Friday, 19 April 2024
หมอชลน่าน

“แรมโบ้” ซัด “หมอชลน่าน” ไม่ควรนำเรื่องร่าง รธน.ฉบับประชาชนมาขู่เอาม็อบลงถนน หากไม่ผ่านจะเกิดวิกฤตการเมือง ผ่านหรือไม่ม็อบก็ออกมาเคลื่อนไหวอยู่ดี เพราะเพื่อไทยชอบสู้บนท้องถนนเหมือนปี 52และปี53

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชน ลักษณะข่มขู่สภาฯ หากไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ วิกฤตการเมืองเกิดแน่ โดยระบุว่าหากร่างรัฐธรรมนูญเป็นร่างที่มีเนื้อหาสาระที่ดี หมอชลน่านก็ไม่ควรวิตกกังวลว่าจะผ่านหรือไม่  อีกทั้งสมาชิกรัฐสภาฯทราบดีว่าควรที่จะพิจารณาอย่างไร ดังนั้นหมอชลน่านก็ไม่ควรที่จะนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปอภิปรายเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของม็อบกลุ่มต่างๆในลักษณะของการข่มขู่ว่าหากร่างไม่ผ่านจะเกิดวิกฤตทางการเมือง

นายเสกสกล ยังมองว่าไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจะผ่านหรือไม่ กลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ หรือม็อบ 3 กีบ ก็ไม่เลิกการเคลื่อนไหวสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแน่นอน นอกจากนี้หมอชลน่านยังไม่ควรยกตัวอย่างการชุมนุมวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ชุมนุมถูกยิง 3 คน ลักษณะเช่นนี้เหมือนกับรัฐธรรมนูญรับรองว่าทำได้ แต่หมอชลน่านควรดูข้อเท็จจริงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมอย่างไร สร้างความเดือดร้อน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่เช่นเดียวกัน

และหากหมอชลน่านไม่อยากให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้ชุมนุม ขอแค่บอกไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหว สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนก็เพียงพอแล้ว เพราะหากแก้รัฐธรรมนูญแล้วก็ไม่ช่วยให้ม็อบเลิกสร้างความเดือดร้อน

"พรรคเพื่อไทยเคยสนับสนับสนุนกลุ่มนปช.ลงถนนมา เลยเคยชินกับการลงถนนไม่คิดยึดมั่นในระบบรัฐสภา คำก็ลงถนน สองคำก็ลงถนน จึงทำให้รู้ว่าอีแอบที่ส่งคนลงถนนคือพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่

"อย่าบิดเบือนอำนาจสว. กล่าวหาแบบเป็นเท็จ เพราะหากคนที่พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นนายกฯไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่สามารถจะเสนอชื่อให้สว.พิจารณาได้อยู่แล้วมิใช่หรือ ไม่ว่าจะเป็นใครบรรดาสว.ก็คงจะฟังเสียงประชาชน ถ้าประชาชนเลือกพรรคไหนมาเป็นอันดับหนึ่งมาเป็นแกนนำเพื่อจัดตั้งรัฐบาล และพรรคนั้นๆเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ สว.ก็คงลงมติเลือกนายกฯจากพรรคนั้น สว.มิอาจ กล้าปฎิเสธความต้องการของประชาชนที่พรรคชนะอันดับหนึ่งได้รับฉันทานุมัติจากเสียงของประชาชนผ่านสนามเลือกตั้งมา 

 

“แรมโบ้” ซัด "หมอชลน่าน" อย่าตีกินทางการเมืองหยุดใช้ปากและน้ำลายสกปรกยุยงประชาชนเข้าใจนายกฯผิดๆ ยัน นายกฯมีความตั้งใจใช้รถทหารช่วยขนส่งมีเจตนาดีช่วยประชาชน ไม่ได้ประชด หรือยั่วยุใคร พร้อมขอผู้ประกอบการขนส่งเข้าใจรัฐบาลช่วยเหลือเต็มที่ 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์แนวคิดนายกฯกรณีให้นำรถทหารมาใช้ขนส่งทดแทน เหมือนเป็นการยั่วยุให้เพิ่มมาตรการกดดัน โดยยืนยันว่าที่นายกฯพูดนั้น เพราะเป็นความหวังดีที่อยากจะช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของการขนส่งต่างๆ หากรถบรรทุกประท้วงหยุดงาน  ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น ไม่ได้พูดประชดใคร หรือยั่วยุอย่างแน่นอน

นอกจากนี้นายกฯยังมองเห็นถึงศักยภาพของกองทัพที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กองทัพได้หารือถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และแนวทางปฎิบัติในการนำรถยนต์บรรทุกขนาดต่าง ๆ พร้อมกำลังพล เตรียมพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว เตรียมรถยนต์ทหารที่เหมาะกับด้านการขนส่งทางถนนประมาณ 3,700 คัน

นายเสกสกล ยังขอให้หมอชลน่านอย่าตีความเจตนาของนายกฯผิด ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งมาโดยตลอด ล่าสุด ครม.ยังได้อนุมัติการกู้เงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาท สำหรับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ระดับ 30 บาทต่อลิตรแล้ว    

นายกฯเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ และขอให้ผู้ประกอบการขนส่งได้เข้าใจนายกฯ ด้วยเช่นกันว่ามีความพยายามที่จะช่วยเหลือให้ดีที่สุด ซึ่งตนเองเชื่อว่าอีกไม่นานสถานการณ์ราคาน้ำมันจะคลี่คลายลงได้

‘หมอวรงค์’ เตือน ‘ชลน่าน’ ระวังได้นอนคุก หากยังคิดปลุกผี ‘จำนำข้าว’ ขึ้นมาอีก

วันที่ 7 ธ.ค. 64 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า

‘เตือนคุณหมอชลน่าน

คุณหมอชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดว่าโครงการรับจำนำข้าว เป็นการเข้าไปจัดการกลไกราคาตลาด ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ต้องการปลุกผีจำนำข้าวขึ้นมา

รู้ไหมว่าโครงการนี้ เอาภาษีประชาชนมาผลาญ สองปีเศษใช้ไปร่วม 940,000 ล้านบาท จนป่านนี้ยังชดใช้ไม่หมด โกงกันทุกขั้นตอน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ

“เรืองไกร” ร้องกกต.สอบ “หมอชลน่าน” ปม “ทักษิณ” เป็นเจ้าของพรรคหรือไม่ เหตุ “พล.อ.พัลลภ” โวยถูกขับพ้นพรรคเพื่อไทย

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากกรณีการให้ข่าวของพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตนายทหารยังเติร์ก แกนนำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 7 ( จปร.7) กล่าวอ้างว่าถูกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปลดออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น อาจจะเป็นหลักฐานที่มีมูลอันควรเชื่อได้ว่าพรรคเพื่อไทยเข้าข่ายกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 หรือไม่ตามมาได้ กรณีดังกล่าวพล.อ.พัลลภให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวยอมรับว่าถูกนายทักษิณ ปลดออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยไม่ทราบสาเหตุและไม่แจ้งล่วงหน้า และได้โทรศัพท์สอบถาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทราบว่านายทักษิณให้ปลด ข้อเท็จจริงดังกล่าวพล.อ.พัลลภ ได้กล่าวอ้างและพาดพิงนพ.ชลน่าน และยังกล่าวอ้างว่านายทักษิณ เป็นเจ้าของพรรคด้วย กรณีจึงมีเหตุต้องขอให้กกต. ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวจากนพ.ชลน่าน ดังต่อไปนี้ 1.พล.อ.พัลลภ ได้โทรศัพท์หานพ.ชลน่านจริงหรือไม่ เบอร์โทรอะไร วัน เวลาใด 2.พล.อ.พัลลภ ถูกนายทักษิณปลดออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยจริงหรือไม่ 3.พล.อ.พัลลภ ถูกลบชื่อออกจากการประชุมใหญ่ประจำปีที่จ.ขอนแก่น จริงหรือไม่
4.นพ.ชลน่าน ทราบเรื่องที่นายทักษิณให้ปลดพล.อ.พัลลภ จริงหรือไม่ 5.การกล่าวอ้างของพล.อ.พัลลภ ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียหายหรือไม่ และพรรคเพื่อไทยจะฟ้องร้องดำเนินคดีกรณีนี้อย่างไร หรือไม่

“เสกสกล” เย้ย “หมอชลน่าน” ยกCPI ชี้นำปชช.โจมตีรัฐบาล เกรง ปาดหน้าทำคะแนนนิยม 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ใช้ข้อมูลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ประจำปี 2564 ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ชี้นำสังคมกล่าวหารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ามีทุจริตคอร์รัปชันมาก ว่า หวังด้อยค่าผลงานชิ้นโบว์แดง ที่สามารถฟื้นความสัมพันธ์สองราชอาณาจักร ไทย-ซาอุดีอาระเบียได้สำเร็จ แต่พรรคเพื่อไทยเกรงว่าพี่น้องอีสานที่เป็นฐานเสียงและแรงงานไทย ที่ไปทำงานที่ซาอุฯ กว่า 8 ล้านตำแหน่ง มีเงินทองใช้ ชีวิตสุขสบายขึ้นจะลืมนายโทนี่ นายทุนพรรค ที่เลี้ยงไข้ ไม่แก้ปัญหาและคาถาประชานิยมจะไม่ขลังหรือไม่

นายเสกสกล กล่าวว่า หาก นพ.ชลน่าน อยากให้คะแนน CPI ของไทยสูงขึ้น แค่ยกหูโทรศัพท์ถึงเจ้าของพรรคตัวจริง ให้ทำ 2 อย่างเพื่อชาติ หรือเพื่อไทย และกลับมาสู้คดี คดีให้ธนาคารเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้เงินแก่เมียนมา 4 พันล้านบาท จำคุก 3 ปี คดีทุจริตโครงการหวยบนดิน จำคุก 2 ปี คดีให้นอมินีถือหุ้นชินคอร์ปฯ และเข้าไปมีส่วนได้เสียในกิจการโทรคมนาคม จำคุก 5 ปี คดีซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ จำคุก 2 ปี และอีกหลายคดี

นายเสกสกล กล่าวว่า การที่ นพ.ชลน่าน กล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่าแทรกแซงการบริหารงานบุคคลของศาลยุติธรรม แต่งตั้งข้าราชการศาลยุติธรรม ตนเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 คน ดำเนินการตามหลักการและหลักกฎหมาย ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เหมือนกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ โยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกจากตำแหน่ง เพื่อเอื้อให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิง พจมาน ถือเป็นเครือญาติ มีโอกาสขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นการกระทำอันขาดคุณธรรม จริยธรรม เป็นเหตุให้ พ้นสภาพการเป็นนายกฯ ไปพร้อมๆ กับรัฐมนตรีอีก 9 คน

"แรมโบ้" ฟาดแรง "หมอชลน่าน"เป็นถึงผู้นำฝ่ายค้านคิดได้แค่ "หางอึ่ง" ได้กลิ่นรัฐประหาร จมูกคงเน่าถึงได้กลิ่นเช่นนี้ เอาสมองส่วนไหนมาคิด ทำลายบรรยากาศให้บ้านเมืองเสียหายมากกว่า 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กลิ่นรัฐประหาร  ฟันธง"21 ส.ส."ตัวแปรสำคัญในสภา ชี้เสียงข้างมากแท้จริงต้องไม่หนุนข้างน้อยปกครองประเทศ  พร้อมอย่าเคลมเยือนซาอุฯเป็นผลงานรัฐบาล โดยไม่รู้ว่า หมอชลน่านไปได้กลิ่นมาจากไหน จมูกคงเน่าอักเสบมากกว่าเลยได้กลิ่นเช่นนี้ หรือพูดสร้างกระแสขึ้นมาเอง ซึ่งในช่วงที่ประเทศอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด ก็ไม่ควรที่จะออกมาพูดเรื่องที่อาจทำให้เกิดกระแสหรืออาจเกิดความขัดแย้งขึ้นหรือทำลายบรรยากาศประเทศ

และการที่หมอชลน่านบอกว่าอย่าเอาเรื่องนายกฯเยือนซาอุเป็นผลงานเพราะประเทศซาอุฯ ต้องการเปิดประเทศเองนั้น ตนไม่อยากเชื่อว่า คนเป็นระดับผู้นำฝ่ายค้านช่างกล้าพูดเช่นนี้ ข้อเท็จจริงประเทศซาอุฯเปิดมานานแล้ว เพียงแต่ยุครัฐบาลเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ไม่มีศักยภาพพอที่จะมีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศซาอุฯ ให้กลับมาเป็นปกติได้ เป็นเพราะไม่มีฝีมือหรือเอาแต่เวลาไปคิดช่วยนายทักษิณ ใช่ไหม
 
  "หมอชลน่านต้องกล้าออกมายอมรับว่าการพลิกประวัติศาสตร์กับประเทศซาอุฯเกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นความพยายามทุ่มเทตั้งใจของพลเอกประยุทธ์และรัฐบาล ที่ได้มีการประสานมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับเชิญอย่างเป็น ทางการจากรัฐบาลประเทศซาอุฯ ไปเยือนเพื่อฟื้นความสัมพันธ์  หารือถึงความร่วมมือในด้านต่างๆ และคนทั้งประเทศก็เห็นว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ถือว่านายกฯและรัฐบาลได้มอบของขวัญปีใหม่ ผลงานชิ้นโบว์แดงให้ประเทศไทยและคนไทยด้วยซ้ำไป มีแต่หมอชลน่านและพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ ที่จ้องอิจฉาจนออกอาการเอาเรื่องดีๆของประเทศมากล่าวหาโจมตีนายกฯ และรัฐบาล และดูถูกดูแคลนประเทศของตัวเองและยิ่งมาปล่อยข่าวว่า ได้กลิ่นรัฐประหาร ยิ่งปล่อยมุขแบบเสียคน ใครที่ฟังผู้นำฝ่ายค้าน ปล่อยมุขนี้อดขำไม่ได้ คิดได้อย่างไร เอาสมองส่วนไหนมาคิดเอาจมูกเน่าๆส่วนไหนมาดมกลิ่น จึงได้กลิ่นรัฐประหารมา หรือว่า นายใหญ่ทางไกลส่งกลิ่นเน่าๆเหม็นๆมาให้พูด 

เริ่มศึกซักฟอกรัฐบาล!! ‘หมอชลน่าน’ ซัด ‘บิ๊กตู่’ ตัวปัญหา ต้นเหตุทำประเทศ ‘แพง จน พัง’ ทั้งแผ่นดิน 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ก.พ. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่การอภิปราย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) ชี้แจง ข้อตกลงการประชุมทั้ง 2 วัน คือ วันที่ 17-18 ก.พ.นี้ ว่า จะประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 - 00.00 น. โดยจะใช้เวลาอภิปราย 15 ชม. ในวันแรก ส่วนวันที่ 2 จะเริ่มเวลา 09.00 - 00.00 น.เช่นกัน สัดส่วนเวลาพรรคร่วมฝ่ายค้าน มี 22 ชม. พรรคร่วมรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.) 8 ชม. ส่วนการแบ่งเวลาอภิปรายของฝ่ายค้านแต่ละพรรคมีการแบ่งเวลาที่ชัดเจนแล้ว ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ชี้แจงว่า โควตาพรรคร่วมรัฐบาล ได้เวลาอภิปราย 8 ชม. จะแบ่งวันละ 4 ชม. แบ่งเป็นของพลังประชารัฐ 44 นาที ภูมิใจไทย 27 นาที ประชาธิปัตย์ 23 นาที พรรคเล็กที่เกินกว่า 1 คน พรรคละ 6 นาที และพรรคเล็กที่มีพรรคละ1 คน ได้ 4 นาที

จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเปิดญัตติว่าด้วยปรากฏข้อเท็จจริงว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง ข้าวของแพง ค่าแรงถูก อันสืบเนื่องจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลวผิดพลาดทุกด้านของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ยึดอำนาจมาจนถึงรัฐบาลปัจจุบันซึ่งเป็นรัฐบาลเดียวกัน มีการก่อหนี้สาธารณะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หนี้ครัวเรือนของประชาชน และอัตราการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่สูงขึ้น เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตรการแก้ปัญหากลับไม่มีความชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศดิ่งเหว การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง 

นอกจากนี้ การจัดการจัดหาวัคซีนยังล่าช้าไร้ประสิทธิภาพ ต่อมาเกิดการแพร่ระบาดของโรคระบาดในสัตว์ และเกิดเชื้อแอฟริกาในสุกร ทำให้สุกรขาดตลาด เนื้อสุกรราคาสูงขึ้นมาก แต่รัฐบาลกลับปกปิดข้อมูลการระบาดของโรคจนทำให้การระบาดกระจายไปทั่วประเทศ เกษตรกรได้รับความเสียหายเดือดร้อนในวงกว้าง แต่กลับมีข้อมูลเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนรายใหญ่ การแก้ปัญหาโรคระบาดทั้งคน และสัตว์ขาดความรู้ภูมิปัญญา  

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมนับวันยิ่งทวีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยประชาชน แม้เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี แต่รัฐบาลไม่มีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม มีการนำงบประมาณไปแลกเปลี่ยนใช้จ่ายแก้ปัญหาในการกระทำที่ผิดพลาดของนายกรัฐมนตรี กรณีเหมืองทองอัครา การแก้ปัญหาประมงที่ล้มเหลว การปฏิรูปการเมืองที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ และยุทธศาสตร์ชาติ ไม่มีความคืบหน้า เหตุเพราะรัฐบาลขาดความจริงใจ วิสัยทัศน์ผู้นำที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้ไทยต้องสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาล และสูญเสียโอกาสที่จะได้จากความร่วมมือในกลุ่มเอเปก การบริหารราชการแผ่นดินส่อในทางทุจริต หลายเรื่องส่งผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจากรายงานของวุฒิสภา และหน่วยงานภายนอกพบว่า รัฐบาลนี้มีการทุจริตสูงมาก ส่งผลให้การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศสูงขึ้น รวมถึงปัญหายาเสพติดขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ และเป็นแหล่งส่งออกไปต่างประเทศทำให้ประเทศเสียหาย ถือได้ว่าขณะนี้เป็นวิกฤตของประเทศ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นกรณีจำเป็นที่ ส.ส.ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ต้องสอบถามข้อเท็จจริงต่อครม. ในการแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ และหาข้อสรุปเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตรงเป้าหมาย เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ญัตตินี้ไม่ต้องมีมติ มีลักษณะเหมือนกระทู้ แต่ไม่ใช่กระทู้ เป็นการซักถามข้อเท็จจริง และเสนอต่อครม. ไม่ได้มุ่งหมายต่อรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่ต้องการรู้ว่าทำไมถึงตอนนี้พวกเขามีความทุกข์ลำบากยากแค้น ถือเป็นญัตติแพงทั้งแผ่นดิน จนพังทั้งแผ่นดิน นี่คือการทำงานร่วมกันเพื่อบ้านเมือง เพราะเราจะเสนอแนะรัฐบาลเพื่อนำไปแก้ไขให้กับประชาชน เราจะบอกปัญหาที่รัฐมนตรีไม่รู้ว่าเป็นปัญหา และไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร เพื่อประโยชน์ของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยปัญหาเศรษฐกิจพี่น้องคนไทยทุกข์ระทมกับของแพงทั้งแผ่นดิน ส่วนรายได้แสนจะถูก ชีวิตความเป็นอยู่ยุ่งยากซับซ้อน จนเกิดปัญหาสังคมตามมา รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริหารงานล้มเหลว และปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน จนหนี้ท่วมประชาชน 

นอกจากนี้ ยังมีวิกฤตการใช้งบเงินกู้ และการจัดสรรงบประมาณปี 65 ที่ไม่เหมาะสม รัฐบาลบริหารล้มเหลวจนเกิดเงินเฟ้อของแพง ที่ไม่เหมือนกับประเทศอื่น เพราะเป็นเงินเฟ้อจากต้นทุนการผลิตที่สูง ค่าแรงถูก และคนตกงานทั้งแผ่นดิน เป็นความผิดพลาดจากนายกฯ และครม. ที่ใช้มาตรการผิดพลาดบกพร่อง สิ่งที่จะต้องขุดต่อคือ เรื่องความสามารถในการแข่งขันของไทย ที่มีความสามารถที่ย่ำแย่ ระบบการเงินที่ไม่เอื้อต่อการลงทุน ผู้ประกอบการรายย่อยล้มหายตายจาก ขณะที่การพัฒนาประเทศในยุคดิจิทัล ประเทศเราสูญเสียโอกาสมากในการบริหารงานด้านนี้ ซ้ำร้ายที่สุดคือมีกลไกการโกงการหาประโยชน์จากระบบนี้ด้วย รายได้จากภาคการท่องเที่ยวก็ล้มเหลวหดตัว เข้าใจได้ว่าเกิดสถานการณ์โควิด-19 แต่เมื่อเปรียบเทียบประเทศอื่นๆ ทำไมเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ต้องถามคือทำไมการระบาดของโควิด-19 ยังอยู่ถึงปัจจุบัน ท่านอาจจะโชคช่วยเพราะเกาะโรคเพื่อให้ท่านดำรงอยู่ ท่านจึงเลี้ยงโรคเลี้ยงไข้ ซึ่งโชคดีที่โอมิครอนเข้ามาช่วยชีวิตท่านไว้

'บิ๊กตู่' บอกแล้วแต่กิริยา'หมอชลน่าน' ทำนั่งหลับ สังคมตัดสิน ลั่นอภิปรายไม่ได้หวังเอาชนะใคร พร้อมต้อนรับ 'คณะหอการค้าร่วมต่างประเทศ' ยัน ภาคเอกชนไม่หวั่นไหวสถานการณ์การเมืองไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังให้การต้อนรับนายสแตนลีย์ คัง (Mr. Stanley Kang) ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) และคณะ ที่เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า กลุ่มที่เข้าพบวันนี้ทำงานกับเรามาโดยตลอดหลายปี มีความรักประเทศไทยและพร้อมที่จะร่วมมือลงทุนในประเทศเราให้มากขึ้น ซึ่งตนได้ย้ำไปแล้วว่าไม่ใช่เพื่อเขาและเพื่อเรา แต่ต้องลงทุนให้โลกใบนี้ด้วย และประเทศไทยจะต้องหลุดพ้นจากประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลางให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้มีรายได้สูงขึ้นตั้งแต่วันนี้ 

เมื่อถามว่า ภาคเอกชนจะหวั่นไหวกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในของประเทศหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่ได้มีการสอบถามในที่ประชุมแต่อย่างใด และไม่เคยถามอะไรตน ในเรื่องการเมือง เพราะเขาคิดว่าประเทศไทยอย่างไรก็อยู่ได้ เพราะอย่างไรก็คือประเทศไทย เขาเข้าใจ และเขาก็เห็นว่า ซึ่งการพัฒนาประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาตามลำดับและต่อเนื่อง เขาเข้าใจดีเนื่องจากอยู่มาหลายปีแล้ว อะไรที่ไม่เป็นสาระเขาก็ไม่สนใจ"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมจัดประชุมเอเปค ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ว่า มีการแถลงอยู่แล้วเรื่องความคืบหน้าและมีการเตรียมสถานที่ไปแล้วคือหอประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่สร้างใหม่ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของสิ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย ส่วนสถานที่จัดเลี้ยงจะเป็นพื้นที่กองทัพเรือให้คนได้เห็นว่าประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปแล้วบ้าง ส่วนเรื่องภายในของเราเรื่องสภาก็ว่ากันไป 

'หมอชลน่าน' ลั่นชื่อ 'อุ๊งอิ๊ง' แคนดิเดตนายกฯ พท. อ้าง ถ้าปชช. ตอบรับดีก็มีทางเป็นไปได้

13 มี.ค. 65 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความพร้อมของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า เราเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด เลือกตั้งเมื่อไหร่เราก็พร้อมลงทุกเขต ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย จะเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าเห็นอย่างไร ถ้าประชาชนมีเสียงตอบรับที่ดี มีเสียงสนับสนุนก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด อยู่ที่พี่น้องประชาชน


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/641101

ชาวเน็ตติง 'หมอชลน่าน' แสดงออกอย่างไม่สมศักดิ์ศรี หลังโค้งคำนับ 'อุ๊งอิ๊ง' ทั้งที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค

ขณะนี้ชาวเน็ตมีการพูดถึงกรณี พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรม "บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม" ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมได้เปิดรับสมัครสมาชิกเข้าร่วมเป็นครอบครัวพรรคเพื่อไทยผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งในเว็บไซต์ หรือ LINE OA ของพรรคเพื่อไทย

โดยระหว่างที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศเปิดตัวนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และเมื่อนางสาวแพทองธาร เดินขึ้นไปบนเวที นพ.ชลน่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้โค้งคำนับนางสาวแพรทองธาร อย่างนอบน้อมถ่อมตน ก่อนจะเดินลงจากเวที
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top