Tuesday, 8 July 2025
Hard News Team

ส่อง 8 รัชทายาท ผู้สืบทอดบัลลังก์ราชวงศ์วินด์เซอร์ หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต

หลังจาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษเสด็จสวรรคตแล้ว เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2565 (ตามเวลาในประเทศไทย) รัชทายาทที่จะขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ในทันทีคือ เจ้าชายแห่งเวลส์ นอกจากนี้ยังมีเจ้าชายและเจ้าหญิงพระองค์อื่นๆ อีก แต่จะมีพระองค์ไหนบ้าง มาดูกัน

>> เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมาร
ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์โตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ปี พระราชสมภพเมื่อปี 1948

ทรงอภิเษกสมรสเมื่อปี 1981 กับเลดี้ไดอานา สเปนเซอร์ ซึ่งต่อมาดำรงพระยศเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทั้งสองมีพระโอรสคือ เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี ก่อนจะทรงหย่ากันในปี 1996

หลังเจ้าหญิงแห่งเวลส์สิ้นพระชนม์ ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีส เมื่อปี 1997 เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงอภิเษกสมรสอีกครั้ง กับนางคามิลลา พาร์กเกอร์ โบลส์ ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ในปี 2005

ซึ่งก่อนหน้านี้ สำนักพระราชวัง เคยเผยแพร่แถลงการณ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เนื่องในโอกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี เนื้อหาตอนหนึ่ง ระบุว่า

“พระองค์มีพระราชปรารถนาให้ "คามิลลา" ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายาในเจ้าฟ้าชายชาลส์ มกุฎราชกุมาร ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินี เมื่อเจ้าฟ้าชายชาลส์เสด็จขึ้นครองราชย์ในอนาคต”

เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์จะได้รับการสถาปนาเป็นเพียงเจ้าหญิงพระราชชายาเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีลำดับการสืบสันตติวงศ์ของราชวงศ์วินด์เซอร์อีกดังนี้

>> เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์
ทรงเป็นพระโอรสพระองค์โตในเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ ทำให้ได้พบกับเคต มิดเดิลตัน พระชายาในเวลาต่อมา โดยเข้าพิธีเสกสมรสในปี 2011

ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นมนตรีแห่งรัฐ ทรงเข้ารับการฝึกวิชาทหาร ก่อนจะเข้าประจำการในกองทัพอากาศของสหราชอาณาจักร โดยทรงเป็นนักบินของหน่วยปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในทางตอนเหนือของแคว้นเวลส์

>> เจ้าชายจอร์จแห่งเคมบริดจ์

ประสูติเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2013 ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรีในกรุงลอนดอน เป็นพระโอรสพระองค์โตของเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์

'สรุนันทน์' ย้ำเปิดศูนย์ประสานงานพรรค เพื่อเป็นตัวกลางประสานงานระหว่างภาครัฐกับประชาชน

วันที่ 9 กันยายน 2565 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานภาคกรุงเทพฯ เปิดศูนย์ประสานงานพรรคเขตสวนหลวง - ประเวศ ซึ่งมีนายอภิชาติ จรัสโภคา เป็นผู้ประสานงานพรรคในพื้นที่ ก่อนทำพิธิเปิดศูนย์ นายสุรนันทน์ ได้เดินทางไปยังโรงเรียนสอนศาสนา ศาสนูปถัมภ์ พบปะพูดคุยกับอาจารย์ไฟโรส อยู่เป็นสุข ผู้จัดการโรงเรียนฯ โดยอาจารย์ไฟโรส ได้มีข้อเสนอและต้องการให้มีการสนับสนุนโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับโรงเรียนในประเทศมุสลิมต่างๆ ทั่วโลกที่สนใจโครงการนี้ เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ให้เด็กๆ ได้มีการเรียนรู้ที่กว้างไกลขึ้น โดยมีโรงเรียนฯ เป็นศูนย์กลางในการประสานงานเรื่องนี้ ซึ่งนายสุรนันทน์ ได้รับข้อเสนอและจะนำไปหารือกับคณะทำงานของพรรค เพื่อร่วมสนับสนุนข้อเสนอแนะเท่าที่จะทำได้ต่อไป

จากนั้นเดินทางกลับมาที่ศูนย์ฯ โดยนายสุรนันทน์ กล่าวว่า การเปิดศูนย์ประสานงานในแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นศูนย์รวมสำหรับประชาชน ที่มีปัญหาเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบในวงกว้างขณะนี้ รวมไปถึงบางพื้นที่ที่ขาดแคลนไฟฟ้า, ปัญหาลำรางสาธารณะ, ปัญหาถนนขาดตอนขาดช่วง หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ได้เข้ามาดูแล พรรคพร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที

ก.แรงงาน จัดกิจกรรม 'จิตอาสาร่วมบริจาคโลหิต 1 คนให้ หลายคนรับ รู้รักสามัคคี พัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน'

วันที่ 9 กันยายน 2565 เวลา 10.30 น. นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะนายกสมาคมแม่บ้านกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นางโสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้ช่วยนายกสมาคมฯ นางดรุณี นิธิทวีกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้ช่วยนายกสมาคมฯ และคณะกรรมการสมาคมฯ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้บริจาคโลหิต โดยกระทรวงแรงงานร่วมกับสมาคมแม่บ้านกระทรวงแรงงาน และศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ร่วมจัดกิจกรรมบริจาคโลหิต ภายใต้ชื่อกิจกรรม “จิตอาสาร่วมบริจาคโลหิต 1 คนให้ หลายคนรับ รู้รักสามัคคี พัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน” เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริจาคโลหิตร่วมบริจาคโลหิตสม่ำเสมอทุก 3 เดือน และให้ได้รับโลหิตบริจาคเพียงพอสำหรับผู้ป่วยทั่วประเทศ ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

น้อมเกล้าแสดงความอาลัย 'ควีนเอลิซาเบธ' สิ้นกษัตริย์ครองราชย์ยาวนานสุดของสหราชอาณาจักร

บรรดาผู้นำทั่วโลก น้อมเกล้าแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคต สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 องค์พระประมุขที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดของสหราชอาณาจักร สิริพระชนมายุ 96 พรรษา รวมเวลาครองราชย์ 70 ปี

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า "ในฐานะประมุขแห่งรัฐที่ครองราชย์นานที่สุดและพระชนมายุยืนที่สุดของสหราชอาณาจักร สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นที่ชื่นชมอย่างกว้างขวางทั่วโลก ต่อความกรุณา อุทิศตัวและความสง่างามของพระองค์ พระองค์สร้างความอุ่นใจตลอดช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ หลายทศวรรษ ในนั้นรวมถึงการปลดปล่อยอาณานิคมในแอฟริกาและเอเชีย และวิวัฒนาการของเครือจักรภพ"

"สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 เป็นมิตรที่ดีกับสหประชาชาติ ทรงเสด็จเยือนสำนักงานใหญ่ของเราในนิวยอร์ก 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันกว่า 50 ปี พระองค์มุ่งมั่นอย่างหนักแน่นต่องานด้านการกุศลและปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และตรัสสร้างแรงบันดาลใจแก่บรรดาคณะผู้แทน ณ ที่ประชุมโลกร้อน COP26 ในกลาสโกว์ เกล้ากระหม่อมของแสดงความชื่นชมสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ต่อความมั่นคงของพระองค์ การอุทิศตนตลอดชีวิตเพื่อรับใช้ประชาชนของพระองค์ โลกจะจดจำการอุทิศตัวและความเป็นผู้นำของพระองค์"

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลข 1 ระบุในถ้อยแถลงว่า "ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง พระองค์ทรงยืนหยัดอย่างมั่นคง และเป็นบ่อเกิดแห่งความอุ่นใจและความภาคภูมิใจของชาวสหราชอาณาจักรหลายชั่วอายุ ในนั้นจำนวนมากไม่รู้ว่าประเทศของพวกเขาจะเป็นไปในทิศทางไหนหากปราศจากพระองค์ มรดกของเธอจะเป็นส่วนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร และในเรื่องราวของโลกของเรา"

นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวว่า "สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 จะถูกจดจำในฐานะผู้กล้าหาญในช่วงเวลาของเรา พระองค์มอบแรงบันดาลใจผู้นำของประเทศและประชาชนของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นบุคคลที่มีความสง่างามและมีทำนองคลองธรรมในชีวิตสาธารณะ ข้าพเจ้าของส่งความคิดคำนึงถึงครอบครัวของพระองค์และประชาชนชาวสหราชอาณจักร ในชั่วโมงอันน่าเศร้านี้"

เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ระบุในถ้อยแถลงว่า "ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ปากีสถานขอร่วมกับสหราชอาณาจักรและบรรดาชาติต่างๆ ในเครือจักรภพ ในการไว้อาลัยต่อการสวรรคตของพระองค์ กระผมขอน้อมเกล้าแสดงความอาลัยด้วยความจริงใจถึงเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ ประชาชนและรัฐบาลของสหราชอาณาจักร"

จันติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ระบุว่า "มันเศร้าสลดใจอย่างที่สุด หลังเราได้ทราบข่าวการจากไปของกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของแคนาดา สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 พระองค์ทรงยืนหยัดอย่างมั่นคงในช่วงชีวิตของเรา และการรับใช้ชาวแคนาดาของพระองค์ จะยังคงเป็นส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศของเราไปตลอดกาล"

จาซินดา อาร์เดิร์น นายรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ น้อมเกล้าแสดงความอาลัยว่า "ฉันรู้ว่าฉันต้องพูดแทนประชาชนทั่วนิวซีแลนด์ แสดงความเห็นใจอย่างสุดซึ้งถึงสมาชิกพระบรมวงศานุวงศ์ ต่อการจากไปของสมเด็จพระราชินี สำหรับเราพระองค์ทรงเป็นชื่นชมและเป็นกษัตริย์ที่เราให้ความเคารพอย่างสูง พระองค์ทรงเป็นเหมือนแม่และยายของพวกเรา"

แอนโธนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ระบุว่า "ด้วยการจากไปของ สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 การครองราชย์ครั้งประวัติศาสตร์และการอุทิศทั้งชีวิตในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ครอบครัว ความศรัทธาและการรับใช้ได้มาถึงจุดจบ หัวใจของชาวออสเตรเลียขอยืนเคียงข้างประชาชนชาวสหราชอาณาจักรผู้โศกเศร้าในวันนี้ เรารู้ดีว่าพวกรู้สึกอย่างไรที่ต้องสูญเสียส่วนสำคัญที่สร้างประเทศของพวกเขาขึ้นมา คำปลอบโยนสามารถพบได้ในคำตรัสของสมเด็จพระราชินีเองที่ว่า ความเศร้าคือราคาที่ต้องจ่ายเพื่อความรัก"

นอกจากไบเดนแล้ว ในส่วนของสหรัฐฯ มีบุคคลสำคัญหลายคนที่ร่วมน้อมเกล้าแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ในนั้นรวมถึง แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มิตช์ แม็คคอนเนลล์ ผู้นำรีพับลิกันในวุฒิสภา อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา เช่นเดียวกับอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน

‘ปวิน’ เตือนกองเชียร์ชัชชาติ อย่าดันทุรังชมอย่างเดียว ชี้ ความล้มเหลวของผู้นำ ฟังแต่คำชม-หลีกเลี่ยงวิจารณ์

‘ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’ เตือนถ้าจะตำหนิความไร้ความสามารถของผู้ว่าฯ ต้องตำหนิทั้งหมด ชี้มีแนวโน้มชัชชาติทำอะไรไม่มีใครตำหนิ หาทางแก้ตัว เตือนความล้มเหลวของผู้นำ ฟังแต่คำชม-หลีกเลี่ยงคำวิจารณ์

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ในยุคนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า "หรือเราต้องยอมรับกันว่า ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานครก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น เราทำได้แค่ 2 อย่าง คือ ถ้าจะตำหนิความไร้ความสามารถของผู้ว่าฯ เราต้องตำหนิทั้งหมด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นอัศวินหรือชัชชาติ

‘แพทองธาร’ ลั่น ไม่ยึดติดต้องเป็นนายกฯเอง หากมีคนที่เหมาะสมกว่า รับเคยคิดการเมืองโหดร้ายกับตระกูลชินวัตร ชี้รัฐประหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแล้ว

เราจะร่วมทำงานกับคนที่ มีหัวใจประชาธิปไตย เชื่อในประชาธิปไตย ไม่รู้ว่านายกฯ (ประยุทธ์) เชื่อแบบนั้นไหม เพราะไม่ได้มาจากประชาชน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
ให้สัมภาษณ์รายการ “เปิดปาก กับ ภาคภูมิ”
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 65

‘แพทองธาร’ ลั่น ไม่ยึดติดต้องเป็นนายกฯเอง หากมีคนที่เหมาะสมกว่า รับเคยคิดการเมืองโหดร้ายกับตระกูลชินวัตร ชี้รัฐประหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแล้ว 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ลูกสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เปิดปาก กับ ภาคภูมิ” ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ทางช่องไทยรัฐทีวี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา โดยในรายการได้ถามว่าหากสมมติได้เป็นนายกรัฐมนตรี กลัวหรือไม่จะเป็นแบบพ่อ (ทักษิณ) ที่ถูกทำรัฐประหาร น.ส.แพทองธาร กล่าวยืนยันว่า รัฐประหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแล้ว แต่ตนเองกลัวการถูกนำกฎหมายมาใช้แบบ 2 มาตรฐานมากกว่า เพราะทุกวันนี้ตนเองเคยพูดว่าโซเชียลมีเดียมันแรงขึ้น เรามีสื่อในมือ เราสามารถตอบคำถามและแก้ต่างในสิ่งที่มันไม่จริงได้ มั่นใจเลยว่าหากไทยรักไทยสมัยก่อนมีโซเชียลมีเดียในมือจะไม่เป็นแบบนี้ เพราะเรื่องหลายๆ เรื่องจะสามารถถูกชี้แจงได้ เพราะมีหลักฐานเพียงพอ แต่ในเวลานั้นมันไม่มีช่องทาง หรือสื่อที่จะแก้ต่างได้อย่างรวดเร็ว เพราะพ่อเองก็ไม่มีเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ที่จะตอบโต้ได้เลย

ส่วนประเด็นที่มีคนบอกว่ามาเล่นการเมือง เพราะต้องการให้นายทักษิณกลับบ้านใช่หรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร ตอบด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอ ว่า “แยกเป็น 2 เรื่องนะ อิ๊งค์เป็นลูกสาวคนเล็ก อิ๊งค์เป็น Daddy’s girl มาตั้งแต่วันที่อิ๊งค์จำความได้ อิ๊งค์อยากให้พ่อกลับบ้านทุกวันนะคะ ตั้งแต่วันที่ออก ลูกสาวคนเล็ก นี่เราไม่พูดถึงคนกลางคนโต พูดถึงแค่ตัวเรา เราอยากให้พ่อกลับบ้านทุกวัน ถ้าใครตามอินสตาแกรมมาตั้งแต่เนิ่นนาน อิ๊งค์พูดมาทุกครั้ง อิ๊งค์อวยพรพ่อทุกรอบ ปีหน้าจัดงานวันเกิดที่บ้านเรานะ พูดทุกรอบ (ตั้งแต่ปี 49 พูดอย่างนี้ทุกปี) ทุกปีค่ะ มันคือความหวัง นั่นคือสิ่งที่ทำให้เรา ครอบครัวอยู่ได้ เพราะเราก็มีความหวัง ไม่เคยพูดเลยว่าปีหน้าจะโอกาสน้อยลง พูดว่ามันมากขึ้นทุกปี อันนี้คือในเซ้นส์ของครอบครัว”

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า แต่ในเซ้นส์ของการเมือง เรื่องที่ตนเองแบกไว้ว่าอยากให้พ่อกลับบ้านทุกวัน มันคือปัญหาของครอบครัวตนเอง แต่ไม่ได้ต้องการจะผลักดันให้เป็นปัญหาของประเทศ เพราะการเมืองและประเทศตอนนี้ ปัญหาคือปากท้อง และประชาชนยากจน หนี้สินท่วมท้น นี่คือสิ่งที่ต้องแก้ ไม่เอามาปนกัน โดยยอมรับว่าพ่อมีความหวังจะได้กลับประเทศ เพราะปัจจุบันอายุ 73 ปีแล้ว ที่ทุกวันนี้ยังหัวเราะเฮฮา ออกกำลังกายทุกวัน เพราะยังอยากแข็งแรงทั้งใจและร่างกาย

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่'

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 9 กันยายน 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..

การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๖ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕

วันที่ ๘ กันยายน  ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ ๖ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕ โดยมี พลเอก เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการทหารเรือ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพอากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ

การประชุมฯ ในครั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลที่สำคัญของกองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้
กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำเสนอการพัฒนาขีดความสามารถเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการร่วมในภาพรวมของกองทัพไทย ประกอบด้วย การพัฒนาขีดความสามารถศูนย์บัญชาการทางทหาร ด้วยการพัฒนาคน เครื่องมือ เทคโนโลยี และระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ให้มีความพร้อมสามารถรองรับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ การพัฒนาขีดความสามารถด้านไซเบอร์ โดยบูรณาการการปฏิบัติร่วมกับเหล่าทัพอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งด้านการปฏิบัติการทางไซเบอร์ การพัฒนาบุคลากรด้านไซเบอร์ และการฝึกทางไซเบอร์ ระบบสารสนเทศเพื่อการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นระบบที่สามารถแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ในพื้นที่ได้เตรียมการ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนได้นำเสนอแผนการดำเนินงานที่สำคัญในปี ๒๕๖๖ ได้แก่ การพัฒนาขีดความสามารถศูนย์บัญชาการทางทหาร ระยะที่ ๒ ระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระบบสารสนเทศการส่งกำลังบำรุงกองทัพไทย และระบบงานแผนที่เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงของกองทัพไทย

กองทัพบก ได้นำเสนอผลการปฏิบัติงานที่สำคัญในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕ ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 
ด้านกำลังพล ได้จัดทำโครงการรับสมัครทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ และโครงการคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของ กองทัพบก และนักเรียนนายสิบทหารบก ด้านการข่าว สนับสนุนการปฏิบัติของกองกำลังป้องกันชายแดน และหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกกองทัพบก พร้อมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการทหารกับมิตรประเทศ ผ่านการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการของผู้บัญชาการทหารบก และการรับการเดินทางเยือนของผู้บัญชาการทหารบกมิตรประเทศ ด้านยุทธการ สนับสนุนยุทโธปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมให้กับกองกำลังป้องกันชายแดน พร้อมทั้งสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลักลอบนำเข้า/ส่งออกทรัพยากรธรรมชาติ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้อนุมัติแนวความคิด ในการปรับการจัดหน่วย กองพลทหารราบที่ ๗ และกองพลทหารม้าที่ ๓ ให้เป็น กองพลทางยุทธศาสตร์ของกองทัพบก โดยนำแนวความคิดด้านการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองมาปรับใช้ ด้านการส่งกำลังบำรุง ได้ปรับปรุงเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป แบบ ๑๔๕ ให้มีขีดความสามารถในการเป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการส่งกลับสายแพทย์ ด้านกิจการพลเรือน กองทัพบก ได้บูรณาการและประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” รวม ๒,๖๐๐ พื้นที่ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน ๔๐๐,๐๐๐ คน และได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยการประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงาน/ส่วนราชการอื่น ๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ 

กองทัพเรือ ได้สรุปผลการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นการบูรณาการการฝึกของหน่วยต่าง ๆ ภายในกองทัพเรือ เพื่อให้ทุกหน่วยสามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างประสานสอดคล้อง และมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย การอบรมก่อนการฝึก การฝึกปัญหาที่บังคับการ และการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล โดยใช้โครงสร้างจริง ของหน่วยทุกระดับเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด “รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น” และถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่นตามแนวคิด “พี่สอนน้อง ครูสอนศิษย์” รวมทั้งมีการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ โดยใช้ขีดความสามารถของกำลังทางเรือเข้าช่วยเหลือประชาชนจากทางทะเล ร่วมกับ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา หน่วยงานราชการพลเรือน และภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติงาน รวมทั้งมีการฝึกขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันในทะเล และการฝึกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีมอบโล่รางวัล และเหรียญรางวัล แก่ข้าราชตำรวจนักแม่นปืน ประจำปี 2565

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยคณะกรรมการทดสอบยิงปืน สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดจัดการทดสอบยิงปืน ประจำปี 2565 ในระหว่างวันที่ 6-10 มิ.ย. 65 ณ สนามยิงปืน ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจกลาง กองบัญชาการศึกษา ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่ผ่านมา นั้น
วันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย. 65 เวลา 10.30 น. ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัล และเหรียญรางวัล เพื่อเป็นเกียรติแก่หน่วยงานในสังกัดและข้าราชการตำรวจที่มีความสามารถผ่านการทดสอบยิงปืน ประจำปี 2565 โดยมีข้าราชการตำรวจได้รับรางวัล ทั้งในประเภททีมและประเภทบุคคล รวมทั้งสิ้นกว่า 221 นาย 

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการกีฬาตำรวจประเภทยิงปืน ให้ความสำคัญในการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้อาวุธปืนทางยุทธวิธีในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ จึงได้ปรับปรุงพัฒนารูปแบบการยิงปืนทางยุทธวิธีและการทดสอบยิงปืนประจำปี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ให้มีความเหมาะสม และสามารถใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้จริง  เพื่อให้ข้าราชการตำรวจที่รับการฝึกอบรม และทดสอบยิงปืนมีการพัฒนาทักษะ มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธปืนและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย ไม่มีการสูญเสียในการปฏิบัติหน้าที่ ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผลการทดสอบยิงปืนระบบต่าง ๆ ดังนี้
1. โล่รางวัลให้แก่ผู้แทนหน่วยระดับกองบัญชาการ และกองบังคับการ พร้อมทั้งมอบเหรียญรางวัลให้แก่ข้าราชการตำรวจ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศ ประเภททีม ดังนี้

•ระบบคอมแบทแฮนด์กันส์ (Combat Handguns)
ระดับกองบัญชาการ
อันดับที่ 1    กองบัญชาการตำรวจนครบาล
อันดับที่ 2    ตำรวจภูธรภาค 9
อันดับที่ 3    กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน

ระดับกองบังคับการ
อันดับที่ 1    กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 กองบัญชาการตำรวจนครบาล
อันดับที่ 2    กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
อันดับที่ 3    กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

•ระบบคอมแบทคาร์ไบน์ (Combat Carbine)
ระดับกองบัญชาการ
อันดับที่ 1    กองบัญชาการตำรวจนครบาล
อันดับที่ 2    ตำรวจภูธรภาค 8
อันดับที่ 3    กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน

ระดับกองบังคับการ
อันดับที่ 1    กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
อันดับที่ 2    กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
อันดับที่ 3    กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 9

•ระบบปืนยาวลูกซองแบบโยนลำ (Pump action)
ระดับกองบัญชาการ
อันดับที่ 1    กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
อันดับที่ 2    ตำรวจภูธรภาค 5
อันดับที่ 3    กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ระดับกองบังคับการ
อันดับที่ 1    กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
อันดับที่ 2    ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตำรวจภูธรภาค  8
อันดับที่ 3    ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ตำรวจภูธรภาค 5

•ระบบปืนยาวลูกซองแบบกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automatic)
ระดับกองบัญชาการ
อันดับที่ 1    กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
อันดับที่ 2    กองบัญชาการตำรวจนครบาล
อันดับที่ 3    ตำรวจภูธรภาค 9

ระดับกองบังคับการ
อันดับที่ 1    ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ตำรวจภูธรภาค 9
อันดับที่ 2    กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
อันดับที่ 3    กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำรวจภูธรภาค 9

'บิ๊กป้อม' ผูกเนคไทผ้าไหมลายผ้าขาวม้า ชวนใช้ผลิตภัณฑ์จากคนไทย สนับสนุนเกษตรกร

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผ้าไหมไทย เพื่อสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในชุมชน ต่อยอดสู่การค้าต่างประเทศ จึงร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์แบบไม่คิดค่าใช้จ่ายให้กับกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนการแปรรูปผ้าไหมไทย 

ซึ่งครั้งนี้ได้นำลายผ้าขาวม้ามาพัฒนาดัดแปลงเป็นลายเนคไท ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งเป็น 'ซอฟต์พาวเวอร์' ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ จากเดิมที่ผ้าไหมไทยได้รับความนิยมจากทั่วโลกอยู่แล้ว จะยิ่งส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น และนำมาใส่ได้ทุกโอกาสมากขึ้น และพล.อ.ประวิตร ยังเชิญชวนให้รัฐมนตรีทุกคนได้ร่วมสนับสนุนด้วย เพื่อเป็นผู้นำในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากเกษตรกร ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top