Monday, 23 June 2025
Hard News Team

'ปารีณา' ลั่น!! จากนี้จะขอทำงานนอกสภาต่อ พร้อมโชว์คลิปเพลงคนดีไม่มีวันตาย

‘ปารีณา’ โชว์คลิปเพลงคนดีไม่มีวันตายพร้อมภาพการทำงานบนเส้นทางการเมือง ลั่นหลังจากนี้จะขอทำงานนอกสภาต่อ พร้อมแจงปมที่ดิน

เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 7 เม.ย. 65 น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์คลิปเพลง "คนดีไม่มีวันตาย" ผ่านเฟซบุ๊ก ปารีณา ไกรคุปต์ หลัง ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่งส.ส., ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี จากคดีรุกป่าสงวน พร้อมข้อความดังนี้

ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีบนถนนการเมือง ปารีณาตั้งใจทำหน้าที่ผู้แทนทั้งในสภา และนอกสภาอย่างเต็มที่ ปารีณาทุ่มเทจิตใจ และทุนทรัพย์ให้กับพวกพ้องและพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ได้รับการยอมรับ และชนะเลือกตั้งตลอด ไม่เคยสอบตก วันนี้ ปารีณา ถูกพิพากษาลงโทษอย่างรุนแรง ไม่สามารถสมัครอะไรได้ตลอดชีวิต

ปารีณาบริสุทธิ์ใจ สุจริตใจจึงได้แจ้งต่อปปช. ด้วยตนเองว่าครอบครองทำประโยชน์อยู่บนที่ดิน ภบท5

พบว่า..สปก มีการประกาศเขตสปก จังหวัดราชบุรี แต่มิได้ประกาศกำหนดว่าซอยไหน ส่วนไหนของราชบุรี เป็น สปก ไม่มีแม้แต่ป้าย กำนันผู้ใหญ่ก็ไม่ทราบว่าตรงไหนเป็นหรือไม่เป็นสปก สปกวิ่งผ่านที่ดินฟาร์มไก่ ก็ไม่เคยทักท้วงหรือดำเนินคดี จนกระทั่งมีคนร้องเรียนว่าปารีณาบุกรุกป่า นำไปสู่การตรวจสอบและพบว่าที่ดินผืนดังกล่าว ไม่ใช่ป่า แต่เป็นพื้นที่ สปก ทั้งหมด ที่ยังไม่ได้มีการจัดสรรให้แก่ราษฏร (ยังไม่ได้จัดสรรแปลว่ายังไม่ได้เกิดความเสียหายหรือยังไม่ได้มีการแย่งที่ทำกิน) แต่มีการใช้งบประมาณดำเนินการแผนงานไปแล้ว และเหตุผลที่ยังไม่มีการจัดสรรเพราะสปกมีกำลังคนและงบประมาณที่จำกัด

พอปารีณาทราบว่าเป็น สปก จึงทำหนังสือส่งมอบคืนที่ดินพร้อมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้สปก ส่วนเพื่อนบ้านพอทราบว่าพื้นที่แถวนั้นเป็น สปก ก็เพิ่งจะไปออก สปกกัน #ภายหลัง จากมีเรื่อง

สุดสลด!! ลูกสาววัย 14 วางแผนให้แฟน 16 ปี ฆ่าแม่ตัวเอง อ้าง!! แม่กีดกันไม่ให้คบ แถมตอนทำอาการทางจิตกำเริบ 

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา พ.ต.ต.อุทิศ พาราษฎร สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุแทงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โครงการเอื้ออาทรขจรวิทย์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดไปที่เกิดเหตุ

ที่บริเวณหน้าตึก 39 เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำนายกิตติ เมาะราสี อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีแผลถูกของมีคมแทง ที่บริเวณกกหู 1 แผล ที่หลัง 2 แผล และตามตัวด้านหน้าอีกหลายแห่ง ทำแผลอยู่บนรถ โดยนายกิตติได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า นั่งอยู่ที่บริเวณหน้าตึก พอได้ยินเสียงโวยวายจึงได้รีบวิ่งไปที่ห้องน้องสาว น้องสาวตนได้พยายามดันไม่ให้ตนเข้าไปในห้อง โชคดีที่กลอนประตูยังไม่ได้ซ่อม จึงใช้แรงดันเข้าไปเห็นแม่กำลังโดนนายบอย (นามสมมุติ) ใช้มีดแทงอยู่ จึงเข้าไปพยายามช่วยแม่ แต่ตนก็โดนนายบีแทงด้วยเช่นกัน จึงรีบวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือด้านนอก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายกิตติ ส่งโรงพยาบาลบางนา 5

ส่วนบริเวณชั้น 1 หน้าห้องเลขที่ 198/1 พบนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นั่งอยู่ในสภาพเสื้อผ้า และเนื้อตัวเปื้อนเลือด ภายในห้องพบร่างนางสาวจีรพา ปาพรหม อายุ 53 ปี นอนหงายเสียชีวิตที่บริเวณหน้าห้องน้ำ มีแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่ บริเวณแก้มซ้าย 2 แผล แก้มขวา 1 แผล ลำคอด้านหน้า 3 แผล และท้ายทอยอีก 1 แผล รวมทั้งหมด 7 แผล ใกล้กันพบปลายมีดปอกผลไม้ปลายแหลม ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร และด้ามมีด ตกอยู่ที่พื้นห้อง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ภายในห้องยังพบเด็กหญิงเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี กำลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนอยู่ โดยให้การรับสารภาพ และอยู่เพื่อรอมอบตัวไม่คิดจะหนี

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' โพสต์ข้อความผิดหวังใน 'รัฐบาล' หลังคนโกงจำนำข้าวกำลังเดินออกจากคุก

จากกรณีที่มีการเรียกให้มีการแก้ปัญหาการลดโทษให้นักโทษ โดยเฉพาะนักโทษคดีทุจริตคอร์รัปชัน กระทั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 64 ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน และครบกำหนดในวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ว่า...

น่าผิดหวัง!! ไม่รู้ว่าคนที่มีอำนาจ คนที่เกี่ยวข้องคิดอะไร ยังไง ไม่อายหรือ

รัฐธรรมนูญปราบโกง รัฐบาลนี้ประกาศต่อต้านการทุจริต ต้องใช้หนี้จำนำข้าวจากรัฐบาลก่อน

แต่คนที่ติดคุกจากการทุจริตจำนำข้าว ศาลตัดสินจำคุก 50 ปี ติดจริงไม่กี่ปีกำลังจะเดินออกจากคุก แต่หนี้อันเกิดจากการจำนำข้าวยังใช้กันไม่หมดเลย

ทำกันอย่างนี้ ใครมันจะกลัวข้อหาทุจริต ประพฤติมิชอบ

‘หมอธีระวัฒน์’ ชี้ชัดควรฉีดวัคซีนกี่เข็ม ลั่นไม่ต่อต้าน แต่ไม่อยากให้ฉีดมากไป

‘หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา’ ลั่นไม่เคยต่อต้านวัคซีน แค่ต้องการให้ฉีดไม่มากเกินไป เผยชัดแท้จริงต้องฉีดกี่เข็มกันแน่

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า

“ประกาศให้ทราบทั่วกันนะครับ ไม่เคยต่อต้านวัคซีนแต่ต้องการให้ฉีดไม่มากเกินไปคือ 3 หรือ 4 ถ้าเริ่มต้นด้วยเชื้อตายสองเข็มก็ต่อด้วย ชั้นผิวหนัง 2 เข็ม PZ หรือ MDN เริ่มต้นด้วย AZ 2 เข็ม ก็ต่อด้วย ชั้นผิวหนัง PZ หรือ MDN เข็มเดียวพอ

อย่าหลงเชื่อ!! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้าง ส่งภาพ 'ผบ.ตร.' ข่มขู่หลอกโอนเงิน ด้านตำรวจเชียงใหม่ เร่งติดตามดำเนินคดีกรณีหลอกลวงแม่ค้า

จากกรณีแม่ค้าขายขนม ที่ศูนย์การค้ากลางเมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงินโดยนำภาพ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาใช้ในการข่มขู่ จนเหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินไปให้ 

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 พ.ต.อ.ไพศาล นันตา โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.แม่ปิง จว.เชียงใหม่ และให้การว่า คนร้ายใช้วิธีการเดิมในการแอบอ้าง 

“วิธีการของคนร้ายโทรศัพท์ติดต่อเข้ามา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จังหวัดเชียงราย มีพัสดุเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่งไปยังประเทศจีน ซึ่งถูกอายัดไว้ และโอนสายให้คุยกับชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจระดับสารวัตร พร้อมทั้งยังส่งรูปภาพของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาทำการข่มขู่ ทำให้แม่ค้าขายขนมรายนี้ เกิดความหวาดกลัวว่า จะถูกจับกุมดำเนินคดี จึงยอมโอนเงินจำนวน 2,000 บาท ที่เตรียมจะนำไปซื้อสมุด และหนังสือให้ลูกชาย ไปให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์”

โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และผู้ร่วมกระทำการมาดำเนินการตามกฎหมาย 

“ในเบื้องต้นไปประสานธนาคารผู้รับโอน เพื่อขออายัดบัญชีแล้ว  และจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาต่อไป ซึ่งดำเนินการดังกล่าวร่วมกับการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร พฤติการณ์ใหม่ ๆ ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลามาแจ้งยังพี่น้องประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญเพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอให้ประชาชนได้ติดตามข่าวสารของทางราชการและบอกต่อญาติและครอบครัวเพื่อป้องกันมิให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเหล่านี้ได้โดยง่าย”

“เฉลิมชัย” สั่งฟัน แอบอ้างเป็นที่ปรึกษา เคลียร์ล้งทุเรียนอ่อนจันทบุรี ด้าน “อลงกรณ์” มอบฝ่ายกฎหมายรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีพร้อมขับจากสมาขิกพรรค

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีมีบุคคลแอบอ้างเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี เข้าเคลียร์ล้งทุเรียนอ่อน  จากการตรวจสอบบุคคลดังกล่าว ยืนยันได้ว่าไม่มีการแต่งตั้งและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับตนทั้งสิ้น ถ้าหากกรณีบุคคลดังกล่าวมีการกระทำใดที่เข้าข่ายผิดกฏหมายขอให้ดำเนินการตามกฏหมายได้ทันที

ทั้งนี้นโยบายปราบปรามทุเรียนอ่อน เป็นนโยบายของตน ซึ่งดำเนินการมาตลอด 2 ปีกว่าและดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนทุเรียนได้ราคาที่เป็นธรรม และตนอยากจะเน้นย้ำว่า การขายทุเรียนอ่อนถือเป็นการบ่อนทำลายวงการทุเรียนที่ตนยอมไม่ได้อยู่แล้ว

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ทันทีที่ทราบเรื่องได้ประสานกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีและท่านผอ.สวพ.6ให้ดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลผู้แอบอ้างและให้ยึดนโยบายปราบปรามทุเรียนอ่อนอย่างเด็ดขาดอย่ากลัวเกรงอิทธิพลใดๆ

สองความงามคู่มหานคร ‘พระปรางค์วัดอรุณ’ และ ‘สะพานภูมิพล’

Landmark  
Krung Thep Maha Nakhon (Bangkok)
พระปรางค์วัดอรุณ และ สะพานภูมิพล
ถ่ายจาก ลุมพินีเพลส บรมราชชนนี


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=514419353375061&set=a.242244413925891


👍 มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565

สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565

(7 เม.ย.65) พล.ต.ต.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในหนังสือสั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมดูแลประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ระหว่างวันที่ 13-17 เม.ย.65 อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การก่อความไม่สงบเรียบร้อย รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ยังไม่น่าไว้วางใจ 

เพื่อให้การป้องกันปราบปราบอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย และการดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในห้วงวันหยุดยาวดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่จึงให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้ 

ให้ บช.น.,ภ.1-9,ก.,ปส.,ทท.,สตม,สอท. และ ตชด. จัดทำแผน/มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมให้สอดคล้องเหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์มากที่สุด โดยให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างวันที่ 8-17 เม.ย.65 เน้นความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง อาวุธปืนและเครื่องกระสุน วัตถุระเบิด และสถานบริการ รวมถึงให้ความสำคัญกับการหลอกลวงออนไลน์ ด้านการเงินและการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ สินค้าที่ผิดกฎหมาย ตามแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยสั่งการไปแล้ว และให้สถานีตำรวจทุกแห่งจัดสายตรวจทุกประเภทออกตรวจตราสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายและสถานที่ที่มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย และให้คำนึงถึงมาตรการทางสาธารณสุข ทั้งตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติและประชาชนทั่วไป 

นอกจากนี้ ให้จัดทำ “โครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)” ระหว่างวันที่ 8-17 เม.ย.65 เพื่อเสริมการปฏิบัติในการป้องกันอาชญากรรมที่โดยปกติตำรวจได้ปฏิบัติเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เพื่อเป็นทางเลือกที่จะสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน

อีกทางหนึ่ง ประชาชนสามารถเข้าร่วมโครงการฯ โดยการลงทะเบียนผ่าน Application “OBS” หรือสามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการฯได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยหัวหน้าสถานีตำรวจต้องประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินการของโครงการฯนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติรับทราบและเข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ด้านการอำนวยความสะดวกการจราจร ให้เตรียมความพร้อมกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ให้สอดคล้องและเหมาะสมในการอำนวยความสะดวกการจราจร เช่น รถยกหรืออุปกรณ์เคลื่อนย้ายรถ กรณีมีเหตุรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ โดยมอบหมายให้ตำรวจทางหลวงเป็นหน่วยงานหลักในการในจัดการจราจรบนถนนทางหลวง และให้ตำรวจท้องที่เป็นหน่วยสนับสนุนในกรณีอำนวยความสะดวกการจราจรในจุดที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย  รวมถึงพิจารณาเส้นทางกำหนดเป็นช่องทางเดินรถพิเศษ(Reversible Lane) เส้นทางที่ห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เส้นทางลัด เส้นทางเลี่ยง ในการเร่งระบายการจราจร ทั้งกำชับให้กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดในข้อหาหลักที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและส่งผลกระทบต่อการจราจร เช่น การตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร หรือตรวจวัดแอลกอฮอล์ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ส่วนการป้องกันและลดอุบัติเหตุให้แต่พื้นที่ให้นำสถิติข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ สภาพปัญหา มาใช้ในการกำหนดแผนเพื่อหาทางป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน

เลขาธิการพระปกเกล้า หารือเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประสานความร่วมมือด้านวิชาการ ประชาธิปไตย มุ่งส่งต่อความรู้สู่สากล

(7 เม.ย.65) ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ,ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. ไชยวัฒน์ ค้ำชู ผู้อำนวยการวิทยาลัยการเมืองการปกครอง และนางกาญจนา ศรีปัดถา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้การต้อนรับ H.E. Ms. Orna Sagiv เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย พร้อมคณะ เข้าพบผู้บริหารสถาบันพระปกเกล้า เพื่อแนะนำตัวเนื่องในโอกาสการเข้ารับตำแหน่งใหม่

ทั้งนี้ยังร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็น บทบาทหน้าที่ของพลเมือง บทบาทหน้าที่ของเยาวชนและความรับผิดชอบต่อสังคม การให้การศึกษาด้านประชาธิปไตย เป็นต้น 

ซึ่งท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลให้ความสนใจในบทบาทหน้าที่ของสถาบันพระปกเกล้าในการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการแก่สาธารณะ จึงมีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือในงานด้านวิชาการเพื่อส่งเสริมและยกระดับความรู้ร่วมกัน ทั้ง งานสัมมนาทางวิชาการ งานศึกษาวิจัย รวมถึงหลักสูตรของสถาบันพระปกเกล้า โดยเฉพาะในประเด็นด้าน Peace, Parliament, National Service และ Social Responsibility

ประชุมคณะกรรมการบริหาร ศรชล. ครั้งที่ 2/2565 ผ่านสื่อ Zoom

(7 เม.ย.65) พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (รอง ผอ.ศรชล.) เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหาร ศรชล. ครั้งที่ 2/2565 ณ ห้องประชุมกองบัญชาการกองทัพเรือ ชั้น 6 อาคารกองบัญชาการกองทัพเรือ (พื้นที่วังนันทอุทยาน) และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Zoom)  

โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พลเรือเอก เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเลขาธิการ ศรชล. รวมถึงกรรมการบริหาร ศรชล. และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่สำคัญคือ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร  นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวสัดิการและคุ้มครองแรงงาน พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านความปลอดภัย นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายอุกกฤต สตภูมินทร์ ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  เข้าร่วมประชุมฯ 

พลเรือตรี อิทธิพัทธ์ กวินเฟื่องฟูกุล โฆษก ศรชล. กล่าวว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการบริหาร ศรชล. ครั้งที่ 2/2565 ในวันนี้นับเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อน ศรชล. ตามพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 มีหน้าที่ พิจารณา ให้ความเห็นหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดทำแผนงาน โครงการ และงบประมาณ ให้คำปรึกษาในการ ปฏิบัติงานในหน้าที่และอำนาจของ ศรชล. รวมทั้งวางระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ด้านต่างๆ ของ ศรชล. 

โดยมีสาระการประชุมที่สำคัญ สรุปได้ดังนี้ 

1.ความก้าวหน้าในการขอความเห็นชอบ ต่อ ครม. ในการจัดทำอัตรากำลังแทน ศรชล. ซึ่ง ศรชล. ได้ดำเนินการรวบรวมเรื่องในการขออนุมัติอัตรากำลังแทนจากหน่วยงานหลักของ ศรชล. เสนอต่อ ครม. เมื่อ 15 ก.พ.65 เพื่อพิจารณาอนุมัติกำหนดอัตรากำลังแทนของ 6 ส่วนราชการ รวม 855 อัตรา และต่อมาในวันที่ 5 เมษายน 2565 ครม. ได้พิจารณาและเห็นชอบในหลักการเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้หน่วยงานต่าง ๆ ของ ศรชล.จะต้องดำเนินการตามแผนการบริหารจัดการกำลังพลของหน่วยเพื่อการบรรจุกำลังพลใน ศรชล. ต่อไป

2.การจัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนา ศรชล. เมื่อ 9 มีนาคม 2565 ระหว่างวันที่ 8 - 9 มีนาคม 2565 ณ วัดชิโนรสารามวรวิหาร มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการระลึกถึงความสำคัญ และเกิดความภาคภูมิใจในการปฏิบัติภารกิจรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ให้มีความรัก ความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ โดยมีจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ "จิตอาสาเราทำความดี ด้วยหัวใจ" และกิจกรรมประกอบพิธีสงฆ์ เพิ่มความเป็นสิริมงคล รวมถึงเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน

3.การแถลงผลสัมฤทธิ์ต่อคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ของ ศรชล. ที่ผ่านมา ประกอบด้วย

3.1 การขับเคลื่อนแนวทางพัฒนาการรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล โดยได้นำเสนอผลสัมฤทธิ์และผลการปฏิบัติงานที่สำคัญใน ห้วงปี พ.ศ. 2562 – 2564 ในด้านการคุ้มครองการใช้ประโยชน์จากทะเล ด้านการสร้างความสงบเรียบร้อย และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทะเล รวมทั้งโครงการตามแนวทางพัฒนาการรักษาความมั่นคงและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ดังนี้ 

3.1.1 โครงการจัดหาระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)  

3.1.2 โครงการจัดหาระบบควบคุมการปฏิบัติและติดตามสถานการณ์ทางทะเล (C2)  

3.1.3 โครงการจัดหาระบบวิเคราะห์ข้อมูลเรือ 

3.1.4 โครงการจัดหาระบบฐานข้อมูลตำบลที่เรือที่ได้จากระบบรายงานตำบลที่เรืออัตโนมัติ (Automatic Identification System : AIS)  

3.1.5 โครงการบูรณาการและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างหน่วยงานหลักของ ศรชล. 

3.1.6 โครงการจัดทำแผนเผชิญเหตุของ ศรชล. ในด้านต่าง ๆ 

3.1.7 โครงการพัฒนากลไกการประสานงานเพื่อสร้างเครือข่ายและความร่วมมือ 

3.1.8 โครงการจัดตั้งศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัด PSCC (Port Security Control Centre)  

3.1.9 โครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบ ONE MARINE CHART

ศรชล. ได้ชี้แจงการดำเนินงานที่สำคัญของ ศรชล. ในห้วงปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในการดำเนินการต่อภัยคุกคามทางทะเล ได้แก่ (1) การกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธ  (2) การทำการประมงผิดกฎหมาย  (3) การค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าเมืองทางทะเล (4) การลักลอบขนยาเสพติด อาวุธ สินค้าต้องห้าม (5)การลักลอบค้า ลำเลียงสินค้า

สองวัตถุประสงค์ ตามมติข้อห้ามขององค์การสหประชาชาติ (6) เหตุการณ์ร้ายแรงทางทะเล (7) การก่อการร้ายทางทะเล (8) ภัยพิบัติ

ทางธรรมชาติ (9) การกระทำผิดกฎหมายที่เป็นภัยต่อระบบนิเวศทางทะเล (10) สถานการณ์อื่น ๆ ที่ ศรชล. กำหนด นำเสนอผลการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมายสั่งการจากรัฐบาล ได้แก่ การดำเนินงานใน ศรชล. ในศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.)  การดำเนินการแก้ไขปัญหาจากกรณี อ่าวบ้านดอน จว.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น

3.2 การโครงการพัฒนากลไกการบูรณาการความร่วมมือและการปฏิบัติกับทุกภาคส่วน ดังนี้

3.2.1 โครงการประสานความร่วมมือ ระหว่าง ศรชล. กับ กอ.รมน.   

3.2.2 โครงการความร่วมมือการคุ้มครองสิทธิในการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินทางทะเลระหว่าง สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กับ ศรชล. 

3.2.3 โครงการหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน ของ ศรชล. เลขหมายโทรศัพท์ 1465 เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารจากภาคประชาชน สำหรับรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน เหตุด่วนเหตุร้าย การช่วยชีวิตประชาชน ซึ่งมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

4.ผลการปฏิบัติตามนโยบายการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ทั้งนี้ปัจจุบันในภาพรวมของการปฏิบัติตามนโยบายการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ของ ศรชล. ของทุกหน่วยงานใน ศรชล. เป็นไปตามเป้าหมายและตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ตามแผน

5.คณะกรรมการบริหาร ศรชล.เห็นชอบหลักสูตรพัฒนากำลังพล ศรชล. สำหรับข้าราชการบรรจุใหม่  และระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับสวัสดิการของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ใน ศรชล. 

6.ขอความร่วมมือให้หน่วยต่าง ๆ บูรณาการการปฏิบัติงาน เพื่อยกระดับการปฏิบัติงานในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top