Friday, 3 May 2024
NEWSFEED

‘แพรรี่’ ประกาศลาจอสิ้นปีนี้ หลังอยู่หน้ากล้องมากว่า 1 ปี ยืนยัน!! ไม่มีใครไล่ แค่อยากไปทำตามความฝันของตัวเอง

(23 ก.ย.66) ทำเอาแฟนคลับและผู้ติดตามใจหายไปตามๆ ความคืบหน้าล่าสุด ‘แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ ครีเอเตอร์ พิธีกร และนักแสดงชาวไทย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ประกาศอำลาวงการบันเทิง หลังจากทำงานหน้าจอมากว่า 1 ปีเต็ม

แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า หลังปลายปี 2566 อาจไม่ได้เห็นตนทำงานอยู่หน้ากล้องอีก ขอบคุณแสงสีเสียงและผู้ใหญ่ใจดีที่เมตตา มองเห็นในความสามารถของตน ที่ตัดสินใจอำลาวงการบันเทิง บอกลาบทบาทฐานะนักแสดงและพิธีกร ไม่ใช่เพราะมีใครมาไล่ แต่เป็นเพราะอยากไปทำคาเฟ่ร้านอาหารตามที่เคยคิดไว้เมื่อสึกใหม่ ๆ พร้อมขอบคุณแฟนคลับที่ติดตามและคอยให้กำลังใจมาเสมอ

“ทำงานหน้ากล้องมากว่า 1 ปีเต็ม ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาแล้วนะคะ ที่ดิฉันจะอำลาหน้าที่การงานที่ได้ทำอยู่ตอนนี้ ขอบคุณแสงสีที่สาดส่องเข้ามาตลอดระยะเวลาของการทำงานอยู่ในวงการบันเทิง (คงจะพูดได้แหล่ะ)

ขอบคุณโอกาสและความเมตตาเอ็นดูจากผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน ซึ่งมองเห็นศักยภาพและความสามารถอันเล็กน้อยที่มีอยู่ในตัวของดิฉันนะคะ ถ้าไม่มีท่านเหล่านี้ ต่อให้ดิฉันจะอยากได้แสดงความสามารถแค่ไหน ก็คงไม่มีเวทีให้ได้แสดง

มีดวงเรืองก็ต้องมีดาวโรยอันนี้มันเป็นของคู่กันนะคะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าดิฉันอยากจะรับบทเป็นดาวโรยแล้วหล่ะ ดิฉันคิดว่า ถึงเวลาที่ดิฉันควรจะหยิบหิ้วกระเป๋าสัมภาระและเก็บของนั่งรถกลับบ้านนาที่จากมาได้แล้ว

ต้องบอกนะคะว่า การที่ดิฉันได้มาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ตัวเองกำลังยืนอยู่ มันเป็นเรื่องที่เกินฝันมาก ๆ และถึงตอนนี้ก็ไม่มีความทะเยอทะยานอะไรที่ดิฉันอยากจะได้รับมากไปกว่านี้แล้วค่ะ

คงต้องขออนุญาตขอบคุณและบอกลากันตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่า หลังปลายปีนี้ คงจะไม่ได้เห็นดิฉันในบทบาทฐานะของนักแสดงและพิธีกรตามรายการต่าง ๆ อย่างที่เคยเห็นมาแล้วนะคะ และก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่ามีใครที่ไหนมาขับไล่ไส่ส่งดิฉันให้ไปจากจุดนี้ ไม่มีค่ะ

ทุกเรื่องเป็นเพราะดิฉันได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วว่าดิฉันต้องการให้ชีวิตของตัวเองดำเนินต่อไปแบบไหน ด้วยหน้าที่การงานอย่างไร เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องเลือกและแลกค่ะ

ปีหน้าหลังหมดงานในวงการ คงมีหลายเรื่องที่ดิฉันอยากทำและได้ทำเพื่อตัวเองอย่างจริง ๆ จัง ๆ ทั้งการปลูกผมที่คิดไว้นานแล้ว การได้อยู่ดูแลแม่ด้วยตัวเอง ซึ่งระยะหลังนี้ แม่ก็พูดเปรย ๆ ว่ารู้สึกมีความสุขและมีกำลังใจมากขึ้นเวลาที่เราอยู่บ้านด้วย อีกเรื่องก็การทำคาเฟ่ร้านอาหาร นี่ก็เป็นความฝันที่เคยสัญญากับตัวเองไว้ตอนสึกใหม่ ๆ ว่าอยากทำ คงถึงเวลาที่ต้องทำตามสัญญาแล้วหล่ะ

ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามและให้กำลังใจกับดิฉันมาโดยตลอดนะคะ ขอบคุณที่รักและเอ็นดูความเป็นแพรรี่ในตัวของดิฉัน ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บทบาทของการทำงานในวงการบันเทิงของดิฉันประสบความสำเร็จในแบบที่ดิฉันพอใจ ขอบคุณค่ะ”

หลังจากแพรรี่โพสต์อำลาวงการบันเทิง แฟนคลับต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งบอกว่า เคารพทุกการตัดสินใจของแพรรี่ และร่วมยินดีกับเส้นทางที่เลือกเดิน รวมถึงบางส่วนบอกว่าจะสนับสนุนแพรรี่ต่อไป หากคาเฟ่ร้านอาหารเปิดเมื่อไรจะเดินทางไปอุดหนุน

แม้เส้นทางในวงการบันเทิงจะสิ้นสุดลง แต่แฟน ๆ ยังสามารถติดตามคุณแพรรี่ ไพรวัลย์ และสนับสนุนเส้นทางที่คุณแพรรี่เลือกต่อไปได้ ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหนก็ขอให้ประสบความสำเร็จสมความตั้งใจทุกประการนะคะ

‘เอิ้ก ชาลิสา’ ลั่น!! “ฉันหิว ฉันก็ต้องกิน”

“หยุดได้ค่ะ แต่ไม่หยุด ท้องใครท้องมัน ปากใครปากมัน ฉันหิวฉันก็ต้องกิน…”

'เอิ้ก ชาลิสา' ยูทูบเบอร์ และเจ้าของเพลง เลือดกรุ๊ปบี ได้กล่าวเอาไว้

‘ชัยวุฒิ’ ยก ‘ปลาช่อนแม่ลา’ ตำนานของอร่อย สร้างอัตลักษณ์จากพื้นถิ่นสู่ ‘Soft Power อาหารไทย’

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการสนับสนุนอัตลักษณ์ความเป็นไทย มุ่งสู่การเป็น Soft Power โดยระบุว่า ขึ้นชื่อว่า ‘อาหารไทย’ ไม่ว่าจะเป็นประเภท ต้ม ผัด แกง ทอด ล้วนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก อย่าง ‘ต้มยำกุ้ง’ ที่เมื่อเอ่ยขึ้นมา ชาวต่างชาติจะรู้ได้ทันทีว่าเป็น อาหารไทย นั่นแสดงให้เห็นว่า อาหารไทยนี่แหละ คือ Soft Power ที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างแท้จริง

ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5F ที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้วางรากฐานไว้ ไม่ว่าจะเป็น F-Food อาหาร, F-Film ภาพยนตร์และวีดิทัศน์, F-Fashion การออกแบบแฟชั่นไทย, F-Fighting ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย และ F-Festival เทศกาลประเพณีไทย ซึ่งผมเชื่อว่ายังมีศิลปวัฒนธรรมและอาหารที่คนต่างชาติหรือแม้แต่คนไทยเราด้วยกันเองยังไม่รู้จัก หรือยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสอีกมาก

นายชัยวุฒิ ได้กล่าวถึงการสนับสนุนอาหารท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์เหมาะที่สนับสนุนให้เป็นสินค้าให้ท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ โดยยกตัวอย่างของใกล้ตัวในฐานะคนสิงห์บุรี นั่นก็คือ ‘ปลาช่อนแม่ลา’ ซึ่งเป็นปลาที่ถือกำเนิดในลำน้ำแม่ลา อยู่ระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำน้อย ในเขตพื้นที่ จ.สิงห์บุรี เป็นแหล่งน้ำที่น้ำนิ่ง มีความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งอาหารตามธรรมชาติที่ว่ากันว่าเป็นปลาช่อนที่รสชาติดีกว่าปลาช่อนที่ไหน ๆ แม้แต่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ยังทรงตรัสเมื่อครั้งเสด็จประพาสต้น พักแรมที่เมืองอินทร์ และได้เสวยปลาช่อนแม่ลาว่า “ปลาของลำแม่ลามีรสชาติดีกว่าที่อื่น”

นั่นคือ ตำนานความอร่อยของปลาช่อนแม่ลา ที่ได้รับการยอมรับและสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ และที่สำคัญปลาช่อนแม่ลา ที่มีลักษณะเด่นลำตัวอ้วนกลม หัวหลิม และครีบหูสีชมพู ยังได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตั้งแต่ปี 2560 อีกด้วย

แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่า จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งการทำประตูเปิด-ปิดทำให้ลำน้ำตื้นเขิน หรือหากเป็นในช่วงฤดูน้ำหลาก ก็จะเกิดภาวะน้ำท่วม ทำให้ปลาในธรรมชาติเริ่มลดน้อยลงทุกที จนทางกรมประมงได้เริ่มทำโครงการอนุรักษ์พันธุ์ปลาช่อนแม่ลาขึ้นมา ส่วนหนึ่งเป็นการอนุรักษ์ไม่ให้ปลาสูญพันธุ์ และอีกส่วนคือการคัดพันธุ์ปลาที่มีคุณภาพและสามารถสร้างมูลค่าให้กับตัวสินค้าได้ โดยเฉพาะหากต้องการส่งออกสินค้าไปขายในต่างประเทศ

“ผมเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่รู้จักปลาช่อนแม่ลากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะมีการแปรรูป และส่งเสริมเป็นสินค้าของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสิงห์บุรีมานาน แต่ในต่างประเทศเราอาจจะต้องโปรโมตและสนับสนุนในการทำตลาด เพื่อให้ชาวต่างชาติได้รู้จักกันมากขึ้น มีของดีเราต้องบอกต่อครับ เพื่อพี่น้องในชุมชนจะได้มีอาชีพและสร้างรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ”

‘อั้ม พัชราภา’ ลั่น!! หนักมากสุดในชีวิต หลังเห็นตัวเลขบนตาชั่ง เหตุพุ่งขึ้นมาถึง 6 กิโลฯ สัญญา!! เตรียมลดจริงจังอาทิตย์หน้า

(21 ก.ย.66) ซุปตาร์ชื่อดังอย่าง ‘อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ’ ที่สวยครบเป๊ะปังตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ไม่วายมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเหมือนกันหรือนี่ หลังโพสต์สตอรี่ในอินสตาแกรมโชว์เลขน้ำหนักบนตาชั่งแบบชัด ๆ บ่นยาวหนักที่สุดในชีวิตแล้ว ขึ้นมา 6 กิโลกรัมจากตอนผอม บังคับตัวเองให้ลดด่วน

เรื่องหุ่นดีทุกคนมั่นใจว่าแม่อั้มติดทุกโผ กว่าเรียบรางวัลคนหุ่นดีศรีสยามแน่นอน แต่ล่าสุดซุปตาร์สาวของเราเพิ่งโพสต์รูปตนเองขณะชั่งน้ำหนัก เผยข้อความว่า “น้ำหนักมากสุดในชีวิตละ” โดยตัวเลขที่ปรากฏในภาพอยู่ที่ 54.8 กิโลกรัม ถึงกับเซ็งสุด ๆ เพราะเพิ่มขึ้นมาจากเดิมมากถึง 6 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม แม่อั้มให้สัญญากับตัวเองและเทรนเนอร์ประจำตัวซึ่งได้แท็กชื่อไว้ในสตอรี่ให้มาเป็นพยานว่าหลังจากนี้จะตั้งใจลดน้ำหนักจริงจังแล้วจ้า

การเป็นดารานักแสดงแน่นอนว่าเป็นอาชีพที่ใช้รูปร่างหน้าตาในการทำงาน จึงต้องหมั่นดูแลและรักษาสุขภาพให้ดีอยู่สม่ำเสมอ อาจเป็นเพราะเมื่ออยู่หน้าจอโทรทัศน์ภาพอาจทำให้นักแสดงดูมีน้ำมีนวลมากขึ้นได้ ทั้งนี้ การลดน้ำหนักควรทำอย่างถูกวิธี อยู่ในการดูแลของเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ และรูปร่างที่ดีอาจขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล

YG Entertainment ชี้แจงล่าสุดปมต่อสัญญา BLACKPINK เผย!! ยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการอยู่ในขั้นตอนเจรจา

(21 ก.ย.66) จากกรณีที่สื่อเกาหลีใต้ รายงานเกี่ยวกับเรื่องการต่อสัญญาของสมาชิก BLACKPINK ของ โรเซ่ (Rosé), เจนนี่ (Jennie), จีซู (Jisoo) และลิซ่า (Lisa) กับทาง YG Entertainment อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาสัญญา 

โดยรายงานอ้างว่า โรเซ่ เป็นสมาชิกคนเดียวที่ท้ายที่สุดเลือกที่จะต่อสัญญากับ YG Entertainment ส่วนสมาชิกอีก 3 คน เจนนี่, จีซู และลิซ่า ยังอยู่ระหว่างการพูดคุยในวินาทีสุดท้าย

ล่าสุดทาง YG Entertainment ได้ออกมาระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับการต่อสัญญาของสมาชิกวง BLACKPINK ใดๆ ทั้งสิ้น กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากัน

ทั้งนี้ หลังจากมีข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกมา ก็ส่งผลทำให้หุ้นของ YG ร่วง -13% กันเลยทีเดียว

‘บอย ถกลเกียรติ’ เร่งสืบหาข้อมูล เรื่อง ‘สไมล์-มาตัง’ เผื่อสื่อสารผิดพลาด หลังสองสาวแฉพฤติกรรมผู้จัดการเก่าคุกคาม จนกลายเป็นคนวิตกจริต

(21 ก.ย. 66) ‘บอย ถกลเกียรติ’ ให้สัมภาษณ์ ขณะนี้กำลังสืบหาความจริง หลังสองนักร้องสาวจากบ้านเดอะสตาร์ ‘สไมล์ ภาลฎา’ และ ‘มาตัง ระดับดาว’ เปิดใจพูดถึงพฤติกรรมของผู้จัดการเก่า จนเกิดเป็นประเด็นร้อนทั่วโซเซียล

กลายเป็นประเด็นร้อนยิ่งกว่าเดิม หลัง ‘มาตัง ระดับดาว ศรีระวงศ์’ หรือ ‘มาตัง เดอะสตาร์ 11’ นักร้องสาวเสียงเพราะ หนึ่งในผู้เข้าประกวดรายการเดอะสตาร์ ได้ออกมาเผยถึงพฤติกรรมของผู้จัดการเก่า โดยตนไม่เคยถูกคุกคามทางเพศแต่อย่างใด เพียงแต่เคยถูกคุกคามความเป็นส่วนตัวจนเครียดหนัก กลายเป็นคนวิตกจริต

ซึ่งผู้จัดการคนที่มาตังกล่าวถึงนั้นเป็นบุคคลเดียวกับที่นักร้องรุ่นพี่ ‘สไมล์ ภาลฎา ฐิตะวชิระ’ หรือ ‘สไมล์ เดอะสตาร์ 8’ ได้ออกมาเผยปมในใจในวัย 15 ปี ในช่วงเวลาก่อนหน้าผ่านรายการ De – Talk EP.17 เกี่ยวกับการถูกคุกคามทางเพศ เนื่องจากโดนผู้ใหญ่ที่เคารพเหมือนแม่ มีความคิดกับตนในเชิงชู้สาว แต่กลับไม่มีใครเชื่อ และตราหน้าสไมล์ว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ

ล่าสุด เมื่อบรรดาผู้สื่อข่าวได้เจอกับ ‘บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ’ ผู้บริหารใหญ่ จึงมีการสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งได้ความว่า “ผมก็เพิ่งรู้เรื่องเมื่อวานนี้ กำลังสืบหาข้อมูลอยู่ว่ามันคืออะไร เรื่องมันเกิดขึ้นเป็นสิบกว่าปีแล้วมั้ง เราก็ต้องดูดีๆ ว่ามันคืออะไร มันมีการสื่อสารที่ผิดพลาดกันไปหรือเปล่า เราไม่ทราบได้ เราก็ต้องดูดีๆ ครับ”

เมื่อถูกถามว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ขององค์กรหรือไม่ ทาง ‘บอย ถกลเกียรติ’ ก็ได้ตอบว่า “อย่าลืมว่ามันสิบกว่าปีแล้ว ผมว่าอะไรมันก็เปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้สิบปีกับตอนนี้ มันก็ไม่เหมือนกับปัจจุบัน ทุกอย่างมันก็ไปหมดแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ทางผู้บริหารใหญ่ก็ได้ออกมาเผยว่า กำลังสืบความจริงถึงประเด็นร้อนแรงที่เกิดขึ้น ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ส่วนบทสรุปของเรื่องราวปมในใจที่สองนักร้องสาวได้ออกมาเปิดเผยนั้นจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป

‘เฌอปราง’ ประกาศจัดคอนเสิร์ตจบการศึกษา BNK48 เผย บัตร VVIP ราคา 150,000 บาท โซเชียลคอมเมนต์สนั่น

(20 ก.ย. 66) กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังเพจ ‘BNK48’ โพสต์ภาพและรายละเอียด คอนเสิร์ตจบการศึกษาของ ‘เฌอปราง อารีย์กุล’ หรือ ‘เฌอปราง’ หลังจากที่เฌอปรางได้ประกาศจบการศึกษาจาก BNK48 ภายในงาน ‘BNK48 Janken Tournament 2023’ ซึ่งเป็นอีเวนต์เป่ายิ้งฉุบค้นหาสมาชิก 16 คนที่จะได้เป็นเซ็มบัตสึเพลงใหม่ของ BNK48 จากสมาชิกทั้งหมดของ BNK48 และ CGM48 ทั้ง 74 คน

เฌอปรางจะมีงานสุดท้ายในฐานะเมมเบอร์ของวง BNK48 คือ จะมีคอนเสิร์ตจบการศึกษาวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่ Thunder Dome โดยทางเพจ โพสต์ข้อความระบุว่า…

“#BNK48_DepartCHER BNK 072 SHN 4812 – Cherprang BNK48’s Graduation Concert – DATE: 29 OCT 2023 TIME: 15:00 VENUE: Thunder Dome, Muang Thong Thani

บัตรราคา 150,000 / 6,500 / 4,800 / 3,800 / 3,200 / 3,000 / 2,800 / 2,200 / 2,000 / 1,800 / 1,200 / 720 THB

Ticket Sale: 7 OCT 2023 @ eventpop.me”

สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนคลับอย่างมากคือ การขายบัตร VVIP ราคา 150,000 บาท หลังจากที่เห็นราคาบัตรแล้ว หลายคนที่ไม่เข้าใจ ต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เมื่อไปดูรายละเอียด บัตรราคานี้ จะเปิดขายแค่ 2 ใบเท่านั้น โดย 1 ใบ มีสิทธิที่จะรวมกลุ่มกันได้ 15 คน

ผู้ที่ซื้อบัตร VVIP นี้ จะได้ถ่ายรูปกับ เฌอปราง ตัวต่อตัว 2 ช็อตอีกด้วย

โดยมีแฟนคลับมาอธิบายว่า บัตรราคา 150,000 บาท เมื่อหารกัน 15 คน จะตกคนละ 10,000 บาท ซึ่งมีแฟนคลับเข้ามาอธิบายสาเหตุการขายบัตรราคานี้ ดังนั้น บัตรราคา 150,000 บาท ที่ขายเพียงแค่ 2 ใบนั้น จึงเป็นบัตรที่ออกแบบมาเพื่อแฟนคลับของเฌอปรางเป็นหลักอยู่แล้ว

คุณแม่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ เปิดวาร์ปละครเรื่องแรกที่ลูกสาวเล่น โซเชียลเอ็นดู พร้อมยกนิ้วให้!! ‘การแสดงสีหน้า-แอ็กติ้ง’ เลิศตั้งแต่เด็ก

(19 ก.ย. 66) ปิดฉากการเดินทางอันยาวนานกับคอนเสิร์ต World Tour สาวๆ BLACKPINK ซึ่งยังไม่ได้ออกมายืนยันหรือแถลงการณ์ว่า จะต่อหรือไม่ต่อสัญญากับค่ายวายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์จนเกิดเสียงลือแว่วไปทั่วโลกว่า อาจมีการไม่ต่อสัญญามากกว่า 1 คน หากเป็นข่าวลือเป็นจริงจะมีผลกระทบใหญ่กับอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีกระแสไวรัลในโลกออนไลน์เลยทีเดียวที่ชาวทวิตเตอร์ต่างแชร์คลิปวิดีโอพรีเดบิวต์ของสาวลิซ่า ลลิษา มโนบาล ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก BLACKPINK ซึ่งเคยมีผลงานด้านการแสดงละครมาก่อน

โดยการแชร์ครั้งนี้เกิดจาก คุณแม่ของลิซ่าได้โพสต์คลิปวิดีโอ ‘ผลงานละครเรื่องแรก’ ผ่านทางไอจีสตอรี่ เผยวินาทีหญิงตัวน้อยช้อนตามองกล้องให้ดูน่าสงสารพร้อมพูดว่า หนูหิว ซึ่งเรื่องราวของละครเรื่อง เจ้าหญิงขอทาน ที่ออกอากาศทางช่อง 3 ในปี 2550

งานนี้ ทำหลายๆ คนสงสัยว่า เอ้ะ นี่จะเป็นละครเรื่องแรกของสาวลิซ่าหรือเปล่านะ ทำให้บลิ๊งค์แต่ละคนพร้อมใจกันย้อนกลับไปชมและตัดคลิปช่วงที่เด็กหญิงที่ลักษณะคล้ายลิซ่าแสดงละครทั้งเต้น แอ็กติ้ง และการแสดงสีหน้า เรียกได้ว่าปังตั้งแต่เด็กเลยทีเดียว เป็นเหตุให้หลายๆ คนอยากให้สาวลิซ่าลองงานแสดงดูบ้าง

‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ โพสต์ให้กำลังใจตัวเอง บอกปล่อยทุกอย่างไป หลังถูกมือดีปล่อยภาพลับ ท่ามกลางแฟนๆ พร้อมซัพพอร์ตเต็มที่

(19 ก.ย.66) กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล สำหรับนักร้องสาวเสียงดี ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ หรือ ‘เบียร์ ภัสรนันท์’ หลังถูกผู้ไม่หวังดีปล่อยภาพลับหลุดว่อนเน็ต จนเจ้าตัวต้องตั้งทนายความขึ้นมาเพื่อเอาผิดกับคนที่ปล่อยภาพลับนั้น

ล่าสุด ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรม โดยเขียนข้อความเป็นการให้กำลังใจตัวเองด้วยการลงข้อความภาพที่เขียนว่า “let it all go see what stays” (ปล่อยทุกอย่างไป และดูว่าอะไรคงอยู่บ้าง)

งานนี้ก็มีแฟนคลับต่างเข้ามาให้กำลังใจสาวเบียร์กันอย่างล้นหลาม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความผิดของตัวเอง

'กวาง กมลชนก' เคลื่อนไหวในฐานะลูกตำรวจ "ขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจน้ำดีทุกคนยึดมั่นในการทำความดี"

(19 ก.ย. 66) จากกรณีที่ ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์’ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามคำสั่งให้โอนสำนวนการสอบสวน คดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดีคนร้ายก่อเหตุยิง ‘สารวัตรแบงค์’ เสียชีวิต แต่ยังคงสอบปากคำพยานในฐานความผิดเกี่ยวกับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และสอบพยานในคดีที่บริษัทกำนันนกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลนั้นกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เช่นเดิม

หลังจากนั้นที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ‘พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช’ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) แถลงว่า ปัจจุบันรับโอนคดีจาก สภ.เมืองนครปฐม ทั้ง 2 คดี ทั้งคดีฆ่าตำรวจและคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157 ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มอบให้ตำรวจสอบสวนกลางสืบสวนสอบสวนต่อ อย่างไรก็ตาม ดำเนินคดีตำรวจ 6 นายไปแล้ว มีพฤติการณ์ช่วยเหลือซ่อนเร้นอำพรางกลุ่มผู้ต้องหาพ้นการกระทำผิด

เเละล่าสุด ‘กวาง กมลชนก’ อดีตนางเอกดัง นั้นก็ได้เคลื่อนไหวแล้ว ในฐานะลูกสาวตำรวจท่านหนึ่ง หลัง ‘บิ๊กก้อง’ รับโอนคดีสารวัตรแบงค์

โดยเธอนั้นได้ระบุข้อความว่า “สารวัตรศิวกร สายบัว คือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ทำให้ทุกคนยอมรับว่าตำรวจน้ำดี ตงฉิน ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลยังมีอยู่จริงในยุคนี้ ขอให้การจากไปของท่านไม่สูญเปล่า ขอให้การทำคดีนี้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ขออย่าเข้าข้างคนผิดไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือผู้มีอิทธิพลคนใด เพื่อกู้ศักดิ์ศรีตำรวจกลับคืนมาให้ได้ ขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจน้ำดีทุกคนยึดมั่นในการทำความดีต่อไป #ลูกสาวนายตำรวจตงฉินคนหนึ่ง #ชีวิตคิดบวกของกวางกมลชนก”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top