Friday, 4 July 2025
Hard News Team

"สิระ" จี้ บ.อิตาเลียนไทย เรียกคนงานคลัสเตอร์แคมป์หลักสี่ กักตัว-เปิดไทม์ไลน์ ด่วน หลังเจอ 2 คนงานติดโควิด หวั่น ระบาดหนักที่สุดในประเทศ 

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีคลัสเตอร์แคมป์คนงานหลักสี่ว่า ตนขอเรียกร้องให้บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เรียกคนงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างไซต์งานย่านศูนย์ราชการ นับย้อนหลังไป 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. หรือตั้งแต่ 30 เม.ย. ให้มากักตัว ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และสอบสวนไทม์ไลน์ทั้งหมด ทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ หลังจากพบว่าคนงานของบริษัทอิตาเลียนไทยจำนวน 2 คนที่รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 วันนี้ได้เดินทางกลับไปพักที่บ้านตัวเองย่านลาดพร้าว และอยู่ในชุมชนใกล้แคมป์ย่านศูนย์ราชการ ซึ่งไม่ได้พักอาศัยในแคมป์คนงาน และพบว่าผลติดเชื้อโควิด-19 โดยล่าสุดตนได้ประสานไปยังนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน โดยนายสุชาติได้ให้โรงพยาบาลรับตัวเข้ารับการรักษาเป็นการเร่งด่วนแล้ว

"ตรวจเมื่อวาน ผลออกมาเป็นบวกคือติดเชื้อ ทำไมตรวจแล้วไม่กักไว้ก่อน ผมขอให้ทุกคนที่เป็นแรงงานในแคมป์นี้เปิดเผยไทม์ไลน์ด่วน เพราะคนในครอบครัวของคนงานที่ติดโควิด-19 ก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องรับการตรวจค้นหาเชื้อโดยเร็วด้วยเช่นกัน หากยังไม่ได้รับการตรวจและเร่งสอบสวนไทม์ไลน์คนสัมผัสใกล้ชิด ผมห่วงว่าการระบาดครั้งนี้จะเป็นคลัสเตอร์ที่รุนแรงกว่าตลาดกลางกุ้ง และอาจใหญ่ที่สุดในประเทศไทย" นายสิระ กล่าว 

นายสิระ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีคนงานในแคมป์ติดโควิด ในคืนวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากจะมีรถพยาบาลรับผู้ติดเชื้อในแคมป์ไปรักษาแล้ว ยังระบุข้อมูลว่ามีรถสองแถวนำคนงานออกไปข้างนอกแคมป์ ทั้งที่มีประกาศปิดแคมป์ห้ามคนงานเข้าออก ซึ่งหากจะบอกว่านั่งรถสองแถวไปตรวจเชื้อ แต่รถไม่มีมาตรการป้องกันตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข และการไปตรวจนอกแคมป์นั้น ไปแล้วกลับเข้าแคมป์จริงหรือไม่ ตนมีคำถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่เข้าไปตรวจคนงานในไซต์งานก่อสร้างของบริษัทอิตาเลียนไทยตั้งแต่แรกที่พบผู้ติดเชื้อ เพราะมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือขัดต่อตามกฎหมายหรือไม่ เช่น แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องให้เร่งนำคนงานกลับมาทั้งหมดเพื่อกักตัวและค้นหาเชื้อโดยเร็ว

ญี่ปุ่นมีวัคซีนเต็มมือแต่บริหารจัดการฉีดได้เชื่องช้า จนอาจต้องทิ้งวัคซีนนับหมื่นโดสที่จะหมดอายุในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้

หลายประเทศขาดแคลนวัคซีนโควิด ญี่ปุ่นมีวัคซีนเต็มมือแต่บริหารจัดการฉีดได้เชื่องช้า จนอาจต้องทิ้งวัคซีนนับหมื่นโดสที่จะหมดอายุในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้

วัคซีนโควิดจากไฟเซอร์มากกว่า 28 ล้านโดสได้เดินทางมาถึงญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนเมษายน แต่วัคซีนเหล่านี้ได้ถูกใช้ไปเพียงแค่ 15% โดยวัคซีนอีกเกือบ 24 ล้านโดสยังถูกอยู่ในตู้แช่แข็งอุณหภูมิ -70 องศา และจนถึงขณะนี้ในประเทศญี่ปุ่นมีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มเพียงแค่ 2% ของประชากรเท่านั้น

ญี่ปุ่นอาจจะต้องทิ้งวัคซีนโควิดนับหมื่นโดสซึ่งเตรียมไว้ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ และจะหมดอายุในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ วัคซีนเหล่านี้ถูกส่งไปให้โรงพยาบาลขนาดใหญ่กว่า 180 แห่ง แต่สามารถฉีดวัคซีนได้เพียงวันละ 1,000 คน ขณะนี้กำลังปรับแผนเพื่อกระจายวัคซีนไปยังโรงพยาบาลขนาดกลางและเล็กกว่า 2,600 แห่ง มิเช่นนั้นอาจต้องทิ้งไปอย่างสูญเปล่า

ญี่ปุ่นสั่งจองวัคซีนโควิดมากกว่า 344 ล้านโดส เหลือเฟือสำหรับประชาชนทุกคน และเป็นประเทศที่มีวัคซีนมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย แต่กลับบริหารจัดการฉีดวัคซีนได้ล่าช้าอย่างยิ่ง ถึงแม้จะรัฐบาลได้แต่งตั้งให้นายทาโร โคโนะ เป็นรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องวัคซีนเป็นการเฉพาะ

รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ 36 ล้านคนได้ทั้งหมดภายในเดือนกรกฎาคม แต่จะบรรลุเป้าหมายนี้ได้จะต้องฉีดวัคซีนให้ได้มากถึง 800,000 คนต่อวัน หรือทำความเร็วมากกว่า 2 เท่าของที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในญี่ปุ่น ก่อนที่จะจัดงาน “โตเกียวโอลิมปิก” ในอีกไม่ถึง 100 วันข้างหน้า

ทำไมญี่ปุ่นฉีดวัคซีนล่าช้า ?

ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนโควิดเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ช้ากว่าในสหรัฐฯ และหลายประเทศ ในช่วงแรก รัฐบาลโทษว่าเป็นเพราะบริษัทไฟเซอร์ ที่ใช้ฐานการผลิตในยุโรปส่งมอบวัคซีนได้ช้า ขณะที่สหรัฐฯ ประกาศว่าจะ “ไม่ปล่อยวัคซีนแม้แต่หยดเดียวออกนอกประเทศ ก่อนที่ชาวอเมริกันจะได้รับวัคซีน”

แต่ขณะนี้บริษัทเร่งผลิตวัคซีนได้จำนวนมาก และการขนส่งก็คล่องตัว แต่ญี่ปุ่นกลับบริหารจัดการฉีดได้ช้าเองจากสาเหตุคือ

1.) ญี่ปุ่นทดสอบวัคซีนซ้ำภายในประเทศ โดยอ้างว่าผลการทดสอบของไฟเซอร์ไม่ได้ครอบคลุมประชากรของญี่ปุ่น ไฟเซอร์ทำการทดสอบวัคซีนในเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ในกลุ่มอาสาสมัครราว 44,000 คนใน 6 ประเทศ และมีชาวเอเชียราว 2,000 คน แต่ญี่ปุ่นใช้เวลาอีกหลายเดือนทำการทดสอบซ้ำกับชาวญี่ปุ่น 160 คน ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าการทดสอบในกลุ่มตัวอย่างจำนวนน้อยแค่นี้ไม่ได้พิสูจน์ถึงความปลอดภัยของวัคซีนได้จริง รังแต่จะเสียเวลาเท่านั้น

2.) อนุมัติใช้วัคซีนล่าช้า แม้ว่ารัฐบาลจะเปิด “ทางด่วน” เพื่ออนุมัติการใช้วัคซีนได้ภายใน 2 เดือน จากปกติที่ต้องใช้เวลานานถึง 1 ปี แต่ขณะนี้ญี่ปุ่นได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์เท่านั้น ส่วนวัคซีนของโมเดิร์นนา และแอสตราเซเนกา ได้ยื่นขออนุมัติใช้ฉุกเฉินมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่ผ่านการพิจารณา

3.) ขาดแคลนบุคลากรการแพทย์ กฎหมายของญี่ปุ่นกำหนดให้การฉีดวัคซีนต้องทำโดยแพทย์และพยาบาลเท่านั้น ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด แพทย์และพยาบาลก็มีงานล้นมือ ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลอยู่แล้ว และยังต้องรับภารกิจฉีดวัคซีนอีก

ล่าสุดรัฐบาลได้อนุญาตให้ทันตแพทย์และอดีตพยาบาลที่เกษียณอายุหรือออกจากงานไปแล้วมาช่วยฉีดวัคซีนได้ แต่ก็ยังไม่ได้เรียกร้องกลุ่มคนเหล่านี้

ในสหรัฐฯ และหลายประเทศเปิดทางให้เภสัชกรตามร้านขายยา อาสาสมัครสาธารณสุข หรือผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางการแพทย์เข้ารับการฝึกฝนให้ฉีดวัคซีนได้ แต่เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ในญี่ปุ่น

4.) ไม่มีวัคซีนของตัวเอง ญี่ปุ่นพึ่งพาวัคซีนต่างชาติ และยังตั้งกฎเกณฑ์มากมายในการอนุมัติใช้งานทั้งที่เป็นช่วงเวลาฉุกเฉิน ถึงแม้ญี่ปุ่นจะทุ่มเงินสั่งจองวัคซีนจำนวนมาก แต่การยืมจมูกคนอื่นหายใจก็ไม่เท่ากับพึ่งพาตัวเอง

ญี่ปุ่นได้ชื่อว่ามีแผนรับมือภัยพิบัติได้อย่างดีเยี่ยม แต่เมื่อเผชิญกับภัยโรคระบาด แดนอาทิตย์อุทัยถึงกับ “ไปไม่เป็น” ระบบสาธารณสุขและรัฐสวัสดิการที่หลายคนเคยชื่นชมญี่ปุ่น วันนี้กลับไม่สามารถช่วยชีวิตประชาชนของตัวเองได้


ที่มา : https://mgronline.com/japan/photo-gallery/9640000047620

‘เสกสกล’ ซัด ‘จาตุรนต์’ ไร้สาระ เหน็บไม่ชอบนายกฯ ซื่อสัตย์ หรืออยากได้นายกฯ โกงกินบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ฟันธงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ยอมทิ้งเก้าอี้นายกฯ แม้หลายฝ่ายจะเรียกร้องให้ลาออกว่า ผลสำรวจความคิดเห็นหลายครั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังให้ความไว้ใจให้นายกฯ ทำงานแก้ไขปัญหาเพื่อบ้านเมือง ดังนั้นที่บอกว่าหลายฝ่ายเรียกร้องให้ลาออก น่าจะเป็นฝ่ายค้าน กลุ่มเคลื่อนไหวสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน รวมถึงนายจาตุรนต์ ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ

นายกฯ และรัฐบาลเข้ามาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่มีความผิดอะไร ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ทุจริตก็ไม่เคยมี ที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศไปหลายอย่าง พร้อมรับฟังประชาชนและมีความจริงใจ และยังมองไม่เห็นใครทำงานดีเท่ากับนายกฯ ในสถานการณ์วิกฤต หากนายจาตุรนต์ อยากช่วยประเทศจริงขอให้ลงมือทำ ไม่ใช่ใช้ปากวิพากษ์วิจารณ์อย่างเดียวทำให้คนทำงานเสียสมาธิ 

นายเสกสกล กล่าวว่า นายจาตุรนต์ ไม่อยากได้คนทำงานที่ซื่อสัตย์มาเป็นนายกฯ แต่อาจอยากได้นายกฯ ที่ดีแต่โกงกินบ้านเมือง ไม่สนใจประชาชน เช่นนายกฯ ในอดีต ที่นายจาตุรนต์ เคยเป็นรัฐมนตรีอยู่ด้วย ทำไมครั้งนั้น นายจาตุรนต์จึงไม่ออกมาวิจารณ์หรือออกมาขับไล่นายกฯ คนนั้นบ้าง ทั้งที่รู้ว่ารัฐบาลมีปัญหาการทุจริตมากมาย จนประชาชนออกมาขับไล่เต็มท้องถนน อย่างนี้จะเรียกว่าใครเป็นพวกเดียวกันไม่กล้าแตะ จะปิดหูปิดตาปกป้องกันเอาไว้ แต่ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน จะออกมาขับไล่อย่างไม่ลืมหูลืมตาใช่หรือไม่ เสียดายความรู้ความสามารถของนายจาตุรนต์ ที่หาสาระอะไรไม่ได้ ทำตัวเหมือน เสาหลักปักขี้เลน ไม่มีจุดยืนชัดเจนอะไรที่แน่นอนและน่าเชื่อถือได้

ชงครม.ไฟเขียวลดส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคม 3 เดือน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม โดยให้ลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมฝ่ายละ 5% เหลือฝ่ายละ 2.5% ของค่าจ้างผู้ประกันตน และผู้ประกันตนมาตรา 39 เหลืออัตราเดือนละ 216 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ในงวดเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564 ส่วนงวดเดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป ให้ส่งเงินสมทบอัตราเดิม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกันตนในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่

ทั้งนี้เชื่อว่าการลดเงินครั้งนี้จะช่วยให้นายจ้างและลูกจ้างสามารถนำเงินสมทบที่ลดลงไปใช้จ่ายเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในระยะเวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,163 ล้านบาท เป็นการลดปัญหาทางการเงินได้ ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงาน ยังเสนอร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตเป็นผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานด้วย

นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทย ยังเสนอร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ พร้อมทั้งเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนัก ความด้านทาน และความคงทนของอาคารและพื้นดินที่รองรับอาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ส่วนกระทรวงคมนาคม เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านพรุตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ ตำบลทุ่งลาน และตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา และกระทรวงการคลัง เสนอขอความเห็นชอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย

'ธัญวัจน์-ก้าวไกล' ชี้!! เวที Miss Universe เปิดโอกาสสร้างเสรีภาพทางการแสดงออก หลังนางงามเมียนมาแสดงข้อความทางการเมืองเพื่อสันติภาพบนเวที ย้ำ นี่คือพลังการต่อสู้ด้วยเสียงของผู้หญิง สะเทือนถึงผู้มีอำนาจในเมียนมา ต่อสายตาชาวโลก

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึง การประกวด Miss Universe 2021 ที่ผ่านมา ว่าในช่วงหนึ่งของการประกวด เป็นช่วงที่น่าสนใจที่สุด คือ นางสาว ธูซาร์ วิน ลวิน ผู้เข้าประกวดเวทีระดับโลกนางงามจักรวาลจากประเทศเมียนมาได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม โดยมีจุดเด่นที่เธอถือ “Pray for Myanmar” ซึ่งคนทั่วโลกในขณะนี้ทราบดีว่าประเทศเมียนมาเกิดการยึดอำนาจของ มิน อ่อง หล่าย และในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการใช้อาวุธจนทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ออกมาต่อสู้ทางการเมืองบนท้องถนนกว่า 700 คน และถูกจับกว่า 5,000 คน 

จากข่าวคราวทางกองประกวดนางงามจักรวาล ผู้เข้าประกวดจากเมียนมาให้ข่าวว่า ชุดประจำชาติที่เธอเตรียมมาหายไป และก่อนการประกวดได้รับการช่วยเหลือจากชาวเมียนมาด้วยกันในฟลอริดาช่วยจัดหา และใจความสำคัญของชุดเมียนมาคือข้อความที่ นางสาว ธูชาร์ ถือ เสียงแห่งสันติภาพที่ผู้หญิงคนหนึ่งเรียกร้องบนเวทีการประกวด จนวันนี้สะเทือนต่อผู้นำทหารเมียนมาต้องออกหมายจับ

ธัญวัจน์ กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้ว่าการประกวดนางงามในสายตาสังคมทั่วไปมองเป็นเรื่องความสวยความงาม เรื่องของความบันเทิง แต่ในบนเวทีการประกวดนั้นมีช่วงเวลาที่ท้าทายความคิด และการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม บุคลิกภาพที่โดดเด่น และ ชุดประจำชาติที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นชาติผ่านการนำเสนอบนร่างกายของผู้เข้าประกวด เป้าหมายของการประกวดมีความหลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะได้ยินอยู่บ่อยครั้งบนเวทีการประกวด คือผู้หญิงเหล่านี้จะพูดเรื่อง “การเมืองและสันติภาพ” 

“การออกหมายจับนางสาว ธูซาร์ วิน ลวิน นางงามจากประเทศเมียนมาสะท้อนความ “กลัว” ของผู้มีอำนาจ เพราะ “สันติภาพ” จะเป็นฝ่ายชนะเสมอ หากผู้มีอำนาจใช้การประกาศออกหมายจับจะทำให้นางงามเมียนมากลัว แต่ในทางกลับกันประชาคมโลกต่างเห็นถึง “ความอำมหิต และ ใฝ่อำนาจ” ของฝ่ายรัฐประหาร เพราะประเทศเป็นของประชาชน ไม่มีอำนาจชอบธรรมใด ๆ ในการปกครองที่จะมีมากกว่าประชาชน และการใช้กำลังห้ำหั่นนั้นก็จะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ในที่สุด ธัญขอให้กำลังใจนางงามจากประเทศเมียนมา และขอเรียกร้องให้ มิน อ่อง หล่าย ผู้นำทหารในเมียนมาคืนอำนาจให้กับประชาชน“ ธัญวัจน์ กล่าว 

ทั้งนี้ ธัญวัจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือเสียงของผู้หญิง ธูซาร์ วิน ลวิน ที่อยู่ในช่วงเวลาอันโหดร้ายในประเทศที่กล้าหาญและไม่เกรงกลัวอำนาจใด ๆ เธอชูข้อความ “Pray for Myanmar” เพื่อให้โลกใบนี้ได้เห็นความทุกข์ร้อนของประชาชนในประเทศของเธอ เธอได้ทำหน้าที่ตัวแทนประเทศอย่างสมเกียรติ เพราะเธอได้เป็นเสียง “ของประชาชน” ที่เธอเป็นตัวแทน และมาสื่อสารบนเวทีการประกวดเพื่อให้ชาวโลกรับรู้ นี่คือความทุกข์ร้อนของคนในชาติที่เธอรัก ที่เธอจะทำได้ในฐานะ “ผู้หญิงคนหนึ่ง”

“บิ๊กบี้” สั่ง สกัดแรงงานต่างด้าวพร้อมสั่งขยายผลสู่ต้นตอกระบวนการ พร้อมมอบหน่วยทหารช่วยดูแล รร. รับเปิดเทอม

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564  ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุม ด้วยระบบออนไลน์กับหน่วยทหารทั่วประเทศ เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ปัญหา COVID-19 พร้อมขอบคุณกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ อดทน โดยให้กำลังพลดำรงการปฏิบัติตน ตามนโยบายของภาครัฐและมาตรการพิทักษ์พล เพื่อลดอัตราการแพร่ระบาดและพร้อมช่วยเหลือประชาชนได้ต่อไป  

โดยผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวถึงภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ที่เฝ้าตรวจและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเชื้อเข้าประเทศผ่านแนวชายแดน มีผลการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 จนถึงปัจจุบัน 

ทั้งนี้ผบ.ทบ. ได้ย้ำถึงการจับกุมแรงงานต่างด้าวตามเหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดนจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการตรวจสอบพื้นที่ตอนใน รวมถึงขยายผลไปสู่ต้นตอของกระบวนการในการนำพาแรงงานเข้าประเทศ พร้อมมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการในเรื่องดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

สำหรับในเดือน มิ.ย. 64  ซึ่งสถานศึกษาจะเปิดการเรียนการสอน สิ่งสำคัญในการเตรียมเปิดเทอม คือเรื่องของการทำสถานศึกษาให้สะอาดปลอดเชื้อ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกมีความห่วงใยในเรื่องกล่าว ได้มอบให้หน่วยทหารของกองทัพบกทั่วประเทศ ประสานและเข้าสนับสนุนสถานศึกษา โรงเรียนในพื้นที่เพื่อร่วมการพัฒนาและเตรียมสถานศึกษาให้พร้อมรับการเปิดเทอม เพื่อดูแลให้นักเรียน บุคลากรของสถานศึกษามีความปลอดภัยต่อการติดเชื้อ โดยที่ผ่านมากองทัพบกได้ส่งชุดปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนเข้าฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามโรงเรียนต่าง ๆ แล้วถึง 165 แห่ง

พล.ท.สันติพงศ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการช่วยเหลือประชาชนและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมการของหน่วยทหารรับมือกับสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝน โดยกำชับให้ดูแลใน 2 เรื่อง คือ การระบายน้ำและการกักเก็บน้ำ โดยให้หน่วยทหารพิจารณาสนับสนุนการเปิดเส้นทางระบายน้ำเพื่อป้องกันอุทกภัย ด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำ กำจัดวัชพืช ขยะ เพิ่มช่องทางระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก ในขณะเดียวกันให้สนับสนุนการเตรียมแหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ เพื่อสำรองน้ำไว้ให้เกษตรกรใช้ในการเพาะปลูกหลังฤดูฝน

ทั้งนี้ เพื่อให้กำลังพลของกองทัพบกมีความพร้อมด้านร่างกาย เพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนการคลี่คลายสถานการณ์ COVID-19 ของรัฐบาลควบคู่ไปกับการช่วยเหลือประชาชน ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบให้ ศบค. 19 ทบ. และกรมแพทย์ทหารบกได้เตรียมการวางแผนบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้กับกำลังพล และทหารกองประจำการ หากได้รับการสนับสนุนวัคซีนตามการจัดสรรจากสาธารณสุขในช่วงเดือน มิ.ย. 64 ซึ่งในปัจจุบันกำลังพลบางส่วนของกองทัพบกได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว อาทิ ผู้ปฏิบัติงานในกองกำลังชายแดน กำลังพลด่านหน้า บุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น 

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยความคืบหน้าความร่วมมือ ปตท.จัดตั้งหน่วยธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยความคืบหน้าความร่วมมือ ปตท.จัดตั้งหน่วยธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม หนุนผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ปรับระบบการผลิตไปสู่เทคโนโลยีอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ นำร่อง 4 บริษัท ทดสอบระบบ ITP Platform พร้อมสำรวจข้อมูลผู้ประกอบการใน 6 นิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายปรับปรุงระบบ!

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ. และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจัดทำโครงการยกระดับศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต (Industrial Transformation Platform) หรือ ITP Platform ซึ่งเป็นการให้บริการเชื่อมโยงลูกค้า คู่ค้าและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยระบบดังกล่าวจะเชื่อมโยงข้อมูลกับ กนอ. เพื่อรองรับการบริการของ กนอ. ประกอบด้วย ระบบช่วยตัดสินใจเลือกนิคมอุตสาหกรรม ระบบอนุมัติ-อนุญาต (e-PP) และสิทธิประโยชน์จาก กนอ.

“โครงการ ITP แพลตฟอร์มนี้ เป็นการขยายความร่วมมือหลัง กนอ. ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการศึกษาแนวทางการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ (JV Company) เพื่อดำเนินการธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มร่วมกัน ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมหันมาใช้ระบบหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมไทยก้าวสู่สากลอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่ยุค 4.0” นายวีริศ กล่าว

ทั้งนี้ กนอ. และ ปตท.ได้จัดทำโครงการนำร่องร่วมกับผู้ประกอบการ 4 ราย (Pilot Project) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี โดยให้คำปรึกษาเรื่องสิทธิประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน และให้คำปรึกษาด้านการประยุกต์ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมทั้งทดสอบทดลองระบบกับ ITP Platform สำหรับบริษัทนำร่อง 4 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่

1.) บริษัท ไทย ไดโซ แอโรโซล จำกัด ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมอุปโภค-บริโภค

2.) บริษัท ทีบีเคเค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์

3.) บริษัท ไทยโตเคน เทอร์โม จำกัด ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมโลหะ และ

4.) บริษัท โอเรียนเต็ล คอปเปอร์ จำกัด ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมโลหะ

นอกจากนี้ กนอ.และปตท.ยังได้สัมภาษณ์ผู้ประกอบการ จำนวน 12 ราย ในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน, ยานยนต์และชิ้นส่วน และผลิตภัณฑ์เหล็กและโลหะ จากนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมาย 6 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง, นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ, นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี, นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี จ.ชลบุรี, นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง จ.ระยอง และนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) จ.ระยอง รวมทั้งส่งแบบสอบถามไปยังผู้ประกอบการทุกนิคมที่สนใจยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตให้เป็นระบบควบคุมอัตโนมัติ เพื่อเข้าร่วมทดสอบการใช้งานระบบ ITP Platform ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น

“กนอ. และ ปตท.อยู่ระหว่างร่วมศึกษาแนวทางการร่วมทุนในรูปแบบ Co-Investment โดยจะพิจารณาจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ (JV Company) เพื่อดำเนินการธุรกิจร่วมกันระหว่าง กนอ. ปตท. และ บริษัท พีทีที เอนเนอร์ยี่ โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในเร็ว ๆ นี้” นายวีริศ กล่าวปิดท้าย

‘เลสเตอร์ ซิตี้’ สร้างปรากฎการณ์บนสังเวียนฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง เมื่อพวกเขาสามารถคว้าถ้วยเอฟเอคัพ มาครองเป็นครั้งแรกใน 137 ปี หลังจากที่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองเป็นครั้งแรกของสโมสร เมื่อปี 2016

‘เลสเตอร์ ซิตี้’ สร้างปรากฎการณ์บนสังเวียนฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง เมื่อพวกเขาสามารถคว้าถ้วยเอฟเอคัพ มาครองเป็นครั้งแรกใน 137 ปี หลังจากที่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองเป็นครั้งแรกของสโมสร เมื่อปี 2016

แน่นอนว่า ความสำเร็จของทีมฉายา ‘จิ้งจอกสยาม’ ส่วนสำคัญเกิดจาก ‘ความมุ่งมั่น และ ตั้งใจ’ ของชายที่ชื่อ ‘วิชัย ศรีวัฒนประภา’ ผู้ปลุกปั้นสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ จากทีมธรรมดา กระทั่งกลายมาเป็นทีมชั้นนำของลีก ที่สามารถต่อกรกับสโมสรยักษ์ใหญ่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี

ขอแสดงความยินดีอีกครั้ง กับแชมป์เอฟเอคัพ ของ เลสเตอร์ ซิตี้

"สุทธวรรณ" จี้ "สมศักดิ์" แก้วิกฤตคลัสเตอร์เรือนจำ ปล่อยตัวผู้ต้องขังลดแออัด และต้องได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมาตรการจัดการกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำทั่วประเทศ ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 6,853 คน ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมในเรือนจำทะลุหมื่นราย ว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ต้องรีบแก้ไขวิกฤตการระบาดในเรือนจำเป็นการด่วน ที่บอกจัดการได้ รับมือไหว อยากถามว่าจัดการได้จริง ๆ ใช่หรือไม่ โดยมาตรการหนึ่งที่สามารถทำได้ คือ เร่งปล่อยตัวผู้ต้องขัง เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ กรณีผู้ต้องขังที่คดียังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ควรอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว และอาจพิจารณาปล่อยตัวผู้ต้องขังที่เหลือโทษไม่ถึงสามปีแล้วติดกำไล EM เมื่อได้ออกมาแล้วต้องมีการกักตัวและได้รับการตรวจหาเชื้อ ส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกยังคงต้องทำอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานอย่างเข้มงวด และแยกตัวมารักษาให้ถูกต้อง

น.ส.สุทธวรรณ กล่าวต่อว่า นายสมศักดิ์ ได้กล่าวไว้ว่า ทุกเรือนจำทั่วประเทศต้องมีการเตรียมความพร้อมทำโรงพยาบาลสนาม และหากเรือนจำใดไม่มีพื้นที่ในการจัดทำโรงพยาบาลสนามก็ให้วางแผนไปใช้พื้นที่ของทัณฑสถานเปิดหรือสถานกักกันนั้น ตนจึงอยากขอให้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ที่สำคัญต้องได้มาตรฐานเดียวกับผู้ป่วยภายนอกอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ ขอฝากกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักในภาวะวิกฤต และให้กำลังใจกับผู้ต้องขังที่ได้รับเชื้อรวมถึงเป็นกำลังใจให้ครอบครัวผู้เกี่ยวข้องทุกคนด้วย

“ตอนนี้ทุกภาคส่วนควรเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง ทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องรีบดำเนินการแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด ช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว จะปล่อยให้เกิดปัญหานักโทษล้นเรือนจำ จนติดโควิด-19 กันหมดไม่ได้” น.ส.สุทธวรรณ กล่าว

ผบ.ทสส. ห่วงใยปชช. จากการแพร่ระบาดโควิด-19 คลัสเตอร์หลักสี่ เร่งส่งมอบถุงยังชีพ สนับสนุนรัฐบาล แก้ไขปัญหาในทุกมิติ

ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ตามที่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ จึงได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในกองบัญชาการกองทัพไทย เร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน 

พล.ต.ภาณุพงศ์ สุวัณณุสส์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร เป็นผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย มอบถุงยังชีพ จำนวน 200 ชุด ให้กับสำนักงานเขตหลักสี่เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ในพื้นที่คลัสเตอร์ชุมชน บริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยมีนายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยเขตหลักสี่ เป็นผู้รับมอบ 

โดยสิ่งของอุปโภค-บริโภคประกอบด้วย เจลแอลกอฮอล์ เครื่องวัดอุณหภูมิ หน้ากากอนามัย และไข่ไก่ ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงเวลาของการกักตัวต่อไป

ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย ยังคงเคียงข้างพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ที่ได้รับความเดือนร้อน โดยจะใช้ทุกศักยภาพที่มีในการดูแลประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมทั้งจะดำเนินการช่วยเหลือในพื้นที่อื่น ๆ อย่างต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top