Thursday, 26 June 2025
Hard News Team

'โรม' จวก 'ภท.' ใจแคบฟ้อง 'ปลื้ม' วิจารณ์กัญชาเสรี ไม่ต่างอะไรกับรัฐที่ไล่จับผู้เห็นต่างทางการเมือง

(11 มิ.ย.65) นายรังสิมันต์  โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ว่า...

"การไปให้ สส-สมาชิกพรรค ไล่แจ้งตำรวจเอาผิดคนที่วิจารณ์นโยบายกัญชาตามจังหวัดต่างๆ ไม่ต่างอะไรจากการที่รัฐบาลเที่ยวจับกุมดำเนินคดีต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง

"ปชช. ควรมีเสรีภาพที่จะวิจารณ์นโยบายของพรรคการเมืองได้ นี่คือบททดสอบความใจกว้างด้วยว่าพร้อมรับฟังความเห็นแย้งจาก ปชช. หรือไม่"

'รัสเซีย' ช่วยส่งน้ำมัน 'จีน' ช่วยส่งเวชภัณฑ์-ข้าว-ดูแลหนี้ น้ำใจที่ ศรีลังกา ไม่เคยได้จากการคบตะวันตกกว่า 100 ปี

ที่ผ่านมาในยามศรีลังกา มีกินมีใช้ แต่ก็มักจะถูกฝ่ายระเบียบโลกเก่า สหรัฐอเมริกา และอดีตเจ้าอาณานิคมสหราชอาณาจักร ปอกลอกจนหมดตัว ผ่านนโยบายรัฐบาลที่โปรตะวันตก เห่อตามกระแสถือครองเงินดอลลาร์, ยูโร ในสัดส่วนที่สูงมากกว่าเงินตราชาติตนเอง

ส่งผลให้เกิดการละทิ้งภาคเกษตรลงไป 50% จนรายได้ลดหายไป, พิมพ์เงินตราท้องถิ่นตนเพิ่มไม่บันยะบันยังโดยไร้ทองคำค้ำประกัน, ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อไปกับค่าพลังงานสิ้นเปลือง, ปิดโรงกลั่นน้ำมันดิบ ซื้อน้ำมันสำเร็จรูปเอาสะดวกเข้าว่า...

...ไม่นานนักอัตราเงินเฟ้อก็ทะยานกว่า 39%

พอหมดหนทาง ก็พิมพ์เงินเพิ่มไปใช้หนี้ต่างประเทศ และพันธบัตร จากนั้นจบตามสูตรด้วยการไปขอกู้ IMF กับธนาคารโลก พร้อมทั้งทำแผนขายสินทรัพย์ชาติ เช่น สายการบิน ฯลฯ ซึ่งถือเป็นสูตรสำเร็จในการโจมตีค่าเงินแบบชาติตะวันตก ที่ทำกันมานานแล้วกับหลายชาติที่รัฐบาลโปรตะวันตก และรู้ไม่เท่าทัน (เฉกเช่นพิษต้มยำกุ้งทางเศรษฐกิจ)

สุดท้ายเงินคงคลังของศรีลังกาเกลี้ยง ถังแตก ไม่มีเงินชำระหนี้คงค้างค่าน้ำมันสหรัฐฯ แม้จะแค่ 53 ล้านดอลลาร์ ด้านเรือน้ำมันก็จอดจิบกาแฟ นอนตากอากาศสบายใจเฉิบอยู่นอกชายฝั่งไม่ยอมเทียบท่า ท่ามกลางปัญหาทุกข์เข็ญของคนศรีลังกาทั้งประเทศที่ขาดแคลนน้ำมัน ดับลมหายใจการเดินทางด้วยรถยนต์, เรือประมงต้องงดหาปลา, ไฟฟ้าดับแทบตลอดวัน, ขาดยารักษาโรค, อาหาร, สินค้าจำเป็นอุปโภคบริโภค ประชาชนเสียชีวิตไปหลายสิบคนเนื่องจากไม่มีน้ำมันเติมรถไปโรงพยาบาล ขณะที่อุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินก็ขาดกระแสไฟฟ้าเชื่อมต่อ

ซ้ำร้าย!! รัฐบาลศรีลังกา ที่เคยรับคำสั่งมหาอำนาจจากระเบียบโลกเก่า ก็ได้ทำสิ่งที่ผิดร้ายแรง คือ ประกาศอายัดเครื่องบินโดยสารรัสเซีย แต่เมื่อจนตรอกยากจนทุกข์ยาก ชาติตะวันตกสุดโหดเหล่านั้นก็นิ่งดูดายเสีย ไม่ส่งน้ำมัน ยารักษาโรค หรือแม้จะส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปให้ ทำให้รัฐบาลศรีลังกา ต้องดิ้นเฮือกสุดท้ายบากหน้ายอมขัดคำสั่งสหรัฐฯ โดยติดต่อขอซื้อน้ำมันจากรัสเซียโดยไม่มีเงิน ซึ่งรัฐบาลศรีลังกาไม่มีความหวังเลยว่ารัสเซียจะช่วยเนื่องจากไปอายัดเครื่องบินโดยสารรัสเซียไว้

>> แต่โลกไม่ได้เลวร้าย และ 'รัสเซีย' ก็ไม่ได้โหดร้ายตามที่ชาติตะวันตกปั้นภาพให้น่ากลัว เมื่อรัฐบาลศรีลังกา กล้าอ่อนน้อมมาขอ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียก็กล้าให้ ตามสไตล์ 'นักเลงโบราณ ใจถึงพึ่งได้' โดยปูตินสั่งบริษัทพลังงานรัฐวิสาหกิจของรัฐ ขนน้ำมันดิบใส่เรือมาเทียบท่าศรีลังกาในเวลาไม่กี่อึดใจเท่านั้น 

ส่วนเรื่องเงินค่าน้ำมันน่ะหรอ!! สำหรับรัสเซียแล้วเล็กน้อยมาก ให้ติดหนี้ไว้ก่อนมีเมื่อไรค่อยมาใช้ คนจะอดตายอยู่แล้วไม่ใช่เวลามาขูดเลือดกับปู 

เรื่องนี้แม้แต่รัฐบาลศรีลังกา ยังแทบไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมาคบกับชาติตะวันตกมาเป็นร้อยปี มีแต่ถูกเอาเปรียบกดขี่เอาแต่ได้แถมยังถูกปอกลอกมาตลอด ขณะที่รัสเซียไม่เพียงแค่ช่วยขนน้ำมันมาให้ถึงท่า แต่ยังส่งทีมงานมาช่วยเดินเครื่องโรงกลั่นน้ำมันอีกด้วย ส่งผลให้เกิดผลผลิตพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบตามมามากมาย เช่น ก๊าซเหลวหุงต้ม, น้ำมันหล่อลื่น, น้ำมันเตา, ยางมะตอย ฯลฯ

งานนี้ส่งผลให้ศรีลังกา ละอายใจมากแพ้ใจนักเลงรัสเซีย จนต้องรีบปล่อยอายัดเครื่องบินโดยสารทันที

>> ล่าสุดมิตรแท้ ก็โผล่มายามยากจนข้นแค้นอีกราย คือ 'จีน' ที่ได้ขนส่งเวชภัณฑ์ ข้าว และสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อมนุษยธรรมฉุกเฉินล็อตแรก 500 ล้านหยวน ถึงศรีลังกาเป้นที่เรียบร้อย และที่คาดไม่ถึงคือ นายจ้าว ลี่เจี้ยน (Zhao Lijian) โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า "จีนจะช่วยศรีลังกาจัดการกับภาระหนี้สินที่มีต่อจีน และหนี้กับประเทศอื่น รวมทั้งหนี้กับองค์กรระหว่างประเทศ (IMF, World bank) อีกด้วย"

...เพื่อนกินหาง่ายยามเรามีกินมีใช้ แต่พวกเขาจะพากันหายหัวไปเมื่อเราตกยาก แต่เพื่อนแท้จริงใจจะมาช่วยเหลือในยามที่เราไม่เหลืออะไรเลย แค่อาหาร เวชภัณฑ์ พลังงาน ให้ชีวิตรอดมีแรงเดินต่อได้ และยังช่วยดูแลหนี้ต่างๆ แค่นี้ก็ซึ้งใจ

'กลาโหมจีน' กร้าว!! 'ไม่ลังเลที่จะเริ่มสงคราม' หากไต้หวันกล้าประกาศเอกราชแยกตัวจากจีน

รัฐมนตรีกลาโหมของจีน ประกาศต่อรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ว่า จีนไม่ลังเลที่จะเริ่มสงคราม หากไต้หวันประกาศเอกราช

โดยคำประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมด้านความมั่นคง ‘แชงกรี-ลา ไดอะลอก’ ที่ประเทศสิงคโปร์ ที่เปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้ 10 มิถุนายน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่ระดับสูง และเหล่าผู้นำภาคธุรกิจจากทั้งภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มประเทศตะวันตกเข้าร่วม

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีกลาโหมจีน 'เว่ย เฟิ่งเหอ' เผชิญหน้ากับ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แบบต่อหน้าเป็นครั้งแรก โดยเฟิ่งเหอเตือนออสตินว่า “หากใครกล้าแยกไต้หวันออกจากจีน กองทัพจีนจะไม่ลังเลที่จะเริ่มสงคราม ไม่ว่าจะต้องสูญเสียเท่าไหร่ก็ตาม” 

ไม่เพียงเท่านั้น เฟิ่งเหอ ยังให้คำมั่นว่าจีนจะ “ทำลายแผนการประกาศเอกราชของไต้หวันให้ป่นไม่มีชิ้นดี และจะธำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกภาพของมาตุภูมิ” ตามแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมจีน

เขายังย้ำว่า “ไต้หวันคือของจีน...การใช้ไต้หวันเพื่อกดดันจีน จะไม่มีวันสำเร็จ”

ด้านออสตินระบุว่า สหรัฐฯ “ยืนกรานถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน และต่อต้านความพยายามเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน และร้องขอให้จีนยับยั้งช่างใจต่อการกระทำที่จะบั่นทอนเสถียรภาพต่อไต้หวัน”

ส.ว.ยก 'ชัชชาติ' คลื่นลูกใหม่ทางการเมือง สะท้อนปรากฏการณ์ คนเบื่อ 'สลิ่ม-สามกีบ'

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้...

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คลื่นลูกใหม่ทางการเมือง

ถึงจุดที่คนไทยเบื่อความขัดแย้ง ความแตกแยกของคนในชาติ เบื่อเหลืองแดง เบื่อสามกีบ เบื่อสลิ่ม เบื่อคนรุ่นใหม่รุ่นเก่า เขาจึงแสดงออกโดยเลือกชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เชื่อว่าจะเป็นตัวแทนของคนที่เป็นกลางๆ ไม่ซ้ายไม่ขวา เชื่อมต่อได้ทุกรุ่นทุกสี มีความทันสมัย ไม่เจ้าขุนมูลนาย ไม่พิธีรีตองเกินความจำเป็นและไม่ติดกับระบบราชการมากเกินไป เป็นผู้บริหารที่เป็นของคนทุกๆ คน แค่ทำงานไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงในหลายมิติของการจัดการกรุงเทพมหานคร เป็นความหวัง ตอบความหิวกระหายของคนไทยที่อยากได้นักการเมืองเช่นนี้

เชื่อว่าชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คงนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ ลดความขัดแย้งในสังคมไทย สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ก้าวข้ามปัญหาทั้งปวงที่ทับถมอยู่ในประเทศนี้ถึง 20 ปี เป็นคลื่นลูกใหม่และพายุทางการเมืองที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

นายวันชัย กล่าวอีกว่า พลตรีจำลอง ศรีเมือง ผู้ว่ากทม. 2 สมัยในอดีต จากป้ายฝาเข่ง ใส่เสื้อม่อฮ่อม รองเท้าแตะ ถีบจักรยานหาเสียง กลายเป็นจำลองฟีเวอร์ พัฒนาไปสู่การเมืองยุคใหม่ในขณะนั้น เป็นพรรคพลังธรรม มี ส.ส.ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อยู่ในระดับพรรคการเมืองขนาดกลาง สร้างคนสร้างบทบาททางการเมือง สร้างความหวังให้กับคนไทยได้ในระดับหนึ่ง ยังมีนักการเมืองจากพลังธรรมที่โลดแล่นอยู่ในเวทีขณะนี้รวมทั้งทักษิณ ชินวัตร 

พายุลูกใหม่ทางการเมืองอย่างชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็คงจะพัฒนาไปเช่นนั้น เป็นพายุและคลื่นทางการเมืองที่สาดซัดไปทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในอนาคตทางการเมืองต่อไป

'นักเขียนซีไรต์' กร้าว!! เหตุผลที่ต้อง 'เป็นสลิ่ม​ต่อไป' เพราะนักการเมืองไร้สำนึก ปั่นคนเกลียดกันเพื่ออำนาจตน

(11 มิ.ย.65) วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่าเป็นสลิ่ม​ต่อไป...

เหตุผลที่ผมเป็นสลิ่ม ก็เพราะผมต้องการให้  'ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้' และมีการปกครองด้วย 'ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข'

ส่วนเรื่องการเมือง ก็ว่าทีละเรื่อง​ ทีละคน​ ทีละพรรค​ไม่เป็นกองเชียร์นักการเมืองเฉพาะเรื่อง เฉพาะคน หรือเฉพาะพรรค​ เพราะการเมืองและนักการเมืองเป็นเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ที่พวกเขาต้องมาก่อน!

ประชาชนมาก่อนตอนเลือกตั้งเท่านั้น!

ถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์​ ปล่อยให้นักการเมืองแย่งชิงกันเป็นประมุข​ แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์กันเอง​ 'เพื่อประชาชน' บ้านเมืองหายนะแน่ๆ​ เพราะไม่มีใครเกรงใจใคร

ยามมีศึกสงครามก็จะเหมือนกับนักการเมืองในประเทศต่างๆ​ ส่วนมาก​ ที่ตัดสินใจตามใจตนเป็นหลัก​ ส่วนพลเมืองมีหน้าที่เป็นเหยื่อ

'นายกฯ' ปลื้ม!! 'ไทย-เยอรมนี' ร่วมมือพัฒนา EV ผลักดันไทยสู่ฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเอเชีย

(11 มิ.ย.65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความร่วมมือระหว่างไทย และเยอรมนี จัดแข่งขันความคิดสร้างสรรค์สำหรับการคมนาคมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต 'EV Hackathon: Future EV Mobility Creative Contest for Sustainability #EV4Sustain' หัวข้อการแข่งขัน คือ ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) มุ่งขับเคลื่อนพันธมิตรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (Partners for Sustainable Growth) ระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค.นี้ เนื่องในวาระครบรอบ 160 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเยอรมนี ที่ร่วมกันผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย เพื่อพัฒนาและต่อยอด นโยบายส่งเสริมการใช้รถ EV และนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green (BCG) Economy) ของรัฐบาล

นายธนกร กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากภาคีที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคเอกชน ในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยในทุกมิติ ทั้งการศึกษา สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และสอดรับกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ด้วยการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบาย 30@30 ที่รัฐบาลมุ่งให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่มิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดภาวะทางอากาศ โดยรัฐบาลตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์และพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าโลกภายในปี ค.ศ. 2030

'เพื่อไทย' ชี้!! ปลุกหวยบนดิน อุดจุดอ่อนรัฐหาเงินไม่เป็น แนะ!! ยึดตามโมเดลทักษิณ คนไทยไม่เสียประโยชน์

ฟื้นหวยบนดิน ประชาชนต้องได้ประโยชน์ 'อรุณี' ชี้รัฐบาล 'ประยุทธ์' คิดฟื้นหวย 2 ตัว 3 ตัว เหตุอยากหารายได้เสริมเติมจุดอ่อนรัฐหาเงินไม่เป็น ย้ำทำตามไทยรักไทยไม่เสียหายถ้าคนไทยได้ประโยชน์ 

ดร.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาโยนหินถามทาง เตรียมแก้กฎหมายเปิดช่องทางจำหน่ายสลากตัวเลข 3 หลัก หรือการฟื้นหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัวภายในปีนี้ว่า...

สิ่งที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความพยายามจะทำอีกครั้ง ต้องเป็นการกลับมาที่ดีกว่าเดิม ประชาชนต้องได้ประโยชน์จากการขายหวยบนดินครั้งนี้ เหมือนอย่างที่รัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยทำ  โครงการหวยบนดินในขณะนั้น สามารถขจัดอิทธิพลมืดและสร้างรายได้ให้กับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมาก มีการแบ่งสัดส่วนรายได้จากการขายหวยบนดินกระจายไปยังภาคส่วนต่างๆ อย่างชัดเจน โดยสมทบเข้ากองทุนจ่ายเงินรางวัล  ค่าดำเนินการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล  แบ่งไปยังการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ และมีการแบ่งสัดส่วนเข้าการกุศล ซึ่งคือการให้ทุนการศึกษานักเรียนต่างจังหวัดมีโอกาสไปศึกษาต่อในต่างประเทศ หรือที่เรียกว่าโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ODOS ) ซึ่งเป็นการนำเอา 'ความหวังของคนยากจน' มาสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับคนยากจน สร้างทุนมนุษย์ สร้างความเจริญให้กับบ้านเกิดและประเทศได้อย่างมหาศาล และยังมีการจัดสัปดาห์วิทยาศาสตร์ โครงการประกวดเรียงความ ฯลฯ  แต่ละเดือนยังมีเงินเหลืออย่างน้อย 700 ล้านบาท หรือปีละ 8,400-10,000 ล้านบาท จากเดิมอยู่ในมือของเจ้ามือหวยและส่งส่วยผู้มีอิทธิพล  

แต่สุดท้ายถูกระงับไป และยังถูกดำเนินคดีโดยคณะกรรมการอิสระที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารอย่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ก่อนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ในปี 2549 รัฐบาลหลังจากการยึดอำนาจยังได้ดำเนินการขายหวยบนดินต่อ ทั้งที่การแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่มีการดำเนินคดีกับรัฐบาลในขณะนั้นเหมือนที่ดำเนินการเอาผิดกับรัฐบาล ดร.ทักษิณ แต่อย่างใด 

ดร.อรุณี กล่าวอีกว่า หากหวยบนดินของรัฐบาล ดร.ทักษิณ ยังอยู่ รายได้เข้ารัฐอาจมีมากกว่า 1 แสนล้านบาท เด็กไทยในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพจะถูกมองเห็นและได้มีโอกาสไปเรียนต่อยังต่างประเทศอีกหลายร้อยคน ทั้งหมดคือโอกาสที่เสียไปของประเทศทั้งสิ้น 

ดร.อรุณี ได้ตั้งคำถามด้วยว่า อยากทราบว่าวัตถุประสงค์ของการฟื้นหวยบนดินนั้น เป็นเพราะรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ต้องการหารายได้เสริมเติมจุดอ่อนของตนที่ไม่มีความรู้ความสามารถที่จะสร้างงาน สร้างโอกาส หรือสร้างนโยบายใหม่ๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หารายได้เข้าประเทศใช่หรือไม่  ต้องการหารายได้เพื่อใช้หนี้สาธารณะที่ตนเองได้ก่อขึ้นเกือบ 10 ล้านล้านบาท และเป็นหนี้ที่กู้มาแจกทั้งสิ้น ใช่หรือไม่ 

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

เมื่อวันที่ 10  มิถุนายน ที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรีเป็นประธานในพิธี การมอบใบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว ซึ่งการเข้ารับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในครั้งนี้ ได้ผ่านการคัดเลือก และรับรองจากคณะกรรมการสภามหาวิทยา ลงมติเอกฉันท์ มอบเป็นเกียรติประวัติสืบไป

เนื่องจากสวนนงนุชพัทยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดครั้งนี้เช่นกัน ในระหว่างที่มีการล็อกดาวน์ ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสวนนงนุชพัทยาครั้งใหญ่ มีการปรับเปลี่ยน New Normal New Nongnooch Garden (นิว นอร์มอล นิว สวนนงนุช) เช่น เปิดโรงเลี้ยงสำหรับการเพาะชำต้นอ่อน  ประติมากรรมภาพวาดด้วยหิน สวนไดโนเสาร์ เป็นต้น

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช พัทยา  ได้หาแนวทางการจัดการดำเนินกิจกรรมมากมายเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคตะวันออก เช่น การจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “ไทยเที่ยวไทย”เพื่อส่งเสริมกระตุ้นการท่องเที่ยว ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ให้เจริญเติบโต มีการต้อนรับ คาราวานกลุ่มรถสปอร์ต Lotus Car ตัวจริงจากประเทศอังกฤษ จำนวน 25 คัน ถือเป็นรถสปอร์ตหรูแห่งยุค ที่ออกมาร่วมสร้างสีสัน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

'นพพล' พร้อมตัดงบเกษตร-มหาดไทย ชี้!! ไม่คุ้มกับภาระกิจดูแลประชาชน

'นพพล' พร้อมตัดงบเกษตร-มหาดไทย ชี้!! ไม่คุ้มกับภาระกิจดูแลประชาชน เผยเกษตรกรสุดทนชลประทานปล่อยน้ำเอาใจนักการเมืองมากกว่าปล่อยเกษตรกรขาดน้ำทำนา 

นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพื้นที่พิษณุโลกพบปัญหา ภัยแล้งหนักมาก เพราะเกษตรกรหลายพื้นที่ขาดน้ำทำนา กรมชลประทานจะปล่อยน้ำเอาใจนักการเมืองใหญ่ในรัฐบาล  ไม่ปล่อยให้เกษตรกร กระทบการปลูกข้าวนาปี  ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเรื้อรังแก้ไม่จบ ส่งผลให้คนในพื้นที่ ชี้ว่าปัญหาน้ำ เกิดจากการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ชาวบ้านเอือมระอากับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ 

ที่ผ่านมาหาแนวทางในการแก้ปัญหาให้เกษตรกรในพื้นที่รวมทั้งการหารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร สามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่เกรงว่าปัญหาจะวนกลับมาที่เดิม สร้างปัญหาให้เกษตรกรไม่รู้จบ 

นายนพพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จากการที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการพิจารณางบประมาณประจำปี 2566 จะพุ่งเป้าในการพิจารณากระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย เพราะกระทรวงทั้งสองกระทรวงทำงานไม่สมกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ปล่อยปละละเลย ไม่แก้ปัญหาให้กับประชาชน

เปิดเที่ยวบินประวัติศาสตร์ พาเด็กไทยกลับไปศึกษาต่อจีน ภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตลอดช่วง 2 ปี

นับเป็นอีกความสำเร็จของกลุ่มเด็กไทย ภายใต้การร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาครัฐ, เอกชน, สมาคมนักเรียนไทย-จีน รวมถึงบรรดานักเรียนและผู้ปกครอง ที่รวมพลัง #พาเด็กไทยกลับจีน ตลอด 2 ปีหลังร่วมต่อสู้กันอย่างมีความหวัง เพื่อให้เด็กทุกคนได้กลับไปศึกษา ณ สาธารณรัฐประชาชนจีนอีกครั้ง

เพราะอย่างที่ทราบดีว่าปัจจุบันมีนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาต่อที่ประเทศจีน ประสบปัญหายังกลับไปเรียนไม่ได้มีจำนวนมาก ซึ่งความยากลำบากที่นักเรียน/ นักศึกษากลุ่มนี้ต้องประสบ ก็มีตั้งแต่ ทุนรัฐบาลที่หลายคนกำลังจะถูกยกเลิกไป จนถึงถูกบังคับให้ลาออก, หลายคนต้องเสียค่าเช่าที่พักฟรีๆ เป็นปีเพราะขนของกลับไม่ได้, ค่าเทอมที่ต้องจ่ายเต็มแต่คุณภาพการเรียนออนไลน์ที่ไม่ช่วยอะไร, การฝึกงานหรือการทำตัวจบที่ค้างคาไปต่อไม่ได้ ฯลฯ ซึ่งถือว่าหนักหนามาก และกระทบต่อแผนการชีวิตและครอบครัว

นายสรวง สิทธิสมาน นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน ได้เปิดเผยพร้อมขอบคุณทุกการช่วยเหลือนี้ว่า ตามที่กลุ่มร้องขอเปิดวีซ่านักเรียน (จีน) ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการส่วนใหญ่ในนามสมาคมนักเรียนไทย-จีน ได้ขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือจากท่านในด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือนักเรียน/นักศึกษาไทยให้สามารถกลับไปศึกษาต่อ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีนมาตั้งแต่กลางปี 2563 นั้น

.
บัดนี้ด้วยความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ทำให้ความพยายามเรียกร้องเปิดวีซ่านักเรียนจีนของนักศึกษาไทยตลอด 2 ปี นั้นประสบความสำเร็จ จนเกิดเป็นเที่ยวบินแรกของนักศึกษาไทยในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา อันนำไปสู่การทยอยอนุมัติรายชื่อเดินทางกลับสาธารณรัฐประชาชนจีนของนักเรียน/นักศึกษาไทยในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันเที่ยวบินที่สองกำลังดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนศกนี้ และเริ่มเข้าสู่การดำเนินการเที่ยวบินที่สามในลำดับถัดไป
.
ในนามของสมาคมนักเรียนไทย-จีน ร่วมกับกลุ่มร้องขอเปิดวีซ่านักเรียน (จีน) จึงขอขอบคุณท่านและผู้เกี่ยวข้องในหน่วยงานของท่านที่ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือในด้านต่างๆ จนนำไปสู่ความสำเร็จในการเรียกร้องเปิดวีซ่านักเรียนจีนของนักศึกษาไทย ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา
.
สำหรับความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นผ่านความอนุเคราะห์จากบุคคล รวมถึงองค์กรอีกหลายภาคส่วน เพื่อผลักดันให้เกิดเที่ยวบินแรกของโลกและเที่ยวบินถัดๆ ไป ในการพานักเรียน/นักศึกษาไทยกลับไปยังประเทศจีน เพื่อทำการศึกษาต่อ ได้แก่...


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top