Sunday, 18 May 2025
NEWS FEED

'รศ.ดร.สุวินัย' เลคเชอร์!! พระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่? แนะ!! ไม่ต้องถก แค่เข้าใจคำสอนที่เป็นหัวใจแห่งพุทธธรรมก็พอ

(27 มี.ค.67) รองศาสตราจารย์ ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เห็นเมื่อสองวันก่อน อยู่ดี ๆ พิภพ ธงชัย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนเสื้อเหลือง) ก็โพสต์ขึ้นมาลอย ๆ ว่า "พระพุทธเจ้าไม่มีจริง!"

ไม่ต้องมาเถียงกันหรอกว่า พระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่?

เราควรมาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนดีกว่าว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร และอะไรคือคำสอนที่เป็นหัวใจของพุทธธรรม?

ถ้าเป็นชาวพุทธจริง ๆ ย่อมทราบดีว่า การเจริญสติเป็นแก่นคำสอนของพระพุทธองค์ และเป็นทางเอกไปสู่การบรรลุพุทธะ

'สติ' ตามความหมายของพุทธธรรมคือ 'สติ' ที่เป็นสภาพธรรมฝ่ายดี เป็นเจตสิกที่เกิดกับจิตที่ดีเท่านั้น ... โดยจะไม่เกิดกับอกุศลจิตเลย

สติจึงเป็นเจตสิก และเป็นเจตสิกที่เป็นสังขารขันธ์ 

เจตสิกหมายถึงองค์ประกอบของจิต อาการหรือการแสดงออกของจิต

ถ้าแบ่งเจตสิกตามประเภทของ ขันธ์ จะแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ เวทนาขันธ์ (เวทนาเจตสิก), สัญญาขันธ์ (สัญญาเจตสิก) และ สังขารขันธ์ (ซึ่งเป็นเหมือนรหัสพันธุกรรมของจิต)

ดังนั้น ขณะใดที่เป็น 'อกุศล' ขณะนั้นย่อมไม่มี 'สติ' ตามความหมายของพระพุทธองค์

แต่ถ้าขณะใดที่เป็น 'กุศล' ไม่ว่าระดับใด ขณะนั้นย่อมมี 'สติเจตสิก' เกิดร่วมด้วยเสมอ 

เพราะ 'สติ' ทำหน้าที่ระลึก และกั้นกระแสกิเลสที่เกิดขึ้น ไม่ให้เกิดขึ้นในขณะที่ 'สติ' เกิด

นอกจากนี้ 'สติ' ยังมี 4 ขั้นในคำสอนเชิงปฏิบัติของพระพุทธองค์ คือ…

(1) สติขั้นทาน (ระลึกที่จะให้)
(2) สติขั้นศีล (ระลึกที่จะไม่ทำบาปทางกาย-วาจา-ใจ)
(3) สติขั้นสมถะ (ระลึกลมหายใจ)
(4) สติขั้นวิปัสสนา (ระลึกลักษณะสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตรงหน้า พร้อมกับ 'รู้' ว่ามันไม่มีตัวตน)

ในวิชาอภิธรรมของพระพุทธองค์... 'สติ' สังกัดอยู่ใน ‘โสภณเจตสิก 25’

โสภณเจตสิก หมายถึง กลุ่มเจตสิกฝ่ายดีงาม เป็นกลุ่มที่ประกอบได้กับ 'โสภณจิต' โดยที่โสภณเจตสิกมีอยู่ 25 ดวง แบ่งเป็น 4 กลุ่มดังนี้...

กลุ่มที่หนึ่ง ‘โสภณสาธารณเจตสิก 19’ 
ได้แก่ สติ, สัทธา, หิริ, โอตตัปปะ, อโลภะ, อโทสะ, ตัตรมัชฌัตตา (อุเบกขา) รวมเป็น 7

ที่เหลือจัดเป็น 6 คู่รวมเป็น 12 คือการบังคับควบคุมเจตสิกและจิตที่ดี ได้แก่...
(1) กายลหุตา จิตลหุตา (ทำกายเบาจิตเบา)
(2) กายมุทุตา จิตมุทุตา (ทำกายอ่อนจิตอ่อน)
(3) กายกัมมัญญัตตา จิตกัมมัญญัตตา (ทำกายจิตควรแก่งาน คือพอประมาณ)
(4) กายอุชุตา จิตตอุชุตา (ทำกายจิตให้ตรง ไม่เอนเอียง)
(5) กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ (ทำกายจิตให้สงบ)
(6) กายปาคุญญตา จิตตปาคุญญตา (ทำกายจิตให้คล่องแคล่ว)

กลุ่มที่สอง ‘วิรัตติ 3’
ได้แก่ สัมมาวาจา(เจรจาชอบ) สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ) และ สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)

กลุ่มที่สาม ‘อัปปมัญญา 2’
ได้แก่ กรุณา กับ มุทิตา

กลุ่มที่สี่ ‘ปัญญา 1’
ได้แก่ ปัญญินทรีย์ หรือการกำหนด 'รู้'

จะเห็นได้ว่า ‘ลมปราณกรรมฐาน’ เป็นกรรมฐานที่ทรงพลังมากในการเจริญ 'สติเจตสิก' เพราะลมปราณกรรมฐานมุ่งเจริญ ‘โสภณสาธารณเจตสิก 19’ โดยตรงนั่นเอง

ใครจะด้อยค่าพุทธธรรมยังไง...ก็ตามใจเถิด 

ใครจะไม่เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า...ก็แล้วไปเถิด

ใครจะอวดดีประกาศว่าพระพุทธเจ้าไม่มีจริง...ก็ทำไปเถิด

เพราะเพชรแท้ ไม่ว่าจะถูกมองยังไง...มันก็ยังเป็นเพชร (แห่งปัญญา) อันเลอค่าอยู่ดี

~ สุวินัย ภรณวลัย
Suvinai Pornavala

มาจริง! 'นายกฯเศรษฐา-แพทองธาร' ร่วมกับผู้ก่อตั้ง SUMMER SONIC แถลงข่าวจัดคอนเสิร์ตระดับโลก ที่เมืองไทย หวังดันไทย เป็น Festival HUB แห่งเอเชีย รัฐอำนวยความสะดวกเต็มที่ เปิดไลน์อัพศิลปินตัวท็อป ปลื้มวงไทย 'BODYSLAM-วี วิโอเลต' ร่วมด้วย

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มีการจัดงานแถลงข่าว 'SUMMER SONIC BANGKOK' อย่างเป็นทางการ โดยมี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ , แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และ นาโอกิ ชิมิซุ ผู้ก่อตั้ง SUMMER SONIC และ CEO ของ Creativeman Productions , โอตากะ มาซาโตะ อุปทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าว 

สำหรับเทศกาลดนตรี 'SUMMER SONIC' เป็นงานดนตรีที่ก่อตั้งในปี 2543 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีมาเป็นระยะเวลากว่า 23 ปี โดยมีศิลปินชื่อดังระดับโลกมาร่วมงานมากมายและยังได้เปิดโอกาสให้ศิลปินดาวรุ่งทั่วเอเชียได้ขึ้นแสดงและแจ้งเกิดในตลาดเอเชีย รวมถึงในระดับสากลเช่นกัน และในปี 2024 นี้ เป็นครั้งแรกที่ 'SUMMER SONIC' จะออกจากประเทศญี่ปุ่นและจัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ 'SUMMER SONIC BANGKOK' ในวันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 ณ อิมแพค เมืองทองธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและญี่ปุ่น ที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนานซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล ด้วยการส่งเสริมศิลปินไทยให้สร้างชื่อเสียงไปยังต่างประเทศ และ ยังสนับสนุนการท่องเที่ยว เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวประเทศไทย รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมทางด้านดนตรีของศิลปินหลากหลายประเทศ ให้ได้รับการยอมรับสู่ระดับสากล โดยทางรัฐบาล และ คณะกรรมซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติสนับสนุนงานในครั้งนี้

แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า เทศกาลดนตรีหนึ่งงานมันหมายถึงโอกาสทาง Festival Economy เทศกาลหนึ่งงาน รวมคนหลายหมื่น ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ไว้ด้วยกัน คือการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในหลากหลายมิติ ทั้งการเดินทาง ที่พัก โรงแรม อาหาร ร้านค้า จนไปถึงธุรกิจอีเว้นท์ นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านเทศกาลดนตรี ระหว่างผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญ คนทำงาน และศิลปิน จะได้ต่อยอดพัฒนาการทำงานของตัวเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมดนตรีของประเทศไทยระยะยาว 

แพทองธาร กล่าวต่อว่า Summer Sonic เป็นเทศกาลที่ให้โอกาสกับศิลปินหน้าใหม่ทั่วโลก ได้มาพบเจอกับแฟนๆในเอเชีย และเป็นโอกาสของศิลปินไทยได้แสดงศักยภาพ และในฐานะของรัฐบาล Summer Sonic Bangkok มีความสำคัญต่อการพัฒนาให้ประเทศไทย เป็น Festival HUB ของภูมิภาค เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้ภาครัฐทำงานร่วมกับเอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทศกาล ให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการจัดงานเทศกาลมากขึ้นผ่านนโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น One Stop Service สำหรับการจัดเทศกาลดนตรี การออกแบบพื้นที่สำหรับการจัดคอนเสิร์ตในอนาคต การแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคของการพัฒนา การก่อตั้ง Festival Academy สถาบันเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการจัดเฟสติวัล และอีกหลายเรื่องที่รัฐจะอำนวยความสะดวกให้สามารถจัดเทศกาลดนตรี ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการ

"ขอขอบคุณ Naoki และ Paradise E& A , ICA และขอชื่นชมและเป็นกำลังใจคณะผู้จัดงาน ที่ผลักดันให้เกิดเทศกาลนี้ในประเทศไทย เอกชนของไทยมีความสามารถค่ะ ที่สามารถสร้างโอกาสดีๆ นี้ให้กับประเทศไทยได้ หวังว่า Summer Sonic Bangkok ในปีแรกนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยและเกิดการพัฒนาต่อยอดไปในอนาคต" แพทองธาร กล่าวจบ 

จากนั้น เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า ตนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เทศกาลดนตรีระดับโลก SUMMER SONIC จะมาจัดงานเทศกาลที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยเป็นการจัดงานครั้งแรกอย่างเป็นทางการนอกประเทศญี่ปุ่นด้วย โดยงาน SUMMER SONIC ในญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 350,000 คนต่อปี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น และยินดีอย่างยิ่งที่จะประเทศไทยจะได้มีโอกาสจัดงานดังกล่าว ตอบรับกับการเป็น Tourism Hub ตามวิสัยทัศน์ Ignite Thailand ที่ได้ ประกาศไป ขอบคุณ รัฐบาลญี่ปุ่นที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยสำหรับการจัดงานนี้

งาน SUMMER SONIC จะเป็นโอกาสสำหรับศิลปินไทยที่มีหัวใจรักดนตรี สอดแทรกความเป็นไทย แสดงออกไปให้ชาวโลกรับรู้รวมทั้งสร้างให้ประเทศไทยเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของโลกดนตรี โดย รัฐบาลพร้อมสนับสนุนงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2024 ให้ประสบความสำเร็จในประเทศไทยและให้กลายเป็นบ้านหลังที่สองอันอบอุ่น เราพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ศิลปินและผู้เข้าร่วมงาน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนก็จะร่วมเป็นส่วนร่วมในการผลักดันงานเทศกาลฯ ให้ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างความทรงจำที่ดีให้แก่ทุกคนที่มาร่วมงาน และขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วโลกที่ชื่นชอบเทศกาลดนตรีเข้าร่วมงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2024 ซึ่งจะมีศิลปินกว่า 20 วงตลอดการแสดง 2 วันเต็ม และขอส่งกำลังใจให้ศิลปินไทยและศิลปินจากต่างประเทศในการแสดงผลงาน ที่ยอดเยี่ยมในงานนี้ด้วย มั่นใจว่าการจัดงานครั้งนี้จะพัฒนาอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวของไทย ให้เป็น World Event Destination ได้อย่างแน่นอน 

สำหรับไลน์อัพชุดที่ 1 ของศิลปิน ที่จะมาร่วมแสดงในคอนเสิร์ต Bangkok Summer Sonic 2024 ที่ประเทศ มีวงดนตรีและศิลปินชื่อดังจากทั้งไทยและต่างประเทศอาทิ LAUV , YOASOBI , LAUFEY AURORA , BODYSLAM (special guests BABYMETAL & F. HERO) , NOTHING BUT THIEVES , BRIGHT , HENRY MOODIE , VIOLETTE WAUTIER เป็นต้น และหลังจากนี้จะมีการเปิดไลน์อัพศิลปินเพิ่มอีก ซึ่งเป็นศิลปินระดับเซอร์ไพรส์ผู้ชมอย่างแน่นอน 

ชลบุรี-ปิดเทอม นักว่ายน้ำเยาวชนเกือบ 200 คน ร่วมว่ายน้ำรอบเกาะ เก็บขยะ ปลูกฝังรักษ์เต่า รักษ์ทะเล

ในช่วงปิดภาคเรียนเด็กๆ และเยาวชนนักว่ายน้ำจากสโมสรต่างๆ อาทิ สโมสรว่ายน้ำวิชั่น สโมสรว่ายน้ำราชนาวีสัตหีบ และนักว่ายน้ำเพื่อการอนุรักษ์ (Open water Swimming) ภาคประชาชน ตลอดจนผู้ปกครองและจิตอาสาเกือบ 200 คน ได้มารวมตัวกันใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ร่วมทำกิจกรรม รณรงค์สร้างความตระหนักในการว่ายน้ำรอบเกาะขาม เพื่อการอนุรักษ์ และเก็บขยะ เพื่อกระตุ้นและปลูกฝังการอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาทางทะเล เต่าทะเล สัตว์น้ำทะเล และปะการัง โดยใช้ทักษะความเป็นเลิศด้านการว่ายน้ำที่ถนัดว่ายน้ำรอบเกาะขาม แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระยะทาง 3 กม. ภายใต้โครงการ “เกาะขาม รักษ์เต่า รักษ์ทะเล ลดขยะ” ณ อุทยานใต้ทะเลเกาะขามแสมสาร สัตหีบ

โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทัพเรือ โดยพลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นาวาเอกอโศก ศรีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 พล.ต.สุรจิตร รวยรื่น ประธานฝ่ายกีฬาว่ายน้ำมาราธอน สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย จ.อ.ไพฑูรย์ แสงแก้ว คณะกรรมการฝ่ายว่ายน้ำมาราธอน สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย และผู้ช่วยผู้ฝึกสอนสมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย คุณอโณมา ศรัณย์ศิขริน (เมจิ อโณมา) ร่วมสมทบทุนอนุรักษ์เต่าทะเล เรือตรี มาโนช ผลยังส่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีพซี คอมเมอร์เชียล ไดฟ์วิ่ง จำกัด ร่วมสมทบทุนอนุรักษ์ เต่าทะเล นาวาเอกนิติรักข์ การดี ผู้แทนทัพเรือภาคที่ 1 ที่ปรึกษากิจกรรม นาวาตรีวสันต์ ภิรมย์โพธิ์ ผบ.ร้อย บก.ทรภ.2  ประธานฝ่ายกิจกรรมและดูแลควบคุมความปลอดภัยทางน้ำ และคณะกรรมการฯ ให้การสนับสนุนและเข้าร่วมกิจกรรม ในวันนี้

สำหรับกิจกรรม "เกาะขาม รักษ์เต่า รักษ์ทะเล ลดขยะ" นับเป็นช่องทางหนึ่งในการรณรงค์ให้ทุกๆ คน ได้ตระหนักและใส่ใจในการช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลของพื้นที่สัตหีบ และไม่ทิ้งขยะโดยเฉพาะขยะจำพวกพลาสติก ซึ่งเป็นอันตรายต่อเต่าทะเล และสัตว์น้ำทะเล อื่นๆ

ซึ่งการรณรงค์ดังกล่าว จะส่งผลให้ท้องทะเลของประเทศไทยสวยงาม เป็นมรดกส่งต่อสืบทอดไปถึงบุตรหลานรุ่นหลัง ต่อไปอีกด้วย 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

‘หนุ่มสุรินทร์’ ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจจากสุรินทร์ไปจีน ระยะทาง 2,589 กม. เพื่อสัมผัสหิมะครั้งแรกในชีวิต

เมื่อวานนี้ (26 มี.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘ป่าน แก้วปลั่ง’ โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า…

“ความฝันอยู่ตรงนั้นเอง  อีกไม่ไกลเลย เราจะเอาเวฟไปขับบนหิมะ”

ต่อมาได้โพสต์ข้อความอีกว่า “2,589 กม.จากสุรินทร์ นี่คือหิมะครั้งแรกของผมและเห่าดง จัดไปสักครั้งในชีวิต เวฟมันทำได้เชื่อดิ”

โดยเจ้าของโพสต์เป็นชาว จ.สุรินทร์ ขี่จักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ ที่เขาตั้งชื่อว่าเห่าดง จากสุรินทร์ไปถึงเมืองจีน เพื่อตามล่าความฝันขับรถบนหิมะ 

โดยออกเดินทางพร้อมกับเพื่อน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เริ่มต้นจากจังหวัดสุรินทร์ ผ่านด่านช่องจอม ก่อนขี่จักรยานยนต์ออกจากไทยทาง สปป.ลาว เพื่อไปยังประเทศจีน โดยใช้เวลาเดินทาง 7 วัน

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น สุดจริง, สุดยอดครับพี่, ของแทร่อ่าค้าบบบ, ใช้ชีวิตได้คุ้มค่ามาก น้อยคนที่จะทำได้แบบนี้ อยากลุยแบบนี้บ้างจัง

รรท.ผบ.ตร.สั่งลงดาบย้าย ผกก.สน.พญาไท หลังกองปราบฯ จับบ่อนพนันให้พื้นที่ พร้อมกำชับเข้มทั่วประเทศ ห้ามมีบ่อน ปราบปราบเด็ดขาด คาดโทษย้ายจริง

วันนี้ (27 มีนาคม 2567) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) สั่งการกำชับตำรวจทุกพื้นที่ ทุกหน่วยทั่วประเทศ ให้เร่งรัดปราบปรามอบายมุข การพนัน การกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ซึ่งได้ประชุมเน้นย้ำกำชับผ่านผู้บัญชาการทุกหน่วยไปแล้ว โดยเฉพาะการปราบปรามบ่อนการพนัน ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปฏิบัติการจับกุมอย่างต่อเนื่อง

รรท.ผบ.ตร.สั่งการเน้นย้ำอีกครั้งให้ทุกหน่วยปราบปรามอย่างเข้มงวดจริงจัง เด็ดขาด และย้ำทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หากปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันในพื้นที่ หัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ต้องรับผิดชอบ โดยจะมีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการทุกราย ไม่มีการละเว้น ถือเป็นการลงโทษในทางปกครอง และหากปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการเรียกรับ หรือได้รับผลประโยชน์จะต้องดำเนินการทางอาญาด้วย ถือเป็นข้อตกลงที่จะทำให้สำนักงานแห่งชาติเป็นที่ยอมรับของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น ขอให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม อย่างเด็ดขาด ทำตามนโยบายรัฐบาล และ รรท.ผบ.ตร.อย่างเคร่งครัด โดยจะสั่งการให้หน่วยปฏิบัติของส่วนกลางลงไปตรวจสอบด้วย

กรณีล่าสุดที่ตำรวจกองบังคับปราบปราม จับกุมบ่อนการพนันในพื้นที่ สน.พญาไท นั้น รรท.ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ออกคำสั่งให้ ผกก.สน.พญาไท มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.น.1 แล้ว ถือเป็นตัวอย่างของการละเลยไม่ปฏิบัติตามนโยบาย

ตำรวจภาค 4 แถลงจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงทั่วภาคอีสาน ความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

ตำรวจภูธรภาค 4 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี  รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ รอง ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.วิโรจน์  สีน้ำเงิน รอง ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผบก.สส.ภ.4 ได้สั่งการให้ กก.สส.1 บก.สส.ภ.4 ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลักลอบตัดไม้  จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เชื่อมต่อกันในหลายพื้นที่ ล่าสุดชุดจับกุมได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถยื่นคำร้องขอหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด และวันที่ 26 มี.ค.2567 เวลา 06.30 น. บก.สส.ภ.4 สามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ ดังนี้ 

1.จับกุม นายยุทธนา อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.207/2567 ลง 25 มี.ค.2567 ข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ในเคหสถาน ในสถานที่ราชการ โดยร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม" โดยจับกุมได้ที่ ถนนภายในหมู่บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี สามารถตรวจยึดของกลาง 1.รถยนต์ฮอนด้าเก๋ง ฮอนด้าสีขาว รุ่น civic 1 คัน 2. โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง  3. สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม 4. เครื่องปั่นไฟฟ้า สำหรับใช้กับเลื่อยไฟฟ้า ตกหล่นระหว่างติดตามจับกุม ก่อนควบคุมตัวส่ง สภ.ดอนจาน  จว.กาฬสินธุ์  ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และตรวจยึดไม้ท่อนขนาดใหญ่และไม้แปรรูปจำนวนหนึ่ง ส่ง สภ.พิบูลมังสาหาร เพื่อทำการตรวจสอบที่มาของไม้

2. จับกุม นายหัตถพงษ์ อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.209/2567 ลง 25 มี.ค.2567 ข้อหา "ร่วมกันพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน " จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 29 ม.7 ต.ราชธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2567 เวลาประมาณ  07.00 น. พร้อมตรวจยึดของกลาง 1.โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ส่ง สภ.ยางตลาด ดำเนินคดีตามกฎหมาย

3. จับกุม นายปัญญา อายุ 61 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.208/2567 ลง 25 มี.ค.2567 ข้อหา "ลักทรัพย์ (ไม้พะยูง) ในเวลากลางคืนในสถานที่ราชการ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม" จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 29 ม.7 ต.ราชธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2567 เวลาประมาณ 07.00 น. พร้อมตรวจยึดของกลาง 1.รถยนต์แบบแวน รุ่นอีซูซุ สีขาว 1 คัน 2.โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง 3.เลื่อยไฟฟ้า ยี่ห้อ makita 1 เครื่อง 4.แบตเตอรี่เลื่อยไฟฟ้า ยี่ห้อ makita 2 ก้อน 5.เลื่อยมือสองเกลอ 2 ปื้น 6. เชือกไนล่อนสีขาว ขนาด 24 มม. ยาว 10 เมตร  1 เส้น ส่ง สภ.ดอนจาน  จว.กาฬสินธุ์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
    
ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลเพื่อจับกุมขบวนการที่ร่วมกันก่อเหตุลักไม้พะยูงในพื้นที่ ภ.4  ที่ยังหลบหนีอีก 4 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

'เพจดัง' เผย!! สถาบันการศึกษาไทย พาเหรดออกงานในย่างกุ้ง สะท้อนหนุ่มสาวเมียนมา เตรียมลุยตลาดแรงงานระดับสูงในไทย

(27 มี.ค.67) จากเพจ 'สานต่อเจตนารมณ์ อาจารย์สมเกียรติ โอสถสภา' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า..

ความต้องการเรียนในสถาบันการศึกษาไทยในระดับที่มหาลัยไทยต้องไปออกงานแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงความต้องการเตรียมตัวเข้าตลาดแรงงานไทยในหมู่คนหนุ่มสาวเมียนมาในระดับสูงสุด

อันนี้น่าสนใจมาก

อย่างที่พูดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเด็กไทยไม่ขยัน ไม่ยกระดับตัวเองให้เข้ากับความต้องการของนายจ้าง 

ต่อไปนายจ้างไทยและนายจ้างบริษัทข้ามชาติที่มีกิจการทั่วภูมิภาคอาเซียน จะมีตัวเลือกเป็นเด็กเวียดนาม เด็กจีน เด็กเมียนมา ชั้นหัวกะทิที่เก่ง ฉลาด สื่อสารได้หลายภาษารวมทั้งภาษาไทย และพร้อมจะกลายเป็นคนไทยเมื่อเวลาผ่านไป

ประเทศไทยจะไม่ขาดคนมีฝีมือ แต่คนเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่เด็กไทยปัจจุบัน

‘สเตฟาน’ แปลกใจ!! เจอคนไทยไม่เชียร์ ‘ช้างศึก’ ลั่น!! “ทีมชาติเราเตะ เราต้องเชียร์”

ควันหลงหลังจากที่ ‘ช้างศึก​’ ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย พ่ายให้กับ ‘โสมขาว’ เกาหลีใต้ 0-3 ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มซี นัดที่ 4 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา

โดยจากผลที่เกิดขึ้นทำให้ ‘เกาหลีใต้’ เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนนจาก 4 นัด รั้งจ่าฝูงของกลุ่ม ส่วน ‘ทีมชาติไทย’ มี 4 คะแนนจาก 3 นัดอยู่อันดับ 3 ตามหลัง ทีมชาติจีน รองจ่าฝูง 4 คะแนนในจำนวนเกมเท่ากัน

ทั้งนี้ อดีตพระเอกดังอย่าง ‘สเตฟาน ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์’ ที่ห่างหายจากวงการบันเทิงไปพักใหญ่ ปัจจุบันกลายเป็นยูทูบเบอร์สายฟุตบอล และเป็นเจ้าของช่อง ‘Antihero Thailand’ ที่ล่าสุดได้ประกาศให้พนักงานหยุดงาน 7 วัน รวมทั้งยังจ่ายค่าจ้างเหมือนเดิม หากทีมชาติไทยเตะชนะทีมชาติเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตาม ควันหลงของศึกฟุตบอลเมื่อคืนนี้ ทำให้สเตฟานออกมาพูดเปิดใจผ่านชองดังกล่าว ถึงการเล่นของทีมชาติไทย และทีมเกาหลีใต้ ซึ่งในตอนหนึ่งสเตฟานกล่าวว่า 

“ผมชมเกาหลีใต้อย่างหนึ่ง ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเล่นดี คือเกาหลีใต้ไม่ว่าจะเจอยุโรป หรืออเมริกาก็ตาม มันไม่กลัว สู้เต็มที่ มันเป็นคีย์สำคัญที่ทำให้กีฬาชาติเขาเติบโตได้ จริง ๆ คนไทยมันเก่ง เชื่อผมเหอะ นักบอลก็เก่ง นักมวยก็เก่ง หลายอาชีพเก่งมาก…

“แต่บางทีคนชอบมีความรู้สึกว่า เรายังไม่ถึงเขาหรือเปล่า เราตัวเล็กกว่าเขา เรายังสู้เขายาก ผมว่าเราต้องเลิกคิดแบบนี้ แล้วเราต้องมีความมั่นใจในตัวเรามากขึ้น ควรช่วยกันส่งเสริม”

สเตฟาน กล่าวต่อว่า “เชื่อไหมผมแปลกใจมาก คือ เจอคนไทยใส่เสื้อเกาหลีใต้ ผมกล้าพูดเลยนะ คนเกาหลีใต้ทุกคนในประเทศเขาเชียร์เกาหลีใต้ แต่คนไทยบางคนดันเชียร์เกาหลีด้วย เห็นบ้างไหม ขี่มอเตอร์ไซต์เห็นใส่เสื้อเกาหลี 2 คน คนไทยอะ นี่ถ้าไปอยู่บราซิลโดนกระทืบตายนะ ไม่ได้”

“แล้วเห็นในคอมเมนต์อีกหลายอันที่บอกว่า ผมอยากให้เกาหลีชนะ เพราะไทยยังนู้นอย่างนี้ ไทยเข้ารอบก็ไม่ได้เข้าบอลโลกอยู่ดี ผมเชียร์ทีมเอเชีย เกาหลีใต้เหมือนกันดีกว่า บ้าปะ กรีดเลือดออกมาเป็นส้มตำ ไม่ใช่กิมจิ เราต้องเชียร์ไทยดิ แต่ทีมชาติคุณเตะ คุณต้องเชียร์ทีมชาติตัวเองดิวะ”

‘GAC AION’ ขนทัพรถยนต์ไฟฟ้าหลากรุ่น ร่วมงาน ‘Motor Show 2024’ พร้อมเปิดตัว Hyper HT เอสยูวีไฟฟ้าลักชัวรี่ระดับไฮเอนด์อย่างเป็นทางการ

GAC AION ขนทัพรถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus และ AION ES เข้าร่วมงาน Motor Show 2024 พร้อมเปิดตัว Hyper HT เอสยูวีไฟฟ้าลักชัวรี่ระดับไฮเอนด์อย่างเป็นทางการ นำเสนอทางเลือกที่เหนือกว่าสำหรับผู้บริโภคชาวไทย ด้วยความหรูหราระดับพรีเมียม ดีไซน์ล้ำสมัย พร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมอัจฉริยะ

(27 มี.ค.67) นายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า GAC AION ถือเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์รายแรก ๆ ในโลกที่ประสบความสำเร็จในการวิจัยเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Connected Vehicles: ICV) อย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันเป็นที่ทราบกันดีว่า GAC AION สามารถคิดค้น วิจัยและผลิตชิ้นส่วนที่เป็นหัวใจหลักของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ทั้ง 3 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่, มอเตอร์, แผงควบคุมระบบไฟฟ้า หรือ ECU ทำให้ GAC AION กลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของโลก

สำหรับประเทศไทย GAC AION ได้นำ AION Y Plus เข้ามาทำตลาดเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีของชาวไทยมาโดยตลอด สะท้อนจากยอดจองรถยนต์เป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,568 คัน และมียอดจองรถยนต์เป็นอันดับ 4 จากแบรนด์รถยนต์ที่เข้าร่วมงานทั้งหมด และยังมียอดจองเป็นอันดับที่ 2 ในแบรนด์รถไฟฟ้าภายในงาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จในการทำตลาดในประเทศไทยของ GAC AION

ในปี 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ GAC AION เติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 480,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 77% ครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 2 ของประเทศจีน และ อันดับที่ 3 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของโลก และในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา GAC AION สร้างสถิติผลิตและขายรถยนต์ได้ครบ 1 ล้านคันเร็วที่สุดในโลกเป็นประวัติการณ์ โดยใช้เวลาเพียง 4 ปี 8 เดือน การันตีถึงความสามารถและความเหนือชั้นของ GAC AION ทั้งในแง่ของกระบวนการผลิต คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการตลาดอันแข็งแกร่ง ปัจจุบัน GAC AION มีแบรนด์รถยนต์ภายในเครือทั้งหมด 2 แบรนด์ ได้แก่ AION แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า ดีไซน์ภายนอกและภายในที่ทันสมัย พร้อมด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์อัจฉริยะ และ Hyper แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ (Hi-End) ที่มาพร้อมกับความหรูหรา และเทคโนโลยีขั้นสูงสุด

ในปี 2024 นี้ GAC AION กำลังสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในช่วงเดือนสิงหาคมของปีนี้ ในขณะเดียวกันยังมีการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในประเทศไทยอีกด้วย คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนปีนี้เช่นกัน

เพื่อสานต่อความสำเร็จ และนำเสนอทางเลือกใหม่ที่เหนือกว่า ให้กับผู้บริโภคชาวไทย ล่าสุด GAC AION ได้เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 หรือ Motor Show 2024 ที่จัดขึ้นในวันพุธที่ 27 มี.ค. - วันอาทิตย์ที่ 7 เม.ย. 2567 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี โดยความพิเศษภายในงาน ได้มีการแนะนำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ Hyper อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัว Hyper HT รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าลักชัวรี่ระดับไฮเอนด์ที่หลายคนรอคอย

Hyper (ไฮเปอร์) เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ (Hi-End) ของ GAC AION ที่ตอบสนองความต้องการในกลุ่มลูกค้าผู้หลงใหลความเป็นที่สุด ทั้งความหรูหรา เทคโนโลยี และสมรรถนะขั้นสูง สะท้อนภาพลักษณ์ และรสนิยมอย่างเหนือชั้น โดยได้คิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เพื่อนำมาใช้ในรถยนต์หลากหลายรุ่นของ Hyper โลโก้ของแบรนด์สื่อถึงธนู AI ARROW เพื่อแสดงถึงศักยภาพในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยแนวคิดในการพัฒนาหลัก 4 ประการ คือ ‘ก้าวล้ำ (ADVANCE) ทันสมัย (TRENDY) สนุกสนาน (FUN) และ คุณภาพสูง (HIGH-GRADE)’ ซึ่งสร้างความสมบูรณ์แบบ ทั้งนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะ ผสมผสานในการผลิตรถยนต์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้งานได้รับ ‘ประสิทธิภาพสูงสุดที่มาพร้อมประสบการณ์ความหรูหรา และการบริการในระดับท็อปคลาส’

ในปัจจุบันแบรนด์ Hyper ของ GAC AION มีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ทั้งหมด 3 รุ่นดังนี้

- Hyper HT รถเอสยูวีไฟฟ้าระดับพรีเมียม มอบความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตัวรถมีขนาดใหญ่นั่งสบาย พร้อมฟังก์ชันและฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์ โดดเด่นด้วยประตูแบบปีกนก หรือ Gullwing Doors เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
- Hyper GT รถสปอร์ตซีดานไฟฟ้า มาพร้อมดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมการตกแต่งภายในที่ดูหรูหรา โดดเด่นด้วยประตูแบบปีกผีเสื้อ (Butterfly Doors) และออปชันระดับไฮเอนด์
-  Hyper SSR ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในประเทศไทย มาพร้อมตัวถังแบบคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว (หน้า 1 หลัง 2) ให้พละกำลังรวมสูงสุด 1,224 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เร็วสูงสุดภายใน 1.9 วินาที และมีแรงกระชากในระดับ 1.7G

โลโก้ของแบรนด์ Hyper เป็นสัญลักษณ์ ลูกศร AI สื่อถึงภูมิปัญญาและความรัก ที่สุดแห่งเทคโนโลยีและความโรแมนติก มุ่งเน้นอัจฉริยภาพ ความหรูหรา ศิลปะ และรสนิยม รังสรรค์ศิลปกรรมทางเทคโนโลยี ปัจจุบัน บริษัทได้พัฒนาขีดความสามารถก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับโลกใน 6 มิติ ได้แก่ การวิจัยและพัฒนา การผลิตอัจฉริยะ ห่วงโซ่อุตสาหกรรม การบริการด้านการตลาด วัฒนธรรมองค์กร และความเป็นสากล โดยวันนี้ เราได้นำรถรุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ Hyper ที่พร้อมผลิตเพื่อส่งมอบสู่ตลาด ‘Hyper HT’ นายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Hyper HT ถือเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่มาพร้อมกับความหรูหราและเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก เหนือระดับด้วยดีไซน์ภายนอกแบบโค้งมนที่เป็นเอกลักษณ์ (Liquid curved body) โดดเด่นด้วยประตูคู่หลังแบบปีกนก (Gullwing Doors) พร้อมเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ สะกดทุกสายตาที่ได้พบเห็น ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียมที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพิ่มความหรูหราระดับพรีเมียม รวมถึงฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น เบาะนวดไฟฟ้า ปรับระดับการนวดได้หลายรูปแบบ, เบาะหนังคุณภาพสูงให้สัมผัสการนั่งที่ดีเยี่ยมพร้อมฟังก์ชันระบายอากาศและอุ่นเบาะ เพิ่มความผ่อนคลายตลอดการเดินทาง เบาะที่นั่งด้านหลังสามารถปรับเอนได้ถึง 143 องศา มากที่สุดในรถเอสยูวีระดับเดียวกัน, ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง และฟีเจอร์อื่นๆมากมาย

จุดเด่นอันเหนือระดับของ Hyper HT มาพร้อมกับที่พักเท้าด้านหลังแบบพับได้ เพิ่มพื้นที่ยืดขาโอ่อ่าขั้นสูงสุด และ โต๊ะวางของอเนกประสงค์ สำหรับวางสิ่งของต่าง ๆ ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยกระจกกันเสียงแบบลามิเนต 2 ชั้น และพื้นที่สัมภาระขนาดใหญ่พิเศษ ความจุขนาด 670 ลิตรและเมื่อพับเบาะสามารถใช้พื้นที่ได้ถึง 1,802 ลิตร สามารถเก็บถุงกอล์ฟใบใหญ่ 2 ใบได้สบาย ๆ

ทั้งนี้ Hyper HT ถูกพัฒนาด้วยแนวคิดหลัก 4 ประการได้แก่

1. Hyper Design - ที่สุดแห่งการออกแบบเหนือระดับ เปรียบเสมือนงานศิลปะแห่งโลกยานยนต์ สะกดทุกสายตาด้วยประตูแบบปีกนก (Gullwing Doors), ไฟหน้าแบบ Diamond Cut และไฟท้ายแบบ Horizon

2. Hyper Space - มอบความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่มากกว่า ด้วยพื้นที่ภายในสุดหรูหรา ตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียม มอบประสบการณ์ในการขับขี่และการโดยสารระดับ ‘เฟิร์สคลาส’ ด้วยฟังก์ชันเบาะนวด 10 จุด และเบาะโดยสารด้านหลังที่สามารถปรับเอนได้ถึง 143 องศา

3. Hyper Energy - ไปได้ไกลและรวดเร็วยิ่งกว่า ด้วยเทคโนโลยี Magazine Battery เจเนอเรชั่นที่ 2 พร้อมระบบ Fast Charge ชาร์จเพียง 15 นาที ก็สามารถวิ่งได้ไกล 400 กิโลเมตร และหากชาร์จเต็มจะสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตร

4. Hyper Network - โครงข่ายสถานีชาร์จ Hyper Premium Charging Network เอกสิทธิ์เฉพาะลูกค้า Hyper โดยในปี 2024 จะมีการสร้างสถานีชาร์จจำนวน 15 แห่ง ครอบคลุมรัศมี 15 กิโลเมตรในกรุงเทพมหานคร และในปี 2028 จะมีการขยายโครงข่ายสถานีชาร์จเป็น 100 แห่งทั่วประเทศ

ขอเชิญชวนทุกท่านเข้ามาสัมผัส Hyper HT ยนตรกรรมแห่งความเหนือระดับ ที่จะเปิดประสบการณ์การเดินทางไปสู่โลกอนาคตครั้งใหม่ ที่บูท GAC AION (A20) ในงาน Motor Show 2024 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2567

'นิโคลัส แข้งช้างศึก - อี คังอิน แข้งเกาหลีใต้' ได้เลือด!! หลังแขนครูดตะแกรงท่อสนาม กลายเป็นเรื่องถกใหญ่หลังเกม

เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.67) ‘ช้างศึก’ ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ลงสนามในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มซี นัดที่ 4 พบกับ ‘โสมขาว’ เกาหลีใต้ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน

หลังจบเกมด้วยสกอร์ 0-3 ไทยแพ้เกาหลีใต้คาบ้าน เกมจบแต่กระแสยังร้อนแรง กลายเป็นที่พูดคุยของแฟนบอล หลังจากที่แฟนบอลได้เห็นอาการบาดเจ็บของนักเตะ เนื่องจากล้มลงก่อนผิวหนังครูดกับตะแกรงของท่อระบายน้ำด้านข้างสนามจนได้เลือด

ในจังหวะช่วงครึ่งแรก นาทีที่ 41 เป็นจังหวะที่ นิโคลัส มิคเกลสัน แบ๊กขวาทีมชาติไทย ปะทะกับ คิม มิน-แจ แข้งของเกาหลีใต้ จนกระเด็นและล้มลงไปข้าง ๆ สนาม ก่อนที่เจ้าตัวจะร้องด้วยความเจ็บปวด ซึ่งจากภาพจากกล้องถ่ายทอดสดจะเห็นได้ว่านักเตะวัย 24 ปี ได้แผลและมีเลือดไหลจำนวนมาก

นอกจากนี้ในช่วงครึ่งแรกเช่นกัน ในนาทีที่ 35 อี คัง-อิน แข้งเกาหลีใต้ ก็ได้แผลถลอกจากกรณีคล้าย ๆ ของ มิคเกลสัน ในจังหวะที่นักเตะเปแอสเช ปะทะกับ แบ๊กลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์เช่นกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top