Thursday, 9 May 2024
สุนัขจรจัด

'จรจัดสรร' ที่พักพิง 'สุนัขจรจัด' จากสถาปัตยกรรมขนาดเล็กพับเก็บได้ เซฟน้องหมา-สร้างจุดสังเกตแก่คนกลัวให้เดินเลี่ยง

ไวรัล! ที่พักพิง "จรจัดสรร" อีกทางเลือกแก้ปัญหาหมาจรจัด ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมขนาดเล็ก บังแดด-กันฝนให้หมาจรจัด แลนด์มาร์กให้อาหารเป็นหลักแหล่ง และเป็นจุดสังเกตให้คนกลัวหมา หวังลดความขัดแย้งในชุมชน

หมาจรจัดเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน โดยเฉพาะความขัดแย้งในชุมชนระหว่างคนกับหมา ทั้งเรื่องความสกปรกจากการกินและคุ้ยอาหาร หรือความปลอดภัยจากการถูกกัด หรือวิ่งตัดหน้ารถ ซึ่งที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการรณรงค์จากทั้งหน่วยงานรัฐและ NGO ให้แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง อย่างขอให้แต่ละคนประเมินความพร้อมก่อนตัดสินใจเลี้ยง หรือขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง แต่สุดท้ายจำนวนหมาจรจัดก็ยังไม่ได้หมดไป

กลุ่มจิตอาสาคนรักหมาแต่ละกลุ่ม ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาและลดความขัดแย้งเท่าที่จะทำได้ ทั้งการจัดโครงการสุนัขชุมชนในแต่ละพื้นที่ หรือการสนับสนุนศูนย์พักพิงหมาจรจัดต่าง ๆ

ล่าสุด ในสื่อสังคมออนไลน์ มีการส่งต่อโพสต์ไวรัลเกี่ยวกับอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ไขปัญหาหมาจรจัดอย่าง "ที่พักพิง" โครงการจรจัดสรรเป็นงานวิจัยระดับปริญญาเอก หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาศิลปะการออกแบบเชิงวัฒนธรรม คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ริเริ่มโครงการจากความเป็นคนรักหมา จึงต้องการดูแลสวัสดิภาพหมาให้ดีขึ้น

"อาจารย์ยศพร จันทองจีน" เจ้าของโครงการ ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสว่า ที่พักพิงโครงการจรจัดสรร เป็นการสร้างสถาปัตยกรรมขนาดเล็ก ใช้อุปกรณ์เพียงแค่เหล็กและไวนิลซึ่งได้รับบริจาคจากโรงพิมพ์ แต่ช่วงนี้เหล็กราคาแพง ทำให้ราคา 1 ชุด อยู่ที่ 1,500 - 2,000 บาท โดยจรจัดสรรจะเลือกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากชุมชน และไม่เกะกะขวางทาง มีอาสาสมัครคอยดูแลความเรียบร้อยและความสะอาด เพื่อเป็นการจัดการหมาจรจัดในชุมชนอย่างเป็นระบบ

“จุดประสงค์แรกเราคือ อยากหาที่บังฝนและบังแดดให้หมาจรจัดที่เขาไม่มีบ้านอยู่ เพื่อให้สวัสดิภาพชีวิตของเขาดีขึ้น”

เบื้องต้น นำร่องทำความร่วมมือกับจิตอาสากลุ่มสุนัขชุมชนเมืองทอง โดยติดตั้งที่พักพิงไปแล้ว 10 ชุด บริเวณข้างมหาวิทยาลัยศิลปากร 2 ชุด ข้างลานจอดรถอิมแพ็กอารีนา 5 ชุด และบริเวณปั๊มน้ำเมืองทอง อีก 3 ชุด ซึ่งคนในพื้นที่แจ้งว่า มีหมาเข้าไปพักเพื่อบังแดดอยู่บ้าง และเมื่อมีอาสาสมัครนำข้าวไปวางไว้ ก็มีหมาเข้าไปกินอาหารด้านในด้วย

“ที่พักพิงนี้เป็นจุดให้จิตอาสานำอาหารมาให้หมาได้แบบไม่เกะกะหรือรบกวนคนทั่วไป และเป็นสถาปัตยกรรมขนาดเล็กที่พับเก็บได้ ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งของคนในชุมชน และเป็นจุดสังเกตสำหรับคนที่กลัวหมาให้เดินเลี่ยงได้”

หลังเปิดเผยภาพไปจนกลายเป็นไวรัล อาจารย์ยศพร ยอมรับว่า รู้สึกดีใจที่ทำให้ประชาชนในวงกว้างได้ตระหนักถึงปัญหาหมาจรจัดที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คิด และหวังจะให้ทุกคนร่วมแชร์ไอเดียแก้ไขปัญหาผ่านโซเชียล รวมถึงให้หน่วยงานที่ได้มาเห็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาหมาจรจัดและลดความขัดแย้งในชุมชนได้

“เราอยากให้เข้าใจว่า การทำโครงการนี้ ไม่ใช่ทำเพื่อให้หมาจรจัดเพิ่มขึ้น ไม่ใช่การสร้างปัญหา แต่เป็นอีกหนึ่งทางแก้ปัญหาสำหรับกลุ่มคนรักหมาที่พอจะทำได้ด้วยกำลังที่มี”

หมดความเชื่อมั่น นทท. โวย โดนหมาจรจัดกัด ที่หาดอ่าวนาง เสียค่ารักษากว่า 2 หมื่นบาท ร้องแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

นักท่องเที่ยวโวย ถูกสุนัขจรจัดไล่กัดได้รับบาดเจ็บขณะเดินออกกำลังกาย หน้าหาดอ่าวนาง ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล กว่า 2 หมื่นบาท เรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

กลับมาอีกแล้วปัญหาสุนัขจรจัดทำร้ายนักท่องเที่ยวที่หาดอ่าวนาง ล่าสุด เกิดเหตุสุนัขจรจัดบริเวณหน้าหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ไล่กัดนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ และต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินกว่า 20,000 บาท สร้างความไม่พอใจแก่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเป็นอย่างมาก และเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัย

เบื้องต้น ทราบว่านักท่องเที่ยวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ คือ นายแดเนียล สุดใจ (Daniel Sudjai Kutrakun) อายุประมาณ 60 ปี เป็นคนไทยที่มีภรรยาเป็นชาวอเมริกันและทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และจะกลับมาเที่ยวที่หาดอ่าวนางทุกปี โดยพักอยู่โรงแรมแห่งหนึ่ง หน้าหาดอ่าวนาง ทั้งสองเป็นแขกวีไอพีของโรงแรม

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (11 มี.ค.) ขณะที่นายแดเนียล และภรรยา กำลังเดินออกกำลังกายบริเวณหน้าหาดอ่าวนาง ห่างจากที่พักประมาณ 300 เมตร ระหว่างที่เดินอยู่นั้นพบฝูงสุนัขประมาณ 5 ตัว กำลังรวมตัวกันที่ชายหาด และมีตัวผู้ตัวเมียคู่หนึ่งกำลังผสมพันธุ์กัน เมื่อเห็นนายแดเนียลและภรรยา สุนัขตัวสีน้ำตาลได้วิ่งเข้ามากัดขาซ้าย นายแดเนียล จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ท่ามกลางความตกใจกลัวของภรรยานายแดเนียล

ซึ่งนายแดเนียล จึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือมา บันทึกภาพฝูงสุนัขดังกล่าวเอาไว้เพื่อแชร์ในโลกออนไลน์ ก่อนจะเดินทางไปรักษาตัวที่คลินิก ซึ่งทั้งค่าตรวจรักษา และยาค่ายาเป็นเงินจำนวนกว่า 2 หมื่นบาท

โดยนายแดเนียล บอกว่า ตนมาเที่ยวที่อ่าวนางทุกปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลนั้นตนไม่ติดใจอะไร แต่ไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดกับนักท่องเที่ยวคนอื่นอีก

เฉลย!! 'สุนัข' ในตุรเคีย 'จ้องมอง-แบ่งอาหาร' ในท่อระบายน้ำ เพราะลูกแมวตัวเล็กอาศัยอยู่ โดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

(25 มี.ค.67) คุณประภาส ชลศรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้โพสต์เรื่องราวน่าประทับใจผ่านเฟซบุ๊ก 'Prapas Cholsaranon' ระบุว่า...

ผู้คนที่มาท่องเที่ยวที่ถนนเฟทิเย่ต์ เมืองอิซมิท ประเทศตุรเคีย เริ่มสงสัยเจ้าแอนนี่สุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่เอาแต่จ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวัน

มันทำอย่างนั้นไปทำไม

ยิ่งมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเจ้าแอนนี่นั่งเฝ้านั่งมองท่อระบายน้ำมาลงโซเชียลมีเดีย ผู้คนก็ยิ่งช่วยกันตั้งข้อสงสัย

คนกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่าหรืออาจเป็นเพราะกลิ่นจากท่อระบายน้ำที่ดึงดูดสุนัข

อีกกลุ่มหนึ่งคิดว่าหรือมันมีสิ่งมีชีวิตอะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวได้ 

อีกกลุ่มก็ค้านว่ามันอาจเป็นแค่แสงวับ ๆ แวมๆที่สะท้อนลงไปผิวน้ำ

พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นหลายคนพยายามก้มมองลงไปในท่อระบายน้ำ แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด

บางคนก็พยายามเงี่ยหูฟังว่ามันจะมีเสียงอะไรให้ได้ยินบ้าง แต่ก็ไม่มีใครได้ยินอะไร

ในที่สุดก็มีคนไปตามตำรวจดับเพลิงมาช่วยเปิดตะแกรงเหล็กฝาท่อระบายน้ำที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากออกดู 

เปิดแล้วเอาไฟฉายส่องลงไปก็ไม่เห็นอะไร

พอเอาฝาท่อมาปิด เจ้าแอนนี่ก็ยังคงนั่งมองท่อระบายน้ำต่อไป

อีกมุมหนึ่งของถนน โซฟีสาวน้อยใจบุญคนหนึ่งที่ชอบเอาอาหารมาเลี้ยงสุนัขจรจัด เธอเห็นรูปของเจ้าแอนนี่ในโซเชียลมีเดีย เธอจำมันได้ว่ามันเป็นสุนัขตัวหนึ่งที่ชอบมากินอาหารที่เธอนำมาให้

คราวนี้เธอจึงเพิ่งสังเกตว่า เจ้าแอนนี่ไม่ได้กินอาหารที่เธอให้จนหมดเหมือนสุนัขตัวอื่น เมื่อเธอให้ชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่งแก่เจ้าแอนนี่ไป เธอจึงได้เห็นว่าเจ้าแอนนี่คาบเอาอาหารเดินหนีออกไปอีกทางหนึ่ง เธอรีบเดินตามเจ้าแอนนี่ไป แน่นอนมันไปที่ท่อระบายน้ำปริศนานั้น

เธอเห็นกับตาว่าเจ้าแอนนี่มันกัดเนื้อที่เธอให้ออกเป็นชิ้น ๆ แล้วทิ้งลงไปในท่อระบายน้ำนั้น

โซฟีรีบโทรหาตำรวจดับเพลิง เธอคิดว่าในท่อระบายน้ำน่าจะมีสัตว์อะไรบางอย่างอยู่แน่ ๆ 

ตำรวจดับเพลิงกลับมาที่บริเวณท่อระบายน้ำอีกครั้ง แล้วก็เปิดฝาท่อระบายน้ำ คราวนี้พวกเขาใช้อุปกรณ์ก้านยาว ๆ ราวสามสี่เมตรผูกกับสมาร์ตโฟนแล้วก็แหย่ลงไปแล้วบิดเข้าในทางขวางของท่อระบายน้ำที่ตามองเข้าไปไม่ถึง แล้วก็ถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ตโฟนไปตลอดเวลาของการแหย่ไม้ลงไป

ในที่สุดทุกคนก็ได้รู้แล้วว่าเจ้าแอนนี่มันจ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวันด้วยเหตุผลอะไร เมื่อตำรวจดับเพลิงนำวิดีโอนั้นมาเปิดดู

ลูกแมวตัวเล็ก ๆ ห้าตัวอาศัยอยู่ในนั้นโดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

ตำรวจรื้อท่อระบายน้ำแล้วนำลูกแมวผอมโซที่หวาดกลัวผู้คนทั้งหมดออกได้

และตอนจบของพฤติกรรมอันน่าสงสัยของเจ้าแอนนี่ครั้งนี้ก็คือ ชาวบ้านและตำรวจต่างช่วยกันแบ่งลูกแมวไปเลี้ยงดู 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top