Monday, 19 May 2025
NEWS FEED

สหรัฐฯ ติดเชื้อโควิดพุ่งทะลุแสนราย ใน 1 วัน พบเชื้อเดลตา ระบาดหนัก 2 เท่าจากเดิม ส่วนกัมพูชา ป่วยเพิ่มอีก 668 ราย ดับเพิ่ม 25 ศพ ด้านเมียนมา พบติดเชื้อพุ่ง 4,725 คน ตายอีก 392 ศพ

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) ระบุว่าสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันเพิ่มขึ้น 101,171 คน นับเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตก็กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกในเกือบทุกรัฐของสหรัฐฯ อันเป็นผลจากการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา

เว็บไซต์ของศูนย์ฯ ระบุว่าสายพันธุ์เดลตามีการระบาดอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่ครองสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 1 ของจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อยู่ที่มากกว่าร้อยละ 80 แล้วในขณะนี้ พร้อมกับระบุอีกว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่จากคนหนึ่งสู่อีกคนง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นก่อนหน้านี้ 2 เท่าตัว คาดว่าสัดส่วนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มเป็นร้อยละ 82.2 อีกทั้งได้ปรับแนวปฏิบัติด้านการสวมหน้ากากอนามัย กระตุ้นชาวอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แล้ว ให้สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และในเขตที่มีอัตราการติดเชื้อสูง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชารายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 668 คน ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 240 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 76,585 คน ด้านผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 1,375 คน หลังจากพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 25 คน ขณะที่ผู้ที่รักษาหายแล้วอยู่ที่ 69,198 คน ภายหลังผู้ติดเชื้อรักษาหายเพิ่มขึ้น 812 คน

ทั้งนี้ กัมพูชาเริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีจีนเป็นผู้จัดสรรวัคซีนรายสำคัญโดยออร์ แวนดิน รัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชาดำเนินการฉีดวัคซีนแล้ว 11.8 ล้านโดส เมื่อนับถึงปัจจุบันมีประชาชนได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว 7.13 ล้านคน และรับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว 4.67 ล้านคน ซึ่งกัมพูชาตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างน้อย 10 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 16 ล้านคน ภายในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา ว่ากระทรวงสาธารณสุขเมียนมารายงานสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 299,185 คน เพิ่มขึ้น 4,725 คน หายป่วยสะสมอย่างน้อย 209,512 คน และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 9,334 คน เพิ่มขึ้น 392 คน

อย่างไรก็ดี สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยแพร่รายงานแสดงความกังวลอย่างหนักต่อวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ว่าอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าเลวร้ายถึงขีดสุด โดยภายในเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ข้างหน้า มีความเป็นไปได้สูงที่ประชากรครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดราว 54 ล้านคนในประเทศนี้ จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ท่ามกลางการระบาดอย่างหนักและรวดเร็วของเชื้อสายพันธุ์เดลตา

สำหรับอัตราการติดเชื้อของเมียนมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ 6.29 ต่อประชากร 1 ล้านคน มากกว่าสองเท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาวิกฤติที่สุดของอินเดียเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่อัตราการตรวจคัดกรองซึ่งต่ำมาก จึงมีความเป็นไปได้ว่าสถานการณ์จริงในพื้นที่รุนแรงกว่านั้นมาก

ขณะที่นายโธมัส แอนดรูว์ส ผู้รายงานด้านกิจการเมียนมาของยูเอ็น เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติให้หยุดยิงอย่างเป็นทางการในเมียนมา เนื่องจากความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เกิดการรัฐประหารขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบสาธารณสุขจนเข้าขั้นล่มสลาย และการที่เมียนมามีพรมแดนติดกับ 5 ประเทศ รวมถึงจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก หากไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดข้ามพรมแดนได้ ภูมิภาคแห่งนี้จะเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ด้านสาธารณสุข


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/591925


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อาสาสมัคร ‘ต้องรอด Up for Thai’ ผุดโครงการ Mission บุษราคัม 75 ชวนร่วมบริจาคข้าวของเครื่องใช้ช่วยโรงพยาบาลสนามบุษราคัม หลังพบยังขาดแคลนอีกมาก

โรงพยาบาลสนามบุษราคัมจัดตั้งขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการระบาดที่ผ่านมา ทั้งนี้ผู้ป่วยจำนวนหลายพันคนได้เข้ารับการรักษาจนอาการดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตามรพ.สนามยังมีความต้องการเครื่องอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงการรักษา

ด้วยเหตุนี้ กลุ่ม Up for Thai "ต้องรอด" และพันธมิตรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และภาคสื่อสารมวลชนจึงร่วมกันจัดตั้งโครงการเฉพาะกิจ #missionบุษราคัม75 ขึ้นเพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัมเป็นระยะเวลา 75 วัน ก่อนจะมีการย้ายไปยังสถานที่ใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนได้รับปัจจัยเพียงพอและให้การดำเนินการของโรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่น

สำหรับ "Mission บุษราคัม 75" นี้ ทาง "ต้องรอด" จะนำส่งสิ่งของในรายการเป็นขบวนรถไปยังโรงพยาบาลสนามบุษราคัมในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ และเราจะรับบริจาคสำหรับโครงการเฉพาะกิจดังกล่าวไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม 2564 หรือจนกว่าจำนวนสิ่งของจะครบตามรายการ

ศูนย์อาสาต้องรอด Up for Thai ยังคงปฏิบัติภารกิจหลักควบคู่กันไป ทั้งการนำส่งอาหารปรุงสุกและเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ชุมชน โรงครัวชุมชน แคมป์คนงาน ผู้กักตัว ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ คนชรา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ป่วยรอเตียง ส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันสำหรับด่านหน้า โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม อสม. ศูนย์พักคอย สถานีอนามัย มูลนิธิและอาสากลุ่มอื่น ๆ ทุกท่านสามารถบริจาคได้ตามปกติที่ศูนย์หรือทางบริการ delivery

ร่วมส่งต่อความช่วยเหลือกับ "ต้องรอด" ได้ที่ : สถานที่ปฎิบัติงานและรับบริจาค :

ศูนย์อาสาต้องรอด Up For Thai วัดเทวสุนทร https://goo.gl/maps/X6VJJXWgD7FxVM6X6

ที่อยู่ในการจัดส่งสิ่งของบริจาค :

กองอำนวยการ Up For Thai ต้องรอด วัดเทวสุนทร

เลขที่ 1 ม.19 ถ.กำแพงเพชร 6 ลาดยาว จตุจักร กทม. 10900

หากส่ง delivery กรุณาแจ้ง tracking มาที่ LINE

สมทบทุนเป็นเงินสดที่ กสิกรไทย 096-3-23974-2

(ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล และนางสมใจ พุ่มสมบัติ)

ติดต่อสอบถาม โทร 080-000-4566 (ทีมงานต้องรอด) หรือที่ LINE @upforthai

เพราะเรา #ต้องรอด ไปด้วยกัน #upforthai


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยงานเภสัชกรรมฯ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด พัฒนาและคิดค้นสูตรตำรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ ตำรับแรกในประเทศไทย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตำรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ตำรับแรกในประเทศไทย โดยงานเภสัชกรรมฯ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท เมดิกา อินโนวา จำกัด พัฒนาและคิดค้นสูตรตำรับยาน้ำเชื่อมปราศจากน้ำตาลฟาวิพิราเวียร์สำหรับผลิตในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ (Hospital preparation) เพื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ในกลุ่มผู้ป่วยเด็กและผู้ป่วยสูงอายุ

รวมถึงผู้ป่วยที่มีความลำบากในการกลืนยาเม็ด โดยมุ่งหวังเพื่อช่วยเหลือประเทศไทยให้สามารถผลิตยาให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ปัจจุบันยังไม่สามารถควบคุมได้ และพบการติดเชื้อในเด็กเพิ่มมากขึ้น สนองพระนโยบายศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ทรงมีความห่วงใยและตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 จะสามารถเข้าถึงยารักษาโรคฟาวิพิราเวียร์ได้อย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตำรับยาน้ำเชื่อมปราศจากน้ำตาลฟาวิพิราเวียร์ ได้มีการคัดเลือกและควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบตัวยาสำคัญ ตลอดจนมีการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ยาตามมาตรฐานสากล ด้วยวิธีการที่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้อง และการศึกษาความคงสภาพเพื่อยืนยันคุณภาพตลอดช่วงอายุการใช้งาน

สำหรับตำรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นยาน้ำเชื่อมปราศจากน้ำตาล ลักษณะเป็นยาน้ำใส สีส้ม รสราสเบอรี่ มี 2 ขนาด คือ ขนาด 800 มิลลิกรัมใน 60 มิลลิลิตร และ ขนาด 1,800 มิลลิกรัมใน 135 มิลลิลิตร รับประทานยาขณะท้องว่าง วันละ 2 ครั้ง ห่างกันทุก 12 ชั่วโมง

- ขนาดและวิธีการใช้ยาในผู้ใหญ่ วันแรกรับประทาน ขนาด 1,800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง และวันต่อมาขนาด 800 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง กรณีน้ำหนักตัวมากกว่า 90 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กก/ตรม. วันแรกรับประทาน ขนาด 2,400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง และวันต่อมา ขนาด 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

- ขนาดและวิธีการใช้ยาในเด็ก วันแรก รับประทานขนาด 60 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วันแบ่งให้ วันละ 2 ครั้ง และวันต่อมา ขนาด 20 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน แบ่งให้ วันละ 2 ครั้ง

- กลุ่มผู้ป่วยเด็กและผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่มีผลตรวจ RT- PCR ยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 สามารถติดต่อเพื่อขอรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยนำผลยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาพบแพทย์และรับยาได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


ที่มา : https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/101062


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ชัยวุฒิ” เตรียมเชิญ “ผู้บริหารองค์กรสื่อฯ” แจงปม ประกาศฉ.29 ห้ามเสนอข่าวทำปชช.หวาดกลัว หวัง ขอความร่วมมือสื่อพาประเทศพ้นวิกฤต

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังรม(ดีอีเอส) กล่าวกรณีที่ 6 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกข้อกำหนดฉบับที่ 27 และ)ฉบับที่ 29 ออกตามความในมาตรา 9 แห่งก.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เกี่ยวกับมาตรการไม่ให้มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอันทำให้เกิดความเข้าใจผิด และสร้างความหวาดกลัว ว่า ยืนยันว่าข้อกำหนดที่ออกมา ไม่ได้มีเจตนาควบคุมการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชน และประชาชน ที่เป็นประโยชน์ต่อการรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของสื่อในการปฏิบัติหน้าที่ และมีองค์กรสื่อฯคอยกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาชีพและจริยธรรม และที่ผ่านมารัฐบาลรับฟังการวิจารณ์ด้วยเหตุผล อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงมา จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดกั้นการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาของสื่อ แต่ต้องยอมรับว่ามีการส่งข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อน ไม่ถูกต้องได้ ทั้งเจตนาและไม่เจตนา จึงต้องมีมาตรการป้องกันการบิดเบือน ที่กระทบการบริหารจัดการในภาวะวิกฤต

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เพื่อความเข้าใจแนวทางของรัฐบาล ตนจะเชิญผู้บริหารองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนหารือในโอกาสที่เหมาะสม ให้เกิดความร่วมมือแก้ปัญหาการนำเสนอข้อมูลที่ปราศจากข้อเท็จจริง เพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลตระหนักถึงบทบาทของสื่อมวลชนในการมีส่วนช่วยนำพาบ้านเมืองให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤต ส่วนข้อกำหนดที่ออกมาเจตนาดำเนินการกับผู้ที่ทำตัวเสมือนเป็นสื่อ หรือสื่อเทียมไร้สังกัด ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีองค์กรกำกับตรวจสอบ ที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดจากข้อเท็จจริง ผ่านเฟซบุ๊กทวิตเตอร์ หรือแพลตฟอร์มอื่น มีเจตนาตั้งใจบิดเบือนเพื่อหวังผลบางอย่าง ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด หวาดกลัวหรือตื่นตระหนก เพื่อแก้ปัญหาในส่วนนี้เป็นหลัก ไม่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

“สิระ” จวก "ไฮโซลูกนัท” สมองน้อย หวังล้มล้างสถาบัน หลังร่วมคาร์ม็อบ จี้ ตร.ดำเนินการ

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ที่ปรากฏภาพเข้าร่วมการชุมนุมคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยใช้รถส่วนตัวสีดำ ติดสติกเกอร์ยกเลิก 112 ข้างรถ ว่า ไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นภาพของคนที่มาจากตระกูลที่มีการเลี้ยงดูมาอย่างดี ถูกคนอื่นๆ เรียกว่าเป็นไฮโซ แต่กลับมีสมองคิดได้เพียงเท่านี้ สิ่งที่ออกมาเรียกร้อง คือ เจตนาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

“ผมชี้เป้าให้แล้วว่าคนๆ นี้เจตนาจะล้มล้างสถาบันหรือไม่ ขอให้เจ้าที่หน้าตำรวจตรวจสอบภาพที่ปรากฏด้วย รวมถึงขอถามไปยังพ่อแม่ของไฮโซคนนี้ ให้ดูพฤติกรรมของลูกด้วยว่า เลี้ยงมาทำไมเป็นแบบนี้ ไม่เข้าใจว่าไฮโซสมัยนี้ทำไมสมองมันน้อย” นายสิระ กล่าว

‘บิ๊กตู่’ สั่งด่วน ‘อนุทิน’ ให้กรมควบคุมโรคจัดส่งวัคซีนตรงเดือนละ 750,000 โดส ไม่ต้องผ่าน กทม. แก้ปัญหาปิดศูนย์ฉีดวัคซีนภาคเอกชน 25 แห่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงกรณีที่ศูนย์ฉีดวัคซีนที่ภาคเอกชนจัดตั้งขึ้น 25 แห่ง ในกทม. ประกาศปิดศูนย์ชั่วคราวเนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรวัคซีนให้กับ กทม. ตามที่ตกลงกันไว้ แต่ไม่ทราบว่า ทำไมทาง กทม. จึงไม่จัดสรรวัคซีนให้กับศูนย์ฉีดวัคซีน 25 แห่งดังกล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โทรศัพท์มาสั่งการด่วนให้ตนจัดสรรวัคซีนให้กับศูนย์ฉีดของภาคเอกชน 25 แห่ง ซึ่งตนได้หารือกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) แล้ว มีความเห็นตรงกันคือให้ กรมควบคุมโรคจัดส่งวัคซีนโดยตรงไม่ต้องผ่าน กทม.ให้กับศูนย์ฉีดวัคซีน 25 แห่ง แห่งละ 1,000 โดสต่อวัน ซึ่งรวมแล้วจะฉีดได้ 25,000 โดสต่อวัน โดยเฉพาะเดือน ส.ค.จะได้ทั้งหมด 750,000 โดส ซึ่งใกล้เคียงกับความสามารถในการฉีดของบรรดาศูนย์ฉีดเหล่านี้

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ในเดือนสิงหาคมนี้ กรมควบคุมโรค จะสรรจัดวัคซีนให้ กทม. จำนวน 1,000,000 โดส แต่ด้วยความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยากให้กรมควบคุมโรคส่งวัคซีนตรงไปยังศูนย์ทั้ง 25 แห่ง จะทำให้เหลือวัคซีนให้ กทม. บริหารเองเพื่อส่งให้โรงพยาบาลในสังกัดเพียง 250,000 โดส จึงสั่งการให้อธิบดีกรมควบคุมโรคจัดส่งเพิ่มให้ กทม. อีก 250,000 โดส รวมเป็น 500,000 โดส เพื่อให้ กทม. จะได้จัดสรรคไปฉีดในสถานพยาบาลต่าง ๆ ที่อยู่ในสังกัด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเพียงพอกับความต้องการเท่ากับว่าในเดือนสิงหาคมนี้ พื้นที่ กทม.จะได้รับวัคซีน รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250,000 โดส


ที่มา : https://www.isranews.org/article/isranews/101078


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ’ ที่ปรึกษาพิเศษ สนง.ตำรวจแห่งชาติมอบนโยบายตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจชุมชนโคบัง จังหวัดร้อยเอ็ด

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานและมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมมอบถุงยังชีพและตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจชุมชน “โคบัง” กำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และยึดการมีส่วนร่วมของประชาชน

ที่สำนักงานตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ดพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะเข้าติดตามการดำเนินงานและมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงาน การบริหารจัดการและการซีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ติดตามการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจลูกจ้างประจำ การบริหารจัดการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และงานตำรวจชุมชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลาผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยรองผู้บังคับการ และผู้กำกับการสถานีตำรวจ ทั้ง 33 แห่ง และข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธร จ.ร้อยเอ็ดให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน

จากนั้น พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมที่ทำการตำรวจชุมชนธงธานี ของสภ.ธวัชบุรี ตามโครงการสถานีตำรวจชุมชน “โคบัง” พร้อมมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค บริโภค ให้กำลังใจกับตำรวจและอาสาสมัครภาคประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 17 ชุด โดยสถานีตำรวจชุมชน “โคบัง” ดังกล่าว เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจร่วมกับชุมชนรับผิดชอบพื้นที่ 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.ธงธานี 10ชุมชน ต.บึงนคร 9ชุมชน และต.ธวัชบุรี 12 ชุมชนรวม31 ชุมชน โดย ร.ต.อ.ภูวไนย ธนสิริภักดีโสภณ รองสวส.ป้องกันปราบปราบ สภ.ธวัชบุรี ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าสถานีตำรวจชุมชนธงธานี โดยมี พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ศรีผ่องงาม  ผกก.สภ.ธวัชบุรี นายอภิชาติ รักพงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลธงธานี นายกานต์ นองนุช กำนันตำบลธงธานี หน่วยกู้ภัยอโสกพิทักษ์ชีพร้อยเอ็ดจุดสะกัดบ้านธวัชดินแดง พร้อมด้วยผู้นำชุมชน และประชาชนให้การต้อนรับภายใต้มาตรการเข้มข้นด้านโควิด-19

ทั้งนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครภาคประชาชน ปฏิบัติหน้าที่ยึดหลักความปลอดภัยตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับผู้ชุมชน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยเกิดประสิทธิภาพสูงสุดพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ กล่าวในที่สุด

"ผู้นำคนพิการ ด้ามขวานไทย" ผนึกกำลังภาครัฐ และมูลนิธิฯ บรรเทาทุกข์ช่วงโควิด-19

วันที่ 1 สิงหาคม 2564 คุณสือนะ ดีสะเอะ อุปนายก "สมาคมคนพิการภาคใต้" ร่วมภารกิจเยี่ยมเยือน มอบขวัญกำลังใจให้แก่ กลุ่มเปราะบาง / คนยากไร้ / คนพิการ และ ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิค-19 ใน จ.นราธิวาส ดังนี้

>> 1. พื้นที่บ.ยานิง ม.2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้องฯ ร่วมกับ "จ.ส.อ.รอซะ บือราหง" ชป.กร.ร้อย.ทพ.4803 และ "นายนิจิ นิเยะ" ผญบ.ม.2ฯ มอบถุงปัจจัยยังชีพฯ

>> 2. พื้นที่บ.โต๊ะเล็ง ม.3 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้องฯ ร่วมกับ "นายอับดุลมูฮี สะอิ" ผญบ.ม.3ฯ มอบถุงปัจจัยยังชีพฯ

ในการนี้ "คุณสือนะ ดีสะเอะ" อุปนายกสมาคมคนพิการภาคใต้ ขอขอบพระคุณ "พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร" รอง ผอ.กิจการพิเศษ ศูนย์สันติวิธีฯ(สล.3) และ "มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง" ที่เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ และประสบปัญหา การดำรงชีวิตในช่วงสถานการณ์ covid-19 ที่ส่งผลกระทบในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน การประกอบสัมมาอาชีพ โดยไม่สะดวก แต่ด้วยน้ำหนึ่งน้ำใจเดียวของพี่น้องประชาชนคนไทย จึงได้รับความอนุเคราะห์ และให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในครั้งนี้

ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบอุปกรณ์การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งมอบอาหารและครื่องดื่ม ให้แก่ทีมแพทย์พยาบาล จิตอาสาและผู้เข้ารับการตรวจคัดกรอง

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุรพล อยู่นุช ที่ปรึกษาพิเศษ (สบ.10) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. และ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ แพทย์ใหญ่ รพ.ตร. ได้ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด -19 โดยใช้สถานที่ของแฟลตตำรวจลือชา เป็นสถานที่ตรวจคัดกรอง มีประชาชนชุมชนซอยลือชา และข้าราชการตำรวจพร้อมครอบครัว เข้ารับการตรวจ 800 กว่าราย โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่รพ.ตำรวจ และกำลังพลจิตอาสา ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่

วัตถุประสงค์ของการตรวจคัดกรองครั้งนี้ เพื่อหยุดยั้งการเพิ่มจำนวน และการแพร่ระบาดของผู้ป่วยสีเขียวให้ทันท่วงที ก่อนที่จะพัฒนาไปเป็นผู้ป่วยสีส้ม-แดง รวมถึงยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อตำรวจจะได้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการระงับ ยับยั้ง ชะลอการแพร่ระบาดของโรค ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดได้คลี่คลายและควบคุมได้

โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผบ.ตร. ได้ขอบคุณทีมงานทุกคน และประชาชนที่เข้าร่วมการตรวจคัดกรองในวันนี้ และได้มอบอุปกรณ์การตรวจให้กับทีม รพ.ตำรวจ พร้อมทั้งอาหาร และเครื่องดื่มให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนและครอบครัวตำรวจ ต่อมา ผบ.ตร. และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการตรวจคัดกรองหาเชื้อให้แก่ประชาชนในชุมชนสินทวี ย่านจอมทอง ท่าข้าม และข้าราชการตำรวจพร้อมครอบครัว พื้นที่ บก.น.9 เข้ารับการตรวจ 700 กว่าราย

พม่าจัดตั้งรัฐบาลรักษาการ ‘มิน อ่อง หล่าย’ นั่งเก้าอี้นายกฯ ย้ำ จัดการเลือกตั้งในปี 2566

รอยเตอร์ - พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้ปกครองทหารของพม่า รับบทบาทหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลรักษาการที่ตั้งขึ้นใหม่ สื่อของรัฐรายงานในวันอาทิตย์ ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหลังกองทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนผ่านไปแล้ว 6 เดือน

ในการกล่าวถ้อยแถลงเมื่อวันอาทิตย์ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ย้ำถึงคำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งภายในปี 2566 และกล่าวว่ารัฐบาลพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทูตพิเศษของภูมิภาคเกี่ยวกับพม่า

การประกาศและถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น 6 เดือนหลังกองทัพยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. จากรัฐบาลพลเรือนหลังการเลือกตั้งที่พรรครัฐบาลของอองซานซูจีคว้าชัย แต่กองทัพระบุว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในการเลือกตั้งนั้น

มิน อ่อง หล่าย เป็นประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ที่ตั้งขึ้นไม่นานหลังการรัฐประหารและปกครองพม่านับตั้งแต่นั้น และรัฐบาลรักษาการจะเข้ามาแทนที่

“เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของประเทศดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพ สภาบริหารแห่งรัฐถูกปรับเปลี่ยนใหม่เป็นรัฐบาลรักษาการแห่งพม่า” ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์เมียวดี กล่าว

ในถ้อยแถลง พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ย้ำคำมั่นที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตย โดยกล่าวว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินจะสิ้นสุดภายในเดือนส.ค.2566 และยังกล่าวรับประกันการจัดตั้งสหภาพตามระบอบประชาธิปไตยและสหพันธรัฐ

ไม่นานหลังการรัฐประหาร ผู้นำรัฐบาลทหารได้ให้คำมั่นว่าการเลือกตั้งใหม่จะเกิดขึ้นภายใน 2 ปี แต่จากการอ้างถึงเดือนส.ค.2566 ดังกล่าว สื่อท้องถิ่นบางรายได้ตีความว่าเป็นการขยายกรอบเวลาออกไปอีก 6 เดือน

มิน อ่อง หล่าย ยังกล่าวว่าฝ่ายบริหารของเขาจะทำงานกับทูตพิเศษที่ได้รับการเสนอชื่อจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะพบหารือกันในวันจันทร์ที่ 2 ส.ค. ที่นักการทูตกล่าวว่ามีเป้าหมายที่จะจัดการเรื่องทูตพิเศษที่ได้รับมอบหมายให้ยุติความรุนแรงและส่งเสริมการเจรจาระหว่างรัฐบาลทหารและฝ่ายตรงข้าม

กองทัพยึดอำนาจหลังพรรครัฐบาลของซูจีชนะการเลือกตั้งที่กองทัพแย้งว่าเต็มไปด้วยการทุจริต และทหารยังกล่าวว่าการยึดอำนาจของพวกเขาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศปฏิเสธข้อกล่าวหาของกองทัพ

หลังการรัฐประหาร ซูจีถูกตั้งข้อหาอาญาหลายข้อหา และการพิจารณาคดีของเธอในข้อหาการครอบครองวิทยุวอล์กกี้ทอล์กกี้อย่างผิดกฎหมายและการละเมิดมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีกำหนดที่จะเริ่มดำเนินการอีกครั้งในวันจันทร์


ที่มา : https://mgronline.com/indochina/detail/9640000075302


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top