Tuesday, 30 April 2024
วัคซีนโควิด

'หมอยง' เผยผลซิโนแวค 2 เข็ม บวกกระตุ้นเข็ม 3 แอสตราฯ ภูมิต้านทานสูง สามารถต้านสายพันธุ์ 'เดลตา' ได้

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ "โควิด-19 วัคซีน การกระตุ้นเข็มที่ 3" โดยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของไวรัส covid-19 ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง การกระตุ้นภูมิต้านทานให้สูงขึ้นจึงมีความจำเป็น การฉีดวัคซีน มีการให้เบื้องต้น และกระตุ้น เช่น ไวรัสตับอักเสบบี จะให้เบื้องต้น 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน และกระตุ้นเข็มที่ 3 อีก 6 เดือนต่อมา ทำนองเดียวกัน วัคซีน covid-19 ถ้ามีการกระตุ้นเข็ม 3 ภูมิต้านทานจะสูงขึ้นมาก

การให้วัคซีนเบื้องต้น 2 เข็ม เช่น เชื้อตาย เปรียบเสมือนให้ร่างกายรู้จักเหมือนการติดเชื้อ เมื่อกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิด virus vector หรือ mRNA กระตุ้นภูมิต้านทานได้สูงมาก

'สโลวีเนีย' ระงับใช้วัคซีน 'จอห์นสัน&จอห์นสัน' หลังพบผู้เสียชีวิต จากเลือดออกในสมอง-ลิ่มเลือดอุดตัน

รัฐบาลสโลวีเนียสั่งให้ระงับการใช้งานวัคซีนป้องกันโควิด-19 ‘แจนเซน’ ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันชั่วคราวเมื่อวันพุธ ภายหลังมีหญิงวัย 20 ปีเสียชีวิต เพราะภาวะเลือดออกในสมองและลิ่มเลือดอุดตัน หลังจากฉีดวัคซีนนี้ได้ไม่กี่วัน

เอเอฟพีอ้างคำแถลงของยาเนซ โพคลูคาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสโลวีเนีย ที่กรุงลูบลิยานา เมื่อวันพุธที่ 29 กันยายน ว่า กระทรวงได้ขอให้สถาบันสาธารณสุขระงับการฉีดวัคซีนแจนเซนเป็นการชั่วคราว จนกว่ารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้จะมีความชัดเจน

โบยานา บีโอวิช หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษารัฐบาลแนะนำให้ระงับการใช้วัคซีนนี้ หลังจากรับรู้ว่าอาจมีความเชื่อมโยงไม่พึงประสงค์ระหว่างการเสียชีวิตกับการฉีดวัคซีน

รายงานของสื่อสโลวีเนียกล่าวว่า สตรีรายนี้เข้ารักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันจันทร์ด้วยอาการรุนแรง เธอเพิ่งฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันไม่กี่วันก่อนหน้านี้

'ยูทูบ' สั่งบล็อกคอนเทนต์กลุ่มแอนตี้วัคซีน หวังตัดวงจรข้อมูลเท็จ หลังปล่อยเกียร์ว่างมานาน

ยูทูบเปิดเผยว่า ทางบริษัทจะบล็อกวิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่อต้านวัคซีนทั้งหมด ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมหลังจากที่ก่อนหน้านี้ยูทูบได้สั่งแบนข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน

ตัวอย่างของคอนเทนต์ที่ยูทูบไม่อนุญาตให้นำขึ้นบนแพลตฟอร์ม ได้แก่ การอ้างว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก และการใช้วัคซีนชนิด MMR ซึ่งป้องกันโรคหัด โรคคางทูม และหัดเยอรมัน อาจทำให้เกิดภาวะออทิซึมได้

“โฆษกรัฐบาล” เผย ยอดฉีดวัคซีนสะสม 70 ล้านโดส ลั่น พร้อมรับนทท.ต่างชาติ “บิ๊กตู่” ย้ำ ปชช.เข้มมาตรการป้องติดเชื้อ มีส่วนพลิกโฉมประเทศ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีน เพื่อเตรียมพร้อมรับเปิดประเทศ ตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ว่า ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยกว่า 70 ล้านโดส เข็มที่ 1 สะสม 39,836,306 โดส คิดเป็น 55.28 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั่วประเทศ เข็มที่ 2 สะสม 28,293,679 โดส คิดเป็น 39.26 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรไทยทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 56.59 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มเป้าหมายประมาณ 50 ล้านคน หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั่วประเทศ เข็มที่ 3 สะสม 2,072,629 โดส และเข็มที่ 4 สะสม 1,631 โดส รวม 70,204,245 โดส 

ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12 ขึ้นไป นักเรียนชั้น ป.6,ม.1นักศึกษา ปวช. 1-3,ปวส. 1-2 ฉีดสะสมแล้วจำนวน 2,032,794 คน คิดเป็น 53.78 เปอร์เซ็นต์ (จากจำนวนที่ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,779,871 คน) เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ในรูปแบบในที่ตั้ง 

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนตามแผน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงต่อเนื่อง  และเห็นผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม  โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิต ที่ต่ำกว่า 100 ราย มากว่าครึ่งเดือนแล้ว โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 9,742 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 10,182 รายยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 1,812,268 ราย และยอดหายป่วยสะสม 1,693,203 ราย  ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนลดลงต่ำกว่าหมื่นราย ติดต่อกันหลายวันแล้ว ส่วนยอดผู้ป่วยหายกลับบ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตลดลง สะท้อนความบริหารสถานการณ์โควิด -19 ของรัฐบาลและความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี

“โฆษกรัฐบาล” เผย “นายก” ปลื้ม ฉีดวัคซีนแตะ 80 ล้านโดส โว รั้งอันดับ 18 จาก 184 ประเทศทั่วโลก ชี้ สธ.เร่งซื้อ ”แพกซ์โลวิด- โมลนูพิราเวียร์”รักษาโควิด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ในไทย มีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง แนวโน้มผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงอยู่ที่หลักพันและยอดผู้เสียชีวิตต่ำกว่าร้อยรายติดต่อหลายสัปดาห์ ขณะที่ผู้รักษาหายป่วยกลับบ้านมากกว่ายอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวัน  แสดงถึงศักยภาพของสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ การปรับมาตรการควบคุมโรคที่ได้ผลและความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในปฏิบัติตามมาตรการ 

โดยข้อมูลจากเว็บไซต์บลูมเบิร์ก  เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ระบุความคืบหน้าการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของ184 ประเทศทั่วโลก พบว่าฉีดวัคซีนได้มากกว่า 7,200 ล้านโดส โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก และอยู่ในอันดับ 3 ของอาเซียน ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้มากที่สุดได้แก่ จีน  อินเดีย สหรัฐอเมริกา บราซิล และอินโดนีเซีย ซึ่งการฉีดวัคซีนสะสมของไทยจนถึงวันที่7 พ.ย. กว่า 80 ล้านโดส เข็มที่ 1 สะสม 43,978,814 โดส เข็มที่ 2 สะสม 33,950,925 โดส เข็มที่ 3 สะสม 2,551,969 โดส และเข็มที่ 4 สะสม 2,719 โดส รวม 80,484,427 โดส คิดเป็น 65.44 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั่วประเทศ ทั้งนี้ด้วยอัตราการฉีดต่อวันประมาณ 6-8 แสนโดสต่อวัน ทำให้บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่าหากไทยฉีดด้วยความเร็วระดับนี้ต่อไป จะสามารถฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสให้ครอบคลุมประชากร 75% ได้ภายใน 1 เดือน สอดคล้องกับนโยบายเปิดประเทศแบบปลอดภัย (Smart Entry) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา 

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลจะดำเนินการจัดหาและกระจายวัคซีนให้กับคนทุกกลุ่มในประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดอาการติดเชื้อรุนแรงและป่วยหนักและลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อแล้ว นายกฯ ยังได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดติดตามเจรจาเพื่อสั่งซื้อยารักษาโควิด-19 ทั้ง "แพกซ์โลวิด (Paxlovid)" ของบริษัทไฟเซอร์ และ “โมลนูพิราเวียร์” ของบริษัทเมอร์ค ที่ช่วยลดการรักษาตัวในโรงพยาบาล และลดการเสียชีวิตในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงได้ให้เร็วที่สุดเพื่อให้ประเทศไทยได้รับยารักษาโควิด-19 ที่มีการพัฒนาเป็นคิวแรกๆ ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนไทยสามารถกลับมาดำเนินชีวิตและทำมาหากินได้อย่างปกติสุขโดยเร็วแบบ New Normal และร่วมเดินหน้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจต่อไป

สหรัฐฯ พบคนป่วยหนัก - เข้าไอซียูพุ่ง ทั้งที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว

ในขณะที่เคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นทั่วสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนว่ากำลังพบเห็นจำนวนคนฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วแต่ยังป่วยหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือต้องเข้าห้องฉุกเฉินเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ความกังวลเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันลดลงในการป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ถูกคาดหมายว่าจะอนุมัติฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค สำหรับบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป

"สิ่งที่เราเริ่มเห็นในตอนนี้ก็คือจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นในบรรดาคนฉีดวัคซีนครบแล้ว แต่ยังไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้น" นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคาร (16 พ.ย.) "มันเป็นสัดส่วนที่มาก แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่แต่อย่างใด"

เมื่อวันพุธ (17 พ.ย.) แพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) รายงานพบประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงในหมู่คนชราและผู้พักอาศัยในสถานดูแลผู้สูงอายุระยะยาว ซึ่งจำนวนมากเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว

"แม้ความเสี่ยงสูงสุดคือคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน แต่เรากำลังพบเห็นคนชราอายุ 65 ปีขึ้นไป ถูกส่งเข้าแผนกฉุกเฉินเพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้กลับมาสูุงกว่ากลุ่มคนอายุต่ำกว่าอีกครั้ง" วาเลนสกีกล่าวระหว่างแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (17 พ.ย.)

อย่างไรก็ตาม วาเลนสกี ชี้ถึงข้อมูลใหม่จากเครือข่ายความปลอดภัยสุขภาพแห่งชาติของทางซีดีซี เกี่ยวกับผู้พักอาศัยในสถานดูแลผู้สูงอายุระยะยาว โดยเปรียบเทียบอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มกับคนที่ฉีดเข็มกระตุ้นแล้ว ซี่งพบว่า "อัตราการติดเชื้อต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัดสำหรับคนที่ฉีดเข็มกระตุ้น แสดงให้เห็นว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นของเรากำลังได้ผล" เธอกล่าว

ทัพเรือมะกัน เดินตามกองทัพอากาศ เตรียมปลดทหาร ดื้อฉีดวัคซีน

กองทัพเรือสหรัฐฯ เตรียมปลดประจำการทหารที่ปฏิเสธฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไม่นานหลังจากกองทัพอากาศเพิ่งแถลงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ว่า จะไล่ออกกำลังพลที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

เมื่อวันพุธ (15 ธ.ค.) กองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุในอัปเดตคำแนะนำ ว่า ทหารเรือรายใดที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับฉีดวัคซีนจะถูกแยกตัวออกมา แต่กำลังพลรายใดที่เคยปฏิเสธฉีดวัคซีนก่อนหน้านี้ แต่เกิดเปลี่ยนใจจะสามารถประจำการในกองทัพได้ต่อไป

"เพื่อรับประกันฉีดวัคซีนเต็มรูปแบบ นโยบายของกองทัพเรือคือ ลำดับแรกเลยกองกำลังพลของกองทัพเรือทุกนายต้องฉีดวัคซีนตามคำสั่ง และกำลังพลรายใดก็ตามที่ปฏิเสธฉีดวัคซีนจะถูกดำเนินการแยกตัวออกมาในโอกาสที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พล.ร.ท.จอห์น บี โนเวลล์ จูเนียร์ หัวหน้าฝ่ายบุคลากรของกองทัพระบุ

จนถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพเรือยังมีกำลังพลที่ไม่ฉีดวัคซีน 5,731 นาย ในนั้น 2,705 นายได้ยื่นขอยกเว้นด้วยเหตุผลทางศาสนา แต่กองทัพยังไม่ได้อนุมัติคำร้องขอทบทวนข้อเรียกร้องขอยกเว้นด้วยเหตุผลทางศาสนาใด ๆ อย่างไรก็ตาม กำลังพลเหล่านี้จะยังไม่ถูกปลดประจำการระหว่างการยื่นคำร้อง

จากข้อมูลล่าสุด พบว่า กำลังพลของกองทัพเรือฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วหรือบางเข็มคิดเป็นสัดส่วนถึง 98% กองทัพเรืออนุมัติคำขอยกเว้นทางการแพทย์ไม่ฉีดวัคซีนแบบถาวรจำนวน 7 นาย ข้อยกเว้นทางการแพทย์แบบชั่วคราว 326 นาย และขอยกเว้นทางกฎหมาย 124 นาย

FC โห่ 'ทรัมป์' หลังเจ้าตัวบอกฉีดเข็ม 3 แล้ว ทั้งที่ก่อนหน้าบอกอันตรายและไม่หนุนฉีด

อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถูกชาวอเมริกันโห่ใส่ระหว่างขึ้นเวทีทอล์กโชว์ในเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัสเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเผยว่าเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 เข็มที่ 3 เรียบร้อยแล้ว

ทันทีที่ทรัมป์ซึ่งเดินสายทอล์กโชว์คู่กับ บิลล์ โอไรลี อดีตพิธีกรชื่อดังของสำนักข่าว Fox News ตอบคำถามของโอไรลีว่าเขาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว กลุ่มผู้สนับสนุนของเขาก็ส่งเสียงโห่จนทรัมป์ต้องยกมือห้ามและบอกว่า “อย่า! อย่า! อย่า! อย่า! กลุ่มเล็กๆ ตรงนั้นอ่ะ”

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่ Covid-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ขยับแซงหน้าสายพันธุ์เดลตาขึ้นเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหรัฐฯ โดยเพียงสัปดาห์เดียวผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนพุ่งจาก 2.9% เป็น 73%

บังกลาเทศ - หยุดชะงัก!! กระบวนการฉีดวัคซีนเนื่องจากการพึ่งพาวัคซีนของจีน

บังกลาเทศเผชิญกับความท้าทายหลายประการในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ สิ่งสำคัญคือการได้รับวัคซีนสำหรับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประเทศประกาศให้ปีนี้เป็นปีแห่งการฉีดวัคซีน เนื่องจากหลายประเทศบริจาควัคซีนโควิด-19 จำนวนมากให้กับบังกลาเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา 

ซึ่งบริจาควัคซีนไฟเซอร์ประมาณ 16.8 ล้านโดสเป็นของขวัญ จีนเสนอวัคซีนให้บังกลาเทศเป็นของขวัญ อย่างไรก็ตามฝ่ายหลังปฏิเสธเนื่องจากการวิพากษ์วิจารณ์หลายครั้งเกี่ยวกับวัคซีนดังกล่าว จึงซื้อวัคซีน Sinopharm และ Sinovac ของจีนจำนวนมากสำหรับกรณีฉุกเฉิน แต่ยังไม่ทราบจำนวนเงินที่จ่าย 

Dr. Lelin Choudhury ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน กล่าวว่า การที่รัฐบาลต้องพึ่งพาวัคซีนจีนเท่านั้น แทนที่จะใช้แหล่งอื่นทำให้เกิดความล่าช้าและหยุดชะงักในกระบวนการฉีดวัคซีน มีรายงานว่ารัฐบาลบังคลาเทศใช้วัคซีนไปมากกว่า 19,000 ล้านรูปี โดยได้ซื้อยาไป 21 สิบล้านโดส และวางแผนที่จะซื้ออีก 8 สิบล้านโดส

Nasima Akter – ผู้เยี่ยมชมสวัสดิการครอบครัว บอกว่า “เราได้รับการฉีดวัคซีนเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน หนึ่งคือซิโนแฟมและอีกอันคือซิโนแวค ฉันให้วัคซีน Sinovac มาระยะหนึ่งแล้ว”

Dr. Shankar Prasad Adhikari - เจ้าหน้าที่ Upazila Health and Family Planning บอกว่า "วัคซีนจีน Sinopharm และSinovac มาถึงในปริมาณมาก Sinovac กำลังทำงานเป็นเข็มแรก อันดับแรก เราเริ่มต้นด้วยวัคซีนของอินเดีย จากนั้นวัคซีนของจีน และวันนี้เราเริ่มวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก”

Jibon Krishno Saha - ผู้ช่วยครู MM Secondary Girls School of Barishal บอกว่า “จำนวนนักเรียนของเราใน MM Secondary Girls School คือหนึ่งพันคน วันนี้เรามีสาว ๆ สองร้อยคนตามกำหนด นี่คือวัคซีน American Pfizer ที่มอบให้กับนักเรียน"

Nisha Islam – นักเรียน ARS Secondary Girls School บอกว่า “เรามาที่นี่เพื่อฉีดวัคซีน American Pfizer จาก ARS Secondary Girls School และเราต้องการตรวจร่างกายที่แข็งแรง นั่นคือเหตุผลที่เรามาที่นี่เพื่อให้ครอบครัวของเราไม่ต้องกังวล”

ศัลยแพทย์พลเรือนแห่ง Barisal บอกว่า “มีการเปิดตัววัคซีนห้าประเภทในบังคลาเทศเพื่อควบคุม Covid 19 และวัคซีนห้าประเภทกำลังทำงานใน Barisal ในหมู่พวกเขามี AstraZeneca, Sinopharm, Pfizer, Moderna และ Sinovac ก็เป็นส่วนเสริมล่าสุด จนถึงตอนนี้ไม่มีปัญหา วัคซีนที่พบมากที่สุดคือซิโนฟาร์ม และเราไม่ได้ซื้อวัคซีนไฟเซอร์ใด ๆวัคซีนไฟเซอร์ทั้งหมดที่เราให้มาจนถึงตอนนี้เป็นของขวัญและเรายังมีสต๊อกอยู่อีกมาก"

ศาสตราจารย์ Syed Abdul Hamid - Institute of Health Economics, University of Dhaka บอกว่า“เราทุกคนรู้บริบทที่นำวัคซีนจีนมาใช้ เมื่อวัคซีนไม่พร้อม สถาบันเซรามประกาศไม่สามารถจ่ายตามข้อตกลงได้ นั่นคือตอนที่เราต้องไปจีน จีนเคยขอให้พวกเขาให้ ทดลองวัคซีนแต่ไม่เห็นด้วย แต่กลับกลายเป็นว่าต้องนำวัคซีนมาจากประเทศจีนเนื่องจากไม่มีจำหน่ายจากประเทศอื่น และเพื่อนำมาในเงื่อนไขต่าง ๆ ราคาบอกไม่ได้ ฯลฯ มี เงื่อนไขต่าง ๆ แต่ที่คิดตอนนี้คือ เนื่องจากรัฐบาลจะนำเข้าวัคซีนจากจีน จะนำเข้าวัคซีนกี่โดส รัฐบาลอาจมีข้อตกลงมาตรฐานกับจีน แต่ต้องสำรวจประเทศผู้ผลิตวัคซีนเพิ่มเติม ถ้า เราได้รับวัคซีนที่ดีขึ้นและมีความฟิต จากนั้นรัฐบาลจะสามารถนึกถึงมันได้”

พิจิตร - ผู้ว่าฯพิจิตร จัดพบสื่อแถลงข่าววันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดแค่ 2 ราย ยืนยัน! พร้อมหาวัคซีนเข็ม 3 ฉีดครูและประชาชน

วันที่ 19 มกราคม 2565 นายไพบูลย์  ณะบุตรจอม  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้จัดกิจกรรมพบสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวที่ห้องประชุมโรงแรมมีพรสวรรค์ ซึ่งจัดขึ้นโดย นางสาวอัชณัฐ  ปราถนารักษ์  ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร รวมถึงมีผู้สื่อข่าว-นักจัดรายการวิทยุ-เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์รวมแล้วกว่า 50 คน  ที่เข้าร่วมรับฟังผู้ว่าฯพิจิตร , ดร.ปัญญา หาแก้ว  ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิจิตร , ดร.มานิตย์  นาคเมือง  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 , นายจันทบูรณ์  เขตการ  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 ที่ร่วมกันแถลงข่าวในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องสำคัญคือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด โดยผู้ว่าฯพิจิตร แจ้งว่า วันนี้พิจิตรพบผู้ป่วยรายใหม่เพียงแค่ 2 ราย และต่อจากนี้ก็จะเร่งเชิญชวนให้ชาวพิจิตรฉีดวัคซีนเข็ม 2 และ เข็ม 3  ให้ได้ครบ 100% โดยมีแผนให้ อสม. และหมออนามัยเดินเคาะประตูบ้านไปฉีดวัคซีนให้ถึงบ้าน นอกจากนี้ก็จะจัดหาวัคซีนให้บุคลากรครูของจังหวัดพิจิตรใน 12 อำเภอ ประมาณ 2 หมื่นคนเศษ ให้ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 รวมทั้งนักเรียนที่อายุเกิน 12 ปี  ด้วยเช่นกัน ส่วนเด็กนักเรียนที่อายุ 5 ปีขึ้นไป เร็วๆนี้ก็จะมีวัคซีนฉีดให้อีกด้วย

โดย  ดร.มานิตย์  นาคเมือง  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต1 แถลงว่ามีโรงเรียนในความดูแล 131 แห่ง ขณะนี้เปิดทำการเรียนการสอนแบบ On Site จำนวน 129 แห่ง หรือ 97 % ส่วนครูฉีดวัคซีนเข็ม 1 ครบ 100% แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยขอรับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3

นายจันทบูรณ์  เขตการ  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 แถลงว่ามีโรงเรียนในความดูแล 122 แห่ง ขณะนี้เปิดทำการเรียนการสอนแบบ  On Site จำนวน 101 แห่ง หรือ 82 % ส่วนครูฉีดวัคซีนเข็ม 1 ครบ 100% แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยขอรับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3 ด้วยเช่นกัน

ดร.ปัญญา หาแก้ว ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิจิตร แถลงว่าระดับมัธยมมีโรงเรียน 30 แห่ง ครู 1,300 คนเศษ เด็กนักเรียนรวม 17,662 คน  ครูฉีดวัคซีนแล้ว 99 % ส่วน 1% ที่ขาดไปคือมีปัญหาด้านสุขภาพจึงไม่ขอรับการฉีดวัคซีนแต่ขอใช้วิธีดูแลตนเองด้วยมาตรการเข้มข้น ส่วนเด็กนักเรียนระดับมัธยมฉีดวัคซีนแล้ว 96% แต่จาก 12 อำเภอยังมีไม่ขอฉีดวัคซีนประมาณ 600 คน เนื่องจาก ผู้ปกครองไม่ยินยอมด้วยเหตุผลส่วนตัวต่าง ๆ แต่ก็มาโรงเรียนต้องถูกตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอ

รวมถึงการจัดการเรียนการสอนห้องหนึ่งก็ให้นั่งเรียนได้ไม่เกิน 25 คน โดยสรุปผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 3 ท่านแถลงว่าเด็กส่วนใหญ่อยากมาโรงเรียน ส่วนเด็กเล็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ไม่น่าห่วงเพราะเด็กเล็กไม่ได้เที่ยวไกลและอยู่ในสายตาของพ่อแม่- ครู –ผู้ปกครอง ที่น่าห่วงคือเด็กระดับมัธยมและอาชีวะเพราะเป็นวัยรุ่นรัศมีการท่องเที่ยวและการพบเพื่อนมากกว่าเด็กเล็ก แต่ก็ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว อีกทั้งสถิติของผู้ติดเชื้อโควิดในพิจิตรส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านหรือผู้ที่เดินทางมาจากเมืองใหญ่แล้วเอาเชื้อโควิดมาแพร่กระจายให้กับคนในครอบครัวเสียมากกว่า ส่วนการแพร่ระบาดภายในโรงเรียนมีสถิติพบน้อยมากจึงไม่น่าห่วง

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top