอกจากนี้คณะกรรมการบริหารสมาคมฯยังพิจารณามอบรางวัลเชิดชูเกียรติ ต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้กับข้าราชการตำรวจ รางวัลนักข่าวภาคสนามดีเด่น รางวัลผู้ประกาศข่าวดีเด่น และรางวัลคนดีศรีสังคม มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละท่าน และเชิดชูเกียรติให้กับบุคคลที่ทำคุณงามความดีเพื่อสังคม

โดยมีรางวัลมีดังนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.รางวัลเชิดชูเกียรติต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ “สาขาบริหารพัฒนาองค์กรดีเด่น” ตลอดระยะเวลาที่ “บิ๊กเด่น” สวมบทผู้นำองค์กรได้เจอมรสุมเรื่อยมา และบ่อยครั้งที่เกิดเรื่องอื้อฉาวในแวดวงสีกากี แต่ด้วยความเป็นผู้นำที่กล้าตัดสินใจ ได้นำพาองค์กรตำรวจฝ่าฟันอุปสรรคกอบกู้ภาพลักษณ์และความศรัทธาขององค์กรตำรวจ และยังเน้นย้ำในเรื่องการให้ความสำคัญกับการพัฒนาองศ์กร การปราบปรามอาชญากรรม และการฝึกอบรมบุคลากรบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนด้วยดีตลอดมา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. “สาขาสืบสวนยอดเยี่ยม” เป็นนายตำรวจที่มีประชาชนจำนวนมากติดตามการทำงานด้วยภาพลักษณ์ที่เด็ดขาด ฟันไม่เลี้ยง จนเป็นที่ยอมรับของสังคม อีกทั้งได้รับมอบหมายงานด้านสืบสวนสอบสวน มีผลงานปรากฏสู่สายตาประชาชนในการทำคดีต่างๆ โดยเฉพาะขบวนการกวาดล้างขบวนการกลุ่มทุนจีนสีเทา ในแต่ละครั้ง “บิ๊กโจ๊ก” จัดหนัก จัดเต็ม ทุกรูปแบบทุกมิติ 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. “สาขาป้องกันและปราบปรามยอดเยี่ยม” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้ความสำคัญกับเรื่อง การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ ตลอดจนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หลายเหตุการณ์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะเร่งถอดบทเรียนให้ความรู้ “หนี-ซ่อน-สู้” รับมือภัยร้ายในพื้นที่สาธารณะ และสถาบันการศึกษา

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. “สาขาจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น” มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในด้านการบำบัดรักษา “ผู้เสพ” คือ “ผู้ป่วย” ที่จะต้องเข้ารับการบำบัดรักษา โดยนำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ที่สำคัญ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ มีหัวใจเต็มเปี่ยมด้วยจิตอาสาในหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 “สาขาปราบปรามอาชญากรรมดีเด่น” ถือว่าเป็นนายตำรวจฝีมือดีทำงานเชิงรุก สามารถจับกุมคดียาเสพติด ยาบ้า ยาไอซ์ ยาเค เฮโรอีน ตลอดจนคดีอาชญากรรมต่างๆได้เป็นจำนวนมาก

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. “สาขานักพัฒนาองศ์กรดีเด่น” ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ได้พัฒนาหน่วยงานทุกด้านให้มุ่งสู่มาตรฐานสากล ทั้งการพัฒนาบุคลากร การพัฒนาเทคโนโลยี การพัฒนาสถานที่ทำงาน การพัฒนาสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวผ่านการจัดโครงการต่างๆ ภายใต้แนวคิด “มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน”

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. “สาขาปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ดีเด่น” หลังการก้าวเข้ามารับตำแหน่ง “แม่ทัพไซเบอร์” เร่งปรับโฉมภาพลักษณ์หน่วยงาน เดินหน้าเชิงรุกในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ เตือนภัยออนไลน์ต่างๆ และสามารถจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์มาเก๊า 888 เครือข่ายพนันออนไลน์ เมฆ รามา 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. “สาขาปราบปรามคอรัปชั่นดีเด่น การเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ปรับโฉมภาพลักษณ์หน่วยงานที่แต่เดิมเปรียบเสมือน “กรุร้าง” พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จนปัจจุบัน บก.ปปป.กลายเป็นหน่วยงานที่สร้างชื่อเสียงของกองบัญชาการสอบสวนกลาง ที่ออกกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลและข้าราชการบางคนที่เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.“สาขาสืบสวนอาชญากรรมดีเด่น” ต้องยอมรับว่า ในรอบปีที่ผ่านมากองบังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล มีผลการจับกุมคดีอาชญากรรมไม่เว้นทุกสัปดาห์จนเป็นที่ยอมรับ พล.ต.ต.ธีรเดช ยังเดินหน้าโครงการ “เติมฝันสู่บัณฑิต” เพื่อช่วยเหลือบุตรหลานของข้าราชการตำรวจ ในสังกัดกองสืบนครบาล IDMB อันเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ครอบครัวตำรวจ ให้มีการศึกษาที่ดี ตามปรัชญาการทำงานของหน่วย “รักองค์กร มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” 

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. “สาขาปราบปรามยาเสพติดดีเด่น” ในรอบปีที่ผ่านมา ได้สร้างผลงานการจับกุมและทลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ได้เป็นจำนวนมาก พร้อมยึดทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ 

สงขลา-“หาดใหญ่ปราศัยสร้างสรรค์”ประชาธิปัตย์ จัดทีมเศรษฐกิจ ขึ้นเวที ช่วย นิพัฒน์ เบอร์ 4 เป็น ส.ส.เขต 2 สงขลา ชู ศักยภาพเมืองหาดใหญ่มีความพร้อม

ด้านคมนาคม รองรับการขยายตัวเศรษฐกิจ-แก้ปัญหาจราจร ด้านนิพนธ์ฯ ขอบคุณ ประชาชนที่สนับสนุนปชป. ย้ำ พรรคไม่ทอดทิ้งหาดใหญ่ 

นายนิพนธ์ บุญญามณี  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  นำขุนพลทีมเศรษฐกิจ  ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งฯ พร้อมด้วยนายเมธี อรุณ (เมธี ลาบานูน (รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์) ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 2 นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังกวัดสงขลา นายนิยม พรรณราย รองประธานสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ นายประสิทธิ์ ช่วยชูสกุล เลขานุการนายก อบจ.สงขลา ขึ้นเวทีปราศรัยในหัวข้อ "ทิศทางเศรษฐกิจหาดใหญ่จะเป็นอย่างไร" และ เปิดวิสัยทัศน์ของนายนิพัฒน์ อุดมอักษร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 4 โดยมีพี่น้องประชาชนในเขตเทศนครหาดใหญ่ และประชาชนผู้สัญจรไปมากว่าสองหมื่นคนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น  ณ บริเวณลานหน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ซึ่งในส่วนของ ดร.สามารถกล่าวช่วงหนึ่งว่า หาดใหญ่มีทำเลยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งภาคใต้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องขับเคลื่อนหาดใหญ่ด้วยระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งพรรคมีนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ รถโมโนเรล ซึ่งหาดใหญ่จะประสบปัญหาในเรื่องการจราจรติดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งอบจ.สงขลาในสมัยท่านนิพนธ์เป็นนายกอบจ.ได้ริเริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว มีระยะทางยาว 13 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 16,000 ล้านบาท โดยเริ่มตั้งแต่บ้านพรุ-รถตู้ตลาดเกษตรควนลังในระยะแรก ซึ่งขณะนี้ได้ทำประชาพิจารณ์ และทำในสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยหมดแล้ว ในส่วนระยะที่สองจะขยายเส้นทางจากสถานีน้ำพุ ถนนลพบุรีราเมศวร์ และจากสถานีคอหงส์ไปยังสวนสาธารณะหาดใหญ่ และระยะที่สาม จะเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างสถานีหาดใหญ่ในกับสถานีคลองเรียน จนถึงศูนย์การค้าไดอาน่า ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อรถตุ๊กตุ๊ก  รถสองแถว และวินมอเตอร์ไซด์  

ดร.สามารถ กล่าวต่ออีกว่า เวลานี้ผมมีผลการศึกษา และแบบเบื้องต้นอยู่ในมือแล้ว การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก็ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะผลักดันให้โมโนเรลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งก็จะแก้ปัญหารถติดในเมืองหาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นก็มีรถไฟรางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์เชื่อมต่อไปสู่กรุงเทพฯ ซึ่งจะทำให้ย่นระยะเวลาเหลือเพียง 8 -10 ชั่วโมง ซึ่งเป็นรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เพื่อรองรับรถไฟจากประเทศมาเลเซียที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเช่นกัน ซึ่งจะทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และจะทำให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในหาดใหญ่มากขึ้น รวมถึงจะช่วยกระตุ้นให้มูลค่าการค้าการขายชายแดนระหว่างไทย- มาเลเซียพุ่งสูงที่สุดของประเทศ ราว 660,000 ล้านบาท และในส่วนของถนนมอเตอร์เวย์ พรรคปชป.ทำสายแรกตั้งแต่กรุงเทพ - ชลบุรี โดยทำเป็นมอเตอร์เวย์ จตุรทิศ  หาดใหญ่จากสะเดาไปด่านนอก แบบเสร็จแล้วเหลือเพียงการเจราจากับทางมาเลย์เท่านั้น ซึ่งจะทำให้การค้าขายการส่งออกดีขึ้น อีกเรื่องคือเรื่องของสะพานเชื่อมเกาะสมุย ถ้ามีสะพานใช้เวลาเพียง 20 นาที ซึ่งผมเป็นคนริเริ่มคิดในเรื่องนี้มานานแล้ว โดยทำเป็นแบบสะพานขึง ถ้ามีโครงการเหล่านี้จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของชาวมาเลย์และสิงคโปร์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราต้องการทำหาดใหญ่ให้เป็นศูนย์กลางขนส่ง และศูนย์กลางการเงินให้ได้ เนื่องจากหาดใหญ่มีความพร้อมในทุกด้าน จึงต้องอาศัยแรงผลักดันจากพี่น้องประชาชนให้ความมั่นใจในพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกนายนิพัฒน์ อุดมอักษร  ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 4 และเลือกพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26

“กรมทะเลชายฝั่ง” จับมือ “กรมอุทยานฯ” ร่วมสนับสนุนโครงการ SEA YOU STRONG ทะเลคือหัวใจของไทย อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ว่ายน้ำข้ามทะเล 70 กม. กระตุ้นจิตสำนึกรักษ์ทะเล กระบี่- พังงา-ภูเก็ต

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) ร่วมให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมภายใต้ “โครงการ SEA YOU STRONG ทะเลคือหัวใจของไทย อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล” ซึ่งเป็นโครงการที่นายสิรณัฐ สก๊อต หรือ “ทราย สก๊อต” จัดขึ้นโดยนำทีมนักอนุรักษ์ 36 คน ว่ายน้ำข้ามทะเลอันดามันเป็นระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร ผ่าน 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ พังงา และภูเก็ต เริ่มจากหาดยาว จ.กระบี่ ไปสิ้นสุดที่อ่าวปอ จ.ภูเก็ต ในระหว่างทางก็จะแวะพักตามเกาะท่องเที่ยวชื่อดังของแต่และจังหวัด โครงการดังกล่าวจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 – 29 เมษายน 2566 โดยทางกรม ทช. จัดเรือราชการ 2 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำเรือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช  คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในกิจกรรม รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทำกิจกรรม Big Cleaning Day ลด ละ เลิกใช้พลาสติก

 
นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

นายอภิชัย รรท.อทช. กล่าวหลังจากพิธีเปิดโครงการ SEA YOU STRONG ทะเลคือหัวใจของไทย อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นภายใต้โครงการดังกล่าวนี้ เป็นการสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการดูแล รักษา ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงความหลากหลายทางชีวิภาพสำหรับแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีภารกิจที่สอดรับกับนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เน้นย้ำเรื่อง “การส่งเสริมการมีส่วนร่วม” ของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ และประชาชน กรมพร้อมให้การสนับสนุนเครือข่ายอาสาสมัครที่ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนปลุกจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพราะตนเชื่อมั่นว่าการรวมพลังในสังคมเป็นจุดเริ่มต้นของพลังที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะ “คนรุ่นใหม่” ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์กลายเป็น “Soft Power” ที่กระตุกจิต กระชากใจ เปลี่ยนแปลงความคิด ทำให้ผู้คนมีส่วนร่วม หรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อย่างกิจกรรมในครั้งนี้ที่คุณทราย สก๊อต นักอนุรักษ์รุ่นใหม่ได้นำทีมนักว่ายน้ำอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลว่ายน้ำข้ามทะเลอันดามัน นอกจากจะกระตุ้นให้คนหันมาเห็นมุมต่างๆ ของทะเลไทย ที่ประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมหลายเรื่อง ทั้งที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ และธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในฝั่งอันดามันให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้รู้จักมากขึ้นอีกด้วย โอกาสนี้ จึงอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนให้เห็นความสำคัญ และช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อให้คงความอุดมสมบูรณ์สืบต่อไป

สส. ผนึกพลัง ยกระดับความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ACE Dialogue)

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการเสริมพลังความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ACE Dialogue) ในวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2566 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และผ่านระบบการประชุมทางไกล Video Conference เพื่อสร้างการรับรู้ ความตระหนัก รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การมีส่วนร่วมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเปิดโอกาสในการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน นำพาประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำที่พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายวรพล จันทร์งาม รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถือเป็นเรื่องวิกฤตที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลกนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดภัยแล้ง พายุ คลื่นความร้อน ธารน้ำแข็งละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น รวมถึงอุณภูมิโลกที่เพิ่มขึ้น เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งมีชีวิต ทำลายสถานที่อยู่อาศัย สร้างความเสียหายต่อวิถีชีวิตและชุมชนของเราในระดับโลก ประเทศไทยได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยในการประชุม World Leaders Summit ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (UNFCCC COP26) นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศเจตนารมณ์ยกระดับการดำเนินการของไทย ที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065


กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ในฐานะหน่วยประสานงานกลางของประเทศ ดำเนินการตามกรอบมาตรา 6 ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (National Focal Point of Action for Climate Empowerment (ACE) under UNFCCC Framework) มีหน้าที่ในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยให้กับทุกภาคส่วน

'ผศ.ดร.ธรณ์' ฟาด!! ทัวร์ดำน้ำ แต่ไม่รักทะเล ที่เกาะร้านเป็ด ตอบโต้พฤติกรรมก้าวร้าว 'ปลาวัวไททัน' ด้วยการ 'ฆ่า'

(29 เม.ย.66) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Thon Thamrongnawasawat’ หลังจากได้เห็นข้อความและภาพเหตุการณ์น่าเศร้าจากการกระทำของ ทัวร์ดำน้ำ แต่ไม่รักทะเลรายหนึ่ง ณ จุดดำน้ำชุมพร ที่ได้โพสต์ข้อความออกมาว่า...

“ดำน้ำอยู่เฉยๆ ไม่เคยยุ่งกันน้าาา แต่มากัดเราก่อนน้าาาา มึงตาย !!!... ‘ปลาวัวไททัน’ (Trigger Fish) ตัวนี้เป็นตำนานที่เกาะร้านเป็ด ดุมาก กัดลูกทัวร์ทั้ง Freedive และ Scuba หลายคนแล้ว วันนี้โดนกับตัวเอง ยอมไม่ได้ และเพื่อป้องกันมันไปโจมตีนักดำน้ำท่านอื่น กูจัดให้เน้นๆ ทำเมนูอะไรเด่วมาอัปเดต”

โดย ผศ.ดร.ธรณ์ ได้โพสต์ตอบโต้กลับว่า...

ในบ้านทุกบ้านมีกติกา พฤติกรรมก้าวร้าวของสัตว์น้ำมีที่มา มีการหวงรัง/หวงพื้นที่ มีการดูแลปกป้องที่อยู่และให้กำเนิดลูกน้อย

หากเราไม่สามารถรับกติกาในบ้านคนอื่น เราไม่ควรไปเยี่ยมเยือนบ้านของพวกเธอ ยังมีที่อื่นๆ อีกมากที่มนุษย์เป็นคนกำหนดกติกา เราเลือกไปในที่เหล่านั้นได้

ทราบว่าเจ้าหน้าที่/ผู้เกี่ยวข้องรู้เรื่องแล้ว หวังว่าจะมีการดำเนินการที่เหมาะสมในไม่ช้าครับ


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid027HuM7HA2GaW1BE3RRcFHvb4jSSTwkaxeY6T6MJWV9xXUnxDEHYybWzzvVfMSDGJYl&id=100000156385897&mibextid=Nif5oz

สมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในพระบรมราชูปถัมภ์” ชม หม้อแปลงซับเมอร์ส ระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน ลดคาร์บอน ลดก๊าซเรือนกระจก (Submersible Transformer Low Carbon)

สมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เยี่ยมชม “หม้อแปลงใต้ดิน Low carbon” โดยได้รับการต้อนรับจาก ดร. สมบัติ วนิชประภา ที่ปรึกษาสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณประจักษ์ กิตติรัตนวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด โครงการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Submersible Transformer Low carbon การนำสายไฟลงดินทั้งระบบ ในพื้นที่สยามสแควร์ หม้อแปลง Submersible Transformer Low carbon ไม่บังหน้าร้าน, ไม่บังร้านค้า ไม่บังหน้าบ้าน เสริมสร้างทัศนียภาพ สร้างความปลอดภัยต่อประชาชนและบริหารระบบจัดการพลังงานสิ้นเปลือง ลดมลพิษ ลดค่าไฟฟ้า ลดคาร์บอน ลดก๊าซเรือนกระจก สร้างความมั่นคงพลังงานอย่างยั่งยืน ให้ผู้ประกอบการโรงงาน อาคาร สถานประกอบการ สอดคล้อง พันธกิจ ส่งเสริม พัฒนา สนับสนุนระบบไฟฟ้าสายใต้ดิน และการใช้พลังงานสะอาด ในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เชิงพาณิชย์อย่างมั่นคง

และเป็นการตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาลในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ตามที่กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emission

    
ทางกลุ่มความร่วมมือ ขอขอบคุณ สมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ให้เกียรติมาเยี่ยมชม นวัตกรรม สินค้าบัญชีนวัตกรรมไทย หม้อแปลงใต้ดิน Low carbon การจัดการพลังงานและบำรุงรักษาแบบ IoT เพื่อเสริมสร้างระบบไฟฟ้าลงดิน เกิดความเสถียรภาพและความมั่นคง

#88pacific
ข้อมูลข่าว:สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม

ศลต.ตร. อบรมให้ความรู้ข้อกฎหมายก่อนการเลือกตั้งให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง...

เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.66) เวลา 09.00 น. ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.สลต.ตร.(3) เป็นประธานในการประชุมเปิดอบรมให้ความรู้กฎหมายเลือกตั้งแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง และการจัดทดสอบความรู้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ารับฟังการอบรม

วิทยากรที่ให้ความรู้ในวันนี้ มีจำนวน 2 ท่าน คือ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี และ นายวิฑูรย์ อิศรภัคดี ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย 2 สำนักกฎหมายและคดี กกต. ณ ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร. พร้อมถ่ายทอดสัญญาณไปยังข้าราชการตำรวจ 110,340 นาย  ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งทั่วประเทศผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ และหลังจากการเข้ารับการอบรมรับฟังความรู้ข้อกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว ผบ.ตร.ได้จัดให้มีการทดสอบความรู้ในครั้งนี้โดยการทำการทดสอบผ่านคลังข้อสอบ ONLINE จำนวน 35 ข้อ (เกณฑ์การผ่านคือ 80 เปอร์เซนต์ หรือ 28 ข้อ) ณ ที่ตั้งของแต่ละสถานีตำรวจ หรือสถานที่ที่แต่ละหน่วยกำหนดให้ข้าราชการตำรวจมาเข้ารับฟังการอบรม

วัดคลองท่อม จัดพิธีเททองหล่อพระพุทธสิหิงค์ ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดหน้าตัก118 นิ้ว ประดิษฐานพระธาตุมหาเจดีย์วัดคลองท่อม มีชาวพุทธศาสนิกชนแห่ร่วมงานนับหลายพันคน  

วันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 08.18 น พระครูสถิตนราธิการ ดร. เจ้าคณะตำบลคลองท่อมใต้ เจ้าอาวาสวัดคลองท่อม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พล.ต.อ. องอาจ มีคุณสมบัติ  เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พล.ต.ท. สมชาย นิตยบวรกุล นายพิริยะ ศรีสุขสมวงศ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ ร่วมพิธีเททองหล่อพระพุทธสิหิงค์องค์พระประธานหน้าตักกว้าง 3 เมตรเพื่อประดิษฐานในพระมหาธาตุเจดีย์วัดคลองท่อม ณ มณฑลพิธีพระธาตุมหาเจดีย์วัดคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ 
โดยพระครูสถิตนราธิการ เจ้าคณะตำบลคลองท่อมใต้ เจ้าอาวาสวัดคลองท่อม ทรงเจิมแผ่นทองคำ เงิน นาก แล้วทรงประกอบพิธีเททองหล่อนำฤกษ์ ซึ่งมีพิธีกรรมทางพราหมณ์ ร่วมด้วย โดยมีการเจริญพระพุทธมนต์และเจริญชัยมงคลคาถา จากพระสงฆ์ที่เข้าร่วมในพิธี 

โดยงานเททองหล่อพระพุทธสิหิงค์ ในครั้งนี้มีกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 28 เมษายน 2566 รวมเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ซึ่งได้รับความสนใจจากพุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมงานบุญในครั้งนี้หลายพันคน และมีการเททองหล่อพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งมีขนาดหน้าตัก 3 เมตร หรือ 118 นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เท่าที่มีการหล่อพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นองค์พระประธานประดิษฐานพระมหาธาตุเจดีย์วัดคลองท่อม รูปแบบนับเป็นพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งมีลักษณะคล้ายพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล ประดิษฐานอยู่ในบุษบกไม้ ณ หอพระ ระหว่างศาลกับศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช องค์นี้ศิลปะศรีวิชัย ผสมผสานในสมัยกรุงศรีอยุธยา และส่วนพระธาตุมหาเจดีย์วัดคลองท่อมก็เป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย และมีไม่กี่แห่งของภาคใต้ สร้างเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาสืบไป 

เตือนคนที่ชอบกิน ‘ไข่ลวก’ เสี่ยงท้องเสีย จากเชื้อ Salmonella แถมยังมี ‘อะวิดิน’ ที่ขัดขวางการดูดซึม ‘ไบโอติน’ ในร่างกาย!!

(28 เม.ย.66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี ‘Healthy Talk by หลี’ ได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับหัวข้อ ‘ไข่ต้มหรือไข่ลวก’ ไข่ชนิดไหนมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่ากัน โดยเฉพาะคนที่ชอบทานไข่ลวกทุกเช้า โดยระบุว่า…

ไข่ต้ม หรือ ไข่ลวก ไข่ชนิดไหนให้ประโยชน์มากกว่ากัน หัวข้อนี้เหมาะกับคนที่ชอบทานไข่ลวกกันทุกเช้า เพื่อนๆทราบกันดีอยู่แล้วว่า ไข่เป็นอาหารที่มีสารอาหารประกอบหลายชนิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินต่างๆมากมาย และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อการสร้างเซลล์ผิวหนัง วันนี้จะพามาดูว่า ไข่ต้ม หรือ ไข่ลวก ไข่ชนิดไหนมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่ากัน

ไข่ต้ม 1 ฟอง ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่ 
ไข่ลวก 1 ฟอง ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่
ไข่ดาว 1 ฟอง ให้พลังงาน 165 กิโลแคลอรี่ 
และไข่เจียว ให้พลังงาน 250 กิโลแคลอรี่ 

เราจะสังเกตเห็นว่า เจ้าตัวไข่ต้มและไข่ลวก ทั้ง 2 ชนิดนี้ให้พลังงานน้อยที่สุด จึงเหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก คนที่ต้องการทานเพื่อผอม แต่ไข่ลวกเสี่ยงต่อการท้องเสียจากเชื้อ ‘Salmonella’ และไข่ลวกจึงมีโปรตีน ‘อะวิดิน’ ซึ่งโปรตีนนี้จะไปขัดขวางการดูดซึม ‘ไบโอติน’ ในร่างกาย เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ไข่ต้ม มีประโยชน์สูงสุดเห็นๆ 


ที่มา : https://vt.tiktok.com/ZS83cqGro/


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top