Wednesday, 2 July 2025
NEWS

รองนายกรัฐมนตรี ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ เคาะแผนบริหารจัดการน้ำ ปีงบประมาณ 2565 บูรณาการแก้ปัญหาน้ำท่วม-แล้ว อย่างยั่งยืน เน้นให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า โปร่งใสและตรวจสอบได้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะกรรมการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และคณะกรรมการการบูรณาการรัฐบาลดิจิทัลจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2565

พล.อ.ประวิตร ได้พิจารณาเห็นชอบงบประมาณแผนงานการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลักเกณฑ์สำคัญได้แก่ การขยายผลงานตามแนวทางศาสตร์พระราชา "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" และโครงการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ต่อด้วยงบประมาณการบูรณาการรัฐบาลดิจิทัล การปรับเปลี่ยนบริการภาครัฐ เพื่อรองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) อันเป็นผลมาจากสถานการณ์ โควิด-19 โดยมุ่งเน้นนโยบายเร่งด่วนได้แก่ สิทธิสวัสดิการประชาชน การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน การเกษตรและทรัพยากรน้ำ การบริหารจัดการภาครัฐ และการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ

ต่อมาเห็นชอบ หลักเกณฑ์การพิจารณาแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (สทนช.) โดยให้ สทนช. จัดลำดับความสำคัญของโครงการ ได้แก่ โครงการพระราชดำริ โครงการตามนโยบาย และการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ เพื่อเร่งแก้ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม และให้ประชาชน มีน้ำใช้ อย่างเพียงพอ และยั่งยืน ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดใช้แดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สทนช. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีอีเอส) และกระทรวงต่าง ๆที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกัน อย่างจริงจัง ภายใต้แผนงานหลักที่รับผิดชอบ ให้บรรลุเป้าหมาย และตัวชี้วัดยุทธศาสตร์ชาติ ตามนโยบายของรัฐบาล การใช้จ่ายงบประมาณ จะต้องมีความประหยัด แต่ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้

ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันที่จะขับเคลื่อนงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ให้มีความต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของประเทศชาติ

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส์ ประกาศยกเลิกเส้นทางบินเพิ่มอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง สมุย-ภูเก็ต (ไป-กลับ) และเส้นทาง ภูเก็ต-หาดใหญ่ (ไป-กลับ) ตั้งแต่วันที่ 10-31 มกราคม 2564

รายงานข่าวจากสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ แจ้งว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และประกาศของ ศบค. ในการขอความร่วมมือประชาชนชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด

ทาง บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จึงมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินเป็นการชั่วคราวเพิ่มเติม 2 เส้นทางบิน ได้แก่ เส้นทาง สมุย-ภูเก็ต (ไป-กลับ) และเส้นทาง ภูเก็ต-หาดใหญ่ (ไป-กลับ) ตั้งแต่วันที่ 10-31 มกราคม 2564

และจะปิดให้บริการสำนักงานออกบัตรโดยสาร สำนักงานใหญ่ (ถนนวิภาวดีรังสิต) เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 11-31 มกราคม 2564 ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

คอลเซ็นเตอร์ โทร 1771 และโทร 02-270-6699 (ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 20.00 น.), อีเมล [email protected]

และ PG Live Chat https://bit.ly/PGLiveChatTH

สำหรับ ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารในเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว สามารถติดต่อสายการบินฯเพื่อเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสาร สำหรับผู้โดยสารที่ออกบัตรโดยสารผ่านทางตัวแทนจำหน่าย ให้ติดต่อที่ตัวแทนจำหน่าย

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ เหน็บฝ่ายค้านขอเวลาซักฟอกรัฐบาล 7 วัน อย่าให้น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง ชี้ต้องมีข้อมูลใหม่ ให้ประชาชนเชื่อถือ อย่าใช้แต่สำนวนโวหารแค่สาแก่ใจ เวลาเปล่าประโยชน์

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้าน เตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยจะขอเวลาอภิปราย 7 วันว่า ตนเห็นว่าถ้าฝ่ายค้านมีข้อมูลใหม่และทำให้ประชาชนเชื่อถือได้ว่า รัฐบาลมีพฤติกรรมทุจริตและบริหารประเทศไม่เป็นที่พอใจของประชาชน ก็ถือว่าเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่า เพราะสามารถกระตุกสามัญสำนึกของ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ก่อนที่จะลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย จนทำให้ ส.ส. ของพรรค ต้องมีการถกเถียงกันก่อนการลงมติ

แต่ถ้าฝ่ายค้านมีเวลาตามที่ขอ แต่กลับไม่แสดงหลักฐานเพื่อชักจูงได้ว่า รัฐบาลมีพฤติกรรมอย่างไร จึงไม่สามารถไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อ หรือเอาแต่สำนวนโวหารหรือขอแค่ได้กระทบกระเทียบก็สาแก่ใจแล้วนั้น ตนถือว่า นอกจากไม่ใช่วิถีทางทางการเมืองที่ประชาชนอยากจะเห็นแล้ว ยังเป็นการทำลายเวลาให้เปล่าประโยชน์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้เวลาอย่างมากในการแก้ปัญหาด้วย

“ที่ผ่านมา ผมเห็นความเห็นในโลกออนไลน์ว่า ฝ่ายค้านในยุคนี้ ทำหน้าที่ไม่สมกับผู้ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน แต่กลับ หมกหมุ่นในการแย่งชิงอำนาจ หรือปล่อยข่าวและข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง สร้างความสับสนและเอือมระอาให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการที่ฝ่ายค้าน จะขอโอกาสในการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็สามารถทำได้ แต่จะต้องขอเวลาให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะเข้าทำนองสุภาษิตว่า น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงเป็นแน่” นายชัยชนะกล่าว

‘สมคิด จิรานันตรัตน์’ หนึ่งในทีมดูแลระบบการลงทะเบียน โครงการรัฐบาล อาทิ เราไม่ทิ้งกัน และคนละครึ่ง โพสต์ฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Chao Jiranuntarat’ แจงข้อดี-ข้อเสีย - ประโยชน์ แอป ‘หมอชนะ’ ชี้ไม่ควรติเรือทั้งโกลน หวั่นคนอาสาอยากช่วย หมดกำลังใจ

สมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หนึ่งในทีมดูแลระบบการลงทะเบียนให้กับโครงการของรัฐบาลหลายโครงการ เช่น เราไม่ทิ้งกัน, วอลเล็ต สบม. รวมทั้งโครงการคนละครึ่ง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Chao Jiranuntarat’ ถึงกรณีกระแสดราม่าโหลดแอปพลิเคชัน ‘หมอชนะ’ โดยระบุว่า

วันนี้หลายๆคนคงอยากรู้ว่าควร load app หมอชนะหรือไม่

App หมอชนะคือความร่วมมือของคนไทยเก่ง ๆ หลายคนที่มาช่วยกันพัฒนาด้วยจิตอาสา เพื่อช่วยควบคุมไม่ให้มีการแพร่เชื้อในวงกว้าง เทคนิคและเทคโนโลยีที่ใช้ก็เทียบเท่ากับ แอปติดตามตัวของประเทศอื่น ๆ ที่ใช้กันอยู่ และแอปหมอชนะก็ระมัดระวังเรื่องการเก็บข้อมูลส่วนตัวเป็นอย่างสูง ทั้งที่เก็บ วิธีการเก็บ และกระบวนการควบคุมการเข้าถึง แอปหมอชนะช่วยในการเตือนเมื่อเข้าเขตที่มีคนมีความเสี่ยง และช่วยในการแสดงตัวว่าตนเองมีความเสี่ยงแค่ไหน แต่เราต้องเข้าใจก่อนว่า เทคโนโลยีก็ไม่ใช่ยาวิเศษ จะมีข้อดีต่อเมื่อเราใช้เป็น แอปหมอชนะก็เช่นกัน จะมีข้อดีเมื่อมีคนใช้เยอะ หากคนใช้ไม่มาก จุดแข็งก็จะเป็นจุดอ่อนได้

แอปหมอชนะมีจุดอ่อนตรงไหน

Version ก่อนหน้านี้ มีประเด็นเรื่องการกินแบตค่อนข้างมากและใช้เก็บข้อมูลมากในเครื่องของเรา แต่ประเด็นนี้ทราบมาว่าได้มีการแก้ไขแล้วใน version ล่าสุด จุดอ่อนอื่น ๆ ก็เป็นเรื่องข้อจำกัด ของเทคโนโลยี gps และ bluetooth แต่ข้อจำกัดเหล่านี้จะน้อยลงหากใช้ควบคู่กับการสแกน คิวอาร์ไทยชนะ ซึ่งแอปหมอชนะก็ใช้ในการสแกนไทยชนะได้ด้วย

ควรเลิกไทยชนะมั้ย

ไทยชนะเป็นแพลตฟอร์ม ที่ช่วยในการควบคุมความหนาแน่นของสถานที่ และดูด้วยว่าเราอยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงเพราะเป็นที่เดียวกับผู้ติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันการสแกนไทยชนะมีทางเลือกมากมาย ใช้กล้องสแกนโดยไม่ต้องมีแอปใด ๆ เลยก็ได้ ใช้แอปไทยชนะก็ได้ ใช้แอปหมอชนะก็ได้ จนถึงปัจจุบันมีคนไทยที่เคยสแกนไทยชนะแล้วกว่า 47 ล้านคน ไม่ซ้ำกัน และมีการเช็คอินไทยชนะในช่วงนี้กว่า 1 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งไม่ว่าจะสแกนด้วยวิธีใด ข้อมูลเบอร์โทรจะถูกแปลงเป็นรหัสอื่นอีกชั้นหนึ่งเพื่อเก็บในฐานข้อมูลที่กรมควบคุมโรคเป็นเจ้าของสิทธิ์ในการใช้ หากมีคนติดเชื้อ สามารถควานหาได้ว่าในช่วงเวลาเดียวกัน เราอยู่ในสถานที่เดียวกันกับผู้ติดเชื้อหรือไม่ เพื่อการแจ้งเตือนต่อไป

สรุปแล้วแพลตฟอร์มไทยชนะก็ยังเป็นประโยชน์อยู่ ส่วนจะใช้วิธีไหนสแกนก็แล้วแต่ผู้ใช้ แต่ข้อดีของการใช้แอปไทยชนะ หรือแอปหมอชนะสแกนคือแอปจะช่วยตรวจสอบความถูกต้องของคิวอาร์ให้ด้วย

ข้อสรุป

เรามีคนไทยเก่ง ๆ เยอะ ที่มีความตั้งใจและหวังดีในการสร้างของดี ๆ ขึ้นมา เราให้ความเห็นได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้น แต่ไม่ควรติเรือทั้งโกลน เพื่อความมันหรือเพื่อการทำลายล้าง ซึ่งจริง ๆ ก็น่าสงสารคนที่มีความประสงค์เช่นนั้น

ธนาคารพาณิชย์ไทย ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และธนาคารรัฐ ร่วมจัดตั้งทีมเฉพาะกิจ ดูแลลูกหนี้ทุกช่องทาง พร้อมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาตรการรับมือโควิดรอบใหม่ แต่จะช่วยเหลือแตกต่างกันไปเป็นรายกรณี

นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยถึงการดำเนินงานและการให้บริการลูกค้าในภาวะวิกฤติโควิด-19 รอบใหม่ ว่า ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ไทย ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และธนาคารรัฐ ได้ร่วมมือกันจัดตั้งทีมเฉพาะกิจ เพื่อดูแลลูกหนี้ทั้งประชาชนและภาคธุรกิจทุกช่องทาง รวมทั้งให้การสื่อสารเป็นไปในทิศทางเดียวป้องกันการสับสนของข้อมูล

ขณะเดียวกันยังได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับการมาตรการรับมือโควิดรอบใหม่ โดยการบริหารจัดการอาจแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของแต่ละธนาคาร ซึ่งเน้นดูแลความปลอดภัยทั้งลูกค้า พนักงาน คู่ค้า พันธมิตร หรือผู้มาติดต่ออื่น ๆ

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า "ธนาคารพาณิชย์ยังต้องติดตามสถานการณ์การระบาดที่ชัดเจนต่อไป ซึ่งยังเร็วเกินไปที่จะประเมินถึงความสามารถในการชำระคืนหนี้และแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ได้ชัดเจน โดยขึ้นอยู่กับมาตรการการควบคุมโรคของรัฐบาล เพราะสถานการณ์ยังที่มีความไม่แน่นอนสูง และธนาคารต้องประเมินผลกระทบในหลาย ๆ ด้านและเตรียมแผนไว้ จึงต้องใช้เวลาเพื่อประเมินความชัดเจนก่อน โดยธนาคารแต่ละแห่งพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ทุกกลุ่ม ซึ่งจะพิจารณาความช่วยเหลือแตกต่างกันไปเป็นรายกรณี"

เช็คเลย ! ‘เดินทางข้ามจังหวัด’ ไปจังหวัดไหน ต้องถูกกักตัว 14 วัน

เช็คเลย ! ‘เดินทางข้ามจังหวัด’ ไปจังหวัดไหน ต้องถูกกักตัว 14 วัน

แทมมี ดักเวิร์ธ นักการเมืองชาวอเมริกันเชื้อสายไทย สมาชิกวุฒิสภาแห่งสหรัฐอเมริกา จากรัฐอิลลินอยส์ พรรคเดโมแครต กล่าวถึง เหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในสภาคองเกรสในสุนทรพจน์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ในห้องประชุมวุฒิสภา

หลังสภาเปิดประชุมพิจารณารับรองผลการเลือกตั้งของ โจ ไบเดน อีกครั้ง

"ฉันใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่มาตลอดเพื่อปกป้องประชาธิปไตยของเรา แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจำเป็นต้องปกป้องมันจากการพยายามล้มล้างอย่างรุนแรงในอาคารรัฐสภาของประเทศเรา"

ดักเวิร์ธ ซึ่งเป็นอดีตทหารผ่านศึกอิรักกล่าวว่า "ในปี 2004 ฉันเก็บกระเป๋าเป้สะพายหลังผูกเชือกรองเท้าและเดินทางไปอิรักโดยเต็มใจที่จะเสียสละทุกสิ่งที่ฉันร้องขอเพราะฉันรักประเทศนี้และเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของระบบการเลือกตั้งของเราซึ่งได้ประกาศให้จอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ฉันสูญเสียขาของฉันไปต่อสู้อย่างภาคภูมิใจในสงครามที่ฉันไม่สนับสนุนตามคำสั่งของประธานาธิบดีที่ฉันไม่ได้ลงคะแนน เพราะฉันเชื่อในคุณค่าที่ประเทศของเราก่อตั้งขึ้น - เพราะฉันเชื่อในรัฐบาลเพื่อประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะเลือกใครเป็นผู้นำ ไม่ใช่การทำแบบอื่น"

ดักเวิร์ธ ยังกล่าวด้วยว่า “สิ่งที่เราเห็นในวันนี้ไม่ใช่การประท้วง แต่เป็นการพยายามก่อรัฐประหาร ฉันปฏิเสธที่จะปล่อยให้ใครก็ตามที่มีเจตนายุยงให้เกิดความวุ่นวายหรือปลุกปั่นความรุนแรงขัดขวางไม่ให้ฉันปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ สภาคองเกรสต้องดำเนินการต่อไปเพื่อรับรองผลการเลือกตั้งและก้าวไปข้างหน้าต่อไปให้พ้นจากเรื่องน่าอับอายนี้ในประวัติศาสตร์ของเรา มันเป็นหนทางเดียวที่จะกระชับหนทางในการรักษาชาติของเรา”

กระทรวงพาณิชย์ จูงใจเอกชนจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์ ประกาศลดค่าธรรมเนียม e-Registration ลง 50% เหลือเพียง 2,750 บาท จากอัตราเดิม 5,500 บาท นาน 3 ปี

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ลดอัตราค่าธรรมเนียม และยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด พ.ศ. 2563

เพื่อขยายระยะเวลาและเพิ่มส่วนลดอัตราค่าธรรมเนียมแก่ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนผ่านระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) จากเดิมลดให้ร้อยละ 30 เป็นลดให้ร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึง 31 ธันวาคม 2566

ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนนิติบุคคลผ่านทางระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Registration จะเสียค่าธรรมเนียมที่ถูกลงกว่าครึ่งหนึ่งของการยื่นขอจดทะเบียนฯ แบบ walk in ที่มีค่าธรรมเนียม 5,500 บาท โดยการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดผ่านระบบ e-Registration ในอัตราใหม่นี้จะมีค่าธรรมเนียมเหลือเพียง 2,750 บาท และห้างหุ้นส่วนจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียมเพียง 500 บาท การเปลี่ยนแปลง/การเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียม 250 บาทต่อ 1 ครั้ง

สำหรับการลดอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการปรับปรุงบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2563 ที่ให้ส่วนราชการพิจารณาทบทวนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการอนุมัติ อนุญาต ของทางราชการ ให้สอดคล้องกับต้นทุนของภาครัฐ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นและประกอบธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ เป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration มากขึ้น

ทั้งนี้ ด้วยระบบ e-Registration ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้ง เปลี่ยนแปลงฯ หรือเพิ่มทุนได้ง่าย ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่มีเรื่องเวลา/สถานที่มาเป็นอุปสรรค ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อันเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการที่ได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในประเทศไทยและ ทั่วโลกยังคงมีสถานการณ์ที่รุนแรง

“แม้ว่าการลดอัตราค่าธรรมเนียมฯ ดังกล่าวอาจทำให้รัฐสูญเสียรายได้ลงกว่า 165 ล้านบาทต่อปี แต่ในทางกลับกันประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล เนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการประกอบธุรกิจ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ นอกจากนี้

ยังจะส่งผลต่ออันดับของไทยด้านการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ หรือ Doing Business ของธนาคารโลกที่คาดว่าจะมีอันดับที่ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลงจะทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติเกิดความสนใจและเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการมาลงทุนมากขึ้น” รมช.พณ. กล่าวทิ้งท้าย

นายเอกศักดิ์ บุญพา ปลัดอำเภอ รักษาการนายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง ออกเอกสารด่วนที่สุด แจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นหญิงอายุ 25 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.วังเหนือ มีประวัติเข้าพื้นที่ในช่วงวันที่ 26-31 ธันวาคม 2563

ทั้งนี้มีการส่งต่อ โพสต์ในเฟซบุ๊กของหญิงคนหนึ่ง ที่ระบุว่าตัวเองติดเชื้อโควิด-19 มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง และพบติดเชื้อโควิด-19 รักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกทม.

หญิงคนดังกล่าวเล่าไทม์ไลน์ของตัวเองอย่างละเอียด โดยระบุว่า เดินทางกลับจากเกาหลี และกักตัวครบ 14 วัน โดยตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19

"ไทมไลน์ นะคะ คร่าวๆ

กักตัวที่กลับมาจากเกาหลี ครบ 14 วัน ไม่พบว่าติดเชื้อโควิด

23 ธันวาคม 63 ออกจากการกักตัว เดินทางไปโรงแรมโนโวเทล ประตูน้ำ จากนั้น ไปห้างเอมควอเทียร์ ทานโอมากาเสะ กับน้อง 2 คน เดินซื้อของแถวประตูน้ำ สวมหน้ากากอนามัยตลอด ตอนเย็น ไปนั่งร้าน 76 Garage แถวลาดพร้าววังหิน ไปด้วยกัน 4 คน เสร็จแล้วไปต่อ คลับ เวลาตี 1 Top 1 แถวรัชดา กลับโรงแรมนอนพัก

24 ธันวาคม 63 ตื่นบ่าย ออกไปฉีดดอลลี่อาย แถวรัชดา แวะทำผม ทานข้าว ย่านรัชดา ทุ่มครึ่ง ไปรูฟทอฟ ตรงตึกมหานคร กับน้อง 2 คน กลับประมาน 5 ทุ่ม ละไปทานหมูกระทะ ต่อที่ร้าน แถวๆถนนอโศก ไปต่อคลับ Top1 จนปิดตีสาม มีพี่ชวนไปต่อ คลับ กอตแฮม ถึงตี 5 กลับโรงแรม

25 ธันวาคม 63 ไปเที่ยวคลับ แถวสีลม กับน้อง ไปเจอพี่ อีก 2-3 คน จากนั้นไปต่อ คลับ Top 1 คลับแถวรัชดา กลับมาโรงแรมประมานตี 1-2

26 ธันวาคม 63 เช็กเอาท์โรงแรม เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไป จ. เชียงใหม่ สายการบิน ไทยสไมล์ รอบบิน 16.00น.-17.00น. โดยประมาณ พ่อมารับ แวะเดินตลาด ท่าแพ นั่งกินข้าวกับพ่อ ร้านริมทาง แล้วก็เดินทางกลับ แวะปั๊มเติมน้ำมัน เดินทางไปบ้านที่อำเภอวังเหนือ ถึง 3 ทุ่ม เก็บของที่บ้าน ก่อนขี่มอเตอร์ไซด์ ออกไปบ้าน ป้า เจอญาติ ประมาน 3-5 คน คุยกัน สวมหน้ากากอนามัยตลอด

27 ธันวาคม 63 เช้าไปวัดปงวัง ทำบุญ ตอนบ่ายไปบ้านป้าแตงเจอญาติ 3-5 คน จากนั้น ไปตลาดปงวัง กับพี่ 2 คน ซื้อกับข้าวในตลาด เสร็จปุ๊บกลับมาบ้านป้า ทำกับข้าวกินกัน จากนั้น 1 ทุ่มครึ่ง โทรชวนเพื่อนไปเที่ยว ต่อ ที่ร้านเพลินบาร์ แม่ขะจาน ไปกัน 4 คน มีคนมาที่โต๊ะ และชวนไปนั่งที่โต๊ะ 4-5 คน ขณะดื่ม ไม่ได้สวมแมส จากนั้น กลับบ้าน ประมาณตี 1

28 ธันวาคม 63 ตื่น 11 โมง ไปรับพี่ที่เป็นครูที่โรงเรียนบ้านก่อ ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านทุ่งเป้า แวะซื้อกาแฟ ร้านสามแยก จากนั้นไปส่งพี่กลับโรงเรียน ไปทำธุระเกี่ยวกับรถ ที่เวียงป่าเป้า ต่อ พ.ร.บ.รถฯ แวะนิ่มซี่เส็ง ถามข้อมูลเล็กน้อย จากนั้นเข้าตลาดวังเหนือ ซื้อของกิน นิดหน่อย กลับบ้าน แล้วเดินมาบ้านป้าต่อ ทำปิ้งย่างกินกัน 5-7 คน กลับบ้าน 3-4 ทุ่ม

29 ธันวาคม 63 ตื่น 11 โมง เพื่อนมารับไปกินข้าว ที่ร้าน Lake monster อยู่กัน 5-6 ตรงปากทางปงวัง จนถึง 5 โมง กลับไปรับหลานที่โรงเรียนบ้านก่อ แวะตลาดปงวัง ซื้อน้ำ กลับบ้านป้าแตง ต่อกินข้าวเย็นแล้ว เล่นบิงโก ประมาน 5-6 คน

30 ธันวาคม 63 ตื่นบ่าย แวะซื้อขนมจีนร้านพี่น้ำใส แล้วไปทานบ้านป้าแตง ตอนเย็น แวะไปนั่งร้าน ครัวฮั้วหินฮิมต้า แป๊บเดียว ไปต่อร้านน้องในตลาด วังเหนือ ร้านชายสี่มีเล่า นั่งนาน จนร้านปิด

31 ธันวาคม 63 เดินทางไปเชียงใหม่ เวลา 4 โมง นั่งรถกรีนบัสไปลงอาเขตแล้วเรียกแกรบ ไปส่งที่โรงแรม เชน โฮเทล พักคนเดียว จากนั้นเรียกแกรบวิน ไปส่งซื้อรองเท้าส้นสูง ก็กลับมาโรงแรม อาบน้ำ แต่งตัวไปวอร์มอัพคาเฟ่ วันเคาทดาวน์ จนถึง ตี 1 อยู่ด้วยกัน ทั้งโต๊ะ รวม 10 คน ออกมาจากวอร์มอัพ ไปกินหมูทะ หลังอินฟินิตี้ ต่อ ถึง ตี 2-3

1 มกราคม 63 ไปหาเพื่อนที่ โรงแรมสเตย์วิท นิมมาน นั่งทานกาแฟ ในโรงแรม รอเพื่อน จากนั้น ไปทานข้าวต่อ ร้าน zood zood 7-8 คน จากนั้น ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ ขับไปดอยปุย จนถึง 18.00น. กลับเข้าเมือง สามทุ่ม ไปร้านเหล้าท่าช้างต่อ จนถึงเที่ยงคืน ก็กลับ โรงแรม เพื่อนชวนออกไปต่อ แต่คลับไม่สนุก เลยไปกินเหล้าต่อที่โรงแรมเพื่อน ตี 5 ก็แยกกลับโรงแรมตัวเอง นอน

2 มกราคม 63 ไปทานอาหารที่ร้านต๋องเต็มโต็ะ ถึงบ่าย 3-4 โมง จากนั้นขี่มอเตอร์ไซค์ไปต่อที่สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง สองทุ่มครึ่ง ไปร้านเหล้า ฮอมบาร์ จนถึงเที่ยงคืน ไปต่อร้านหมูกระทะ ถึงตี 1-2 กลับโรงแรมนอน

3 มกราคม 63 ไปสนามบินเชียงใหม่ เริ่มรู้สึกว่าตัวเอง ไอ บ่อย ขึ้นเครื่อง เวลาบ่ายโมง ถึง กทม. บ่าย 2 ก็มาหาน้องที่ ห้วยขวาง มีพี่ อีก 2 คน ก็ไปซื้อของใช้ส่วนตัวที่บิ๊กซี ไปทานส้มตำ กลับห้อง นอนพัก

4 มกราคม 63 แยกตัว นอนพัก ที่ห้อง เริ่มมีไข้ ไอเจ็บคอ

5 มกราคม 63 ไปตรวจ ที่โรงเอกชน ย่านโชคชัย 4 กลับห้องนอนพัก ทานยา แยกกักตัว

6 มกราคม 63 พัก กักตัว ทานยา ที่ห้อง

7 มกราคม ผลโควิด-19 ออก ผลเป็นบวก เมื่อพบว่าติดโควิด-19 ก็รีบ มาที่โรงพยาบาล แอทมิดรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง"

ทั้งนี้หญิงสาวคนนี้ยังทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวคาดว่า น่าจะติดมาจากผับดัง ที่เชียงใหม่

ทิสโก้ ชี้หุ้นไทยปีนี้ฟื้นจาก 3 ปัจจัยบวก ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนฟื้น, นโยบายการเงินผ่อนคลายหรือ QE และนโยบายโจ ไบเดนหนุน คาดสิ้นปีอาจเห็นดัชนีแตะ 1,600

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ผลกระทบ COVID-19 ทำให้ตลาดหุ้นไทยปีที่แล้วปรับตัวลง 8% และเคลื่อนไหวแย่กว่าตลาดหุ้นโลก (MSCI World Index) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14% สำหรับมุมมองหุ้นไทยในปีนี้ บล.ทิสโก้ คาดว่า หุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวจากปีที่แล้วจาก 3 ปัจจัยบวก คือ

1.) การฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียน โดยบล.ทิสโก้คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะกลับมาเติบโต 3.4% จากปี 2564 ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 6.3%

ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในปี 2564 คาดว่าจะฟื้นตัวแรง 34% ขณะที่ปี 2563 คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนไทยจะติดลบ 38% สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้นแรงมาจากกำไรในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของกำไรตลาดโดยรวมจะเติบโต 79% และ 25% ตามลำดับ ขณะที่ปี 2565 คาดกำไรโดยรวมจะเติบโตอีก 16% อานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้เต็มที่หลังมีวัคซีน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว

2.) นโยบายการเงินยังคงอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายมากเมื่อเทียบกับในอดีต หรือการทำ QE โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ได้ปรับเป้าหมายนโยบายการเงินไปใช้ “อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย” ที่ 2% ซึ่งจะทำให้ FED สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินได้นานกว่าในอดีต ทั้งการคงดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และการอัดฉีดสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง จากการประเมินคาดว่า FED จะอัดฉีดสภาพคล่องในปีนี้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ฯ

3.) นโยบายด้านเศรษฐกิจของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ที่มีแผนการใช้จ่ายเงินจำนวนมากจะกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม ขณะเดียวกัน นโยบายต่างประเทศของไบเดนที่ประนีประนอมกว่าทรัมป์ และคาดการณ์ข้างหน้าได้ง่ายกว่าทรัมป์ น่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลก และช่วยลดความผันผวนของตลาดลงได้

จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว ทางบล.ทิสโก้ จึงได้ประเมินดัชนีหุ้นไทยที่เหมาะสมในปี 2564 ที่ 1,450-1,590 จุด โดยในครึ่งปีหลังมีโอกาสสูง ที่จะเหวี่ยงตัวขึ้นไปใกล้ ๆ ระดับ 1,600 จุด หรือเทียบเท่าตอนสิ้นปี 2562 ก่อนที่ COVID-19 จะระบาด

‘นายสุชาติ ชมกลิ่น’ วอนผู้ประกอบการนำแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายมาขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่ 15 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ เชื่อว่าแรงงานที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายเมื่อเข้าสู่ระบบจะเป็นประโยชน์กับกลุ่มประมง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 1/2464 ว่า ในส่วนของแรงงานเถื่อนนั้นหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อาจไม่เข้าใจ บางกลุ่มอาจจะอยู่ในประเทศไทยหลายปีแล้ว ซึ่งผิดเอ็มโอยู ผิดนายจ้าง เป็นแรงงานเถื่อน ที่ไม่ได้เดินทางกลับประเทศ แต่ไม่ได้เป็นการมุดเข้ามาตามแนวชายแดนทั้งหมด ดังนั้นคำว่าแรงงานเถื่อนอย่าเหมารวมว่าเป็นการมุดเข้ามาทั้งหมด เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลตามด่านถาวร วันนี้ขอฝากขบวนการหรือคนที่นำพาแรงงานเข้ามา ต้องนึกถึงความเป็นอยู่และความปลอดภัยของคนไทยด้วย ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว กระทรวงแรงงานได้มีการตรวจสถานประกอบการและอำนาจหน้าที่ ซึ่งเราให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

ส่วนการดำเนินการกับสถานประกอบการที่นำแรงงานเถื่อนไปทอดทิ้ง รมว.แรงงาน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการและกำชับให้กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทยแก้ปัญหา ซึ่งอยู่ในระหว่างการผ่อนผัน แต่ต้องยอมรับความจริงว่าการที่จะบอกให้สถานประกอบการนำแรงงานทั้งหมดมาตรวจโควิด-19 เพื่อตรวจสอบควบคุมโรค คงไม่มีใครกล้านำมาให้ตรวจทั้งหมด จึงจำเป็นต้องมีมาตรการออกมาเพื่อนำเข้าสู่ระบบ เพื่อไม่ให้สถานประกอบการขาดแรงงาน ขณะเดียวกันจะได้มีการตรวจคัดกรองโรคอย่างเข้มงวด จากนั้นแรงงานทั้งหมดจะเข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย หรือรายงานที่อยู่ใต้ดิน ให้ขึ้นมาอยู่บนดินอย่างถูกต้อง ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น จากนั้นก็จะมีการแก้ปัญหาระยะกลางและระยะยาวต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผน

เมื่อถามว่าปัจจุบันการจ้างงานในส่วนของแรงงานประมงมีความขาดแคลนจำนวนมากจะแก้ปัญหาอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาทางสมาคมประมง ได้มาพบและขอให้ผ่อนผันเพราะแรงงานประมงไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม แรงงานประมงทุกคนที่มีอยู่ผ่านการคัดกรองอย่างถูกต้อง และยืนยันว่าไม่มีผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แต่เมื่อคนงานกลับประเทศปัญหาการขาดแคลนแรงงานย่อมเกิดขึ้น

ซึ่งในขณะนี้ยังอนุญาตให้นำเข้าไม่ได้ เพราะการที่จะอนุญาตให้นำคนจากต่างประเทศเข้ามาเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ความพยายามนำแรงงานที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายที่มีอยู่ในประเทศไทย เข้าสู่ระบบก็จะเป็นประโยชน์กับกลุ่มประมง เพราะหลังจากทำบัตรสีชมพูเสร็จ จะสามารถเข้าสู่แรงงานประมงได้ เสียเงินอีกเพียง 100 บาท เพื่อขึ้นทะเบียนประจำเรือ

ทั้งนี้ ระหว่าง วันที่ 15 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่รัฐบาลผ่อนผันให้กับผู้ประกอบการ ที่มีแรงงานไม่ถูกต้องมาขึ้นทะเบียน และหลังจากวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไปรัฐจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดจึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือ เราจะทำทุกอย่างเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง

‘ลุงตู่’ เตรียมพาเด็ก ๆ เข้าทำเนียบ พาทัวร์-ทำกิจกรรมร่วมกับตัวแทนเยาวชน นั่งเก้าอี้นายก พร้อมพูดคุยถึงการมีส่วนร่วมกับนโยบายรัฐบาล ผ่านคลิปวิดีโอ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องเอ็นบีที ในวันเสาร์ที่ 9 ม.ค. น. เวลา 10.00 น.

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการจัดงานวันเด็กของทำเนียบรัฐบาล ว่า การจัดงานวันเด็กในวันเสาร์ ที่ 9 ม.ค.ในปีนี้ทำเนียบรัฐบาลไม่ได้เปิดให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เหมือนปีที่ผ่านมา แต่จะรวบรวมกิจกรรมต่าง ๆ ทำเป็นคลิปวิดีโอ เพื่อออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่องเอ็นบีที ให้ประชาชนรับชมในช่วงเวลา 10.00 - 11.30 น.

ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้บันทึกเทปไว้เมื่อวันที่ 6 ม.ค. โดยช่วงแรกเป็นการทำกิจกรรมร่วมกับตัวแทนเยาวชน และพาเด็ก ๆ ชมห้องทำงานนายกฯ และนั่งเก้าอี้นายกฯ เหมือนเช่นทุกปี ในช่วงที่สองนายกฯ ได้พูดคุยกับเยาวชนที่เป็นตัวแทนเพื่อพูดถึงการมีส่วนร่วมกับนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีเรื่องสารคดี นิทานชุดคุณธรรม และส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต่าง ๆ

วัคซีนป้องกันโควิดของอินเดีย ‘มั่นใจ’ ได้รึเปล่า? | News​ มีนิสส​ More​ Minutes Contrast

วัคซีนป้องกันโควิดของอินเดียอนุมัติแล้ว แต่ ‘มั่นใจ’ ได้รึเปล่า?

.

โดนัลด์ ทรัมพ์ เตรียมรับชะตากรรมหนัก หลังเป็นส่วนหนึ่งในต้นเหตุการจราจลที่ส่อเค้าบานปลาย

ในที่สุด ม็อบผู้สนันสนุน โดนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะกลายเป็นอดีตก็มาตามนัด อย่างที่ทรัมพ์เคยส่งสัญญาณประกาศนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 6 มกราคม 2021 ที่สภาคองเกรสในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่หลายคนเคยปรามาสว่า ยังจะมีแฟนคลับเดนตายของทรัมพ์เหลืออยู่สักเท่าไหร่ หลังจากที่ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐเมื่อ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2020 มีการรับรองอย่างเป็นทางการแล้วว่าผู้ชนะคือ นาย โจ ไบเดน ไม่มีพลิกโผ

แต่พอถึงเวลาช่วงบ่าย เริ่มประชุมสภารับรองนายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ม็อบของเหล่าบรรดาแฟนคลับของทรัมพ์ก็มาชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภากันอย่างล้นหลามเต็มพื้นที่ บางส่วนมาพร้อมอาวุธปืน ชูป้ายสนับสนุนทรัมพ์ และไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัย

จุดประสงค์ของการมาชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ เพื่อต้องการประท้วงผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาว่ามีการทุจริต โกงคะแนนการเลือกตั้ง ตามที่โดนัลด์ ทรัมพ์เคยสื่อสารผ่านทางทวิตเตอร์มาโดยตลอดว่าเขาถูกโกง และมีการบุกรุกเข้าไปในรัฐสภา จนสมาชิกผู้แทนหนีกันกระเจิง เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เกิดเสียงปืนดัง และมีผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่หญิงที่โดนกระสุนปืน ภายหลังมีรายงานว่าเสียชีวิตแล้ว

ม็อบทรัมพ์ ได้บุกยึดรัฐสภาได้กว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีการประกาศเคอร์ฟิวในเวลา 6 โมงเย็น และทางการจัดส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมาควบคุมสถานการณ์จนสงบเรียบร้อย จึงสามารถเปิดประชุมสภาต่อได้ในเวลา 2 ทุ่ม

วันนี้จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความอัปยศอดสูของมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ได้เห็นภาพของกลุ่มคนที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และใช้กำลังและอาวุธบุกรุกเข้าไปในรัฐสภา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในระบบการปกครองของสหรัฐ และมีการใช้ความรุนแรงจนเกิดความสูญเสีย

ฟากประธานาธิบดีทรัมพ์ ที่ตอนนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของปัญหา แม้จะพยายามออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ ให้ร่วมชุมนุมกันอย่างสงบ และเคารพกฎหมาย แต่ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแม้แต่น้อย ซึ่งตอนนี้ ทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม ต่างระงับบัญชีผู้ใช้ของทรัมพ์เป็นการชั่วคราวแล้ว

และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้คลี่คลายลง ผลกระทบตามหลังย่อมสะท้อนกลับไปทางโดนัลด์ ทรัมพ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเขามีเวลาเหลือในตำแหน่งเพียงแค่ไม่ถึง 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ โจ ไบเดน เข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 มกราคม หลังจากนี้ โดนัลด์ ทรัมพ์ อาจต้องเจอพายุลูกใหญ่ จากคดีความค้างเก่าในการใช้คำสั่งประธานาธิบดีที่ศาลสูงบางรัฐพิจารณาว่าไม่ชอบด้วยกฏหมาย หรือยุยงปลุกปั่นจนเกิดความรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิต ในวันที่เขาไม่มีสิทธิ์คุ้มกันในตำแหน่งแล้ว

ส่วนคนที่จะได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ ไม่ต่างจากทรัมพ์ หนีไม่พ้นรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ที่เขาคาดหวังจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยหน้า แต่ภาพลักษณ์และการกระทำของทรัมพ์อาจฝังแน่นลงในประวัติชีวิตในการดำรงตำแหน่งที่ไม่อาจสลัดหลุดได้ แม้ว่า ไมค์ เพนซ์ ได้ออกมาทวิตเตอร์ประณามกลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรง และแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต โดยเน้นย้ำว่าฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงจะไม่มีวันชนะ รวมถึงสมาชิกพรรครีพับลิกัน ต่างออกมาปฏิเสธว่าม็อบในวันนี้ ไม่ใช่กลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน แต่เป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่ไม่เคารพกฎหมายที่ไม่อาจรับได้

และนี่อาจจะเป็นจุดแตกหัก แยกทางระหว่างทรัมพ์ และชาวรีพับลิกันแล้วก็เป็นได้

ส่วนทั่วโลกก็จับตาเหตุการณ์ในสหรัฐในมุมมองที่ต่างกันออกไป

ประธานาธิบดีเอมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นในกรุงวอชิตัน ดี.ซี. วันนี้ ไม่สมกับชาวอเมริกันเลย” และยังโพสต์ต่อในทวิตเตอร์ว่า “พวกเราเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย”

สตีเฟ่น โลฟเวน นายกรัฐมนตรีสวีเดนออกมากล่าวว่า ทั้งประธานาธิบดีทรัมพ์ และ ชาวสภาคองเกรสหลายคนต้องรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็ไม่พลาด ออกมากล่าวประณามความรุนแรงที่สภาคองเกรสว่าช่างเป็นซีนที่น่าหดหู่ใจที่ได้เห็น ยิ่งเกิดที่สหรัฐอเมริกา ประเทศที่กล่าวว่าเป็นเสาหลักของประชาธิปไตยทั่วโลก ซึ่งไม่ควรเลยที่จะเกิดเรื่องเช่นนี้ในวันที่มีการเปลี่ยนผ่านอำนาจ

ส่วนสำนักข่าว Global Times ของจีนรายงานความเห็นของชาวเน็ตจีน ที่มีต่อเหตุการณ์บุกยึดสภาคองเกรสของสหรัฐว่า เป็นเรื่องของกรรมเก่า ที่สหรัฐเคยสนับสนุนกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงให้ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง และวันนี้ก็ได้มาเจอกันตัวเอง โดยมามีการเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่ชาวม็อบฮ่องกงบุกทำลายสภาฮ่องกงเมื่อปี 2019 กับเหตุการณ์ที่สภาคองเกรสของสหรัฐในวันนี้อย่างประชดประชันว่า อยู่ฮ่องกงเรียกฮีโร่ แต่อยู่ที่สหรัฐเรียกผู้ก่อการร้าย

แต่เรื่องนี้จะเป็นกรรมเก่าของสหรัฐ กรรมใหม่ของทรัมพ์ หรือกรรมสะสมของโจ ไบเดน ที่จะต้องมีดูแลชาวสหรัฐที่มีความแตกแยกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างไร และจากเหตุการณ์นี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นประเทศโลกที่ 3 หรือ ประเทศพัฒนาแล้ว หากประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ผิด ข่าวปลอม ข้อความในสื่อโซเชียลเต็มไปด้วยข้อความรุนแรง วาทกรรมที่สร้างความเกลียดชัง ความแตกแยกและความรุนแรงก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่


แหล่งข่าว

https://www.theguardian.com/us-news/2021/jan/06/trump-blows-up-us-democracy-the-world-watches-on-in-horror

https://www.aljazeera.com/news/2021/1/6/pro-donald-trump-protesters-storm-us-capitol

https://www.globaltimes.cn/page/202101/1212074.shtml

https://abcnews.go.com/US/timeline-pro-trump-protesters-stormed-capitol/story?id=75096094

สภาคองเกรสยืนยันชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของ โจ ไบเดน หลังได้รับเสียง Electoral Vote เหนือกว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง 3 เสียงของรัฐเวอร์มอนต์ทำให้ ไบเดน ได้คะแนนเกิน 270 เสียง

ทั้งนี้ วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรปฏิเสธการคัดค้านไม่ยอมรับคะแนนเสียงเลือกตั้งของรัฐจอร์เจียและเพนซิลเวเนีย ซึ่งไบเดนนำทรัมป์ พรรครีพับลิกันยังคัดค้านการรับรองคะแนนเสียงเลือกตั้งของรัฐแอริโซนา เนวาดา และมิชิแกน

“การรับรองคะแนนเสียงของประธานวุฒิสภา จะถือเป็นการประกาศที่เพียงพอแล้วว่า บุคคลที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเป็นใคร วาระจะเริ่มต้นในวันที่ 20 มกราคม 2021” ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวหลังจากการนับคะแนน Electoral Vote สิ้นสุดลง

การรับรองดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผู้สนับสนุนทรัมป์ก่อการจลาจลโดยบุกเข้าไปในรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่ผ่านมา โดยการประชุมของสภาคองเกรสในการรับรองคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการหยุดชะงักเป็นเวลาหลายชั่วโมงเมื่อผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้ามา โดยขณะนั้นเพิ่งนับคะแนนไปได้เพียง 12 เสียงเท่านั้น

หลังเหตุการณ์คลี่คลายลง สภาคองเกรสได้ดำเนินการนับคะแนนต่อในเวลาประมาณ 20.00 น. และในที่สุดผลการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก็สิ้นสุดลง พร้อมกับชัยชนะของไบเดน ที่คะแนน 306 ต่อ 232 เสียง นั่นหมายความว่า โจ ไบเดน กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ

ด้าน แดน สกาวิโน (Dan Scavino) ผู้ช่วยด้านโซเชียลมีเดียของทรัมป์ ได้เป็นตัวแทนทวีต “คำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” แทนเจ้าตัว เนื่องจากบัญชีทวิตเตอร์ถูกแบนชั่วคราว ความว่า

“แม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงกับผลของการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ข้อเท็จจริงก็ทำให้ผมเข้าใจ อย่างไรก็ตาม จะมีการส่งมอบตำแหน่งอย่างถูกระเบียบในวันที่ 20 มกราคม ผมพูดเสมอว่า เราจะต่อสู้ต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่ามีการนับเฉพาะคะแนนเสียงตามกฎหมายเท่านั้น แม้ว่านี่จะเป็นการสิ้นสุดวาระแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประธานาธิบดี แต่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง”


ที่มา: PPTV / CNN / The Guardian


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top