Sunday, 15 June 2025
Hard News Team

รฟท. เตรียมชงครม. ลุยส่วนต่อขยาย ‘สายสีแดง’ คาดเปิดประมูลปลายปี 65 วงเงิน 7.93 หมื่นลบ.

การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง 4 เส้นทาง วงเงิน 7.93 หมื่นล้าน คาดว่าจะสามารถดำเนินการประมูลได้ในปี 2565 และจะสามารถทยอยเปิดให้บริการได้ในปี 2569 - 2571

วันนี้ (22 ธ.ค. 64) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการส่วนต่อขยาย รถไฟชานเมืองสายสีแดงว่า ขณะนี้ผลการศึกษา ทบทวน และวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการ จัดทำเอกสารประกวดราคาและการดำเนินงาน ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 จำนวน 4 โครงการ วงเงิน 7.93 หมื่นล้านบาท เสร็จเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย

ช่วงที่ 1 บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และ ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง

ช่วงที่ 2 รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ช่วงที่ 3 ตลิ่งชัน-ศาลายา

ช่วงที่ 4 ตลิ่งชัน-ศิริราช

‘ดีพร้อม’ ปล่อยสินเชื่อพิเศษช่วยเอสเอ็มอี เร่งเสริมสภาพคล่องผู้ได้รับผลกระทบโควิด

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ปล่อยสินเชื่อพิเศษดีพร้อมเพย์ เร่งเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 วางกรอบสินเชื่อ สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย 

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากนโยบายของท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางและมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้กลับมาดำเนินกิจการได้อีกครั้ง โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม ได้เสนอแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ผ่านการอนุมัติสินเชื่อพิเศษ “ดีพร้อมเพย์” ภายใต้กรอบวงเงิน 30 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ และต่อยอดธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยเริ่มยื่นคำขออนุมัติฯ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565

นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มเป้าหมายของผู้ขออนุมัติสินเชื่อดังกล่าว คือ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการของดีพร้อม ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565 จำนวนไม่น้อยกว่า 30 ราย กำหนดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาทต่อราย โดยให้ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 3 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันไดเริ่มต้นที่ 3% ต่อปี

‘สิระ’ ตกเก้าอี้ส.ส. ศาลรธน. ชี้ชัด ขัดคุณสมบัติความเป็นส.ส. ปมต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีฉ้อโกง

‘สิระ เจนจาคะ’ พ้นสภาพความเป็น ส.ส. ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัย ให้ สิระ เจนจาคะ ขัดคุณสมบัติความเป็น ส.ส. เนื่องจากปมคำร้องต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีฉ้อโกง พ้นสภาพ ส.ส. กำหนดเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ ใหม่

22 ธ.ค. 64  เมื่อเวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัย กรณีที่มีผู้ร้องว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.เขตหลักสี่ พรรคพลังประชารัฐ ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดปมคดีฉ้อโกง ถือว่าขัดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. หรือไม่ โดยศาลรธน.ได้วินิจฉัย ให้นายสิระ ขัดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.

ทั้งนี้ ศาลรธน. ได้ระบุว่า สืบเนื่องจากประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้ศาลรธน. วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ กรณีนายสิระ เจนจาคะ (ผู้ถูกร้อง) เคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวันในคดีหมายเลขดำที่ 812/2538 คดีหมายเลขแดงที่ 2218/2538 เป็นกรณีที่ผู้ถูกร้องเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญาทำให้ผู้ถูกร้องเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10)

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามมาตรา 82 วรรคสอง และมีคำสั่งยกคำขอให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต่อมาผูู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไว้ในสำนวน และให้หน่วยงานและพยานที่เกี่ยวข้องชี้แจงตามที่ศาลกำหนด พร้อมจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว 

‘อัษฎางค์’ ไขข้องใจ ‘พี่ตูน’ วิ่งเพื่อใคร ชี้! วิ่งการกุศลมีทั่วโลก แม้แต่ในปท. ร่ำรวย

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ระบุว่า นักวิ่งการกุศลโง่ หรือคนโง่มองไม่เห็นความดีของนักวิ่ง?

คำถามของกลุ่มคนที่โลกทัศน์แคบ วิสัยทัศน์สั้น ทัศนคติต่ำเตี้ย มักจะมีคำพูดและคำถามประมาณว่า…
วิ่ง…เพื่อเด็กยากไร้…หน้าที่ใคร !
วิ่งให้ตายก็แก้ปัญหาโครงสร้างของประเทศไม่ได้ !
คนวิ่งได้หน้าอยู่คนเดียว !
ผมจะพามาเบิกเนตรกันหน่อย กับการวิ่งการกุศลระดับโลก ที่ถูกจุดประกายมาจากนักวิ่งเพียงคนเดียวจนกลายเป็นวิ่งกันทั่วเมือง วิ่งกันทั้งประเทศและทั้งโลก มานานเกือบครึ่งศตวรรษ

……………………………………………………………………

City2Surf 
งานวิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของซิดนีย์
วิ่งด้วยแรงบันดาลใจจากอเมริกาสู่ออสเตรเลีย
City2Surf คืองานวิ่งการกุศลประจำปีของซิดนีย์ ซึ่งจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ที่สองของเดือนสิงหาคม เป็นงานวิ่งการกุศลที่จัดขึ้นมาต่อเนื่องยาวนานถึง 50 ปีเต็ม โดยปัจจุบันมีผู้ร่วมวิ่งนับแสนคน จากจุดเริ่มต้นที่มีผู้เข้าร่วมเพียง 1500 คน

City2Surf เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กันยายน 1971 เป็นงานวิ่งที่ริเริ่มโดยเจ้าหน้าที่ของหนังสือพิมพ์เดอะซันซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากงาน Bay to Breakers ในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
การแข่งขันวิ่งการกุศลจะเริ่มจากในตัวเมืองซิดนีย์และไปสิ้นสุดที่หาดบอนได 
จุดเด่นที่ทำให้งานวิ่ง City2Surf ประสบความสำเร็จจนเป็น ”งานวิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ก็คือ…
เป็นการจัดงานวิ่งเพื่อการกุศล โดยการเชิญชวนให้ผู้เข้าแข่งขันร่วมหาเงินบริจาคด้วยการเป็นตัวแทนขององค์กรการกุศลต่างๆ

……………………………………………………………………

เพื่อเด็กยากไร้…หน้าที่ใคร !
วิ่งให้ตายก็แก้ปัญหาโครงสร้างของประเทศไม่ได้ !
คนวิ่งได้หน้าอยู่คนเดียว !
ทำไมออสเตรเลียจัดงานวิ่งเพื่อระดมทุนให้องค์กรการกุศลมาต่อเนื่องถึง 50 ปีแล้ว
ออสเตรเลียยากจน? ประเทศมีปัญหาโครงสร้าง?
ประชาชนควรจะคิดว่า…เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องมานักวิ่งหาเงินช่วยสังคม?
หรือ ?

……………………………………………………………………

ขอยกตัวอย่างอีกสักราย
จากดินแดนฝั่งขั้วโลกใต้ขึ้นไปขั้วโลกเหนือ 
จากอเมริกามาออสเตรเลีย…แล้วขึ้นกลับไปแคนาดา
กับเรื่องราวของนักวิ่งชื่อ “เทร์รี ฟอกซ์”
เมื่อตอนที่ เทร์รี ฟอกซ์ มีอายุ 19 ปี เขาล้มป่วยเป็นมะเร็งกระดูกจนต้องตัดขาออกข้างหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2523 ฟอกซ์ได้สวมขาเทียมและเริ่มทำกิจกรรมรณรงค์วิ่งข้ามประเทศแคนาดา เพื่อระดมทุนและกระตุ้นสังคมต่อการวิจัยการรักษามะเร็ง 

เทร์รี ฟอกซ์ วิ่งไปพร้อมกับขาเทียมหนึ่งข้าง เป็นระยะทางถึง 5,373 กิโลเมตร (3,339 ไมล์) และสิ้นสุดลงในเวลา 143 วัน 
เมื่อมะเร็งกระจายไปถึงปอด ฟอกซ์มีอาการทรุดหนักและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2524 ด้วยวัย 23 ปี

การวิ่งรณรงค์ของฟอกซ์ได้รับการขนานนามว่า "มาราธอนแห่งความหวัง" (Marathon of Hope) ส่งผลให้เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Companion of the Order of Canada 
ภายหลังการเสียชีวิต ได้มีผู้จัดกิจกรรม “การวิ่งเทร์รี ฟอกซ์” หรือ “Terry Fox Run” เป็นประจำทุกปี จนถึงปัจจุบัน

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทุ่มงบกว่า 34 ล้านบาท ลงพื้นที่ 4 ภาค รวม 43 จังหวัด มอบไออุ่นพร้อมถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยหนาว มอบแท็งก์/ถังบรรจุน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้ง และมอบศาลาที่พักผู้โดยสารเพื่อผู้ใช้รถใช้ถนน

ระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน – 26 ธันวาคม 2564 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ มอบหมายให้นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการมูลนิธิฯ จัดทีมสังคมสงเคราะห์ นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่แจกจ่ายผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบ “ภัยหนาว” ในถิ่นทุรกันดาร ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย เชียงใหม่  ลพบุรี เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม บึงกาฬ สกลนคร นครนายก กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคิรีขันธ์ ชุมพร รวม 43 จังหวัด

รวมผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 46,900 ชุด คิดเป็นมูลค่ากว่า 27 ล้านบาท พร้อมทั้งจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนออกบริการประชาชนฟรีทั้งในด้านการตรวจรักษา แจกจ่ายยา และคัดกรองเบาหวานเบื้องต้นในพื้นที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี และนครพนม

นอกจากนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังได้มอบแท็งก์บรรจุน้ำขนาด 20,000 ลิตร และถังบรรจุน้ำไฟเบอร์ (สำเร็จรูป) ขนาด 2,000-5,000 ลิตร  เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนที่ขาดแคลนน้ำในการบริโภคในช่วง “ภัยแล้ง” ในพื้นที่ภาคเหนือ – อีสาน รวมจำนวน 100 ถัง รวมมูลค่ากว่า 2.6 ล้านบาท รวมทั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังมอบศาลาที่พักผู้โดยสารเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อหลบแดดหลบฝนในพื้นที่ภาคเหนือ-อีสานรวม 34 หลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.2 ล้านบาท เพื่อให้การลงพื้นที่บรรเทาทุกข์สาธารณภัยในถิ่นทุรกันดารเป็นไปอย่างทันท่วงทีต่อการรับมือสถานการณ์ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี  พร้อมด้วยมูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี 

โดยในวันนี้ (วันพุธที่ 22 ธันวาคม 64) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ นำทีมสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี (ต่อเนื่อง) มอบผ้าห่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 500 ชุด แก่ผู้ประสบภัยหนาว ณ บริเวณวัดโพธิ์เมืองวนาราม อ.เขมราฐ พร้อมกันนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมแพทย์อาสาและเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ให้บริการ ตรวจรักษาโรคทั่วไป แจกจ่ายยา แจกแว่นสายตา และ คัดกรองเบาหวานเบื้องต้น โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี  พร้อมด้วยมูลนิธิการกุศลสามัคคีสว่างบูชาธรรมสถาน จ.อุบลราชราชธานี เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี และในวันเดียวกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบศาลาที่พักผู้โดยสาร ณ บริเวณหน้าโรงพยาบาลกุดข้าวปุ้น อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี และได้เดินทางไปยังจ.อำนาจเจริญ เพื่อมอบถังบรรจุน้ำเพื่อการบริโภค ขนาด 3,000 ลิตร  จำนวน 3 ถัง พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 500 ชุด ณ บริเวณหมู่ 1 ต.สร้างนกทา อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี  พร้อมด้วยมูลนิธิจีตี่เกาะอำนาจเจริญ  เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี 
 

กนง.มติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50%

นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง. วันที่ 22 ธ.ค. 2564 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดยคณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นชั่วคราวจากราคาพลังงานเป็นหลัก แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการเงินเฟ้อโลกและการส่งผ่านต้นทุน โดย การระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมในระยะข้างหน้า จึงจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป 

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่องจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ ประกอบกับมาตรการทางการเงินการคลังที่มีความต่อเนื่อง เน้นการฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้รายได้ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง 

ดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอีเดือนพ.ย. ค่อย ๆ กระเตื้อง 

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เดือนพ.ย. 2564 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ระดับ 44.9 มาอยู่ที่ระดับ 50.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินระดับค่าฐาน (50) เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 64 เป็นผลจากการผ่อนคลายการควบคุมการแพร่ระบาดของภาครัฐ รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ส่งเสริมธุรกิจรายย่อย 

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 58.1 ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ55.0 จากแนวโน้มการขยายตัวของยอดขายสินค้าและการให้บริการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศและในประเทศเพิ่มมากขึ้นในอนาคต หลังจากมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว 

‘แรงงานสมุทรสงคราม’ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด   อาสาสมัครแรงงาน 'ปลูกต้นไม้' ถวายเป็นพระราชกุศล 

ที่บริเวณสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรสงคราม ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม นางรภัสสา พานิกุล แรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 และวันดินโลก ปี 2564 โดยมีนางรภัสสา พานิกุล แรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม นางอัจฉรา  เราจุติธรรม  จัดหางานจังหวัดสมุทรสงคราม นายพูลโชค  โตประเสิรฐ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรสงคราม นางระพีพรรณ รัตนบริหาร สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม และนายวิชัย  จันทร์บุญ  ประกันสังคมจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

นางรภัสสา กล่าวว่า เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 และเนื่องในวันรู้รักสามัคคี 4 ธันวาคม 2564 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือให้แต่ละหน่วยงานจัด กิจกรรมจิตอาสา “รู้รักสามัคคี รักษ์สิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิต” เช่น การปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่เหมาะสมและสามารถบำรุงรักษาได้ต่อเนื่อง เป็นต้น ประกอบกับ องค์การสหประชาชาติ ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ประกาศรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันดินโลก และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรสงครามเป็นส่วนราชการที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยนำศาสตร์พระราชาด้านการพัฒนาที่ดินรวมทั้ง วันดินโลก เผยแพร่ให้เป็นที่รับทราบ และเกิดการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในโอกาสต่าง ๆ เพื่อเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวทางการจัดการดินที่ได้ทรงพระราชทานไว้ไปสู่การปฏิบัติสร้างประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ 

“ในวันนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ขึ้น ซึ่งต้องขอขอบคุณสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรสงคราม ที่ให้การสนับสนุนพื้นที่และช่วยดูแลรักษาต้นไม้ให้เจริญเติบโต รวมทั้งขอบคุณกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้การสนับสนุนพันธุ์กล้าไม้ ได้แก่ ต้นรวงผึ้ง มะฮอกกานี ราชพฤกษ์ และนนทรี 

'หมอยง' ห่วง ‘โอมิครอน’ แพร่หนักในไทย แนะรัฐเร่งตัดสินใจ หวั่นกระทบปากท้องปชช.

22 ธันวาคม 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

โควิด-19 โอมิครอน ความยากในการตัดสินใจของผู้บริหาร

การระบาดของ covid-19 สายพันธุ์โอมิครอน จะต้องเกิดในประเทศไทยอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว

ถ้าเป็นไปได้เราอยากให้ช้าที่สุดเพื่อรอระบบสาธารณสุขในการให้วัคซีนเข็ม 3 กระตุ้นให้ได้มากที่สุดก่อน การได้รับวัคซีน 2 เข็มไม่เพียงพอในการที่จะรับมือ โอมิครอน

โอมิครอน จะเข้ามาได้เร็วจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ Test to go โดยไม่มีการกักตัว เป็นไปได้ยากที่จะป้องกันการหลุดรอดของโอมิครอนเข้ามาระบาดในประเทศไทย ผู้เดินทางเข้ามาอาจอยู่ในระยะฟักตัว หรือสัมผัสระหว่างการเดินทาง

ฟังให้เคลียร์!! ปมดราม่าดูถูกคนลาว 'รถไฟลาว-จีน' ที่แท้เทียบ ‘ค่าบริการยุคนี้’ ทำคนทั่วไปเข้าถึงยาก

อย่าฟังความข้างเดียว 'ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้' ปมดราม่า 'รถไฟลาว-จีน' คนลาวจะไม่มีปัญญาได้นั่งเพราะราคาตั๋วรถไฟแพง ที่แท้เทียบเคียงรถไฟใต้ดิน-บนดินของไทยที่ค่าโดยสารแพง คนไทยไม่สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ทุกคน 

ดูคลิปเต็มได้ที่ >> https://www.youtube.com/watch?v=y_qFePulPDY&feature=youtu.be

(22 ธ.ค. 64) หลังจากกรณีที่สื่อรัฐบาล สปป.ลาว ออกมาตำหนิถึงการนำเสนอข่าวของ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ รายการ ‘ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้’ จัดโดย ‘นายถนอม อ่อนเกตุพล’ ที่กล่าวถึงการเปิดให้บริการเดินรถไฟลาว-จีน ทำนองว่าคนลาวจะไม่มีปัญญาได้ขี่ เพราะคนลาวมีเงินเดือนน้อย แต่ราคาตั๋วรถไฟแพง จนทำให้นายถนอม ต้องออกมากล่าวขอโทษชาวลาวไปแล้วนั้น

ล่าสุดนายถนอม ได้โพสต์คลิปรายการดังกล่าว ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 64 พร้อมระบุว่า “ทั้งสื่อไทย สื่อลาว ว่าผมดูหมิ่นคนลาว โปรดฟังชัดๆ ถ้าหมิ่นเขาแล้วทำประเทศเสียหาย ผมยินดีขอโทษ! เพราะไม่มีใครที่ไม่ผิด ขอว่า อย่าฟังความข้างเดียว”

สำหรับ รายการ ‘ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้’ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายถนอม กล่าวถึง ขบวนรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวรอบปฐมฤกษ์ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา 1,035 กม. กรุงเวียงจันทน์ถึงมณฑลยูนนาน ที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน อัตราค่าโดยสารจากเวียงจันทน์ - บ่อเต็น 680 - 1,510 บาท

นายถนอม กล่าวว่า...ยินดีกับพี่น้องลาวด้วยที่มีรถไฟฟ้าความเร็วสูงวิ่งบริการในประเทศทั้งขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร นี่คือสิ่งที่คนไทยรู้สึกว่าทำไมเรายังเปิดไม่ได้ ประเทศไทยเพิ่งสร้างได้ 3.5 กม. กรุงเทพ-โคราช 3.5 กม. แล้วเมื่อไหร่จะแล้วเสร็จ และจากโคราชระยะที่ 2 ไปถึงหนองคาย อีก 356 กม. แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top