Thursday, 2 May 2024
ECONBIZ NEWS

คลังเผยผู้คัดกรอง คุณสมบัติ ‘เราชนะ' กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนเข้าเกณฑ์รับเงิน 7,000 บาท

8 เมษายน 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการประกาศผลการคัดกรองคุณสมบัติประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน) ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ (โครงการฯ) ระหว่างวันที่ 8 – 26 มีนาคม 2564 ว่า ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถตรวจสอบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2564 เป็นต้นมา ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือ Call Center ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หมายเลขโทรศัพท์ 0 2111 1122 โดยผู้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านบัตรประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564 

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำว่า สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง) ที่ไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยได้และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 9 เมษายน 2564 จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยผู้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564 

โฆษกกระทรวงการคลังได้แถลงเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของโครงการฯ ณ วันที่ 7 เมษายน 2564 ดังนี้ 1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 72,028 ล้านบาท 2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 108,313 ล้านบาท และ 3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3  ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสม 

ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 11,844 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้น จำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 192,185 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการณ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ 

โซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จับมือ อเมซอน ฟอลส์ เปิดธีมพาร์คและสวนน้ำโคลัมเบีย พิคเจอร์สแห่งแรกของโลกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส" เตรียมเปิดให้บริการตุลาคมนี้

โซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จับมือ บริษัท อเมซอน ฟอลส์ จำกัด เตรียมเปิดสนุกและสวนน้ำในธีมภาพยนตร์ของโคลัมเบีย พิคเจอร์ส ในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในโลก บนทำเลทองพื้นที่กว่า 35 ไร่ ณ ชายทะเลบางเสร่ ภายใต้ชื่อ โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส (Columbia Pictures’ Aquaverse)

นายเจฟฟรี่ย์ ก็อดสิค รองประธานบริหารสายงานโกลบอล พาร์ทเนอร์ชิพ และแบรนด์ เมเนจเม้นต์ โซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เปิดเผยว่า โซนี่ พิคเจอร์สฯ ได้ร่วมกับ บริษัท อเมซอน ฟอลส์ จำกัด นำสวนสนุกและสวนน้ำในธีมภาพยนตร์ของโคลัมเบีย พิคเจอร์ส มาเปิดในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในโลก บนพื้นที่กว่า 35 ไร่ บริเวณชายทะเลบางเสร่ จังหวัดชลบุรี ภายใต้ชื่อ โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส เพื่อช่วยสร้างความบันเทิงที่ให้ผู้บริโภคออกมาสัมผัสในสถานที่จริงกับเรื่องราวในภาพยนตร์ผ่านสวนน้ำ การจัดแสดงนิทรรศการ และอุปกรณ์เครื่องเล่นต่าง ๆ โดยพร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน ต.ค. นี้

สำหรับสวนน้ำโคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควำเวิร์สแห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ช่วยดึงดูดแฟนภาพยนตร์และนักท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและทั่วโลกให้มาเล่นเครื่องเล่น จากคาแร็คเตอร์ภาพยนตร์ฮอลลีวูดยอดนิยมตลอดกาลทั้ง โกสต์บัสเตอร์ส บริษัทกำจัดผี, จูแมนจี้ เกมดูดโลกมหัศจรรย์, แบดบอยส์ คู่หูขวางนรก, เอ็มไอบี หน่วยจารชนพิทักษ์จักรวาล, และโฮเทล ทรานซิลเวเนีย โรงแรมผี หนี ไปพักร้อน

รวมทั้งยังมีโซน เซิร์ฟอัพ สวรรค์ของนักเซิร์ฟ บนคลื่นยักษ์, โซน ผจญภัยในแม่น้ำสวอลโลว์ฟอลส์กับมหัศจรรย์ลูกชิ้นตกทะลุมิติ ผ่านการล่องไปตามสายน้ำ ทักทายบรรดาสัตว์อาหารกลายพันธุ์ฟู้ดนิมอลจากภาพยนตร์แอนิเมชัน และยังมีโซน สระคลื่นยักษ์วีโว่ เป็นสระน้ำที่จะซัดลูกคลื่นขนาดยักษ์เข้าใส่ตัว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์มิวสิคัลแอนิเมชันที่กำลังจะเปิดฉายในเร็ว ๆ นี้ รวมทั้งยังมีพื้นที่ใช้สำหรับจัดกิจกรรม คอนเสิร์ต หรือไลฟ์โชว์ของศิลปินดังระดับโลกด้วย

รูปแบบการเดินทางในอนาคตกำลังเปลี่ยนแปลงไป ความอัจฉริยะ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กำลังเข้าเป็นส่วนผสมสำคัญใหม่ของยานยนต์แห่งอนาคตชัดขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของการเชื่อมต่อกับสิ่งต่าง ๆ (Connected)

เช่น ความสามารถขับขี่อัตโนมัติ (Automated) การใช้งานยานยนต์ร่วมกัน (Shared) และการใช้ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electrified) หรือเรียกโดยรวมว่า C-A-S-E Technology ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยียานยนต์ดังกล่าวจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งในด้านโอกาสและความท้าทายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากงานสัมมนาเปิดโครงการ ภายใต้หัวข้อ ‘การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยียานยนต์ของประเทศไทย’ ได้มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว โดยมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติ ที่จะมาควบคู่กับเทคโนโลยียานยนต์เชื่อมต่อ หรือเรียกรวมกันว่ายานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (Connected and Autonomous Vehicle: CAV) ซึ่งเทคโนโลยี CAV จะส่งผลต่อการใช้งานยานยนต์ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ลดความสูญเสียจากการชนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดความคับคั่งจากการจราจร ลดการปล่อยมลพิษ ลดต้นทุนการขนส่งจากการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดธุรกิจใหม่ ๆ รวมทั้ง ทำให้ผู้คนทุกกลุ่มสามารถเดินทางได้สะดวก ช่วยทำให้การใช้พื้นที่เมืองมีประสิทธิภาพ ทำให้เมืองน่าอยู่ และเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

การใช้งาน CAV ไม่เพียงแต่ต้องเตรียมความพร้อมด้านยานยนต์ แต่ต้องคำนึงถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ถนนและสัญญาณจราจรต่าง ๆ สัญญาณสื่อสาร 5G กฎหมายขนส่ง และความปลอดภัยของข้อมูล ดังนั้น การจัดทำแผนยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะหากประเทศไทยปรับตัวไม่ทันกับเทคโนโลยีใหม่นี้ ในเวลาไม่เกิน 10 ปี จะส่งผลให้ประเทศไทยสูญเสียการเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนของภูมิภาค และการเติบโตของอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง อาทิ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการสื่อสาร และอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (S-Curve)

เกี่ยวกับประเด็นที่ว่านี้ ทางสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้สถาบันยานยนต์ดำเนินโครงการ ‘การจัดทำแนวการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อัตโนมัติ’ โดยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และกรมวิทยาศาสตร์บริการ เพื่อให้การส่งเสริมการผลิตยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งดำเนินกิจกรรมสร้าง ‘ภาคีเครือข่ายทางธุรกิจ (Business Alliance)’ เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการต่อยอดไปสู่การผลิตยานยนต์ต้นแบบไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์

สำหรับการจัดงานสัมมนาเปิดโครงการ ภายใต้หัวข้อ ‘การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยียานยนต์ของประเทศไทย’ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติให้แก่ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์สมัยใหม่ รวมทั้งนักวิชาการและนักวิจัย ภายในงานสัมมนาประกอบด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่จากผู้เชี่ยวชาญมากมาย อาทิ การบรรยายเรื่อง ‘จับตาการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในอนาคตของเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่’ จาก รศ.ดร.สรวิศ นฤปิติ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผศ.ดร.นักสิทธิ์ นุ่มวงษ์ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ต่อด้วยการเสวนา เรื่อง ‘อุตสาหกรรมไทยกับการก้าวสู่อุตสาหกรรมยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (CAV) ภายใต้ภาคีเครือข่ายธุรกิจ (Business Alliance)’ โดย คุณฐิติภัทร ดอกไม้เทศ ผู้จัดการแผนกวิจัยอุตสาหกรรม สถาบันยานยนต์ ผศ.ดร.นักสิทธิ์ นุ่มวงษ์ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ ดร.ปาษาณ กุลวานิช ผู้ชำนาญการด้านการพัฒนารถไร้คนขับและระบบหุ่นยนต์เคลื่อนที่แบบอัตโนมัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยแนวทางสำคัญที่จะช่วยยกระดับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องไปสู่การผลิต CAV คือ การรวมกลุ่มเป็นภาคีเครือข่ายธุรกิจ (Business Alliance) ที่จะร่วมมือกันตั้งแต่การทำวิจัยพัฒนายานยนต์ต้นแบบไปจนถึงการผลิตเชิงพาณิชย์ ซึ่งความร่วมมือนี้ไม่ใช่เพียงกิจกรรมที่พิสูจน์ความมุ่งมั่นของสมาชิกในเครือข่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นงานที่ต้องได้รับความร่วมมือและความเชื่อมั่นกันของสมาชิกที่จะมาจากหลากหลายธุรกิจ/อุตสาหกรรม ที่ไม่ใช่เพียงอุตสาหกรรมยานยนต์เท่านั้น อีกทั้งต้องประสานความร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่นระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศด้วย

ปิดท้ายด้วยการบรรยาย เรื่อง ‘เทคโนโลยีและชิ้นส่วนยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (CAV)’ จาก ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเทคโนโลยีระบบรางและการขนส่งสมัยใหม่ และ ดร.จาตุวัฒน์ ราชเรืองระบิน หัวหน้าศูนย์วิจัยเทคโนโลยีระบบรางและการขนส่งสมัยใหม่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ซึ่งการนำเสนอครั้งนี้มุ่งเน้นแสดงให้เห็นตัวอย่างการสร้างเทคโนโลยียานยนต์ CAV ผ่านการวิจัยและพัฒนาที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการพัฒนางานทางด้านการขนส่งสมัยใหม่ พร้อมกับร่วมขับเคลื่อนการพัฒนา Ecosystem ในเชิงอุตสาหกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศ รวมทั้งการเปรียบเทียบเทคโนโลยีและชิ้นส่วนสำคัญที่มีการประยุกต์ใช้ในยานยนต์ CAV ซึ่งเริ่มมีการนำมาใช้งานในต่างประเทศ

นอกจากนี้ ภายในงานสัมมนายังมีการสาธิตการใช้งานรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติต้นแบบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์วิจัยเทคโนโลยีระบบรางและการขนส่งสมัยใหม่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ รวมทั้งชมเทคโนโลยีเชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติจากผู้ผลิตรถยนต์ ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

ครม.อนุมัติเงินกู้ ให้สำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 500 ล้านบาท เตรียมพร้อมรองรับคนใช้บริการราว 1.45 ล้านคน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ว่า ครม. อนุมัติการกู้เงินเพื่อใช้จ่ายในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 500 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรองรับธุรกรรมการรับจำนำของประชาชนที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และเพื่อประกันการขาดสภาพคล่องทางการเงินที่ส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชน

ทั้งนี้เนื่องจากสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) ประเมินว่า ในงบประมาณปี พ.ศ.2564 จะมีผู้มาใช้บริการประมาณ 1.45 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ประมาณ 48,333 ราย และมีจำนวนเงินรับจำนำประมาณ 20,647 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 609 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องเสนอแผนเงินกู้ดังกล่าวไว้รองรับ

“โรงรับจำนำของรัฐเป็นช่องทางหนึ่งที่เป็นแหล่งพึ่งพิงสำคัญ สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถกู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่น ๆ ได้ ซึ่งที่ผ่านมา สธค. มีผลประกอบการที่มีกำไรอย่างต่อเนื่อง มีความสามารถในการชำระหนี้อยู่ในเกณฑ์ดี และวงเงินกู้ดังกล่าวได้รับการบรรจุในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปี 2564 ตามที่ ครม. ได้มีมติอนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563”

“สุชาติ” เผย โครงการ ม.33 เรารักกัน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากทำเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้าน เตรียมขอขยายตรวจหาเชื้อโควิดในแรงงานต่างด้าวไปอีก 1-2 เดือน

7 เมษายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุถึงการกระจายรายได้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการ ม.33 เรารักกัน ว่า มีเม็ดเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาท จากจำนวนเงินในโครงการที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังได้ให้มา 37,000 ล้านบาท มีรอบเงินหมุนเวียนในตลาดมีการใช้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจำนวนเงิน 37,000 ล้านบาท หากมีการหมุนเวียน 1 เดือนจำนวนสามรอบจะมีเงินกว่าแสนล้านบาทขยายลักษณะแนวนอน ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากขยายตัวขึ้น

นายสุชาติ กล่าวถึงการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ลามถึงทำเนียบรัฐบาลที่ทำให้รัฐมนตรีหลายคนต้องกักตัว ว่า ส่วนตัวมองว่ารัฐมนตรีทุกคนระมัดระวังตนเองอยู่แล้ว อย่างเช่นตน ซึ่งรัฐบาลก็พยายามหามาตรการควบคุมอย่างดีที่สุดและในส่วนของกระทรวงแรง ตนได้กำชับสถานประกอบการและเดินหน้าตรวจโควิดให้กำแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ขยายระยะเวลาการตรวจหาโควิดและเก็บอัตลักษณ์ในแรงงานต่างด้าวออกไป 1-2 เดือนเพราะกังวัลว่าจะไม่ทันวันที่ 16 เมษายนนี้

LG Electronics Inc. กำลังปิดหน่วยสมาร์ทโฟน เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและมุ่งเน้นไปที่โครงการในอนาคตเช่นส่วนประกอบของรถยนต์ไฟฟ้า หลังแผนกนี้ขาดทุนอย่างหนัก

LG จะยุติการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ เพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรในด้านการเติบโตรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV), บ้านอัจฉริยะ, หุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์

ทั้งนี้ โทรศัพท์มือถือคิดเป็น 8.2% ของยอดขาย LG ในปีที่แล้ว โดยบริษัทฯ คาดว่าจะมีการสูญเสียรายได้อีกในระยะสั้น ฉะนั้นหากบริษัทปิดธุรกิจนี้ น่าจะเป็นผลดีทางการเงินในระยะยาว แล้วไปเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงไปทุ่มพัฒนาเทคโนโลยีมือถือเช่นระบบเครือข่ายและกล้องรุ่นที่ 6

สำหรับ LG เริ่มผลิตโทรศัพท์มือถือครั้งแรกในปี 1995 และ LG เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกระบบปฏิบัติการ Android โดยร่วมมือกับ Google ของ Alphabet Inc. ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน Nexus และผลิตกล้องและเทคโนโลยีการแสดงผลที่ดีที่สุดในกลุ่มนี้

โดย LG Electronics เคยเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ยิ่งไปกว่านั้นในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดในตลาดสหรัฐ LG ก็เคยเป็นอันดับสามรองจาก iPhone ของ Apple Inc. และSamsung Electronics Co. จากประเทศเดียวกัน

แต่ปัจจุบัน LG สู้คู่แข่งไม่ได้มาหลายปี และจากนั้น OnePlus ของจีน ก็พุ่งพรวดเข้ามาแทนที่ท่ามกลางการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไปทั่วโลกให้กับคู่แข่งจากต่างประเทศ โดยธุรกิจมือถือของ LG ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่มาตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2015มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานสะสมถึง 5 ล้านล้านวอน (4,400 ล้านดอลลาร์) ในปีที่แล้วตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮัป

ดังนั้นในเดือนมกราคมผ่านมา ทางบริษัทจึงตัดสินใจทบทวนทิศทางของธุรกิจสมาร์ทโฟนใหม่ ด้วยการปิดไลน์ธุรกิจดังกล่าว ทั้งๆ ที่เมื่อเดือนก่อนหน้านั้นสัญญาว่าจะขายโทรศัพท์แบบพับได้ในปีนี้


ที่มา: https://www.posttoday.com/world/649675

จับตา 'คลัง'เคาะภาษีบุหรี่ใหม่ ตอบโจทย์ 4 ด้าน ระบุไม่จำเป็นต้องคงอัตราเดียวกัน

วันที่ 5 เมษายน  2564 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า จะนำผลการศึกษาเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่หารือกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เพื่อหาข้อสรุปโดยเร็วที่สุด ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากโครงสร้างภาษีตุลาคม 2564 จึงต้องการสรุปรายละเอียดเพื่อให้ผู้ประกอบการรับทราบและเตรียมปรับตัวในการดำเนินธุรกิจต่อไป

สำหรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่นั้น จะต้องตอบโจทย์ 4 เรื่อง คือ 1. ด้านสาธารณสุข 2. ด้านเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด 3. ด้านรายได้ของรัฐบาลจะต้องไม่ลดลง และ 4. ด้านการดูแล บริหารจัดการบุหรี่เถื่อน และบุหรี่ปลอม ภายใต้โจทย์ทั้ง 4 เรื่องนี้ โครงสร้างภาษีใหม่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่กลุ่มผู้ค้าบุหรี่บางกลุ่มต้องการ เพราะว่ามีข้อเสนอที่สุดโต่งเกินไป

นายลวรณ กล่าวอีกว่า โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ ไม่จำเป็นต้องเป็นอัตราเดียวเหมือนต่างประเทศ หรือตามกฎหมายเดิมที่ใช้ในปัจจุบัน โดยจะมีการปรับให้มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและบริบทของผู้ประกอบการ รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มากที่สุด จึงยังบอกไม่ได้ว่าโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่จะอัตราเป็นอย่างไร จะเป็นอัตราเดียว หรือหลายอัตรา

"โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่จะมีการเสนอผลการศึกษาให้ รมว.การคลัง พิจารณาเห็นชอบมากกว่า 1 ทางเลือก ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เสนอว่าให้มีการจัดเก็บอัตราภาษีบุหรี่ 3 อัตรา โดยมีอัตราต่ำขึ้น เพื่อทำให้ ยสท. ขายบุหรี่ในราคาถูกได้นั้น ก็เป็นการเสนอได้ ส่วนการตัดสินใจทั้งหมดเป็นหน้าที่ของกรมสรรพสามิต" นายลวรณ กล่าว

นายลวรณ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันกรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีบุหรี่เฉลี่ยปีละ 60,000 ล้านบาท โดยกรมสรรพสามิตได้ให้ความสำคัญกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างภาษีบุหรี่ทั้งหมด ทั้งผู้ค้า และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีบุหรี่ใหม่ที่เริ่มใช้เมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้ขายใบยาสูบได้ลดลง ซึ่งทางกรมสรรพสามิตได้มีการจ่ายเงินเยียวยาให้มาเป็นเวลา 2 ปีก่อนเรื่อง

โดยล่าสุดกรมสรรพสามิตได้เสนอสำนักงบประมาณ เพื่อขอใช้งบประมาณปี 2564 วงเงิน 159 ล้านบาท ในการจ่ายชดเชยให้ผู้ปลูกใบยาสูบในปีการผลิต 2564

โควิดซาพาเงินเฟ้อเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนมีนาคม 2564 ว่า  เงินเฟ้อในเดือนมีนาคม หดตัวลงเล็กน้อย โดยลดลง 0.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ถือเป็นการหดตัวที่น้อยสุดในรอบ 13 เดือน หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะมีการฉีดวัคซีนมากขึ้น ทำให้ราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานที่กลับมาเป็นบวกอีกครั้งในรอบ 14 เดือน 

รวมทั้งน้ำมันพืช และเนื้อสุกรที่ยังมีราคาสูง โดยเนื้อสุกรปรับสูงขึ้นตาม ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับมีต้นทุนในการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มอาหารสด ยังหดตัวต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา โดยลดลงร้อยละ 1.06 ตามการลดลงของ ข้าวสาร ไก่สด ไข่ไก่ และผักสด 

ขณะที่ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ปรับลดลงตามมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.นี้ สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ สอดคล้องกับปริมาณผลผลิตสินค้า การจัดโปรโมชั่น และอุปสงค์ที่เกิดจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์ ยังได้ปรับสมมุติฐานสำหรับคาดการณ์เงินเฟ้อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในปี 2564 จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 0.7-1.7% (ค่ากลางอยู่ที่ 1.2) ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงจะมีการทบทวนอีกครั้ง

ททท. กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวกลุ่ม Expat ผ่านกีฬากอล์ฟ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้วยมาตรฐาน SHA

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟในกลุ่มชาวต่างชาติที่พานักอยู่ในประเทศไทย (EXPAT) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวของประเทศไทยในกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพสูง ผ่านทางโครงการ  “STAY PLAY SAFE”

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “ในช่วงเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยและทั่วโลกได้เผชิญวิกฤตจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยตรง เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้เกิดการชะงักของระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ รัฐบาลจึงได้เร่งสร้างความเชื่อมั่นด้วยมาตรการทางสาธารณสุขต่าง ๆ ควบคู่กับการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดยได้ดำเนินโครงการ “STAY PLAY SAFE” ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และ หน่วยงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 

“เพื่อสร้างการรับรู้ถึงมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย AMAZING THAILAND SAFETY & HEALTH ADMINSTRATION : SHA และ การสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยปัจจุบันผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกิจการที่เกี่ยวข้องจานวนมากที่ได้ผ่านมาตรฐาน SHA

ทั้งนี้ ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย หรือ กลุ่ม EXPAT ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพสูง จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมการท่องเที่ยว ททท. การกีฬาแห่งประเทศไทย และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) บูรณาการการทำงานเพื่อร่วมสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่มดังกล่าว

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า จากการทำงานอย่างหนักของรัฐบาล บุคลากรการแพทย์ และความร่วมมือของประชาชนชาวไทย ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนสามารถผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ตามลาดับ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ททท. ได้มุ่งเน้นในการสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติและกลุ่ม EXPAT เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในใจเสมอ (TOP OF MIND) รวมทั้ง สื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยและมาตรฐานด้านสาธารณสุขของไทยในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ 

ผ่านทางกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมเดินทางท่องเที่ยวสัมผัส "ปอดกรุงเทพฯ" และ วิถีท่องเที่ยวชุมชน ณ คุ้งบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ชูจุดขายท่องเที่ยววิถีไทย วิถีธรรมชาติ ใกล้กรุงฯ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2563 กิจกรรมส่งเสริมการขาย “EXPAT FAIR 2020” (EXPAT TRAVEL DEAL 2020) ณ ควอเทียร์ แกลอรี ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ เมื่อวันที่ 11 – 13 กันยายน 2563 กิจกรรมเดินทางท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่ายของเชียงคานและเสน่ห์ของจังหวัดเลย เมื่อวันที่ 10 – 11 ตุลาคม 2563 และกิจกรรมเดินทางท่องเที่ยวล่องเรือไฟฟ้า คลองดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563

ซึ่ง ททท. ได้วางแผนการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมการเดินทางของกลุ่ม EXPAT ที่มีความสนใจในกีฬากอล์ฟ โดยไ ด้กำห จัด กิจ THE MINISTER CUP 2 0 2 1 AMAZING THAILAND EXPAT GOLF TOURNAMENT SERIES เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจและกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน โดยมี 2 กิจกรรม คือ

1) กิจกรรม THE MINISTER CUP 2021 ในวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2564 สนามกอล์ฟ อัลไพน์ กอล์ฟ คลับกรุงเทพฯ โดยการเชิญคณะทูตานุทูตและหอการค้าของประเทศต่าง เข้าร่วมกิจกรรมกอล์ฟเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้บริหารของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์โควิด-19 และ นโยบายการรับมือของประเทศไทยในปัจจุบัน รวมถึงแนวทางของรัฐบาลไทยในการดูแลชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และ การสร้างความมั่นใจต่อชาวต่างชาติถึง ความปลอดภัยในการทำกิจกรรมกอล์ฟ และ ท่องเที่ยวในเมืองไทย ที่มีมาตรฐานสุขอนามัย SHA รองรับ โดยได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็น ประธานในพิธี

2) กิจกรรม AMAZING THAILAND EXPAT GOLF TOURNAMENT SERIES 2021 เพื่อกระตุ้นการเดินทางข้ามภูมิภาคของกลุ่ม EXPAT ในวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2564 สนามกอล์ฟสยาม คันทรี่ คลับ โอลด์คอร์ส จังหวัด ชลบุรี คาดว่า กิจกรรมดังกล่าว จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่ม EXPAT ในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และสะท้อนถึงความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศของประเทศไทยในอนาคต ซึ่งประเทศไทย ได้ประสบความสำเร็จในการกักตัวในรูปแบบ Golf Quarantine อีกด้วย

แบงก์ชาติสำรองเงินสด 1.6 หมื่นล. รับคนเบิกใช้สงกรานต์

นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือน เม..นี้ ธปท. ประเมินว่า ความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ โดยธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์เพิ่มขึ้นจากการเบิกจ่ายปกติ เป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 16,000 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นจากปี 2563 ที่มีการเลื่อนวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และใกล้เคียงกับปี 2562

ทั้งนี้การประเมินดังกล่าว สะท้อนถึงมาตรการภาครัฐเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ในขณะที่แนวโน้มการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย  ธปท. ยืนยันว่า จะเตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่าง เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top