Friday, 17 May 2024
NEWS FEED

ไทยสมายล์ใจป้ำ!! แจกบัตร BANGKOK SMILE CARD ขึ้นรถลงเรือไฟฟ้าฟรี ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 31 ธ.ค. 65 และ 1 ม.ค. 66

ข่าวดีรับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่จะถึงนี้ ‘ไทย สมายล์ กรุ๊ป’ ทั้งรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ในช่วงวันที่ 31 ธันวาคม 65 และ 1 มกราคม 66 ให้กับ ผู้โดยสารในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ที่ใช้บริการรถโดยสารและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าของไทย สมายล์ กรุ๊ป รายละเอียด คือ 

1.ขึ้นรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ของไทย สมายล์ กรุ๊ป ฟรี !!! 

2.รับบัตร BANGKOK SMILE CARD ฟรี !!!

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นประธานเปิดเวทีพูดคุยเครือข่ายการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ใน 'Let’s Talk TIP'

วันนี้ (28 ธ.ค. 65) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้เป็นประธานในการจัดงาน “Let’s Talk TIP : ขับเคลื่อนด้วยใจ ประเทศไทยไร้ค้ามนุษย์” ซึ่งเป็นการเสวนาระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่มีบทบาทในการร่วมกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยจัดขึ้นที่ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมประมง อัยการประจำสำนักงานคดีค้ามนุษย์ กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและแรงงาน ผู้แทนจากสถานทูตอเมริกา มูลนิธิกระจกเงา โครงการ SPRING โครงการ HUG PROJECT มูลนิธิ Stella Maris มูลนิธิ O.U.R. เอทเวนตี้วัน มูลนิธิราฟาอินเตอร์เนชั่นแนล สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย และหน่วยงานจากภาครัฐ เอกชน และประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง

โดยในงานได้มีการเปิดโอกาสให้แต่ละภาคส่วนที่ได้มาร่วมงานนี้ ได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รวมทั้งรับฟังปัญหาในการทำงานต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเวทีนี้เป็นประโยชน์อย่างมากในการสร้างความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ซึ่งจะทำให้หน่วยงานรัฐมีความเข้าใจข้อจำกัดของภาคเอกชน และในขณะเดียวกัน ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมก็รับทราบและเข้าใจการทำงานของหน่วยงานรัฐมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างเครือข่ายในการประสานงานกันมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้การทำงานร่วมกันสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

โรงพยาบาลพญาไท 3 รำลึกมหาราช บวงสรวงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตาก

บวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เทิดพระเกีรยติ 'วันพระเจ้าตากสิน' โรงพยาบาลพญาไท 3 โดย นพ.สุรพล โล่ห์สิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล รศ.พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการแพทย์ ศุภกร พะวันนา ผู้อำนวยการบริหารการตลาด พญาไท -เปาโล นพ.อภิชัย โตวณะบุตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการแพทย์ นิตยา กฤตธนเวท ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร พว.ภาวิณี วัยปัทมะ ผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล

ผวจ.มุกดาหาร จัดคาราวานน้ำใจมอบของขวัญปีใหม่ให้กลุ่มเปราะบางและผู้ป่วยติดเตียง 911 ครอบครัว

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม นายวรญาณ  บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยนางอัญชลี กัลมาพิจิตร บุญณราช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร และหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ผู้แทนภาคเอกชนและประชาชนในจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกิจกรรมโครงการ “คาราวานน้ำใจของขวัญปีใหม่จากใจชาวมุกดาหาร”เพื่อเป็นการถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิรา เทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร

นายวรญาณ กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหารได้ส่งมอบขบวนคาราวาน น้ำใจของขวัญปีใหม่จากใจชาวมุกดาหาร ให้นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ และนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร นำส่งต่อให้หัวหน้าหน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และประชาชน นำไปมอบให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 911 ครัวเรือน โดยของขวัญปีใหม่ดังกล่าวประกอบด้วยของใช้เครื่องอุปโภคบริโภคและผ้าห่มกันหนาว พร้อมกับฝากความห่วงใย ความปรารถนาดี และกำลังใจ ไปยังประชาชนกลุ่มเปราะบาง และผู้ป่วยติดเตียงทุกครัวเรือน ให้มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังใจในการต่อสู้และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป

'ผบ.ตร.' เปิดศูนย์ลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ส่งตำรวจกว่า 50,000 นาย คอยความอำนวยการจราจร พี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา เข้มงวดความเร็ว เมาสุรา ลดอุบัติเหตุบนถนน”

วันนี้ (28 ธ.ค.65) เวลา 09.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธนา  ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วีระ  จิรวีระ รอง จตช. และผู้บังคับบัญชาของศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) แถลงเปิด "ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566" เพื่อกำกับดูแลและสั่งการ ในการอำนวยการจราจรและแก้ไขสถานการณ์อุบัติเหตุ ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น (29 ธ.ค.65 ถึง 4 ม.ค.66)  

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ได้สั่งเตรียมความพร้อมกำลังพลกว่า 50,000 นาย เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงการป้องปรามไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ด้วยการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ โดยจะปฏิบัติงานตลอดช่วงเทศกาลไม่มีวันหยุด สำหรับวันนี้ เป็นวันแรกที่เปิด ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ได้สั่งการให้ บช.น. ภ.1-9 และ บก.ทล. ปฏิบัติ ดังนี้
1) อำนวยความสะดวกการจราจรเพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย โดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีรถเดินทางเข้าออก กทม. มากถึงจำนวน 7.3 ล้านคัน โดยปริมาณรถขาออกมากที่สุด วันที่ 29 และ 30 ธ.ค.65 และปริมาณรถขาเข้ามากที่สุด วันที่ 2 และ 3 ม.ค.66 จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยประสานเจ้าของถนนคืนพื้นผิวการจราจร จุดที่มีการก่อสร้าง ซ่อมแซม เป็นเหตุให้รถชะลอตัว โดยสามารถคืนพื้นผิวได้ทั้งหมด 408 จุดทั่วประเทศ จัดตำรวจอำนวยการจราจร ตามจุดสำคัญที่มีปัญหาการจราจร รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว และในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ให้มีชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์ เช่น รถยก รถสไลด์  เข้าถึงที่เกิดเหตุและคลี่คลายการจราจรได้ทันที นอกจากนี้ยังได้ออกข้อบังคับเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ ทั้งขาเข้าและออก กทม. 9 เส้นทาง 10 จังหวัด รวมระยะทาง 450 กม. โดยตำรวจทางหลวงจะเปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตามสภาพการจราจร และได้ออกข้อบังคับห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินในถนน 7 เส้นทาง เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรรวมระยะทาง 194 กม. สำหรับรถบรรทุกที่มีความจำเป็นต้องเดินรถ เช่น รถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง อาหารสด สามารถยื่นคำขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ ของ บก.ทล. ได้ที่ www.hwpdth.com  

2) การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน กำหนดเป้าหมายให้ทุก ภ.จว. ลดจำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ จากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 โดยมีมาตรการให้ทุกหน่วยทำบัญชีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เพื่อเข้าไปรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องปรามกลุ่มเป้าหมาย และตั้งจุดตรวจเพื่อกวดขันจับกุมการกระทำผิดกฎจราจรที่ เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยเริ่มบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ 22 ธ.ค.65 เป็นต้นมา เน้นหนักใน 4 ข้อหา ตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.65 – 27 ธ.ค.65 ที่ผ่านมามีการจับกุมทั้ง 4 ข้อหารวมแล้วทั้งสิ้น 9,364 ราย และนอกจากนั้น บก.ทล. มีการออกใบสั่งกล้องตรวจจับความเร็วทั่วประเทศอีกจำนวน 115,906 ราย โดยในห้วง 7 วันควบคุมเข้มข้น (29 ธ.ค.65 ถึง 4 ม.ค.66) ตร. ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มในการกวดขันวินัย  โดยมีการตั้งจุดตรวจทั่วประเทศรวม 3,771 จุด แบ่งเป็น จุดตรวจกวดขันวินัยจราจร  2,142 จุด (กำลังพล 19,699 นาย) จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,629 จุด (กำลังพล 13,726 นาย) นอกจากนั้น กรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกรายเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน หากผู้ขับขี่ปฏิเสธไม่ยอมให้ทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์ จะถูกกฎหมายสันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ตั้งแต่ 28 ธ.ค.65 ถึง 5 ม.ค.66 กำหนดให้มีการประชุมติดตามสถานการณ์อุบัติเหตุและการจราจรทุกวัน ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น โดยมอบหมาย พล.ต.อ.รอยฯ พล.ต.ท.ธนาฯ พล.ต.ท.ประจวบฯ และ พล.ต.ท.วีระฯ เป็นประธานการประชุมตลอด 7 วัน และวันนี้เป็นการประชุมเปิดศูนย์ฯ เพื่อสั่งการทุกหน่วยให้เตรียมความพร้อมขั้นสุดท้ายก่อนเริ่มภารกิจจริง  

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การจะลดอุบัติเหตุบนถนนได้อย่างมีนัยสำคัญ ต้องสร้างจิตสำนึกการขับขี่ปลอดภัยตามกฎหมายจราจรให้กับสังคม ซึ่ง ตร. ได้ทำโครงการ อาสาตาจราจร ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ บ.วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จส.100 และ สวพ.91 เพื่อให้ประชาชนส่งคลิปกล้องหน้ารถ หรือคลิปจากกล้องโทรศัพท์มือถือ ที่บันทึกเหตุการณ์การกระทำผิดกฎจราจรสำคัญที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น หรือบันทึกอุบัติเหตุสำคัญและสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในทางคดีของตำรวจได้เพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด โดยสำหรับในเทศกาลปีใหม่นี้ จะมีแคมเปญพิเศษ “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” ให้ประชาชนส่งคลิปในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นของเทศกาลปีใหม่ 2566 จากคลิปที่ส่งมาทั้งหมด จะมีการคัดเลือกให้เหลือ 7 คลิป และจะมีรางวัลให้คลิปละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 70,000 บาท โดยได้รับสนับสนุนเงินรางวัลจาก บ.วิริยะประกันภัย ฯ
 

สำนักอัยการสูงสุดร่วมกับสภากาชาดไทยจัดโครงการขอรับบริจาคโลหิตด้วยหัวใจ หนี่งคนให้สามคนรับสำหรับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน

ด้วยสำนักงานอัยการสูงสุด จัดโครงการบริจาคโลหิตด้วยหัวใจหนึ่งคนให้สามคนรับครั้งที่ 12 ในวันที่ 26 และ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 08.30-15.30 ณ อาคารสมาคมภริยาอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนรัชดาภิเษก โดยมีวัตถุประสงค์ในการมีส่วนร่วมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

เมื่อวันที่ 26-27 ธ.ค. 65 ณ อาคารสมาคมภริยาอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยนางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด เป็นประธานในพิธีเปิดรับบริจาคโลหิต ต่อลมหายใจ 1คนให้ 3 คนรับ ครั้งที่ 12 พร้อมด้วย นายพรชัย ชลวาณิชกุล ประธานโครงการบริจาคโลหิตสำนักงานอัยการสูงสุด นางศศนันท์ เจตน์เจริญรักษ์ นายกสมาคมภริยาอัยการ ดร.ฉวีวรรณ คำพา ประธานที่ปรึกษาโครงการบริจาคโลหิต สำนักงานอัยการสูงสุด ,ดร.พรทิพย์ วงษ์นครินทร์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคม กต.ตร.กทม.(ด้านสังคม) ข้าราชการอัยการระดับสูง พร้อมด้วย คุณโอ๊ต-สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ คุณเรย์-อิสริยะ อภิชัย มิสไทยแลนด์เวิลด์ และประชาชนทั่วไป

​พิธีปล่อยแถวส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2566 (New Year 2023)

วันนี้ (27 ธ.ค.65) เวลา 17.00 น. กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดพิธีปล่อยแถวส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2566 (New Year 2023) ณ บริเวณลานศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยเป็นการแสดง ความพร้อมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยวในการดูแลนักท่องเที่ยว และประชาชนในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2566 (New Year 2023) โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา เป็นประธานในพิธี

​กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทั่วราชอาณาจักร การดูแลความปลอดภัยให้บริการช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้เล็งเห็นความสำคัญในหลักการดังกล่าวข้างต้น จึงได้จัดพิธีปล่อยแถวส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ต้อนรับเทศกาล ปีใหม่ 2566 (New Year 2023) และเป็นการยกระดับเพิ่มอันดับความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว ของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้านการรักษาความปลอดภัย และสร้าง ความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๒ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖

วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๒ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ โดยมี พลเอก เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ๒๔๑ อาคาร ๒ ชั้น ๔ กองบัญชาการกองทัพบก 

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้มอบนโยบายให้เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท และเสียสละ เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลและยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความพร้อมรองรับภัยคุกคามและรูปแบบการโจมตีที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยในวันนี้ที่ประชุมฯ ได้ร่วมกันนำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถในด้านต่าง ๆ ของหน่วย ดังนี้

กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนากองทัพไทย ซึ่งมุ่งเน้นใน ๔ ระบบงาน ประกอบด้วย ระบบงานการปฏิบัติการร่วม เพื่อบูรณาการพลังอำนาจของชาติ ทรัพยากรทางทหาร และการบริหารจัดการการใช้กำลังทหารได้อย่างประสานสอดคล้อง รวมทั้งเสริมขีดความสามารถตามคุณลักษณะของแต่ละเหล่าทัพ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ระบบงานการฝึก เพื่อพัฒนาระบบการฝึกทุกระดับ ให้ทุกส่วนราชการมความพร้อมในด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และแผนในการปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบงานการศึกษา เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาทรัพยากรบุคคลของกระทรวงกลาโหม ทั้งในด้านการศึกษา การฝึกอบรม และการจัดการเรียนการสอนให้สามารถปฏิบัติงานตามภารกิจหน้าที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และระบบงานส่งกำลังบำรุง เพื่อพัฒนาระบบการส่งกำลังบำรุงมุ่งไปสู่การพึ่งพาตนเองด้วยความร่วมมือกับมิตรประเทศและภาคเอกชน เพื่อให้งานด้านส่งกำลังบำรุงสามารถสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารพร้อมเผชิญภัยคุกคามรูปแบบใหม่ และช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม

กองทัพบก ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพบก เพื่อมุ่งสู่การปฏิบัติการร่วมของกองทัพไทย ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในด้านการพัฒนากองทัพและการส่งเสริมการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในเรื่อง “การปรับปรุงโครงสร้างกองทัพให้มีขนาดที่เหมาะสมกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ ทุกมิติ และทุกระดับความรุนแรง มุ่งเน้นการปฏิบัติการร่วมที่มีความคล่องแคล่วและอำนาจกำลังรบสูง มียุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถปฏิบัติภารกิจที่มีความหลากหลาย” ได้แก่ การปรับปรุงโครงสร้างการจัดหน่วยแบบ “เบา ประหยัด มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ” การเสริมสร้างการพร้อมรบ การดำรงความต่อเนื่องในการรบ และการพัฒนาความทันสมัย

กองทัพเรือ ได้มีการเสริมสร้างกำลังกองทัพตามยุทธศาสตร์ และแนวทางการใช้กำลังของกองทัพเรือ เพื่อให้มีขีดความสามารถในการปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และสามารถปฏิบัติการยุทธ์ร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพตามสาขาปฏิบัติการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การส่งผ่านกำลังทางบก และการยุทธ์บรรจบกับกำลังทางบก การป้องกันภัยทางอากาศของกองเรือ การบินลาดตระเวนรบ และการโจมตีเป้าหมายทางทะเลกับกำลังทางอากาศ

ลอยอังคารอัฐิ 3 กำลังพล รล. สุโขทัยอัปาง ที่อ่าวสัตหีบ

เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันนี้ 27 ธ.ค.65 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ( ผบ.กร.) พร้อมด้วยคุณกีรตา พันธุ์เอี่ยม ประธานชมรมภริยากองเรือยุทธการ นำญาติของผู้เสียชีวิตจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ประกอบด้วย ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก ได้รับพระราชทานยศเป็น พลเรือตรี สามารถ แก้วผลึก พันจ่าเอก อำนาจ พิมที ได้รับพระราชทานยศเป็น นาวาตรี อำนาจ พิมที  และพันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ ได้รับพระราชทานยศเป็นนาวาตรี อัชชา แก้วสุพรรณ์ หลังจากประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพแล้วเมื่อ 26 ธ.ค.65 ได้นำอัฐิของทั้ง 3 นายทหาร มาประกอบพิธีลอยอังคาร โดยเรือหลวงปัตตานี จากท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ นำอัฐิประกอบพิธีลอยอังคาร ณ อ่าวสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งญาติมีความเชื่อว่าเมื่อนำอัฐิลอยอังคาร จะทำให้ภพหน้าเกิดมาสุขสบายและร่มเย็น

กองทัพเรือ โดยผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และประธานชมรมภริยากองเรือยุทธการ ได้จัดทำพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมพบปะพูดคุยให้กำลังใจเหมือนในฐานะครอบครัวเดียวกันและพร้อมที่ให้การสนับสนุนคนในครอบครัวของผู้วายชนม์ อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยจะไม่มีการทอดทิ้งอย่างเด็ดขาด 

ด้านญาติของ 3 ทหารกล้าที่วายชนม์ ได้กล่าวขอบคุณกองทัพเรือ ที่ไม่ทอดทิ้งและให้การดูแลอย่างดีมาก ถึงแม้จะเสียใจแต่ก็มีความภาคภูมิใจมากๆ ที่กองทัพเรือดูแลและจัดพิธีการต่างๆ อย่างสมเกียรติชายชาติทหาร

‘ก.เกษตร’ มอบของขวัญปีใหม่ให้ชาวประมง เว้นค่าธรรมเนียมเลี้ยงหอยทะเล - สัตว์น้ำในกระชัง

‘เฉลิมชัย’ มอบของขวัญปีใหม่ให้ชาวประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 67 จังหวัด ‘อลงกรณ์’ เผยรัฐมนตรีเกษตรฯ ลงนามกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมเพาะเลี้ยงหอยทะเลและสัตว์น้ำในกระชังแล้ว 

(27 ธ.ค. 65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยเปิดเผยวันนี้ว่า ตามที่ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้หาแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยมีมติเห็นชอบให้กรมประมงดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่มีการเลี้ยงหอยทะเลและการเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังในพื้นที่ทั่วประเทศและเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณา

ล่าสุด ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ลงนามในกฎกระทรวงดังกล่าวแล้วและนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเพื่อให้มีผลบังคับใข้โดยเร็วต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top