Monday, 12 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ทหารพรานที่ 2107 รวบผู้ต้องหา พร้อมของกลางไม้พะยูงแปรรูป 60 ท่อน เตรียมขนข้ามชายแดน!!

พันเอก อุทัย นิลเนตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบขนไม้พะยูงผ่านเส้นทางพื้นที่ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เพื่อนำส่งขาย สปป.ลาว  จึงสั่งการให้ ร.ท.วิทยากร  ศักดิ์ดาเดช ผบ.ร้อย.ทพ.2107 จัด ชป.คทร (หน่วยงานหลัก) ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด เส้นทางเข้าหมู่ บ.หาดแห่ ม.3 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้าฯ ตามภาพข่าวที่ได้รับแจ้ง ครั้นเวลา 12.20 น.

ขณะชุด จนท.ปฏิบัติงาน พบรถยนต์กระบะตอนเดียวลักษณะตู้ปิดทึบ ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผอ 5095 ขอนแก่น วิ่งมาจาก ต.ชัยพรฯ (หมายเลข 212) แล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้ามายังจุดตรวจ/จุดสกัด มีลักษณะท่าทางพิรุธ ชุด จนท. จึงได้แสดงตัว และขอทำการตรวจสอบ นายวินิจ  หรือนิจ บุตรจันทร์ พลขับรถ (ทราบชื่อ-สกุลจริงภายหลัง)

นราธิวาส - นายอำเภอเมืองนราธิวาส เปิดกิจกรรม "ตลาดนัดพอเพียง อนุรักษ์ภูมิปัญญา พัฒนาอาชีพ เศรษฐกิจยั่งยืน" พร้อมเปิดศูนย์ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ต.โคกเคียน และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวชายหาดบ้านทอน

นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอเมืองนราธิวาส เปิดกิจกรรม "ตลาดนัดพอเพียง อนุรักษ์ภูมิปัญญา พัฒนาอาชีพ เศรษฐกิจยั่งยืน" ที่บริเวณศูนย์ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ตำบลโคกเคียน (ชายหาดบ้านทอน) อำเภอเมืองนราธิวาส พร้อมกล่าวว่า ตลาดนัดพอเพียงฯ อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพกลุ่มอาชีพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติราชการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้มอบไว้ในปีงบประมาณ 2565 ภายใต้รูปแบบ "เต็มที่ ใส่ใจ ร่วมแรงร่วมใจ พัฒนานราฯ บ้านเรา" มุ่งเน้นการทำงานอย่างเต็มความสามารถ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ ความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน การสนองตอบนโยบายรัฐบาล แก้ไขปัญหาความยากจน "คนนราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

"...การจัดกิจกรรมฯ ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวชายหาดบ้านทอน  จังหวัดนราธิวาสมีศักยภาพในการท่องเที่ยว เดินทางสะดวก มี มีเที่ยวบินตรงมายังนราธิวาส มีสินค้าชุมชน ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชน..."

ด้านนายสญชัย นิลจันทร์ รองนายกองค์การบริการส่วนตำบลโคกเคียน (อบต.โคกเคียน) กล่าวว่า ทาง อบต.โคกเคียน ได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพกลุ่มอาชีพ กิจกรรมตลาดพอเพียงฯ ขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด เพิ่มรายได้แก่กลุ่มอาชีพ ประชาชนให้มีรายได้และการจำหน่ายเพิ่มขึ้น ตลอดจนเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชายหาดบ้านทอน อีกทั้งเปิดศูนย์ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ตำบลโคกเคียน เพื่อให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาด ในวันนี้เป็นเพียงการจัดกิจกรรมตลาดนัดพอเพียงฯ ตามโครงการฯ หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้ว ในอนาคตอาจมีการเปิดตลาดเป็นประจำทุกเดือน

นรข. เข้ม!! ตามแนวชายแดนนครพนม ยึดยาบ้ากว่า 6 แสนเม็ด ไอช์ 45 กรัม และกัญชา 690 แท่ง

บริเวณหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พลเรือตรี สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง พันตำรวจเอก สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พันตำรวจเอกหญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนมและเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินงานที่ได้มีการบูรณาการความร่วมมือเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ภายใต้แผนยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ประจำปี 2565 จนนำไปสู่การตรวจยึดยาบ้า จำนวน 638,000 เม็ด ยาไอช์ 45 กรัม และกัญชาอัดแท่ง 3 แท่ง/กิโลกรัม ที่อำเภอท่าอุเทน และกัญชาอัดแท่ง จำนวน 690 แท่ง/กิโลกรัม ที่อำเภอธาตุพนม

โดยเหตุการณ์ตรวจยึดยาบ้า เป็นการดำเนินงานที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่บริเวณบ้านหาดทรายเพ ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จึงได้มีการตรวจสอบข่าวพร้อมจัดชุดลาดตระเวนทางบกเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ กระทั่งเวลา 18.30 น. พบเห็นชาย 1 คนอยู่บริเวณถนนริมเขื่อนท่าทางมีพิรุธ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ในระยะไกลก็ได้วิ่งหลบหนีลงไปที่เรือกีบแล้วติดเครื่องยนต์แล่นข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบกระสอบวางอยู่ริมเขื่อนจำนวน 2 กระสอบ ภายในเป็นยาบ้าจำนวน  638,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 45 กรัม และกัญชาอัดแท่ง 3 แท่ง/กิโลกรัม จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ขณะที่เหตุการณ์ตรวจยึดกัญชาที่อำเภอธาตุพนมเป็นการดำเนินงานของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงที่ได้บูรณาการประสานข้อมูลด้านการข่าวกับหน่วยงานความมั่นคง และได้จัดกำลังพลติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ กระทั่งเวลา  20.55 น. ได้มีการตรวจพบเรือกีบต้องสงสัย จำนวน 1 ลำ ดับเครื่องลอยไหลมาตามกระแสน้ำทางทิศเหนือและเข้าเทียบฝั่งไทย ที่บริเวณหาดแห่ บ้านน้ำก่ำ ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม ซึ่งห่างจากจุดซุ่มประมาณ 800 เมตร เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้ากระชับพื้นที่ แต่เมื่อใกล้ถึงกับพบว่ากลุ่มบุคคลที่มากับเรือกีบ 3-4 คน ได้วิ่งออกจากป่าแล้วรีบขึ้นเรือกีบขับหายไปในความมืดด้วยความชำนาญทันที เมื่อไม่อาจติดตามได้ทัน เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังซุ่มตามจุดต่าง ๆ บริเวณโดยรอบพื้นที่ที่คาดว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทิ้งวัตถุต้องสงสัยเอาไว้

นราธิวาส - ผู้ว่าฯนราธิวาส ประชุมกรมการจังหวัดนราธิวาส แถลงข่าวมาตรการกวาดบ้านตนเอง ขานรับนโยบายรัฐบาล เพื่อแก้ไขและกวาดล้างยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

วันนี้ 22 ก.พ.65 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชุมกรมการจังหวัดนราธิวาส โดยมีคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ปลัดจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บังคับการตำรวจ ทหาร นายอำเภอทั้ง 13 อำเภอ ข้าราชการรัฐวิสาหกิจ เอกชน เจ้าหน้าที่ ร่วมประชุมฯ

 โดยในที่ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้มอบรางวัลโครงการคัดเลือกหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวทาง (แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ) หมู่บ้านอยู่เย็น ประจำปี 2564  ให้กับผู้แทนหมู่บ้านในโอกาสนี้ด้วย

นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส   กล่าวว่า การประชุมกรมการจังหวัดนราธิวาส ครั้งนี้ อยากให้ทุกหน่วยมารับฟังข้อมูล และปัญหาอุปสรรคในพื้นที่ เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

การรณรงค์ให้หน่วยงานราชการ สวมใส่ผ้าลายขอพระราชทานฯสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ภายใต้แนวคิด ผ้าไทยใส่สนุก เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ตามวิถีที่เป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่นให้สามารถก้าวสู่ระดับสากล

พร้อมกล่าวเพิ่มเติมเชิญชวนหน่วยงานราชการ และภาคเอกชน ร่วมเดินรณรงค์ในกิจกรรมสัปดาห์การรณรงค์ โดยใช้ชื่อ "การรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม" ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นี้ ณ บริเวณโรงเรียนเทศบาล 1  อ.เมือง จ.นราธิวาส  ไปจนถึงบริเวณหน้าตลาดบางนาค ในเขตเทศบาลนราธิวาส

ทางด้านนายแพทย์ชัยวัฒน์  พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงภาพรวมของ ci หรือศูนย์พักคอยของจังหวัดนราธิวาส  ล่าสุดจังหวัดนราธิวาสจัดเตรียมไว้ กว่า 700 แห่ง และอาจเพิ่มจำนวนขึ้นตามสถานการณ์ในพื้นที่ ขณะที่สถานการณ์โอมิครอนในพื้นที่อยู่ในช่วงการเฝ้าระวัง เนื่องจากเป็นช่วงขาขึ้น อีกทั้งมีการผ่อนคลายในพื้นที่มากขึ้น  สำคัญคือทุกคนต้องดูแลตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด DMHTT  และการเตรียมแผนเผชิญเหตุหากพบผู้ติดเชื้อในหน่วยงาน ทั้งนี้ภาพรวมการบริหารจัดการเตียง มีระดับสีเหลือง สีเหลืองเข้ม และสีแดง สำรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง

พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ฉีดวัคซีนโควิด-19 ป้องกันตนเองและคนรอบข้าง หลีกเลี่ยงไปสถานที่ชุมชน และงดการรับประทานอาหารเป็นกลุ่ม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะเชื้อโอมิครอน ที่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย 

เชียงใหม่ - เปิดปฏิบัติการฝนหลวง ยับยั้งความรุนแรงการเกิดพายุลูกเห็บ ภายใต้ความร่วมมือของกองทัพอากาศ ประจำปี 2565

เมื่อวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เดินทางมาเป็นประธาน เปิดปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงการเกิดพายุลูกเห็บ ในความร่วมมือกับกองทัพอากาศ ประจำปี 2565 โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นาวาอากาศเอก วงศ์วิวัติ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการกองบิน 41 และหัวหน้าส่วนงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41

โดยอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมคณะ ได้มอบนโยบายการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่และให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ณ บริเวณลานจอดท่าอากาศยานทหารกองบิน 41

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” จัดตั้ง “ตู้ปันสุข เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน” เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ระหว่างวันที่ 21- 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. และ 16.00 น.  มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยนายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการฯ  มอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ / หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ พร้อมคณะทำงาน จัดตั้ง “ตู้ปันสุข เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน”  ณ บริเวณหน้ามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย  เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาต่าง ๆ ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

โดยตู้ปันสุขบรรจุทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร น้ำตาล น้ำพริก อาหารพร้อมทาน ผักกาดดอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยารักษาโรค ยากันยุง เป็นต้น รวมงบประมาณทั้งสิ้น 98,047 บาท (เก้าหมื่นแปดพันสี่สิบเจ็ดบาทถ้วน) พร้อมทั้งจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ ตรวจวัดอุณหภูมิ และบริการเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือแก่ผู้มารับเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19)

ผบ.ตร. สั่งชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานและบูรพา 491 ปูพรมบุกจับ!! ‘มือปืนถล่มยิงรถนายก’ อบต.บางสมบูรณ์ มีผู้เสียชีวิต 2 คน

บริเวณถนนสายปากท่อ-เตยน้อย ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถของ นายก อบต.บางสมบูรณ์ จว.นครนายก เป็นเหตุให้ คนขับรถ และรองนายก อบต.บางสมบูรณ์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 คน ส่วน นายก อบต.บางสมบูรณ์ และผู้ติดตาม ได้รับบาดเจ็บ รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน สภ.ดงละคร, บก.สส.ภ.2, กก.สส.ภ.จว.นครนายก ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จว.นครนายก เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุนและปลอกกระสุนขนาด 7.62 มม. จำนวนมากตกอยู่บริเวณ จุดเกิดเหตุ และได้พบพยานหลักฐานสำคัญ คือกล้องหน้ารถที่ได้ บันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ โดยภาพจากกล้องขณะเกิดเหตุ ปรากฏภาพ กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนเงิน-เทา ไม่ทราบทะเบียน ขับประกบรถของนายก อบต.ฯ และใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม 2 ละลอก ก่อนที่รถของนายก อบต.ฯ จะเสียหลักพุ่งลงข้างทาง จากการสืบสวนเบื้องต้น สถานที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และเป็นเส้นทางกลับบ้านของนายก อบต.บางสมบูรณ์ แผนประทุษกรรมการก่อเหตุดังกล่าวแสดงถึง การวางแผนมาอย่างดี โดยคดีนี้ คนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ ท้าทายกฎหมาย

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2, พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2, พล.ต.ต.ดร.จักษ์ จิตตธรรม ผบก.ภ.จว.นครนายก, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.กิจจา แสงชวลิต รอง ผบก.ภ.จว.นครนายก, พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย ผกก.กก.2 บก.สส.ภ.2 , พ.ต.อ.ธนเสฎฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.กก.3 บก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.อิทธิกร จิรัตนานนท์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.2 และ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมาน, บูรพา491 และ บก.สส.ภ.2  ลงพื้นที่ปูพรมสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ 

หลังลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบผู้ก่อเหตุ จำนวน 3 คน ชุดสืบสวนพิเศษ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนครนายก ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือ

1.นายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ หรือ "บิ๊ก" หรือ “กุมารขาว” อายุ 35 ปี ที่อยู่ 44 ม.11 ต.บางสมบูรณ์  อ.องครักษ์ จว.นครนายก ตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก ที่ 23/2565 ลงวันที่ 21 ก.พ.65 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น  โดยไตรตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้,ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันพกอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควร” (หลบหนี)

2.นายภูริวัฒ นิ่มเรือง หรือ "อ็อด" หรือ "กุมารดำ" อายุ 52 ปี ที่อยู่ 38/2 ม.11 ต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จว.นครนายก ตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก ที่ 22/2565 ลงวันที่ 21 ก.พ.65 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตรตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันพกอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควร” (หลบหนี)

3.นายธวัชชัย ศรีชาญ หรือ "วัช" อายุ 48 ปี ที่อยู่ 4 ม.4 ต.ศรีจุฬา อ.เมืองนครนายก จว.นครนายก ตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก ที่ 24/2565 ลงวันที่ 21 ก.พ. 65 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” (จับกุมตัวได้)

ต่อมาในวันที่ 22 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 06.30 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน” และ “บูรพา 491” เปิดปฏิบัติการปูพรมลงพื้นที่ ตรวจค้นแหล่งกบดาลและซุกซ่อนอาวุธ 3 แห่ง

1. บ้านเลขที่ 44 ม.11 ต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จว.นครนายก ตามหมายค้นศาลจังหวัดนครนายก ที่ ค.7/2565 ลงวันที่ 21 ก.พ.65 ไม่พบตัว นายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ หรือ "บิ๊ก" หรือ “กุมารขาว” พบเพียงภรรยาซึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า นายรัฐพลฯ ออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.65 ตรวจค้นพบโทรศัพท์ของนายรัฐพลฯ ที่ใช้งานทิ้งเอาไว้ที่บ้าน และตรวจค้นพบกล่องใส่ปืนพกยี่ห้อซีแซด แต่ภายในกล่องไม่พบอาวุธปืน ซึ่งได้รับแจ้งว่านำติดตัวไปด้วย และได้ตรวจยึดรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น HRV หมายเลขทะเบียน 3กพ 5180 กรุงเทพ ซึ่งเป็นรถที่ผู้ต้องหาขับไปเปลี่ยนรถก่อนไปก่อเหตุ

2. บ้านไม่ติดเลขที่ ต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จว.นครนายก ตามหมายค้นศาลจังหวัดนครนายก ที่ ค.8/2565 ลงวันที่ 21 ก.พ.65 ไม่พบตัว นายภูริวัฒ นิ่มเรือง หรือ "อ็อด" หรือ "กุมารดำ" สอบถามบุคคลในละแวกแล้วพบว่าได้หลบหนีออกจากบ้านไปแล้ว

3. บ้านเลขที่ 41 ม.4 ต.ศรีจุฬา อ.เมืองนครนายก จว.นครนายก ตามหมายค้นศาลจังหวัดนครนายก ที่ ค.9/2565 ลงวันที่ 21 ก.พ. 65 พบ นายธวัชชัย ศรีชาญ หรือ "วัช" ผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ในบ้าน จึงได้จับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบ ก่อนนำตรวจค้นภายในบ้าน พบ

1) อาวุธปืนยาว ชนิดเดี่ยวลูกซอง ยี่ห้อ commando ขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก

2) อาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Colt ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก

3) กระสุนปืนลูกซองขนาด 12 จำนวน 4 นัด

4) กระสุนปืนพกขนาด .38 จำนวน 20 นัด

5) GPS ใช้สะกดรอยติดตามรถยนต์ จำนวน 1 เครื่อง

6) แผ่นป้ายทะเบียนปลอม จำนวน 1 แผ่น อ้างว่าเก็บได้

ตาก - สถานีตำรวจภูธรแม่สอด จัดการฝึกอบรม! โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันอาชญกรรมระดับตำบล!!

ณ ห้องประชุม ชั้น 4 สถานีตำรวจภูธรแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก พันตำรวจเอก ไพฑูรย์  สุขุมวัฒนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมโครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญกรรมระดับตำบล โดยพันตำรวจเอกมนศักดิ์ แก้วอ่อน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด มอบหมายให้พันตำรวจโท วัฒนะ คงตาล สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรแม่สอดเป็นผู้กล่าวรายงาน ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการ สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล  ตามแผนแม่บท  ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อลดและป้องกันปัญหาอาชญากรรมตามนโยบายขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน Stronger Together ของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

สถานีตำรวจภูธรแม่สอดจึงได้ดำเนินการจัดอบรมโครงการสร้างเครือข่าย การมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล  

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ระดับตำบลเพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือสนับสนุนและเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังป้องกันปัญหาอาชญากรรม  เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ประชาชนได้รู้เท่าทันสามารถป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ได้ และเพื่อตอบสนองการดำเนินงานของรัฐบาลในการป้องกันอาชญากรรม 

 

สุโขทัย - ทำ 1 ต้องได้มากกว่า 1!! ยกทัพเร่งขับเคลื่อนการขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย มอบหมายให้นายสมพงค์ ชมชัย นายอำเภอศรีสัชนาลัย ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีสัชนาลัยและภาคีเครือข่ายร่วมขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีภาคีเครือข่ายที่สำคัญในการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการคือ เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอำเภอศรีชนาลัย โดยมีนายสมนึก  สุกอร่าม ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอำเภอศรีสัชนาลัย และคณะกรรมการเครือข่ายฯ ร่วมสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อถุงยังชีพ จำนวน 132 ถุง เป็นเงิน จำนวน 66,000 บาท โดยมอบให้สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีสัชนาลัยเป็นผู้จัดหาถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ ครัวเรือนตกเกณฑ์อำเภอศรีสัชนาลัย จำนวน 132 ครัวเรือน

โดยมีแนวทางการขับเคลื่อนผ่าน 4 แนวทาง 1 เงื่อนไขการพัฒนา ดังนี้

1. การเติมเต็มข้อมูลให้ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาทุกมิติและทุกพื้นที่ในประเทศ

2. ร่วมแก้ไขปัญหาในระดับบุคคล/ครัวเรือน ด้วยการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาความยากจนในกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มเป้าหมายในระบบ TPMAP ที่มีปัญหาความยากจนใน 5 มิติ ได้แก่ มิติสุขภาพ มิติความเป็นอยู่ มิติการศึกษา มิติรายได้ และมิติการเข้าถึงบริการภาครัฐ  กลุ่มคนที่ ตกหล่นจากระบบ (exclusion error) และกลุ่มคนเปราะบาง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถอยู่รอดและดำรงชีพอยู่ได้

3. ร่วมแก้ไขปัญหาและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน โดยให้ ศจพ.อ ทุกระดับร่วมกับทีมปฏิบัติการฯ และภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทาง มาตรการ และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติที่สอดคล้องกับสถานการณ์และข้อเท็จจริงของกลุ่มเป้าหมายและบริบทของแต่ละพื้นที่ต่อไป

"ไทย สมาย บัส" รถพลังงานไฟฟ้า 100 % ทดสอบการใช้งานให้บริการ "คนพิการ"

"นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา" ประธานกรรมการ "บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด" หรือ TSB ผู้นำระบบแพลตฟอร์มการให้บริการรถเมล์พลังงานไฟฟ้าภายใต้ชื่อ ไทย สมายล์ บัส เชิญผู้นำคนพิการ อาทิเช่น นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย / นายชัยพร ภูผารัตน์ ผู้อำนวยการสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย / นางสาวภัสวรินทร์ กิตติโชคกุลพัทธ์ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาคนพิการไทย ทดสอบระบบสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับ "คนพิการ" และ "ผู้สูงอายุ" ที่ใช้รถวีลแชร์ ให้สามารถเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกและไม่เป็นอุปสรรค

โดยจัดทำอุปกรณ์เชื่อมต่อทางระหว่างฟุตบาท และตัวรถ (ทางลาดชัน) และถือเป็นผู้บริการขนส่งสาธารณะรายแรกของประเทศไทยที่ตัวรถสามารถปรับระดับสูง ต่ำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถวีลแชร์ขึ้นได้ และมีความกว้าง ความสูงพอดีสำหรับผู้โดยสาร ทุกคนก้าวขาขึ้นรถเมล์ได้โดยง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องขั้นบันได

นอกจากนี้ ยังเอื้อประโยชน์ต่อคนพิการทุกประเภท คนพิการทางสายตาก็ไม่ต้องกังวลกับการสะดุดขั้นบันได แถมยังสามารถขึ้นได้เร็วกว่าเดิมคนพิการที่ต้องใช้ไม้เท้าหรือรถวีลแชร์สามารถเข็น ปั่น ทางเชื่อมขึ้นรถเมล์ได้อย่างสะดวก และสามารถทำได้เองหรือให้ผู้อื่นช่วยเพียงเล็กน้อย ภายในตัวรถยังมีเนื้อที่รองรับรถวีลแชร์ไม่ไห้ขัดขวางทางเดินผู้โดยสารทั่วไป 

ในการนี้ ได้รับเกียรติจาก "นายชัยรัตน์ แสงจันทร์" ผู้บริหารระดับสูงของ ไทย สมาย บัส เป็นนำพาผู้นำคนพิการทดลองการใช้งานเสมือนจริงรถพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้ด้วย

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top