Saturday, 10 May 2025
NEWS FEED

ศาลยกฟ้องคดีซิโน-ไทย ฟ้องหมิ่นวัชระเรียก 5 ล้าน กรณีตั้งคำถามบริษัทมีมาตรฐานหรือไม่จากกรณีขอขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ถึง 4 ครั้ง 1,864 วัน

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 64 เวลา 9.30 น. ที่ห้องพิจารณา 403 ศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ. 233/2564 ระหว่าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้มีอำนาจโจทก์ กับนายวัชระ เพชรทอง  จำเลย คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างสัปปายะสภาสถาน (รัฐสภาแห่งใหม่) ให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามสัญญาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ สัญญาเลขที่ 116/2556 ลงวันที่ 30 เม.ย. 56 ค่าก่อสร้าง 12,280 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 64 จำเลยได้หมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่ 3 โดยน่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จโดยวิธีการโฆษณา

โดยจำเลยได้นำป้ายข้อความว่า "สัญญาก่อสร้าง 900 วัน  ขยายเวลา 4 ครั้ง 1,864 วัน รวม 2,764 วัน ยังสร้างไม่เสร็จ บริษัทมีมาตรฐานหรือไม่" ขึ้นประกอบการแถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าวที่รัฐสภา การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย   ข้อความที่ว่า "บริษัทมีมาตรฐานหรือไม่" เป็นตัวอักษรสีแดงเป็นการชี้นำให้ผู้ที่พบเห็นข้อความดังกล่าวเข้าใจว่าโจทก์ไม่มีมาตรฐานจึงขยายหลายครั้ง   ศาลพิเคราะห์ข้อความในส่วนดังกล่าว จะเห็นได้ว่าข้อความดังกล่าวเป็นประโยคคำถามในลักษณะเป็นการตั้งข้อสังเกตแต่เพียงเท่านั้น มิใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนว่าโจทก์เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ไม่มีมาตรฐานจนเป็นเหตุให้ต้องขยายระยะเวลาก่อสร้างถึง 4 ครั้งแต่อย่างใด กรณีจึงยังมิอาจถือได้ว่าเป็นการใส่ความโจทก์ ประกอบกับข้อความที่ปรากฏในป้ายของจำเลยจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องพิจารณาตามความรู้สึกของวิญญูชนทั่วไปเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าข้อความดังกล่าวถึงขั้นทำให้ผู้ถูกหมิ่นประมาทน่าจะเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังหรือไม่ มิใช่พิจารณาตามความรู้สึกของผู้ถูกหมิ่นประมาทแต่ฝ่ายเดียว  

เมื่อพิเคราะห์ข้อความที่ปรากฏในป้ายข้อความโดยรวมซึ่งเป็นข้อความที่มิได้ระบุหรือสื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโจทก์เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งยังมีลักษณะเป็นเพียงตั้งคำถามเชิงสังเกตโดยปราศจากการยืนยันข้อเท็จจริงแน่ชัดดังที่ได้วินิจฉัยประกอบกับข้อความในส่วนที่ว่า "สัญญาก่อสร้าง 900 วัน ขยาย 4 ครั้ง 1,864 วัน รวม 2,764 วัน" นายสุทธิพล พัชรนฤมล (ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของบริษัทซิโน-ไทยฯ) พยานโจทก์ก็เบิกความรับว่าเป็นความจริง ส่วนข้อความในส่วนที่ว่า "บริษัทมีมาตรฐานหรือไม่" แม้นายสุทธิพล จะเบิกความว่าการขยายระยะเวลาก่อสร้างเป็นคนละกรณีกับการที่โจทก์จะมีมาตรฐานหรือไม่  แต่ลำพังข้อความในส่วนดังกล่าวก็ยังไม่ถึงขนาดที่น่าจะทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ฟ้องโจทก์จึงยังไม่มีมูลที่จะประทับฟ้อง และเมื่อคดียังมิอาจประทับฟ้องได้แล้ว ศาลนี้ย่อมไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีส่วนแพ่งเช่นเดียวกัน  พิพากษายกฟ้องและไม่รับฟ้องในคดีส่วนแพ่ง คืนค่าขึ้นศาลในส่วนแพ่งทั้งหมดให้แก่โจทก์ 

กองทัพเรือ โดย ‘ทัพเรือภาคที่ 1’ นำร่องปลูกหญ้าทะเล เพื่ออนุบาลสัตว์น้ำ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

กองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นำร่องปลูกหญ้าทะเล ในโครงการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล บริเวณหาดนภาธาราภิรมย์ กิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังจากที่ทำการสำรวจพื้นที่ฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล มาแล้วก่อนหน้านี้

กิจกรรมนำร่องปลูกหญ้าทะเลในวันนี้ ได้รับเกียรติจาก นาย สุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก เป็นผู้วางแผนและกำกับการปลูก โดยมีนักดำน้ำจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมโครงการ จำนวน 15 นาย มาร่วมกันดำน้ำแบบ Scuba ปลูกหญ้าทะเลชนิด “กุ้ยช่ายเข็ม” (Halodule pinifolia) จำนวน 5,000 กอ ด้วยวิธี “ย้ายปลูก” ในทะเลพื้นที่ 3 ไร่ ห่างจากชายฝั่งของหาดนภาธาราภิรมย์ กิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กองการบินทหารเรือ ประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การเพาะพันธุ์ และขยายพันธุ์ของหญ้าทะเล เนื่องจากหาดนภาธาราภิรมย์อยู่ติดกับคลองบางไผ่ โดยคลองจะพัดพาเอาตะกอนแร่ธาตุ และสารอาหารอันอุดมสมบูรณ์ ลงสู่ทะเลในบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับในช่วงเดือน มกราคม 2565 นั้น หน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมโครงการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล จะมีการจัดกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ และมีการติดตามการเจริญเติบโตของหญ้าทะเล ที่ปลูกในวันนี้ เพื่อขยายผลโครงการต่อไป

 

กองทัพเรือโดย ทัพเรือภาคที่ 3 ช่วยกู้เรือประมงจมกลางทะเล

นาวาเอก เชษฐา คุ้มเจริญ ผู้ช่วยโฆษกทัพเรือภาคที่ 3 ได้แถลงข่าว ถึงการช่วยเหลือเรือประมงจมน้ำกลางทะเล จ.สตูล ว่าเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา พลเรือโท สมพงษ์ นาคทอง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ (นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ) จัดกำลังพลพร้อมเรือยางท้องแข็ง (RIB) ให้ความช่วยเหลือชาวประมงในการกู้เรือประมงสีนิล 7 ที่ประสบเหตุจมกลางทะเลสตูล โดยลูกเรือ 7 คนได้รับช่วยเหลือขึ้นจากน้ำและกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ได้ลากเรือดังกล่าวมาเกยหาดที่บริเวณชายฝั่งแหลมเตะปัน ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล เป็นที่เรียบร้อย

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.64 ได้ระดมกำลังพล นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ ทั้งหน่วยร่วมกับเจ้าของเรือ นำเครื่องสูบน้ำที่ได้รับการสนับสนุนจากเรือ ต.996 มาทำการสูบน้ำออกจากตัวเรือ เพื่อกู้เรือนำกลับไปซ่อมแซม ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาพลบค่ำ ทำให้ระดับน้ำในเรือลดลง และสามารถกู้เรือที่จมน้ำได้ในที่สุด

เพื่อผู้พิทักษ์ป่าไทย “มูลนิธิสหชาติ” ผนึกกำลังกัลยาณมิตร มอบชุดลาดตระเวนพร้อมอุปกรณ์การดำรงชีพ แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าศรีน่าน ที่ช่วยปกป้องป่าต้นน้ำของประเทศ

ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน มูลนิธิสหชาติ นำโดย พระชายกลาง อภิญาโณ ประธานมูลนิธิ พร้อมญาติธรรมสายบุญ เป็นสะพานบุญส่งมอบชุดลาดตระเวนลายพราง พร้อมอุปกรณ์เป้สนาม รองเท้าบู้ทคอมแบต เครื่องหมายติดเสื้อ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท บางกอก ไอวีเอฟเซ็นเตอร์ โดยนายแพทย์วิวรรธน์ ชินพิลาศ  พร้อมสิ่งของเครื่องใช้ในการดำรงชีพ จาก  บริษัท แลคตาซอย จำกัด บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (Lotus) การเคหะแห่งชาติ และ บริษัท สหธาราวัฒน์ จำกัด ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ โดยมี นายบัณฑิต ฉิมชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน นำทีมรับมอบ 

จากนั้นเดินทางยังจุดที่สอง ที่หน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ บ้านห้วยสามสบ อ.นาน้อย เพื่อมอบผ้าห่ม พร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้จำเป็น แก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้สูงอายุ พร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้ง กระเป๋า ผ้าขนหนู ตุ๊กตา ขนม แก่เจ้าหน้าที่ และเด็กๆ โดยมี นายธงชัย เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าหน่วยอนุรักษ์ต้นน้ำห้วยสามสบ พร้อม นายสมพล จินดาคำ หัวหน้าหน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำห้วยสามสบ ร่วมรับมอบในครั้งนี้ 

จุดสุดท้าย ประธานมูลนิธิสหชาติ นำคณะสายบุญ ลงพื้นที่ยังฝายกั้นน้ำ ตั้งอยู่บริเวณ หมู่บ้านน้ำปี้ อ.เวียงสา เพื่อส่งมอบท่อน้ำ PVC ในการนำน้ำจากฝายเชื่อมต่อส่งให้ชาวบ้าน นำไปใช้ในการอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร ซึ่งมีความยาว 100 เมตร พร้อมทั้งมอบ ผ้าห่ม อาหารแห้ง กระเป๋า ผ้าขนหนู ตุ๊กตา และขนม แก่ชาวบ้านและเด็กๆอีกด้วย

'อ.เจษฎา' ไขข้อข้องใจ​ 'เถ้ากระดูกสีชมพู'​ ยัน!! เกิดขึ้นได้ไม่ผิดธรรมชาติ

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ 'อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์'​ หลังมีข่าวการฌาปนกิจศพ คุณอ๊อด คีรีบูน แล้วพบว่า เถ้ากระดูกมีเป็นสีชมพู​ ว่า... 

ตรงนี้มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ สามารถเกิดขึ้นได้จากปฏิกิริยาเคมีของสารที่อยู่ในกระดูก ไม่ใช่สิ่งที่ผิดธรรมชาติ อิทธิปาฏิหาริย์แต่อย่างไร

ดูคำอธิบายจากกรณีข่าวเก่า (https://www.newtv.co.th/m/news/?id=70303) ที่ผมไปให้ข้อมูลเอาไว้ ที่ด้านล่างนี้นะครับ

"ดร.เจษฎา" ไขข้อข้องใจหลังพิธีฌาปนกิจพบ "อัฐิ" สีชมพู ยันเกิดขึ้นได้ไม่ผิดธรรมชาติ

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. จากกรณี เด็กชายณัฐภัทร นำตระกูลวัฒน์ หรือน้องไตเติ้ล อายุ 8 ปี 8 เดือน 18 วัน ซึ่งเป็นเด็กพิเศษตั้งแต่แรกเกิด เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด อาการปอดบวม และอาการทางสมอง ทางครอบครัวจึงตั้งบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรม 3 คืน ก่อนประกอบพิธีฌาปนกิจ 

แต่ปรากฏเหตุอัศจรรย์หลังพบว่า อัฐิของน้องไตเติ้ล เป็นสีชมพู เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปชาวบ้านจึงมาขอดูอัฐิ ก่อนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยเชื่อว่าเด็กบริสุทธิ์ และมีบุญ เถ้ากระดูกจึงเป็นสีชมพู และเชื่อว่าน่าจะให้โชคลาภ ครอบครัวควรเก็บรักษาไว้ให้ดี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายหลักการทางวิทยาศาสตร์ถึงที่มาของอัฐิเถ้าที่ถูกเผาแล้วเป็นสีชมพู ว่า สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย

‘ไบเดน’ อัดงบซื้อชุดตรวจเพิ่ม 500 ล้านชุด สกัดเชื้อ Omicron ส่งฟรีถึงบ้าน

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งด่วน ให้จัดงบสั่งซื้อชุดตรวจ Covid-19 แบบ Rapid Test เพิ่มอีก 500 ล้านชุด ส่งไปให้ชาวอเมริกันถึงบ้านฟรี เพื่อสกัดการระบาดของเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ Omicron ที่ตอนนี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันกำลังจะทะยานสู่ 2 แสนรายต่อวัน ที่เป็นสายพันธุ์ Omicron มากถึง 73%

ทางทำเนียบขาวจึงต้องเร่งจัดส่งชุดตรวจ Rapid Test ให้ชาวอเมริกันถึงที่บ้านเพื่อใช้ตรวจเชื้อเบื้องต้นด้วยตัวเอง ลดการแออัดที่จะเดินทางไปต่อคิวที่หน่วยตรวจเชื้อ ที่อาจยิ่งเสี่ยงสัมผัสเชื้อ และเกิดการระเบิดเพิ่มขึ้นไปอีก

โจ ไบเดน มั่นใจว่า รัฐบาลยังเอาอยู่กับการจัดการปัญหาด้านการแพร่ระบาด โดยจะกระจายชุดตรวจเชื้อให้ได้มากที่สุด และจัดส่งกองกำลังจากกองทัพเข้าไปช่วยเสริมแรงตามโรงพยาบาลต่างๆ ด่านหน้าที่ต้องรับมืออย่างหนักกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่กลับมาพุ่งสูงอีกครั้งแล้วในตอนนี้จากการระบาดของ Omicron

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวย้ำอย่างมั่นใจว่า "นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เมื่อเดือนมีนาคม 2020 เพราะเราได้เรียนรู้ และเตรียมตัวรับมืออย่างดี" 

ซึ่งช่วงเดือนมีนาคม 2020 ที่โจ ไบเดน อ้างถึงนั้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด Covid-19 ในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในสมัยของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และการแพร่ระบาดเป็นไปอย่างทวีคูณ และเคยทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดถึง 3 แสนรายต่อวันมาแล้ว

"แต่มาวันนี้ เรามีชุดตรวจเชื้อให้ประชาชนฟรี เรามีวัคซีนในคลังพร้อม รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้น เพียงแต่ขอให้ชาวอเมริกันมาฉีดให้ครบโดส ตามที่หน่วยงานควบคุมโรคแนะนำเท่านั้น และตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องปิดเมือง" ไบเดนกล่าว

แต่คำถามที่หลายคนยังเป็นห่วงคือ ชุดตรวจ 500 ล้านชุด จะพอหรือ?

รัฐเปิดจุดขายล็อตเตอรี่ 80 บาท เริ่ม 17 ม.ค. 65

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้จัดทำของขวัญปีใหม่ 2565 ให้แก่ประชาชนคนไทย โดยได้ดำเนินโครงการสลาก 80 เพื่อขยายจุดจำหน่ายและกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการไว้ 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ขยายในเชิงลึกในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดนนทบุรี เพิ่มเติม จำนวน 34 จุดจำหน่าย (จากบัญชีสำรอง ปี 2564) รวมกับของเดิมเป็น 74 จุดจำหน่าย โดยจะเริ่มจำหน่ายสลากงวดแรกในงวดวันที่ 17 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป 

ส่วนระยะที่ 2 ขยายจุดจำหน่ายในเชิงกว้าง โดยเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายขยายทั่วประเทศ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวนไม่เกิน 1,000 จุดจำหน่าย โดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 2564 - 24 ม.ค. 2565 สำหรับผู้ที่ผ่านหลักเกณฑ์แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก จะถูกกำหนดให้เป็นผู้ขึ้นบัญชีสำรองตัวแทนจำหน่ายโครงการสลาก 80 โดยมีระยะเวลาในการขึ้นบัญชีสำรอง 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีประกาศของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 

กรณีที่ตัวแทนจำหน่ายโครงการสลาก 80 รายใดสละสิทธิ หรือถูกตรวจพบว่าไม่ปฏิบัติตามสัญญาและเงื่อนไขที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกำหนด จะเรียกผู้ขึ้นบัญชีสำรองลำดับถัดไปของจังหวัดนั้นขึ้นมาทดแทน เพื่อให้จำนวนของจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 ครบถ้วนตามจำนวนที่กำหนด  โดยจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 จะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศ  ตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 เป็นต้นไป  สำหรับประชาชนผู้สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดจุดจำหน่ายได้จากแอปพลิเคชัน GLO Lottery ในช่องค้นหาจุดจำหน่าย GLO Official Sellers 

ศาลฯ สั่ง!! 'แอดมินเพจตลาดหลวง' จ่าย 1 ล้าน เซ่นหมิ่น 'ทูตนริศโรจน์'

23 ธ.ค. 64 - นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินาโพสต์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า…

ในที่สุดความยุติธรรมที่ผมรอคอยก็สิ้นสุดลง 

ในวันนี้ 23 ธ.ค. 64 ศาลจังหวัดสมุทรปราการได้ตัดสินให้ผม (โจทก์) ชนะคดีที่ แอดมินเพจตลาดหลวง (จำเลย) ได้กระทำการหมิ่นประมาทผมในหลายวาระ โดยศาลได้พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 16 สิงหาคม 2564) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

ถ้ากระทรวงการคลังปรับเปลี่ยนอัตราโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเมื่อใด ก็ให้ปรับเปลี่ยนไปตามนั้น แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 7.5 ต่อปีตามคำขอ

และให้จำเลยโฆษณาผลคำพิพากษาในสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กผ่านบัญชีของจำเลยโดยตั้งค่าเผยแพร่เป็นสาธารณะเป็นเวลา 15 วันติดต่อกัน โดยหากมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาให้จำเลยเป็นชำระ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 7,000 บาท

กทม. ยกเลิกจัด ‘เคานต์ดาวน์-สวดมนต์ข้ามปี’ ย้ำ เอกชน หากยืนยันจัดงาน ต้องเข้มโควิดฟรีเซตติ้ง

กทม. ยกเลิกจัดเคานต์ดาวน์ปีใหม่-สวดมนต์ข้ามปี พร้อมย้ำ ภาคเอกชน เข้มมาตรการป้องกันโควิด หากยืนยันจะจัดกิจกรรมต่อ แนะ ปชช.งดสังสรรค์-รวมพลกับคนหมู่มาก

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีการจัดงานปีใหม่ และสวดมนต์ข้ามปีว่า ในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็กได้มีแนวทางปฏิบัติสำหรับการจัดงานปีใหม่ในกรุงเทพฯ โดยให้ยกเลิกการจัดงานขึ้นปีใหม่ และสวดมนต์ข้ามปีที่ทางกทม. เองนั้นเป็นเจ้าภาพ

“เนื่องจากทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้มีการเรียกร้องให้ยกเลิกวันหยุดบางส่วนเพื่อปกป้องสาธารณสุข เนื่องจากสายพันธุ์โอไมครอน แพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตาอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโลก และการแพร่ระบาดในประเทศไทย พบว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์โอไมครอน

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 22 ธันวาคม ผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอนมีมากกว่า 100 ราย ยืนยันสายพันธุ์แล้ว 27 ราย และรอการยืนยันอีก 97 ราย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด ทางกทม. ได้ทำการประชุมหารือกันแล้ว โดยทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขอยกเลิกการจัดงานประเพณีวันขึ้นปีใหม่ และการสวดมนต์ข้ามปี 2565 ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2564 - 1 มกราคม 2565 ที่จะจัดขึ้น ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงของสำนักงานเขตและหน่วยงานเขตของกทม. ทั้งหมด แต่ส่วนภาคเอกชนที่ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว ทางกทม. ขอความร่วมมือให้ ‘งด’ แต่หากต้องการจะจัด ท่านจะต้องมีมาตรการที่เข้มขึ้น” นายเกรียงยศ กล่าว

นายเกรียงยศ กล่าวว่า ขอให้ทางเอกชนที่ต้องการจะจัดงานปีใหม่ ดำเนินการตามมาตรการโควิด ฟรี เซตติ้ง ที่รัฐบาลกำหนด ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองคนเข้างาน เจลแอลกอฮอล์ การทำความสะอาดสถานที่ ก็เว้นระยะห่างให้คนที่มาร่วมงานสวมหน้ากากอนามัยตลอดทั้งงาน รวมถึงจะต้องมีจุดที่เตรียมไว้ให้กักตัวหากพบว่าผู้ที่มาร่วมงานติดเชื้อ และผู้ที่มาเข้าร่วมงานกับทางเอกชน ต้องมีผลการฉีดวัคซีน 2 เข็ม หรือ ต้องตรวจหาเชื้อแบบเอทีเคที่หน้างาน จึงขอความร่วมมือไปที่ทางเอกชนที่จะต้องจัดงาน ให้มีสิ่งเหล่านี้ เตรียมตัวไว้ด้วย รวมถึงลดจำนวนคนเข้างาน

รมว.แรงงาน จัดใหญ่ UpSkill แรงงานแข่งขันทักษะหุ่นยนต์หนุนศักยภาพ EEC

ก.แรงงาน เปิดห้องฝึกอบรมโชว์เทคโนโลยี พร้อมจัดประชันทักษะฝีมือด้านหุ่นยนต์-สมองกล เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของประเทศและ EEC

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีรับมอบห้องฝึกอบรม CiRA CORE และพิธีเปิดการแข่งขันทักษะฝีมือแรงงานสาขาระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ครั้งที่ 2 “MARA Skill Competition 2021” ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี โดยเปิดเผยหลังจากเป็นประธานเปิดงานดังกล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  มีนโยบายดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตอบโจทย์การเติบโตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ทั้งนี้สถานประกอบกิจการในเขต EEC หลายแห่งเริ่มใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในการผลิตมากขึ้น กระทรวงแรงงานโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงใช้แนวทางประชารัฐร่วมกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา พัฒนาทักษะแรงงานทั้ง Upskill และ Reskill โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานใหม่และนักศึกอาชีวะให้เป็นแรงงานคุณภาพรองรับเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

นายประทีป  ทรงลำยอง  อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า การแข่งขันดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้นโยบายดังกล่าว จัดโดยหน่วยงานสังกัดกพร. สถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (MARA) ระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2564 แข่งขัน 6 สาขา แบ่งเป็น 3 สาขาแข่งขันแบบทีมๆ ละ 2 คน ได้แก่ สาขาเมคคาทรอนิกส์ สาขาพีแอลซี สาขาซ่อมบำรุงหุ่นยนต์ และแบบบุคคล 3 สาขา ได้แก่ สาขาหุ่นยนต์ สาขาเขียนแบบเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ (CAD) สาขาปัญญาประดิษฐ์ ซีลาร์ คอร์ (CiRA CORE) ผู้เข้าแข่งขันเป็นนักศึกษาอยู่ในวิทยาลัยอาชีวศึกษาเขต EEC อาทิ วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก อี.เทค วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี วิทยาลัยเทคนิคระยอง วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา วิทยาลัยเทคโนโลยีไออาร์พีซี เป็นต้น  ซึ่งผู้เข้าแข่งขันที่ชนะเลิศของแต่ละสาขาจะได้รับรางวัล ดังนี้  อันดับที่ 1 จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อันดับที่ 2 รับเงินรางวัล 3,000 บาท อันดับ 3 รับเงินรางวัล 2,000 บาท

การแข่งขันทักษะฝีมือแรงงานในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเตรียมความพร้อมของแรงงานใหม่และส่งเสริมให้นักศึกษาอาชีวะสามารถนำความรู้ความสามารถมาประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการกำลังแรงงานในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง และไฮไลต์อีกงาน คือการรับมอบห้องฝึกอบรม CiRA CORE ซึ่งเป็นตามนโยบายของรัฐบาลตามแนวทางประชารัฐที่เสริมความเข้มแข็งให้กับศักยภาพของ EEC ได้อย่างชัดเจน โดยห้องนี้ได้รับการสนับนุนจากบริษัท TKK Corporation CO.,LTD. และ CiRA Automation and Technology CO.,LTD. มอบอุปกรณ์การฝึกอบรม เช่น หุ่นยนต์ Nachi และมือจับ ชุดลำเลียงอัตโนมัติ ตู้ไฟฟ้าชุดคอนโทรล สามารถจัดฝึกอบรมหลักสูตรปัญญาประดิษฐ์เพื่องานหุ่นยนต์อุตสาหกรรม การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการผลิต (AI) การโค้ดดิ้งร่วมกับไมโครคอนโทรลเลอร์สำหรับการพัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เป็นต้น ทั้งสองกิจกรรมในครั้งนี้เกิดขึ้นโดยความร่วมมือทั้งจากสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ทำให้เกิดการพัฒนาทักษะของกำลังแรงงานได้ทันเวลา เติมเต็มในส่วนที่เป็นข้อจำกัดของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและ EEC ด้วยแรงงานคุณภาพสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top