Thursday, 3 July 2025
Hard News Team

'อนุสรณ์' ชี้!! 8 ปีผ่านมามีแต่ความล้มเหลว แนะ!! 'ประยุทธ์' อย่าดิ้นรนอยู่ในอำนาจต่อ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พรรคการเมืองลงพื้นที่หาเสียงถี่ในช่วงปลายอายุรัฐบาล ว่า พรรคเพื่อไทยทยอยลงพื้นที่เปิดนโยบาย เปิดตัวผู้สมัคร ให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน 

สวนทางกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่แยกกันเดิน แยกกันขึ้นเวที แยกกันลงพื้นที่ เพื่อแก้ตัวกับประชาชน กลบความล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพใน 8 ปีของระบอบสืบทอดอำนาจ 

นิด้าโพลสะท้อนชัดประชาชน 64.25 เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรประกาศอยู่ในตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ไม่เกิน 24 ส.ค. นี้ ขณะที่ 55.18% เชื่อหลังเลือกตั้งสมัยหน้า 3 ป. จะไม่มีบทบาทจัดตั้งรัฐบาล จะให้ประชาชนไว้วางใจ 3 ป.ได้อย่างไร ในเมื่ออยู่มา 8 ปี 3 ป.ยังไม่ไว้วางใจกันเองเลย

รับตัวครูแดนกลับไทยผู้กำกับคิวบู๊ภาพยนต์ชายแดนแม่สาย

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา พันเอก สุทธิ์เขตต์ ศรีนิลทิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมืองในฐานะประธานฝ่ายไทยของคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมาร์พร้อมด้วยชุดประสานงานชายแดนไทย-เมียนมาร์ พันตำรวจเอก เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมายังด่านชายแดนมิตรภาพไทย-เมียนมาร์แห่งที่2

เพื่อเดินทางมารับมอบตัวนาย ระม้าย โมริพันธ์ หรือครูแดนผู้กำกับคิวบู๊ภาพยนต์ละครและครูสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับดารานักแสดงหลังจากก่อนหน้านี้ได้ถูกคุมขังอยู่ในคุกเมืองโต๋นเมียนมาร์เขตปกครองพิเศษว้าโดยเจ้าหน้าที่รัฐว้าได้นำตัวครูแดนมาส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ทหารเมียนมาร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็กตรงกันข้ามด่านชายแดนอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงรายตั้งแต่วันที่ 7สิงหาคม 2565 โดยทางเจ้าหน้าที่เมียนมาร์ได้สอบปากคำครูแดนแล้วเสร็จโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 1 วันก่อนติดต่อทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยผ่านทางคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาร์ระดับท้องถิ่นหรือชุดทีบีซีเพื่อขอส่งมอบตัวครูแดนกลับสู่ประเทศไทย

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าครูแดนถูกหลอกให้เข้าไปถ่ายทำละครในรัฐฉานประเทศเมียนมาร์แต่มีขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มหนึ่งหลอกให้ไปถูกคุมขังที่เมืองโต๋นเขต ปกครองพิเศษว้าแล้วมีการเรียกค่าไถ่จากญาติเป็นเงินจำนวน 24 ล้านบาทและปรากฎภาพครูแดนถูกใส่โซ่ตรวนและมีกองกำลังติดอาวุธดูแลอย่างเข็มงวดทำให้ นางคำ โมริพันธ์ มารดาของครูแดนขอความช่วยเหลือไปยังหลายหน่วยงานส่งผลทำให้ทางการไทยประสานไปยังรัฐบาลกลางเมียนมาร์และเขตปกครองพิเศษว้าจนมีการนำตัวมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่เมียนมาร์จังหวัดท่าขี้เหล็กโดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ไทยจะได้สอบปากคำครูแดนอีกครั้งว่าข้อเท็จจริงของเรื่องนี้เป็นอย่างไรพร้อมกับจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป


สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

ผู้ปกครองจีนดูถูก ‘ครู’ ปั่นจักรยานมาโรงเรียน บอกครูยังจนแบบนี้ เด็กจะตั้งใจเรียนไปทำไม

กำลังเกิดกระแสการถกเถียงในโซเชียลมีเดียของจีน หลังจากมีแชตสนทนาหลุดระหว่างครูโรงเรียนแห่งหนึ่งและผู้ปกครองที่เขียนข้อความเชิงตำหนิครูรายดังกล่าวที่เดินทางมาโรงเรียนด้วยการปั่นจักรยาน ซึ่งอาจทำให้ลูกของเธอหมดความตั้งใจในการเรียน เพราะขนาดคนเป็นครูยังไม่มีปัญญาใช้รถยนต์หรู ๆ เลย

ภาพสกรีนช็อตของบทสนทนาดังกล่าวถูกแชร์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ โดยมีความคิดเห็นจำนวนมาก ระบุว่า แม่คนนี้เป็นพวกวัตถุนิยม หัวสูง และหยาบคาย

เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนเมื่อครูแซ่หวังรายนี้กำลังปั่นจักรยานไปทำงาน และเจอกับเด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง เว็บไซต์ข่าว qq.com รายงาน

ทั้งคู่ทักทายกันอย่างสุภาพและไปตามทางของตัวเอง แต่เมื่อหวังมาถึงห้องพักครูและเช็คกลุ่มวีแชตสำหรับครูและผู้ปกครอง เขากลับพบข้อความแปลก ๆ จากแม่ของเด็กคนดังกล่าว

หวังตอบกลับว่า "ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงนะครับคุณแม่น้องหยงหยงนะครับ แต่ผมสนุกกับการปั่นจักรยาน และบ้านผมก็อยู่ใกล้โรงเรียนนิดเดียวเอง"

แต่คุณแม่รายนี้ยังคงซักไซ้ต่อว่า "แล้วถ้าฝนตกล่ะ มันจะไม่สะดวกนะ คุณควรซื้อรถยนต์ดีกว่า

"ถ้าฝนตก ผมไม่ใช้จักรยานหรอกครับ ผมถือร่มเดินไปโรงเรียนก็ได้ ผมสะดวกจริง ๆ ครับ" ครูหวัง ตอบ 

มาถึงจุดนี้ คุณแม่ก็ยอมเปิดเผยเหตุผลจริง ๆ ที่อยากให้ครูหวังใช้รถยนต์ว่า "ลูกฉันนั่ง BMW มาตั้งแต่เกิด คนรอบ ๆ ตัวเขาก็ใช้รถยนต์หรูกันหมด แล้วถ้าคนเป็นครูอย่างคุณยังปั่นจักรยาน คุณคิดว่าเขาจะคิดยังไงล่ะ"

"แล้วเขาจะคิดยังไงหรอครับ" ครูหวัง ถามด้วยความงงงวย

คุณแม่จึงตอบกลับว่า "ฉันพร่ำบอกให้เขาตั้งใจเรียนทุกวัน แต่เขาเห็นว่าคุณปั่นจักรยานมาทำงาน เขาจะคิดยังไงล่ะ เขาคงคิดว่าคนเป็นครูยังหาเงินไม่ได้เลย เรียนไปก็คงไม่มีประโยชน์"

'ส.ส.ลพบุรี' ลั่น!! ไม่หนุนนโยบายปลูกกัญชา โว เลือกตั้งครั้งหน้าพท. กวาดส.ส.ทุกเขตแน่

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (8 สิงหาคม) มีนักการเมืองพรรคหนึ่งได้ไปกล่าวปราศรัยที่จังหวัดลพบุรีว่าจะส่งเสริมให้ชาวลพบุรีปลูกกัญชา ตนในฐานะผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี พรรคเพื่อไทย ไม่มีนโยบายให้ประชาชนเสพยาเสพติด หรือยุยงส่งเสริมคนลพบุรี เพราะตนรู้ว่าคนลพบุรีฉลาดพอ คนลพบุรีตัดสินใจได้ว่าจะเลือกผู้แทนของเขาแบบมีคุณภาพ ท่านบอกจะเหมาหมดทั้งลพบุรี ท่านถามคนลพบุรีส่วนใหญ่หรือยัง 

ประเด็นต่อมาคือ นโยบายของพรรคเพื่อไทยยืนยันมาเสมอว่า น้ำคือชีวิต เราจะวางแผนบูรณาการน้ำทั้ง 2 ลุ่มน้ำ อย่างเป็นระบบ เพื่อให้มีน้ำใช้ตลอดปี นอกจากนี้ จังหวัดลพบุรีพื้นที่ส่วนใหญ่ทำนา ทำไร่ ตนในฐานะตัวแทนของพรรคเพื่อไทย เราได้เสนอกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรทั้งระบบที่ทำมาหากินอยู่โดยได้ยื่นญัตติต่อสภา โดยสภาได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาซึ่งตนได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด

ประเพณี ‘คุกเข่า’ ขอสาวแต่งงาน สัญญามั่น ‘รัก-ภักดี’ ชั่วนิจนิรันดร์

ช่วงนี้ซีนคุกเข่าขอแต่งงานปรากฏขึ้นบ่อยตามหน้าสื่อ แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมถึงต้อง ‘คุกเข่า’ แล้วการคุกเข่าขอแต่งงาน มีจุดเริ่มมาจากอะไร?

สำหรับคุณสาว ๆ (อาจจะรวมถึงคุณหนุ่มๆ) แล้ว ช่วงเวลาสุดพิเศษที่มีใครสักคนมาคุกเข่า เพื่อแต่งงานนั้น คงเป็นอีกหนึ่งความฝันที่เฝ้าใฝ่หากันไม่มากก็น้อย เพียงแค่เขาคนนั้นค่อย ๆ หย่อนเข่าข้างหนึ่งลง หัวใจของคุณสาว ๆ ก็คงเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งอยู่ในสภาวะที่คนรอบข้างรายล้อมด้วยแล้ว คนโดน คือ ยิ้มแรง ส่วนคนรอบข้างแม้จะยินดี แต่ก็น่าจะแอบมองแรงด้วยแรงอิจพร้อม ๆ กัน 

ว่าแต่การคุกเข่าขอแต่งงาน มีความหมายอะไรงั้นหรือ?

หากมองอย่างผิวเผินแล้ว อาจจะเป็นประเพณีหนึ่งที่ทั่วโลกทำกัน ขณะที่อีกมุมหนึ่ง ก็ถูกมองว่าเป็นท่าที่มุมเหมาะสมสำหรับการสวมแหวนให้กับอีกฝ่ายได้อย่างพอดีและสวยงาม

แต่จากข้อมูลของ Engagement Ring Bible ได้อธิบายถึงที่มาของการคุกเข่าขอแต่งงานไว้ โดยระบุว่าจุดเริ่มต้นดังกล่าวต้องย้อนไปในยุคของอัศวินอันทรงเกียรติ ตั้งแต่ช่วงยุคกลาง (Medieval) ซึ่งผู้คนจะพบเห็นภาพปกติที่ผู้ชายนั้นมักจะคุกเข่า ‘หนึ่งข้าง’ ให้แก่ฝ่ายหญิงที่หมายตาไว้ ประหนึ่งอัศวินที่คุกเข่าต่อเจ้านาย ขุนขาง หรือผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ ความภักดี และยังมีความเกี่ยวเนื่องการศาสนาในสมัยนั้นอีกด้วย

‘ครม.’ เทงบ 4,019 ล้านบาท ปัน 5 กระทรวง บริหารน้ำฤดูฝน 65 เก็บน้ำฤดูแล้ง 65/66

(9 ส.ค. 65) ผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุว่า ครม.อนุมัติงบกลาง วงเงิน 4,019 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในช่วงฤดูฝน ปี 2565 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้งปี 2565 / 2566 จำนวน 1,361 รายการ ให้กับ 5 กระทรวง 13 หน่วยงาน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้งในปี 65/66 ในพื้นที่เป้าหมาย คือ พื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย ภัยแล้ง ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด และพื้นที่เสี่ยงที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไข บรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งโดยเร่งด่วน ตามที่หน่วยงานในพื้นที่จังหวัดเสนอผ่านคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด ใน 5 กลุ่มประเภทโครงการ ได้แก่...

1. การซ่อมแซม ปรับปรุง อาคารชลศาสตร์ เช่น ซ่อมแซม ปรับปรุงพนังกั้นน้ำ คันกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ คลองส่ง ระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำ สถานีโทรมาตร เป็นต้น

2. การปรับปรุง แก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ และกำจัดผักตบชวา ที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การระบายน้ำและการจัดการพื้นที่น้ำท่วม พื้นที่ชะลอน้ำ

3. การขุดลอกคูคลอง เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ 

4. การเตรียมความพร้อมวางแผนเครื่องจักรเครื่องมือ เช่น ซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำเครื่องมือเครื่องจักร ยานพาหนะขนย้าย

และ5. การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อเก็บกักไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เป็นการจัดหาแหล่งน้ำรองรับน้ำส่วนเกินในช่วงฤดูฝนสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งถัดไป เช่นสระ /อ่างเก็บน้ำ ระบบกระจายน้ำ ธนาคารน้ำใต้ดิน ขุดเจาะบาดาล ปฏิบัติการฝนหลวง เป็นต้น

สำหรับ 5 กระทรวง 13 หน่วยงาน ที่จะดำเนินการตามโครงการฯ จำนวน 1,361 รายการ ได้แก่…

1. กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จำนวน 32 รายการ วงเงิน 23.31 ล้านบาท

2. กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) จำนวน 2 รายการ วงเงิน 76.45 ล้านบาท 

3. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จำนวน 411 รายการ วงเงิน 1,190.43 ล้านบาท 

'อลงกรณ์' คิกออฟงานเกษตรปลอดภัย ชูเพชรบุรีโมเดล ต้นแบบเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร(City of Gastronomy)ของยูเนสโก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าเกษตรปลอดภัยโดยมีนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารมช.พาณิชย์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี ดร.กัมพล สุภาแพ่ง คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ อดีต ส.ส.เพชรบุรี นายอาณัติ หุ่นหลา เกษตรจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชนและ เกษตรกรชาวเพชรบุรี ร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าเกษตร ณ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานเปิดงานว่า จังหวัดเพชรบุรีเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร (Gastronomy) นับเป็นจังหวัดตัวอย่างต้นแบบโดยเฉพาะรูปแบบการสร้างความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในยกระดับการพัฒนาภาคเกษตรและอาหารสอดรับกับเป้าหมายรัฐบาลที่จะก้าวไปสู่ประเทศชั้นนำท็อปเทนของโลกในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร โดยขณะนี้ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับ 13 ของโลก จาก 200 กว่าประเทศซึ่งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้โลกและสงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้ทั่วโลกเผชิญกับวิกฤติการณ์ขาดแคลนอาหาร จึงเป็นโอกาสในวิกฤติของประเทศไทยและจังหวัดเพชรบุรีที่จะได้พัฒนาเพิ่มศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

'ผบช.ภ.4' แจงเหตุตำรวจต้องวิสามัญชายคลั่งยา เพราะอาละวาดไล่ฟันครู ตชด.หัวแบะ

เมื่อวันที่ (9 ส.ค. 2565) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ได้รายงานเหตุกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญคนคลุ้มคลั่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติการตามหน้าที่ ต่อผู้บังคับบัญชาระดับ ตร.ตามลำดับชั้นว่า ในวัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ วันที่ 8 ส.ค.65 เวลาประมาณ 20.30 น.ที่ถนนทางเข้าวัดภูหัวบ้าน ต.โนนทอง อ.นายูง จว.อุดรธานี โดยมีผู้เสียชีวิตคือ นายรัญญูหรือมด ทองอินทร์ อายุ 36 ปี ราษฎร อ.น้ำโสม จว.อุดรธานี มีประวัติเสพยาเสพติด

สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ด.ต.สะเด่น อันทะปัญญา อายุ 48 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.นายูง มีบาดแผลถูกมีดฟันที่ศีรษะยาวประมาณ 5 ซม.ลึกถึงกล้ามเนื้อ แต่ไม่ถึงกะโหลก แพทย์ได้ทำการเย็บแผล และให้รอดูอาการ 1 วัน หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนสามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ เบื้องต้นอาการโดยรวมปลอดภัย ขณะนี้ได้ให้เพื่อนร่วมงานและญาติเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงคนร้าย ส.ต.อ.เฉลิมพล ชาภูธร ผบ.หมู่ ป.สภ.นายูง จว.อุดรธานี สำหรับ ของกลางในคดี มีอาวุธปืนพกสั้น ออโตเมติก ยี่ห้อซิก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก(ที่ตำรวจใช้ยิงผู้ตาย) และอาวุธมีด จำนวน 2 เล่ม(ที่ผู้ตายใช้ก่อเหตุทำร้ายตำรวจ)

"ผบช.ภ.4 รายงานอีกว่าเหตุ" ซึ่งตามวันเวลาเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นายูง ได้รับแจ้งเหตุชายเมายาบ้าคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดไล่ฟันครูที่ รร.ตชด.นาเมืองทอง ด.ต.สะเด่นฯพร้อมพวกและอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน จึงได้เข้าไประงับเหตุ เมื่อไปถึง รร.ฯปรากฎว่าชายดังกล่าวได้หลบหนีไปแล้ว จากการตรวจสอบทราบว่าชื่อนายรัญญูฯและได้หลบหนีไปที่บริเวณวัดที่เกิดเหตุ จึงได้ติดตามไปเพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุไล่ทำร้ายคนอื่นอีก เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบผู้ตายเดินถืออาวุธมีดอยู่ จึงได้หยุดรถเพื่อที่จะจับกุม ปรากฏว่าระหว่างที่ ด.ต.สะเด่นฯเดินลงจากรถ ผู้ตายได้วิ่งเข้าใช้อาวุธมีดพุ่งเข้ามาฟันที่ศีรษะ ด.ต.สะเด่นฯทันที

โดยที่ ด.ต.สะเด่นฯยังไม่ทันตั้งตัว ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้น ส.ต.อ.เฉลิมพลฯเห็นว่า ผู้ตายจะเงื้อมีดทำร้ายร่างกายและก่อเหตุร้ายแรงกับ ด.ต.สะเด่นฯ จึงได้ใช้อาวุธปืนยังไปที่ผู้ตาย จำนวน 2 นัด เพื่อหยุดยั้งการกระทำ เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที หลังเกิดเหตุจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และนำตัว ด.ต.สะเด่นฯส่ง รพ.นายูง เบื้องต้นในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว โดยในส่วนของ ภ.4 จะได้มอบเงินเพื่อบำรุงขวัญในลำดับต่อไป

'อดีตบิ๊กศรภ.' ถาม "ทำไมต้องไล่ลุงตู่" ฟันเปรี้ยงยิ่งโหมยิ่งบ่งชี้ถึงความ ‘กลัว’

(9 สิงหาคม 2565) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ผ่านทางเฟซบุ๊ก “พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์” มีเนื้อหาดังนี้....

ทำไมต้องไล่ลุงตู่

ปัจจุบันไม่มีใครรู้อนาคตว่าเลือกตั้งครั้งใหม่นั้น ลุงตู่ จะกลับมาเป็นนายกฯได้อีกหรือเปล่า เพราะถ้าวิเคราะห์ตามคำทำนายของทั้งสื่อ ทั้งกลุ่มพลังต่าง ๆ รวมถึงโพลนิด้าเอง ก็ว่า ลุงตู่ ตกยุคไปแล้ว ประชาชนหมดความนิยมไปแล้ว 3ป. ก็แตกแยกกัน พรรค พปชร.ก็แตก ออกหลายส่วน

ดังนั้น ตามคำทำนายต่าง ๆ จะเห็นได้ชัดเจนว่า ลุงตู่ ไปไม่รอดแน่ ดังนั้นจะไปกลัวอะไรกับ ลุงตู่ อีก

นอกจากนั้นในแนวทางการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว ถ้า ลุงตู่ มีสิทธิที่จะไปต่อไป ก็ต้องให้แกลงสมัครแข่งขัน เป็น ส.ส. ต่อไป (คราวนี้ลุงตู่ลงสมัครรับเลือกตั้งแน่นอน)

จะไปขัดขวางไม่ได้ นอกจากนั้น กระแสข่าวที่ทุ่มเทกันออกมา ชี้ให้เห็นว่าประชาชนไม่เอา ลุงตู่ แล้ว แล้วจะไปกีดขวาง ขู่เข็ญ ลุงตู่ ให้เสียชื่อไปทำไม

การออกมาไล่ ลุงตู่ มากขึ้น ๆ แบบนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าทุกฝ่ายยังกลัว ลุงตู่ อยู่ จึงเท่ากับไปหาเสียงให้ ลุงตู่ ในทางอ้อม

ทำอย่างนี้เมื่อไร ลุงตู่ จะได้ไปอยู่บ้านเฉย ๆ ละครับ

ส่วนเรื่อง 8 ปีของ ลุงตู่ นับถึงวันไหนนั้น ผมยกข้อเขียนของคุณ สมชาย แสวงการ มาลงไว้ให้อ่านกัน เพื่อจะได้หาวิธีเคลื่อนไหวไล่ ลุงตู่ ให้เข้าตา “ศาลรัฐธรรมนูญ” บ้าง

คุณสมชาย ว่า ความเห็นทางกฎหมายเป็นได้แค่ 2 ทาง คือ

1.) แบบที่1 คือนายกลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ หัวหน้าคสช.ที่มาจากรัฐประหารและขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐถาธิปัตย์ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ตามมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เมื่อ (24 ส.ค. 2557) ไม่อาจนับเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาตามกรอบมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญ2560 ได้ เพราะไม่ได้มาจาการเลือกกันในรัฐสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

แต่หากยังต้องนำบทเฉพาะกาล มาตรา 264 มานับวันที่ให้ ครม. ที่บริหารราชการแผ่นดินก่อนรัฐธรรมนูญ2560 ทำหน้าที่เป็น ครม.ได้ต่อไป ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ด้วย ดังนั้นการนับครบ8ปีแบบนี้จึงต้องนับตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญ2560 ใช้บังคับคือ 6 เม.ย. 2560 และนับตามบทเฉพาะกาลมาตรา264

‘เพื่อไทย’ ปัดดีล ‘พปชร.’ เล่นเกมล่มองค์ประชุม ลั่น!! หวนใช้หาร 100 เชื่อทางออกที่ดีที่สุด

(9 ส.ค. 65) ที่รัฐสภา นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ. .... รัฐสภา กล่าวถึงองค์ประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค. 65) ว่า ยืนยันฝ่ายค้านไม่มีปัญหา เพราะจะลงชื่อเข้าร่วมประชุมตามปกติ ส่วนกรณีที่จะมีการทำให้องค์ประชุมล่มเพื่อให้การพิจารณาไม่ทัน 180 วัน และกลับไปใช้ร่างเดิมนั้น มองว่าฝ่ายค้านเป็นเสียงข้างน้อยคงไม่สามารถกำหนดอะไรได้ ต้องแล้วแต่เสียงส่วนใหญ่ว่าจะเอาอย่างไร แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยยังยืนยันจุดยืนเดิมมาโดยตลอดในการใช้สูตรหาร100 คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถ้าทำตามนี้แต่แรกก็จบไปนานแล้ว ทั้งนี้ตนอยากให้ฝ่ายเสียงข้างมากในรัฐสภามีความชัดเจนและคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ส่วนกรณีที่หากเกินกรอบ 180 วันและสูตรหาร 500 จะตกไป เราคิดว่าเป็นช่องทางที่ดีที่สุดและช่องทางที่สะดวกที่สุดของฝ่ายเสียงข้างมากที่จะกลับมาหาร100 ทั้งนี้หากจะเดินหน้าหาร 500 พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีปัญหาแต่เท่าที่ฟังมาหลายพรรคของฝ่ายรัฐบาลบอกว่าอยากจะกลับมาในทิศทางที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข เรื่องนี้เดินไม่ถูกทิศมาบางส่วน ดังนั้นหากจะกลับมาถูกทิศก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าไม่มีปัญหากับหาร 500 หมายความว่าเห็นด้วยแล้วใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เรายืนยันมาตลอดว่าหาร 500 ขัดหรือแย้งต่อกฎหมาย แต่ถ้าจะดันไปข้างหน้าก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะเป็นเสียงข้างมาก แต่เราไม่เคยคิดหรือกลับไปกลับมา ยืนยันว่าหาร 100 ตลอด ส่วนฝ่ายรัฐบาลจะทำอย่างไรก็ไม่กล้าจะคาดเดา

เมื่อถามว่า ได้ประเมินว่ากฎหมายลูกจะผ่านในวันพรุ่งนี้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า คาดเดายาก รอดูหน้างานเป็นหลัก เมื่อถามว่า หากการประชุมล่มจะสามารถชี้แจงเหตุผลต่อประชาชนได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เราสามารถชี้แจงได้ไม่มีปัญหา ให้เกิดขึ้นก่อน ตอนนี้ยังไม่เกิด เราได้แต่คาดการณ์

"สำหรับพรรคเพื่อไทยหากสูตรหาร 500 ผ่านวาระสาม จะยื่นเรื่องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งอาจจะเกิดได้ 2 กรณีคือ 1. การจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และ 2. หน้าที่ของผู้แทนราษฎรคืออะไร โดยอีกส่วนหนึ่งเราเตรียมจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าขัดหรือแย้งต่อกฎหมายหรือไม่ แต่หากร่างกฎหมายลูกตกไปในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ หรือทำไม่เสร็จภายใน 180 วัน เราก็คงจะพับแผลนี้ไว้เพราะได้กลับมาที่ร่างเดิมแล้วและเป็นร่างที่พรรคเพื่อไทยรับได้ ทั้งนี้ร่างกฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับที่ผ่านรัฐสภาในวาระแรกเสนอสูตรหาร100เหมือนกันหมด ไม่มีฉบับใดเลยที่เขียนว่าหาร 500 และที่ติด ๆ ขัด ๆ ก็เพราะเลือกหาร 500 ถ้าทำถูกหลักแต่ต้นก็จะไม่มีปัญหาเช่นนี้ ตนจึงอยากให้ทุกพรรคทุกคนที่เป็นกรรมาธิการเลิกคิดว่าพรรคเพื่อไทยได้เปรียบและพรรคเล็กเสียเปรียบ มาเริ่มต้นกันใหม่ พรรคใหญ่ก็มีคนมากเป็นธรรมดา พรรคเล็กตั้งใหม่มีขนาดเล็กก็ไม่เป็นไร กฎหมายนี้ไม่ได้ทำเพื่อให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ทำเพื่อพี่น้องประชาชนทั้งหมด เพื่อให้เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ" นายสมคิด กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันหรือไม่ว่าจะไม่เล่นเกมทำให้องค์ประชุมล่ม นายสมคิด กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเล่นเกม พรรคเพื่อไทยทำองค์ประชุมล่มไม่ได้ถ้าเสียงข้างมากไม่ทำ พรรคเพื่อไทยเป็นเสียงข้างน้อย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top