Monday, 23 June 2025
Hard News Team

'บิ๊กป้อม' ประชุม 'กองทุนกีฬาฯ' เร่งพัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศระดับสากล  พร้อมดูแลสวัสดิการนักกีฬา-นักกีฬาคนพิการ  สร้างขวัญกำลังใจ  ชื่นชมความสำเร็จ ไทยคว้าแชมป์ 'AFF FUTSAL 2022' สมัยที่16 ขอบคุณนักกีฬา/ทีมผู้ฝึกสอน สร้างชื่อเสียงให้ไทยต่อเนื่อง

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่2/2565  ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด  ผ่านระบบ วีดีโอคอนเฟอเรนซ์

ที่ประชุม ได้รับทราบรายงาน ผลการให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการกีฬาของกองทุนฯ ได้แก่ค่ารักษาพยาบาล กรณีอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย และเงินช่วยเหลือครอบครัว กรณีเสียชีวิต ตลอดจนการให้ทุนการศึกษา แก่นักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬา ประจำปี2564 โดยมีผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาทุน รวม 372 คน จากสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย 206 คน และจากสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด 166 คน ซึ่งปัจจุบันกองทุนฯได้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษา แก่นักกีฬาและบุคลากรกีฬา โดยเป็นทุนต่อเนื่อง(ปี60-63) จำนวน 201 คนแล้ว  รวมถึงรับทราบความคืบหน้ากิจกรรมขับเคลื่อนกีฬามวยไทย ของสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นฯ ผ่านองค์กรกีฬานานาชาติ ที่ได้รับการรับรองจาก IOC (IFMA) ได้แก่รายการ European Muaythai Championships 2022 ประเทศตุรกี ,รายการ World Expo Dubai ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ รวมถึง การส่งเสริมตำรามวยไทย 9 ขั้น เข้าสู่ระบบการศึกษาในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ 

จากนั้นที่ประชุม ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ แผนงานการสนับสนุนระบบการพัฒนานักกีฬา สู่ความเป็นเลิศ ทั้งในระดับชาติ/นานาชาติ (เพิ่มเติม) และการพัฒนาบุคลากรกีฬา(เพิ่มเติม) ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และหลักเกณฑ์ของกองทุนฯ และเห็นชอบการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนกิจกรรม/เครื่องมือทางด้านวิทยาศาสตร์อาชีพการกีฬา(เพิ่มเติม) รวมทั้งโครงการจัดหาอุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬา และเห็นชอบส่งเสริมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ/ระดับชาติ (เพิ่มเติม) พร้อมทั้ง เห็นชอบสนับสนุนเงินรางวัลให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา 8 สมาคม จาก 10 รายการที่ผ่านมา รวมเป็นเงิน 49,050,000 บาท 

รมว.สุชาติ แจงเงื่อนไข ใครมีสิทธิกู้เงินกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน รับดอกเบี้ย 0% 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แจงคุณสมบัติผู้มีสิทธิกู้ยืมเงินจากกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน พร้อมรับดอกเบี้ย 0% ในงวดที่ 1 -12  หลังมีผู้สนใจและสอบถามหลักเกณฑ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยคุณสมบัติของผู้กู้จะต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีการดำเนินการร่วมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน มีสถานประกอบการที่สามารถติดต่อได้ ซึ่งมีได้ทั้งประเภทบุคคลและกลุ่มบุคคล 

“พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพี่น้องแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ และกลุ่มเปราะบางที่ต้องการทำงาน มีรายได้ และยังมีศักยภาพ แต่ไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยกำชับกระทรวงแรงงานดูแลช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม ทั่วถึงเพื่อให้สามารถก้าวต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์โควิด – 19  ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 กรมการจัดหางานได้รับอนุมัติวงเงินกู้ยืม จำนวน 5,000,000 บาท โดยให้ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้รับงาน/กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน จากร้อยละ 3 ต่อปี ลดเหลือร้อยละ 0 ต่อปี งวดที่ 1-12 โดยสามารถยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 31 สิงหาคม 2565 ณ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด ในท้องที่ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้านของกรมการจัดหางานพร้อมให้บริการแก่ผู้จ้างงานที่ต้องการจะส่งงานให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน ประชาชนทั่วไปที่ต้องการจะรับงานไปทำที่บ้าน และผู้รับงานไปทำที่บ้าน ซึ่งมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้กู้เงินและการชำระหนี้เงินกู้ ดังนี้

กรณีบุคคล วงเงินกู้ 1 - 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี มีคุณสมบัติดังนี้    
1. ต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน
2. มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือ มีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน
3. มีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท 
4. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
5. ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน

กรณีกลุ่มบุคคล วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ชำระคืนภายใน 2 ปี วงเงินกู้ 50,001 - 100,000 บาท ชำระคืนภายใน 4 ปี และวงเงินกู้ 100,001 - 300,000 บาท ชำระคืนภายใน 5 ปี โดยมีคุณสมบัติดังนี้
1. เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียน (กลุ่มบุคคล) กับกรมการจัดหางาน
2. ต้องมีสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน
3. มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือ มีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน
4. มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท
5. ไม่เคยเป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน

ชาวพม่าในไทยเดือด!! ไม่พอใจคำขู่สถานทูตพม่าในไทย ห้ามหนุน NUG - PDF รุดเขียนจดหมายด่าติดเต็มกำแพงที่ ถนนสาทร

เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ที่สถานทูตพม่า ประจำประเทศไทย ถนนสาทรเหนือ กรุงเทพฯ ชาวพม่าจำนวนหนึ่งซึ่งทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้แสดงความไม่พอใจสถานทูต โดยเขียนข้อความด่าทอ ต่อว่าจำนวนมาก แล้วนำไปติดไว้บริเวณป้ายและกำแพงสถานทูตเต็มไปหมด

เนื้อความที่เขียนด่า ส่วนมากเป็นการโจมตีบทบาทของสถานทูตที่ให้การสนับสนุนสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) หรือที่คนพม่าซึ่งอยู่ฝ่ายต่อต้านเรียกสั้นๆ ว่า “สภาทหาร” ที่กำลังทำหน้าที่บริหารประเทศพม่าอยู่ในขณะนี้ หลายเนื้อความใช้ถ้อยคำรุนแรงในทำนองที่ว่า สถานทูตทำตัวเป็นทาสรับใช้ทหาร สถานทูตเป็นพวกก้มหัวรับใช้ทหาร เราไม่ต้องการสถานทูต

ปฏิกิริยาไม่พอใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2565 สถานทูตพม่า ประจำประเทศไทย ได้ออกประกาศเตือน เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ และเพจทางการบนเฟซบุ๊ก

เลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศส สูสี! ผู้สมัครต้าน 'นาโต' เบียด 'มาครง' คาด!! หากคว้าชัย อาจถอนตัวจากสหภาพยุโรป

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง และผู้ท้าชิงอย่าง มารีน เลอ แปง ผ่านเข้าไปชิงชัยในรอบ 2 ของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส หลังมีคะแนนเบียดกันคู่คี่สูสีในศึกเลือกตั้งรอบแรก กลายเป็นการเชผิญหน้าโดยตรงระหว่างฝ่ายฝักใฝ่เสรีนิยมทางเศรษฐกิจกับฝ่ายชาตินิยมขวาจัด ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านการเป็นสมาชิกอียู และนาโต้

จากการที่ มาครง มีคะแนนนำหน้า เลอ แปง หลังผ่านพ้นศึกเลือกตั้งรอบแรกในวันอาทิตย์ (10 เม.ย.) ทำให้ผู้สมัครคนสำคัญอื่นๆ ต่างพากันออกยอมรับความพ่ายแพ้ ยกเว้นแต่ เอริค เซมมูวร์ ผู้สมัครฝ่ายขวาจัดอีกคน ทั้งหมดเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งกลับมาลงคะแนนในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพล Ifop พบว่า คะแนนนิยมของทั้งคู่เป็นไปอย่างสูสี โดย มาครง ได้แรงหนุน 51% ส่วน เลอ แปง มีคะแนนนิยม 49% และด้วยขอบเขตความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 ดังนั้นชัยชนะจึงสามารถออกไปทั้ง 2 ทาง

ในปี 2017 มาครง คว้าชัยชนะไปด้วยคะแนนโหวต 66.1%

อย่างไรก็ดี เลอ แปง ทำคะแนนตีตื้นขึ้นมา หลังจากมีคะแนนนิยมตามหลัง มาครง ห่างถึง 10 จุด ในผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผลจากการรณรงค์หาเสียงที่มุ่งเน้นประเด็นค่าครองชีพ โดยเธอบอกว่าเธอเป็นคนเดียวที่ปกป้องผู้อ่อนแอและสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศ ที่เหนื่อยหน่ายกับบรรดาผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองทั้งหลาย

มาครง รวบรวมคะแนนเสียงได้ราว 28.1-29.5% ในศึกเลือกตั้งรอบแรก ส่วนเลอ แปง มีคะแนนราว 23.3-24.4% จากการคาดการณ์ของสำนักโพล Ifop, OpinionWay, Elabe และ Ipsos ขณะที่ผลอย่างเป็นทางการคาดหมายว่าจะมีการยืนยันออกมาหลังจากนี้ในวันอาทิตย์ (10 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น

ทั้งนี้ เป็นเวลานานกว่า 2 ทศวรรษแล้วที่ไม่มีประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนใดที่ชนะเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งเป็นสมัย 2

ไม่ถึง 1 เดือนก่อน มาครง อยู่บนเส้นทางกลับสู่เก้าอี้อย่างสบายๆ จากผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆ ผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และบทบาทรัฐบุรุษของเขาในความพยายามหลีกเลี่ยงสงครามในยูเครน บนปีกตะวันออกของยุโรป

อย่างไรก็ตาม เขามาเสียท่าเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายของหาเสียง และถูก เลอ แปง ลดช่องว่างลงมาเรื่อยๆ

เลอ แปง ซึ่งเคยชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย อย่างเปิดเผย จนกระทั่ง ปูติน รุกรานยูเครน ได้เดินทางเยี่ยมเยือนเมืองและหมู่บ้านต่างๆ เป็นเวลานานหลายเดือน เธอมุ่งเน้นประเด็นค่าครองชีพที่ก่อปัญหาแก่ประชาชนหลายล้านคน และฉวยประโยชน์จากความขุ่นเคืองที่มีต่อคณะผู้ปกครองประเทศ

'เพื่อไทย' บี้ 'บิ๊กตู่' ปลด 'แรมโบ้' เซ่นคลิปหวยฉาว อย่าอ้าง 'พูดเล่น' คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้กินหญ้า

เด็กเพื่อไทย บี้ ‘บิ๊กตู่’ ตัดไฟต้นลมจัดการ ‘แรมโบ้’ หลังคลิปฉาวหลุด ข้องใจมีผลประโยชน์แฝง เร่งแก้หวย เผย ส.ส.เลย เล็งฟ้องกล่าวหาเสียหาย

11 เม.ย. 65 นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่มีคลิปอัดเสียงของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด หลุดออกมาในเชิงเรียกค่าตอบแทนในโควตาหวย ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับเองว่าเป็นเสียงตัวเองจริง แต่อ้างว่าเป็นการพูดเล่น และอ้างว่ามีการตัดต่อ ซึ่งประชาชนในสังคมส่วนมากไม่มีใครเชื่อ คนไทยไม่ได้กินหญ้า และมีการสำรวจของสื่อมวลชนหลายแห่ง ผลออกมาว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าน่าจะเป็นการกระทำผิดจริง ไม่ใช่การพูดเล่น เพราะได้รับการแต่งตั้งจากพลเอกประยุทธ์มาดูแลเรื่องลอตเตอรี่โดยเฉพาะ อยากให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและผู้บังคับบัญชาโดยตรงได้ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง และ จัดการอย่างเด็ดขาดหากมีการกระทำผิด

การที่พลเอกประยุทธ์พูดคล้ายเป็นการปกป้องนายเสกสกล จะยิ่งทำให้พลเอกประยุทธ์เสื่อมเสียได้ และพลอยจะมีมลทินติดตัวไปด้วย โดยประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ได้รับเรื่องเพื่อตรวจสอบแล้ว โดยยังได้บอกว่าหลักฐานชัดเจนและเจ้าตัวรับเองว่าเป็นเสียงตนเองจริง หากจำกันได้ นายเสกสกลได้มาพูดพาดพิงถึง นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ในเรื่องมังกรฟ้าและทีมฟุตบอลเมืองเลยยูไนเต็ด ที่นายเลิศศักดิ์เป็นประธานกิตติมศักดิ์อยู่ โดยนายเลิศศักดิ์ได้อธิบายชัดเจนว่า มังกรฟ้าไม่ได้มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับทีมฟุตบอลเลยยูไนเต็ดเลย มังกรฟ้าเป็นสปอนเซอร์ของลีกฟุตบอลดิวิชั่น 3 ของสมาคมฟุตบอล และ เป็นสปอนเซอร์ของสนามฟุตบอลที่ทีมฟุตบอลเลยยูไนเต็ดเช่าอยู่เท่านั้น ทีมฟุตบอลเลยยูไนเต็ดมีสปอนเซอร์หลักที่มีมาตรฐานเช่น กลุ่มโรงน้ำตาลมิตรผล เมืองไทยประกันชีวิต เรื่องดังกล่าวนายเลิศศักดิ์ กำลังปรึกษาทนายความเพื่อเตรียมการฟ้องร้องนายเสกสกลที่ทำให้นายเลิศศักดิ์และพรรคเพื่อไทยเสียหายและถูกคนเข้าใจผิด เรื่องนี้นายเสกสกลพยายามให้ร้ายนายเลิศศักดิ์ แต่ปัญหากลับไปเกิดกับนายเสกสกลเองเป็นเหมือนกรรมตามทันอย่างรวดเร็ว

'เทพไท' วอนทุกฝ่าย หยุดสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง อย่าฟื้นอดีตเพื่อปฎิเสธความผิดของตัวเอง 

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebookส่วนตัว ข้อความว่า ผมเห็นภาพการเคลื่อนไหวของแกนนำคนเสื้อแดงบางคน ที่ฉวยโอกาสใช้วันที่ 10 เมษายน จัดกิจกรรมรำลึกคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต และใช้โอกาสนี้เคลื่อนไหวทางการเมือง รื้อฟื้นความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนำเอาเหตุการณ์ความขัดแย้งในอดีต ขึ้นมาขยายผลและตอกย้ำ สร้างเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งของสังคมขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งที่ความรู้สึกของผู้คนในสังคมกำลังจะคลี่คลายสลายสีเสื้อให้หมดสิ้นจากสังคมไทยไปแล้ว และสังคมก็ไม่อยากจะเห็นความขัดแย้งทางการเมือง หรือการชุมนุมทางการเมืองบนท้องถนน แบบปักหลักพักค้าง แรมเดือนแรมปีเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นการทำลายเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติจากประชาคมโลก แต่จนบัดนี้ก็ยังมีกลุ่มคนที่พยายามเคลื่อนไหวแบ่งแยกประชาชน โดยสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งของสังคมให้เกิดขึ้นอีก 

ส่วนตัวเห็นว่าบ้านเมืองควรจะก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง และกลุ่มคนที่เป็นแกนนำ หรือหัวโจกของขบวนการขัดแย้ง ก็ควรจะทบทวนบทบาทของตัวเอง ไม่ควรปลุกระดมสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นระหว่างคนในชาติอีก มีแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงในอดีต มีความพยายามที่จะเคลื่อนไหว โดยการหยิบฉวยเอาเหตุการณ์คนเสื้อแดงเสียชีวิตมาเคลื่อนไหว เหมือนกับการ แก้ตัว แก้เกี้ยวที่ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการนำผู้คนมาเสียชีวิต โดยพยายามโยนความผิดไปยังรัฐบาลในยุคนั้น โดยใช้วาทกรรมต่างๆนานา กล่าวหาผู้รับผิดชอบในยุคนั้นว่า ยังไม่ได้รับโทษบ้าง ทั้งที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และอยากให้ทุกฝ่ายได้เคารพกระบวนการยุติธรรม ยึดคำพิพากษาของศาลเป็นข้อยุติ การที่แกนนำบางคนพยายามเคลื่อนไหวในตอนนี้ ก็เพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง และปฎิเสธความรับผิดชอบการเป็นผู้นำการชุมนุมของตัวเอง ในข้อกล่าวหาพาคนไปตาย และเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งเป็นชนักติดตัวจนถึงทุกวันนี้ ไม่สามารถที่จะล้างคราบความผิดนี้ออกจากตัวไปได้ จึงพยายามดิ้นรน ปฏิเสธและโยนความผิดให้กับคนอื่น 

“นายกฯ” กำชับ จนท. เปิดช่องทางพิเศษเร่งระบายรถในจุดหนาแน่น บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ “หวัง” สงกรานต์เทศกาลแห่งความสุขและปลอดภัย  มอบ สธ.ประเมินสถานการณ์การติดเชื้อหลังสงกรานต์  

เมื่อวันที่ 11 เมษายน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงการเดินทางในห้วงเทศกาลสงกรานต์  ซึ่งคาดว่าประชาชนจะเริ่มทยอยออกเดินทางและจะมีการเดินทางกลับภูมิลำเนามากที่สุดในวันพรุ่งนี้ (12 เมษายน 2565) จึงกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวดขันวินัยการจราจรทุกรูปแบบ   เปิดช่องทางพิเศษเป็นระยะๆ เพื่อเร่งระบายปริมาณรถที่หนาแน่นในบางช่วง

พร้อมทั้งกำชับเรื่องประสิทธิภาพในการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ต้องผ่านการตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และมีส่วนช่วยร่วมกันรับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ต้องการบริหารกำลังพลให้เหมาะสมเพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ   พร้อมขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ขอทุกคนเฝ้าระวังร่วมกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในช่วงวันหยุดยาวนี้ ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเอง Universal Prevention สูงสุด ทุกพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ต้องปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting อย่างเข้มข้น โดยได้มอบหมายกระทรวงสาธารณสุขให้เตรียมประเมินสถานการณ์หลังสงกรานต์โดยหวังว่า  หลังเทศกาลยอดผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ 

"นายกฯ" ห่วง สุขภาพจิตวัยรุ่น ย้ำ หน่วยงานเฝ้าระวัง วอนผู้ปกครองให้ปิดบังข้อมูล อย่าป้องในทางที่ผิด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกังวลเป็นห่วงสุขภาพจิตวัยรุ่น จากสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่ามีวัยรุ่นลงมือก่อเหตุกระทำความรุนแรงต่อบุคคลที่ใกล้ชิดในครอบครัว รวมถึงการฆ่าบุพการี ซึ่งเป็นเรื่องที่หดหู่บันทอนความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศเป็นอย่างมาก กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามปัญหา ตรวจสอบสาเหตุแรงจูงใจการก่อเหตุอย่างใกล้ชิด

นายธนกร กล่าวว่า วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่สำคัญของชีวิต การเปลี่ยนแปลงของสังคม และสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัววัยรุ่น ทำให้วัยรุ่นมีความเครียด และบางครั้งไม่สามารถปรับตัวให้เผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ หากวัยรุ่นมีความเครียดสะสมในระดับที่มากเกินไปจะส่งผลกระทบทางด้านลบต่อปัญหาสุขภาพกาย ทำให้รู้สึกเครียด กังวล ซึมเศร้า ท้อแท้ หมดหวัง สับสนฟุ้งซ่าน เซ็ง กลัว ระแวง หงุดหงิดหรือครึกครื้น อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย รู้สึกไร้คุณค่าในตนเอง หรือคิดว่าตนเองเป็นภาระของผู้อื่น มองเห็นแต่ความผิดพลาดของตนเอง ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการควบคุมตัวเอง ขาดการยับยั้งชั่งใจ ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ลงมือกระทำใดลงไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ นอกจากนี้ การคบเพื่อน รวมถึงการใช้สารเสพติด ก็มีผลต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่นด้วย

'ปารีณา' ไล่บี้ ปปช. เร่งฟันนักการเมืองทั้ง 60 ราย ลั่น ต้องดำเนินคดีกับทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ

‘ปารีณา’ ไล่บี้ ป.ป.ช. เร่งดำเนินคดีนักการเมืองทั้ง 60 คน อย่าเลือกปฏิบัติ ยกคำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดถือครองที่ดินรัฐ ผิดจริยธรรมร้ายแรงทั้งหมด

11 เม.ย. 65 นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บอกว่าต้องดูว่าที่ดินได้มาถูกต้องหรือไม่ และแต่ละเคสมีความแตกต่างกันนั้น

แน่นอนว่า ทุกเคสมีความแตกต่างกัน แต่คำพิพากษาชัดเจนว่า มิได้สนใจว่าได้ที่ดินมาได้อย่างไร แต่สำคัญว่า นักการเมือง ไม่สามารถครอบครอง ยึดถือ หรือทำประโยชน์ในที่ดินรัฐได้ ผิดจริยธรรมร้ายแรง และต่อให้ส่งมอบที่ดินคืนให้กับรัฐแล้ว ก็ยังคงผิดจริยธรรม เนื่องจากจะต้องคืนทันที ที่ได้รับมอบ หรือง่ายๆ ว่า ไม่ว่าจะคุณจะได้โดยมรดก ไปซื้อมา หรือก่อนเคยเป็นเกษตรกร แต่หากคุณเป็นนักการเมืองแล้ว คุณจะต้องคืนที่ … ทันที!!! ให้กับรัฐ เพราะคุณขาดคุณสมบัติในการยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์แล้ว ผิดจริยธรรมร้ายแรง

รัฐบาลเตรียมพร้อมรับมืออากาศแปรปรวน มั่นใจสถานการณ์น้ำไม่ท่วม ซ้ำรอยปี 54 

เมื่อวันที่ 11 เม.ย.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศแปรปรวน มีฝนตกหนักและอากาศหนาวเย็นในช่วงต้นเดือน เม.ย.65 ที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์คล้ายคลึงกับเมื่อปี 54 จนทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลเกี่ยวกับสถานกาณ์น้ำในช่วงฤดูฝนที่กำลังมาถึง อาจซ้ำรอยมหาอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ในเรื่องนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) รายงานว่า การคาดการณ์ปริมาณฝนช่วงน้ำหลากยังต่ำกว่าค่าปกติ และแหล่งน้ำยังสามารถเก็บน้ำได้อีกจำนวนมาก ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝนของรัฐบาล จะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำรอยปี 2554 อย่างแน่นอน ทั้งนี้ กอนช. ได้ติดตามสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่องพบว่า อากาศค่อนข้างแปรปรวนตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.65 มีปริมาณฝนตกมากกว่าค่าปกติ 107% เช่นเดียวกับปริมาณฝนในช่วงเดือน เม.ย.65 และ มิ.ย.65 ที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ปริมาณฝนจะตกมากกว่าค่าปกติ สำหรับเดือน พ.ค.65 และช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.65 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ในปี 54 คาดการณ์ปริมาณฝนจะตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ และน้อยกว่าปริมาณฝนที่ตกในปี 54 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับปริมาณน้ำต้นทุนในแหล่งน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ ช่วงต้นเดือน เม.ย.65 มีปริมาณ 58,525 ล้าน ลบ.ม. หรือ 62 % ของปริมาณการกักเก็บ สามารถรองรับน้ำหลากได้อีกถึง 28,000 ล้าน ลบ.ม. โดยเฉพาะในลุ่มน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำชี รวมถึงแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้มีการเตรียมการขุดลอกเพื่อรองรับน้ำหลาก อีกทั้งแหล่งน้ำที่มีการพัฒนาเพิ่มเติมในช่วงปี 63-64 ที่ได้รับการสนับสนุนงบกลางจากรัฐบาลที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 2.6 หมื่นแห่ง ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะเข้ามาช่วยเก็บกักน้ำฝนชะลอน้ำหลากได้เช่นกัน ดังนั้น หากพิจารณาจากปริมาณฝนที่จะตก และขีดความสามารถในการกักเก็บน้ำของแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้ว สถานการณ์น้ำในปีนี้จะไม่ซ้ำรอยหรือเกิดวิกฤตเหมือนปี 2554


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top