Thursday, 19 June 2025
Hard News Team

รัฐบาลทรัมป์ เปิดโครงการให้เงิน 1,000 ดอลลาร์ แก่ผู้เข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย แลกความสมัครใจออกจากสหรัฐฯ กลับประเทศบ้านเกิด…โดยไม่ต้องถูกจับ

(7 พ.ค. 68) รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศโครงการใหม่เสนอเงิน 1,000 ดอลลาร์ (ราว 34,000 บาท) ให้แก่ผู้อพยพที่อยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมาย หากยินยอมเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด โดยจะได้รับเงินหลังเดินทางถึงประเทศปลายทางและยืนยันผ่านแอปพลิเคชัน CBP Home ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิพัฒนาขึ้นใหม่

โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนของกระบวนการจับกุมและเนรเทศผู้อพยพ ซึ่งโดยเฉลี่ยมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 17,000 ดอลลาร์ต่อคน ขณะที่การสมัครใจเดินทางกลับโดยได้รับเงินช่วยเหลือ จะช่วยลดต้นทุนได้มากถึง 70% ทั้งยังช่วยลดจำนวนผู้ต้องกักขัง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถกลับเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมายในอนาคตได้

โฆษกกระทรวงฯ เปิดเผยว่ามีผู้อพยพรายแรกที่เข้าร่วมโครงการแล้ว โดยได้รับตั๋วเครื่องบินจากชิคาโกกลับฮอนดูรัส พร้อมมีการจองเที่ยวบินเพิ่มเติมให้กับผู้สมัครใจเดินทางกลับในเร็วๆ นี้ ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า รัฐบาลจะให้โอกาสแก่ “คนดี” ที่จากไปอย่างสมัครใจ ได้กลับเข้ามาอีกครั้ง

โครงการนี้ต่อยอดมาจากแอปฯ CBPOne ที่ริเริ่มในยุครัฐบาลโจ ไบเดน โดยถูกทรัมป์สั่งปิดและดัดแปลงใหม่เป็น CBP Home ซึ่งเน้นใช้เพื่อการเดินทางออกนอกประเทศ มากกว่าการอำนวยความสะดวกในการเข้ามาอย่างถูกกฎหมายตามแบบเดิม

รัฐบาล ลดเก็บเงินกองทุนน้ำมัน ทำราคาขายปลีกน้ำมันยังเท่าเดิม หลังอัตราภาษีสรรพสามิต น้ำมันเบนซิน-ดีเซล ฉบับใหม่บังคับใช้

รัฐบาลและกระทรวงพลังงาน ยันราคาขายปลีกน้ำมันยังเท่าเดิม ไม่ส่งผลกระทบปชช. หลังปรับลดจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน รับมือเพิ่มภาษีสรรพสามิต - ภาษีท้องถิ่น น้ำมันเบนซินและดีเซล 

จากกรณีที่ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกฎกระทรวง กำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต น้ำมันเบนซิน-น้ำมันดีเซล (ฉบับที่ 42) พ.ศ.2568 มีผลใช้แล้ววันนี้ (7 พ.ค. 68)

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้ให้เหตุผลในการปรับขึ้นภาษีน้ำมันในครั้งนี้ว่าปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง สมควรเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ประเภทน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล เพื่อให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น อันเป็นการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและเสถียรภาพทางการคลังของรัฐ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นจากภาวะสงครามการค้า

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิต รายงานว่า จากการปรับขึ้นอัตราภาษีครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลได้รายได้เพิ่มประมาณเดือนละ 2,900 ล้านบาท หรือประมาณ 34,800 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตและภาษีท้องถิ่นครั้งนี้จะไม่กระทบกับราคาขายปลีกน้ำมัน เนื่องจากรัฐบาล โดยกระทรวงพลังงานจะให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดการเก็บเงินส่งกองทุนน้ำมันลง เพื่อชดเชยกับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่รัฐบาลจัดเก็บเพิ่มเติม โดยจะรักษาระดับราคานี้ให้ได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2568 จากนั้นจะมีการทบทวนแนวทางการดำเนินการอีกครั้ง

สำหรับการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต และภาษีส่วนท้องถิ่น ของน้ำมันประเภทต่างๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนมีรายละเอียดดังนี้

น้ำมันเบนซิน 95 จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 6.50 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 7.50 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตร ส่วนภาษีท้องถิ่นจากเดิมเก็บ 0.650 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 0.750 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.10 บาทต่อลิตร

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.85  บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 6.75 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.90 บาทต่อลิตร ส่วนภาษีท้องถิ่นจากเดิมเก็บ 0.585 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 0.675 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.090 บาทต่อลิตร

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (E10) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.85  บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 6.75 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.90 บาทต่อลิตร ส่วนภาษีท้องถิ่นจากเดิมเก็บ 0.585 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 0.675 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.090 บาทต่อลิตร

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.20 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 6.00 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.80 บาทต่อลิตร ส่วนภาษีท้องถิ่นจากเดิมเก็บ 0.520 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 0.600 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.080 บาทต่อลิตร

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 0.975 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 1.125 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.15 บาทต่อลิตร ส่วนภาษีท้องถิ่นจากเดิมเก็บ 0.0975 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 0.1125 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.080 บาทต่อลิตร

น้ำมันดีเซล (H-Diesel) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.99 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 6.92 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.93 บาทต่อลิตร ส่วนภาษีท้องถิ่นจากเดิมเก็บ 0.599 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 0.6920 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.093 บาทต่อลิตร

ปลัดเทศบาลอุดรฯ แจงปมเครื่องออกกำลังกายสแตนเลส 32 ล้าน ยันราคาตาม TOR ‘โปร่งใส-คุ้มค่า’ ใช้งานได้นานกว่า 10 ปี

(7 พ.ค. 68) นายไพทูรย์ เหลืองอิงคะสุต ปลัดเทศบาลนครอุดรธานี ชี้แจงกรณีดราม่าเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งสแตนเลสราคาเฉลี่ยชุดละล้าน หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักบนโซเชียล โดยระบุว่าโครงการใช้งบรวม 32 ล้านบาท ติดตั้งใน 30 ชุมชน แบ่งเป็นชุดเล็ก 8 ตัว ราคาชุดละกว่า 6 แสนบาท และชุดใหญ่ 16 ตัว ราคาชุดละกว่า 2 ล้านบาท ยืนยันอุปกรณ์มีความคงทน ใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 10 ปี

การจัดซื้อผ่านการสำรวจความต้องการจากชาวบ้าน 105 ชุมชน เหลือพื้นที่เหมาะสมเพียง 30 ชุมชน จากนั้นเทศบาลจึงบรรจุโครงการเข้างบปี 68 ผ่านสภาเทศบาล ตั้งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง เปิดสอบราคาจาก 7 ร้านค้า มีผู้เสนอราคา 3 ราย โดยบริษัท ส.สิงห์อยู่สปอร์ต จำกัด เป็นผู้ชนะ

ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งและยังไม่ตรวจรับเครื่องอย่างเป็นทางการ โดยในจุดที่เป็นข่าว เช่น ชุมชนพิชัยรักษ์ มีการติดตั้งจริงแต่ยังไม่เปิดให้ใช้งาน ชาวบ้านให้ความเห็นว่าเครื่องดูแข็งแรงแต่ควรเพิ่มไฟและหลังคาเพื่ออำนวยความสะดวก

ปลัดเทศบาลระบุว่า แม้ราคาอาจดูสูง แต่ผ่านกระบวนการตรวจสอบและประชาพิจารณ์ ย้ำว่าไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย และเป็นอุปกรณ์ที่หลาย อปท. ก็ใช้งานอยู่ ทั้งยังช่วยส่งเสริมสุขภาพประชาชนอย่างยั่งยืน

สำหรับงบรวม 32.06 ล้านบาท แบ่งเป็นชุดเล็ก 26 ชุด รวม 17.5 ล้านบาท และชุดใหญ่ 7 ชุด รวม 14.5 ล้านบาท ซึ่งเทศบาลมั่นใจว่าเกิดความคุ้มค่าและโปร่งใสในการดำเนินการทุกขั้นตอน

กบน. ขยับปรับเงินกองทุนน้ำมันฯ รับมือภาษีใหม่ ตรึงราคาหน้าปั๊ม ช่วยประชาชนยุคค่าครองชีพสูง

เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.68) คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ ประเภทน้ำมัน เพื่อรองรับการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยยืนยันจะไม่ให้กระทบราคาขายปลีกน้ำมันหน้าปั๊ม ช่วยลดภาระค่าครองชีพในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน มอบหมายให้ สกนช. ประเมินผลกระทบและเสนอแนวทางรองรับการเก็บภาษีใหม่ โดยปรับลดเงินกองทุนฯ เท่ากับอัตราภาษีสรรพสามิต และพิจารณาค่าการตลาดที่เหมาะสม เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 7 พฤษภาคม 2568

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการ สกนช. เปิดเผยว่า การปรับครั้งนี้จะทำให้รายรับของกองทุนฯ ลดลงประมาณ 49.57 ล้านบาทต่อวัน แต่ยังสามารถรองรับได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ หากเกิดวิกฤตราคาน้ำมัน กบน.อาจขอให้กรมสรรพสามิตพิจารณาลดภาษีลงอีกครั้ง

ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะติดลบอยู่ที่ 47,779 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 2,540 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,239 ล้านบาท ซึ่ง กบน. จะบริหารจัดการอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาในประเทศ

นายพรชัยย้ำว่า กบน. ดำเนินงานภายใต้หลักการโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยึดกฎหมายกองทุนน้ำมันฯ พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด โดยมุ่งให้ทุกมาตรการเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติสูงสุด

ทั่วโลกจับตา ‘วันแห่งชัยชนะ’ ที่เครมลิน เมื่อผู้นำโลกหลายประเทศตอบรับเข้าร่วมตามคำเชิญของ ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’

(7 พ.ค. 68) ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง มีกำหนดเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 7–10 พฤษภาคมนี้ เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี “วันแห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมัน" โดยระหว่างการเยือน ผู้นำจีนจะพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อกระชับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและรัสเซีย รวมถึงลงนามในข้อตกลงทวิภาคีหลายฉบับ ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดระดับโลกที่ยังคงดำเนินอยู่

งานเฉลิมฉลองครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อระลึกถึงชัยชนะของกองทัพโซเวียตเหนือกองกำลังนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งรัสเซียให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยสหภาพโซเวียตในขณะนั้นสูญเสียประชาชนกว่า 27 ล้านคน ซึ่งนอกจาก สี จิ้นผิง แล้วสำนักข่าว Sputnik ยังรายงานว่าผู้นำโลกหลายประเทศจะร่วมงาน รวมถึงผู้นำจากบราซิล เซอร์เบีย และสโลวาเกีย เพื่อแสดงจุดยืนทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้

ญี่ปุ่นเริ่มสร้าง MGM Osaka ‘รีสอร์ตคาสิโนแห่งแรก’ บนเกาะเทียมยูเมะชิมะ มูลค่า 1.27 ล้านล้านเยน หวังปั้นโอซาก้าเป็นฮับท่องเที่ยว-บันเทิงระดับเอเชีย

(7 พ.ค. 68) เมื่อเดือนเมษายน 2025 ญี่ปุ่นได้เริ่มต้นการก่อสร้าง 'MGM Osaka' รีสอร์ตครบวงจรแห่งแรกของประเทศ บนเกาะเทียมยูเมะชิมะ เมืองโอซาก้า โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง MGM Resorts International จากสหรัฐฯ และ Orix Corporation จากญี่ปุ่น มูลค่ารวมกว่า 1.27 ล้านล้านเยน (ราว 311,500 ล้านบาท)

MGM Osaka ได้รับอนุมัติภายใต้กฎหมาย IR ปี 2018 ซึ่งอนุญาตให้สร้างรีสอร์ตคาสิโนแบบถูกกฎหมายได้สูงสุด 3 แห่งทั่วประเทศ โดย MGM Osaka เป็นโครงการแรกที่ผ่านการอนุมัติอย่างเป็นทางการ นับเป็นก้าวสำคัญของญี่ปุ่นในการเปิดตลาดคาสิโน และส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไซ

โครงการประกอบด้วยคาสิโน โรงแรม 3 แห่งกว่า 2,500 ห้อง ศูนย์ประชุม พื้นที่แสดงสินค้า โรงละคร ร้านอาหาร และค้าปลีก โดยคาดว่าจะสร้างรายได้จากการเล่นเกมราว 5.9 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และสร้างงานนับหมื่นตำแหน่ง ทั้งทางตรงและทางอ้อม

แม้จะมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง แต่โครงการต้องเผชิญกับเสียงคัดค้านจากประชาชนบางกลุ่มที่กังวลเรื่องปัญหาการพนัน การฟอกเงิน และผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคงและกระบวนการยุติธรรม โครงการจึงมีการจำกัดการเข้าคาสิโนของคนญี่ปุ่น และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อควบคุมความเสี่ยง

ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงการกระตุ้นการพัฒนาเมืองอย่างชัดเจน เช่น การเปิดสถานีรถไฟใต้ดินใหม่ในต้นปี 2025 และการขยายสายรถไฟเชื่อมเกาะยูเมะชิมะ ขณะเดียวกัน การก่อสร้างจะถูกปรับแผนช่วงงาน Expo 2025 ซึ่งจัดบนเกาะเดียวกัน เพื่อลดผลกระทบต่อผู้เข้าร่วมงาน

MGM Osaka จึงไม่เพียงเป็นโครงการคาสิโนแห่งแรกของญี่ปุ่น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านเชิงนโยบาย มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิงและการบริการอย่างยั่งยืน และเป็นต้นแบบการจัดสมดุลระหว่างโอกาสทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบต่อสังคม

นักท่องเที่ยวอิสราเอลลั่น ‘เงินฉันสร้างประเทศนี้’ หลังไม่ถอดรองเท้าเข้าร้านอาหาร จุดกระแสวิจารณ์ลามทั้งโซเชียล เจ้าตัวแจงคลิปถูกตัดต่อบิดเบือนความจริง

(7 พ.ค. 68) เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อเพจ “Koh Phangan Conscious Community” เผยแพร่คลิปนักท่องเที่ยวหญิงชาวอิสราเอลรายหนึ่งกล่าวในลักษณะที่ถูกมองว่าเหยียดคนไทย โดยมีใจความว่า “เงินของนักท่องเที่ยวอย่างเธอใช้สร้างประเทศไทย” เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะมีการถกเถียงในร้านอาหารเล็ก ๆ บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีข้อกำหนดให้ถอดรองเท้าก่อนเข้าใช้บริการ

ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงในคลิปแสดงความไม่พอใจเมื่อถูกขอให้ถอดรองเท้า และตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่ถูกตีความว่าไม่ให้เกียรติวัฒนธรรมไทย คลิปถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 และมีรายงานว่ามีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

หลังคลิปกลายเป็นไวรัล ชาวเน็ตไทยจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ มองว่าเป็นการไม่เคารพขนบธรรมเนียมท้องถิ่น และสะท้อนภาพจำด้านลบของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่มองประเทศไทยเป็นเพียง “ประเทศราคาถูก” ที่ต้องพึ่งพารายได้จากต่างชาติ

ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม นักท่องเที่ยวหญิงในคลิปได้โพสต์ขอโทษ โดยอ้างว่าคำพูดของตนถูกนำเสนอผิดบริบท พร้อมชี้แจงว่าตนเจ็บเท้าและได้รับอนุญาตให้ใส่รองเท้าเข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงดังกล่าวกลับยิ่งจุดกระแสถกเถียงถึงความเข้าใจผิดระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นกับทัศนคติของนักท่องเที่ยว ที่อาจกำลังกลายเป็นปัญหาซ่อนเร้นบนเกาะพะงันที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม

ขอนแก่น - 'มทบ.23' จัดกิจกรรม วันกำลังสำรอง ประจำปี 2568 

เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระราชทานกำเนิดกองเสือป่าอันเป็นรากฐานของกิจการกำลังสำรอง และให้เห็นถึงคุณค่า และความสำคัญของกำลังสำรอง ที่พร้อมสนับสนุนในทุกภารกิจของกองทัพ 

เมื่อเวลา 09.00 น. (6 พ.ค.68) ที่ อาคารสโมสรนายทหารค่ายศรีพัชรินทร มณฑลทหารบกที่ 23 ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พลตรีกิตติพงษ์ เนื่องชมภู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 เป็นประธานในการจัดกิจกรรมเนื่องใน 'วันกำลังสำรอง' ประจำปี 2568 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระราชทานกำเนิดกองเสือป่าอันเป็นรากฐานของกิจการกำลังสำรอง และให้เห็นถึงคุณค่า และความสำคัญของกำลังสำรอง ที่พร้อมสนับสนุนในทุกภารกิจของกองทัพ 

โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ของประธานและส่วนราชการ, การอ่านสารของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และการกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นกำลังสำรองที่ดี ทั้งนี้มีผู้แทนหน่วยงานองค์กรกำลังสำรองจำนวน 6 หน่วยงานและผู้แทนข้าราชการทหารเข้าร่วมพิธีและวางพานพุ่ม อาทิ สมาคมผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารและนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 23, ชมรมไทยอาสาป้องกันชาติ, ศูนย์ประสานงานเครือข่ายกำลังพลสำรอง มณฑลทหารบกที่ 23, กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2, กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดขอนแก่น และกำลังพล มณฑลทหารบกที่ 23 ร่วมกิจกรรม จำนวน 200 คน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top