Friday, 25 April 2025
NEWS

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ โควิด-19 ที่ระบาดขึ้นเป็นระลอก 2 โดยระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นคงทำให้หลายคนวิตกว่าจะย้อนกลับไปเหมือนต้นปีที่ผ่านมาหรือไม่ ไม่ว่าการต้องอยู่ภายใต้พื้นที่จำกัด

เกิดการกักตุนและขึ้นราคาหน้ากากอนามัย กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก บ้านเมืองเงียบเหงามาแทนการฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัว ซึ่งดูจะเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่สำหรับปีหน้า

“อยากขอส่งกำลังใจไปถึงทุกคนด้วยความเชื่อมั่นว่า สถานการณ์ระลอกนี้ก็จะผ่านพ้นไปได้ หากเราเผชิญหน้ากับมันอย่างเข้มแข็ง ด้วยสติ และด้วยการถอดบทเรียนจากการอยู่ร่วมกับโควิดตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด สับสน และไม่ชัดเจนของรัฐบาล จนนำไปสู่ความกลัว แน่นอนว่า โควิด-19 ไม่ใช่เชื้อกระจอกหรือไวรัสธรรมดาดังที่รัฐมนตรีบางท่านพูด แต่ไม่ได้หมายความว่าการกลับมาเจอตัวเลขผู้ติดเชื้อจะหมายถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายเสมอไป”

พิธา ยังมองว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ควรดูแลการแพร่กระจายเชื้อควบคู่กับการประคับประคองเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องวางเป้าหมายมีผู้ติดเชื้อเป็น 0 ไปตลอด แต่ต้องมีเป้าหมายที่สามารถการรุกตรวจได้เร็วขึ้น พบผู้ติดเชื้อได้มากขึ้น

ซึ่งจะนำไปสู่การจัดการได้ดีขึ้นกว่าเดิม เมื่อมองศักยภาพต่าง ในระดับชุมชนยังมี อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ช่วยคัดกรอง ส่วนระบบสาธารณสุขในเวลานี้เชื่อมั่นว่ามีความเข้มแข็งและมีศักยภาพเพียงพอในการรุกตรวจและคัดกรองได้อย่างรวดเร็ว จึงอยากให้สบายใจมากขึ้นว่า แม้จะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น หรือตัวเลขไม่เป็น 0 แต่จะยังสามารถรับมือได้ไปพร้อม ๆ กับการดูแลความสมดุลของภาคเศรษฐกิจ

“จากข้อมูลเมื่อต้นปี เรามีแพทย์และพยาบาลรวมกันเกือบ 190,000 คน จำนวนเตียงรองรับทั้งประเทศ 7,000 กว่าเตียง และเรายังไม่มีเงินกู้จาก พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนแผนงานด้านสาธารณสุขที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายแม้แต่บาทเดียวในตอนนั้น แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป เรามีศักยภาพเพียงพอที่จะรับมือสถานการณ์ได้ แต่อาจต้องให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษในบางพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เช่นในจังหวัดสมุทรสาคร”

พิธา ยังย้ำว่า "มาตราการดูแลโควิดที่ผ่านมาได้ทำให้เกิดพิษเศรษฐกิจที่ได้ทำร้ายหลายล้านคนตั้งแต่เมื่อต้นปี หลายครอบครัวยังไม่สามารถกลับมาฟิ้นคืนสู่สภาพเดิมได้ รัฐบาลจึงต้องระวังอย่างยิ่ง และต้องตระหนักว่าพิษเศรษฐกิจที่เกิดจากการล็อคดาวน์ ถ้าหนักหนาและเข้มงวดเกินไป จะเป็นภัยร้ายแรงกว่าโควิด-19"

"นอกจากนี้ ควรต้องสื่อสารให้สังคมไทยเปลี่ยนมุมมองต่อแรงงานข้ามชาติ โดยมองว่าเป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจที่ขาดไม่ได้อีกแล้ว แต่นโยบายรัฐบาลช่วงที่ผ่านมา กลับไม่มีการปรับตัวอะไร ทั้งยังทำให้การนำเข้าแรงงานข้ามชาติอย่างถูกต้องและควบคุมได้มีต้นทุนที่สูงไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ผลักให้ต้องไปนำเข้าแรงงานข้ามชาติด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย

นี้ยังไม่นับรวมขบวนการหาประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้ จึงควรใช้เป็นโอกาสในการปฏิรูปการจัดการแรงงานข้ามชาติใหม่ มีนโยบายที่เอื้อต่อการเข้ามาอย่างถูกต้อง ตรวจเชื้อ กักตัวและติดตามตัวได้ด้วยต้นทุนที่เหมาะสมกับนายจ้าง ต้องทำให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ผิดกฎหมายเข้ามาอยู่ในระบบและเสียภาษีอย่างถูกต้อง"

"อีกเรื่องสำคัญที่รัฐบาลไทยไม่ควรละเลยคือ ‘ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์’ ของกลุ่มแรงงานข้ามชาติหลายล้านคนโดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานมายาวนาน ต้องอยู่ในที่แออัดและเข้าไม่ถึงระบบสุขภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการระบาดของไวรัสในครั้งนี้

ซึ่งในเรื่องนี้แม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ที่นั่งใน ศบค.ก็เคยเตือนไว้ รวมถึงพรรคก้าวไกลก็เคยแสดงความกังวลเรื่องนี้มาตลอด เพราะข้อมูลจากการลงพื้นที่ทำให้รู้ว่า การติดเชื้อเพียงเคสเดียวในสถานที่แบบนี้ก็สามารถลุกลามได้กว้าง ดังที่มีบทเรียนให้เห็นจากเวียดนามและสิงคโปร์ โดยพรรคก้าวไกลได้เตือนเรื่องนี้พร้อมข้อเสนอมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 เดือน แต่ปรากฏว่าการขยับเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพเสี่ยงนี้จากภาครัฐกลับยังไม่มีการขยับมากเท่าที่ควร"

"เรื่องสุดท้ายที่หลายคนเป็นกังวลกันคือมาตรการล็อคดาวน์ ว่าจะเกิดการล็อคดาวน์ขึ้นทั่วประเทศหรือไม่ ซึ่งผมคิดว่ารัฐบาลควรให้ความชัดเจนโดยเร็ว โดยมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าการล็อคดาวน์นั้นจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ไหน ผมคิดว่าการล็อคดาวน์ทำได้ในลักษณะจำกัดวงหรือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และควรมาพร้อมกับการเยียวยาที่ชัดเจน

จะต้องไม่มีคำถามว่าทำไมไม่ได้ห้าพันอีก เพราะการล็อคดาวน์ทำร้ายเศรษฐกิจปากท้องมากมายเหลือเกิน และกิจกรรมช่วงปีใหม่ควรจะสามารถทำได้หากมีการประเมินถึงความเสี่ยงน้อย มีมาตรการคัดกรองและ Social Distancing ที่ชัดเจน"

"ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าเราในฐานะประชาชนจะนิ่งนอนใจ อย่าลืมการป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยและการรักษาระยะห่างอย่างเข้มงวด ล้างมือด้วยสบู่และหมั่นใช้เจลแอลกอฮอล์ เมื่อพบอาการเสี่ยงติดเชื้อต้องรีบไปพบแพทย์และไม่ปิดบังข้อมูล ทั้งหมดนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและบุคคลที่ท่านรัก เราจะผ่านเรื่องนี้กันไปได้ครับ" หัวหน้าพรรคก้าวไกลทิ้งท้าย

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เห็นชอบให้มีการเวิกฟอร์มโฮมในส่วนของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชน ช่วงประมาณวันที่ 24 - 27 ธ.ค.

โดยที่ทำเนียบรัฐบาล วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่าในอีก 2 - 4 ข้างหน้าจะมีสภาพอากาศกดทับทำให้มีฝุ่นพิษเกิดขึ้นอีกว่า เรื่องนี้มีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เห็นชอบให้มีการเวิกฟอร์มโฮมในส่วนของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชน ช่วงประมาณวันที่ 24 - 27 ธ.ค.

ทั้งนี้จำนวนวันให้ยึดข้อมูลการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นหลัก ส่วนมาตรการอื่นเช่น การปิดโรงเรียน ต้องหารือก่อนเนื่องจากจะให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ ตนได้ให้ศูนย์บริหารมลพิษทำโพลกับประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่หากจะมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น ปิดโรงเรียน ลดปริมาณรถยนต์ แล้วจึงมาพิจารณาว่ามาตรการดังกล่าวนั้นจะสามารถลดปริมาณPM 2.5 ในสภาพอากาศกดทับได้มากเพียงใด ถ้ายังไม่พอก็ต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้นไปอีก

แต่ขอย้ำว่ารัฐบาลมีแนวทางในการลดPM 2.5 โดยนายกฯให้ความสำคัญเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ไม่อยากให้มีผลกระทบกับชีวิตของประชาชนมากเกินไป

เวทีมวยราชดำเนินออกมาตรการป้องกันการระบาดโควิด-19 ด้วยการหยุดทำการแข่งขันไม่มีกำหนด

สืบเนื่องจากคู่สามีภรรยาสัญชาติไทย อายุ 39 ปี และ 37 ปี อาชีพค้าขาย ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ที่ถูกตรวจพบติดโควิด-19 ทั้งคู่ได้เดินทางไปยังจุดต่าง ๆ ในจังหวัดนนทบุรี รวมถึงค่ายมวยจิตรเมืองนนท์

เพื่อความปลอดภัย และเพื่อภาพลักษณ์ของวงการหมัดมวยไทย ที่จะไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำอีกครั้ง ล่าสุด สนามมวยเวทีมวยราชดำเนิน ได้ออกแถลงการณ์ผ่านหน้าเพจ ประกาศยกเลิกการจัดมวยทุกรายการตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2563 เป็นต้นไป

"จากสถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมาระบาดอีกครั้ง สนามมวยเวทีราชดำเนิน ได้ประชุมกับทีมงานจิตรเมืองนนท์และทีมงานของสนามมวยสยามอ้อมน้อยแล้ว สรุปได้ว่าเพื่อความปลอดภัยของคนในวงการมวยรวมถึงภาพลักษณ์ของวงการมวยไทย สนามมวยเวทีราชดำเนิน จึงขอประกาศยกเลิกการจัดมวยทุกรายการตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะกลับมาคลี่คลาย อนึ่งสนามมวยราชดำเนิน จะกลับมาจัดมวยได้อีกเมื่อไหร่นั่น ขอให้แฟน ๆ ติดตามความคืบหน้าต่อไป"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยให้รอฟังแถลงการณ์สถานการณ์โควิดเย็นนี้ พร้อมย้ำขอให้เชื่อมั่น ทุกอย่างยังควบคุมได้

ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี(ครม. )บางส่วนได้หารือกันนอกรอบที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรีโดยใช้เวลาเกือบ 10 นาที โดยไม่มีการแถลงข่าวเหมือนทุกครั้ง

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ให้ฟังผลประชุมครม.จากคณะโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรอฟังเย็นนี้จะมีแถลงการณ์เรื่องสถานการณ์โควิด ขอให้เชื่อมั่นว่าเรายังคอนโทรลได้อยู่ และ เมื่อวานก็ได้บอกไปแล้ว ว่า 7 - 10 วัน ดูระยะความปลอดภัย" จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันทีเพื่อบันทึกเทปแถลงการณ์สถานการณ์โควิดที่จะออกในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้

อย่างไรก็ตามในเวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดโครงการทดลองเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ท่าเรือแคท ทาวน์เวอร์ กสท. และเปิดโครงการนำร่องท่าเรืออัจฉริยะ (SmartPier) และในเวลา 16.00 น. นายกฯ จะเยี่ยมชมโครงการนำร่องในการพัฒนา ท่าเรืออัจฉริยะ(Smart Pier) ที่ท่าเทียบเรือสะพานพระพุทธยอดฟ้า

รัฐมนตรีว่าการกระทราวงอุตสาหกรรม ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ ยืนยัน อาหารทะเลไม่ใช่แหล่งแพร่โควิด-19 พร้อมเผย รัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่น กุ้ง-อาหารทะเลกินได้ หวั่นกระทบส่งออก

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทราวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงข้อกังวลของภาคอุตสาหกรรมจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาครว่า ขณะมีข่าวว่าตัวของอาหารทะเล เช่น กุ้ง และอาหารอื่น ๆ จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคหรือไม่นั้น ขอยืนยันในข้อเท็จจริงว่า อาหารทะเลไม่ใช่ตัวแพร่เชื้อ แต่ตัวที่จะทำให้เกิดการแพร่เชื้อนั่นคือบรรจุภัณฑ์

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ทำข้อมูลชี้แจงคณะรัฐมนตรีแล้วว่า อาหารทะเลทั้งหลายไม่ทำให้เกิดโรคระบาด เวลานี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น หากสามารถชี้แจงได้ และประชาชนมีความเชื่อมั่นด้วยก็จะไม่กระทบต่อการส่งออกด้วย

ด้านนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมครม.ให้กระทรวงสาธารณสุขและผู้เกี่ยวข้อง เร่งสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการบริโภคกุ้งว่าสามารถรับประทานได้ โดยเวลานี้ผู้เลี้ยงกุ้งกลุ่มได้รับผลกระทบ เช่น ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อ และส่งผลต่อเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งจำนวนมาก

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (22 ธันวาคม พ.ศ.2563)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 427 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 5,716 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 60 ราย รักษาหายเพิ่ม 25 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 4,078 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,578 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 382 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จาก สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย , บาห์เรน 1 ราย , ปากีสถาน 4 ราย , ซูดาน 2 ราย , เยอรมนี 1 ราย ,ฝรั่งเศส 1 ราย , คูเวต 1 ราย และ สหรัฐอเมริกา 3 ราย ผู้ติดเชื้อในประเทศ จำนวน จำนวน 16 ราย จาก จ.สระบุรี 3 ราย ฉะเชิงเทรา 1 รายกทม. 5 ราย ปทุมธานี 2 ราย เพชรบุรี 1 ราย สมุทรปราการ 2 ราย อุตรติตถ์ 1 ราย และ นครปฐม 1 ราย และผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (คัดกรองเชิงรุกในชุมชน) จำนวน 397 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 152 ราย รักษาหายแล้ว 149 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 363 ราย รักษาหายแล้ว 347 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 6.72 แสน ราย รักษาหายแล้ว 5.47 แสน เสียชีวิต 20,085 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 37 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 95,327 ราย รักษาหายแล้ว 78,393 ราย เสียชีวิต 438 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.17 แสน ราย รักษาหายแล้ว 96,685 ราย เสียชีวิต 2,465 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.62 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.29 แสน ราย เสียชีวิต 8,957ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 58,432 ราย รักษาหายแล้ว 58,287 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1,414 ราย รักษาหายแล้ว1,269 ราย เสียชีวิต 35 ราย

เจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล ถึงแก่การมรณภาพแล้วที่ โรงพยาบาลกรุงเทพ สิริอายุ 100 ปี 11 เดือน 15 วัน 80 พรรษา

เจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล/ประธานกรรมการคณะสงฆ์ธรรมยุตในประเทศแคนาดา ได้ถึงแก่การมรณภาพ ในวันอังคารที่ 22 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2563 เวลา 07.32 น. สิริอายุ 100 ปี 11 เดือน 15 วัน 80 พรรษา

วัดธรรมมงคลและคณะแพทย์ผู้ดูแลรักษา จึงขอประกาศแจ้งข่าวการมรณภาพของเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) ให้ได้ทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ กำหนดการอื่น ๆ ทางวัดจักแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป

ในประกาศของวัดธรรมมงคล ระบุว่า หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ได้เข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลกรุงเทพมาตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.63 โดยคณะแพทย์ได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ ควบคู่กับการกายภาพบำบัดทำให้อาการดีขึ้นสลับคงที่เรื่อยมา แต่เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ธ.ค.63 อาการหลวงพ่อกลับทรุดลง และมรณภาพด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 22 เดือนธันวาคม พ.ศ.2563 เวลา 07.32 น. สิริอายุ 100 ปี 11 เดือน 15 วัน 80 พรรษา

อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย ‘จาตุรนต์ ฉายแสง’ โลงอก หลังศาลพิพากษายกฟ้อง กรณีแถลงข่าวไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ปี 57 ระบุไม่ใช่การปลุกปั่น เป็นภัยต่อความมั่นคง

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดสืบพยานจำเลยในคดีหมายเลขดำคดีดำ อ.3055/62 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา9 เป็นโจทก์ฟ้อง นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทยเป็นจำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืน ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่37/2557, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(3)

กรณีวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2557 จำเลยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทั้งต่อต้านการเข้าควบคุมอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) โดยให้ประชาชนเห็นว่า การเข้าควบคุมอำนาจของ คสช. เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง และคำสั่งหรือประกาศ คสช.ก็ไม่ถูกต้องตามกฎหมายฯทำให้ประชาชน

การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนทั่วไปต่อต้านการคุมอำนาจของ คสช. เป็นการยั่วยุปลุกปั่นทำลายความน่าเชื่อถือของคณะ คสช.เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 16 ,368,91 พ.ร.บ.เกี่ยวกับการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา14

โดยวันนี้ นายจาตุรนต์ เดินทางมาศาลพร้อมด้วย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นทนายความให้จำเลย และประชาชนที่รอให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยทำความผิดตามฟ้อง 116 หรือไม่ เห็นว่า ตามมาตรา 116 ระบุว่า กระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต

เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ เพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

แต่จำเลยเพียงแต่ไปงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่างประเทศ มีผู้เข้าฟังประมาณ 80 คน และจำเลยได้แถลงเป็นภาษาอังกฤษใจความสรุปได้ว่า ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขอเรียกร้องให้คืนอำนาจให้ประชาชนโดยจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว ขอให้ประชาชนอดทนและแสดงออกอย่างสันติวิธี แม้พยานฝ่ายโจทก์จะให้เหตุผลว่า จำเลยเป็นบุคคลที่เคยดำรงค์ตำแหน่งสำคัญ

และตำแหน่งสุดท้ายคือ รตว.กระทรวงศึกษา เป็นคนที่มีประชาชนให้ความเชื่อถือ และการที่จำเลยได้แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับคสช.ในช่วงเริ่มแรกของการยึดอำนาจ ยังมีความไม่สงบในหลายพื้นที่ การกระทำของจำเลยอาจจะเป็นเหตุให้ยุยงปลุกปั่นประชาชนให้หลงเชื่อคล้อยตาม และออกมาต่อต้านการรัฐประหาร จนเกิดความไม่สงบในบ้านเมือง

แต่ความผิดตาม ม.116 ต้องปรากฎโดยชัดแจ้ง เป็นการละเมิดกฎหมายของแผ่นดิน การที่จำเลยไปแถลงข่าวดังกล่าว เป็นไปตามสิทธิเสรีภาพโดยสุจริตตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการทางการแสดงออกโดยคำพูดที่ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับ ตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก

อย่างไรก็ตามไม่ปรากฎว่าหลังจากจำเลยได้แถลงข่าวแล้วมีประชาชนออกมาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ไม่สงบในสังคม และในข้อความที่จำเลยแถลงไม่มีข้อความใดที่เจตนาให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช.

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่าจำเลยตามความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ เห็นว่า โจทก์ไม่ได้มีพยานหลักฐานใดมาแสดงให้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เฟซบุ๊ก Chaturon.FanPage” กลับได้ข้อเท็จจริงจากพยานว่าหลังจากจำเลยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนจำเลยถูกควบคุมตัวและไม่อนุญาตให้จำเลยใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ๆ สอดคล้องกับพยานจำเลยยืนยันว่าหลังจากทหารเข้าควบคุมตัวจำเลยถูกยึดโทรศัพท์มือถือและไม่มีเครื่องมือสื่อสารไม่สามารถติดต่อเครือญาติได้

เมื่อข้อความที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กตามที่โจทก์ฟ้องอยู่ในช่วงระหว่างที่จำเลยถูกควบคุมตัว พยานหลักฐานของโจทก์จึงยังไม่มีมูลเพียงพอที่จะรับฟังได้ พิพากษายกฟ้อง

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ออกแถลงการณ์ชี้แจง หลังพบบุคลากร ติดโควิด 1 ราย พร้อมประกาศปิดพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย - สั่งบุคลากรทำงานที่บ้านแล้ว

นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (ผอ.สวทช.) ได้ออกแถลงการณ์สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เรื่อง กรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่สำนักงาน

ระบุว่า เนื่องด้วย ในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2563 สวทช. โดยคณะกรรมการอำนวยการโควิด-19 สวทช. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กรณียืนยันการตรวจพบผู้ปฏิบัติงานในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยจำนวน 1 คน เข้ารับการรักษาตัวด้วยภาวะไข้ขึ้นสูง ณ โรงพยาบาลเอกชน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2563

โดยผลจากการตรวจสอบตามขั้นตอนทางการแพทย์ พบว่าผู้ปฏิบัติงานดังกล่าว ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งขณะนี้ ได้เข้าพักรักษาตัวตามกระบวนการในการควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ สำนักงานขอแจ้งให้ทราบถึงการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

1.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการสอบสวนทางระบาดวิทยาแล้ว และได้นำส่งผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูง เข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 ต่อไปแล้ว หากกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดได้รับผลตรวจเป็น Negative จะให้กักตัวที่ ที่พักอาศัยเพื่อสังเกตอาการเพิ่มเติมเป็นเวลา 14 วัน หรือหากผลการตรวจเป็น Positive จะส่งเข้าพักรักษาตัวตามกระบวนการในการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป พร้อมกับขยายวงการสอบสวนทางระบาดวิทยาอย่างต่อเนื่อง

2.) กรณีผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่ำ ให้กักตัวที่ ที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง

3.) ประกาศปิดพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยเป็นระยะเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 - 24 ธันวาคม พ.ศ.2563 เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อทุกพื้นที่ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย และให้บุคลากรและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ปฏิบัติงานในพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home)

อนึ่ง สำนักงานให้ความสำคัญต่อมาตรการการเฝ้าระวัง ป้องกันและการควบคุมโรค ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้สอบทานมาตรการรักษาความสะอาดและแนวปฏิบัติของ สวทช. แล้วพบว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งนี้ จะได้แจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าคนที่ไม่ได้อยู่ภายในจังหวัดสมุทรสาครได้มาขอตรวจเชื้อ โควิด-19 แล้วโรงพยาบาลไม่ตรวจให้หรือบางกรณีต้องเสียค่าใช้จ่ายเองนั้น ยืนยันว่า เป็นข่าวไม่จริง

ตอนนี้คนที่เดินทางผ่านจังหวัดสมุทรสาครหรืออยู่ในจังหวัดที่มีการพบผู้ติดเชื้อ หรือมีอาการเข้าข่ายที่จะเป็น โควิด-19 ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ ทันที เพราะตนได้สั่งการให้โรงพยาบาล และสถานพยาบาลต่าง ๆ ทำการตรวจให้ตามสิทธิ์ ส่วนเรื่องเงินค่าตรวจนั้นทางกระทรวงสาธารณสุข จะนำไปเบิกจากสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)เอง ขอย้ำว่ากลุ่มเสี่ยงสามารถไปตรวจได้ทันที จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดกัน

"สมมติว่าเดินไปแล้วมีอาการไข้ เจ็บคอ แล้วบอกแพทย์ว่าไปหัวหินมาผ่านสมุทรสาครแวะทานข้าว เมื่อบอกอย่างนี้ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงด้วยอยู่แล้ว แล้วทางแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัย แต่ถ้าเป็นคนปกติจะต้องมีการสัมภาษณ์กันก่อนที่จะตรวจ โดยการใช้วิธีสวอปจมูก หากเข้าข่าย ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะดูแลให้ในเรื่องของการตรวจเชื้อ" นายอนุทินกล่าว

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีขอเวลาพิจารณา 7 วันเรื่องการล็อคดาวน์ปีใหม่ แต่หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้ารถพุ่มพวง จะต้องพิจารณาเร็วขึ้นกว่า 7 วันหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า "ตอนนี้เรามีการประเมินอยู่แล้วและในเวลานี้ได้มีการตรวจเชื้อแบบเคสบายเคส โดยเข้าไปพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้คนเหล่านั้นได้เข้ามารับการตรวจให้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในกลุ่มก้อนเดียวกันอยู่"

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังกล่าวถึงการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แก้ไขร่างพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ที่จะมีการพิจารณาในวันนี้ ว่า พรบ. ควบคุมโรคเป็นการแก้ไขเพื่อให้เกิดการคล่องตัวมากขึ้น

เนื่องจากหลายเสียงระบุว่าบ้านเมืองเราเป็นประชาธิปไตยทำไมจึงต้องมีการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน ดังนั้นจึงจะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงพรบ. ควบคุมโรค เพื่อเพิ่มอำนาจให้กับคณะกรรมการควบคุมโรคให้สามารถออกมาตรการต่าง ๆ ได้ แต่ไม่มีผลกระทบในเรื่องของการปฏิบัติติ

ซึ่งหลังปีใหม่หากสถานการณ์นิ่ง เราก็อาจจะไม่ใช้พรก. ฉุกเฉินแต่จะมาเพิ่มอำนาจในพรบ. ควบคุมโรคแทน ซึ่งวิธีปฏิบัติในพรบ.นั้นคงไม่ต้องคุยในรายละเอียดมากนักเพราะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ดูทั้งหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์จนถึงวันนี้ครม.ต้องมีมาตรการพิเศษใดเป็นมติเพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤติหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "เรายังมีศบค. อยู่จึงยังไม่จำเป็นจะต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง"

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีขอเวลาพิจารณา 7 วันเรื่องการล็อคดาวน์ปีใหม่ แต่หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้ารถพุ่มพวง จะต้องพิจารณาเร็วขึ้นกว่า 7 วันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ตอนนี้เรามีการประเมินอยู่แล้วและในเวลานี้ได้มีการตรวจเชื้อแบบเคสบายเคส โดยเข้าไปพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้คนเหล่านั้นได้เข้ามารับการตรวจให้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในกลุ่มก้อนเดียวกันอยู่"

นายอนุทิน กล่าวว่า "ส่วนกรณีที่ขณะนี้มีข่าวว่าคนที่ไม่ได้อยู่ภายในจังหวัดสมุทรสาครได้มาขอตรวจเชื้อ โควิด-19 แล้วโรงพยาบาลไม่ตรวจให้หรือบางกรณีต้องเสียค่าใช้จ่ายเองนั้น เป็นข่าวไม่จริง ตอนนี้คนที่เดินทางผ่านจังหวัดสมุทรสาครหรืออยู่ในจังหวัดที่มีการพบผู้ติดเชื้อ หรือมีอาการเข้าข่ายที่จะเป็น โควิด-19 ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ ทันที เพราะตนได้สั่งการให้โรงพยาบาล

และสถานพยาบาลต่าง ๆ ทำการตรวจให้ตามสิทธิ์ ส่วนเรื่องเงินค่าตรวจนั้นทางกระทรวงสาธารณสุข จะนำไปเบิกจากสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เอง ขอย้ำว่ากลุ่มเสี่ยงสามารถไปตรวจได้ทันที จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดกัน"

"สมมติว่าเดินไปแล้วมีอาการไข้ เจ็บคอ แล้วบอกแพทย์ว่าไปหัวหินมาผ่านสมุทรสาครแวะทานข้าว เมื่อบอกอย่างนี้ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงด้วยอยู่แล้ว แล้วทางแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัย แต่ถ้าเป็นคนปกติจะต้องมีการสัมภาษณ์กันก่อนที่จะตรวจ โดยการใช้วิธีสวอปจมูก หากเข้าข่าย ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะดูแลให้ในเรื่องของการตรวจเชื้อ" นายอนุทินกล่าว

รองนายกรัฐมนตรี "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ยืนยันไม่มีเจ้าหน้าที่เอี่ยวลักลอบนำแรงงานเถื่อนเข้าไทย ลั่นถ้าพบคนทำผิด มีระเบียบจัดการชัด พร้อมระบุ ขณะนี้ได้ส่งทหารคุมชายแดนเพิ่มแล้ว

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงมาตรการตรวจเข้มการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน ว่า ได้เพิ่มกำลังทหารแล้ว เราป้องกันทั้งหมด

ส่วนจะต้องล็อคดาวน์จังหวัดตามแนวชายแดนหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุว่า จะประเมินสถานการณ์หนึ่งสัปดาห์ จะต้องดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร ถ้ารุนแรงขึ้นก็จำเป็นต้องล็อคดาวน์ เพื่อรักษาคนส่วนใหญ่ไว้

เมื่อถามว่าประเมินสถานการณ์ขณะนี้อย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ประเมินไม่ได้ ประชาชนต้องช่วยกัน และดูแล ส่วนมาตรการที่จะใช้ดำเนินการต้องดูตามสถานการณ์ อย่าไปคิดมาก

ขณะที่การจัดการกบข่องโหว่ที่มีการลักลอบเข้าประเทศอย่างไรนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้พยายามทำอยู่ แต่ช่องทางธรรมชาติมีระยะทางยาว ต้องป้องกันทุกอย่างโดยนำกำลังทหารเข้าไปดูแลเพิ่มมากขึ้น เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องลักลอบนำแรงงานเข้ามา พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า "ไม่มี ตอนนี้ดูแลอยู่ และสั่งการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปดูแลด้วย และยังไม่เห็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ หากมีการทุจริต ก็มีระเบียบที่จัดการแน่นอนอยู่แล้ว"

สำหรับแฟน ๆ ร้านครัวดอกไม้ขาว สาขาสยามสแควร์วัน วันนี้คงต้องเบรกมื้ออร่อยไปก่อน เพราะทางร้านได้ทำการปิด Big Cleaning 1 วัน หลังพบไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาใช้บริการ

ทั้งนี้ร้านครัวดอกไม้ขาว สาขาสยามสแควร์วัน ประกาศปิดให้บริการวันนี้ (22 ธันวาคม พ.ศ.2563) เพื่อทำการ Big Cleaning เนื่องจากพบผู้ป่วยโควิด-19 มาใช้บริการเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา

โดยทางร้านฯ ได้มีการออกประกาศผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ครัวดอกไม้ขาว - White Flower’ ระบุข้อความว่า...

เรียน ลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน

สืบเนื่องจากข่าวที่มีผู้ป่วย COVID-19 มาใช้บริการที่ครัวดอกไม้ขาว สาขา สยามสแควร์วัน ในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา ทางร้านรับทราบข้อมูล และได้ประสานงานกับทางอาคารสยามสแควร์วัน ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของอาคารกำลังดำเนินการเข้าพ่นยาฆ่าเชื้อภายในร้านครัวดอกไม้ขาว

ร้านครัวดอกไม้ขาว สาขาสยามสแควร์วัน จะปิดให้บริการในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2563 เพื่อทำการ Big Cleaning อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ทางร้านได้พยายามติดต่อ ศูนย์บริการสาธารณสุข และ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แต่ยังไม่ทราบถึงข้อเท็จจริง ซึ่งหากทราบรายละเอียดแล้ว ทางร้านจะดำเนินการแจ้งให้ลูกค้าทุกท่านทราบ ถึงมาตรการจัดการในลำดับถัดไป

ทางร้านครัวดอกไม้ขาว ขอกราบขอบพระคุณสำหรับข้อมูล และข้อเสนอแนะที่ลูกค้าได้กรุณาติดต่อแจ้งเข้ามาให้ทางร้านได้ทราบนะคะ

ขอแสดงความนับถือ

เช้านี้อากาศเย็นลงต่อเนื่อง ยอดดอยอุณหภูมิลดลงกว่า 0 องศา

ถือเป็นจุดที่ใช้วัดความหนาวเหน็บได้เป็นอย่างดี สำหรับดอยอินทนนท์ ซึ่งเมื่อเช้านี้ อุณหภูมิบนยอดดอยอินทนนท์ ก็ลดต่ำลงถึง 0 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ภาพรวมของภูมิอากาศในช่วง 1 - 2 วันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลความเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะลดลงอีก 2 - 3 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ

ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 - 2 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ประกอบกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

โควิด-19 ระบาดระลอดใหม่ในพื้นที่สมุทรสาคร ลามถึงบริการทางการเงิน หลังสาขาธนาคารทยอยปิดสาขาลดความเสี่ยง ด้านสมาคมธนาคารไทย แนะลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเครื่องรับฝาก - ถอนเงินอัตโนมัติ และบริการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีประกาศจากคณะกรรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ด้วยมาตรการเด็ดขาด และรวดเร็ว โดยการควบคุมการเข้าออกพื้นที่และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ในพื้นที่การระบาดและพื้นที่เสี่ยงตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2563 – 3 มกราคม พ.ศ.2564 นั้น

เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน และดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 ของธนาคารสมาชิกเป็นไปมาตรการของรัฐ และแนวปฏิบัติของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด ธนาคารสมาชิกของสมาคมธนาคารไทยจึงมีความจำเป็นต้องปิดการทำงานและบริการที่อาคารและสาขาของบางธนาคารภายในเขตพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2563 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าสามารถใช้บริการหลักของธนาคาร ทั้งการถอนเงิน โอนเงินและฝากเงินในเขตพื้นที่ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องรับฝากเงินและถอนเงินอัตโนมัติที่ตั้งกระจายในพื้นที่ และบริเวณหน้าสาขาของธนาคาร รวมถึงการทำธุรกรรมผ่านระบบ PromptPay และบริการสินเชื่อต่าง ๆ ที่อยู่ในกระบวนการของสินเชื่อแล้ว

ทั้งนี้ บริการบางอย่างของธนาคารในเขตพื้นที่ที่มีการปิดสำนักงานและสาขาของธนาคารอาจจะต้องใช้เวลาการดำเนินการมากกว่าเดิม หรือล่าช้ากว่าปกติ ตามข้อจำกัดของแต่ละธนาคารในช่วงเวลานี้ โดยลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากทาง website ของแต่ละธนาคาร

ทั้งนี้ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ดังกล่าว สมาคมธนาคารไทยและธนาคารพาณิชย์มีความห่วงใยความปลอดภัยและสวัสดิภาพของพนักงานและลูกค้าเป็นสำคัญ จึงขอให้ดำเนินการตามมาตรฐานด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด

เคาะเรียบร้อยแล้ว ! สำหรับงบประมาณก้อนล่าสุดที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ และเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วง Covid-19 ในประเทศสหรัฐอเมริกา

หลังจากที่ถกเถียงกันมานานระหว่าง 2 พรรคใหญ่ เดโมแครต และ รีพับลิกัน กว่าจะได้ข้อสรุปลงตัวที่งบประมาณ 9 แสนล้านเหรียญ หรือราวๆ 27 ล้านล้านบาท เคาะผ่านสภาเรียบร้อยเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา

งบประมาณก้อนใหญ่นี้ ทางรัฐบาลกลางสหรัฐต้องการที่จะใช้เยียวยาครอบครัวชาวอเมริกัน เพื่อมีเงินไว้จับจ่ายซื้อของกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือผู้ที่ตกงาน ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เป็นสวัสดิการให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเร่งการขนส่งวัคซีนไปยังเมืองต่าง ๆ

แนนซี่ เปอโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวถึงการผ่านงบเยียวยาระดับชาตินี้ว่า "เราจะไล่ขยี้เจ้าไวรัสและเติมเงินให้กระเป๋าชาวอเมริกันให้อุ่นใจ"

รายละเอียดคร่าวๆของงบเยียวยา Covid-19 ที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ของชาวอเมริกันในปีหน้าได้แก่

- จ่ายเบี้ยยังชีพจำนวน 600 เหรียญ ให้ชาวอเมริกันทั้งเด็ก และผู้ใหญ่

- เพิ่มเงินเยียวยาการว่างงานให้อีกสัปดาห์ละ 300 เหรียญเป็นเวลา 11 สัปดาห์

- เพิ่มงบประมาณอีก 2.84 แสนล้านเหรียญใน กองทุนสินเชื่อเพื่อคุ้มครองธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือ และปลดหนี้สินบางส่วนให้กับเจ้าของธุรกิจรายย่อยที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก อาทิ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และอื่นๆ

- จัดสรรงบประมาณ 82,000 พันล้านให้กับสถาบันการศึกษาให้ปรับปรุงห้องเรียนให้เข้ากับมาตรการเว้นระยะห่าง หรือพัฒนาระบบออนไลน์

- 2 หมื่นล้านแบ่งไปซัพพอร์ทศูนย์รับเลี้ยงเด็ก และโครงการอาหาร

- บางส่วนจัดสรรไปช่วยเรื่องการกระจายวัคซีน และศูนย์บริการเกี่ยวกับ Covid-19

นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการลดหย่อนภาษี ช่วยเหลือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งเจ้าของสินทรัพย์ และผู้เช่า ที่ต่างขาดรายได้ ช่วยแบ่งเบาภาระสวัสดิการของนายจ้าง ลูกจ้าง และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับผลกระทบจากวิกฤติ Covid-19

อันที่จริง งบประมาณแจกเงินเยียวยาให้ชาวอเมริกันจากวิกฤติ Covid-19 นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่น่าจะเป็นเฟสขยายของโครงการที่ชื่อว่า CARES Act (Coronavirus Aid, Relief, and Economic Security Act) ที่โดนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะกลายเป็นอดีตผลักดันออกมาสำเร็จ

ช่วงเดือนมีนาคม 2020 ด้วยงบประมาณสูงถึง 2.2 ล้านล้านเหรียญ นับเป็นการผ่านงบประมาณก้อนใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา

และได้แจกเงินให้ชาวอเมริกันคนละ 600 เหรียญไปแล้วรอบหนึ่งแล้ว แต่งบประมาณที่จะช่วยเหลือผู้ตกงาน และสนับสนุนสวัสดิการอื่น ๆ จะสิ้นสุดลงภายในสิ้นปี ดังนั้นสภาคองเกรซต้องประชุมกันเพื่อเคาะงบประมาณในปีหน้า

และได้ลงมติเพิ่มงบเยียวยา Covid-19 เพิ่มอีก 9 แสนล้าน ที่คนอเมริกันจะได้เงินขวัญถุงอีกคนละ 600 เหรียญเพื่อเอาไปจับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจ

และแน่นอนว่าโดนัลด์ ทรัมพ์ ก็ออกมาเคลมเครดิตเรื่องโครงการ "อเมริกาไม่ทิ้งกัน" เพราะการพิจารณางบประมาณยังอยู่ในสมัยของเขา และเขาก็ต้องเป็นคนเซ็นผ่าน

ก็ถือเป็นเงินของขวัญปลอบใจชาวอเมริกันที่บอบช้ำมาตลอดทั้งปี เพราะ Covid-19 ซึ่งจนถึงปีหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะคลี่คลายได้เมื่อใด แต่อย่างน้อยมีเงินติดกระเป๋าไว้หน่อยก็อุ่นใจกว่าไม่มีนะ


แหล่งข้อมูล

https://edition.cnn.com/2020/12/20/politics/stimulus-latest-shutdown-deadline/index.html

https://www.cnet.com/personal-finance/congress-reaches-a-deal-on-new-stimulus-bill-600-checks-300-unemployment-money-more/

https://thehill.com/homenews/administration/531030-trump-pushes-congress-on-coronavirus-aid-get-it-done

https://www.businessinsider.com/trump-reportedly-will-sign-900-billion-coronavirus-stimulus-package-2020-12

https://en.m.wikipedia.org/wiki/CARES_Act


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top