Saturday, 20 April 2024
NEWSFEED

‘อิงฟ้า’ ไหว้ขอโทษ ‘มิสแกรนด์แคมโบเดีย’ ปมใช้เท้าเขี่ยชุด หวั่นมงฯ ร่วง-ชุดแหวกอกก้มเยอะไม่ได้ รับภาพที่เห็นเลยดูไม่น่ารัก

(26 ก.ย. 66) จากกรณีดรามา อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ใช้เท้าเขี่ยชุดของมิสแกรนด์แคมโบเดีย 2022 ล่าสุด อิงฟ้ามาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ The Creator เดอะ ครีเอเตอร์ ที่ ฮอลล์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน เธอได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยกมือไหว้ขอโทษอีกฝ่าย พร้อมชี้แจงเจตนาที่ทำแบบนั้น

>> ถามถึงประเด็นดรามาใช้เท้าเขี่ยกระโปรง

“จริงๆ ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนเลยนะคะ (ยกมือไหว้) ขออนุญาตขอโทษทางมิสแกรนด์แคมโบเดีย แล้วก็แฟนคลับที่แคมโบเดียด้วย เพราะว่าจริงๆ ภาพมันก็ออกมาค่อนข้างที่จะดูไม่น่ารักจริงๆ แหละ อันนี้เราก็รู้ตัวนะ แต่ว่าอยากให้เข้าใจเจตนาของเรา ว่าเราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น เราไม่ได้อยากจะมีปัญหากับประเทศแคมโบเดียอยู่แล้ว เพราะเรายังมีงานที่จะต้องไปทำ แล้วก็มีแฟนคลับที่โน่นค่อนข้างเยอะด้วย แล้วกับตัวน้องนาโน มิสแกรนด์แคมโบเดีย จริงๆ มันมีประเด็นมาตั้งแต่เรื่องของการไม่รับไหว้โน่นนี่นั่น ซึ่งต้องบอกจริงๆ ว่า แล้วแต่สถานการณ์ในบางทีอะ เราไม่ได้เจอน้องแค่ช่วงนั้น จริงๆ แล้วเจอตั้งแต่ตอนเริ่มงานแล้ว ก็มีการรับไหว้กัน ก็ต้องขอบคุณที่มีภาพจากแฟนคลับที่ถ่ายไว้ได้ ว่าเราได้รับไหว้ แต่บางทีมุมกล้องก็ทำให้คนเข้าใจผิดได้

พอมันมีภาพที่เราใช้เท้าเขี่ยกระโปรง ก็บอกว่าเราไม่ถูกกับน้องหรือเปล่า คือจริงๆ จะบอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะคะ ก็คือถ้าให้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าหลายๆ คนได้เห็น ก็จะเห็นว่าฟ้าใส่วิก เราไม่ได้ล็อกมงฯ กับวิกด้วย แล้วมันเป็นการใส่แบบวาง โชว์ที่เดินมันคือฟินนาเล่ เราไม่ได้เดินคนเดียว มันมีคนที่เดินต่อเราติดๆ เลย ถ้าเห็นในคลิป เหมือนมันเป็นเหตุการณ์ที่เราก็ไม่รู้ ว่าเขาจะมีการสะบัดผ้า ถ้าดูในคลิปเราจะมีการฉุกคิดแป๊บเดียว ประมาณ 1-2 วิ ว่าเราจะเอายังไงต่อ ซึ่งถ้าเราก้มคือหนึ่งชุดเราไม่สะดวก เพราะชุดเราแหวกตรงช่วงอก สองคือเรื่องของมงฯ ถ้าเราก้มหรือขยับเยอะ มงฯ เราอาจจะร่วงได้

ซึ่งในหลักการเป็นนางงามแล้ว การออนสเตจก็คือมงฯ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าสมมติว่าภาพมันออกมาว่ามงฯ ร่วง อันนี้มันจะดูไปว่าเราไม่มืออาชีพ ซึ่งจริงๆ ถ้าหลายคนได้ติดตามเวลาที่ฟ้าเดินชุดยาวๆ ฟ้าจะใช้เท้าสะบัดชุดอยู่แล้ว เป็นปกติสำหรับเรา แต่พอเราใช้กับคนอื่น มันเลยอาจจะดูไม่น่ารัก อันนี้ก็ต้องขอโทษจริงๆ ก็น้อมรับทุกคำติ เราก็จะเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไป ในการแก้ไขในการออนสเตจ ซึ่งเราก็ได้มีการทักไปหาน้องแล้วตั้งแต่มีข่าว เห็นคลิปก็ทักไปหาน้องนาโน ว่าเฮ้ย พี่ไม่สบายใจ อย่างน้อยคือเราห่วงความรู้สึกของน้องก่อน ว่าพี่ขอโทษจริงๆ พี่ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นนะ ซึ่งน้องก็ทักกลับมาเป็นภาษาไทยค่ะ ว่าพี่ฟ้า หนูก็ต้องขอโทษพี่ด้วย เพราะเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะสะบัดมาตรงหน้าเรา เขาก็กลัวเราเสียความรู้สึก เราก็กลัวเขาเสียความรู้สึก ท้ายที่สุดก็ได้คุยกัน ก็บอกว่าไม่ต้องคิดมาก ไว้ร่วมงานกันใหม่”

>> เรารู้สึกยังไงที่คนตัดสินเราจากแค่คลิปสั้นๆ

“หนูไม่ได้เสียใจที่คนว่า แต่หนูแค่ห่วงความรู้สึกของน้องมากกว่า แล้วก็ห่วงความรู้สึกของคนแคมโบเดีย เขาจะคิดว่าเราไม่ให้เกียรติน้องเขาหรือเปล่า แต่จริงๆ เจตนาของเราไม่ได้คิดแบบนั้น มันแค่เป็นการแก้ไขสถานการณ์ช่วง 1-2 วิ อะไรแบบนี้ ภาพมันก็เลยออกมาแบบนั้น”

>> เรากังวลเรื่องปัญหาระหว่างประเทศใช่ไหม

“เราต้องไปร่วมงานกับแคมโบเดียอีกเยอะมากๆ ไหนจะคอนเสิร์ต จะพรีเซ็นเตอร์ และงานต่างๆ ซึ่งเราก็มีแฟนคลับที่โน่นค่อนข้างเยอะ เราก็ห่วงความรู้สึกเขา เพราะว่าบางคนก็เข้าใจ แต่แฟนนางงามบางคนก็อาจจะไม่เข้าใจไปเลย ซึ่งมันก็เป็นภาพลักษณ์ต่อๆ จากเรื่องการไม่รับไหว้โน่นนี่นั่น แต่ก็ได้แต่อธิบายกับสื่อตรงนี้ เราก็เก็บมาหลายวัน เพราะไม่อยากไลฟ์ ไม่อยากพูดถึงประเด็นตรงนี้ แบบอัดคลิปหรือโพสต์อะไร เพราะอยากให้มันดูเป็นการตอบ ที่ดูเป็นทางการที่สุด ซึ่งเราก็อยากจะขอโทษเขาอีกรอบหนึ่ง”

>> ดรามาที่ไม่ดีมาเยอะไหม กับคนที่ไม่เข้าใจเรา

“จริงๆ ก็ไม่เยอะนะคะ เท่าที่หนูเห็นส่วนมากประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์จะเข้าใจเรา ว่ามันเป็นการแก้ไขสถานการณ์ ณ เวลานั้น แล้วทางองค์กรเองเขาก็เข้าใจนางงาม กับการเตะสะบัดผ้า เราต้องเลือกระหว่างมงกุฎกับผ้า ซึ่งเราก็มองว่าเท้ามันก็ไม่ใช่ของต่ำอะไรสำหรับเรานะ เพราะกับนางงาม เท้าเป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน เราไม่คิดด้วยไง ว่าสะบัดกระโปรงแล้วกล้องมันจะแพลนมาที่เรา เพราะมันเป็นฟินนาเล่ ก็น้อมรับทุกคำติค่ะ ไม่เป็นไร (ยิ้ม)”

>> กังวลไหมกระดิกตัวนิดหนึ่งก็เป็นดรามา

“ไม่ได้กังวลค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นอย่างนี้มานานมากๆ แล้ว ก็คุ้นชินกับการมีดรามา แล้วก็มีทั้งคนรัก และก็คนที่เขาไม่ชอบ มันเป็นเรื่องปกติ”

>> เวลามีดรามาเข้ามา เรามองมันยังไง

“คือจริงๆ เรามองถึงปัญหาก่อน แล้วพอเราแก้ปัญหา สิ่งแรกที่เราควรจะนึกถึง ก็คือน้องนาโน พอเราทักไปขอโทษเขา แล้วเขาก็เข้าใจเรา เราเข้าใจเขา ก็คือจบแล้ว ส่วนคอมเมนต์หรืออะไร คนที่จะตัดสินเราแค่ช่วงวินาทีสั้นๆ หนูก็รู้สึกว่าปล่อยได้แล้ว”

>> ยิ่งสูงยิ่งหนาว

“อาจจะด้วยค่ะ เพราะว่าหนูเข้าใจนะ คนมันให้ความสำคัญกับทุกเสี้ยวเลย ในการที่เราจะออนสเตจ หรืออยู่ในแสง อาจจะต้องระวังมากขึ้น”

>> ตอนสะบัดไปแล้วคิดไหมว่าจะมีดรามา

“ตอนบนเวทีไม่ได้คิดค่ะ เพราะตากล้องไม่ได้จับ หลังจากสะบัดกระโปรงไปแล้ว เราก็หันไปมองน้อง จริงๆ ก็น่าจะรู้กันตั้งแต่บนเวทีแล้ว ก็มีทีมงานรีบขึ้นมาจัดแจงให้ต่อ ในภาพมันเหมือนหนูเหยียบไว้ แต่จริงๆ เราสะบัดแล้วมันติด มันเกี่ยว ทีมงานก็เลยมาช่วยเอาออกให้”

>> ถ้าเราไม่ใช้เท้าเขี่ยมันจะเกิดอะไรขึ้น

“หนูว่าลื่นแน่นอน เพราะพื้นที่ข้างๆ เรามันไม่มี คนต่อไปเขาเดินติดๆ เราเขยิบก็ไม่ได้ เพราะมีคนอื่นๆ ต่อๆ กัน มันต้องแก้ที่ตัวเราเลย ณ ตอนนั้น เพราะคนอื่นเขารอ”

>> ถ้าต่อไปมันมีแบบนี้อีก เราเตรียมแผนสองไหม

“โห พูดยากเลย ถ้ามันเป็นโชว์เดี่ยว หรือโชว์สองคน มันสามารถมีพื้นที่ในการแก้ได้ แต่พอมันเป็นฟินนาเล่ที่มีหลายคน มันคอนโทรลยากนิดหนึ่งค่ะ แต่ก็จะระวังให้มากขึ้น ถ้าเป็นรอบหน้าก็อาจจะแบบ… แต่ภาพมันก็จะออกมาไม่สวยไง ถ้าเรารอให้ทีมงานมาเขี่ยให้ ภาพมันก็ไม่ได้อีก เพราะจริงๆ เราคิดว่ากล้องมันไม่ได้แพลน เราก็รีบจัด แต่กล้องก็คือรีบเลย (ยิ้ม)”

>> พอได้เคลียร์แล้วสบายใจไหม

“สบายใจค่ะ ก็หลังจากที่เริ่มมีดรามามากขึ้น หนูก็เลือกที่จะไม่อ่านดีกว่า เพราะว่าคนที่ควรจะเข้าใจมากที่สุดคือเราขอโทษไปแล้ว แล้วเขาเข้าใจก็คือจบ ถามว่าบั่นทอนไหมตอนดรามาถาโถม ก็ชินแล้วอะ แต่ก็ถ้าสมมติว่าเราไม่รู้จักตัวเอง เราก็อาจจะมีคิดเหมือนกัน เพราะภาพมันก็ออกมาไม่น่ารักจริงๆ”

‘YG’ วุ่น!! เจอสื่อเกาหลีตีข่าวไม่หยุด ปม ‘เจนนี่-จีซู’ จ่อเปิดค่ายของตัวเอง ฟาก ‘โรเซ่’ ต่อสัญญาคนเดียว ส่วน ‘ลิซ่า’ ลุยงานเดี่ยว ไร้เมเนเจอร์คอยคุม

(25 ก.ย.66) ยังเป็นเรื่องในแวดวงบันเทิงเกาหลี ที่หลายคนจับตามองอยู่ไม่น้อย กับกรณีการต่อสัญญาของเหล่าเมมเบอร์ BLACKPINK ที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ‘โรเซ่’ เป็นสมาชิกเพียงคนเดียวของวง ที่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิมอย่าง YG Entertainment

ล่าสุด สื่อเกาหลี News1 ได้รายงานว่า ‘เจนนี่’ และ ‘จีซู’ เตรียมก่อตั้งค่ายของตัวเอง และรายงานด้วยว่า ขณะนี้เมมเบอร์ BLACKPINK ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ YG Entertainment เรื่องการดำเนินกิจกรรมของพวกเธอในฐานะวง ขณะที่ต้นสังกัดส่วนตัวของเธอนั้น จะดูแลในส่วนของกิจกรรมเดี่ยวของพวกเธอ

หลังรายงานข่าวดังกล่าว YG Entertainment ได้ออกมาตอบประเด็นดังกล่าวว่า “ยังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับการต่อสัญญาของ BLACKPINK และกิจกรรมในอนาคตของพวกเธอ”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบว่าขณะที่ ‘ลิซ่า’ เดินทางไปกรุงปารีส กลับไร้เงาการ์ดคอยดูแลในสนามบินกรุงโซล เกาหลีใต้ ส่วนเมเนเจอร์เพียงเดินทางมาส่งที่สนามบินเท่านั้น ไม่ได้บินลัดฟ้าไปปารีสด้วยกันแต่อย่างใด เหตุการณ์นี้จะเป็นการตอกย้ำข่าวลือเรื่องไม่ต่อสัญญาหรือไม่ ยังคงเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต้องเฝ้าจับตากันต่อไป…

‘จ้าวลู่ซือ’ ถูกล้อเลียนระหว่างร่วมงานแฟชันโชว์ที่มิลาน ชาวเน็ตเดือด!! ไม่คิดว่างานระดับโลกจะมีเหตุการณ์แบบนี้

(25 ก.ย. 66) กลายเป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก หลังมีภาพของ ‘จ้าวลู่ซือ’ นักแสดงชาวจีน กำลังถูกล้อเลียนขณะถ่ายภาพหน้าบริเวณงานแฟชันโชว์ Versace ที่ Milan Fashion Week 

‘จ้าวลู่ซือ’ นักแสดงสุดฮอตจากประเทศจีน ถูกเชิญเข้าร่วมงานแฟชันโชว์ Versace ที่ Milan Fashion Week โดยเป็นแขกคนสำคัญของ Versace ขณะที่เธอกำลังพบปะแฟนๆ และถ่ายภาพอยู่หน้าบริเวณงาน ด้านหลังกลับมีผู้หญิงสองคน กำลังทำท่าทางล้อเลียนเธอ จนทีมงานของเธอต้องยืนบังเอาไว้

หลังจากคลิปถูกเผยแพร่บนโซเชียล ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ไม่พอใจพฤติกรรมของบุคคลเหล่านั้น และไม่น่าเชื่อว่างานแฟชันระดับโลกจะมีเหตุการณ์ไม่ให้เกียรติเหมือนเป็นการเหยียดคนเอเชียเกิดขึ้น

ภายหลังทางแบรนด์ Versace รับทราบถึงเรื่องราวดังกล่าว และไม่นิ่งนอนใจ ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า"พวกเราสังเกตว่านอกงานแฟชันโชว์ หลายๆ คนได้ล้อเลียนจ้าวลู่ซือ ที่ทำโพสต์น่ารักๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของศิลปินดาราเอเชีย อันนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ในยุคนี้จริงๆ"

โดย จ้าวลู่ซือ กำลังเดินทางจากอิตาลี มายังประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมงาน WeTV Always More 2024 ที่ประเทศไทยในวันที่ 27 กันยายนนี้ 

‘แบมแบม’ จี้เว็บขายบัตรคอนฯ ให้ตรวจสอบ คาด!! มีคนในแอบโกง หลังพบบางคนกดได้เยอะเกินที่ระบบกำหนด แถมนำไปอัปราคาแรง

(25 ก.ย. 66) ทำเอาหลายคนออกมาแสดงความเห็นมากมาย หลังนักร้องหนุ่ม ‘แบมแบม GOT7’ หรือ ‘แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล’ ออกมาโพสต์แสดงความเห็นในทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงคอนเสิร์ต ‘2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR [AREA 52]’ ที่ก่อนหน้านี้เปิดการขายบัตรเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็หมดเกลี้ยงภายในพริบตาเดียว

แต่งานนี้ก็มิวายมีเรื่องให้ ‘แบมแบม’ ปวดหัว ถึงขั้นต้องออกโรงเตือน หลังพบมีการปล่อยบัตร VVIP ในราคาสูง โดยบางคนสามารถกดบัตรได้เกินจำนวนที่ระบบกำหนด และดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้ตั้งใจกดบัตรเพื่อดูคอนเสิร์ต แต่กดมาเพื่อขายเอากำไร

โดย ‘แบมแบม’ โพสต์ว่า "พวกที่กด VVIP ได้มาหลายใบ ควรเช็กนะครับ" และ "ผมว่ามีคนในระบบของคุณแอบโกง" ทำเอาแฟนๆ ปลื้มใจในความน่ารักและเอาใจใส่ของแบมแบม พร้อมวอนเว็บกดบัตรคอนเสิร์ต ให้ออกมาจัดการเรื่องนี้ และชี้แจงโดยเร็ว

‘The Sine Cafe’ คาเฟ่ร่วมสมัย ไม่ทิ้งความเป็นไทย จ.นครปฐม อิ่มอร่อยกับเมนูไทยแบบโฮมเมด พร้อมบรรยากาศสบายๆ ในสวน

ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศสวนอันร่มรื่น ได้ผ่อนคลายกับความเป็นธรรมชาติ และยังได้ลิ้มรสชาติเมนูอาหารไทยอร่อยๆ ชวนมาที่นี่เลย ‘The Sine Cafe’ ที่อยู่ใน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

‘The Sine Cafe’ (เดอะ ซายน์ คาเฟ่) คาเฟ่สวยแนวไทยร่วมสมัย ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นยุคสมัยใหม่ และยุคสมัยโบราณช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ท่ามกลางบรรยากาศสวนนั่งสบาย มีทั้งมุมนั่งในร้าน มุมนั่งในสวนริมสระน้ำ ให้เลือกนั่งได้ตามชอบ

และหากว่าเข้ามาที่นี่แล้ว ก็จะได้พบกับเรือนไทยโบราณ ‘เรือนไทยภิรมย์ภัชน์’ ที่มีอายุกว่าร้อยปี และถูกนำมาบูรณะใหม่ ภายในเรือนถูกประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ยุโรปแนววินเทจ บางชิ้นมีอายุกว่าร้อยปี และมีมุมอื่นๆ ให้ผู้เยี่ยมชมได้เข้ามาถ่ายรูปได้

สำหรับอาหารของที่นี่ จะเน้นสไตล์โฮมเมด ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่ทางร้านสืบทอดมาจากคุณทวด วัตถุดิบบางชนิด ทางร้านได้ปรุงขึ้นมาเองเพื่อควบคุมคุณภาพและรสชาติให้ได้มาตรฐาน โดยที่นี่มีทั้งอาหารไทย อาหารไทยโบราณ ขนมไทยหากินยาก อาหารตะวันตก และเครื่องดื่มหลากหลาย ที่จะเสิร์ฟความอร่อยให้กับทุกคนทั้งครอบครัว

เริ่มต้นมื้ออร่อยกันด้วยเมนูไทยโบราณ ‘ปลาแห้งแตงโม’ เพิ่มความสดชื่นจากแตงโมหวานฉ่ำ โรยหน้าด้วยปลาแห้งที่ทำจากเนื้อปลาช่อน ผสมกับน้ำตาล เหลือ และหอมเจียว จานนี้กินแล้วสดชื่นคลายร้อนมากๆ

จานซิกเนเจอร์ของร้านที่ชวนกินคือ ‘ไข่เคย S Garden’ เป็นเมนูง่ายๆ ที่ทำกินกันในครอบครัว แล้วขยายมาสู่การเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลองชิมความอร่อย เมนูนี้ทำจากกะปิกุ้งเคยแท้ ผัดกับเครื่องแกงและไข่ไก่ บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และผักสด

‘ข้าวยำภิรมย์ภัชน์’ อีกจานชวนชิม สีสันสวยงาม มีผักหลากหลายชนิด เสิร์ฟพร้อมข้าวยสวยสีเหลืองจากขมิ้น และสีม่วงจากดอกอัญชัน คลุกเคล้ากับน้ำบูดูปรุงสุกรสชาติกลมกล่อม และยังเพิ่มความหอมมันด้วยมะพร้าวคั่วใหม่ๆ

ต่อด้วย ‘แกงเขียวหวานปลากรายไข่เค็มภิรมย์ภัชน์’ เมนูอร่อยที่ทางร้านทำลูกชิ้นปลากรายเอง ด้านในเป็นไส้ไข่แดงเค็ม เข้าคู่กันกับน้ำแกงเขียวหวานรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟแบบเป็นเซตคู่กับเส้นหมี่ขาวลวก

อีกจานอร่อยที่ต้องชิม ‘ผัดหมี่กระเฉดมันกุ้งห่อไข่ทองคำ’ เป็นเส้นหมี่ผัดกับมันกุ้งเข้มข้น ผักกระเฉด และกุ้งสดตัวโต เพิ่มความพิเศษด้วยการห่อไข่นุ่มๆ

สลับมาชิมเมนูไทยฟิวชั่น ‘โรตีแกงสุวรรณภูมิ’ เป็นโรตีแผ่นเหนียวนุ่ม มาพร้อมกับแกงกะทิที่มีส่วนผสมระหว่างเครื่องแกงมัสมั่นและแกงเชียวหวาน กลายเป็นเครื่องแกงสีเหลืองทอง และยังมีเนื้อไก่นุ่มๆ ในน้ำแกงให้อร่อยกันด้วย

‘แกงรัญจวน’ อีกหนึ่งแกงโบราณที่มีบันทึกไว้ในสมัยรัชกาลที่ 5 เคล็ดลับของแกงนี้คือจะต้องตำน้ำพริกกะปิรสชาติจัดจ้านครบรส ใส่ลงไปกับน้ำแกงที่ต้มกับเนื้อสัตว์ ซึ่งทางร้านใช้เนื้อหมูอย่างดีมาเคี่ยวจนเปื่อยนุ่ม

นอกจากเมนูอาหารไทยโบราณ และอาหารไทยต่างๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมนูอาหารตะวันตกให้มาลิ้มลองกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น พิซซ่า สปาเก็ตตี ซุป ฯลฯ

และถ้าอิ่มจากของคาวแล้ว มาต่อกันที่ของหวานจานอร่อย ‘ส้มฉุน’ ของหวานโบราณที่ยืนพื้นด้วยลิ้นจี่เป็นหลัก แล้วตามด้วยผลไม้ตามฤดูกาลอื่นๆ นำมาใส่ในน้ำลอยแก้ว บีบน้ำส้มซ่าเพิ่มกลิ่นหอมและความสดชื่น กินแล้วอร่อยคลายร้อน

‘ขนมพระพายนมสด’ อีกหนึ่งขนมไทยโบราณ ที่ทางร้านดัดแปลงจากกะทิมาเป็นนมสดคาราเมล ส่วนตัวขนมนั้นไส้ทำจากถั่วกวนหวานมัน หุ้มด้วยแป้งข้าวเหนียวเคี้ยวหนึบ

มาถึงแหล่งมะพร้าวน้ำหอมอย่างที่สามพราน ต้องไม่พลาดที่จะชิมเมนูอร่อยจากมะพร้าวอ่อนหวานหอม ‘เค้กมะพร้าวไข่เค็ม’ เนื้อเค้กนุ่มๆ มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าวอ่อน แทรกด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน เสิร์ฟพร้อมกับซอสไข่เค็มหอมมันที่เข้ากันดีมากๆ

ส่วนเครื่องดื่มก็เลือกเป็น ‘S Namhom Latte’ ทางร้านคัดเลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้าอย่างดี ชงผสมกับมะพร้าวน้ำหอม นุ่มละมุน เสิร์ฟคู่เม็ดทองหยอดจิ๋วออนท็อป

มาที่นี่นอกจากจะมาลองลิ้มอาหารไทยอร่อยๆ แล้ว ก็ยังมีที่พัก ‘S Garden View Resort’ ซึ่งเป็นทั้งรีสอร์ทพักสบาย มีสถานที่จัดเลี้ยง งานแต่งงาน งานสัมมนาต่างๆ และยังไม่ไกลจากที่เที่ยวในย่านสามพรานอีกด้วย

ร้าน ‘The Sine Cafe’ ตั้งอยู่ภายใน S Garden View Resort อ.สามพราน จ.นครปฐม เปิดบริการวันพฤหัสบดี-อังคาร (หยุดวันพุธ) โซนคาเฟ่เปิดเวลา 10.00 – 20.30 น. โซนร้านอาหารเปิดเวลา 10.30 – 20.30 น. โทร. 09-5464-6228 Facebook : The Sine Cafe

‘ลิซ่า’ เดอะแบกแห่ง ‘BLACKPINK’ ผู้นำพาวงมาถึงฝั่งฝัน กับ 7 ปีที่ถูกด้อยค่า สู่การผงาดขึ้นมาเป็น ‘ตัวแม่’ ของวงการ

เมื่อไม่นานนี้ นายคมสันชัย สุขพิพัฒน์มงคล นักพากย์เสียงชาวไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงประเด็นการปฏิเสธต่อสัญญาจ้างกับทางค่าย YG ของ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ โดยระบุว่า…

‘ลิซ่า’ ปฏิเสธเงิน 50 พันล้านวอน หรือประมาณ 1,317 ล้านบาท ในการต่อสัญญากับค่าย YG เป็นข่าวดังไปทั่วโลก ส่งผลให้หุ้น YG ร่วงกราวรูดทันที 9% สูงที่สุดในรอบปี ลิซ่าปฏิเสธ 2 ครั้ง หุ้นก็ร่วง 2 ครั้ง…

เอาดิ คงลืมไปว่า ลิซ่าทำรายได้เป็นพรีเซนเตอร์แต่ละราย แค่ 1 ปี ก็มีรายได้มากกว่าสัญญาทาส 7 ปีของ YG ไม่รวมค่าตัว Global Brand Ambassador อีกหลายแบรนด์ เฉพาะค่าตัวลิซ่า กับ Celine แบรนด์เดียว ก็ 2,800 ล้านบาทแล้ว มากกว่าถึง 2 เท่า (แค่เดินและยิ้มกับอาภรณ์เลอค่า ไม่ต้องเต้นแร้งเต้นกาให้เปลืองเหงื่อ เปลืองแรง) แถม หลายแบรนด์ดังทั่วโลก พร้อมอ้าแขนรับลิซ่า คนดี น่ารัก นิสัยงาม ก็เป็นเช่นนี้

งานนี้ มีสิทธิ์อย่างมาก ที่ BLACKPINK จะยุบวง คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยากครับ เราคงทราบกันดี ถึงความกดขี่ข่มเหงที่ผู้ชายเกาหลีปฏิบัติต่อผู้หญิงเกาหลีด้วยกัน เมื่อครั้งลิซ่าไปอยู่ใหม่ๆ เดินชนลิซ่ายังไม่ขอโทษ กว่าจะมีวันนี้ได้ ลิซ่าทนแล้วทนอีก เป็น ‘สีทนได้’ ทั้งด่า ทั้งเหยียด ใครจะอยากอยู่ต่อ?

ผมเคยไปอยู่เกาหลี จึงรู้ว่า ‘คนเกาหลีไม่ชอบคนไทย’ โดยเฉพาะผู้ชายและผีน้อย ลิซ่า ถูกเหยียดเรื่องชาติพันธุ์ จากบลิ๊งค์เกาหลีบางคน แต่ส่วนใหญ่รักลิซ่ามาก ถึงขนาดแกล้งเป็นลมกลางสนามบิน เพื่อให้ลิซ่ามาเทคแคร์

คนเกาหลี ไม่ชอบคนไทย แต่คนไทย กลับชอบเกาหลีมาก ดารานักร้องไทยรุ่นใหม่ แยกไม่ออกแล้ว เพลงไทย กลายเป็นเพลงเกาหลี หนังไทย กลายเป็นหนังเกาหลี ขนาดเนื้อเรื่องเป็นคนชนบท พระนางยังหน้าเกาหลี บ้าไปแล้ว!!

เมื่อก่อนมี J-POP K-POP ตอนนี้ไทยมี T-POP ผมดู ผมฟัง ไม่ใช่ T-POP มันเป็น K-POP 100% ครับ ไม่มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย

ในขณะที่ลิซ่าเองออกเดี่ยวชุดแรก เธอแสดงความเป็นไทย จนชุดไทย ชฎาไทย รัดเกล้ายอด ขายดีหมดเกลี้ยง ลิซ่ากล้าแสดงความเป็นไทย อวดสายตาชาวโลกอย่างภาคภูมิใจในความเป็นไทย

คนทั่วโลก ไม่ได้รักลิซ่า เพราะร้องเก่ง เต้นเก่ง เซ็กซี่ แต่รักที่ลิซ่า งดงาม อ่อนน้อม มีน้ำใจ กตัญญู และความเป็นไทยของลิซ่าครับ ขนาดลิซ่าทำวงดังมากกว่าใครในวง แต่ลิซ่ากลับได้รับค่าตัวที่ถูกแสนถูกกว่าคนอื่นในวง…

แล้วเป็นไง เงิน 1,317 ล้านบาท ก็ซื้อใจเธอไม่ได้ อย่าลืม ลิซ่าคนเดียวในวง ที่ทำสถิติโลก 
‘Guinness World Records’ มาแล้วหลายสถิติ

อย่าลืมว่าศิลปินเกาหลี เข้าจีนไม่ได้ จีนไม่ต้อนรับ แต่ที่ BLACKPINK เข้าจีนได้ เพราะจีนรักลิซ่ามาก สื่อยกให้เป็น ‘Queen of Dance’

ลิซ่า คือ ‘Soft Power’ ของไทยตัวจริง ความจริงคนทั้งโลกรู้ดีว่า วันนี้ ลิซ่ามีค่ามากกว่าการเป็นเพียงนักร้องนักเต้น ไปเถิดลิซ่า ไปสู่ประตูสวรรค์ โลกที่ยิ่งใหญ่รอเธออยู่ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’

เพราะความดีที่ทำ ชักนำเธอไป ทำบุญมาดีจริงๆ อดีตทำมาดี ปัจจุบันได้ดี ปัจจุบันทำไว้ดี อนาคตย่อมดี (ต้องเกิดอีกกี่ชาติ ผมถึงจะมีเงินเท่าที่ลิซ่าปฏิเสธ)🏠🧔🏻🇹🇭

ข่าวหลายคนพบเจอ ลิซ่าพาหวานใจมาพบพ่อแม่ที่บ้าน ล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา จุดพลุอลังการสว่างฟ้า แล้วล่องใต้ รับงานที่สมุย ก็วันหยุดเธอนิ…

ความดีของมนุษย์ เทวดาก็ฉุดไม่อยู่แล้วล่ะครับ

ขอแสดงความยินดีครับ

‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ยอมรับภาพหลุด เป็นฝีมือแฟนเก่านอกวงการ ลั่น!! ไม่เคยคิดว่าความไว้ใจที่เคยมอบให้ มันจะย้อนกลับมาทำร้าย

(23 ก.ย.66) จากกระแสร้อนแรงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ กรณีการไปลือสะพัดถึงปมคลิปหลุดปริศนาพาดพิงถึงนักร้องสาวสวยแซ่บ เบียร์ ภัสรนันท์ หรือ เบียร์ เดอะวอยซ์ ทำให้แฮชแท็ก #เบียร์เดอะวอยซ์ ติดเทรนด์ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องตอนนี้

ล่าสุด เบียร์ เดอะวอยซ์ โพสต์ชี้แจงในเพจ Bizcuitbeer ว่า เบียร์ขออธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแบบรวดเดียวในโพสต์นี้เลย โดยแยกตามประเด็นไว้ให้ทั้งหมดแล้ว และจะไม่ตอบคำถามใดๆเพิ่มเติมในคอมเม้นต์ ต้องขอโทษด้วยที่ออกมาเคลื่อนไหวช้า เนื่องจากต้องให้เวลากับการทำอะไรก็แล้วแต่ที่จะไม่ให้มีผลต่อรูปคดีหรือการดำเนินการของตำรวจ

การรับรู้เรื่องราว ช่วงหลายๆ วันก่อนหน้านี้ เบียร์ได้รับข้อความว่ามีคนนำภาพของเบียร์ไปขายทางแอปพลิเคชันนึง ซึ่งในครั้งแรกที่เห็นข้อความก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เพราะคิดว่าเป็นมิจฉาชีพหลอกให้กดลิงก์ แต่หลังจากนั้นก็มีข้อความเข้ามาด้วยใจความเดียวกันอีกหลายๆ ครั้งและหลายช่องทาง รวมไปถึงอีเมล์ส่วนตัวด้วย ซึ่งภาพดังกล่าวนั้นมีมูลค่าสูงถึง 96,000-105,000 บาท (ราคาภาพอย่างเดียวไม่ใช่คลิป)

การตรวจสอบยืนยัน วันนี้เบียร์ได้ดูภาพและคลิปทั้งหมดแล้ว จะขอบอกทุกคนว่าภาพและคลิปดังกล่าวเป็นเบียร์เองจริงๆ และเบียร์รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะหลังจากที่มีคนช่วยหาภาพมาให้ดู เบียร์เองก็รู้ได้ในทันทีว่าสถานที่และช่วงเวลานั้นเกิดขึ้นตอนคบหากับใคร ซึ่งในภาพนั้นค่อนข้างจะชัดเจนและปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่ตัวเองค่ะ ดังนั้นไม่ต้องนำภาพไหนมาปะติดปะต่อหรือเทียบกันอีกแล้ว นั่นเบียร์เองยอมรับตรงนี้เลย

บุคคลที่ถ่าย สถานที่ในคลิปและภาพส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่บ้านหลังเก่าของเบียร์ช่วงประมาณปี 2020 บุคคลที่ถ่ายภาพคือแฟนเก่าของเบียร์เอง เป็นคนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงในวงการเกม หรือวงการเพลง หรือวงการบันเทิงเลย ดังนั้นเบียร์อยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งโจมตีบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องขอโทษทั้ง ‘ท็อป’ ‘วาน้อย’ ‘ฮาย’ และ ‘พี่คัตโตะ’ ด้วยที่ทำให้เดือดร้อนโดนต่อว่าให้เสียหาย

ความรู้สึกต่อเรื่องนี้ เอาจริงๆ ในตอนนั้นเบียร์คิดว่าเรื่องการถ่ายภาพหรือถ่ายคลิปนั้นเป็นเรื่องของรสนิยมเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นการตกลงยินยอมของคน 2 คนในขณะนั้น เพียงแต่บางภาพที่หลุดออกมาเป็น ‘การแอบถ่าย’ ที่ไม่ได้รู้ตัว รวมๆ กันอยู่ด้วย แต่เบียร์จะบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ เบียร์รู้สึกว่าความผิดพลาดเดียวคือ ตัวเบียร์เองไม่ได้รอบคอบมากพอที่จะจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นและให้มันจบไปในช่วงก่อนหน้านี้ จากการคบหาใครคนนึงแล้วมีการเลิกรากันไป

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงจะมีการพูดคุยให้ลบทิ้งทั้งหมด เพราะไฟล์อยู่ที่เขา เขาเป็นคนถ่ายไว้ ในกระทำดังกล่าวภาพบางภาพไม่ได้มีการบังคับ แต่เป็นการยินยอมเพราะความไว้ใจของเบียร์เองที่มอบให้เขาค่ะ เพราะเราคบกัน รักกัน และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบคู่รักอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งเราก็เลี้ยงหมาด้วยกันมีความสุขดี ที่ผ่านมาเขาก็ดูแลเบียร์อย่างดีมาตลอด

ตอนที่รู้เรื่องนี้ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเขาที่ทำด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดว่าการที่เรามอบความไว้ใจให้คนที่เรารัก มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเบียร์ได้ขนาดนี้

เหตุผลของการถ่ายและเหตุผลของคนที่ทำ เรื่องความสัมพันธ์บางอย่างของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ณ ตอนที่คบกันเราก็ดูแลกัน เติมเต็มกันในส่วนที่ขาดหรือส่วนที่ต้องการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ชีวิตคู่มันมีสีสัน มันราบรื่น ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนมีวาทะศิลป์ในการพูดอย่างมาก ที่จะโน้มน้าวให้เราทำตาม เรื่องนี้ไม่ขอโทษใครเลยเพราะในตอนนั้นเราก็หลงเชื่อเขาเอง แต่พอวันนึงที่เราตัดสินใจไม่ไปต่อ เราเลิกรากันไป ซึ่งก็นานประมาณนึงแล้ว เขายังคงแสดงความห่วงใยถามไถ่บ้างบางโอกาสอยู่เลย

เพียงแต่เราไม่ได้ตอบกลับอะไรมากมาย เพราะเกรงใจความสัมพันธ์ที่เป็นปัจจุบันมากกว่า จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้วเบียร์ก็คงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เพราะมันเป็นทั้งอดีตและความจริง

ณ ปัจจุบันเขาก็ทำการบล็อกเบียร์ทุกช่องทางไปแล้ว มีแค่ช่องทางร้านธุรกิจของเขาที่ยังคงอยู่ ซึ่งเบียร์คงไม่ถามเหตุผลว่าที่เขาปล่อยภาพพวกนี้ออกมาเขาต้องการอะไร อาจจะเป็นเงินก็ได้อันนี้เบียร์ก็ไม่ทราบเหมือนกัน ตอนที่คบกันก็มีการบ่นเรื่องปัญหาการเงินบ่อยครั้ง และรูปที่ปล่อยออกมาก็เริ่มจากการขายในราคาที่แพงมากๆ ด้วย

พฤติกรรมของบุคคลที่ทำ (เอาไว้เป็นอุทาหรณ์)
-เบียร์ไม่ใช่คนแรกที่เขากระทำแบบนี้
-มีพฤติกรรมชอบยกมือถือขึ้นมาคล้ายกับว่าเล่นมือถือเฉยๆ แต่จริงๆ แอบถ่ายบ่อยครั้งพอถามก็บอกว่าไม่มีอะไร
-หากถูกจับได้ว่าการถ่ายก็จะทำทีเป็นลบ แต่อาจจะอัพโหลดบนคลาวด์เรียบร้อยแล้ว
-มีปัญหาเรื่องการเงินบางทีครั้งก็ชอบหยิบยืมแล้วทำเป็นลืมที่จะคืน
-มีการร้องขอให้ทำท่ายั่วยวนเวลาที่พูดคุยผ่านทางวิดิโอคอล

ขอโทษ เบียร์เองต้องยอมรับว่ากระแสที่เกิดขึ้นมันอาจจะกระทบงานที่กำลังจะเกิดในเร็วๆ นี้ของเบียร์ ซึ่งก็กังวลค่อนข้างมาก เพราะมีหลายงานที่เกี่ยวข้องกับคนอื่น ผู้จัด หรือนักแสดงท่านอื่นๆ แบรนด์สินค้าต่างๆ รวมถึงบุคคลที่โดนเข้าใจผิด เบียร์ต้องขอโทษทุกคนไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ เบียร์ยินดีรับความผิดพลาดนี้ไว้เองทุกประการค่ะ

การแก้ไข ต่อจากนี้เบียร์เองจะรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้นในทุกๆ อย่างของชีวิต ไม่ให้ทุกคนต้องผิดหวังหรือได้รับผลกระทบจากเรื่องความสัมพันธ์ของเบียร์อีกในอนาคตค่ะ ซึ่งในครั้งนี้เบียร์ก็ได้รับบทเรียนแล้วว่าไม่ควรไว้ใจใครทั้งนั้น ในอนาคตก็อาจจะต้องวางแผนการใช้ชีวิตใหม่ด้วย

เรื่องของทนาย มีบางเพจที่บอกว่าเป็นทนาย เป็นคนดูแลคดีเรื่องดังกล่าวคือโกหกทั้งนั้น คนที่หลงเชื่อเพราะไม่รู้ก็ไม่เป็นไร คนที่รู้อยู่แล้วก็ยังจงใจซ้ำเติมไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงเหมือนกัน

เรื่องของคอมเมนต์ ใครจะวิจารณ์อะไรถ้าเป็นการติเพื่อก่อ เบียร์จะขอน้อมรับไว้เพื่อปรับปรุง แค่ขอให้ละเว้นเรื่องครอบครัวและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยนะคะ แต่อย่าลืมข้อกฎหมายบางอย่างไปว่า ‘แค่การแชร์’ คุณก็อาจถูกฟ้องดำเนินคดีได้

คอมเมนต์ที่จะพิมพ์อะไรลงไป วันนี้คุณอาจจะสนุก สะใจ สมน้ำหน้า เบียร์ไม่ตอบกลับ แต่อย่าลืมว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเบียร์ได้ วันนึงก็อาจเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวคุณก็ได้ไม่ว่าจะชายหรือหญิง มันไม่มีใครสมควรเจอเรื่องแบบนี้ในชีวิตทั้งนั้น

เบียร์ไม่แปลกใจที่จะเจอคอมเมนต์แนวนี้จากผู้ชาย แต่กับผู้หญิงด้วยกัน ค่อนข้างทำให้เบียร์รู้สึกว่าโลกนี้ไม่เคยใจร้ายกับใครนะ มีแต่มนุษย์ด้วยกันนี่แหละที่ร้ายที่สุดแล้ว

โลกยุค 2023 แล้ว ทำไมการมีความสัมพันธ์ที่เรียกว่า ‘SEX’ ผู้ชายที่ทำจะเป็นฝ่าย ‘ได้’ แต่ ผู้หญิงที่ทำจะเป็นฝ่าย ‘เสีย’ หรือเพราะมันกำหนดไว้แบบนั้น ผู้หญิงถึงต้องเป็นฝ่ายที่เสียหายตลอดทุกครั้งไปที่มีประเด็นแบบนี้เกิดขึ้น

เรื่องนี้บอกอะไรบ้าง เบียร์คิดว่าพอมันเกิดขึ้น มันก็ทำให้ตัวเองและหลายๆคนระมัดระวังในความสัมพันธ์มากขึ้น ได้เห็นว่าแม้จะเลิกรากันไปนานแต่ก็อาจมีสิ่งที่หลงเหลือมากพอที่จะทำร้ายหรือทำลายชีวิตเราได้ทุกวันเวลา และอดีตนั้นจะกลับมาเปลี่ยนเรื่องราวในปัจจุบัน

-คนไม่เข้าใจว่าการถูกถ่ายกับการนำไปอัพโหลดมันคนละเรื่องกัน ความยินยอมต่างกัน
-คนที่ได้รับผลของการกระทำมันถูกฝั่งรึเปล่า?
-ทำไมคนที่ต้องอับอายไม่มึที่ยืนในสังคมถึงเป็นคนที่ถูกโพสต์อะไรแบบนี้ลงในโลกอินเตอร์เน็ต?
-เบียร์ไม่ใช่เคสแรกหรือเคสเดียวที่เกิดขึ้น ทำไมสังคมเลือกจะซ้ำเติมเรา?
-ทำไมคนที่กระทำเรื่องแบบนี้เคสอื่นๆ ถึงลอยนวล ทำไมคนได้ดูต้องโอ้อวดภูมิใจ?
-การทำลายคนอื่นมันง่ายแค่ปลายนิ้วและมีอินเตอร์เน็ตเท่านั้นเองเหรอ?
-ทำไมส่วนใหญ่ถึงเอนจอยกับเรื่องแบบนี้จนไม่สนความเจ็บปวดของคนอื่น?
-ทำไมสรรเสริญคนกระทำความผิดละเมิดคนอื่นว่าเป็นคนน่าอิจฉา เป็นผู้ใจบุญ?
-การคบใครเป็นคนรักนั้นการให้ความไว้ใจใครสักคนอาจจะถูกหักหลังในภายหลังได้เสมอ อย่าประมาท

รวมไปถึงการเสพข้อมูลผิดๆ จากเพจปลอมก็ทำให้รู้ว่าสังคมสมัยนี้ยังคงไม่ใส่ใจกับการที่คนๆนึงจะมีบาดแผลมากเท่าไหร่จากการที่แชร์ข้อมูลผิดๆ ลงพื้นที่โซเชี่ยลของตัวเอง เพียงเพราะอยากสนุกอยากมีส่วนร่วมกับการกระทำซ้ำเติมใครสักคนเสมอแม้ไม่แน่ใจนักว่าเรื่องนั้นจริงหรือไม่ มีที่มาที่ไปอย่างไร เรื่องของเบียร์คงเป็นตัวอย่างที่ดีในการคัดกรองเพื่อนในโซเชียลครั้งใหญ่ของใครหลายๆ คน

จากการแชร์ คอมเมนต์หรือการแสดงทัศนคติต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจึงเกิดคำแบ่งแยก ‘ชายแท้’ ‘หญิงแท้’ อย่างที่ใครเข้าใจกัน ตอนนี้เบียร์รับผิดชอบในส่วนของเบียร์แล้ว แล้วพวกคุณล่ะได้ออกมารับผิดชอบอะไรกันบ้าง ทั้งๆ ที่ได้เงินจากการเอารูปไปขาย ความสนุก ความสะใจ ยอดฟอลโลว เอนเกจเมนต์ต่างๆ อย่างที่ต้องการแล้ว

ขอบคุณ เบียร์ขอบคุณทุกคนมากค่ะที่อ่านจนจบ และขอบคุณหลายๆคนที่ออกมาให้กำลังใจ, ดีเฟนด์, คอลเอ้าท์หรือกดรีพอร์ตสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้กับเบียร์ด้วย ขอบคุณแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่แสดงความเห็นใจไม่ยกเลิกงาน ขอบคุณการช่วยเหลือทุกอย่างจากทุกคนในเรื่องนี้เบียร์ขอขอบคุณจากใจจริง รูปสวยๆ เบียร์มีเยอะมาก ถ่ายเองอาจจะสวยกว่านี้ชัดกว่านี้ อย่าไปเสียเงินให้คนที่ละเมิดคนอื่นแบบนี้เลยค่ะ ถ้าเบียร์ทำเองเบียร์จะถ่ายให้สวยกว่านี้แน่นอนรับรอง คำถามอื่นๆ นอกเหนือจากนี้เบียร์ขอให้ทางต้นสังกัด, ผู้จัดการ, ทนายและทางตำรวจเป็นคนจัดการบุคคลที่ทำเรื่องนี้ต่อไป

#อยากขายเสื้อหมาบ้างจังเลยโว้ย
#แค่คุณสวยโลกนี้ก็ใจดีกับคุณไม่ใช่เบียร์

‘เบิร์ด ธงไชย’ เผย ‘เคล็ดลับหน้าเด็ก’ แนะ!! ‘น้ำมะนาว-ออกกำลังกาย’ ช่วยได้

เมื่อไม่นานมานี้ เบิร์ด ธงไชย นักร้องรุ่นใหญ่ขวัญใจประชาชน และศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี พ.ศ. 2565 ได้เปิดเผยถึง ‘เคล็ดลับหน้าเด็กโกงอายุ’ ว่าตนนั้นมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ให้หน้ายังดูเด็กจนถึงทุกวันนี้ โดยระบุว่า…

“เคล็ดลับหน้าเด็ก คือ กินน้ำมะนาว แล้วออกกำลังกายให้เหงื่อออกเยอะ ๆ เพราะถ้าออกเยอะ ๆ หน้าก็จะคลายสารพิษออกมา โดยเฉพาะ PM 2.5 ตอนพี่อยู่เมืองนอกไม่เคยหยอดตาเลยนะ แต่พอพี่อยู่เมืองไทยกลับรู้สึกว่าตามันคัน เพราะฉะนั้นพวกเราต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด กินน้ำเยอะ ๆ ฉี่ออกมาเยอะ ๆ น้ำมะนาวช่วยได้หมด อย่างข้างนอกเราสามารถฟอกสบู่ได้ ส่วนข้างในเราก็ให้น้ำมะนาวมันล้าง…”

‘แพรรี่’ ประกาศลาจอสิ้นปีนี้ หลังอยู่หน้ากล้องมากว่า 1 ปี ยืนยัน!! ไม่มีใครไล่ แค่อยากไปทำตามความฝันของตัวเอง

(23 ก.ย.66) ทำเอาแฟนคลับและผู้ติดตามใจหายไปตามๆ ความคืบหน้าล่าสุด ‘แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ ครีเอเตอร์ พิธีกร และนักแสดงชาวไทย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ประกาศอำลาวงการบันเทิง หลังจากทำงานหน้าจอมากว่า 1 ปีเต็ม

แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า หลังปลายปี 2566 อาจไม่ได้เห็นตนทำงานอยู่หน้ากล้องอีก ขอบคุณแสงสีเสียงและผู้ใหญ่ใจดีที่เมตตา มองเห็นในความสามารถของตน ที่ตัดสินใจอำลาวงการบันเทิง บอกลาบทบาทฐานะนักแสดงและพิธีกร ไม่ใช่เพราะมีใครมาไล่ แต่เป็นเพราะอยากไปทำคาเฟ่ร้านอาหารตามที่เคยคิดไว้เมื่อสึกใหม่ ๆ พร้อมขอบคุณแฟนคลับที่ติดตามและคอยให้กำลังใจมาเสมอ

“ทำงานหน้ากล้องมากว่า 1 ปีเต็ม ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาแล้วนะคะ ที่ดิฉันจะอำลาหน้าที่การงานที่ได้ทำอยู่ตอนนี้ ขอบคุณแสงสีที่สาดส่องเข้ามาตลอดระยะเวลาของการทำงานอยู่ในวงการบันเทิง (คงจะพูดได้แหล่ะ)

ขอบคุณโอกาสและความเมตตาเอ็นดูจากผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน ซึ่งมองเห็นศักยภาพและความสามารถอันเล็กน้อยที่มีอยู่ในตัวของดิฉันนะคะ ถ้าไม่มีท่านเหล่านี้ ต่อให้ดิฉันจะอยากได้แสดงความสามารถแค่ไหน ก็คงไม่มีเวทีให้ได้แสดง

มีดวงเรืองก็ต้องมีดาวโรยอันนี้มันเป็นของคู่กันนะคะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าดิฉันอยากจะรับบทเป็นดาวโรยแล้วหล่ะ ดิฉันคิดว่า ถึงเวลาที่ดิฉันควรจะหยิบหิ้วกระเป๋าสัมภาระและเก็บของนั่งรถกลับบ้านนาที่จากมาได้แล้ว

ต้องบอกนะคะว่า การที่ดิฉันได้มาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ตัวเองกำลังยืนอยู่ มันเป็นเรื่องที่เกินฝันมาก ๆ และถึงตอนนี้ก็ไม่มีความทะเยอทะยานอะไรที่ดิฉันอยากจะได้รับมากไปกว่านี้แล้วค่ะ

คงต้องขออนุญาตขอบคุณและบอกลากันตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่า หลังปลายปีนี้ คงจะไม่ได้เห็นดิฉันในบทบาทฐานะของนักแสดงและพิธีกรตามรายการต่าง ๆ อย่างที่เคยเห็นมาแล้วนะคะ และก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่ามีใครที่ไหนมาขับไล่ไส่ส่งดิฉันให้ไปจากจุดนี้ ไม่มีค่ะ

ทุกเรื่องเป็นเพราะดิฉันได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วว่าดิฉันต้องการให้ชีวิตของตัวเองดำเนินต่อไปแบบไหน ด้วยหน้าที่การงานอย่างไร เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องเลือกและแลกค่ะ

ปีหน้าหลังหมดงานในวงการ คงมีหลายเรื่องที่ดิฉันอยากทำและได้ทำเพื่อตัวเองอย่างจริง ๆ จัง ๆ ทั้งการปลูกผมที่คิดไว้นานแล้ว การได้อยู่ดูแลแม่ด้วยตัวเอง ซึ่งระยะหลังนี้ แม่ก็พูดเปรย ๆ ว่ารู้สึกมีความสุขและมีกำลังใจมากขึ้นเวลาที่เราอยู่บ้านด้วย อีกเรื่องก็การทำคาเฟ่ร้านอาหาร นี่ก็เป็นความฝันที่เคยสัญญากับตัวเองไว้ตอนสึกใหม่ ๆ ว่าอยากทำ คงถึงเวลาที่ต้องทำตามสัญญาแล้วหล่ะ

ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามและให้กำลังใจกับดิฉันมาโดยตลอดนะคะ ขอบคุณที่รักและเอ็นดูความเป็นแพรรี่ในตัวของดิฉัน ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บทบาทของการทำงานในวงการบันเทิงของดิฉันประสบความสำเร็จในแบบที่ดิฉันพอใจ ขอบคุณค่ะ”

หลังจากแพรรี่โพสต์อำลาวงการบันเทิง แฟนคลับต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งบอกว่า เคารพทุกการตัดสินใจของแพรรี่ และร่วมยินดีกับเส้นทางที่เลือกเดิน รวมถึงบางส่วนบอกว่าจะสนับสนุนแพรรี่ต่อไป หากคาเฟ่ร้านอาหารเปิดเมื่อไรจะเดินทางไปอุดหนุน

แม้เส้นทางในวงการบันเทิงจะสิ้นสุดลง แต่แฟน ๆ ยังสามารถติดตามคุณแพรรี่ ไพรวัลย์ และสนับสนุนเส้นทางที่คุณแพรรี่เลือกต่อไปได้ ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหนก็ขอให้ประสบความสำเร็จสมความตั้งใจทุกประการนะคะ

‘เอิ้ก ชาลิสา’ ลั่น!! “ฉันหิว ฉันก็ต้องกิน”

“หยุดได้ค่ะ แต่ไม่หยุด ท้องใครท้องมัน ปากใครปากมัน ฉันหิวฉันก็ต้องกิน…”

'เอิ้ก ชาลิสา' ยูทูบเบอร์ และเจ้าของเพลง เลือดกรุ๊ปบี ได้กล่าวเอาไว้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top