Sunday, 18 May 2025
ECONBIZ NEWS

สัญญาณฟื้นพบยอดตั้งโรงงานครึ่งปีลงทุนพุ่ง 5.6 หมื่นล้านอ

นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ยอดตั้งโรงงานใหม่ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มีทั้งหมด 1,110 โรงงาน คิดเป็นเงินลงทุน 56,354.19 ล้านบาท และมีการจ้างงาน 31,330 คน ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการประกอบกิจการใหม่สูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร แปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ และผลิตภัณฑ์โลหะ ตามลำดับ 

ส่วนของการขยายโรงงานมีจำนวน 152 โรงงาน เงินลงทุน 41,510.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.41 % การจ้างงาน 37,550 คน เพิ่มขึ้น 52.02 % ขณะเดียวกันมีการเลิกประกอบกิจการลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 361 โรงงาน ลดลง 8.38% เงินลงทุน จำนวน 21,427.65 ล้านบาท ลดลง 4.57% เลิกจ้างงาน 12,172 คน ลดลง 8.74% สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากที่โรงงานขนาดเล็กส่วนใหญ่และขนาดกลางบางส่วนได้รับผลกระทบของวิกฤตการณ์โควิด-19

กระเป๋าฉีก! ราคาไข่ปรับเพิ่มขึ้นอีก หลังต้นทุนผู้เลี้ยงพุ่ง

นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ได้ปรับขึ้นราคาฟองละ 10 สตางค์ จากเดิม 3.40 บาทต่อฟอง เพิ่มเป็น 3.50 บาทต่อฟอง โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากต้นทุนอาหารสัตว์ปรับขึ้นกิโลกรัมละ 60 สตางค์ ทำให้ต้นทุนมาอยู่ที่ 3.20 บาทต่อฟอง 

นายสุเทพ สุวรรณรัตน์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้กล่าวว่า สมาคมไม่ได้ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่เนื่องจากกรมการค้าภายในขอให้ตรึงราคาไว้ แต่ผู้เลี้ยงรายย่อยที่รวมตัวกันเป็นสหกรณ์และชมรมมีต้นทุนการเลี้ยงสูงกว่ารายย่อยได้ประกาศปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มขึ้น 10 สตางค์จาก 3.40 บาท เป็น 3.50 บาท สาเหตุที่ต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้นเกิดจากอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น รวมถึงค่ายา วิตามิน และเวชภัณฑ์ และไก่ให้ไข่น้อยลงด้วย

'กอบศักดิ์' ชี้!! วิกฤติอาหารแพงลามทั้งโลก ผลพวงสงคราม แย้ม!! ไทยยังดี ไม่เคยทิ้งภาคเกษตร พอช่วยก้าวผ่านไปได้

ไม่นานมานี้ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ฉายภาพวิกฤตอาหารโลก - Coming Global Food Crisis ไว้ว่า...

หลายคนคงได้ยินคนบ่นว่า ช่วงนี้ข้าวของแพง 

แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกิดแค่ในไทย ยุค "ข้าวยาก หมากแพง" กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก

ข้อมูลล่าสุดจาก FAO หรือองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ชี้ว่า ในหลายพื้นที่ของโลกกำลังเข้าสู่ช่วงการเกิดวิกฤตการณ์อาหาร

ดัชนีราคาอาหารล่าสุดในเดือนมีนาคม เร่งเพิ่มขึ้นถึง 12.6% จากเดือนก่อนหน้า !!!

หากเทียบกับปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 17.9% ทำให้ระดับราคาอาหารโลกสูงสุดในรอบ 22 ปี ตั้งแต่ได้สร้างดัชนีนี้ขึ้นมา

ในภาพ เราจะเห็นถึงความรุนแรงของปัญหานี้ โดยเมื่อเทียบกับเดือนมกราคมหรือต้นปีที่ผ่านมา แยกรายหมวดแล้ว พบว่า...

- ราคาเนื้อสัตว์ +7.0%
- ราคาผลิตภัณฑ์จากนม +9.5%
- ราคาธัญพืช +21.0%
- ราคาน้ำมันพืช +39.1%
- ราคาน้ำตาล +4.6%

ไม่น่าแปลกใจว่า คนทั้งโลกจึงบ่นอุบกันไปทั่ว

กำเงินไป 100 แต่ได้ของมาแค่ 80

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะสงครามที่ยุโรป 

รัสเซียและยูเครนเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลี 28% ของโลก ยิ่งไปกว่านั้น รัสเซียและเบลารูสเป็นผู้ส่งออกปุ๋ยโปแตส 40% ของโลก

เมื่อมีการ Sanctions รัสเซียและเบลารูส บวกกับการที่ยูเครนไม่สามารถเพาะปลูกได้ ข้าวสาลีและปุ๋ยจึงขาดแคลนหนัก

เช็คเลย! เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อยเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

น.ส.วารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางกำหนดการโอนเงินสงเคราะห์ฯ เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ก่อนเดือนที่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์ฯ หลังจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้แจ้งมติคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ อนุมัติแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 แล้ว

โดยให้จ่ายเงินสงเคราะห์ฯ ในอัตราการจ่ายเดิม คือ ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000 - 100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บาทต่อเดือน โดยให้จ่ายเป็นจำนวน 10 เดือน งวดแรกสำหรับเดือนตุลาคม 2564 - กุมภาพันธ์ 2565 จะจ่ายในเดือนเมษายน 2565 และงวดถัดไปจะจ่ายเป็นรายเดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - กันยายน 2565 

 

คนแห่กู้เงินออมสิน สู้วิกฤตดันยอดสินเชื่อพุ่งเกือบแสนล้าน

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2565 ธนาคารออมสิน โดยธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 95,500 ล้านบาท ทั้งสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อภาครัฐ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 รวมกว่า 370,000 ราย  โดยมีสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาล เช่น  สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ จำนวน 33,000 ราย ปล่อยสินเชื่อรวม 1,600 ล้านบาท 

พร้อมกับอบรมทักษะอาชีพภายใต้โครงการออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพ ได้มากกว่า 16,200 ราย และสินเชื่อห่วงใย (เพื่อสู้ภัยโควิด-19) เพื่อช่วยเหลือกลุ่มประชาชนรายย่อยที่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ได้มีเงินหมุนเวียนใช้สอยในครอบครัวอีกกว่า 50,000 ราย ซึ่งรวมถึงการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถผ่านพันธมิตรของธนาคารด้วย เป็นต้น

สำหรับด้านการบริหารจัดการหนี้ ได้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  ได้ผ่อนปรนอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรการปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน ในไตรมาสแรก ปี 2565 ธนาคารปรับโครงสร้างหนี้ได้ 260,000 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 190,000 ล้านบาท ขณะที่จำนวนผู้ขอปรับโครงสร้างหนี้ลดลงจากเดิม เมื่อเทียบกับช่วงสถานการณ์โควิดปี 2563 ยอดหนี้ถึง 800,000 ราย ถือว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ทั้งจากมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ ของรัฐบาล และสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกหนี้มีศักยภาพกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ  คาดว่าปีนี้จะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ได้มากกว่า 447,000 ราย 

‘GMW’ หยุดรับจอง ORA Good Cat ชั่วคราว หลัง ‘โควิด-สงครามยูเครน’ ทำชิปขาดแคลน

(19 เม.ย. 65) เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย แจ้งข่าวผ่านเพจ GWM Thailand ระบุว่า ขอขอบคุณทุกการตอบรับอันเหนือความคาดหมาย ที่คนไทยให้ความสนใจในเทคโนโลยีการขับขี่รูปแบบใหม่ของ ORA Good Cat จนมียอดจองเพื่อรอส่งมอบในปัจจุบันมากกว่า 3,500 คัน และขึ้นสู่การเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในระยะเวลาอันสั้นหลังจากเปิดตัวในประเทศไทยในเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา

จากผลกระทบในวงกว้างของสถานการณ์โควิด-19 และภาวะสงครามที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดการขาดแคลนชิปและแบตเตอรี่ทั่วโลกตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และยังส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ ORA Good Cat

นอกจากนี้ จากการประเมินความสามารถในการส่งมอบกับปริมาณยอดจองสะสมที่เรามีในปัจจุบันของเรา เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหยุดรับการจองรถ ORA Good Cat ทั้ง 3 รุ่นเป็นการชั่วคราว ได้แก่ รุ่น 400 TECH, 400 PRO และ 500 ULTRA โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2565 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. เป็นต้นไป (เที่ยงคืนของวันที่ 19 เมษายน 2565) ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้ง

'เบนซ์' ประกาศเลิกใช้ 'พริตตี้' ทุกงานแสดงรถยนต์ในไทย หันใช้ทีม Digital Guide คอยให้คำแนะนำแทน 

เมอร์เซเดส เบนซ์ ยืนยันเลิกใช้ พริตตี้ ทุกงานแสดงรถยนต์ในไทย และจะใช้ทีม ดิจิทัล ไกด์ คอยให้คำแนะนำแทน เพื่อสร้างค่านิยมใหม่ ในสังคมที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย และเท่าเทียม

รายงานจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ว่า บริษัทให้ความสำคัญกับความหลากหลาย (diversity) และความเท่าเทียมอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าเดิม โดยเริ่มจากการเปลี่ยนค่านิยม ที่อยู่คู่กับงานจัดแสดงรถยนต์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือวัฒนธรรมการใช้ “พรีเซนเตอร์” ที่ทุกคนรู้จักในนาม “พริตตี้”

การใช้ “พริตตี้” ช่วยโปรโมทรถยนต์ในงานอีเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย จนอาจส่งผลต่อมุมมองของคนไทยที่มีต่อพริตตี้ และหลาย ๆ ครั้งก็ส่งผลกระทบกับคุณค่าของผู้หญิงและอาจนำไปสู่การกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อพวกเธอ

รมว.สุชาติ แจงเงื่อนไข ใครมีสิทธิกู้เงินกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน รับดอกเบี้ย 0% 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แจงคุณสมบัติผู้มีสิทธิกู้ยืมเงินจากกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน พร้อมรับดอกเบี้ย 0% ในงวดที่ 1 -12  หลังมีผู้สนใจและสอบถามหลักเกณฑ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยคุณสมบัติของผู้กู้จะต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีการดำเนินการร่วมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน มีสถานประกอบการที่สามารถติดต่อได้ ซึ่งมีได้ทั้งประเภทบุคคลและกลุ่มบุคคล 

“พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ และกลุ่มเปราะบางที่ต้องการทำงาน มีรายได้ และยังมีศักยภาพ แต่ไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยกำชับกระทรวงแรงงานดูแลช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม ทั่วถึงเพื่อให้สามารถก้าวต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์โควิด – 19  ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 กรมการจัดหางานได้รับอนุมัติวงเงินกู้ยืม จำนวน 5,000,000 บาท โดยให้ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้รับงาน/กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน จากร้อยละ 3 ต่อปี ลดเหลือร้อยละ 0 ต่อปี งวดที่ 1-12 โดยสามารถยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 31 สิงหาคม 2565 ณ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด ในท้องที่ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้านของกรมการจัดหางานพร้อมให้บริการแก่ผู้จ้างงานที่ต้องการจะส่งงานให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน ประชาชนทั่วไปที่ต้องการจะรับงานไปทำที่บ้าน และผู้รับงานไปทำที่บ้าน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้กู้เงินและการชำระหนี้เงินกู้ ดังนี้

กรณีบุคคล วงเงินกู้ 1 - 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี มีคุณสมบัติดังนี้    
1. ต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน
2. มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือ มีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน
3. มีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท 
4. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
5. ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน

กรณีกลุ่มบุคคล วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี วงเงินกู้ 50,001 - 100,000 บาท ชำระคืนภายใน 4 ปี และวงเงินกู้ 100,001 - 300,000 บาท ชำระคืนภายใน 5 ปี โดยมีคุณสมบัติดังนี้
1. เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียน (กลุ่มบุคคล) กับกรมการจัดหางาน
2. ต้องมีสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน
3. มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือ มีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน
4. มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท
5. ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน

เที่ยวไทยฟื้นเร็ว!! ตัวเลขต่างชาติเที่ยวไทย 3 เดือนแรกกว่า 4 แสนคน คาดช่วงไตรมาส 2 เข้ามาอีก 3.4 แสนคน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตลาดการท่องเที่ยวต่างประเทศ ในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2565 ขยายตัวสูง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 444,039 คน ขยายตัว 2,101% สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 34,173 ล้านบาท ขยายตัว 1,424% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการผ่อนคลายมาตรการขาเข้าประเทศของไทย ตั้งแต่วันที่ 1-28 กุมภาพันธ์ 2564 ที่รัฐบาลกลับมาเปิดระบบการลงทะเบียนในระบบไทยแลนด์ พาส ผ่านรูปแบบเทสต์ แอนด์ โกอีกครั้ง หลังระงับไปในช่วงวันที่ 22 ธันวาคม - 31 มกราคม 2565 จากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงหลายชาติในยุโรปปรับยุทธศาสตร์ในการรับมือกับโควิด-19 และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ส่งผลให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น เหมือนหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกลดเวลากักตัวขากลับเข้าประเทศหลังมาเที่ยวไทย อาทิ ฮ่องกง เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และการเปิดเที่ยวบินใหม่เข้าไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยส่งเสริมบรรยากาศการเดินทางเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้คึกคักขึ้น

ทั้งนี้ ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2565 คาดว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 341,340 คน เพิ่มขึ้น 1,584% สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 23,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 983% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564

“การเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทย ในช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน 2565 คาดว่า จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 โดยมีสาเหตุหลักจากการปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าไทย อาทิ การแสดงผลตรวจเชื้อ จำนวนวันกักตัว การเปิดจังหวัดชายแดนนำร่องท่องเที่ยวทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเที่ยวไทย” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ ประกาศผล!! 9 ‘ร้านอาหาร-ร้านยำ-ร้านตำ’ ผู้โชคดีคว้าทอง!! กิจกรรม ‘รวยล้ำล้ำกับแม่บุญล้ำ’

‘แม่บุญล้ำ’ ปิดกล่องแคมเปญ ‘รวยล้ำล้ำกับแม่บุญล้ำ’ จับแจกทอง คืนกำไร ‘ร้านอาหาร-ร้านยำ-ร้านตำ’ ผู้สนับสนุนสินค้ามาโดยตลอด พร้อมเผยรายชื่อ 9 ร้านผู้โชคดี จาก 9 จังหวัด 

คุณพิไรรัตน์ บริหาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพชรดำฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำปลาร้าแบรนด์ ‘แม่บุญล้ำ’ กล่าวถึงกิจกรรม ‘รวยล้ำล้ำกับแม่บุญล้ำ’ (แจกทอง) ว่า เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดล้ำ ที่ทางน้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ ที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณกลุ่มลูกค้าสาย ‘ร้านอาหาร-ร้านยำ-ร้านตำ’ ที่ให้การสนับสนุน ซื้อและใช้สินค้าน้ำปลาร้าต้มสุกปรุงรส ตราแม่บุญล้ำ เสมอมา

โดยรายละเอียดในการร่วมสนุกกิจกรรมดังกล่าว ผู้ที่ซื้อสินค้าแม่บุญล้ำ สูตรฝาแดง ขนาด 2 ลิตร ขั้นต่ำ 1 ลัง หรือ สูตรใด ขนาดใดก็ได้ ในมูลค่าขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป จะมีสิทธิ์ได้รับคูปอง 1 ใบ ขณะที่ผู้ซื้อสินค้าน้ำปลาร้าต้มสุกปรุงรสตราแม่บุญล้ำ สูตรใด ขนาดใดก็ได้ ทุก 2,500 บาท จะมีสิทธิ์ได้รับคูปอง 10 ใบ จากนั้นเขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร หย่อนกล่องที่พนักงานขาย ลุ้นบัตรทองคำมูลค่า 25,000 บาทต่อจังหวัด (1 จังหวัด ต่อ 1 รางวัล) เฉพาะร้านอาหาร ร้านตำ ร้านยำ ในพื้นที่ กรุงเทพฯ, นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, อุบลราชธานี, เชียงใหม่, เชียงราย, ภูเก็ต, กาฬสินธุ์ รวม 9 รางวัล ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2565

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว ได้รับความสนใจจากเจ้าของ ‘ร้านอาหาร-ร้านยำ-ร้านตำ’ อย่างมาก ซึ่งทางบริษัทฯ ก็ได้ทำการสุ่มจับรางวัลผ่าน Live เมื่อ 31 มีนาคม 2565 ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยผู้โชคดีที่เข้าร่วมสนุกในกิจกรรม ‘รวยล้ำล้ำกับแม่บุญล้ำ’ (แจกทอง)’ และได้รางวัล ประกอบไปด้วย...

>> กรุงเทพมหานคร
1. คุณปิยวัชร สอนสุภาพ ร้านส้มตำ-ยำแซ่บ

รายชื่อสำรอง กรุงเทพมหานคร
1. คุณวรรณชัย แสงพล ร้านลาบยโส โอเค
2. คุณรัชดาวัลย์ เคนใบ ร้านครัวแม่สมใจ แซ่บอินเตอร์
3. คุณยุภารัตน์ สุขเสน ร้านป้าเพชร

>> นครราชสีมา
1. คุณแสงดาว เพประโดน ร้านป้าเช้า

รายชื่อสำรอง นครราชสีมา
1. คุณบุญสร้าง คูตระกูล ร้านต้น-ต่อ
2. คุณนงนุช วงษ์ลา ร้านส้มตำล้านสอง
3. คุณนงรักษ์ แข็งขัน ร้านด้องแด้ง

>> ขอนแก่น
1. คุณพิมพ์ชนา สุพัฒนาเศรษฐกุล ร้านร่มพุทราไก่ย่าง

รายชื่อสำรอง ขอนแก่น
1. คุณนัยนา สิทธิ์สงคราม ร้านนัยนา ตำแหลก
2. คุณวาสนา ไชยวารี ร้านวาสนาไก่ย่าง
3. คุณบังอร ไชยศรี ร้านหมูไก่ย่างวิเชียร์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top