Friday, 27 June 2025
Hard News Team

‘สุริยะ’ ปลื้ม ‘ร้าน มอก.’ ทะลุ 13,060 ร้าน ประกาศชัด!! ‘ร้านเล็ก-ใหญ่’ ใครๆ ก็เป็นได้

สมอ. อนุมัติเซเว่นฯ กว่า 12,000 สาขา เข้าร่วมเป็น ‘ร้าน มอก.’ รวมยอดทะลุ 13,060 ร้าน ประกาศชัด ‘ร้าน มอก.’ ใคร ๆ ก็เป็นได้ หากขายสินค้ามาตรฐาน มอก. เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมยังคงเดินหน้าโครงการ ‘ร้าน มอก.’ อย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ดำเนินการ เพื่อสร้างเครือข่ายร้านจำหน่ายที่ใส่ใจในความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยการคัดเลือกสินค้ามาตรฐาน มอก. มาจำหน่ายภายในร้าน เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าที่ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น รวมทั้งผลักดันให้ร้านค้าจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมกันคุ้มครองความปลอดภัยในคุณภาพสินค้าแก่ประชาชน ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับความปลอดภัยหากเลือกซื้อสินค้าจากร้านที่เข้าร่วมเป็นร้าน มอก. 

ปัจจุบันมีร้านจำหน่ายทั่วประเทศทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เข้าร่วมโครงการร้าน มอก. กับ สมอ. แล้วจำนวน 49 ราย 13,060 ร้าน ซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้า, โมเดิร์นเทรด, ร้านจำหน่ายทั่วไป, ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าออนไลน์ที่มีความตระหนักและใส่ใจในความปลอดภัยของผู้บริโภค 

ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. จะให้ความรู้ด้านการมาตรฐานแก่ร้านจำหน่าย เพื่อให้มีองค์ความรู้ในการคัดเลือกสินค้าที่มีเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. มาจำหน่ายภายในร้าน โดยเฉพาะสินค้าที่ สมอ. ควบคุมจำนวน 136 รายการ ซึ่งกฎหมายบังคับให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เช่น พาวเวอร์แบงค์, อะแดปเตอร์, ปลั๊กพ่วง, หลอดไฟ, ไดร์เป่าผม, ของเล่น, ผงซักฟอก, ภาชนะเมลามีน, ถ่านไฟฉาย, ไฟแช็ก, เตาปิ้งย่าง, ฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร เป็นต้น

มติการประชุมคณะกรรมการดำเนินการ ร้าน มอก. ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ (24 มิ.ย. 65) ที่ผ่านมา 
ได้อนุมัติให้ร้านจำหน่ายจำนวน 3 ราย ที่ยื่นคำขอต่ออายุเป็น ‘ร้าน มอก.’ ได้แก่ 
1) บริษัท ทวีโชค พาณิช จำกัด 
2) บริษัท แสงไพบูลย์เชียงราย จำกัด (เอสซีจี โฮม บุญถาวร เชียงราย) 
และ 3) บริษัท โฮมมาร์ท ช. โลหะกิจ จำกัด (เอสซีจี โฮม บุญถาวร กระบี่) และมีร้านจำหน่ายรายใหม่ จำนวน 2 ราย สมัครเข้าร่วมเป็น ‘ร้าน มอก.’  ได้แก่…

ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชยกำลังพลกองทัพเรือ   

วันนี้ (27 มิถุนายน 2565)  เวลา 10.00 น. พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ ณ ห้องรับรองกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ รวมถึงผู้บังคับบัญชาของกองเรือยุทธการ ร่วมพิธี 

พันจ่าตรี อนุชิต พรหมดอนกลอย เจ้าหน้าที่ส่งกำลัง หมวดส่งกำลัง แผนกส่งกำลังและซ่อมบำรุง กองสนับสนุน หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ช่วยเหลือแม่และเด็ก ซึ่งประสบอุบัติเหตุขับรถหลุดโค้งจมน้ำ บริเวณบ้านคำแก้ว ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ขณะเดินทางกลับบ้าน เพื่อร่วมงานศพมารดาที่บ้านเกิด ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ปัจจุบันผู้ประสบเหตุมีอาการปลอดภัย

การกระทำของ พันจ่าตรี อนุชิต พรหมดอนกลอย นับได้ว่าเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยงานต้นสังกัดคือ กองเรือยุทธการ และหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ รวมถึงกองทัพเรือนับเป็นบุคคลตัวอย่างที่สมควรได้รับการยกย่องชมเชยเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้กำลังพลของกองทัพเรือ และครอบครัว ได้ยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีสืบไป

'สุชาติ' รมว. แรงงาน สั่งการด่วนให้ประกันสังคม ให้การช่วยเหลือลูกจ้าง เจ็บ ตาย ที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ย่านสำเพ็ง

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 11.30 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างร้าน บ้านเรือนประชาชน ย่านสำเพ็ง ใกล้เคียงท่าน้ำราชวงศ์ ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพฯ ภายหลังเหตุเพลิงไหม้สงบเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมอาสาสมัคร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพลิงไหม้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บ 9 ราย นั้น ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใย สั่งการด่วนให้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือลูกจ้าง ผู้ประสบเหตุทันที

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยนางสาวรังสิมา ปรีชาชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบและเร่งให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุทันที ในเบื้องต้นพบว่า ในจำนวนผู้ประสบเหตุ 6 ราย มี ลูกจ้าง ผู้ประกันตนเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นลูกจ้างของห้างผ้าใบราชวงศ์ และได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นเจ้าหน้าที่ ของมูลนิธิฮั่วเคี้ยวปอเต็กเซี่ยงตึ๊ง (ปอเต็กตึ๊ง) การประสบอันตรายในครั้งนี้ ลูกจ้างอยู่ระหว่างการทำงาน จะได้รับสิทธิจากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมได้เข้าให้การช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ ดังนี้

ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 2 ราย เป็นลูกจ้างห้างผ้าใบราชวงศ์ ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ได้ดำเนินการชี้แจงสิทธิประโยชน์ ให้กับทายาทผู้ประกันตนที่เสียชีวิต ซึ่งได้รับ สิทธิประโยชน์ ดังนี้ 

รายที่ 1 ชื่อ นางสาวจิราพร สุ่มมาตร์ จะได้รับค่าทำศพจากกองทุนเงินทดแทน จำนวน 50,000 บาท ค่าทดแทนการขาดรายได้ 1,260,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 134,653 บาท พร้อมดอกผล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,444,653 บาท 

รายที่ 2 นาย PHEAK DOEUM ลูกจ้างห้างผ้าใบราชวงศ์ ชาวกัมพูชา จะได้รับค่าทำศพจากกองทุนเงินทดแทนจำนวน 50,000 บาท ค่าทดแทนการขาดรายได้ 722,904 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 17,512 บาท พร้อมดอกผลเป็นเงินทั้งสิ้น 790,416 บาท

สำหรับผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิฮั่วเคี้ยวปอเต็กเซี่ยงตึ๊ง (ปอเต็กตึ๊ง) ที่ได้เข้าให้ การช่วยเหลือในเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 6 ราย 

1.นายจิรภัทร จรรยานุภาพ 
2.นายสมใจ อ่อนภิรมย์ 
3.นายพรชัย นามกระโทก 
4.นายศิรสิทธิ์ ศิลารักษ์ เข้ารักษาตัวและออกจากโรงพยาบาลแล้ว 

ส่วนอีก 2 ราย คือ นายศรัณยพงค์ กิตติโชควัฒนา ยังคงพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหัวเฉียว และนาย SOMSAY VOLASANE ซึ่งพักรักษาตัวในห้อง ICU โรงพยาบาลกลาง โดยเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้มอบนายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประกันตน พร้อมมอบของเยี่ยมให้กำลังใจ และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับ สิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ สำนักงานประกันสังคมพร้อมดำเนินการตามนโยบายของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้การดูแลสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง ผู้ประกันตน ให้ได้รับความคุ้มครองพร้อมช่วยเหลือในยามเดือดร้อนทันที เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบประกันสังคม และเป็นหลักประกัน ความมั่นคงในการดำรงชีวิตแก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ

นิพนธ์ เปิดเวที นำอ.นาหม่อม จ.สงขลา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ระดมสร้างการมีส่วนร่วมให้ครอบคลุมพื้นที่

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในการประชุมเปิดเวทีระดมรับฟังความคิดเห็นอำเภอนาหม่อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมี นายโชค กิจฉาโณ หัวหน้าสาขาพรรคประชาธิปัตย์เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดสงขลา เป็นผู้ดำเนินการจัดประชุม ร่วมด้วย นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายสมยศ พลายด้วง ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 สงขลา นายบำรุง พรหมเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองหรั่ง ร้อยเอกสุวิทย์ แก้วพรหม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งขมิ้น นายกิตติ ไชยกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาหม่อม นายประมวล แก้วชนะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพิจิตร และคณะกรรมการสาขาพรรคเข้าร่วมประชุมระดมรับฟังความคิดเห็น ณ ห้องประชุม โรงแรมหรรษาเจบี หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

สืบเนื่องด้วยการประชุมเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และพี่น้องประชาชน ได้จัดตั้งคณะกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดสงขลา ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดสงขลา เรียบร้อยแล้ว วันนี้คณะกรรมการสาขาพรรค ร่วมกับคณะทำงานของ นายสมยศ พลายด้วง ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จังหวัดสงขลา ได้มีการจัดตั้งแกนนำระดับตำบล แกนนำระดับหมู่บ้าน เพื่อให้การประสานงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลครอบคลุมทุกพื้นที่ในอำเภอนาหม่อม เพื่อที่จะทำงานร่วมกันระหว่างคณะกรรมการ
สาขาพรรคและพรรคประชาธิปัตย์

 

นพดล มองนิด้าโพลทิศทางที่ดี แต่ของจริงคือวันเลือกตั้ง แต่ก่อนเลือกตั้งควรแก้ มาตรา 272 ไม่ให้ ส.ว. โหวตนายกฯได้เหมือนส.ส.

นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 272 ยังเปิดให้ ส.ว. โหวตนายกฯ เหมือนส.ส. ทั้งๆ ที่ ส.ส. คือคนที่เป็นตัวแทนของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านๆ ได้เคยสนอแก้ในสภาหลายครั้ง แต่ยังไม่สำเร็จ ที่พูดไม่ใช่เรื่องตัวบุคคลที่เป็น ส.ว. แต่ตนเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญและเป็นเรื่องหลักการประชาธิปไตย การแก้ไขมีข้อดีมากมาย เช่น 

1) ทำให้ประชาชนพิจารณาเลือกผู้นำทางการเมืองจากความรู้ความสามารถ กรณีการเลือตั้งผู้ว่า กทม.ที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นชัดเจน การได้คนตรงใจประชาชนมันดีอย่างที่เห็น 

2) การได้รับความเห็นชอบในสภาผู้แทนราษฎร ทำให้การเข้าสู่ตำแหน่งสง่างาม เป็นประชาธิปไตย ไร้ข้อครหา 

3) เป็นการเคารพเจตจำนงของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งมีความหมายยิ่งขึ้น ประชาชนหวงแหนสิทธิของตนเอง 

4) ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศว่ามีกติกาการเมืองที่เป็นธรรม ไม่ได้ออกแบบเพื่อบุคคลใดคณะใด มีการแข่งขันที่เป็นธรรม 

'โฆษกเพื่อไทย' วอน 'วันชัย' หยุดมองรัฐประหารเป็นเรื่องปกติเหตุทั่วโลกไม่ยอมรับ แนะหยุดตีโพยตีพายวิจารณ์ 'แพทองธาร' หวังดิสเครดิต

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์ แนวทางแลนด์สไลด์ที่พรรคเพื่อไทยใช้ในการปราศรัยในกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย พร้อมพาดพิงถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่าตำแหน่งนายกฯ ไม่ใช่ของเล่น ไม่ต้องรีบชิงสุกก่อนห่ามนั้น ขอขอบคุณสำหรับคำวิพากษ์วิจารณ์ของนายวันชัยที่ชี้แนะทางการเมืองให้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เปิดรับทุกความคิดเห็นที่มีประโยชน์และสร้างสรรค์ นายวันชัยไม่ควรวิจารณ์เพียงเพราะต้องการดิสเครดิตหรือเกาะกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ นายวันชัยควรจะใช้ความเป็นอาวุโสกว่าพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และควรหยุดการกระทำที่มีส่วนทำให้บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ เพราะที่ผ่านมานายวันชัยเป็นหนึ่งคนที่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่มาแล้วในปี 2560 ที่พูดอย่างภาคภูมิใจว่าเป็นคนเขียนรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ให้ ส.ว. 250 คน มีสิทธิ์ร่วมในการโหวตคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ ส.ว.เหล่านั้นไม่ได้รับอนุญาตจากประชาชนให้เข้ามา ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นมรดกบาปที่นายวันชัยและพวกโรยกลีบกุหลาบไว้ให้พลเอกประยุทธ์และองคาพยพ ได้มาซึ่งอำนาจจนถึงปัจจุบัน 

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า การที่นายวันชัยพูดถึงการรัฐประหารว่าให้นางสาวแพทองธารแบ่งให้ครอบครัวอื่นบ้างนั้น  คำพูดดังกล่าวของนายวันชัยเสมือนว่ามองการรัฐประหารเป็นเรื่องปกติที่อาจจะเกิดขึ้นและผูกขาดโดยคนใดคนหนึ่งหรือไม่ การรัฐประหารไม่ใช่การกระทำตามวิถีทางการเมืองทางแนวคิดประชาธิปไตย ทำลายคุณค่าพื้นฐานทางหลักกฎหมาย เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายซึ่งนานาประเทศไม่ยอมรับ ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศและเข้าสู่ตำแหน่งโดยได้รับฉันทามติจากพี่น้องประชาชน ไม่สมควรต้องถูกรัฐประหารยึดอำนาจไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม คนที่จะบอกว่าผู้นำประเทศสมควรไปต่อหรือไม่ คือประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น 

ธอส. ปรับเงื่อนไขผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ปลดล็อกให้คู่ LGBTQ+ กู้ร่วมซื้อบ้านได้

ธอส.ปรับปรุงเงื่อนไขในการให้สินเชื่อของธนาคาร ปลดล็อกให้กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ สามารถกู้ร่วมกันได้แล้ว

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธอส.ได้ปรับปรุงเงื่อนไขในการให้สินเชื่อของธนาคาร โดยกำหนดให้กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) สามารถกู้ร่วมกันได้แล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เช่นเดียวกับกรณีกู้ร่วมกับคู่สมรส พี่-น้อง และบิดา-มารดา เพื่อส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมทางเพศในสังคมไทย สนับสนุนให้กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น 
 

หากเราหลงในศรัทธาที่จอมปลอม เราจะโลภ คาดหวังบางสิ่งบางอย่าง และถ้าไม่ได้อย่างที่หวัง จะไม่นับถือศรัทธา นี่เป็นการศรัทธาแบบธุรกิจ

หากเราหลงในศรัทธาที่จอมปลอม เราจะโลภ คาดหวังบางสิ่งบางอย่าง และถ้าไม่ได้อย่างที่หวัง จะไม่นับถือศรัทธา นี่เป็นการศรัทธาแบบธุรกิจ ซึ่งวันนี้มนุษย์เริ่มแยกไม่ออก ระหว่างศรัทธาที่แท้จริง กับ ศรัทธาแบบธุรกิจ

‘ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล’ นักแสดง นักเขียน และนักคิดมากฝีมือ กล่าวในรายการ ‘เกลา นิสัยอันตราย’ เมื่อวันที่ (28 พ.ค. 2022)

เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่น่าคิดตามจาก ‘ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล’ นักแสดง นักเขียน และนักคิดมากฝีมือ ที่ได้มาแชร์แนวคิดในการเรียนรู้ชีวิตด้วยตนเอง ผ่านช่อง KlaoShow ทางยูทูบชาแนล โดยส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ได้พูดถึง ‘การแยกแยะในศรัทธา’ ที่ดูเหมือนคนยุคนี้จะเริ่มแยกไม่ออกระหว่าง ‘ศรัทธาแบบนักธุรกิจ’ และ ‘ศรัทธาที่แท้จริง’ เสียแล้ว...

ก๊อต เล่าว่า ศรัทธาอย่างเดียวไม่ทำให้คนมีสติปัญญา เพราะศรัทธาแยกได้ 2 แบบ คือ ‘ศรัทธาแบบนักธุรกิจ’ กับ ‘ศรัทธาที่แท้จริง’

“สมมติ ‘แพนด้า’ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วผมอ้างว่าศรัทธาในตัวแพนด้ามาก ผมไหว้แพนด้า หวังให้แพนด้าช่วยให้ถูกรางวัลที่ 1 และเมื่อไรที่ถูก ผมก็จะมาเต้นแก้บนรอบตัวแพนด้า แต่ถ้าไม่ถูก ผมก็จะไม่ไหว้แพนด้านี่เรียก ‘ศรัทธาแบบนักธุรกิจ’ หรือ คุณต้องให้ผมก่อน ผมถึงจะรับถือคุณ แต่ถ้าไม่ให้อะไร ผมจะไหว้ทำไม

‘ดร.สันต์’ แนะ 10 วิธีรอดจาก ‘หม้อแปลงระเบิด’ ชี้ หากเห็นควันไฟให้รีบถอยห่างทันที

ดร.สันต์ แนะ 10 วิธีเอาตัวรอดจากหม้อแปลงระเบิดเวลาที่อาจอยู่หน้าบ้าน ย้ำให้สังเกตสายสื่อสารรุงรัง ใบไม้แห้ง อย่าจอดรถใต้หม้อแปลง เห็นควันไฟให้รีบถอยห่างทันที 

จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ย่านสำเพ็ง ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าประเภทพลาสติก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บนับ 10 คน โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า น่าจะมาจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เนื่องจากมีผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ช่วงที่พบมีควันไฟขึ้นจากหม้อแปลงจุดเกิดเหตุ

ทางด้าน ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sunt Srianthumrong ระบุวิธีเอาตัวรอดจากหม้อแปลงระเบิดไฟไหม้ ว่า หม้อแปลงระเบิดที่สำเพ็งกฎเหล็ก และ 10 วิธีเอาตัวรอด จากหม้อแปลง ระเบิดเวลาที่อาจอยู่หน้าบ้านคุณ

กฎเหล็ก 3 ข้อที่เกี่ยวกับหม้อแปลง

1. หม้อแปลง ทุกลูกสามารถระเบิดได้ และอาจจะระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้ ต้องคิดเผื่อไว้เลย
2. ก่อนการระเบิด มักจะมีสัญญาณเตือนให้เราเห็นหรือได้ยิน
3. หม้อแปลงส่วนใหญ่มีน้ำมันอยู่ข้างใน สามารถติดไฟได้ หรือดีที่สุดคือติดไฟยาก

ในรูปเหตุการณ์ก่อนระเบิด จากผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายเอาไว้ได้ มีอะไรที่ปกติ และผิดปกติ

สิ่งที่ปกติในรูป พบว่า หม้อแปลงอยู่บนเสา ซึ่งประเทศไทยยังไม่รวยพอที่ จะเดินสายใต้ดินและตั้งหม้อแปลงไว้ใต้ดิน หรือในสถานที่ห่อหุ้มมิดชิดทั้งหมด ถ้าทำแบบนั้น ค่าไฟฟ้าน่าจะแพงขึ้นอีกหน่วยละ 1-2 บาท

สิ่งที่ผิดปกติในรูป

- สายสื่อสารจำนวนมาก รกรุงรังบนเสาใต้หม้อแปลง
- ใบไม้แห้งที่เสาหม้อแปลง
- ร้านค้าที่ตั้งอยู่ใต้หม้อแปลง 2 -3 ร้าน
- อาคารที่ติดหม้อแปลง เป็นหน้าต่างไม้และเปิดหน้าต่างไว้
- ร้านขายของใกล้ ๆ หน้าร้านเป็นของติดไฟได้ทั้งนั้น
- ควันขึ้นที่หม้อแปลงแล้ว แต่คนยังเฉย

‘เพื่อไทย’ แซะ ‘วันชัย’ อย่าตีโพยตีพายเกินจริง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ไม่เคยเอ่ยเป็นแคนดิเดตนายกฯ สักครั้ง

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์ แนวทางแลนด์สไลด์ที่พรรคเพื่อไทยใช้ในการปราศรัยในกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย พร้อมพาดพิงถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่าตำแหน่งนายกฯ ไม่ใช่ของเล่น ไม่ต้องรีบชิงสุกก่อนห่ามนั้น…

ขอขอบคุณสำหรับคำวิพากษ์วิจารณ์ของนายวันชัยที่ชี้แนะทางการเมืองให้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เปิดรับทุกความคิดเห็นที่มีประโยชน์และสร้างสรรค์ นายวันชัยไม่ควรวิจารณ์เพียงเพราะต้องการดิสเครดิตหรือเกาะกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ นายวันชัยควรจะใช้ความเป็นอาวุโสกว่าพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และควรหยุดการกระทำที่มีส่วนทำให้บ้านเมืองมาถึงจุดนี้  

เพราะที่ผ่านมานายวันชัยเป็นหนึ่งคนที่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่มาแล้วในปี 2560 ที่พูดอย่างภาคภูมิใจว่าเป็นคนเขียนรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ให้ ส.ว. 250 คน มีสิทธิ์ร่วมในการโหวตคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ ส.ว.เหล่านั้นไม่ได้รับอนุญาตจากประชาชนให้เข้ามา ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นมรดกบาปที่นายวันชัยและพวกโรยกลีบกุหลาบไว้ให้พลเอกประยุทธ์และองคาพยพ ได้มาซึ่งอำนาจจนถึงปัจจุบัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top