Thursday, 2 May 2024
หมอชลน่าน

‘หมอชลน่าน’ ซัด ‘บิ๊กตู่’ ปมตั้งเลขานายกฯ ใหม่ ชี้!! ไม่สมควรแก่เวลา - ส่อเอื้อประโยชน์ให้ตนเอง

วันนี้ (21 ธ.ค. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงการแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามที่พวกเราทุกฝ่ายคิดไว้  เพราะว่ามีการลาออกของอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และตั้งเป็นที่ปรึกษาแทนคือ คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เดิมมีตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว สัปดาห์นี้ก็ปรากฏแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถามว่านายกรัฐมนตรีทำได้ไหม ก็ทำได้ไม่มีกฎหมายใดห้ามว่าไม่ควรตั้งหรือห้ามแต่งตั้ง กรณีเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง แต่ถามว่าเหมาะสม สมควรหรือไม่ ตั้งไปเพื่อการใดสิ่งนี้เป็นคำถาม อายุของผู้แทนราษฎรจะเหลือจนถึง 23 มีนาคม 2566 นับต่อนี้ไปไม่กี่เดือน การเปลี่ยนแปลงบุคลากรของรัฐ เฉพาะฝ่ายการเมืองสำคัญอย่างนี้ ในห้วงเวลาอย่างนี้ โดยสามัญสำนึกแล้วทุกคนก็ดูว่าไม่เหมาะสม

‘ชลน่าน’ โว แคนดิเดตนายกฯ มีมากกว่า 3 ชื่อ พร้อมยอมรับ แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่กระทบภาคเหนือ

‘เพื่อไทย’ เตรียมเคาะ แคนดิเดตนายกฯ ‘หมอชลน่าน’ โว มีมากกว่า 3 ชื่อ โอด ‘กกต.’ แบ่งเขตใหม่ ทำจังหวัดเป้าหมายลด เผย ยุบสภาเมื่อไหร่ รู้แน่ ‘สมศักดิ์’ ย้ายซบหรือไม่ 

(6 มี.ค.66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ต้องการให้ประกาศตัวแคนดิเดตนายกฯของพรรคพท.ว่า ขณะนี้เรากำลังประมวลและเตรียมเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกทั้ง 3 คนของพรรคต่อคณะกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากเรามีรายชื่อแคนดิเดตนายกมากกว่า 3 รายชื่อ จึงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะเรียงลำดับอย่างไร โดยคาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาใกล้ช่วงที่จะมีการยุบสภา

เมื่อถามว่า ที่แน่ ๆ มีชื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจพรรค พท.ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ฟังเสียงจากประชาชน แนวโน้มจะเป็นเช่นนั้น

'แดงปทุมฯ' ให้กำลังใจ 'หมอชลน่าน' ขอให้จัดตั้งรัฐบาลได้อย่างราบรื่น

(15 ส.ค.66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ตรีชฎา ศรีธาดา สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรค รับมอบหนังสือและดอกไม้จากตัวแทนพี่น้องเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดจันทบุรี และชมรมแท็กซี่สุวรรณภูมิ แท็กซี่กรุงเทพ ที่มาให้กำลังใจที่พรรคเพื่อไทย ให้จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ พร้อมประกาศพร้อมอยู่เคียงข้างทำงานให้ประชาชนเต็มความสามารถ

ครม.มอบ ‘หมอชลน่าน’ ตั้ง กก.ยกระดับบัตรทอง-ระบบสาธารณสุข ไฟเขียว ให้ผู้ป่วยเลือก รพ.ได้เอง ย้ำ ยึดผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง

13 ก.ย. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ว่า ภารกิจทางด้านสาธารณสุขนั้น ได้มอบหมายให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปแต่งตั้งคณะทำงานยกระดับมาตรฐานการบริการโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เช่น ในการไปรับบริการที่โรงพยาบาล จากเดิมที่ต้องรอคอยนานเป็นวันเพื่อพบแพทย์เพียง 2 นาที จากนี้จะเป็นระบบการนัดหมายเข้ารับบริการ เพื่อจะได้ไม่ต้องรอคอยที่โรงพยาบาลทั้งวัน หรือในบางกรณีที่เป็นเพียงการนัดหมาย เพื่อติดตามอาการ หรือรับยาเท่านั้น อาจไม่จำเป็นต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแล้ว แต่สามารถให้ญาติ ประสานผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อขอรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านได้

นายชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ในเรื่องของการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า ซึ่งจากเดิมจะต้องมีการขอใบส่งตัวจากโรงพยาบาลต้นทาง ที่มีความยุ่งยาก และใช้เวลานาน ต่อจากนี้ไม่ต้องไปขอใบส่งตัวแล้ว เพราะข้อมูลผู้ป่วยมีอยู่ในฐานระบบที่เชื่อมโยงกันอยู่

นายชัย กล่าวว่า ที่สำคัญจากนี้ไม่ต้องมีโรงพยาบาลประจำแล้ว จากนี้หากผู้ป่วยอยู่ใกล้โรงพยาบาลไหน หรือชอบใจ มั่นใจโรงพยาบาลไหน ก็สามารถไปได้เลย เหมือนประกันเอกชนคอยดูแลสามารถเลือกไปโรงพยาบาลไหนก็ได้ นี่คือเวอร์ชันใหม่ เป็นเวอร์ชันที่เอาผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง ให้ประชาชนมีความสะดวก ไม่ใช่ให้ผู้ให้บริการมีความสะดวก นี่เป็นเรื่องใหม่มากๆ เป็นการยกระดับอย่างเห็นได้ชัด

'หมอชลน่าน' แง้ม!! ทิศทาง 'กัญชา' อาจคืนบางส่วนเป็นยาเสพติด กั๊กตอบกัญชาสันทนาการ ต้องดู 'มิติสังคม-สุขภาพ' ควบคู่กัน

(26 ก.ย.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงแนวทางการควบคุมการใช้กัญชา หลังมีบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มหนึ่ง อยากให้ รมว.สาธารณสุข ประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วน (Quick Win) ในการประกาศควบคุมการใช้กัญชา ขณะที่มีภาคประชาชนบางกลุ่มไม่เห็นด้วยในการห้ามปลูกบ้านละ 15 ต้น รวมถึงการให้กลับไปเป็นยาเสพติด ว่า เรื่องนโยบายเร่งด่วนกระทรวงสาธารณสุขนั้น ประกาศออกมาเป็นภาพรวมเรื่องเศรษฐกิจสุขภาพ หมายความว่า จะนำสุขภาพไปสร้างเศรษฐกิจในมิติสุขภาพที่มีหลายองค์ประกอบ อาทิ ศูนย์กลางการแพทย์ (เมดิคัลฮับ) ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เรื่องวิชาการ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งกัญชาอาจจะอยู่ในมุมนี้ การให้บริการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ มิติเหล่านี้อยู่ในการประกาศนโยบายเร่งด่วน ไม่ได้เน้นไปที่กัญชา

ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วความชัดเจนเรื่องกัญชาเป็นอย่างไร เนื่องจากรอกฎหมายมาควบคุมอยู่นานมากแล้ว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลังจากกระทรวงสาธารณสุขรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีแล้ว เราได้เร่งรัด โดยตั้งคณะทำงานมาพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข โดยนโยบายได้เน้นย้ำว่ากัญชาทางการแพทย์ เพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นมุมโดยตรงของกระทรวง จึงต้องไปดูกฎหมายที่จำเป็น ออกมาใช้บังคับ จะพยายามจัดทำกฎหมายและเสนอโดยเร็วที่สุด ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นรัฐบาลร่วมกัน ก็ต้องปรึกษาหารือร่วมกัน

เมื่อถามถึงกรณีการอนุญาตปลูก 15 ต้น จะมีความชัดเจนอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เมื่อมีในกฎหมายเดิม ก็ต้องไปพิจารณาว่า การปลูกเพื่อนำไปสู่การผลิต เพื่อการแพทย์และสุขภาพนั้น ปลูกอย่างไรที่จะได้คุณภาพมาตรฐาน หากปลูกแล้ว ไม่สามารถนำไปใช้ในเรื่องการเข้าสู่อุตสาหกรรมทางการแพทย์เพื่อสุขภาพก็จะทำให้พี่น้องขาดโอกาส ดังนั้น แล้วแต่กฎหมายที่จะเขียนมา เพราะในมุมการผลิตนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระทรวงสาธารณสุข

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้เรื่องสันทนาการจะไม่สามารถทำได้แล้วหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตามนโยบายเราต้องเน้น เพื่อการแพทย์ เพื่อสุขภาพ เพราะถ้านอกจากนี้ก็ไม่ใช่มุมของเพื่อการแพทย์และสุขภาพ ดังนั้นต้องมีกฎหมายออกมาว่า จะควบคุมดูแลกันอย่างไร การใช้จะใช้อย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบต่อสุขภาพ ซึ่งถ้าจะมีกฎหมายมารองรับ เช่น พ.ร.บ.กัญชง กัญชา ที่เคยพิจารณากันมาแล้ว ก็ต้องไปดูในรายละเอียดว่า จะมีบทบัญญัติใดมาควบคุมดูแล ที่นอกเหนือไปจากการแพทย์ และสุขภาพอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ผู้ประกอบการที่เปิดเพื่อเสพแบบสันทนาการยังเปิดต่อไปได้หรือไม่ นพ.น่าน กล่าวว่า เราต้องคิดใน 2 มิติ กระทรวงสาธารณสุข เป็นกระทรวงที่ต้องสร้างสุขภาพ ถ้ากิจการ หรือกิจกรรมที่เขาทำนั้นไม่กระทบต่อสุขภาพ ไม่มีผลต่อสุขภาวะโดยรวม เรื่องมิติเชิงสังคม ก็อาจจะมีกฎหมายเข้าไปกำกับดูแล ควบคุม ส่วนจะปูพรมตรวจร้านที่เปิดสันทนาการหรือไม่ นั้นอยู่ที่ตัวกฎหมายให้อำนาจไว้ อย่าไปคิดว่าจะปูพรมหรือไม่ปูพรม ตอนนี้เราต้องพยายามทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทุกฝ่ายได้ประโยชน์บนพื้นฐานที่ไม่ทำลายสุขภาพ ไม่ทำลายพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็ก เยาวชนในสังคมไทย

"ขอย้ำว่า การนำสารเสพติดเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่ไม่เหมาะสม หรือเกินกว่ากำหนด ในระยะเวลาที่มากกว่ากำหนดไว้ ก็จะเป็นผลร้ายต่อสุขภาพ เช่น บุหรี่"

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่จะคืนบางส่วนของกัญชาให้กลับเป็นยาเสพติด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้สามารถพิจารณาควบคู่ไปได้ เพราะ พ.ร.บ.ต้องยกร่างเข้าสภา ส่วนประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ใช้ขณะนี้คือประมวลกฎหมายยาเสพติด ให้อำนาจไว้ และอยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ส.และกรรมการควบคุมป้องกันยาเสพติด และกระทรวงสาธารณสุข หากเห็นพ้องต้องกันที่จะประกาศ ว่าอะไรที่จะเป็นยาเสพติด สำหรับตัวที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ซึ่งไม่ใช่แค่กัญชาตัวเดียว แต่ถ้ายกตัวอย่างกัญชา คือพืชที่มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทอยู่ในตัว หากจะประกาศให้เป็นยาเสพติด ก็ต้องไปทำข้อตกลงแล้วจึงประกาศบังคับใช้ ซึ่งจะทำได้เร็วกว่าการตรา พ.ร.บ.และขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันว่า จะคืนส่วนใดบ้าง กำลังปรึกษาหารือกับกระทรวงยุติธรรม โดยจะนัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า เราจะมองเห็นร่วมกันอย่างไร ไม่ให้กระทบ หรือทำลาย กดทับในส่วนที่ทำให้คนสูญเสียโอกาส ส่วนตนยึดหลักเรื่องการแพทย์ และสุขภาพเป็นหลัก

เมื่อถามย้ำว่า การปรับปรุงประกาศกระทรวง และผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะประกาศเป็นนโยบายควิกวินหรือไม่ นพ.ชลน่าน ไม่ เพราะไม่ได้อยู่ใน 13 นโยบายควิกวินที่ประกาศแล้วในตอนแรก เนื่องจากกฎหมายต้องใช้เวลา เพราะควิกวิน เป็นแผนเร่งรัดปฏิบัติการ ต้องเร่งทำให้เกิดผลสำเร็จภายในเวลาที่ต้องการ ผลลัพธ์ที่ได้ต้องพิสูจน์ได้ จับต้องได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องกัญชามีสิ่งที่จะต้องร่วมกันพิจารณาอย่างมาก ทั้งตัวประกาศและข้อกฎหมายต่างๆ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น หากประกาศบนพื้นฐานของความไม่รอบคอบก็จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

‘หมอชลน่าน’ เตรียมชี้แจงแนวทางฉีดวัคซีน HPV ก่อนคิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศ 1 พ.ย.นี้

(11 ต.ค.66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.ชลน่านแถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า ที่ประชุมได้ติดตามการขับเคลื่อนนโยบายยกระดับ 30 บาทพลัส ทั้ง 13 ประเด็น ซึ่งทุกประเด็นมีความก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจ 

ยกตัวอย่าง ประเด็นยาเสพติด/สุขภาพจิต พบว่า มีการจัดตั้งมินิธัญญารักษ์ เพื่อบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดแล้ว 35 จังหวัด คิดเป็น 46% รวมถึงเรื่องให้มีการจัดตั้งหอผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต โดยเฉพาะผ่านระบบสื่อสังคมออนไลน์ หรือ ประเด็นมะเร็งครบวงจร จะมีการชี้แจงแนวทางการฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และกทม. วันที่ 12 ตุลาคมนี้ เพื่อคิกออฟฉีดพร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566

ส่วนประเด็นดิจิทัลสุขภาพ ทีมส่วนกลางได้ร่วมกับทีมโรงพยาบาลในพื้นที่ จัดทำเกณฑ์โรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) ครอบคลุมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการ การให้บริการ และความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนาโรงพยาบาล รองรับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ตามที่ประกาศนำร่องไว้ มั่นใจว่าจะมี Smart Hospital ไม่น้อยกว่า 200 แห่งในระยะเริ่มแรก

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบการดำเนินงานด้านสาธารณสุขฉุกเฉิน 2 เรื่อง คือ 1.เหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ซึ่งคนไทยชุดแรกจะกลับมาถึงประเทศไทยวันที่ 12 ตุลาคมนี้ เวลา 10.35 น. จะมีทีมแพทย์คัดกรองสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ ที่สนามบิน หากมีปัญหาสุขภาพกายจะส่ง รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน หรือ รพ.นพรัตนราชธานี

หากมีปัญหาด้านสุขภาพจิตได้เตรียมโรงพยาบาลด้านจิตเวชไว้รองรับ คือ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา รพ.ศรีธัญญา และสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ และติดตามเฝ้าระวังตามมาตรฐานจนอาการเป็นปกติ

นอกจากนี้ได้ส่งทีมเยียวยาจิตใจ (MCATT) ลงไปดูแลญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ทุกแห่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา และ 2.การติดตามสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ซึ่งยังมีสถานการณ์ในหลายจังหวัดส่วนใหญ่เป็นอุทกภัยซึ่งขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง

ทั้งนี้ ได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชน ดูแลผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ เตรียมพร้อมยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ โดยขณะนี้มีสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 19 แห่ง ยังเปิดให้บริการตามปกติ 18 แห่ง ต้องปิดบริการ 1 แห่ง คือ รพ.สต.บ้านดอนนายาง จ.กาฬสินธุ์

“หมอชลน่าน”ห่วงหญิงไทย ถูกมะเร็งเต้านมคุกคาม ป่วยเพิ่มปีละกว่า 1.7 หมื่นคน เอันดับหนึ่งของมะเร็งในผู้หญิง เหตุต้องรีบทำนโยบายมะเร็งครบวงจร

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยถึงหลังกรณีการเสียชีวิตของ นางสาวจุฬาลักษณ์ อิสมาโลน หรือ หญิง จุฬาลักษณ์ ในวัย 45 ปี ด้วยโรคมะเร็งเต้านม ว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข  มีความห่วงใยสตรีไทยที่ต้องตกเป็นเหยื่อโรคมะเร็งเต้านม เพราะเป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในหญิงไทยและทั่วโลก โดยมีอุบัติการณ์เกิดในผู้ป่วยใหม่ ปีละประมาณ 12% โดยในปี 2566 พบผู้ป่วยรายใหม่ 17,742 คน หรือวันละ 49 คน และพบการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งเต้านมหรือการแพร่กระจายของโรคค่อนข้างสูงกว่ามะเร็งชนิดอื่น ทำให้ผู้ป่วยหลายรายหมดกำลังใจในการรักษา  อย่างไรก็ตาม มะเร็งเต้านม หากตรวจพบเร็ว เข้ารับการรักษาเร็ว และดูแลตนเองอย่างถูกวิธี จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิต อยู่กับคนที่รักได้อีกนาน

นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเล็งเห็นปัญหาของเรื่องนี้จึงได้กำหนดให้การดูแลรักษามะเร็งเป็นหนึ่งในนโยบายควิกวิน (QuickWin) ภายใน 100 วัน ผ่านนโยบายมะเร็งครบวงจรซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขทันทีที่เขัามารับตำแหน่งเจ้ากระทรวงนี้ จึงตั้งเป้าดูแลประชาชนอย่างครบวงจร ทั้งการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคมะเร็ง การดูแลรักษา บำบัด ฟื้นฟูทันที

“มะเร็งครบวงจร เป็นอีกนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน มุ่งเน้น 5 โรคที่พบบ่อย คือ มะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก” และสำหรับประเทศไทย พบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละ 140,000 คนและเสียชีวิต 84,000 คนต่อปี นโยบายของนพ.ชลน่าน เกี่ยวกับมะเร็ง มุ่งเน้นจัดบริการด้านโรคมะเร็งที่ครบวงจร ครอบคลุมทั้งระบบ ตั้งแต่การส่งเสริมป้องกัน การคัดกรอง การตรวจวินิจฉัย การรักษา จนถึงการดูแลผู้ป่วยระยะท้าย 

ดังนั้นประชาชนที่มีสิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกที่สงสัยและกังวลในเรื่องนี้สามารถเข้าไปรับการปรึกษาและการตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อจะได้รับการวินิจฉัยและป้องกันอย่างทันท่วงที่ เพราะมะเร็งรู้เร็วรักษาได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องการให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนรู้เท่าทันโรค และมีสุขภาพที่ดี’ นางสาวตรีชฎา 

‘หมอชลน่าน’ จัด“โครงการพาหมอไปหาประชาชนฯ ปัตตานี” จัดคลินิกคัดกรองมะเร็ง-ทันตกรรม-ตรวจความผิดปกติบนใบหน้าและมือเด็ก ช่วยเข้าถึงการผ่าตัดแก้ไขปัญหา 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดโครงการพาหมอไปหาประชาชนฯ จังหวัดปัตตานี ที่ โรงเรียนสายบุรี “แจ้งประชาคาร” และ โรงเรียนเทศบาล 6 บ้านบางตาหยาด ออกหน่วยแพทย์เฉพาะทาง รวม 21 คลินิก ดูแลประชาชนชาวสายบุรีกว่า 2,000 คน เน้นดูแลปัญหาสุขภาพตามบริบทพื้นที่ อาทิ คลินิกคัดกรองความผิดปกติของใบหน้าและมือในเด็ก เพื่อส่งเข้ากระบวนการแก้ไขปัญหาและรับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลปัตตานี โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่อสม.ในพื้นที่ร่วมพิธี และกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจัดกิจกรรมพาหมอไปหาประชาชนฯ เป็นประจำในวันหยุดทุกสัปดาห์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการรักษาด้านการแพทย์เฉพาะทางให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกหน่วยแพทย์ไปแล้ว 41ครั้ง มีประชาชนเข้าถึงบริการแล้วกว่า 159,000 ราย ได้เข้ารับหัตถการเฉพาะทาง 2,433 ราย และหัตถการเฉพาะทางคัดกรองมะเร็ง ถึง 8,340 ราย

นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นปัญหาสุขภาพของเด็กที่พบในจังหวัดปัตตานีจำนวนมาก สาเหตุจากการตั้งครรภ์หลายครั้งทำให้โฟลิคในร่างกายต่ำ โดยในปี 2565-2566 มีผู้ป่วยเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ประมาณ  40 ราย/ปี ในวันนี้จึงมีการจัดคลินิกคัดกรองความผิดปกติบนใบหน้าและมือเด็กขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อค้นหาเด็กที่มีความผิดปกติ อาทิ ปากแหว่งเพดานโหว่ นำเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาและผ่าตัดศัลยกรรมที่โรงพยาบาลปัตตานี ซึ่งกระบวนการดูแลรักษาเดิมจะเป็นการติดตามต่อเนื่องตั้งแต่หลังคลอดและแก้ไขปัญหาให้ตั้งแต่เด็กอายุยังน้อยๆ เพื่อป้องกันการปฏิเสธการรักษา โดยทำการผ่าตัดใส่เพดานเทียม (Obturator) ซึ่งทำได้ทันทีหลังคลอด เด็กจะสามารถดูดนมและเจริญเติบโตได้ตามวัย ส่วนเด็กที่คลอดในโรงพยาบาลชุมชนและพบความผิดปกติ จะประสานกับทันตแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมช่องปากและใบหน้าขากรรไกร (Maxillofacial) และแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic and Reconstructive Surgery) ของโรงพยาบาลปัตตานี เพื่อทำงานร่วมกัน ซึ่งหลังการผ่าตัดผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ และมีคุณภาพชีวิตดีที่ขึ้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top