Monday, 5 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

‘การยืนเคารพ’ จากประกาศของ ‘คณะราษฎร’ สู่ความย้อนแย้งแห่ง ‘เยาวรุ่น’ ที่ดันไม่ทำตาม

เมื่อหลายวันก่อนในงานคอนเสิร์ตของ BLACKPINK มีประเด็นดราม่าเรื่องเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่มี ‘คนบ้า’ คลั่งปฏิวัติคนหนึ่งออกมาห้อยโหนจนน่ารำคาญ พออ่านข้อความจากบุคคลท่านนั้นผมก็เลยรู้สึกถึงความย้อนแย้งที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอของบุคคลท่านนี้ เพราะจริงๆ คนที่บังคับให้คนต้องยืนตรงเคารพเพลงในแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้คือ กลุ่มบุคคลที่ ‘คนบ้า’ คลั่งปฏิวัติคนนี้เคารพซะเหลือเกิน นั่นก็คือ ‘คณะราษฎร’ และ 1 ในผู้ก่อการที่คลั่งการให้คนอื่นยืนเคารพตนและเพลงที่แต่งเพื่อตัวเองนั่นก็คือ ‘จอมพล ป. พิบูลสงคราม’ แต่ก่อนจะไปเล่าเรื่อง ‘บ้าๆ’ ของผู้นำชาติพ้นภัย ผมขอเล่าเรื่องของเพลง ‘สรรเสริญพระบารมี’ ก่อนนะครับ 

จุดเริ่มต้นของบทเพลง ‘สรรเสริญพระบารมี’ นั้น สืบเนื่องมาตั้งแต่ในสมัย ‘พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว’ รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้มีการใช้เพลง ‘God Save the King’ ในการบรรเลงถวายความเคารพแด่องค์กษัตริย์ตามแบบอย่างธรรมเนียมการฝึกทหารจากทางฝั่งสหราชอาณาจักร 

ครั้นเมื่อถึงรัชสมัยของ ‘พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว’ รัชกาลที่ 5 พระองค์ เสด็จฯ ติดต่อกับต่างแดนสม่ำเสมอ โดยเฉพาะชาติอาณานิคม เช่น การเสด็จประพาสเกาะชวาและเมืองสิงคโปร์ในช่วงปี พ.ศ. 2414 ทหารที่นั่นก็ได้ใช้เพลง God Save the King บรรเลงเป็นเพลงพระเกียรติเพื่อรับเสด็จเช่นเดียวกับสหราชอาณาจักร เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและซ้ำซ้อนกันนี้ พระองค์จึงมีพระราชดำริแก่ครูดนตรีไทยให้แต่งเพลงรับเสด็จขึ้นใหม่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

ซึ่งในช่วงแรก เพลงสรรเสริญพระบารมีนั้นใช้ ‘เพลงบุหลันลอยเลื่อน’ ที่มีการเรียบเรียงทำนองดนตรีขึ้นใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2414 ต่อมาจึงได้เปลี่ยนมาใช้ทำนองเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ ‘พระประดิษฐไพเราะ’ (มี ดุริยางกูร) ได้ดัดแปลงมาจากเพลงสรรเสริญนารายณ์ของเก่า ส่วนเนื้อร้องประพันธ์โดย ‘พระยาศรีสุนทรโวหาร’ (น้อย อาจารยางกูร) นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในปี พ.ศ. 2416 มีเนื้อเพลงว่า....

‘ความ สุขสมบัติ บริวาร . เจริญ พระปฏิภาณ ผ่องแผ้ว 
จง ยืนพระชนมาน . นับรอบ ร้อยแฮ . มี พระเกียรติเพริดแพร้ว . เล่ห์เพียงจันทร’

ต่อมาใน พ.ศ.2431 ‘สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์’ ทรงคิดจัดคอนเสิร์ต ขึ้นในงานเฉลิมพระชนมพรรษาที่หน้าศาลายุทธนาธิการ (กระทรวงกลาโหม) โดยมี ‘ปโยตร์ ชูรอฟสกี้’ นักประพันธ์ดนตรีชาวรัสเซียเป็นผู้เรียบเรียงเสียงประสานสำหรับดนตรีตะวันตก และ ‘สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์’ ทรงนิพนธ์เนื้อร้องประกอบทำนองดังนี้…

...ข้าวรพุทธเจ้าเหล่าพิริย์ผลผลา . สมสมัยกาละปิติกมล . รวมนรจำเรียงพรรค์สรรดุริยพล
สฤติมณฑลทำสดุดีแด่นฤบาล . ผลพระคุณะรักษาพละนิกายะสุขสานต์
ขอบันดาลธ ประสงค์ใด . จงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัย . ดุจถวายไชยฉนี้ ฯ

ต่อมาได้ทรงแก้และทูลเกล้าฯ ถวายใหม่ในงานพระราชพิธีสรง ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ’ ดังนี้…

ข้าวรพุทธเจ้า . เอามโนและสิรกราน . นบพระภูมิบาลบุญดิเรก . เอกบรมจักริน . พระสยามินทร์
พระยศยิ่งยง . เย็นศิราเพราะพระบริบาล . ผลพระคุณ ธ รักษา . ปวงประชาเป็นศุขสานต์
ขอบันดาล ธ ประสงค์ใด . จงสฤษดิ์ดังสิทธิ์ดังหวังวรหฤทัย . ดุจถวายไชย ฉนี้ ฯ

จนมาถึง ‘พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว’ รัชกาลที่ 6 เด็กๆมักจะร้อง...ฉนี้...ชะนี ไปโดยมาก จึงโปรดเกล้า ฯ ให้เปลี่ยนคำท้ายเป็น...ไชโย มาตั้งแต่บัดนั้น

ส่วนธรรมเนียมการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์หรือโรงมหรสพในประเทศไทยนั้น สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ 5 เช่นกัน โดยในยุคหนังเงียบ ต้องมีแตรวงหรือวงเครื่องสายผสมบรรเลงประกอบการฉายอยู่แล้ว และจะบรรเลงเพลง ‘สรรเสริญพระบารมี’ ถวายความเคารพเมื่อฉายจบหรือจบการแสดง โดยถือว่าเป็นสัญญาณปิดโรง ซึ่งแรกๆ คงบรรเลงอย่างเดียว ต่อมาจึงฉายกระจกพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นบนจอด้วย จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกโรงภาพยนตร์และโรงมหรสพในประเทศไทย โดยไม่มีกฎหมายบังคับแต่อย่างใด ย้ำนะครับ ‘ไม่มีกฎหมายบังคับ’ !!!

ส่วนเยาวรุ่นที่ ‘เห่าหอน’ เมื่อเพลง ‘สรรเสริญพระบารมี’ บรรเลงขึ้นและไม่เท่ที่ต้องยืนเคารพ เพราะการยืนเคารพคือการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ซึ่งบังคับโดยองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เลย คุณจะไม่ยืนเขาก็ได้ไม่มีใครว่าอะไร เพียงแต่คุณอาจจะเป็นคนที่โคตร ‘ไม่รู้ภาษา’ และ ‘ไม่มีการศึกษา’ เอาซะเลย สมแล้วที่ถูกจูงจมูกไปไหนก็ได้โดยง่าย 

เรื่องระเบียบต้อง ‘ยืนเคารพ’ นั้นมาเกิดในช่วง 3 ปี หลังปฏิวัติ พ.ศ. 2475 ของคณะราษฎร โดย ‘พระยาพหลฯ’ หัวหน้าคณะราษฎรได้ทำให้การยืนเคารพเพลง ‘สรรเสริญพระบารมี’ ในโรงภาพยนตร์เป็น ‘ระเบียบ’ ที่ต้องปฏิบัติตาม (แต่ยังไม่เป็นกฎหมาย) ซึ่ง ‘คณะราษฎรเป็นคนประกาศ’ นะครับ ย้ำ!!! 

ส่วนปฐมเหตุแห่งการ ‘บังคับยืนเคารพ’ โดยใช้ ‘กฎหมาย’ มาจาก ‘จอมพล ป. พิบูลสงคราม’ ผู้เป็นฮีโร่ของเยาวรุ่นพวกนี้ ซึ่งนายทหารและนักการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่ง ‘นายกรัฐมนตรี’ ถึง 8 สมัย รวมระยะเวลากว่า 15 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีไทยที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุด เป็นผู้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรัฐนิยมฉบับที่ 4 เรื่องการเคารพธงชาติ, เพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อวันที่ 8 กันยายน พุทธศักราช 2482 โดยมีเนื้อความว่า.....

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรัฐนิยมฉบับที่ 4 เรื่องการเคารพธงชาติ, เพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี

ด้วยรัฐบาลได้พิจารณาเห็นว่า ธงชาติ เพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นสิ่งสำคัญประจำชาติพึงได้รับการเชิดชูเคารพของชาวไทยทั้งมวล จึงประกาศเป็นรัฐนิยมไว้ดังต่อไปนี้ (ขออนุญาตแปลงเนื้อความเป็นภาษาไทยที่ใช้ในปัจจุบัน)

1. เมื่อได้เห็นการชักธงชาติขึ้นหรือลงจากเสาประจำสถานที่ราชการตามเวลาปกติ หรือได้ยินเสียงแตรเดี่ยวหรือนกหวีดเป่าคำนับหรือให้อาณัติสัญญาณการชักธงชาติขึ้นหรือลง ให้แสดงความเคารพโดยปฏิบัติตามระเบียบเครื่องแบบหรือตามประเพณีนิยม

2. เมื่อได้เห็นธงไชยเฉลิมพล ธงเรือรบ ธงประจำกองยุวชนทหาร หรือธงประจำกองลูกเสือ ซึ่งทางการเชิญผ่านมาหรืออยู่กับที่ประจำแถวทหาร หรือหน่วยยุวชน หรือลูกเสือ ให้แสดงความเคารพโดยปฏิบัติตามระเบียบเครื่องแบบ หรือตามประเพณีนิยม

3. เมื่อได้ยินเพลงชาติ ซึ่งทางราชการบรรเลงในราชการก็ดี ซึ่งบุคคลบรรเลงในงานพิธีอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี ให้ผู้ที่ร่วมงานหรือที่อยู่ในวงงานนั้นแสดงความเคารพโดยปฏิบัติตามระเบียบเครื่องแบบหรือตามประเพณีนิยม

4. เมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งทางราชการบรรเลงในราชการก็ดี ซึ่งบุคคลบรรเลงในโรงมหรสพหรือในงานสโมสรใดๆ ก็ดี ให้ผู้ที่ร่วมงาน หรือที่อยู่ในวงงาน หรือในโรงมหรสพนั้นแสดงความเคารพ โดยปฏิบัติตามระเบียบเครื่องแบบหรือตามประเพณีนิยม

5. เมื่อได้เห็นผู้ใดไม่แสดงความเคารพดังกล่าวในข้อ 1–2–3 และ 4 นั้น พึงช่วยกันตักเตือนชี้แจงให้เห็นความสำคัญแห่งการเคารพธงชาติ เพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี

ประกาศมา ณ วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2482
พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี

เปิดคำสัตย์ 'บิ๊กตู่' ผู้นำที่พร้อม ‘รวมไทยสร้างชาติ’ | THE STATES TIMES Y WORLD EP.51

หากคิดว่า 'รวมไทยสร้างชาติ' มาเล่นๆ คงต้องคิดใหม่!!

เมื่อการเปิดตัวสมาชิกพรรคยิ่งใหญ่ระดับคีย์แมนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หนนี้

สร้างแรงกระเพื่อมต่อสังคมให้พูดถึงได้ไม่น้อย หลังปล่อยถ้อยคำแถลงที่ดูหนักแน่น

แลดูมีอิสระ พร้อมๆ กับความหนาแน่นจากกองเชียร์นับหมื่นคน!!

ที่เต็มห้องโถงใหญ่ของศูนย์สิริกิติ์...สัญญาณเลือกตั้งใกล้เข้ามาเต็มที่แล้ว!!
.
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World x ELECTION TIME
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PLvNTQ_fOAFugvfiWfiUXJ8JJYho1ADnG8

‘สายเลี้ยว’ TikToker สายดื่ม ขับเคลื่อนสังคม ‘ดื่มไม่ขับ’ | TIME TO LISTENING EP.2

TikToker ชื่อดัง ‘สายเลี้ยว’ เปิดเรื่องราวหลังกล้อง ขวัญใจสายดื่ม

กว่าจะวันนี้มีชื่อเสียงขนาดนี้ ผ่านเรื่องเสี่ยงตายจากสุรามาแล้ว!

พร้อมรณรงค์ขับเคลื่อนสังคม ‘ดื่มไม่ขับ’ 

 

แขกรับเชิญสุดพิเศษ คุณวิทยา วนศิริกุล

Tiktoker : สายเลี้ยว (@witbenmoreallright) 

 

ดำเนินรายการโดย ไอยรา อัลราวีย์ Content Manager 

 

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES PODCAST

และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://www.youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLBnnkZJ5-QgtyID5DqrnG4 

 

🎥 ช่องทางรับชม

Facebook: THE STATES TIMES PODCAST

YouTube: THE STATES TIMES PODCAST

TikTok: THE STATES TIME PODCAST

หลายพรรคลุยติด ‘ป้ายหาเสียง’ ทั่ว กทม. สร้างสีสัน - หวังคะแนนเสียงจากชาวกรุง

ช่วงนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งใหญ่ของประเทศไทยแล้ว แต่แหม..ยังไม่ทันไร ป้ายจากพรรคต่าง ๆ ก็มาปักให้เห็นกันแล้ว 

วันนี้ (11 ม.ค. 66) ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้ลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในหลายเขต หลายพื้นที่ ก็ได้พบเห็นว่าพรรคการเมืองหลายพรรคเริ่มติดป้ายแนะนำพรรค โปรโมตนโยบายพรรค ที่แฝงมาในรูปแบบสวัสดีปีใหม่ ตรุษจีน พร้อมทั้งติดภาพว่าที่ผู้สมัครของพรรคขนาดใหญ่ เพื่อให้ประชาชนคุ้นหน้าคุ้นตาก่อนใคร ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างสีสันก่อนการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในเร็ววันนี้

'บอนนี่-ไคลน์' คู่รักนักปล้น จอมสร้างกระแส ฆ่าตำรวจ 12 ราย แต่ผู้คนมากมายก็ยังชื่นชม

หลายคนสงสัยว่า ทำไมคนจำนวนมากถึงนิยมชมชอบอดีตนักโทษที่มีคดีความเป็นชนักติดหลัง หรือชอบคนดีแต่พูด แต่ไม่ทำงานใด ๆ ให้ปรากฏเป็นชิ้นเป็นอัน 

อย่าได้แปลกใจ!!

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องการตลาดล้วน ๆ มีการสร้างกระแสให้คนนิยมชมชอบ จนเชื่อฟังทุกคำพูดอย่างว่าง่าย กลายเป็นแฟนคลับเหนียวแน่นจนเถียงแทนทุกคำ     

เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนในอเมริกา โดยตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดคดีหนึ่งคือ 'คดีคู่รักนักปล้น' บอนนี่และไคลน์ (Bonnie and Clyde)

ช่วงยุคเศรษฐกิจตกต่ำในอเมริกาหรือเรียกว่ายุค The Great Depression หรือช่วงปี ค.ศ.1929 นั้น อเมริกันชนตกงานกันเป็นเบือ ผู้คนยากจนอย่างฉับพลัน ธนาคารหลายพันแห่งของสหรัฐอเมริกาล้มละลาย ตามภาคอุตสาหกรรมและตลาดหุ้น ผู้คนหลายล้านคนสูญเสียเงินและตกงานจำนวนมาก  

ระหว่าง ค.ศ. 1929-1932 รายได้ประชาชาติ (National Income) ของประเทศลดจาก 81,000 ล้านเหรียญดอลลาร์ เหลือเพียง 41,000 ล้านเหรียญดอลลาร์ ธุรกิจกว่า 8,500 แห่งเลิกกิจการ คนตกงานกว่า 1.5 ล้านคนในค.ศ. 1929 เพิ่มเป็น 15-16 ล้านคน 

ช่วงเวลาอันลำเค็ญเช่นนี้ เมื่อดาวโจนส์ร่วง ดาวโจรก็รุ่ง!!

โจรนอกกฎหมายผุดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งคู่รักนักปล้นคู่หนึ่งที่ชื่อ 'บอนนี่กับไคลน์' ที่แม้จะทำเรื่องเลว ๆ อย่างไม่น่าให้อภัย แต่อเมริกันกลับรักใคร่ชื่นชม นายและนางโจรคู่นี้ราวกับซุปเปอร์สตาร์ ไปไหนมาไหนมีแต่คนรักใคร่ปกป้อง จนลืมไปว่าทั้งคู่เป็นโจรปล้นฆ่าตำรวจถึงสิบสองคน

ตามประวัติแล้ว 'บอนนี่ พาร์กเกอร์' และ 'ไคลด์ แบร์โรว์' เป็นคู่ผัวตัวเมียหน้าตาดี ที่ปล้นดะรายทางตั้งแต่ปั๊มน้ำมันไปยันธนาคาร ร่ำลือกันว่าบางครั้งปล้นธนาคารแล้วเอามาแจกจ่ายคนยากจน     

โดนฝั่งบอนนี่เป็นสาวสวยตาสีฟ้าผมบลอนด์ที่ฝันอยากเป็นกวี แต่โชคชะตานำพาเธอมาพบกับหนุ่มรูปหล่อชื่อไคลน์ 

เมื่อทั้งคู่ได้กลายมาเป็นคนรักแล้ว ก็ก่อวีรกรรมร่วมกันปล้น จนเป็นที่กล่าวขวัญในความโหดเหี้ยม เพราะนอกจากปล้นแล้ว ยังฆ่าตำรวจตายไปถึง 12 คน แถมถ่ายรูปไว้ดูเล่นอีกต่างหาก

นอกจากเป็นโจร บอนนี่ยังเขียนบทกวีส่งไปลงตีพิมพ์บ่อย ๆ พร้อมถ้อยคำหยิกแกมหยอก ทำให้คนทั่วไปที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการปล้นหลงรักเธอทั่วหน้า ที่กระฉ่อนโลกสุด ๆ คือ เธอมักถ่ายรูปในท่วงท่าต่าง ๆ ทั้งสูบซิการ์ก๋ากั่นควงปืนเก๋ไก๋ จนกลายเป็นขวัญใจหนังสือพิมพ์ในเวลานั้น

ทุกคนหลงรักคู่รักนักปล้น อย่างชนิดที่เรียกว่าติดตามข่าวอย่างใจจดใจจ่อ พลางเอาใจช่วยให้คู่นี้รอดจากการถูกจับ ทั้งที่ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย ท้าทายกฎหมายบ้านเมืองที่สุด 

ทั้งนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ปล้นหนักมือไปหน่อยจนประสบเหตุให้บอนนี่กลายเป็นคนขาเป๋ บรรดาสมาชิกแก๊งโจรอยากลากเธอออกจากกลุ่ม แต่ไคลน์ไม่ยอมเพราะรักสติปัญญาและความมีอารมณ์ขันของเธอ 

ส่วนไคลน์นั้นแม้จะชอบลักรถ แต่ก็มีน้ำใจพอที่จะทิ้งเงินเล็กๆ น้อยๆ ไว้ให้เจ้าของเป็นสินน้ำใจ เลยเปลี่ยนรถเป็นว่าเล่น อาจจะด้วยความที่ไม่อยากให้ตำรวจตามเจอ รวมทั้งชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยทำให้ทั้งคู่มีรถใหม่ตลอดเวลา

การมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องในความผิดต่อแผ่นดินได้หรือไม่ | รู้ LAW CASE STUDY EP.20

หากการมอบอำนาจฟ้องคดีในความผิดฐานลักของโจร ไม่ถูกต้อง พนักงานอัยการจะมีอำนาจฟ้องได้หรือไม่!!

รู้ LAW CASE STUDY
รวมกรณีศึกษาในเรื่องกฎหมายสำหรับคนไทย

รับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyJ19GDOHCI9He2hZHLsD4OG

#THESTATESTIMES
#THESTATESTIMESPodcast
#Podcast
#รู้LAWCASESTUDY
#กรณีศึกษา
#กฎหมายน่ารู้

รอยยิ้มใต้ท้องทะเล ระบบนิเวศแห่งใหม่ ด้วยแท่นขุดน้ำมัน | THE STATES TIMES Y WORLD EP.50

‘คอนโดปะการัง’ สร้างระบบนิเวศแห่งใหม่

ด้วยการเปลี่ยนแท่นขุดน้ำมันที่มีความลับดีมากกว่าแค่ขุดเจาะน้ำมันเท่านั้น

ให้กลายเป็นปะการังเทียมให้เหล่าน้อง ๆ เป็นบ้านหลังใหม่ 

 

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World

และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://www.youtube.com/playlist?list...

César Awards มาตรฐานใหม่วงการบันเทิง! | NEWS GEN TIMES EP.83

César Awards มาตรฐานใหม่วงการบันเทิง!

ผู้มีความผิดหรือถูกตั้งข้อหาใช้ความรุนแรงด้านต่างๆ

ห้ามเข้าร่วมงานประกาศรางวัล 

 

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

 

 โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม

ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 

 

ติดตามได้ใน NEWS GEN TIMES

และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist...

‘จุรินทร์’ นำลูกพรรคปชป. ออนทัวร์ กทม. ต่อเนื่อง ลงพื้นที่ชุมชนตลาดเก่า วัดพระยาไกร พร้อมเปิดตัว ‘อภิมุข ฉันทวานิช’ ชิง เก้าอี้ ส.ส. เขตบางคอแหลม - ยานนาวา มั่นใจ นโยบายตอบโจทย์คนกรุง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ม.ค.2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ลงพื้นที่ชุมชนหลังตลาดเก่า วัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม ซอยเจริญกรุง โดยได้พูดคุยทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับบริเวณชุมชน พร้อมทั้งแนะนำนโยบายและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตยานนาวา บางคอแหลม คือ นายอภิมุข ฉันทวานิช  

โดยนายจุรินทร์ กล่าวถึงความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้ง ส.ส. พื้นที่กรุงเทพฯ ว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ประชาชน และแนะนำ นายอภิมุข ฉันทวานิช  ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตยานนาวา บางคอแหลม ซึ่งเป็นที่อดีต สก. บางคอแหลม 3 สมัย เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี เพราะเป็นคนที่เกิดในพื้นที่นี้ตั้งแต่เกิด มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาชุมชนเขตนี้ให้มีศักยภาพและความเป็นอยู่ที่สูงขึ้น 

นายจุรินทร์ได้ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวถึงพื้นที่หลักของประชาธิปัตย์ในการหาเสียงว่า กรุงเทพมหานครจะเป็นพื้นที่เป้าหมายอีกพื้นที่หนึ่งของประชาธิปัตย์ เราเพิ่งเสียที่นั่งไปคราวที่แล้ว อย่างน้อยที่สุดพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ก็ต้องเลือกผู้แทนประชาธิปัตย์เข้ามาจำนวนหนึ่ง เพียงแต่คราวที่แล้วมันอาจจะเป็นอุบัติเหตุทางการเมือง แต่เที่ยวนี้ตนมั่นใจว่าเราปักธงได้แน่ 

ตอนนี้วางการเปิดตัวผู้สมัครไว้อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภาคอีสานเคาะไปล่าสุดเมื่อวัน สองวันนี้อีก 90 เขต แล้วจะได้ทยอยสรุป ซึ่งเราจะส่งครบทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร 33 เขตด้วย เพียงแต่รอการแบ่งเขตให้ชัดเจนจาก กกต. สำหรับทุกพื้นที่ กรุงเทพฯ ก็รออีก 3 เขต ทุกอย่างก็เตรียมพร้อม สำหรับนโยบายภาพรวมเราก็ต้องเน้น “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” ซึ่งจะมีรายละเอียดตามมา กรุงเทพมหานครก็เหมือนกัน ภาพรวมของนโยบายกรุงเทพฯ ก็คือภาพรวมของนโยบายประเทศ เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ส่วนเรื่องรายละเอียด น้ำท่วม รถติดนั้นเป็นเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นด้านหลักตอนเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. แต่สำหรับการเลือกตั้งระดับชาติ สำหรับประชาธิปัตย์ นโยบายประเทศก็คือนโยบายกรุงเทพฯ ด้วย

เมื่อถามว่า มองเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปเปิดตัวที่ศูนย์สิริกิติ์ อย่างไรนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ขอให้ความเห็น แต่ถ้าท่านไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใดพรรคหนึ่งจริง ก็แปลว่าต่อไปนี้ท่านก็สังกัดพรรคการเมืองที่มีความชัดเจนแล้ว ไม่ใช่เป็นแค่คนกลาง ๆ ที่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคการเมือง หรือพรรคร่วมรัฐบาล แต่ลงลึกไปถึงท่านเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแล้ว ก็คงมีสถานภาพเหมือนๆ กันกับรัฐมนตรี หรือรองนายกฯ หลายท่านในคณะรัฐมนตรี ที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง หรือดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค หรือเป็นสมาชิกพรรค 

ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า ถ้า “คนกลางๆ” หายไป จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่อย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนตอบล่วงหน้าอะไรไม่ได้ อยู่ที่ท่านนายกฯ ด้วยว่าจะบริหารจัดการกับรัฐบาลผสมในรูปแบบไหนอย่างไร และมีทีท่าอย่างไร อันนั้นก็ต้องนับหนึ่งที่ตัวท่านด้วย

ประเทศไทยเนื้อหอม! ต่างชาติแห่ลงทุนกว่าแสนล้าน | THE STATES TIMES Y WORLD EP.49

ปีทองของไทย!! ต่างชาติรุมตอม เม็ดเงินลงทุนหมุนสะพัดในไทยกว่าแสนล้านบาท!!

'กระทรวงพาณิชย์' เผย 10 เดือน ปี 2565  มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ กว่า 106,437 ล้านบาท นับว่าพุ่งจากปี 2564 ถึง 72%!!

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PLvNTQ_fOAFugvfiWfiUXJ8JJYho1ADnG8

ที่มา : https://thestatestimes.com/post/2022122021

#THESTATESTIMES
#THESTATESTIMESYWORLD
#การลงทุน
#แรงงานไทย
#กระทรวงพาณิชย์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top