Thursday, 25 April 2024
อรรถวิชช์

'พรรคกล้า' เดินหน้าตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด  “อรรถวิชช์” ยัน จ.ขอนแก่น ไม่ได้เป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง ประกาศหาผู้สมัครส่งครบ 11 เขต เดินหน้าปักหมุดภาคอีสาน ตั้งธงส่งผู้สมัครครบ 400 เขตทั่วประเทศ 

ที่จ.ขอนแก่น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวถึงการลงพื้นที่ จัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดอีก 2 เขต คือเขต 1 อ.เมือง และเขต 2 อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ว่า ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น และจังหวัดขอนแก่นไม่ได้เป็นพื้นที่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง แม้พรรคกล้าเป็นพรรคน้องใหม่ แต่ตัดสินใจเดินทางมาขอนแก่นครั้งนี้ ได้จัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดได้หลายเขตแล้ว ยืนยันว่าพรรคกล้าจะส่งผู้สมัครให้ครบทั้ง 11 เขตในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งขณะนี้ได้ผู้สมัครหลายเขตแล้วแต่ยังไม่ครบถ้วน หากท่านใดมีความสนใจก็อยากเชิญชวนให้สมัครสมาชิก โดยพรรคกำลังคัดสรรคนที่มีความชำนาญเฉพาะด้านในพื้นที่ อย่างภาคการเกษตร การปลูกข้าว การจัดการน้ำ ส่วนพื้นที่ อ.เมืองเขต 1 ก็มีผู้เสนอตัวมา แต่จะมีการเลือกอีกครั้ง โดยจะมีการทำไพรมารี่ขึ้นมาแข่งขันกัน เพราะเป็นพื้นที่สำคัญที่มีมหาวิทยาลัย เป็นเมืองศูนย์กลางอินโดจีน ซึ่งอีก 3 สัปดาห์ พรรคก็จะกลับมาทำกิจกรรมในพื้นที่อีกครั้ง

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวต่อว่า ส่วนภาพรวมความพร้อมในพื้นที่ภาคอีสานนั้น  พรรคกล้ามีเป้าหมายส่งผู้สมัครให้ครบในภาคอีสาน และครบทั้ง 400 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ไม่ว่าระบบเลือกตั้งจะเป็นแบบไหนพรรคกล้าพร้อมสู้เสมอ และเชื่อว่าหลักความเป็นพรรคเศรษฐกิจ การทำประเทศให้ทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เข้าใจประสบการณ์ รวบรวมคนที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านมาอยู่ด้วยกัน ไม่ผูกขาดไปที่นักการเมือง แต่ใช้บุคคลจากประสบการณ์สาขาอีกชีพ มีความหมายกับพรรคมากในการทำประเทศให้ทันสมัยขึ้น

4 เหตุผล ที่ยังไม่ควรแก้ ‘มาตรา112’

ไม่นานมานี้ คุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ได้เปิดเผยในรายการ Click on Clear THE TOPIC EP.81 เกี่ยวกับเหตุผลที่ ทำไม…ไม่ควรแก้ ‘มาตรา 112’ ว่า...

จุดยืนของผมและพรรคกล้า ชัดเจนว่า ‘มาตรา 112’ ไม่ควรยกเลิก และไม่ควรแก้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ เพราะว่าถ้าเราไปแก้ไข มันจะทำให้การหมิ่นเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางมากขึ้น บ่อเกิดแห่งความขัดแย้งมันก็ยังอยู่เหมือนเดิม 

ประการแรก คือ หากเกิดการแก้ไขมาตรา 112 แล้วเกิดการหมิ่นมากขึ้น สิ่งที่ตามมาเป็นประการที่สอง คือ จะเกิดการชุมนุม และเกิดการปะทะกันทั้ง 2 ฝั่งมากขึ้น

ทำไมถึงจะการเกิดการปะทะกันทั้ง 2 ฝั่ง เนื่องจากผลการดำเนินคดีของมาตรา 112 ขณะนี้ที่เราเห็นอยู่มีราษฎรเป็นโจทก์ฟ้อง หรือเป็นผู้กล่าวโทษ ร้องทุกข์อยู่ครึ่งหนึ่ง ถ้าเกิดมองว่าเพราะเป็นเรื่องที่รัฐเข้าแกล้ง หรือไปดำเนินการมาตรา 112 โดยตรง แต่ความเป็นจริงแล้วคนที่มาแจ้งความส่วนมากคือราษฎร นี่คือข้อเท็จจริง!!

ส่วนประการที่สามนั้น คือ โอกาสในการนำไปสู่รัฐประหารอีกครั้ง เนื่องจากว่า ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ นายกรัฐมนตรี จะอยู่ครบ 8 ปีไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ และวันที่ท่านต้องครบคือ เดือน สิงหาคม ในปีหน้า (2565) เพราะฉะนั้นวันนี้จนถึงสิงหาคมปีหน้า ผมมองว่าถ้าการเมืองไม่เกิดวิกฤตอีกระรอก เชื่อว่าท่านก็คงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนี้แล้ว และรอติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต

ฉะนั้นถ้าเราเชื่อเรื่องกลไกของประชาธิปไตย ก็อย่าพึ่งไปทำให้เกิดแรงกระเพื่อม เพราะตอนนี้วิกฤตที่เกิดขึ้นคือ วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตโรคระบาด ไม่ใช่วิกฤตการเมือง แต่ถ้าเรามาทำให้เกิดเป็นวิกฤตการเมืองแล้วล่ะก็ ตอนเลือกตั้งทุกคนก็จะเลือกด้วยความเกลียด และความกลัว 

และนั่นก็แปลว่าเราทุกคนตกอยู่ในเครื่องมือของการแบ่งแยกคนเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งโอกาสที่การแบ่งแยกคนอีกครั้งก่อนการเลือกตั้ง มันอาจจะกลายเป็นหัวข้อว่า ใครเห็นด้วยต่อกับปฏิรูปสถาบันไปฝั่งนี้ ใครให้ไม่เห็นด้วยไปฝั่งนี้ อย่าให้ใครมาแบ่งเราแบบนี้เด็ดขาด เพราะมันจะให้เราตัดสินใจด้วยความเกลียด และความกลัว

อรรถวิชช์ กล่าวอีกว่า ผมจะไม่ยอมให้เรื่องสถาบันกลายเป็นประเด็นการแบ่งแยกเด็ดขาด เพราะความเข้มแข็งของสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย จะเป็นองค์กรที่ยุติความขัดแย้งทางการเมืองได้ด้วย เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์มีส่วนอย่างยิ่งในการยุติและหลีกเลี่ยงการปะทะของบุคคลทั้ง 2 ฝ่ายเสมอ ดังนั้นถ้าเกิดว่าเราไปยุ่งเกี่ยวและดึงสถาบันเข้ามาข้องเกี่ยวทางการเมือง บ้านเมืองเราจะไปต่อไม่ได้ เพราะนี่คือความเข้มแข็งของรากฐานหรือรากเหง้าของคนไทย อย่าทำลายความเป็นไทยของเรา 

สำหรับกรณีกลุ่มวัยรุ่น นักเรียนหรือนักศึกษา เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองในมาตรา 112 อรรถวิชช์ ให้ความเห็นว่า...

ผมได้มีการดีเบตกับอาจารย์ ปิยะบุตร ว่าอาจารย์ปิยะบุตรไม่ได้โดนมาตรา 112 แต่ว่าเป็นน้อง ๆ ที่โดนมาตรา 112 จากการพูดบางอย่างลงไปสู่สังคมแล้วบาดใจคนที่เห็นต่าง ขณะที่อาจารย์รู้กรอบกฎหมายในการกล่าวถึงหรือวิพากษ์วิจารณ์สถาบัน จึงไม่เกิดผลอันใด

นอกจากนี้ หลายคนอาจจะมองว่าตัวบทกฎหมายมาตรา 112 มีโทษที่หนัก เพราะจำคุก 3-15 ปี ทำให้มีการหยิบยกมาเปรียบเทียบกับการหมิ่นคนธรรมดา หรือหมิ่นเจ้าหน้าที่

แต่แท้จริงแล้วมาตรา 112 ครอบคลุมโทษอยู่ 3 ประเด็น ได้แก่ 1.) ดูหมิ่น 2.) หมิ่นประมาท และ 3.) อาฆาตมาดร้าย 

"อรรถวิชช์" เผย "พ.อ.สุชาติ"  ย้ายสังกัดมาพรรคกล้า ช่วยเสริมทัพภาคใต้ เชื่อมั่น "กรณ์ จาติกวณิช" ผู้นำแก้วิกฤตเศรษฐกิจ 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวถึงกระแสข่าว พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ ย้ายเข้าสังกัดพรรคกล้า ว่ามีการพูดคุยกันจริง โดย พ.อ.สุชาติ เห็นตรงกันกับพรรคกล้าว่า วิกฤตชาติที่ต้องเร่งแก้ไขคือเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง การฟื้นฟูความเสียหายที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดย พ.อ.สุชาติ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และแสดงความจำนงสมัครสมาชิกพรรคกล้าแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย 

"ผู้การเห็นพ้องว่า ยุคหน้าผู้นำต้องนำด้วยเรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคใต้ ที่มีโอกาสหลายอย่าง แต่ขาดการบริหารจัดการและพัฒนาอย่างจริงจัง ก็เลยอาสามาช่วยงานลุยชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับพรรคกล้า เพื่อช่วยคุณกรณ์จัดทัพ สำคัญที่สุดคือ ผู้การพร้อมมาลุยร่วมกันทำงานแบบพรรคกล้า ยึดหลักปฏิบัตินิยม และทำงานการเมืองแบบสร้างสรรค์" นายอรรถวิชช์ กล่าว 

"อรรถวิชช์" ชูจุดเด่น "พรรคกล้า พรรคเศรษฐกิจ" เชื่อถ้าประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะ ซื้อเสียงเอาไม่อยู่ มั่นใจคนกรุงกล้าเปลี่ยน 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ - จตุจักร เบอร์ 2 พรรคกล้า ลงพื้นที่หาเสียงตลาดและชุมชนย่านชินเขต เขตหลักสี่ ตั้งแต่ช่วงเช้า เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าและพี่น้องประชาชนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอย พร้อมปราศรัยให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพรรคกล้า 

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์โควิดระบาด กังวลเรื่องเดียวคือเรื่องคนอาจไม่ออกมาใช้สิทธิ์ ส่วนเรื่องอื่นก็ทำเต็มที่แล้ว โดยวันนี้มารณรงค์หาเสียงในพื้นที่ตลาดย่านชินเขต ก็มาพูดให้ความรู้กับพ่อค้าแม่ค้า เกี่ยวกับแนวทางการเสียภาษีที่ถูกต้อง ซึ่งโครงการคนละครึ่งเป็นโครงการที่ดีมากๆ ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล แต่พ่อค้าแม่ค้าที่ขายได้มากขึ้น ก็ต้องเสียภาษีเยอะขึ้น ก็เลยมาให้ความรู้เกี่ยวกับการทำบิลให้ถูกต้อง เพื่อหักลดหย่อนภาษี เพื่ออุดช่องว่างโครงการที่ดีอยู่แล้ว ถือเป็นการรณรงค์หาเสียงที่ได้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจและให้ความรู้ไปด้วย เพราะจุดเด่นพรรคกล้าเป็นพรรคเศรษฐกิจ 

ส่วนกระแสข่าวการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในพื้นที่ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ตลอดเวลา 17 ปี ของการทำงานการเมือง ไม่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องการซื้อเสียงที่หนักเท่าครั้งนี้ จำนวนเม็ดเงินที่สูงและทั่วถึง แต่มั่นใจคนกรุงเทพว่า ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็แล้วแต่ คนกรุงเทพมีวิจารณญาณ และต้องดูว่าวันที่ 30 มกราคมนี้ มีคนออกมาใช้สิทธิ์มากหรือน้อย ถ้าออกมาใช้สิทธิ์เกินกว่าร้อยละ 70 เชื่อว่าการซื้อเสียงเอาไม่อยู่

“กรณ์” เผยภาพชาวบ้านปลื้มผลงาน 'อรรถวิชช์'  10 ปี สภาพยังดีใช้งานได้จริง ชี้การเมืองไม่ใช่แค่ออกกฎหมาย แต่ต้องลงมือทำ 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนเขต 9 หลักสี่ จตุจักร เพื่อช่วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 2 พรรคกล้า หาเสียง ที่หมู่บ้านโสสุนคร งามวงศ์วาน ลูกบ้านคนหนึ่งบอกว่า “ตั้งใจเลือกอยู่แล้ว เขาทำลานออกกำลังกายของหมู่บ้านให้เรา” ซึ่งจริงๆ ผู้ทำคือการเคหะฯ แต่นายอรรถวิชช์เป็นบุรุษไปรษณีย์สมานความต้องการของประชาชนในพื้นที่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนงานสำเร็จ เช่นเดียวกับที่วันก่อน ตนได้ลงลงพื้นที่ลาดพร้าว 41 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร มีชาวบ้านออกมาบอกว่า สมัยที่นายอรรถวิชช์ เป็น ส.ส.ครั้งก่อน เข้าถึงซอกซอย ถนนเล็กใหญ่ตลอด รวมถึงถนนในหมู่บ้านนายอรรถวิชช์ ก็ผลักดันจนโครงการสำเร็จได้ จนถึงวันนี้ 10 ปีแล้ว สภาพยังดีอยู่เลย 

“คนที่ใหม่กับการเมืองบางทีจะมองข้ามเรื่องแบบนี้ และคิดว่าการเมืองเป็นเพียงเรื่องกฎหมาย เรื่องหลักการ ซึ่งก็มีความสำคัญ เพราะหากเขาไม่ชอบเรา ไม่ชอบพรรคเรา ไม่ชอบอุดมการณ์เรา ทำถนนกี่เส้นเขาก็ไม่เลือก เราต้องการทำงานการเมืองด้วยการนำเสนอเรื่อง "ผล" ของการ "ลงมือทำ" แบบนี้ล่ะครับ เพราะสิ่งเหล่านี้มีคุณค่าที่แท้จริงต่อประชาชน จับต้องได้ เห็นผลระยะยาว และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม” หัวหน้าพรรคกล้า 

'กรณ์' สวน!! ‘อดีตนายทุนพรรคกล้า’ ไม่ต้องชนะเท่านั้น ถึงจะได้ประโยชน์

นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตบอร์ดการบินไทย หนึ่งในผู้สนับสนุนเงินทุน ให้กับพรรคกล้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Banyong Pongpanich' แสดงความเห็นต่อผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส. กทม. ที่หลักสี่ - จตุจักร จากนั้นต่อมาไม่นาน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้เข้ามาตอบความเห็นดังกล่าว โดยมีข้อความระบุว่า... 

สวัสดีครับพี่เตา หากมองว่าต้องชนะเท่านั้นถึงจะได้ประโยชน์ ก็คงหมายความว่าพรรคอื่นๆ ทุกพรรคเว้นเพื่อไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเว้นได้ออกทีวีอย่างที่พี่ว่า

ในระดับหนึ่งมองอย่างนั้นก็ได้

แต่พรรคกล้าเราส่งคุณอรรถวิชช์ลงเพราะเรามองว่าคุณอรรถวิชช์จะเป็น ส.ส. ที่ดีได้ให้กับคนกรุงเทพ โดยเฉพาะวันนี้วาระสภาเหลืออยู่นิดเดียว ไม่มีเวลามาเรียนรู้งาน

เราไม่ยึดติดมากมายกับสถานะหรือตำแหน่งเลขาธิการพรรค เพราะเราเป็นพรรคเริ่มใหม่ต้องกล้าเสี่ยง กล้าเสนอคนที่ดีที่สุดของเรา ไม่อย่างนั้นกล้าๆ กลัวๆ ส่งคนที่ไม่ใช่ เพื่อเล่นเซฟผมว่าไม่ใช่แนวทางของเรา เราเล่นแบบพรรคใหญ่ไม่ได้ครับ

‘อรรถวิชช์’ รับหนังสือ ‘ศูนย์สิทธิผู้บริโภค กทม.’ ค้านต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปี

‘อรรถวิชช์’ รับหนังสือ ‘ศูนย์สิทธิผู้บริโภค กทม.’ ค้านต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปี หวั่นเสียโอกาสลดค่าตั๋ว อย่าเอาหนี้มาเป็นเงื่อนไขสัมปทาน ขอรัฐคิดปกป้องผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ยังเหลือเวลาทบทวนอีกหลายปีก่อนหมดสัญญาปี 2572

21 ก.พ. 65 เวลา 11.00 น. นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า รับมอบหนังสือจากตัวแทนศูนย์สิทธิผู้บริโภค จากหลายเขตใน กทม. ทั้งยานนาวา สาทร ลาดพร้าว ราชเทวี หลักสี่ ขอให้สนับสนุนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคในการคัดค้านการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวไปอีก 30 ปี

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคกล้ายินดีร่วมต่อสู้บนแนวทางที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยมองว่าถ้าเอาหนี้ไปแลกกับสัมปทาน เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาของรัฐ แต่ไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพราะจะทำให้เงื่อนไขการคิดค่าบริการแพงสูงกว่า 1 ใน 4 ของค่าครองชีพขั้นต่ำ อยู่กับเราไปอีกจนถึงปี 2602 ซึ่งเป็นการต่อขยายเวลานานเกินไป และค่าบริการประเทศอื่นไม่สูงขนาดนี้ จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนให้ดี เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่าจะหมดสัญญาสัมปทานปี 2572 

‘อรรถวิชช์’ นำทีมหักป้ายหาเสียง ‘พรรคกล้า’ ปรับเข้ามุมเสาไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่ทางเท้า

‘อรรถวิชช์’ นำทีมหักป้ายหาเสียง ปรับเข้ามุมเสาไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่ทางเท้า เปิดฟังก์ชั่นใหม่ แจ้งปัญหาป้ายหาเสียง ผ่านไลน์พรรคกล้า

8 เม.ย. 65 12.00 น. นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ลงพื้นที่นำทีมแก้ไขป้ายผู้สมัคร ส.ก. บริเวณแยกรัชโยธิน โดยปรับป้ายหาเสียงขนาดปกติที่ขวางทางเท้า หักตรงกลางทำเป็นเหลี่ยมเข้ามุม เพิ่มพื้นที่ทางเดินได้สะดวกขึ้น พร้อมกระจายทีมงานตรวจป้ายของพรรคกล้า จุดไหนพื้นที่แคบขวางทางเดิน ให้ติดป้ายเข้ามุมแทน

‘อรรถวิชช์’ ทีมเศรษฐกิจพรรคกล้า ขอ ครม. ฟังผู้ประกอบการ ลดจัดเก็บภาษีที่ดิน 90% ต่ออีก 1 ปี หวังช่วยผู้ประกอบการฟื้นตัวจากพิษโควิด

16 เมษายน 2565 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ในฐานะทีมเศรษฐกิจ พรรคกล้า กล่าวถึงกรณีรัฐจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปีนี้เต็ม 100% ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน โดยเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 90% จ่ายจริง 10% เช่นเดียวกับ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะผู้ประกอบการประสานเสียงพร้อมกันแล้วว่า “ยังไม่พร้อมจ่าย” โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและบริการ ธุรกิจโรงแรมกว่า 70,000 แห่งทั่วประเทศ ต้องรับภาระเต็มๆ ทั้งที่รายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 80% และยังต้องแบกรับภาระขาดทุนสะสมตลอดการระบาด 2 ปีที่ผ่านมา

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวเสริมว่า โดยเฉพาะหน่วยงาน กทม. ยิ่งไม่พร้อม เพราะเป็นท้องถิ่นที่มีส่วนราชการย่อยอีก 50 เขตปกครอง ต่างจาก อบต. , เทศบาล หรือเมืองพัทยา ที่มีส่วนราชการเพียง 1 เขตปกครองเท่านั้น ระบบไอทีที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้นำมาใช้นั้น จะใช้ไม่ได้สมบูรณ์ในกรณี กทม.  และ กทม.เองก็เพิ่งประมูลระบบไอที เพื่อการจัดเก็บภาษีที่ดินโดยเฉพาะไปไม่ถึง 2 เดือนเอง กว่าจะใช้ได้จริงก็สิงหาคม ระบบอัตรากำลังคนก็ยังไม่ได้ปรับปรุง ฝ่ายรายได้ของสำนักงานเขตมีคนไม่ถึง 15 คน แต่มีงานประเมินใหม่กว่า 20,000 รายใน 1 เขต  คงยากถ้าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามเป้าภายในเดือนมิถุนายน   

'อรรถวิชช์' เสนอรัฐดันร่าง กม.กำกับดิจิทัลแพลตฟอร์มข้ามชาติ ลดซ้ำรอย Lazada แถมช่วยเพิ่มโอกาสแข่งขันบริษัทเล็ก

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊ก กรณีโฆษณาไม่เหมาะสมของ Application ขายของออนไลน์ ว่า...

ถึงเวลากำกับบริษัทดิจิตัลแพลตฟอร์มข้ามชาติ รัฐบาลควรใช้แนวทางกฎหมาย DSA ของ EU

ประเด็นโฆษณาใน ​Lazada ที่บูลลี่ล้อเลียนบุคคลในเรื่องสุขภาพ และการทำร้ายจิตใจคนไทย พี่กรณ์​ได้แนะนำกฎหมายที่สหภาพยุโรป EU กำลังให้ความสำคัญ Digital Services Act (DSA) กฎหมายการให้บริการดิจิทัล ไว้น่าสนใจ

ผมขอขยายความต่อจากพี่กรณ์ สถานะปัจจุบันกฎหมาย DSA อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภายุโรป ถูกนำเสนอโดยคณะกรรมาธิการยุโรป European Commission คาดว่าเมื่อผ่านสภายุโรปแล้ว ประเทศในกลุ่มสหยุโรปจะต้องรับไปตรากฎหมาย หรือปรับกฎหมายของตนให้มีความสอดคล้อง ตั้งแต่ ม.ค. 2567 เป็นต้นไป 

ยุโรปเองเผชิญปัญหากับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาสู่ตลาด ทั้งจากอเมริกาและจีน เขาจึงต้องปกป้องสภาพสังคมและเศรษฐกิจของเขาเอง คล้ายกันกับไทยที่การค้าขายออนไลน์ อยู่บนแพลตฟอร์มยักษ์ต่างชาติ

กฎหมาย DSA คือ กำหนดมาตรการให้แพลตฟอร์มออนไลน์ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ โดยการควบคุมเนื้อหา การโฆษณา โดยเฉพาะที่มีเนื้อหาเป็นภัยคุกคามต่อสิทธิขั้นพื้นฐาน และกระบวนวิธีการคิดคำนวณของระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Algorithm Process) สร้างกระบวนการดำเนินการทางกฎหมายที่รวดเร็ว ส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ลดการผูกขาดของธุรกิจรายใหญ่ ประกอบด้วย...

(1) ผู้ให้บริการดิจิทัล ต้องมีระบบการตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ขายออนไลน์

(2) ผู้ให้บริการดิจิทัล ต้องมีเครื่องมือในการตรวจสอบและลบข้อมูลที่ไม่เหมาะสม/ข้อมูลที่มีการบิดเบือนความจริงออกทันที โดยผู้ให้บริการต้องให้เหตุผลในการลบข้อมูลนั้นออกแก่ผู้ใช้นั้นด้วย

(3) ผู้ให้บริการ ต้องอธิบายกระบวนวิธีการคิดคำนวณของระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Algorithms) ของแพลตฟอร์ม เพื่อแจ้งผู้ใช้ถึงที่มาที่ไปของผลการค้นหาออนไลน์

(4) ต้องจัดตั้งกลไกจัดการข้อพิพาทนอกศาลยุติธรรม (Out-of-court dispute settlement body) เพื่อรับรายงานเนื้อหาที่เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายหรือข้อร้องเรียน 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top