Thursday, 26 June 2025
Hard News Team

ครม.ไฟเขียว สกพอ. เข้าใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. 14,619 ไร่ในอีอีซี  

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 22 มี.ค. 2565 ได้อนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) เข้าใช้ประโยชน์ที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) จำนวน 14,619 ไร่  ในท้องที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  เพื่อดำเนินโครงการศูนย์ธุรกิจ EECและเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ   
          
ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 มาตรา 36 ที่บัญญัติให้คณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) โดยความเห็นชอบของ ครม. มีอำนาจให้ สกพอ. เข้าใช้ประโยชน์ของ ส.ป.ก..เพื่อดำเนินการอื่นใดนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ 

'ไบเดน' เชื่อ!! 'ผู้นำรัสเซีย' กำลังหลังชนฝา จนอาจอ้างใช้อาวุธชีวภาพกับยูเครน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศว่า “แน่ชัดแล้ว” ว่ารัสเซียกำลังพิจารณาใช้อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพกับยูเครน พร้อมเตือนว่า หากรัสเซียทำจริง จะเผชิญการตอบโต้อย่างรุนแรงจากชาติตะวันตก

โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ปราศรัยต่อบรรดาผู้นำธุรกิจในกรุงวอชิงตัน ดีซี ว่า ตอนนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย “กำลังหลังชนกำแพง” พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซียว่า สหรัฐฯ ครอบครองอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในยูเครน

ไบเดนมองว่า ข้อกล่าวหาของปูติน แสดงให้เห็นว่า “ปูตินกำลังพิจารณาใช้อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในยูเครน” ดังนั้น สหรัฐฯ ควรจับตาว่ารัสเซียจะใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านี้จริงหรือไม่ หรือจัดฉากเพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้อาวุธเหล่านี้ พร้อมเตือนว่า ถ้ารัสเซียกระทำจริง จะเผชิญกับการตอบโต้อย่างรุนแรงจากชาติตะวันตก
 

สรุป 10 มาตรการ เร่งด่วน ช่วยปชช. ยุค 'วิกฤติ สงครามรัสเซีย-ยูเครน'

เปิด 10 มาตรการช่วยประชาชน ยุคแพงทั้งแผ่นดิน เริ่มเดือนพ.ค.-ก.ค. ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม ช่วยค่าน้ำมันจยย.รับจ้าง คงราคาก๊าซ NGV ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตน และลดค่าเอฟทีไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อ่านแถลงการณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนว่า จากสถานการณ์ความผันผวนของราคาพลังงาน สืบเนื่องจากสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้าและบริการต่างๆ ทำให้ค่าครองชีพมีการปรับตัวสูงขึ้น

ผมและรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตระหนักดีถึงความลำบากของประชาชนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อย และผู้ใช้แรงงาน

จากการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ข้อสรุปว่าสถานการณ์ระหว่างยูเครน-รัสเซีย อาจจะไม่จบลงโดยเร็ว ผมจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมความคิดเพื่อหามาตรการช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน เพิ่มเติมจากมาตรการต่างๆ ที่รัฐได้ออกไปแล้วและยังใช้อยู่ในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นได้ตั้งแต่เดือนพ.ค.จนถึงเดือนก.ค.นี้ อย่างน้อย 10 มาตรการ ดังนี้

1.) การเพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินจากเดิม 45 บาท เป็น 100 บาท/เดือน

2.) ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 5,500 คน

3.) ช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 157,000 คน โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 250 บาทต่อเดือน และขอให้กรมการขนส่งทางบกกำกับราคาการให้บริการเพื่อให้ประชาชนที่ต้องใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเท่าเดิม

4.) คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม

5.) ผู้ขับขี่แท็กซี่มิเตอร์ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน สามารถซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาท/กิโลกรัม

6.) ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค.

7.) ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. 2565 หลังจากนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึง

8.) กำกับดูแลการปรับราคาก๊าซหุงต้มในช่วงตั้งแต่เดือนเม.ย.- มิ.ย. โดยใช้กองทุนน้ำมันเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาให้ไม่ขึ้นสูงเกินไป

9.) ลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1% เพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถมีกำลังในการใช้จ่ายและผู้ประกอบการสามารถมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดไป

10.) ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือน
 

ครม.อนุมัติงบกลาง 811 ล้านบาท เป็นค่าตอบแทนเสี่ยงภัยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานส่วนหน้า ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกอส. คนละ 500 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 6 เดือน

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโรโรนา 2019 จำนวน 811.77 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนเสี่ยงภัยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานส่วนหน้า ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(สมาชิกอส.) ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ของกรมการปกครองจำนวน 270,590 คน ในอัตราคนละ 500 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564-มีนาคม 2565

ทบ. ยัน จ้างซ่อมบำรุงยานยนต์ล้อและสายพาน ดำเนินตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง กับบริษัทที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากประเทศผู้ผลิต

เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากหรณีการนำเสนอข่าวการจ้างซ่อมยานยนต์ล้อและรถสายพาน ตระกูลยูเครน ของกองทัพบก กับบริษัทผู้แทนประเทศผู้ผลิต ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน จำนวน 6 สัญญา วงเงิน 215 ล้านบาท โดยตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริหารของทั้ง 2 บริษัทที่ได้รับงานจ้างซ่อมนั้นมีความเชื่อมโยงกัน ทั้งนี้แม้สื่อยืนยันว่าไม่ปรากฏข้อมูลงานจ้างซ่อมฯ ดังกล่าวถูกร้องเรียน เรื่องความไม่โปร่งใสในการดำเนินการแต่อย่างใด ว่าการดำเนินการจ้างเหมาส่งกำลังและซ่อมบำรุงเป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างทุกประการ แต่เพื่อให้สังคมได้รับทราบในรายละเอียดของเรื่องนี้จากกองทัพบกโดยตรง กองทัพบกใคร่ขอเรียนข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ 

กองทัพบกตระหนักและให้ความสำคัญกับแนวทางการพึ่งพาตนเอง ในการจัดหายุทโธปกรณ์การซ่อมบำรุง รวมถึงการส่งเสริมผู้ประกอบการและหน่วยงานอุตสาหกรรมภายในประเทศ และได้ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับยานยนต์ล้อและรถสายพาน ตระกูลยูเครน เป็นยุทโธปกรณ์ที่กองทัพบกจัดซื้อโดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาลกับประเทศยูเครน และได้นำเข้ามาประจำการระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 โดยยุทโธปกรณ์ดังกล่าวมีสัญญารับประกันการใช้งานเป็นเวลา 2 ปี จากนั้นผู้ซื้อจะเป็นผู้ดำเนินการซ่อมบำรุงด้วยตนเอง ตลอดเวลาที่ใช้งานยุทโธปกรณ์ดังกล่าวก็ได้เข้าสู่กระบวนการปรนนิบัติบำรุงตามข้อตกลงในสัญญาด้วยความเรียบร้อย ต่อมากองทัพบกได้จัดทำโครงการจ้างเหมาส่งกำลังและซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ดังกล่าว ตามมาตรฐานการปรนนิบัติบำรุงยุทโธปกรณ์ตามปกติ

'สาธิต' ยอมรับ กังวล กมธ.แก้กม.ลูกติดโควิดหลายคน จะทำให้งานล่าช้า จ่อโหวต บัตร 2 ใบ เบอร์เดียว-คนละเบอร์  มั่นใจ เสร็จทันกรอบ 180 วัน ชี้ 'หมอระวี' มีสิทธิร้องศาลรธน. เหตุ เคืองสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ในประเด็นการคำนวณจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ  ว่า  ประเด็นนี้ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของกมธ.วิสามัญฯ เพราะได้งดประชุมในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีกรรมาธิการฯบางส่วนติดเชื้อโควิด-19  ส่วนประเด็นบัตร 2 ใบจะใช้เบอร์เดียวกันหรือคนละเบอร์นั้น จะมีการลงมติในสัปดาห์หน้า โดยในเบื้องต้นมีความเห็นแตกต่างออกเป็น 2 อย่าง แต่สำหรับตนนั้นเห็นด้วยกับการใช้บัตร 2 ใบและเป็นเบอร์เดียวกัน เพื่อป้องกันความสับสน

เมื่อถามว่าส่วนตัวมีความเห็นว่าสูตรคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้นเป็นอย่างไร  นายสาธิต กล่าวว่า  ขอฟังความคิดเห็นจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ก่อน ถ้าพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ จะต้องหารด้วย 100 คือจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องปฏิบัติตามความหมายรัฐธรรมนูญ  ส่วนคำว่า"พึงมี" นั้นไม่ได้อยู่ในฉบับแก้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ถือเป็นแม่น้ำสองสาย โดยสายแรกคือ บัญชีรายชื่อ 100 คน สายที่ 2 คือส.ส.ระบบเขต 400 คน โดยจำนวน 100 ต้องเป็นสัดส่วนที่มีความสัมพันธ์กัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวทางการคำนวณแบบนี้เป็นธงส่วนตัวของนายสาธิตใช่หรือไม่ มาสาธิต กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ตนตีความตามกฎหมาย เมื่อถามว่ามีกรรมาธิการฯที่เสนอสูตรคำนวณด้วย 500 จำนวนมากน้อยแค่ไหน  นายสาธิต กล่าวว่า มีผู้เสนอเข้ามาแต่เราก็ต้องนำมาพิจารณากัน 

ต่อก็ข้อถามว่าขณะนี้มีกรรมาธิการหลายคนติดเชื้อโควิค-19 จะส่งผลกระทบต่อ การพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ให้ล่าช้าหรือไม่  นายสาธิต กล่าวว่า ตนก็กังวลว่าจะล่าช้า เพราะตอนนี้มีการบริการที่ติดเชื้อโควิค-19 จำนวน 4 คนแล้ว เบื้องต้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ติดเชื้อจากการประชุมกรรมาธิการฯ แต่ติดจากที่อื่น  ตนจึงยังไม่ได้สั่งงดประชุมกรรมาธิการในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามอาจมีการปรับรูปแบบการประชุม อาทิ การเว้นระยะห่างของที่นั่ง เพื่อให้การทำงานยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้  ส่วนการลงมติครั้งหน้านั้น ตนกำลังพิจารณาว่าจะสามารถเปิดโอกาสให้กรรมาธิการฯ ลงมติผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้หรือไม่ 

เริ่มแล้ว..!!! ตรวจเลือกทหารกองประจำการปี 65 ทบ. แจ้งชายไทยเข้ารับการตรวจเลือกระหว่าง 1-20 เม.ย. นี้  ไปให้ตรงตามวันนัดในหมายเรียก

เมื่อวันที่ 22 มี.ค.พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกจะทำการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ ในปี 2565 ระหว่างวันที่ 1-20  เมษายน 65 (เว้นวันที่ 6 และ 13 - 15 เม.ย. 65) ซึ่งขณะนี้ทางราชการได้เตรียมความพร้อมทั้ง บุคลากร สถานที่ ระบบการบริหารจัดการที่กระชับรวดเร็ว อำนวยความสะดวกให้ผู้เข้ารับการตรวจเลือกอย่างเต็มที่ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 รวมทั้งคณะกรรมการตรวจเลือกที่จะดำเนินการพร้อมกันใน 77 จังหวัด  928 หน่วยตรวจเลือก โดยผู้ที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารในปีนี้ ได้แก่ ชายไทยที่เกิด พ.ศ. 2544 (อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์)  กับ ผู้ที่เกิด พ.ศ. 2536 - 2543 (อายุ 22-29 ปี ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก หรือการตรวจเลือกยังไม่แล้วเสร็จ) ให้เตรียมตัวเข้ารับการตรวจเลือก ตามวัน เวลา และสถานที่ที่กำหนดในหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร(แบบ สด.35)

พร้อมเตรียมเอกสารไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ได้แก่ บัตรประชาชน, ใบสำคัญทหารกองเกิน (สด.9), หมายเรียกฯ (สด.35), วุฒิการศึกษา, ใบรับรองแพทย์ เป็นต้น โดยเฉพาะผู้จะขอใช้สิทธิต่างๆ เช่น ลดเวลาประจำการตามวุฒิการศึกษา หรือผู้ที่ขอผ่อนผันต่อหรือขอสละสิทธิ์ผ่อนผัน รวมทั้งผู้ที่ต้องการสมัครเป็นทหาร ขอให้เตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อรักษาสิทธิของตนเองการตรวจเลือกทหารกองประจำการ เป็นหน้าที่ของชายไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยรับผิดชอบดำเนินการตรวจเลือกในภาพรวมและส่งมอบทหารกองประจำการให้กับทุกเหล่าทัพ เพื่อปฏิบัติงานตามภารกิจหน้าที่ต่อไป  ที่ผ่านมา กองทัพใช้วิธีการตรวจเลือกทหารกองประจำการแบบผสมผสานทั้งการเปิดโอกาสให้สมัครใจเป็นทหาร กับการดำเนินการคัดเลือกชายไทยตามจำนวนที่ทางราชการกำหนด

สำหรับในปี 2565 นี้ กองทัพบกได้ทำการคัดเลือกทหารกองประจำการไว้แล้วจำนวนหนึ่ง จากโครงการสมัครเป็นทหารกองประจำการ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ (ที่รับผู้ที่มีอายุ 18-20 ปี และ 22-29 ปี สมัครเป็นทหาร) ทำให้ยอดผู้ที่จะต้องเข้ามาเป็นทหารกองประจำการในปีนี้ลดลง กองทัพบกจึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครเป็นทหาร ต้องแจ้งความประสงค์ต่อคณะกรรมการทันทีในวันที่มารับการตรวจเลือก โดยกองทัพจะเปิดโอกาสให้มีการสมัครหรือร้องขอเป็นทหารก่อน จากนั้นหากมีจำนวนผู้สมัครยังไม่ครบตามความต้องการของทางราชการจึงจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม ในการพัฒนาการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ มุ่งสู่ระบบทหารกองประจำการอาสา ทดแทนการเรียกเกณฑ์ให้เป็นรูปธรรม 

“ประยุทธ์”อ่านสารเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2565 เชิญชวนทุกภาคส่วนตระหนักถึงการอนุรักษ์น้ำ ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ร่วมกันลดการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน ให้ไทยบรรลุวัตถุประสงค์ “ทศวรรษแห่งการร่วมมือปฏิบัติของทุกประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ของสหประ

เมื่อเวลา 11.57 น. วันที่ 22 มี.ค.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อ่านสารเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2565 เผยแพร่ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และสื่อออนไลน์ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำถึงความสำคัญของน้ำ ว่า ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายซึ่งองค์การสหประชาชาติได้ตระหนักถึงปัญหาทั้งการขาดแคลนน้ำ และการแย่งชิงทรัพยากรน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงได้กำหนดให้วันที่ 22 มีนาคมของทุกปี เป็นวันน้ำโลก เพื่อให้ประชาคมโลกร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า โดยในปี 2565 นี้ ได้กำหนดหัวข้อร่วมรู้จัก อนุรักษ์ น้ำใต้ดินเพื่อให้ทุกประเทศให้ความสำคัญกับการรักษาดูแลทรัพยากรน้ำใต้ดิน โดยเฉพาะการเจริญเติบโตขึ้นของเมือง และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการ ล้วนก่อให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำที่ไหลกลับลงสู่ใต้ดิน รวมไปถึงวิกฤตภัยแล้งที่ทำให้ปริมาณน้ำใต้ดินมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการรุกตัวของน้ำเค็มในหลายพื้นที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้น้ำใต้ดินที่ถือเป็นขุมทรัพย์น้ำจืดขนาดใหญ่มีคุณภาพต่ำลง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำใต้ดิน โดยได้ดำเนินการเติมน้ำใต้ดินตามหลักวิชาการมาโดยตลอด ตั้งแต่การฟื้นฟูป่าอันเป็นต้นทางสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ระบบนิเวศ การเติมน้ำใต้ดินผ่านแหล่งน้ำต่าง ๆ และมีการติดตามประเมินผลอย่างเป็นระบบมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ ลดการรุกล้ำของน้ำเค็ม บรรเทาอุทกภัย และการใช้ประโยชน์ในช่วงวิกฤตภัยแล้ง พร้อมกันนี้ยังได้ปลูกจิตสำนึกให้ชาวไทยทุกคนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ต่อไป 
 

'โฆษกก้าวไกล' มั่นใจ!! สนามกรุงเทพ ชี้!! กระแส 'วิโรจน์' ดีขึ้นต่อเนื่อง

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึง สนามการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ว่าขณะนี้หลายพรรคต่างเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ และ ส.ก.ออกมาหลังจากที่กรุงเทพมหานครไม่มีการเลือกตั้งมากว่า 8 ปี สำหรับพรรคก้าวไกลมีความมั่นใจและเตรียมความพร้อมมานาน ลงทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องจึงพร้อมส่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ครบทั้ง 50 เขต เพื่อเป็นแรงสนับสนุนการทำงานของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ คนต่อไป 

"กระแสของว่าที่ผู้ว่าวิโรจน์ ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องหลังเดินทางไปรับฟังปัญหาของกรุงเทพด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยไปพร้อมแนวทางออกทั้งระยะสั้นและระยะยาว ที่ต้องใช้ทั้งงบประมาณและความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ รวมถึง ส.ก.ที่จะเป็นพลังสำคัญในการผลักดันนโยบายของกรุงเทพให้เป็นจริง ซึ่งการเป็นพรรคการเมืองถือเป็นจุดแข็งในการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ เพราะนอกจากสามารถออกแบบนโยบายแล้ว ยังสามารถผลักดันให้เป็นจริงได้อย่างรวดเร็วด้วยแรงสนับสนุนจากสภาของกรุงเทพ"

'สถานทูตไทยในปักกิ่ง' จัดงานใหญ่ประจำปี 'Thai Fest 2022' ภายใต้ธีม 'สยามวันวาน' กระตุ้นคนจีนไม่ลืมเมืองไทย

ยังคงเป็นอีกภาพสะท้อนความสัมพันธ์อันดีของไทย-จีน หลังจากเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง (สอท.ปักกิ่ง) โดยนายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลไทย (Thai Fest) ณ กรุงปักกิ่ง ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 มี.ค. 65 ภายใต้ธีมงาน “Ancient Siam” หรือ "สยามวันวาน" พาทุกคนไปย้อนเสน่ห์วันวานของเมืองไทย ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง

โดยงานนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานรวมกว่า 4,000 คน ตามมาตรการจำกัดการเข้าร่วมของประชาชนในแต่ละรอบเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย เอกอัครราชทูตประเทศต่างประเทศประจำประเทศจีนและภริยา ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศจีน ประธานศูนย์อาเซียน-จีน ผู้บริหารภาคเอกชนไทยในจีน สื่อมวลชนจีนมากกว่า 30 สำนักข่าว ตลอดจนชุมชนไทยและประชาชนจีนในกรุงปักกิ่ง อีกทั้งยังมีผู้เข้าร่วมชมการถ่ายทอดสดบรรยากาศงานเทศกาลไทยผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลรวมประมาณ 12,640,000 ครั้ง และมีผู้เข้าชมวิดีโอแคมเปญกิจกรรมเทศกาลไทยในแอปพลิเคชัน Kuaishou รวมมากกว่า 120,000,000 การรับชม 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top