Tuesday, 8 July 2025
Hard News Team

'ศาลปกครองกลาง' สั่งจ่ายหนี้ บีทีเอส 1.2 หมื่นล้าน เบื้องต้น​ กทม.เตรียมยื่นอุทธรณ์

‘ศาลปกครองกลาง’​ มีคำสั่งพิพากษาให้ ‘กทม-เคที’ จ่ายหนี้ค่าเดินรถสายสีเขียว​ส่วนต่อขยาย โดยให้ชำระเงินภายใน 180 วัน​นับตั้งแต่คดีถึงที่สุด เบื้องต้น​ กทม.เตรียมยื่นอุทธรณ์

(7 ก.ย. 65) รายงานข่าวจากศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ เคที กรณีผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว) เพื่อขอให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาดังกล่าว

โดยศาลปกครองกลาง​ มีคำสั่งพิพากษาให้กรุงเทพมหานครและกรุงเทพฯ ธนาคมร่วมกันจ่ายเงินในส่วนต่อขยายที่ 1​ ช่วงสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่-บางหว้า และช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง ซึ่งค้างชำระหนี้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม​ 2562​ - ​พฤษภาคม​ 2564 รวมดอกเบี้ย​  2,348 ล้านบาท

ชาวนครพนมเฮ!! รถไฟทางคู่ใกล้ความจริง หลัง รฟท. เคาะงบ 10,386 ล. เร่งจ่ายเวนคืนที่ดิน

ชาวนครพนมเฮ!! รถไฟทางคู่สายบ้านไผ่ – นครพนม ใกล้ความจริง หลังการรถไฟฯ เคาะงบ 10,386 ล้าน จ่ายค่าเวนคืน คาดใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี 

เพจ ‘ชุมชนคนนครพนม Nakhon Phanom Community‘ ได้โพสต์ข้อความถึงความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายบ้านไฟ่ – นครพนม ว่า ..

รอจนหลานบวชสึกมาแล้ว! รถไฟทางคู่ นครพนม-มุกดาหาร-บ้านไผ่ เตรียมส่งมอบพื้นที่ปีนี้ รฟท.อนุมัติ 10,386 ล้าน เร่งจ่ายเงินเวนคืนให้ครบ จะได้สร้างสักที!!!

อยู่ทันได้นั่งรถไฟบ้านเฮาอยู่เด้อ! สรุปข่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย อนุมัติงบประมาณเวนคืนที่ดิน 10,386 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ในจำนวนนี้เป็นเงินเวนคืนรถไฟทางคู่สายอีสาน นครพนม-บ้านไผ่ วงเงิน 3,615 ล้านบาท เตรียมเร่งจ่ายเงินเวนคืน และจะทยอยส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้รับเหมาที่ชนะประมูลก่อนหน้านี้ เพื่อเปิดไซต์งานก่อสร้างเสียทีครับ

ตามข่าวล่าสุด คณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2562 อยู่ระหว่างพิจารณากำหนดราคาเบื้องต้น ตามแนวก่อสร้างเส้นทางผ่านพื้นที่จังหวัด ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม ที่จะถูกเวนคืน รวม 9,012 แปลง 18,462 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 2,368 หลัง และไม้ยืนต้น 6,711 แปลง รวมแล้วใช้งบประมาณเวนคืนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ตามข่าวที่ทีมงานเพจชุมชนคนนครพนมสอบถามมา ที่นครพนมบ้านเราก็เพิ่งมีการประชุมกำหนดราคาเวนคืนไปเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ อ.ธาตุพนม และ อ.เมืองนครพนม รวมทั้ง จ.มุกดาหาร บ้านติดกันนี้ด้วย คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่แปลงแรกให้ผู้รับเหมาได้ ภายในปี 2565 และทยอยเวนคืนและส่งมอบพื้นที่จนครบ ระหว่างนั้นพื้นที่ไหนรับส่งมอบแล้วก็เริ่มก่อสร้างไปก่อนได้เลย ใช้เวลาก่อสร้างรวม 4 ปี น่าจะเสร็จปี 2569 ถ้าเสร็จทั้งหมดปีนั้นก็ทันได้ขึ้นรถไฟกันแล้ว

เตรียมพร้อม ปักหมุด! 
สถานีธาตุพนม อยู่ใกล้จุดก่อสร้างบายพาสใหม่ ธาตุพนมใต้
สถานีเรณูนคร อยู่ใกล้บ้านหนองย่างชิ้นทางเข้าเมืองเรณู
ป้ายหยุดรถไฟนาถ่อน อยู่ใกล้ทางไปดงยอ โพนแพง
ป้ายหยุดรถไฟบ้านกลาง อยู่ใกล้ๆ บ้านดงยอ ต.บ้านกลาง
สถานีใหญ่นครพนม ถ.นิตโย จากสามแยกหนองญาติไปดอนยานาง
สถานีสะพานมิตรภาพ 3 นครพนม-คำม่วน ติดศูนย์ขนส่งสินค้าชายแดน

มาล่าช้า แต่มาชัวร์ รถไฟทางคู่สายใหม่ช่วง บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงินก่อสร้าง 6.68 หมื่นล้านบาท มีขั้นตอนที่ยุ่งยากเพราะเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ ไม่ได้สร้างบนที่ดินเดิมของการรถไฟ ทำให้ต้องเวนคืนและปรับพื้นที่หลายอย่างให้เหมาะสม กว่าจะได้สร้างก็ช้ากว่าที่เขาประกาศกันไว้มาหลายปี

'ดร.ปริญญา' โพสต์ขอคืนสิ่งที่คสช. ยึดไปในปี 2557 คืนอำนาจเลือกนายกฯ ผ่าน ส.ส. ให้ประชาชน

'ดร.ปริญญา' โวยคสช.ยึดอำนาจไปตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว รธน.ประกาศใช้ 5 ปีแล้ว ถึงเวลาคืนอำนาจเลือกนายกฯ ผ่าน ส.ส. ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ปลุกสว. 84 คน ถ้ายอมตัดอำนาจตนเองจะถูกบันทึกและจดจำยิ่งกว่าทุกครั้ง

7 ก.ย. 65 - ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

ขอแค่สิ่งที่ คสช.ยึดไปในปี 2557 #คืนให้ประชาชน
#คืนอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีผ่าน ส.ส.ให้ประชาชน
ตัดอำนาจ ส.ว.#เลือกนายกรัฐมนตรี

คณะรัฐประหารทุกคณะล้วนแต่อยากให้ ส.ว.ที่ตัวเองเลือก #มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งสิ้น เพื่อเป็นหลักประกันในการ #สืบทอดอำนาจต่อไปหลังเลือกตั้ง แต่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จจนกระทั่ง คสช.ที่ยึดอำนาจไปตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว

ที่คราวนี้ทำสำเร็จก็เพราะฝีมือ #อาจารย์มีชัย ฤชุพันธ์ ที่สรุปบทเรียนจากร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2534 ที่อาจารย์มีชัย ก็เป็นประธานร่างรัฐธรรมนูญ ตอนนั้นอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีอยู่ในร่างแรกเลย ผลคือถูกนักศึกษาประชาชนประท้วงจนต้องยอมแก้ในวาระสองตัดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป

ในคราวนี้อาจารย์มีชัย จึงเอาอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีแยกออกมา แล้วเรียกว่าเป็น #คำถามเพิ่มเติม หรือคำถามพ่วง แล้วก็ไม่ยอมถามตรงๆ ว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่ ส.ว.ที่ คสช.เลือกจะมีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ไปใช้ถ้อยคำว่า “ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา” คนจำนวนมากอยากให้มีเลือกตั้งเสียที อ่านคำถามเพิ่มเติมแล้วนึกไม่มีอะไร เมื่อโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ก็โหวตรับคำถามพ่วงด้วย

อย่าลืมว่าตอนนั้นคนที่ค้านจะรณรงค์ค้าน หรือบอกประชาชนเรื่องนี้ก็ทำไม่ค่อยได้เพราะจะถูกจับ อีกทั้ง #พลเอกประยุทธ์ ก็แถลงสองวันก่อนถึงวันลงประชามติว่า #จะไม่สืบทอดอำนาจ แล้วผลประชามติในเรื่องนี้ ซึ่งทำกันแบบมัดมือชก ก็ไม่ได้ชนะขาดลอยแต่ประการใด เพราะมีคนเห็นชอบ 58% เท่านั้น

'อัษฎางค์' ยก 15 ผลงานใหญ่ '8 ปี ประยุทธ์' ก้าวไปไกล จนก้าวไกล ก้าวตามไม่ทัน

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก 'เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค' โดยระบุว่า...

8 ปีประยุทธ์ ก้าวไปไกลจนก้าวไกล ก้าวตามไม่ทัน 

อัษฎางค์ ขอยก 15 ผลงานเรื่องใหญ่ๆ ที่รัฐบาลประยุทธ์สร้างสรรค์เอาไว้ จนก้าวไปไกลสุดสายตา จนพรรคชื่อก้าวไกลแต่ย่ำอยู่กับที่ก้าวไม่ไปไหนไกลและคนใจบอด 3 นิ้วไม่สามารถจะเห็นได้

15 ผลงานรัฐบาลประยุทธ์
•1 First S-curve การส่งเสริม 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การต่อยอด-ยกระดับ 5 อุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีศักยภาพ

•2 EEC โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อเป็นพื้นที่การลงทุนและแหล่งบ่มเพาะ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ 

•3 EECi พัฒนาเมืองแห่งนวัตกรรม หรือเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ให้เป็น 'ซิลิคอนวัลเลย์' 'เมืองใหม่อัจฉริยะ' ด้วยนวัตกรรมของเมืองไทย

•4 EECd เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล

•5 5G โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ครอบคลุมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ทั่วประเทศ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล โดยในปี 2564 ความเร็วเฉลี่ยอินเตอร์เน็ตบ้านของไทย ที่ 308 ล้านบิทต่อวินาที (Mbps) ถือว่าแรงเป็นอันดับ 1 ของโลก 

•6 Digital Government การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมุ่งเป้าการเปลี่ยนแปลงสู่ 'รัฐบาลดิจิทัล' เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐ โครงการเน็ตหมู่บ้าน 74,987 หมู่บ้าน ทั้งประเทศ โครงการสายเคเบิ้ลใต้น้ำ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมุ่งเป้าการเปลี่ยนแปลงสู่รัฐบาลดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐ 

•7 Prompt Pay พัฒนาระบบ 'พร้อมเพย์' เพื่อสนับสนุนการชำระเงินและโอนเงินแบบทันที พัฒนาระบบพอร์ทัลกลางเพื่อประชาชน (Citizen Portal) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ในการติดต่อขอรับบริการผ่านช่องทางออนไลน์ 

‘บัตรทอง’ ยุคลุงตู่ ยกระดับสู่ ‘บัตรพรีเมี่ยม’ เพิ่มสิทธิประโยชน์ครอบคลุม สะดวกทุกที่

รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มุ่งเน้นด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจด้านคุณภาพชีวิตประชาชนอีกด้วย นับเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล ที่จะดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างดีที่สุด รวมทั้งยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก รวมถึงองค์การอนามัยโลก นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และดูแลรักษาสุขภาพโลก และยังพัฒนาต่อไปตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีหลักยึดที่สำคัญ คือ เราจะเดินหน้าไปพร้อมกัน และ ‘ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ ภายใต้คำขวัญ ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง เศรษฐกิจประเทศแข็งแรง’ เพื่อให้เห็นภาพรวมในการพัฒนาด้านสาธารณสุข ขอสรุปให้เห็นเป็นรูปธรรมดังนี้

- ยกระดับและต่อยอดบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ไปเป็น ‘บัตรทองพรีเมี่ยม’ เพิ่มสิทธิประโยชน์ เพิ่มคุณภาพบริการ

- บัตรทองพรีเมี่ยม รักษาโควิดฟรี

- ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565 ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารักษาในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศโดยที่หน่วยบริการจะไม่มีการเรียกให้กลับไปรับใบส่งตัวมาเหมือนในอดีตที่เคยเป็นปัญหา

- บัตรทองทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้

- บัตรทองให้สิทธิ์การย้ายหน่วยบริการ ได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน

- ผู้ถือบัตรทองได้สิทธิฟอกไตฟรี 

- มาตรการลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 มีการรณรงค์เพื่อการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (และส่งเสริมการทำงานที่บ้าน รวมถึงกลไกในการทำงานที่ขันแข็งของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่าหนึ่งล้านคนทั่วประเทศ

- ระบบประกันสุขภาพครอบคลุมประชาชนเท่าเทียม

- พัฒนาระบบบริการสาธารณสุข แพทย์สมัยใหม่ และแพทย์แผนไทย

- พัฒนาและยกระดับความรู้อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน (อสม.)

- ลดภาระการเดินทางไปสถานพยาบาลของประชาชน

- ลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่

- รับยาที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันใกล้บ้านสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หืด จิตเวช และโรคเรื้อรังอื่นๆ 

- ส่งยา/เวชภัณฑ์ถึงบ้านทางไปรษณีย์ การบริการสาธารณสุขระบบทางไกล (Telehealth/Telemedicine) และการตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกโรงพยาบาล

'สร้างอนาคตไทย' แถลงตั้ง 'ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' เป็นประธานพรรค เตรียมเปิดตัว 8 ก.ย.นี้

วันนี้ (7 ก.ย. 65) ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต พรรคสร้างอนาคตไทย จัดประชุมใหญ่เตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง โดยมีผู้บริหารพรรค อาทิ ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคใต้ นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคอีสาน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค และประธานกรุงเทพฯ ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และประธานฝ่ายนโยบาย นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรค นายกำพล ปัญญาโกเมศ รองหัวหน้าพรรค และประธานฝ่ายวิชาการ นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และโฆษกพรรค และนายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และประธานภาคกลาง พร้อมด้วยว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคทั่วประเทศกว่า 300 คน เข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ ยังได้จัดประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรควาระพิเศษ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการแต่งตั้ง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นั่งเป็นประธานพรรคสร้างอนาคตไทย

ดร.อุตตม กล่าวว่า ที่ประชุม กก.บห.ครั้งที่ 11/2565 ได้รับทราบเรื่องการสมัครเป็นสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทยของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมาชิกเลขที่ 10021971 ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2565  และที่ประชุมมีมติเอกฉันท์แต่งตั้ง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อเป็นผู้นำอุดมการณ์และร่วมกับสมาชิกพรรคขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.65) ทาง ดร.สมคิด จะเดินทางเข้ามาร่วมประชุมกับผู้บริหารพรรค และว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคทั่วประเทศ 

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ ถือเป็นการประชุมใหญ่ระหว่างผู้บริหารพรรค และว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคทั่วประเทศครั้งแรกของพรรค เพื่อเตรียมพร้อมต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความเข้าใจถึงอุดมการณ์ และเจตจำนงการทำงานของพรรคที่ทุกคนต้องขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งเป็นการประกาศตัวให้ประชาชนทั้งประเทศมั่นใจว่าพรรคมีความพร้อมที่จะเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ และปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่าพรรคมีนโยบาย และชุดความคิดที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาได้อย่างแน่นอน และขอยืนยันว่าตอนนี้ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด จะวันนี้หรือพรุ่งนี้พรรคสร้างอนาคตไทยก็พร้อมลงสู่สนามเลือกตั้งในทันที

รัฐเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงสายอีสาน เฟสแรก 'กรุงเทพฯ-นครราชสีมา' คาดเปิดใช้งานปี 70

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการความร่วมมือกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย และการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย สปป.ลาว และจีน ว่า ขณะนี้โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา อยู่ระหว่างการก่อสร้างงานโยธาของโครงการระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 250.77 กิโลเมตร ขณะนี้สามารถดำเนินการได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยโครงการฯ ประกอบด้วย 15 สัญญา แยกเป็น งานโยธา 14 สัญญา และงานระบบ 1 สัญญา โดยกระทรวงคมนาคมกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2570  

นายอนุชา กล่าวว่า ในด้านความคืบหน้าของงานโยธา 14 สัญญา ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 สัญญา ได้แก่ ช่วงกลางดง-ปางอโศก ซึ่งเป็นพื้นที่ทดสอบรูปแบบการก่อสร้าง และทดสอบวัสดุก่อสร้างไทย เพื่อเทียบมาตรฐานจีน ภายใต้การก่อสร้างของกรมทางหลวง ระยะทาง 3.5 กม. และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 9 สัญญา ได้แก่ 

1.) ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม.
2.) งานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ซึ่งมีจุดเด่นคืองานก่อสร้างอุโมงค์ยาวรวม 8 กิโลเมตร และการก่อสร้างทางรถไฟระยะทางรวม 12.23 กิโลเมตร 
3.) ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 26.10 กม. 
4.) ช่วงลำตะคอง-สีคิ้วและช่วงกุดจิก-โคกกรวด ซึ่งมีจุดเด่นคือ มีงานก่อสร้างทางรถไฟระยะทางยาวที่สุดในโครงการ ระยะทาง 37.45 กม. 
5.) ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ซึ่งเป็นงานก่อสร้างสถานีนครราชสีมา และการก่อสร้างทางรถไฟ ระยะทาง 12.38 กม. 
6.) ช่วงดอนเมือง-นวนคร ประกอบด้วย งานโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ระยะทางรวม 21.80 กม. 
7.) ช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กม.
8.) ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ประกอบด้วย งานโครงสร้างทางรถไฟ ระยะทางรวม 31.60 กม. แบ่งเป็น คันทางระดับดิน 7.02 กม. ทางยกระดับ 24.58 กม.
9.) ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ซึ่งมีจุดเด่นคืองานก่อสร้างสถานีสระบุรี และการก่อสร้างทางรถไฟระยะทางรวม 12.99 กิโลเมตร

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า และเป็นการอยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้าง 1 สัญญา ได้แก่ ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย ประกอบด้วย ทางรถไฟระดับพื้นในศูนย์ซ่อมบำรุง งานอาคารภายในศูนย์ซ่อมบำรุงรวมถนนต่อเชื่อม ได้แก่ อาคารระบบซ่อมบำรุงขบวนรถไฟ 19 อาคาร อาคารควบคุมระบบการจัดการเดินรถและฝึกอบรม 4 อาคาร อาคารสำหรับระบบซ่อมบำรุงทาง 8 อาคาร และงานก่อสร้างถนนงานระบบระบายน้ำและงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ และยังไม่ลงนาม 3 สัญญา ได้แก่ งานโยธาช่วงแก่งคอย-กลางดง และปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กม. ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. และช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กม.

ล่าสุดราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เพื่อดำเนินการก่อสร้างตามโครงการฯ ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป มีกำหนดระยะเวลา 4 ปี มีสาระสำคัญให้เจ้าหน้าที่เริ่มต้นเข้าสำรวจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืน ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่ในการเวนคืน และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกา

‘ทิพานัน’ วอนอย่าด่วนวิจารณ์เอกสาร 'มีชัย' ปม 8 ปี เตือนสติฝ่ายค้าน ควรรอศาลชี้ขาด อย่าตีรวนรายวัน

รองโฆษกรัฐบาล วอนอย่าด่วนวิจารณ์เอกสารความเห็น 'มีชัย' ปม 8 ปี เผยแพร่ในโลกโซเชียล ชี้แจงกรณี ‘พล.อ.ประยุทธ์' ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา เตือนสติฝ่ายค้านต้องเชื่อมั่นศาลหลังยื่นคำร้องเอง หยุดตีรวนกดดันศาลทำสังคมสับสนรายวัน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารที่อ้างว่าเป็นคำชี้แจงของท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ส่งเป็นเอกสารถึงศาลรัฐธรรมนูญว่า ขอให้สังคมหยุดวิพากษ์วิจารณ์เพราะเอกสารดังกล่าวยังไม่มีการรับรองว่าเป็นเอกสารจริงและเป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้เป็นข้อสรุปคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็นปัญหาวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี จึงขอให้สังคมใช้วิจารณญาณก่อนการวิพากษ์วิจารณ์ 

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า หลังมีเอกสารดังกล่าวเผยแพร่ในโซเชียล อาจทำให้สังคมสับสนว่าจะเป็นคำวินิจฉัยของศาล จึงต้องขอชี้แจงว่า หากศาลต้องการข้อมูลหรือคำชี้แจงของท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นไปในฐานะพยาน ตามกระบวนพิจารณาของศาล โดยศาลรัฐธรรมนูญได้อาศัยอำนาจตามพรป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 27 ที่กำหนดให้การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญใช้ระบบไต่สวน ศาลมีอำนาจค้นหาความจริง การพิจารณาของศาลต้องเป็นไปโดยรวดเร็ว และในการปฏิบัติหน้าที่ ศาลมีอำนาจเรียกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาคดีได้ ซึ่งคำชี้แจงหรือหลักฐานของบุคคลที่ส่งมายังศาล เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งที่อยู่ในกระบวนการพิจารณา ยังไม่ใช่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 72 และ 73 ของพรป. นี้

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่'

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 7 กันยายน 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..

‘พล.ต.ท.สุรเชษฐ์’ รับโล่ประกาศเกียรติคุณศิษย์เก่าดีเด่น งาน ‘วันสถาบันพระปกเกล้า’

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 65 ที่ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพคเมืองทองธานี สมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้าได้จัดงานเมื่อวันที่ “5 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสถาบันพระปกเกล้า” ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันสถาปนาสถาบันพระปกเกล้า โดยได้รับเกียรติจากฯพณฯ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธี และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับบุคคลที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นศิษย์เก่าดีเด่นประจำปี 2565

โดยในงานนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะศิษย์เก่าของสถาบันพระปกเกล้า ได้เดินทางมาร่วมงานและรับโล่ประกาศเกียรติคุณศิษย์เก่าดีเด่นของสถาบันประจำปี 2565 จากการที่มีผลงานดีเด่นในการปฏิบัติหน้าที่ จนได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ อาทิเช่น รางวัลต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ในปี 2559 รางวัลข้าราชการดีเด่นและเกียรติยศจักรดาว ในปี 2560 เป็นต้น 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top