Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

จับอีก!! ผู้ค้าสลากหวังเก็งกำไร ซื้อสลากดิจิทัลนำไปขายต่อเกินราคา

ตามที่มีนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดำเนินการควบคุมและกำกับดูแลในการตรวจสอบผู้ที่มีพฤติการณ์ที่มีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ซึ่งได้มีการดำเนินการกันมาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ (21 ก.ค. 65) ที่ผ่านมา พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มอบอำนาจให้ผู้แทนเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีพฤติการณ์ในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้จำหน่ายสลากรายดังกล่าวได้มีการนำเอาภาพของสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการจำหน่ายผ่านช่องทางสลากดิจิทัล นำมาเสนอขายผ่านทางหน้าเพจ Thai Lotto ในเฟซบุ๊ก ราคาฉบับละ ๑๐๐ บาท หากถูกรางวัลจะโอนเงินรางวัลให้ก่อนทันที การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการเสนอจำหน่ายสลากเกินราคา จึงได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว

จากการสืบสวนในกรณีดังกล่าวพบว่า ในหน้าเพจเฟซบุ๊ก Thai Lotto ดังกล่าวเป็นเพจของ นายภูริวัฒน์ ดิษฐเจริญ อายุ 34 ปี ได้มีการนำเสนอจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยการให้ลูกค้าเลือกเลขที่ต้องการ แล้วทักแชทเพื่อติดต่อขอซื้อสลากกินแบ่ง ทางเพจก็จะนำภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งเป็นภาพจากสลากดิจิทัล นำมาให้ลูกค้าเลือกเลข โดยเสนอจำหน่ายฉบับละ 100 บาท โดยให้ชำระเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.สกุลรัตน์ สมเกี่ยม ซึ่งเป็นภรรยาของนายภูริวัฒน์ฯ และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ทั้งนายภูริวัฒน์ฯ และ น.ส.สกุลรัตน์ฯ ได้มีการซื้อสลากดิจิทัลไปรวมกันจำนวน 1,800 ใบ นอกจากนี้ น.ส.สกุลรัตน์ฯ ยังเคยเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลกับบริษัท มังกรฟ้า ลอตเตอรี่ จำกัด อีกด้วย

'ผบก. ปส.4' นำทีมสะกดรอย รวบ 7 ผตห. ขบวนการค้ายาฯ ผงะ..!! เจอยาไอซ์ 14 กระสอบหนัก 631 กก.

เมื่อวันที่ (25 กรกฎาคม 2565) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป.) และผู้อำนวยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.ตร.) ได้เปิดเผยว่า จากนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้กำชับนโยบายเร่งรัดการสืบสวนจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่องนั้น ซึ่งวันนี้ ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. ว่าเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมาได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจทางหลวง, เจ้าหน้าที่ทัพเรือภาคที่ 2, เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 7 คน ได้แก่

1. นายลุกมัน หรือมัน อายุ 39 ปี ที่อยู่ ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 
2. นางสาววนิดา หรือดา อายุ 40 ปี ที่อยู่ ตำบลสะบารัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 
3. นายแวแม หรือแม อายุ 38 ปี ที่อยู่ ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 
4.นายดากี หรือกี  อายุ 37 ปี ที่อยู่ ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส 
5.นายอาลาดิง หรือหวัง  อายุ 32 ปี ที่อยู่ ตำบลกาลิซา อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส 
6.นายมะเปาซี หรือนูซี  อายุ 24 ปี ที่อยู่ ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 
และ7.นายนครินทร์ หรือมีน อายุ 33 ปี ที่อยู่ ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง ได้แก่

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 14,กระสอบ น้ำหนักประมาณ  631 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะบรรทุกรถยนต์ 2. รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน 3. รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน 4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง  5. เงินสด จำนวน 240 บาท 

โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป โดยไม่ได้ รับอนุญาต" สถานที่จับกุม บริเวณริมทางหลวงสาย 4 ตำบลโคกทราย อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ต่อเนื่อง บริเวณด่านตรวจตำรวจทางหลวงพรุพ้อ ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และ ริมถนนเพชรเกษม ขาล่อง ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลของนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนกระทั่งวันที่ (22 กรกฎาคม 2565) พบว่า นายแม็ง หรือนายนครินทร์ เป็นนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีการลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ภาคกลางไปส่งให้กับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะซุกซ่อนยาเสพติดมากับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิชซูบิชิ และจะใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทำหน้าที่เป็นรถนำทางเพื่อตรวจการณ์การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ทำการสืบสวน เฝ้าติดตามรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 41 ตั้งแต่บริเวณรอยต่อจังหวัดนครศรีธรรมราช-พัทลุง อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง จนถึงจุดตรวจทางหลวงรัตภูมิ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. 

ชาวบ้านหวังดี แจ้งจนท.รถไฟ หลังพบเหล็กยึดรางหาย สุดท้ายได้รับคำตอบสุดอึ้ง “แจ้งร้านรับซื้อของเก่าแล้ว”

ชาวบ้านน้ำพอง ขอนแก่น หวังดี แจ้งเจ้าหน้าที่การรถไฟ หลังพบเหล็กยึดรางหายหลายจุด แต่กลับได้รับคำตอบสุดอึ้ง แจ้งร้านรับซื้อของเก่าแล้ว บอกหายเป็นประจำ เหตุขโมยมีเครื่องมือดีกว่า 

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น ว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน หมุดรางรถไฟ ช่วงระหว่างจุดข้ามทางรถไฟถนนสายน้ำพองกระนวน และจุดข้ามทางรถไฟเส้นทางไปบ้านนาเรียง บริเวณสะพานดำ ซึ่งเป็นสะพานข้ามลำห้วยสาธารณะ ถูกคนร้ายถอดหมุด และเหล็กประกับช่วงรอยต่อรางเหล็กที่ยึดติดกับพื้นสะพานหายไปจำนวน 5 จุด จึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบเพื่อเก็บข้อมูล เพื่อนำรายงานทางอำเภอ และเจ้าหน้าที่การรถไฟทราบ

โดยที่เกิดเหตุพบว่า เหล็กที่ใช้ยึดพื้นสะพานใช้รางรถไฟเป็นคานบน ความยาวประมาณ 25 เมตร จำนวน 2 เส้น ซึ่งแต่ละเส้นจะมีรอยต่อ ใช้เหล็กประกับแนบเหล็กเพื่อยึดด้วยน็อตจำนวน 4 ตัว พร้อมกับยึดติดกับไม้หมอนรถไฟที่อยู่บนพื้น ถูกคนร้ายถอดเอาเหล็กประกับออกไปจำนวน 5 จุด แต่ละจุดจะใช้เหล็กประกับ 2 ชิ้น ๆ ละ 1 กิโลกรัม หายไป

นายฉัตรชัย เผยว่า ขณะที่กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่นั้น ได้มีรถตรวจการของเจ้าหน้าที่การรถไฟ วิ่งผ่านมา จึงได้เรียกให้ตรวจสอบจุดที่ถูกขโมยหมุดรางรถไฟ ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า หมุดกับเหล็กที่หายไปถูกขโมยลักไปหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งจะนำอะไหล่มาทดแทน จนทุกวันนี้ไม่มีอะไหล่แล้ว เพราะถูกขโมยประจำ ซึ่งจุดที่ถูกขโมย ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถไฟแต่อย่างใด

สตช. ฝากเตือนภัยการกู้เงินนอกระบบ การทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายการปล่อยกู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต มีโทษหนักถึงจำคุก

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนภัยการกู้เงินนอกระบบ โดยปัจจุบันยังคงอยู่ในห้วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนบางส่วน จึงมีความจำเป็นต้องไปกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งก็มีเหล่ามิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสนี้แฝงตัวมาในรูปแบบของแหล่งเงินกู้นอกระบบและได้กระทำความผิดรูปแบบต่าง ๆ โดยการกระทำความผิดที่พบคือการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราและการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในรูปแบบต่างๆ ได้

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประชาชนเป็นวาระแห่งชาติ และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชน สร้างการรับรู้แนวทางป้องกันและหากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุทิน ทรัยพ์พ่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปน.ตร.) สั่งการไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปน.ตร.) และหน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ รวมถึงนายทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างจริงจังต่อเนื่องเด็ดขาด เพื่อให้ได้ผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม

ดังเช่นกรณีที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ ได้นำเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ (20 ก.ค. 65) ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.เมือง จว.ลำพูน โดยลูกหนี้รายหนึ่งซึ่งมีอาชีพค้าขายในตลาดแห่งหนึ่งได้ไปกู้เงินนอกระบบจากเจ้าหนี้หลายเจ้ารวมเงินต้นประมาณ 12,000 บาท ต่อมาได้มีคนมาติดตามทวงหนี้ที่บ้านเกิดเหตุหลายครั้งมีการพูดจาข่มขู่และปาของเข้าไปในบ้านทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบปากคำพยานและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย  
โดยต่อมาในที่ 23 ก.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในคดีนี้ได้แล้วจำนวน1ราย ส่วนอีก 1 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหา ร่วมกันทวงถามหนี้ลักษณะข่มขู่ลูกหนี้หรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่นฯ และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

‘ริชิ ซูนัก’ เต็งนายกฯ อังกฤษ ประกาศศึกล่วงหน้า จะจัดหนักจีน หากได้ครองทำเนียบบ้านเลขที่ 10

ริชิ ซูนัก (Rishi Sunak) อดีตรัฐมนตรีคลังอังกฤษเชื้อสายอินเดีย ตัวเต็งอันดับหนึ่งการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์ ที่จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษต่อจาก นายบอริส จอห์นสัน ในเดือนกันยายน 2022 นี้ ประกาศกร้าวว่า จีนเป็นภัยคุกคามอันดับ 1 ต่อประเทศอังกฤษ และความมั่นคงของโลก ซึ่งเขาสัญญาว่าจะใช้นโยบายแข็งกร้าวกับจีนอย่างแน่นอน หากมีชัยในการเลือกตั้งภายในพรรคอนุรักษ์และรับตำแหน่งผู้นำอังกฤษ 

คำให้สัมภาษณ์จาก ริชิ ซูนัก เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้รับชัยชนะรอบ 2 ของการหยั่งเสียงลงคะแนนคัดเลือกตัวแทนที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์อย่างท่วมท้น แต่กลับถูก ลิซ ทรัสส์ (Liz Truss) รัฐมนตรีต่างประเทศหญิงที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญ ออกมาโจมตีว่า ริชิ ซูนัก อ่อนในเรื่องนโยบายต่างประเทศ โดยเฉพาะการรับมือภัยคุกคามจากทั้งรัสเซีย และจีน 

อย่างไรก็ตาม ด้านสำนักข่าว Global Times ของจีน กลับให้การสนับสนุน ริชิ ซูนัก โดยวิเคราะห์ว่าเขาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียวที่มีมุมมองในเชิงปฏิบัติต่อการสานสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและจีน จนโดนสื่ออังกฤษที่สนับสนุน ลิซ ทรัสส์ ค่อนแคะ ริชิ ซูนัก ว่าไม่ต้องการได้ผู้นำที่ทำตัวเป็นตรายางให้จีน 

และนั่นก็เลยทำให้วันนี้ ริชิ ซูนัก ต้องออกมายืนยันหนักแน่นว่า เขาจะไม่อ่อนข้อให้กับภัยคุกคามจากจีนอย่างแน่นอน โดยเสนอนโยบายที่จะปิดสถาบันขงจื๊อทั้งหมด 30 แห่งทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลจีนเข้ามาเผยแพร่ Soft Power ผ่านการเรียน การสอน ศิลปะ วัฒนธรรม และภาษาบนแผ่นดินอังกฤษได้อีกต่อไป 

นอกจากนี้ เขายังบอกว่าจะถีบส่งรัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ ออกจากสถาบันการศึกษาของอังกฤษ ด้วยการออกกฏหมายบังคับให้มหาวิทยาลัยในอังกฤษต้องเปิดเผยแหล่งเงินทุนสนับสนุนจากต่างประเทศที่มีมูลค่ามากกว่า 50,000 ปอนด์ขึ้นไป และจะตรวจสอบผู้ร่วมโครงการวิจัยในสถาบันอังกฤษทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อสกัดการเข้าถึงองค์ความรู้ และเทคโนโลยีสำคัญของอังกฤษ ที่จีนมักถูกกว่าหาว่าแอบส่งนักวิชาการเข้ามาขโมยงานวิชาการของชาติตะวันตกอยู่เสมอ

‘ทิพานัน’ แนะเพื่อไทย ‘มูฟออน’ ได้แล้ว อย่าทำตัวเป็น ‘วัสสการพราหมณ์ยุยง’

‘ทิพานัน’ ย้อนแสบเพื่อไทย ‘มูฟออน’ จากศึกซักฟอกได้แล้ว อย่าทำตัวเป็น ‘วัสสการพราหมณ์ยุยง’ ยุให้พรรคพลังประชารัฐแตกแยก ยันสภาฯ ไว้วางใจ ‘บิ๊กป๊อก’ ทำงานต่อ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนพ.ชลน่าน ศรีแห้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความเห็นกรณีส.ส.พรรคประชารัฐโหวตคะแนนไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 6 เสียงเป็นการส่งสัญญาณเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า... 

การอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านพ้นไปแล้ว โดยที่ไม่สามารถล้มรัฐบาลและไม่ได้มีประเด็นใดที่หวือหวาอย่างที่โฆษณาชวนเชื่อ ในขณะที่รัฐบาลยังมีเสถียรภาพมั่นคง เดินหน้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนต่อไป จึงไม่ควรมโน หรือสร้างประเด็นยุยงให้เกิดแรงกระเพื่อมในรัฐบาล และในพรรคพลังประชารัฐ เพราะผลคะแนนโหวตไว้วางใจของ พล.อ.อนุพงษ์ เกินกึ่งหนึ่ง ถือว่าสอบผ่าน ได้รับฉันทามติจากสภาฯ ถือว่าได้รับความไว้วางใจจากตัวแทนพี่น้องประชาชนให้ทำงานต่อ

ศ.สุชาติ! แบงค์ชาติ​ควรค่อยๆ​ ขึ้นดอกเบี้ย​ ไม่ทำให้เงินบาทแข็งค่ามากไป​ เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของการส่งออกและรายได้ประชาชาติ

ศ​าสตราจารย์​ ดร.สุชาติ​ ​ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีตรัฐมนตรี​ว่าการกระทรวงการคลัง​ และอดีตหัวหน้าพรรค​เพื่อ​ไทย​ ให้ความเห็นว่า​

1. แบงค์ชา​ติ​ อาจขึ้นดอกเบี้ย​ 0.25% เพื่อทำให้ดอกเบี้ยที่แท้จริง​ (ดอกเบี้ยหักด้วยเงินเฟ้อ)​ ไม่ติดลบมากนัก​ โดยดอกเบี้ยไม่ต้องสูงเท่าดอกเบี้ยสหรัฐ​ เพราะเศรษฐกิจ​สหรัฐ​เติบโตเกินกำลังการผลิต​ จึงเกิดเงินเฟ้ออันเนื่องมาจากพิมพ์​เงินดอลลา​ร์​ มาใช้มากเกินไป​ แต่ไทยเป็นเงินเฟ้อที่มาจากต้นทุนนำเข้า​ เศรษฐกิจ​ไทยเพิ่งเริ่มฟื้นตัว​ การผลิตและการจ้างงาน​ยังต่ำอยู่มาก

2. การขึ้นดอกเบี้ย​ ไม่ควรทำให้เงินบาทแข็งค่ากว่าเงินประเทศอื่น ๆ​ ที่อ่อนค่าลง​ทั่วโลก​ อันเนื่องมาจากเงินสหรัฐ​ แข็งค่าขึ้นอย่างมาก

3. การส่งเสริมการส่งออกสินค้าบริการ​ รวมต่างชาติมาท่องเที่ยว (Exports-E)​ เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะ​การส่งออกคือ​ "ร​ายได้​ " แต่​เราไม่ควรส่งเสริมการนำเข้า (Imports-M)​ โดยไม่มีเป้าหมาย​ เพราะ​การนำเข้า คือรายจ่าย​ "เราส่งเสริมให้​ เพิ่มรายได้​ ลดรายจ่าย​ ขยายโอกาส" 

4. หาก​รัฐบาล​ไปทำให้ค่าเงินบาทแข็ง​เกินไป การนำเข้าก็จะเพิ่มขึ้น​ ซึ่งจะไปลด​รายได้ประชาชาติ​ (GDP)​ เพราะ​ใน​สมการ GDP​=C+I+G+E-M ตัว​ M จะไปหักออกจาก​ GDP 

5. เราจึงต้องรักษาค่าเงินบาทให้อ่อนเล็กน้อย​ เพื่อ​ให้การส่งออกสามารถแข็งขันได้​ดี เพื่อเพิ่มรายได้​ และทำให้ราคานำเข้าแพงขึ้นเล็กน้อย​ ทำให้ลดการนำเข้า​ เพื่อลดรายจ่าย​ จะเป็นการ​เพิ่ม​ GDP​ ทั้ง 2 ด้าน

6. การทำค่าเงินบาทให้อ่อน​ลงเล็กน้อย เพื่อเพิ่ม​การส่งออกทั้งปริมาณและมูลค่า จะให้ผลบวกเกือบทุกคนในประเทศ เพราะผู้ส่งออกที่แท้จริงคือ​ กรรมกรและชาวนา​ชาวสวน ซึ่งจะมีรายได้เพิ่มขึ้น​ โดยส่งผ่านมาจากบริษัทส่งออก และทำให้แม่ค้าข้าวแกง​ขายได้มากขึ้น​ด้วย การส่งออกจึงทำให้เกือบทุกคนในประเทศ​ มีรายได้และฐานะดีขึ้น​ และเนื่องจากการส่งออกก็คือผลผลิต​ (GDP​)​ ถึง​ 70% จึงจะทำให้อัตราความเติบโตของประเทศ (GDP​ growth rates) สูงขึ้น​ด้วย

'แอนโทนี่' ช็อกหนัก หลัง 'ปานเพชร' จากไป ประกาศแขวนนวมไว้อาลัยไม่ขอขึ้นชกอีก

‘แอนโทนี่’ คู่ชก ‘ปานเพชร’ ช็อกหนัก ประกาศแขวนนวม ไม่กลับไปต่อยอีก ลั่นจะดูแลครอบครัวปานเพชร จนกว่าพวกเขาจะไม่ต้องการความช่วยเหลือ

จากกรณีของ ปานเพชร หรือ ปานเพชร ผดุงชัยมวยไทยยิม นักมวยชาวไทย ที่ขึ้นชกกับ แอนโทนี่ ทีเอฟซี มวยไทย ชาวฝรั่งเศส ที่เวทีมวยเยาวชนกองทัพอากาศ รายการ ไฟต์เตอร์ เอกซ์ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา และเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นขณะขึ้นทำการชก เมื่อ แอนโทนี่ คู่ต่อสู้ ใช้ศอกกลับโดนเข้าขากรรไกรปานเพชร อย่างจังจนล้มลงศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง จนหมดสติไปแบบไม่รู้ตัว จนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเข้ารักษาตัวด้วยอาการโคม่ามาตลอด 9 วัน ก่อนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา 

โดย แอนโทนี่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจาก ‘ปานเพชร’ เสียชีวิต ว่า มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลดเป็นอย่างมาก ผมรู้สึกเสียใจมากจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดออกมาได้ทั้งหมดหมด มันเป็นความรับผิดชอบของผมที่ไม่สามารถเอาออกไปจากความคิดได้จนถึง ณ ตอนนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุ แม้ผู้คนมากมายส่งข้อความมาปลอบ และให้กำลังใจ

'เพื่อไทย' จี้ อธิบดีกรมอุตุฯ ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างโครงการติดตั้งสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝน หลังอนุกมธ.กังขาติดตั้งให้หน่วยงานมีกำไรใช้ฟรี

เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน คณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 กล่าวว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ที่มีการพิจารณางบประมาณ แผนบูรณาการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยเจ้าภาพหลัก คือสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รับงบประมาณ 213,522,800 บาทนั้น มีคณะกรรมาธิการงงบประมาณรายจ่ายปี 66 จากห้องใหญ่ ติดตามการของบประมาณของกรมอุตุฯ เนื่องจากกรมอุตุฯ ของบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปีมาตั้งแต่ปี 2564 ใน 2 โครงการ คือ
1. โครงการติดตั้งสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำฝน 1,100 จุดซึ่งทางคณะอนุกรรมมาธิการได้สอบถามว่าจะติดตั้งที่ใดบ้าง ก็ได้รับคำตอบจากกรมอุตุฯว่าได้มีการทำหนังสือไปถึงหน่วยงานรัฐในแต่ละจุดแล้ว 
และ 2.โครงการปรับปรุงเครื่องตรวจวัดระดับน้ำ ซึ่งโครงการนี้ถูกตัดงบประมาณในปี 66

แต่ทราบว่าหากมีการทำสัญญากัน ในปี 67 จะมีการดำเนินการตั้งงบฯ กลับมาให้ใหม่ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการเปลี่ยนงวดงาน ทั้งที่โครงการเหล่านี้ไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับประชาชนตามภารกิจของกรมอุตุฯ แต่เป็นการทำประโยชน์ให้แก่บางหน่วยงาน เช่นกรณีการติดตั้งสถานีเรด้าตรวจวัดปริมาณน้ำฝนประจำสนามบินแล้วให้วิทยุการบิน และการท่าใช้งานฟรี ทั้งที่วิทยุการบินและการท่าเป็นหน่วยงานที่มีกำไรมหาศาล หากจะติดตั้งสถานีเรดาร์ประจำสนามบินก็ควรให้หน่วยงานเหล่านี้ ดำเนินการเอง หรือต้องซื้อข้อมูลจากกรมอุตุฯ ไม่ใช่นำงบฯจากภาษีของพี่น้องประชาชนไปติดตั้งให้หน่วยงานที่มีกำไรใช้งานฟรี

‘ชัชชาติ’ เผย ‘บิ๊กตู่’ บอกไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่าย เตรียมส่งทหารช่วยลอกคลองรับมือน้ำท่วม

นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร เป็นประธานและร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาและปรับภูมิทัศน์คลองไผ่สิงโตเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2565 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พร้อมให้สัมภาษณ์ในประเด็นการประสานความร่วมมือกับกองทัพบก โดยระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ช่วยเหลือเต็มที่ โดยได้สั่งการ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. และ พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 และกรมกิจการพลเรือนช่วย กทม.ใน 4 ด้าน คือ การเก็บขยะหน้าโรงสูบน้ำขนาดใหญ่ การเก็บขยะบริเวณตะแกรงที่มีปัญหา การช่วยขนคนกลับบ้านในกรณีที่มีน้ำท่วมขังและมีปัญหาการจราจร และเรื่องการขุดลอกคลอง ทางกรมกิจการพลเรือนก็ได้ส่งนายทหารระดับเสนาธิการ 1 นาย มาประจำอยู่ที่ศูนย์บัญชาการระบายน้ำ ที่ดินแดง ก็มีการประสานงานอย่างดีมาก เพราะ กทม.เองเรามีกำลังจำกัด 

ทั้งนี้ นายกฯก็ได้มีการสั่งการเร่งด่วน และวันที่ 25 ก.ค. จะเริ่มมีการวางแผนขุดลอกคลองลาดพร้าวเพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมามีปัญหาที่สองคลองหลัก คือ คลองลาดพร้าวและคลองแสนแสบ โดยคลองลาดพร้าวมีปัญหาเรื่องความตื้นเขิน น้ำไหลช้า เพราะมีปัญหาเรื่องเขื่อนที่ยังทำไม่เสร็จ พรุ่งนี้ทางทหารก็จะมีเจ้าหน้าที่มาร่วมกับสำนักการระบายน้ำ กำหนดพื้นที่แบ่งกันช่วยขุดลอก ซึ่งนายกฯบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเลย ทำให้ประชาชนก่อน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top