Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

'ตร.' สั่ง ผบช.ภ.1 รายงานชี้แจง เหตุนำภาพผิดมาประกอบการแถลงข่าว คดีแตงโม ยืนยันไม่มีผลต่อสำนวนในคดี เพียงแค่ต้องการสื่อให้ ประชาชนเข้าใจง่าย

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. ได้ชี้แจงถึง กรณีที่ตำรวจภูธรภาค 1 ได้แถลงสรุปสำนวนการสอบสวนคดีแตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ต และอาจมีความคลาดเคลื่อนเรื่องการนำเสนอด้วยวีดิทัศน์ประกอบการแถลงข่าว

เรื่องนี้ ได้รับคำยืนยันจาก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) ว่าวีดิทัศน์ที่มีการนำภาพผิด มาใช้ประกอบนี้ ไม่ได้อยู่ในสำนวนการสอบสวนที่ส่งมอบให้กับพนักงานอัยการ แต่การจัดทำวีดิทัศน์นี้ทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการแถลงข่าว เพื่อให้ประชาชนเข้าใจได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

“ผบ.กร.” จัดพิธีต้อนรับและให้โอวาทจ่าตรีสายวิทยาการ กร.

พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ประธานในพิธี พร้อมผู้บังคับบัญชาในกองเรือยุทธการ ร่วมพิธีต้อนรับและให้โอวาทจ่าตรีสายวิทยาการกองเรือยุทธการ ( กร.) ที่สำเร็จการศึกษา ประจำปี 2565 หลังจากได้รับการประดับเครื่องหมายยศ และมอบประกาศนียบัตร จากผู้บัญชาการทหารเรือ โดยกองเรือยุทธการ ได้รับมอบจ่าสำเร็จใหม่สายวิทยาการ กร. จำนวน 246 นาย

 โดยจ่าตรีที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนชุมพลทหารเรือ นั้น นับเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ เป็นผลมาจากความวิริยะอุตสาหะ ความขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเล่าเรียน ประกอบกับการประพฤติปฏิบัติหน้าที่อยู่ในระเบียบวินัย อันเข้มงวดขณะศึกษาอยู่ที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ตลอดระยะเวลา 2 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษา และได้รับการแต่งตั้งยศ เป็นจ่าตรี จะได้รับการบรรจุตำแหน่งหน้าที่ในกองเรือยุทธการ 
        
กองเรือยุทธการเป็นหน่วยกำลังรบหลักของกองทัพเรือ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติการทางเรือและอากาศยาน เพื่อปฏิบัติหน้าที่หลักให้กองทัพเรือ ทั้งในส่วนของการรักษาอธิปไตยของชาติทางทะเล การคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติและการช่วยเหลือประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวกองเรือยุทธการจะต้องดำรงความพร้อมรบให้ได้อย่างต่อเนื่องและพัฒนาขีดความสามารถในด้านต่างๆ ตลอดเวลา ทั้งองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี สิ่งเหล่านี้ จะสำเร็จลงไม่ได้ถ้าขาดกำลังพลที่มีสมรรถภาพมีความรู้ความสามารถ และมีระเบียบวินัยที่ดี 

'ไบเดน' ชงสภาคองเกรซ รีดงบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ หนุนยูเครน 'เสริมอาวุธ - กู้ศก. - เยียวยามนุษยธรรม'

โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กำลังดันเรื่องเข้าสู่สภาคองเกรซเพื่อของบด้านการทหารเพิ่มอีก 3.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท) เพื่อทุ่มลงในสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ซึ่งงบประมาณที่ไบเดนจะขอเพิ่มในส่วนนี้จะถูกใช้จัดหาอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ส่งให้กับรัฐบาลยูเครนใช้ต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย รวมถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กับยูเครน คาดว่าจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในสงครามยูเครนได้ถึงเดือนกันยายนปีนี้

โจ ไบเดน กล่าวว่า "พวกเราต้องการผลักดันกฎหมายสนับสนุนการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของยูเครน แม้ค่าใช้จ่ายในสงครามมันไม่ถูก แต่การยอมแพ้นั้นราคาแพงกว่ามาก" 

UK ผุด 'นาโตโลก' สร้างหลักประกันความปลอดภัย เหล่าชาติประชาธิปไตย ให้ปกป้องตนเองได้

“ระเบียบโลกที่สร้างขึ้นมาหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเย็น ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ดังนั้นตะวันตกจึงต้องการ ‘นาโตโลก’ เพื่อเสาะหาภูมิรัฐศาสตร์ใหม่” คำแถลงด้านนโยบายต่างประเทศครั้งสำคัญของ ‘ลิซ ทรัสส์’ รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรเมื่อวันพุธ (27 เม.ย.) ที่หวังเร่งเร้าให้ชาติพันธมิตร ซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา ส่งมอบอาวุธหนัก, รถถัง และเครื่องบินรบให้ยูเครนเพิ่มเติม และเตือนว่าอาจต้องปฏิบัติกับจีนแบบเดียวกับรัสเซีย หากว่าปักกิ่งไม่ยอมเล่นตามกฎ

“วิสัยทัศน์ของฉันคือโลกใบหนึ่งๆ ที่ประเทศเสรีทั้งหลายมีความแน่วแน่และมีอำนาจ โลกที่เสรีภาพและประชาธิปไตยถูกเสริมความเข้มแข็งผ่านเครือข่ายความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและความมั่นคง” ทรัสส์ กล่าวในลอนดอน

ทรัสส์ ให้คำจำกัดความความตกลงนี้ว่า ‘เครือข่ายแห่งเสรีภาพ’ พร้อมอ้างว่า “มันมีความจำเป็น เพราะโครงสร้างทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทั้งหลายที่จัดตั้งขึ้นหลังปี 1945 อาทิ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินั้น ปัจจุบันเริ่มคดงอและบิดเบี้ยวไปแล้ว” เธอกล่าว

เธอกล่าวต่อว่า “ตะวันตกและพันธมิตรจำเป็นต้องร่วมกัน จัดหาอาวุธหนัก รถถังและเครื่องบิน มอบแด่ยูเครน ขุดคุ้ยคลังสำรองของเรา ยกระดับกำลังผลิต เพราะว่าเป้าหมาย คือ ผลักดันรัสเซียออกจากทุกตารางนิ้วของยูเครน และสร้างประเทศแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ตามกรอบของแผนมาร์แชล (แผนงานฟื้นฟูยุโรป)”

นอกเหนือจากนั้น ทรัสส์ ได้กล่าวต่อว่า ‘นาโต’ ต้องหาทางรับประกันว่าบรรดาชาติบอลข่าน และประเทศต่างๆ อย่าง มอลโดวา และ จอร์เจีย จะมีความยืดหยุ่นและมีศักยภาพธำรงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตยและเสรีภาพ และยึดมั่นนโยบายเปิดกว้าง

ขณะเดียวกัน ทรัสส์ ยังแสดงออกถึงความทะเยอทะยานไกลออกนอกยุโรป อีกว่า “ในโลกสมัยใหม่ เราต้องการ ‘นาโตโลก’ และเราจำเป็นต้องรับประกันว่าบรรดาประชาธิปไตยทั้งหลาย อย่างเช่นไต้หวัน จะสามารถป้องกันตนเองได้”

รัฐมนตรีต่างประเทศรายนี้ ยังได้ระบุถึงความพยายามคว่ำบาตรรัสเซียหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนของสหราชอาณาจักร โดยบอกว่า “มันคือการตัดขาดไม่ให้รัสเซียเข้าถึงทางเศรษฐกิจอีกต่อไป มันจำเป็นต้องมีสิ่งตอบแทน และประเทศต่างๆ ที่ปรารถนาได้รับสิ่งตอบแทน พวกเขาจำเป็นต้องเล่นตามกฎ และในนั้นรวมถึงจีน”

“รัฐมนตรีเฉลิมชัย” เดินหน้าจ้างแรงงานอย่างต่อเนื่อง ยอดทะลุกว่า 70,000 คน ตั้งเป้า75,000 คน หวังสร้างรายได้ทดแทนให้เกษตรกรในช่วงฤดูแล้ง

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ได้ดำเนินการโครงการจ้างแรงงานชลประทาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อซ่อมแซม บำรุงรักษา ขุดลอก ปรับปรุงงานชลประทาน โครงการส่งเสริมการดำเนินงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก่อสร้างแหล่งน้ำ และระบบส่งน้ำเพื่อชุมชน/ชนบท แก้มลิง การจัดการคุณภาพน้ำ และโครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ สำหรับหลักเกณฑ์การจ้างแรงงาน จะพิจารณาจ้างแรงงานตามลำดับ ได้แก่ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรหรือเกษตรกรในพื้นที่สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำของกรมชลประทานในพื้นที่ และประชาชนและผู้ใช้แรงงานทั่วไปในพื้นที่ หากแรงงานที่ต้องการในพื้นที่เป้าหมายมีไม่เพียงพอจะพิจารณาจ้างเกษตรหรือแรงงานในพื้นที่ใกล้เคียงตามลำดับ

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สำหรับปี 2565 นี้ มีแผนจัดจ้างแรงงานทั้งสิ้น 75,000 คน วงเงินงบประมาณ 4,465 ล้านบาท ระยะเวลาการจ้างแรงงานอยู่ระหว่าง 1 - 10 เดือน วงเงินจ้างแรงงาน/คน จะอยู่ที่ประมาณ 8,700 – 87,000 บาท(ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ้าง/คน) ปัจจุบันมีการจ้างแรงงานแล้ว 70,113 คน จังหวัดที่มีผลการจ้างแรงงานมากที่สุด 3 ลำดับ คือ จังหวัดสกลนคร 5,389 คน จังหวัดอุบลราชธานี 3,787 คน และจังหวัดเชียงใหม่ 3,038 คน

‘ทัพเรือ’ เต้น!! สั่งตั้งกรรมการสอบครูฝึกพิเรนทร์ บังคับทหารกินน้ำอสุจิของตนเอง เมื่อปี 64 

(29 เม.ย. 65) พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณี ที่มีการเผยแพร่ภาพข่าว โดยระบุว่าเป็นค่ายทหารแห่งหนึ่งในพื้นที่สัตหีบ โดยจ่าทหารเรือ ซึ่งเป็นครูฝึกบังคับให้ทหารกองประจำการผลัดใหม่ กินน้ำอสุจิของตน รายละเอียดตามข่าวที่ได้มีการนำเสนอไปนั้น ว่า จากการตรวจสอบ พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ‘เป็นเรื่องจริง’ เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2564 โดยผู้ก่อเหตุคือ จ่าโท ทักษิณ หงอกพิลัย สังกัดกองร้อยบังคับการ กรมรักษาความปลอดภัย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ซึ่งในขณะนั้นเป็นครูฝึก ให้แก่ทหารกองประจำการ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว 

ทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ จ่าโท ทักษิณ ทราบเรื่องแล้วและได้สั่งย้าย ให้มาทำหน้าที่อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับทหารกองประจำการ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งหากตรวจพบว่ากระทำความผิดจริงจะต้องถูกลงทัณฑ์ทางวินัยตามความผิดสูงสุด เนื่องจากได้มีการสั่งการอย่างเข้มงวดจากผู้บัญชาการระดับสูง ไม่ให้มีการกระทำในเรื่องดังกล่าวมาแล้ว

‘บิ๊กตู่’ ปลุกทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์เวียดนาม ย้ำ!! ต้องท้าทายตัวเอง ลงสนาม ‘ต้องชนะ’

‘บิ๊กตู่’ ปลุกทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์เวียดนาม ตั้งเป้า 114 เหรียญทอง ส่งพลังท้าทายตัวเอง ชี้!! ลงสนามต้องชนะ พร้อมเกาะติดส่งกำลังใจ นำชื่อเสียงกลับประเทศ

(29 เม.ย. 65) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อรับโอวาท โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า…

“ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ทุกคนเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และมีโอกาสสร้างผลงานอย่างเต็มสติ กำลัง และความสามารถ เพื่อนำชื่อเสียงด้านการกีฬากลับมาสู่ประเทศให้เป็นความสุขกับชาวไทยอีกครั้ง จากข้อมูลเดิม ทราบว่าการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ผ่านมา ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ทีมนักกีฬาไทยสามารถสร้างชื่อเสียงคว้าเหรียญกลับบ้านได้ทั้ง 318 เหรียญ เป็นเหรียญทอง 92 เหรียญ เงิน 103 เหรียญ และทองแดง 123 เหรียญ จาก 54 ชนิดกีฬา ทีมนักกีฬาทั้งหมด 980 คน เป็นอันดับที่ 3 จาก 11 ประเทศ  

“ในนามรัฐบาล และพี่น้องชาวไทย รู้สึกภาคภูมิใจ และขอขอบคุณทัพนักกีฬาไทยทุกคน รวมทั้งครูผู้ฝึกสอน เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดกำลังสามารถ เต็มศักยภาพ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย เป็นที่รู้จักและโดดเด่นในด้านการกีฬาในภูมิภาคอาเซียนเสมอมา ปีนี้เราตั้งเป้าไว้ 114 เหรียญทอง จาก 40 ชนิดกีฬา มีนักกีฬา 108 ราย และครูเจ้าหน้าที่อีก 300 กว่าคน วันนี้ขอชื่นชมนักกีฬาทุกคนทั้งหมดที่ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้”

ทัวร์ลง!! 'นักเตะเมลเบิร์น ซิตี้' หลังเหยียด 'สารัช-วรชิต' ด้านกองเชียร์ 'ออสซี่' ชี้!! มันก็แค่มุกตลก

หลังการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี นัดที่ 5 ระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ เมลเบิร์น ซิตี้ จากออสเตรเลีย จะจบลงด้วยสกอร์ 0-0 เมื่อวันพุธที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา

แต่เรื่องดูท่าจะยังไม่จบ โดยโลกโซเชียลได้เกิดประเด็นดรามาจากเหตุช่วงท้ายเกม เมื่อ รอสติน กริฟฟินส์ ปราการหลังของ เมลเบิร์น ซิตี้ เจ้าของส่วนสูง 187 เซนติเมตร แสดงท่าทางเหยียดความสูงของนักเตะไทยอย่าง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ สารัช อยู่เย็น ที่เกิดการกระทบกระทั่งกัน

ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากแฟนบอลชาวไทย ต่อพฤติกรรมของนักเตะวัย 34 ปี รายนี้ ถึงขนาดเข้าไปโจมตี และตำหนิสโมสร เมลเบิร์น ซิตี้ เป็นจำนวนมาก อาทิ...

- รักคุณ เมลเบิร์น ... วิคตอรี่
- บูลลี่ ซิตี้ ฟุตบอล คลับ
- ไหนเขาบอกประเทศว่าออสเตรเลียเจริญแล้วไง แต่ทำไมยังมีคนบางคนทำตัวต่ำๆ อยู่เลย จิตใจไม่ได้พัฒนาสินะ
- ความสูงของคุณไม่สามารถช่วยให้ทีมคุณชนะเราได้ นี่มันน่าอายขนาดไหนทีมจ่าฝูงลีกออสเตรเลีย?
- บีจี ปทุม ยูไนเต็ด vs สโมสร นักโทษ
- อย่าดูที่ความสูง ให้ดูที่ตารางคะแนน
- ไม่น่าเชื่อว่าทีม เมลเบิร์น จะยอมรับกับพฤติกรรมการเหยียดชาติพันธุ์ของผู้เล่นรายนี้ ทัศนคติของนักเตะทีมนี้ ที่มีต่อชาวเอเชียนั้นชัดเจนมาก
- ผู้เล่นของคุณไร้ซึ่งมารยาท ไม่มีน้ำใจนักกีฬา หยาบคาย สโมสรควรถูกลงโทษ

"อุตตม" เสนอทำมาตรการสร้างรายได้ควบคู่เยียวยา เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลประชาชนและพยุงเศรษฐกิจท่ามกลางความเสี่ยงในอนาคต พร้อมยกแนวคิดให้หน่วยงานรัฐในท้องถิ่นจัดซื้อพัสดุโดยตรง เพื่อเร่งกระจายเม็ดเงินลงเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างรวดเร็ว

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย  โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงแนวทางการดูแลประชาชนคนไทย ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากภาวะต้นทุนราคาพลังงานสูง วัตถุดิบและสินค้าบริการต่างๆ ปรับราคาแพงขึ้น และมีแนวโน้มจะแพงขึ้นต่อไป แต่ขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญกับปัญหารายได้ที่ถดถอย เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศยังไม่ฟื้น ว่าเรื่องนี้เป็นความท้าทายทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังก็ได้ลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือร้อยละ 3.5 จากเดิมที่ร้อยละ 4 และคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีไว้ที่ร้อยละ 5 ซึ่งเกินกรอบเงินเฟ้อเดิมของประเทศที่กำหนดไว้ร้อยละ 1-3 ไปมาก รวมทั้งยังระบุว่าสถานการณ์อนาคตเศรษฐกิจประเทศ มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ 

สถานการณ์ดังกล่าว ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะราคาพลังงานนั้นเป็นปัญหาจากปัจจัยภายนอก ซึ่งเราควบคุมไม่ได้ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการภายในประเทศเอง ด้วยการดำเนินนโยบายและมาตรการที่ครอบคลุมเหมาะสม เพื่อดูแลประชาชนและผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันก็เพื่อพยุงสถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมไม่ให้ทรุดหนักลงไป และมีความพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน รวมทั้งปัจจัยความเสี่ยงในปัจจุบัน

สำหรับการดูแลช่วยเหลือเยียวยาค่าครองชีพประชาชนเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบมาก แต่ตามที่ตนกล่าวไว้ข้างต้นว่า วันนี้นอกจากประชาชนมีปัญหาเรื่องต้นทุนพลังงานและค่าครองชีพแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องรายได้อีกด้านหนึ่งด้วย ในภาวะเช่นนี้จำเป็นต้องใช้ชุดมาตรการที่จะสามารช่วยเหลือดูแลประชาชนได้ครบวงจร เพราะเพียงมาตรการด้านใดด้านหนึ่ง จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพแท้จริง

นับตั้งแต่การระบาดของโควิด รัฐบาลได้ออกมาตรการบรรเทาด้านค่าครองชีพ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี สภาพการปัจจุบันแตกต่างจากในอดีต มีเหตุแทรกซ้อน โดยเฉพาะสงครามยูเครน ทำให้การดูแลเศรษฐกิจและปัญหาของประชาชนมีความซับซ้อนและอ่อนไหวเพิ่มขึ้นมาก เช่น การกระตุ้นกำลังซื้อเพื่อเสริมรายได้ให้กับผู้ประกอบการนั้น จะส่งผลได้ในช่วงเวลาหนึ่งก่อนเศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นตัว แต่ทว่าหากเศรษฐกิจยังไม่เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน และรายได้ของผู้บริโภคและผู้ประกอบการกลับถดถอย รวมทั้งมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น มาตรการเดิมเพียงเท่านั้นจึงอาจไม่มีผลได้เช่นดังก่อน 
 
ดังนั้นเราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า ซึ่งตนเห็นว่ามีความจำเป็นต้องมีชุดมาตรการที่ครอบคลุม โดยเพิ่มมาตรการใหม่ที่จะช่วยเพิ่มความสามรถในการสร้างรายได้ของผู้ประกอบการโดยตรงและต่อเนื่อง ตนจึงขอแชร์แนวคิดดังต่อไปนี้ 

1.การสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในวงกว้างและต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงฟื้นฟูเงินทุนให้ผู้ประกอบการ 

2.การช่วยให้ผู้ประกอบการรายกลางรายเล็ก ที่ขณะนี้มีปัญหาการเข้าถึงเงินกู้สินเชื่อ ให้มีเงินหมุนเวียนเพียงพอในช่วงเวลาปัจจุบัน เพื่อสามารถทำการค้าต่อไปได้ 

3.การเพิ่มปริมาณการค้าโดยใช้ประโยชน์จากตลาดแนวชายแดนให้มากขึ้น

สำหรับวันนี้ตนจะขอกล่าวถึงแนวคิดข้อแรกก่อนว่า เมื่อเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจปัจจุบันหดหาย จึงมีความจำเป็นต้องสร้างแหล่งรายได้ใหม่ขึ้นมา และแหล่งรายได้ใหม่นั้นสมควรพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเปราะบาง รวมถึงกลุ่มคนตัวเล็กทั้งพ่อค้าแม่ขาย และเอสเอ็มอี ที่สำคัญเน้นการกระจายแหล่งรายได้นั้นให้ทั่วถึงในพื้นที่ต่างๆของประเทศ เพื่อช่วยเศรษฐกิจฐานรากให้หมุนเวียนคล่องตัวขึ้น
 
ทีมงานสร้างอนาคตไทยได้ประมวลภาพกำลังซื้อในปัจจุบัน พบว่า แม้ในภาพรวมกำลังซื้อจะหดหาย แต่ในความเป็นจริงยังมีผู้มีกำลังซื้อรายใหญ่อยู่ ประกอบด้วย 1.หน่วยงานราชการ 2.รัฐวิสาหกิจ 3.เอกชนรายใหญ่ ซึ่งยังมีความจำเป็นต้องจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์และอื่นๆต่อเนื่อง โดยจากการประเมินคาดว่ามีมูลค่ารวมกันสูงถึงปีละ 3 ล้านล้านบาท 

แนวทางที่เราเสนอคือ จากเดิมที่โดยปกติถือปฏิบัติ หน่วยงานดังกล่าวจะดำเนินการจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ ฯลฯ ในส่วนกลาง แล้วจึงจัดส่งสิ่งที่จัดซื้อไปให้หน่วยงานของตนในพื้นที่ต่างๆเพื่อใช้งาน เม็ดเงินที่เกิดจากการจัดซื้อจึงอยู่ในส่วนกลางเป็นจำนวนมาก โดยต้องใช้เวลานานจึงจะหมุนเวียนไปสู่พื้นที่อื่นๆของประเทศ ดังนั้น หากเราทำให้เม็ดเงินจากการจัดซื้อดังกล่าว กระจายลงสู่พื้นที่ในจังหวัดต่างๆได้เร็วยิ่งขึ้น ก็จะเกิดประโยชน์ครอบคลุมเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับฐานรากได้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สามารถพิจารณาดำเนินการการจัดซื้อในพื้นที่โดยตรง เพื่อให้ธุรกรรมการซื้อขายเกิดขึ้นในพื้นที่ ก็จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายกลางรายเล็กที่มีความพร้อม เข้าถึงการเสนอขายครุภัณฑ์และอื่นๆดังกล่าวได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้และกระตุ้นกำลังซื้อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในหลากหลายพื้นที่ของประเทศได้โดยตรง
 
ทั้งนี้เราอาจมีข้อกังวลว่า การจัดซื้อในท้องถิ่นมีโอกาสที่งบประมาณจะรั่วไหลมากนั้น ผมคิดว่า หากภาครัฐมีนโยบายทำเรื่องนี้อย่างชัดเจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถหารือร่วมกันกำหนดวิธีบริหารจัดการที่รัดกุมและโปร่งใสให้มีประสิทธิภาพและคล่องตัว เพื่อให้ดำเนินการสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

บก.ทท. ทำพิธีรับกำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 ชุดที่ 2 กลับประเทศไทย

กองบัญชาการกองทัพไทย จัดพิธีรับกำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 ชุดที่ 2 จำนวน 135 นาย ที่เสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพ ณ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน (UNMISS) และเดินทางถึงประเทศไทยโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำขององค์การสหประชาชาติ โดย พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.)  มอบหมายให้ พล.ท.ชิดชนก  นุชฉายา เจ้ากรมยุทธการทหาร เป็นผู้แทนอ่านสารต้อนรับกำลังพล ของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในพิธีรับกำลังพล ผลัดที่ 2 กลับประเทศไทยหลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน (UNMISS) ณ สนามบินนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพฯ จากนั้นจะเข้ากักกันตนเป็นระยะเวลา 5 วัน ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ณ โรงแรมนนทบุรี พาเลซ จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ กำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 ชุดที่ 2 จำนวน 135 นาย ได้จบการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพ United Nations Mission in South Sudan:UNMISS โดยได้เดินทางจากเมืองจูบา สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน  กลับสู่ประเทศไทย

สำหรับ กองร้อยทหารช่างของไทย ได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติและองค์การต่าง ๆ ในความเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะคุณสมบัติพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากชาติใด ๆ ได้แก่ การปฏิบัติงานทางการช่างที่มีประสิทธิภาพ ที่ได้รับการมอบหมายจากฝ่ายวิศวกรรมประจำภารกิจ ตลอดจนการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาพัฒนาเพื่อความมั่นคงอย่างยั่งยืน ให้แก่ประชาชนชาวสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน ควบคู่ไปกับการปฏิบัติภารกิจทางยุทธวิธี 

ทั้งนี้ กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์สนับสนุนการซ่อมบำรุงอากาศยานปีกหมุน (เฮลิคอปเตอร์) ให้กับหน่วยบินรวันดา (Rwanda Aviation Unit, RWAN AVN​) ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้าย ก่อนที่จะส่งมอบการปฏิบัติภารกิจให้กับกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 3 เพื่อสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ณ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน (UNMISS) 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top