Saturday, 17 May 2025
NEWS FEED

โฉมใหม่ “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” พร้อมเปิดให้บริการกันยายนปี 65 ขยายพื้นที่ใหญ่กว่าเดิมถึง 5 เท่า พร้อมรับผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 100,000 คนต่อวัน ตอกย้ำการเป็นศูนย์ประชุมใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มุ่งเป้าสู่การเป็น The Ultimate Inspiri

บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ประกาศรุกตลาดธุรกิจไมซ์ (MICE) ประเทศไทยครั้งใหม่หลังความสำเร็จในอดีตตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ของการเปิดให้บริการศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมทุ่มงบกว่า 15,000 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาสุดยอดศูนย์ประชุมใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เพิ่มศักยภาพของโครงการด้วยการขยายพื้นที่มากขึ้นถึง 5 เท่า พร้อมเพิ่มพื้นที่รีเทลเพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ โดยรักษาชื่อ “‎ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับในธุรกิจไมซ์ระดับนานาชาติ มั่นใจการพัฒนาปรับปรุงศูนย์ฯ สิริกิติ์ ครั้งนี้ จะสามารถรองรับการจัดงานประชุมหรืออิเวนต์ระดับเวิลด์คลาสได้ทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด  

นายปณต สิริวัฒนภักดี กรรมการ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่บริษัทฯ ยังเล็งเห็นความสำคัญในการเดินหน้าพัฒนาโครงการ “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” (Queen Sirikit National Convention Center หรือ QSNCC)  ให้เสร็จสมบูรณ์ตามแผนที่วางไว้ สอดคล้องกับแผนการลงทุนระยะยาวของบริษัทฯ ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการศูนย์ประชุมระดับเวิลด์คลาสแห่งใหม่ของเอเชีย บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของประเทศไทย ที่มีจุดแข็งหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าของภูมิภาค การมีสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคที่ครบครัน พร้อมด้วยกลุ่มคู่ค้าทางธุรกิจและซัพพลายเออร์ที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังมีศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และมีการสืบสาน รักษา ต่อยอดให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน จึงทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่า ศูนย์ฯ สิริกิติ์ จะเป็น The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้านานาชาติ และจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินเข้ามาในประเทศไทยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน”

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถือเป็นหัวใจของการเริ่มต้นอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย โดยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เป็นสถานที่ที่บันทึกเรื่องราวความทรงจำของงานประชุมและอิเวนต์สำคัญๆ ทั้งในระดับชาติและนานาชาติกว่า 20,000 งาน ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ทศวรรษ กอปรกับบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ และมีความเป็นมืออาชีพ เราเชื่อมั่นว่าศูนย์ฯ สิริกิติ์ โฉมใหม่ จะสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า และรองรับการจัดงานได้ในทุกรูปแบบได้อย่างแน่นอน”

ศูนย์ฯ สิริกิติ์ โฉมใหม่ มีพื้นที่รองรับการจัดการประชุมและนิทรรศการมากถึง 78,500 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยฮอลล์สำหรับการจัดนิทรรศการขนาดใหญ่ 2 ฮอลล์ พื้นที่รวมมากกว่า 45,000 ตารางเมตร ห้องสำหรับจัดประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ 2 ห้อง พื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร และห้องประชุมย่อยที่สามารถรองรับการประชุมได้กว่า 50 ห้อง นอกจากนี้ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ยังเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และมีที่จอดรถภายในอาคารรองรับได้มากกว่า 2,700 คัน อำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงาน  ขณะนี้ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้เริ่มเปิดจองพื้นที่และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้จัดงานเป็นอย่างมาก

ข้อมูลโครงการ (Fact)

ชื่อโครงการ:      ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (Queen Sirikit National Convention Center หรือ QSNCC)

มูลค่าโครงการ:  15,000 ล้านบาท

ขนาดที่ดิน:        53 ไร่

พื้นที่โครงการ:   280,000 ตารางเมตร

พื้นที่จัดงาน:      78,500 ตารางเมตร

ที่จอดรถ:          2,700 คัน

ที่ตั้งโครงการ:    ถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อแยกพระราม 4-รัชดา

การเดินทาง:      เข้าออกได้จาก 4 ถนนสำคัญของกรุงเทพ ถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท ถนนรัชดาภิเษก และถนนดวงพิทักษ์ และเชื่อมตรงรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ทำเลโดยรอบ:    เชื่อมต่อสวนเบญจกิติ-สวนลุมพินี และโครงการศักยภาพของย่านพระราม 4 อาทิ

วัน แบงค็อก เอฟวายไอ เซ็นเตอร์ เดอะ ปาร์ค และโรงพยาบาลเมดพาร์ค

บริษัทผู้พัฒนาโครงการ

เจ้าของโครงการ :                               บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด

ผู้พัฒนาโครงการ:                               บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ผู้รับเหมางานหลัก:                              บริษัท นันทวัน จำกัด

ผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรม:                บริษัท ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

ผู้ออกแบบงานวิศวกรรมโครงสร้าง:          บริษัท เบคา (ไทยแลนด์) จำกัด

ผู้ออกแบบงานตกแต่งภายใน:                 บริษัท ออนเนี่ยน จำกัด

ผู้ออกแบบงานภูมิสถาปัตยกรรม:             บริษัท ฉมา จำกัด

ผู้ออกแบบงานแสงส่องสว่าง:                  บริษัท โบ สไตเบอร์ ไลท์ติ้ง ดีไซน์ (ประเทศไทย) จำกัด

ผู้ออกแบบงานป้ายและกราฟฟิก:             บริษัท บีอาวเฟรนด์ จำกัด

ที่ปรึกษาด้านอาคารประหยัดพลังงาน:       บริษัท แอฟริคัส จำกัด

ผู้บริหารโครงการ:                               บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน)

ผู้รับเหมางานเสาเข็มเจาะ:                     บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน)


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ธนาลัย เทียนเงิน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร

บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด

โทรศัพท์: +66 (9) 8269 5356

อีเมล: [email protected], [email protected]

เว็บไซต์: www.qsncc.com

ของดีในอัฟกานิสถาน 'แร่หายาก - ฝิ่นชั้นดี' การันตีความมั่งคั่ง

อัฟกานิสถานมีอะไรที่น่าสนใจ? 

คำถามนี้คงจะไม่พ่วงไปถึงอดีตในช่วงไม่กี่วันที่ดินแดนแห่งนี้เป็นยุทธภูมิสำคัญที่ถูกชาติตะวันตกบางชาติเข้ามาปักหลักนานนับสิบปี

แต่จะเผยให้เห็นถึงว่า อัฟกานิสถาน เต็มไปด้วยสิ่งล้ำค่าที่เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากครอบครอง

เท่าที่ค้นดูใน Google จะพบว่ามีแหล่งแร่สำคัญ ๆ มากมาย รวมทั้งแร่หายาก (Rare Earth) ซึ่งดูจากภาพประกอบประเมินมูลค่าพบว่ามีมูลค่ามหาศาล 

แม้จะเกิดสงครามรบกันเองภายใน ก็สามารถขายเอาทรัพยากรที่มีอยู่มาบูรณะประเทศได้ แถมยังมีเงินเหลืออีกเยอะดูได้จากลิงค์ "สารคดีอัญมณีที่ซ่อนอยู่" https://bit.ly/2pNr4cf

นอกจากนี้ยังมีแหล่งผลิตฝิ่นชั้นดีติดอันดับของโลกในขนาดแปลงใหญ่มาก ประมาณ 202,000 - 246,000 เฮกตาร์ หรือประมาณ 1,262,500 ไร่ - 1,537,500 ไร่ (ข้อมูลปี 2020 โดย UN) 

ฝิ่นชั้นดีสามารถแปลงเป็นมอร์ฟีนใช้ในทางการแพทย์โดยแยกจากสารอัลคาลอยด์ที่มีกว่า 30 ชนิดเป็นมอร์ฟีนราว ๆ 21% ที่เหลือเป็นยาแก้ไอและยาคลายกล้ามเนื้อรวม ๆ กันราว ๆ 13%

แต่...การปลูกฝิ่นในอัฟกานิสถานนั้นผิดกฎหมาย (หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) 

แต่ขณะเดียวกัน จะมีบางประเทศในยุโรปนั้นถูกกฎหมาย เช่น ที่อังกฤษ (ข้อมูลจากเว็ป VOA https://www.voathai.com/a/british-poppies-22jul11-126556163/924879.html22jul11-126556163/924879.html)

รวม ๆ ดูทรัพยากรเหล่านี้ จึงสรุปได้ว่าอัฟกาฯ นั้นมีเสน่ห์เหลือเกิน

#ใครก็หาข้อมูลได้ด้วยgoogle


ที่มา : https://www.facebook.com/100036374524635/posts/528106905078456/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน หายห่วง รมว.เฮ้ง สั่ง กสร. ออกประกาศกระทรวงขอความร่วมมือนายจ้างให้หญิงตั้งครรภ์ทำงานที่บ้านลดเสี่ยงโควิด-19

สมาชิกเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน (Labour Network for People Rights) และตัวแทนครอบครัวแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งเป็นเครือข่ายที่รวมตัวกันของแรงงานจากหลายจังหวัดหลายภาคธุรกิจทั้งจากพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่จังหวัดปทุมธานี นำโดย นางสาวศรีไพร นนทรี ผู้แทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง นางสาวธนพร วิจันทร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน คุณจเด็ด เชาวิไล มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และผู้แทนเครือข่ายฯจากพื้นที่สมุทรปราการ สระบุรี รังสิต และปทุมธานี จำนวน 10 คน ขอเข้าพบ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะกำกับดูแลงานด้านนโยบายคุณภาพชีวิตแรงงาน เพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อดังนี้

1) สนับสนุนให้บริษัทมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกให้กับคนงาน เพื่อคัดกรองคนงานที่ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง 

2) มีมาตรการให้บริษัทจัดหาสถานที่สำหรับคนงานที่ต้องแยกกักตัว รักษา (Community Isolation) ทั้งในส่วนพื้นที่ของบริษัทหรือการประสานชุมชนในการจัดหาสถานที่

3) มีมาตรการในการดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มคนงานหญิงตั้งครรภ์ โดยจัดสถานที่ทำงานใหม่ให้เหมาะสมกับหญิงตั้งครรภ์ให้มีความปลอดภัย

4) ต้องเร่งจัดหาวัคซีนเพื่อคนงานอย่างเร่งด่วน

5) มีมาตรการชัดเชนในการเยียวยาตามสิทธิของลูกจ้างที่มีอยู่ และสิทธิในการเยียวยาเพิ่มเติมตามมาตรการของภาครัฐ ทั้งกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนงานหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มครอบครัวคนงานที่เสียชีวิตจากโควิด-19

นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องดังกล่าวนั้น ปัจจุบันกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการอยู่แล้ว ทั้งการตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุก ในสถานประกอบการ การส่งเสริมให้สถานประกอบการดำเนินการตามโครงการ Factory Sandbox การฉีดวัคซีนโควิดแก่ผู้ประกันตน และการเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่วนมาตรการดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มคนงานหญิงตั้งครรภ์ โดยจัดสถานที่ทำงานใหม่ให้เหมาะสมกับหญิงตั้งครรภ์ให้มีความปลอดภัยนั้น ผมได้ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเร่งออกร่างประกาศกระทรวงโดยเร็วที่สุด และเร่งประชาสัมพันธ์ออกไป เพื่อขอความร่วมมือไปยังสถานประกอบการให้สตรีที่มีผลตรวจว่าตั้งครรภ์ ควรกำหนดให้มีการทำงานที่บ้าน (Work from Home) โดยให้จ่ายค่าแรงเต็มจำนวน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 

นางสาวศรีไพร นนทรี ผู้แทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง กล่าวว่า ขอบคุณท่าน รมว.แรงงาน ที่ท่านได้รับเรื่อง รับลูก และแจ้งให้เราทราบในทันทีว่าจะออกประกาศกระทรวง เพื่อแยกคนท้องออกจากพื้นที่เสี่ยงโควิด ให้สามารถทำงานที่บ้านได้ และได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน ซึ่งทางเราที่มาในวันนี้รู้สึกหายห่วงที่อย่างน้อยสิ่งที่ได้มาเข้าพบท่าน ได้รับการดูแลและดำเนินการโดยทันที เพื่อให้เครือข่ายแรงงานได้มีความปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่จากมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลดูแล

เปิดสถิติตัวเลข ‘เฟซบุ๊กนายกฯ’ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อวาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพิ่งโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก กรณีสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 พอพูดถึงเฟซบุ๊กของนายกฯ งานนี้เลยขอแอบเข้าไป ‘ส่อง’ ดูความเคลื่อนไหว

เพราะหากย้อนไปกว่า 3 ปี นายกฯ ลุงตู่ ได้เปิดใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ส่วนตัว เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารเพิ่มเติม ซึ่งดูเหมือนว่า ช่องทางในเฟซบุ๊ก ดูจะ ‘แอ็คทีฟ’ มากที่สุด มีข่าวสารและกิจกรรมอัปเดตแบบวันต่อวัน รวมทั้งมีผู้เข้าไปติดตาม กด LIKE, Comment และ Share กันมากมาย

THE STATES TIMES เลยไปรวบรวมข้อมูล เรื่องน่ารู้ในเฟซบุ๊กของนายกฯ มาให้ทราบกัน ส่วนใครที่ยังไม่ทราบว่า นายกฯ มีเฟซบุ๊ก ก็เข้าไปกดติดตามกันได้ที่ https://www.facebook.com/prayutofficial นะจ๊ะ


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือในช่วงโควิด - 19

นายณัฐพงษ์ นวลมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายธวัชชัย ไชยกันย์ รองศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส นางขนิษฐา มะลิสุวรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดยะลา นายสมพงศ์ ฉิมหนู ผู้อำนวยการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองยะลา และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดยะลา มอบน้ำดื่มให้กับโรงพยาบาลสนาม ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าสาป โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหน้าถ้ำ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเปาะเส้ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลำใหม่ โดยมีผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และตัวแทนเป็นผู้รับมอบ พร้อมมอบหนังสือสืบสานศาสตร์พระราชา จัดมุมเรียนรู้ใน กศน.ตำบล ให้แก่ กศน.ตำบล ทั้ง 14 ตำบล รวมทั้งห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี และห้องสมุดประชาชนจังหวัดยะลา พร้อมนี้ ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อหารือเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรม “สธ. และ ศธ. ห่วงใยคนในสถาบันศึกษาปอเนาะ จังหวัดปัตตานี” ในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ณ สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

อว. เผย พัฒนาวัคซีนโควิด 4 ชนิด กระตุ้นภูมิคุ้มกันดี ปลอดภัยสูง เริ่มทดสอบในมนุษย์ระยะแรกแล้ว

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยวัคซีนโควิด-19 โดยนักวิจัยไทย 4 ชนิด ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นความหวังของไทยในการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีน ช่วยลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนี้...

1.) วัคซีน ChulaCov19 วัคซีนชนิด mRNA โดย รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

>> ทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 2 เดือน ส.ค. 64 ตั้งเป้า เม.ย. 65 เริ่มฉีดได้ทั่วประเทศ

2.) วัคซีนใบยา พัฒนาจากเซลล์ใบยาสูบ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

>> ทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 และ 2 เดือน ธ.ค. 64

3.) วัคซีน DNV-HXP-S วัคซีนชนิดเชื้อตาย โดยองค์การเภสัชกรรมและมหาวิทยาลัยมหิดล

>> ทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 3 ช่วงปลายปี 64 คาดว่าจะสำเร็จกลางปี 65

4.) วัคซีนโควิเจน วัคซีนชนิดดีเอ็นเอ โดยบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด

>> ทดสอบในมนุษย์ระยะแรก เดือน ต.ค. 64

ทั้งนี้ วัคซีนทั้ง 4 ชนิด ประสบความสำเร็จจากการทดลองในสัตว์ทดลอง พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี และมีความปลอดภัยสูง


ที่มา : https://www.posttoday.com/social/general/660951


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ดร.วรัชญ์’ โพสต์ข้อความตอบคำถาม ทำไมรัฐซื้อซิโนแวก เพิ่ม ชี้! ฉีดไขว้ AZ ได้ผลดี และหากสั่งซื้อตอนนี้ ได้ของเร็วสุด

ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Warat Karuchit’ ระบุถึงประเด็นรัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวกเพิ่ม ว่า Vaccine Q&A

คำถามข้อที่ 1

Q: ทำไมต้องสั่ง Sinovac เพิ่ม?

A: เหตุผลอย่างน้อย 2 ข้อคือ

1.) เพื่อนำมาฉีดเป็นเข็มแรกให้สูตรผสมที่มี AZ เป็นเข็มสอง เนื่องจากเหตุผล 2 ข้อคือ (1.) ระยะเวลาการฉีดเข็ม 2 สั้นกว่า AZ-AZ ทำให้ได้วัคซีนครบโดสเร็วกว่า (2.) สูตรนี้พิสูจน์แล้วว่าสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี ใกล้เคียงหรือสูงกว่า AZ-AZ (ซึ่งสูตร AZ-AZ ก็ยังคงมีการฉีดอยู่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของวัคซีนในขณะนั้น) แสดงให้เห็นว่า แม้ SV+SV ที่ช่วงแรกได้ฉีดไป จะสร้างภูมิคุ้มกันได้น้อยกว่าสูตรอื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวัคซีน SV ไม่มีผลในการป้องกันโรคเลย สามารถนำมาฉีดเป็นเข็มแรกที่ต่อด้วยวัคซีนอื่นได้ผลดีเช่นกัน ต้องย้ำว่าครั้งนี้สั่ง SV มาฉีดเป็นเข็มแรกเท่านั้น ไม่ได้สั่งมาเพื่อฉีดเป็นเข็มที่ 2 (หรือ 3)

2.) เป็นวัคซีนที่สั่งแล้วได้ของเร็วที่สุด คาดว่าน่าจะได้ในเดือน ก.ย.นี้ ที่ Pfizer ยังไม่ได้ จึงสามารถนำมาเสริมกับ AZ ในการฉีดให้ได้วงกว้างที่สุด (ซึ่งการฉีดสลับ ต้องเริ่มจากตัวที่สร้างภูมิน้อยก่อน คือ SV-AZ หรือ SV+SV+PZ หรือ AZ+PZ แต่ไม่ใช่ PZ เป็นเข็มแรก ดังนั้นจึงต้องสั่ง SV มาให้มากพอในการฉีดเข็มแรกให้ได้มากที่สุด หาก PZ เข็มแรกก่อน จะต้องเก็บไว้ให้เข็มสองด้วย จะได้จำนวนน้อยลง ซึ่งการได้ฉีดเข็มแรก ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร ก็มีส่วนป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิตให้ลดน้อยลงได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ WHO ที่เร่งฉีดวัคซีนใด ๆ ก็ได้ให้มากที่สุด เร็วที่สุดก่อน และ Sinovac ก็ผ่านการรับรองจาก WHO และ COVAX เองก็สั่งซื้อ Sinovac เข้าโครงการเพิ่มด้วย

(ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมไม่สั่ง Sinopharm แทน Sinovac คำตอบก็คือ เป็นเทคโนโลยีเดียวกัน ผลที่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกันครับ)

คำถามข้อที่ 2

Q: ทำไมไม่สั่ง Pfizer เพิ่ม?

A: สั่งไปแล้ว 20 ล้านโดส และสั่งเพิ่มอีก 10 ล้านโดส ทั้งหมดจะได้แบบทยอยมาใน Q4 (ต.ค.) แต่บางส่วนอาจได้ก่อน (ตามที่เจรจาไว้) ในเดือน ก.ย. ก็จะนำมาฉีดให้เร็วที่สุด

(เขียนจากความเข้าใจส่วนตัวของผม โปรดอย่าอ้างอิงตำแหน่งหรือสังกัดใด ๆ ครับ)


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4875349222480678&id=100000169455098&_rdc=2&_rdr


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผบก.ตม.3 – ผกก.ตม.จว.ปทุมธานี  นำข้าราชการตำรวจ ร่วมทำบุญถวายน้ำมันเผาศพโควิด และอุปกรณ์ป้องกัน ณ วัดเขียนเขต ปทุมธานี

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุญยศิริ ผบก.ตม.3 ได้ร่วมกับ ตม.จว.ปทุมธานี นำโดย พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโลผกก.ตม.จว.ปทุมธานี และ ข้าราชตำรวจในสังกัด ตม.จว.ปทุมธานี ถวายน้ำมันเชื้อเพลิง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ได้แก่ เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ชุด PPE  แด่พระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาส วัดเขียนเขต ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อนำไปใช้ในการฌาปนกิจศพผู้ที่เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19ของทางวัดต่อไป

พ.ต.อ.เจริญพงษ์  กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.และ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์  ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3 ที่ได้มีความห่วงใยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  และทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลถึงการประกอบพิธีทางศาสนาและการดำเนินการฌาปนกิจของวัดต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น  ทำให้วัดต่าง ๆ มีวัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินการไม่เพียงพอ ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ทาง ผบก.ตม.3 ได้ร่วมกับ ตม.จว.ปทุมธานี นำข้าราชการตำรวจในสังกัด ตม.จว.ปทุมธานี ร่วมกันทำบุญถวายน้ำมันเชื้อเพลิง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับทางวัดเพื่อใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เผาศพผู้ที่เสียชีวิตจากโควิดต่อไป และทางวัดจะได้มีอุปกรณ์ไว้ใช้ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด อย่างเพียงพอและมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย  โดยการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทาง ตม.จว.ปทุมธานี จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง และขอเป็นกำลังใจในการก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้โดยเร็ว

ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ไปได้สวย นักท่องเที่ยวสะสมกว่า 2 หมื่นคน

หลังจากที่รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ขณะนี้ยอดนักท่องเที่ยวสะสมอยู่ที่เกือบ 20,000 คน มียอดการจองโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus ตลอดไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย. 2564) จำนวนกว่า 371,826 คืน มีเที่ยวบินเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน

โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกมาจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล เยอรมนี และฝรั่งเศส โดยจำนวนนักท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ที่เดินทางเข้ามาทั้งหมดนั้น ตรวจคัดกรองพบเชื้อจำนวน 55 คน คิดเป็น 0.28 % และนำเข้าสู่กระบวนการของสาธารณสุขแล้ว


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'โฆษกรัฐบาล' ย้ำ หลังพ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ปลดกระท่อมพ้นยาเสพติดให้โทษ มีผล 24 ส.ค.นี้ ส่งผลปล่อยผู้ทำผิด 1,038 ราย ให้ปชช.ปลูก-บริโภค-ซื้อขายใบได้

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 จะมีผลวันที่ 24 ส.ค.นี้ โดยปลดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ ทำให้ประชาชนสามารถปลูกและขายได้ รวมทั้งปล่อยผู้กระทำความผิดตามกฏหมายพืชกระท่อมในวันที่ 24 ส.ค. จำนวน 1,038 ราย โดยถือว่าไม่เคยกระทำความผิด สำหรับผู้ถูกจับกุมหรือจำเลยในชั้นต่าง ๆ จะดำเนินการตามแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปล่อยตัวผู้กระทำความผิดและผู้ต้องขังคดีความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมต่อไป

นายอนุชา กล่าวว่า เบื้องต้นภาครัฐจะได้รับประโยชน์เมื่อมีการปลดกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ สามารถลดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของภาครัฐ ผู้ต้องหาหรือจำเลย 1,691,287,000 บาท โดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (ทีดีอาร์ไอ) ศึกษาพบว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลเท่ากับ 76,612 บาท ซึ่งคดีข้อหาพืชกระท่อมที่ขึ้นสู่ศาลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2563 - 30 มิ.ย. 2564 มี 22,076 คดี

นายอนุชา กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กำชับให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เร่งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทราบถึงข้อกฎหมายว่า ประชาชนสามารถปลูกและบริโภคกระท่อมตามวิถีชาวบ้าน รวมถึงซื้อหรือขายใบกระท่อมโดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ หากนำไปผสมยาเสพติดอื่น ๆ เช่น 4 คูณ 100 ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ส่วนการนำเข้าหรือส่งออกไปต่างประเทศในเชิงอุตสาหกรรมต้องขออนุญาตก่อน

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ย้ำให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระสำคัญเร่งด่วน เน้นจับกุม ยึดทรัพย์ ลงโทษทางอาญา เครือข่ายผู้ค้า ควบคู่ไปกับบำบัดโดยนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการรักษาที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ต้องรณรงค์สร้างการรับรู้และภูมิคุ้มกันในกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย รวมถึงกลุ่มเสี่ยงที่เป็นแรงงานนอกระบบด้วย”


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top