Friday, 17 May 2024
ล่วงละเมิดทางเพศ

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยการใช้สื่อสังคมออนไลน์ และโปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร อย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ

เนื่องจากยุคสังคมสมัยใหม่ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ระบบเทคโนโลยีที่ไร้ซึ่งพรมแดน ความทันสมัยที่มีคุณประโยชน์ที่นานัปการ แต่ก็แฝงด้วยพิษภัยอันน่ากลัว จากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่อาศัยเทคโนโลยีมาใช้ในทางที่ผิด ล่อลวง หลอกลวง ให้ผู้คนตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดเด็กและสตรี

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยประสบการณ์การเป็นตำรวจที่ดูแลเด็กและสตรีที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยพบว่าปัจจุบันมีอัตราการถูกล่วงละเมิดทางเพศและการกระทำรุนแรงสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการล่วงละเมิดทางเพศ อีกทั้งพบว่าเด็กและสตรีที่ถูกล่วงละเมิด ยังคงขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายและการดูแลตนเอง รวมถึงความวิตกกังวล เมื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร และควรที่จะบอกใคร พ่อ แม่ ญาติหรือคนสนิท ด้วยเหตุผลความอับอาย

ทั้งนี้ พบว่าปัจจุบัน มีคดีประเภทนี้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีการสื่อสารติดต่อกันและกันทาง social media และ application ต่างๆ ทำให้ง่ายต่อการพบปะผู้กระทำด้วยความที่อ่อนด้อยประสบการณ์หรือความอยากรู้อยากเห็นอยากลอง ทำให้เกิดปัญหาการถูกล่วงละเมิดทางเพศได้ง่าย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่อันตราย

เมื่อเกิดปัญหาขึ้น แล้วเราจะต้องทำอย่างไร อันดับแรกเมื่อพบผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศแนะนำให้บอกแจ้งกับบุคคลใกล้ชิดหรือคนสนิทที่ไว้ใจมากที่สุด และให้รีบไปแจ้งความยังสถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด หรือหากกรณีที่ยังไม่ไปแจ้งความ สามารถรีบมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลก่อนและไปแจ้งความทีหลัง เพื่อเก็บหลักฐานวัตถุพยานต่างๆ ตลอดจนร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศในกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ รับยาการป้องกันการติดเชื้อ HIV  โดยเร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV และยาป้องกันการตั้งครรภ์ รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นเร่งด่วน หากล่าช้าจะทำให้กระบวนการรักษาหรือกระบวนการเก็บร่องรอยทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่ครบถ้วน 

‘ก้าวไกล’ ชี้ การล่วงละเมิดทางเพศพุ่ง เพราะทัศนคติเชิงลบต่อเหยื่อ และกลไกที่ไม่เอื้อต่อการเข้าถึงความยุติธรรม

ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ และอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่อกรณีข่าวนักการเมืองคนดังล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหายหลายรายว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นได้ในทุกวิชาชีพ โดยเฉพาะการอาศัยเงื่อนไขของผู้กระทำที่มีอำนาจเหนือกว่า และแม้จะมีข่าวการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอยู่ทุกวัน แต่การข่มขืนกระทำเราหรือการล่วงละเมิดทางเพศกลับเกิดมากขึ้น เพราะสังคมขาดความเข้าใจและยังมีทัศนคติเชิงลบต่อผู้เสียหาย อีกทั้งขาดกลไกรับเรื่องร้องทุกข์จนผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งความ ต้องพึ่งพาภาคประชาสังคมหรือต้องทำให้เรื่องกลายเป็นข่าว จี้รัฐปรับปรุงระบบรับร้องทุกข์ที่เป็นมิตร พร้อมเปลี่ยนทัศนคติของสังคมช่วยกันปกป้องผู้เสียหาย  

โดยก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ มีตัวแทนทั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทรงคุณวุฒิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศมีสาเหตุหลักด้วยกัน 4 ประการ ได้แก่ การที่คนในสังคมยังขาดความตระหนักและขาดการเคารพสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของผู้อื่น การขาดกลไกในการเฝ้าระวังปัญหาโดยเฉพาะในระดับครอบครัว สถานศึกษา และชุมชน การขาดกลไกรับเรื่อง การรับแจ้งความร้องทุกข์ และกระบวนการยุติธรรมที่เป็นมิตรต่อผู้เสียหาย รวมถึงกลไกการแก้ไขพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด และการขาดกลไกการบำบัดฟื้นฟูแก้ไขเยียวยาต่อผู้เสียหายและครอบครัว 

พร้อมทั้งเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งก่อนเกิดเหตุ เมื่อเกิดเหตุแล้ว และหลังเกิดเหตุ ไปยังคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ยกระดับการแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศให้เป็น “วาระแห่งชาติ” แต่จนบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด

“ที่ดูคืบหน้าอยู่บ้างคือร่าง พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง จะเป็น กม.ที่นำมาใช้กับผู้กระทำความผิดที่ก่อเหตุหลายครั้ง และอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการแพทย์หรือการคุมขัง เพื่อเข้าระงับเหตุไม่ให้ไปกระทำความผิด โดยเฉพาะการล่วงละเมิดทางเพศซ้ำอีก ที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของ สว. แต่นั่นเป็นเพียงปลายเหตุ เพราะปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศมีมากกว่านั้น ทั้งกรณีที่ผู้เสียหายไม่ทราบว่าเมื่อเกิดเหตุแล้วควรจะดำเนินการอย่างไร เมื่อไปแจ้งความแล้วกลับโดยปฏิเสธไม่รับแจ้งความหรือให้กลับไปหาพยานหลักฐานเอง ไปจนถึงการกลัวคนรอบข้างและสังคมไม่เชื่อ กล่าวโทษกดดัน กลายเป็นผู้เสียหายเป็นผู้ผิด ทั้งการดำเนินคดีที่ยาวนาน มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก 

ที่แย่ที่สุดคือผู้กระทำที่เป็นผู้มีอิทธิพลหรืออำนาจที่เหนือกว่าผู้เสียหาย ไม่ว่าจะเป็นระหว่างคนในครอบครัว เป็นผู้ใหญ่กับเด็ก นายจ้างกับลูกจ้าง อาจารย์กับลูกศิษย์ การกระทำต่อแรงงานข้ามชาติ หรือกรณีนักการเมืองที่เป็นข่าวในปัจจุบัน จนผู้เสียหายหวาดกลัว ไม่กล้าแจ้งความ และหลายครั้งยอมถูกกระทำต่อเนื่องกันอีกหลายครั้ง หากรายใดกล้าลุกขึ้นมา ก็ต้องขอความช่วยเหลือกับภาคประชาสังคม องค์กรมูลนิธิต่างๆ หรือต้องทำให้เป็นข่าว ซึ่งเราไม่ควรจะให้กระบวนการที่ต้อง ”ไม่ปกติ” ถึงจะได้รับการช่วยเหลือ กลายเป็นเรื่อง “ปกติ” ไป” 

‘โฆษกเพื่อไทย’ สาปส่งพวกล่วงละเมิดทางเพศ ยกพรรคการเมืองควรเป็นแบบอย่างประชาชน ถ้าเป็นนักการเมืองต้องได้รับโทษสูงสุดตามกฏหมาย

16 เมษายน 2565 – น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่มีผู้เสียหายจำนวนมากร้องเรียนพฤติกรรมนักการเมืองรายหนึ่งที่กระทำการล่วงละเมิดทางเพศจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมนั้น เรื่องนี้ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนสอบสวนทุกฝ่ายอย่างละเอียดถี่ถ้วน ให้ความยุติธรรมกับเหยื่อที่ถูกกระทำไม่ว่าจะด้วยทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องรู้สึกหมดหวังกับกระบวนการยุติธรรมไทยเหมือนในหลายกรณีที่ผ่านมา

ขณะที่พรรคการเมืองเองซึ่งเป็นสถาบันทางการเมืองที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก เป็นสถาบันที่มีผลต่อความไว้เนื้อเชื่อใจของพี่น้องประชาชน ซึ่งต้องยึดหลักนิติธรรม 3 ประการคือ หลักความสูงสุดของกฎหมาย หลักความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย รวมทั้งหลักการรับรองและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของพลเมือง หากพรรคการเมืองใดขาดตกบกพร่องในหลักนิติธรรมแม้เพียงข้อเดียว คงยากที่จะเป็นสถาบันทางการเมืองที่จะเป็นที่พึ่งที่หวังให้กับพี่น้องประชาชนได้

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าวมองว่า พรรคการเมืองทุกพรรคต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคอย่างละเอียดรอบคอบ รัดกุม เพราะแม้แต่ในใบสมัครสมาชิกพรรคการเมืองดังกล่าว ได้มีการระบุชัดเจนว่าจะต้องไม่เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งมีข้อบังคับมากมายหลายด้าน ดังนั้นผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญภายในพรรค ก็ควรจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติจากกระบวนการที่เข้มงวดมากขึ้น เพราะหมายถึงอนาคตทางการเมืองของนักการเมืองผู้นั้น รวมถึงพรรคการเมืองนั้นด้วย

'ก้าวไกล' เร่งสอบวินัย ส.ก. ปมคดีทางเพศ ยัน!! ไม่นิ่งนอนใจ เตรียมลงมติสุดสัปดาห์นี้

รองโฆษกพรรคก้าวไกลเปิดเผยว่าคณะกรรมการวินัยพรรคได้ดำเนินการเชิญผู้เกี่ยวข้องบางส่วนมาให้ถ้อยคำแล้ว และจะเร่งเดินหน้าสอบข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัย ยืนยันพรรคไม่นิ่งนอนใจและจะปกป้องผู้เสียหายอย่างถึงที่สุด คาดว่าพรรคจะมีมติเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างเป็นทางการได้ภายในสุดสัปดาห์นี้

สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส. นครปฐม และรองโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าจากกรณี ส.ก. พรรคก้าวไกล ถูกแจ้งความว่าก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเยาวชน เมื่อวันที่ (12 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม พรรคได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก. พรรคก้าวไกล เขตบางซื่อ ก็ได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจแล้วในฐานะพยาน เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้พยายามติดต่อกับผู้เสียหายในช่วงที่เกิดเหตุ

'ศาล' สั่งจำคุก 'ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน' เจ้าพ่อฮอลลีวูด เพิ่มอีก 16 ปี ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ รวมโทษ 39 ปี

(24 ก.พ. 66) สำนักข่าวเอพี ของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ศาลสูงในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา แถลงคำพิพากษาให้จำคุก 16 ปี นายฮาร์วีย์ ไวน์สตีน วัย 70 ปี อดีตผู้ผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการฮอลลีวูด และต้นตอที่ก่อให้เกิดกระแสแฮชแท็ก #MeToo วลีดังที่กลายเป็นการเคลื่อนไหวของสังคมทั่วโลกเมื่อปี 2560 เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมแก่เหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ

นายไวน์สตีนถูกจำคุกเพิ่มอีก 16 ปี ตามความผิดฐานข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศนักแสดงและนางแบบชาวอิตาลี ในช่วงเทศกาลหนัง ก่อนการประกาศรางวัลออสการ์เมื่อปี 2556

‘ลูกขุนสหรัฐฯ’ ตัดสิน ‘ทรัมป์’ โดนอีกคดีก่อนเลือกตั้ง ปมล่วงละเมิดอดีตคอลัมนิสต์หญิง สั่งชดใช้ 5 ล้านดอลลาร์

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 66 สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถูกคณะลูกขุนของศาลรัฐบาลกลางแมนฮัตตัน ตัดสินว่าต้องรับผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศ ‘อี จีน แคโรล’ อดีตคอลัมนิสต์ของนิตยสารแอลในปี 1995 หรือ 1996 และหมิ่นประมาทเธอ โดยตราหน้าว่าเธอเป็นคนโกหก โดยทรัมป์ต้องจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายให้แก่แคโรลรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 168 ล้านบาท

เมื่อปีที่แล้ว แคโรล วัย 79 ปี ได้ยื่นฟ้องทรัมป์โดยอ้างว่า ทรัมป์ข่มขืนเธอในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของห้าง Bergdorf Goodman ในย่านแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ก เมื่อราวปี 1995 หรือ 1996 จากนั้นก็ทำลายชื่อเสียงของเธอโดยการโพสต์ลงบน Truth Social แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของทรัมป์ เมื่อเดือนตุลาคม 2022 โดยบอกว่า ข้อกล่าวหาของเธอเป็นเรื่องหลอกลวงและโกหก หลังแคโรลออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชนในปี 2019

อย่างไรก็ดี คณะลูกขุนทั้ง 9 คน ปฏิเสธข้อกล่าวหาของแคโรลเรื่องเธอถูกทรัมป์ข่มขืน แต่คณะลูกขุนได้ตัดสินว่า แคโรลมีหลักฐานที่มากกว่าฝั่งของทรัมป์ ในข้อหากล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ จึงตัดสินให้ทรัมป์จ่ายเงินชดเชยแก่แคโรลเป็นเงิน 2 ล้านดอลลาร์ ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ และจ่ายเงินเกือบ 3 ล้านดอลลาร์ในข้อหาหมิ่นประมาท

นางโรเบอร์ต้า แคปแลน ทนายความของแคโรล นำพยานเป็นผู้หญิง 2 ราย มาให้การเป็นพยานว่า ทรัมป์เคยล่วงละเมิดทางเพศเธอเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ขณะที่ทรัมป์ไม่เคยปรากฏตัวในการพิจารณาคดีที่กินเวลานาน 2 สัปดาห์เลย และทีมกฎหมายของทรัมป์ไม่ได้เรียกพยานใดๆ

การตัดสินของคณะลูกขุนในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ถูกตัดสินว่า มีความผิดในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ด้านทรัมป์เอง ได้ออกมาวิจารณ์คำตัดสินของคณะลูกขุนผ่านทาง Truth Social ว่า “น่าอัปยศ” พร้อมกับกล่าวอีกว่า เขาไม่รู้จักแคโรลมาก่อน ขณะที่นายโจเซฟ ทาโคปินา ทนายความของทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าทรัมป์จะยื่นอุทธรณ์

ทั้งนี้ คดีความดังกล่าวเป็นคดีแพ่ง ทำให้ทรัมป์รอดจากความผิดทางอาญา และจะไม่ถูกตัดสินโทษจำคุกแต่อย่างใด

แคโรลกล่าวในการพิจารณาคดีว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอรู้สึกอับอาย และไม่สามารถมีความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักกับใคร เพื่อนของแคโรล 2 คน ระบุว่า แคโรลเล่าถึงเรื่องการถูกทรัมป์ข่มขืนแต่ขอให้เพื่อนทั้ง 2 คนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะแคโรลกลัวว่าทรัมป์จะใช้ชื่อเสียง และเงินโจมตีเธอหากออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว

อดีตผู้สมัคร สส.ก้าวไกล โพสต์ทวิตฯ ขอโทษล่วงละเมิดสาว ล่าสุดลบโพสต์ แต่ชาวเน็ตแคปทัน ด้านเหยื่อเล่าเหตุเกิดตอนเมา

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์ เมื่อนายเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล จ.ชัยภูมิ โพสต์ทวิตเตอร์ข้อความขอโทษ ผู้หญิง ที่ตัวเองล่วงละเมิดทางเพศไป โดยระบุว่า ในวันที่ 27 / 06 / 2566 ตนได้ละเลยความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง และได้ละเมิดหลักการเรื่อง consent จนทำลายความเชื่อใจ และหวังดีของเธอ ซึ่งการกระทำนี้ ไม่ควรค่าแก่การให้อภัยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นการกระทำร้ายแรงต่อจิตใจของเธอ

ผมขอสัญญาไว้กับเกียรติอันน้อยนิดที่ยังหลงเหลืออยู่ว่า จะไม่มีการละเมิดหลักการอันเป็นที่ยึดมั่นนี้อีก และจะไม่ทำลายความเชื่อมั่นและความหวังดีของใครอีกต่อไป แม้การกระทำครั้งนี้จะไม่มีการให้อภัยใด ๆ แต่ผมจะตอบแทนผู้คนด้วยการรับใช้ซึ่งอุดมการณ์นี้อย่างสุดหัวจิตหัวใจตลอดไป

โดยเพียงหวังว่าจะเธอจะให้อภัยในการกระทำที่ไม่น่าให้อภัยนี้ และเผชิญหน้าอย่างถูกต้องผมได้แต่เฝ้าหวังและรอการให้อภัยจากเธอและเหตุครั้งนี้จะตอกย้ำทุกการกระทำของผมต่อจากนี้อย่างรอบคอบทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้ ได้เกิดขึ้นอีก

และการกระทำแบบนี้ยังทำลายซึ่งหลักการที่เรายึดมั่นเสมอมา ผมผู้ที่ไม่ควรให้อภัยอย่างยิ่งนั้นยังไม่รู้สำนึกถึงโอกาสที่มอบให้ยังทำลายโอกาสนั้นต่อเรื่อยมา จนทำให้เรื่องนี้เดือดร้อนถึงบุคคลอื่นที่หวังดีและเชื่อมั่นในตัวผม ผมได้เดินทางไปขอโทษเธอจากใจจริง

หลังจากเจ้าตัวโพสต์เรื่องราวดังกล่าว เจ้าตัวทำการลบและปิดทวิตเตอร์หนี ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างพร้อมใจขอความชัดเจน รวมให้ทางพรรคต้นสังกัดชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นมาจาก ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ “พิมxx” ที่วันนี้ได้แชร์โพสต์ของนายเกรียงไกร ที่ได้โพสต์ขอโทษเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพิม ระบุว่า ได้เห็นคำขอโทษที่พิมรอกันบางส่วน และเห็นว่ามีเพื่อน ๆ ที่เคียงข้างพิมอยู่ ทำให้พิมรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณมากค่ะ ถึงแม้ว่าตอนนี้คำขอโทษเหล่านั้นจะเข้าถึงไม่ได้แล้ว อาจเกิดจากเขาต้องการปิดบัญชีไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม พิมอยากเก็บถ้อยคำเหล่านี้ไว้เพื่อเป็นประจักษ์ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง

พิม ยังทวิตข้อความอีกว่า มีความคิดเห็นว่า คำขอโทษนี้ไม่ได้ระบุความผิดที่ทำ และอาจยังไม่เข้าใจว่าผิดอะไร พิมเห็นด้วยค่ะ และพิมคงคาดหวังสิ่งนี้กับคนที่พิมรอคำขอโทษถึง 2 เดือนไม่ได้ รวมถึงมีคำถามว่าจะมีการลงขอโทษอีกครั้งไหม พิมยังไม่สามารถให้คำตอบได้เช่นกัน พิมยังอยู่ในความฉงนใจจากการหายไปของสิ่งที่พิมรอ

ขณะเดียวกันหากย้อนไปเมื่อ 2 วันก่อน พิมได้ทวิตข้อความว่า พิมได้รับการขอโทษ โดยมีพยานจากผู้กระทำเบื้องต้นแล้วเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมนะคะ ขอบคุณความห่วงใยจากทุกท่าน เคยได้ยินสำนวนว่า หมอตายเพราะงู ก็ไม่นึกเลยค่ะ ว่าคนทำเหล้าจะโดนล่วงละเมิดตอนเมาเพราะเหล้า

นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม หลังเกิดเหตุการณ์ถูกล่วงละเมิดทางเพศเกือบ 2 เดือน พิมได้ทวิตข้อความว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กับพิมในเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมานะคะ ขออภัยที่ทำหน้าที่บกพร่องในการเป็นโฆษกxxx เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถสื่อสารเรื่องอื่นได้เต็มที่หากยังไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม พิมได้ให้เวลาและโอกาสกับคู่กรณี และยังเฝ้ารอความรับผิดชอบอยู่ค่ะ

‘อี้ แทนคุณ​’ จี้ ‘กสม. - พม.’ ตรวจสอบคนพรรคก้าวไกล หลังมีเหยื่อแฉ ถูกคนในพรรคล่วงละเมิดทางเพศ

(4 ก.ย. 66) ดร.แทนคุณ​ จิตต์​อิสระ ​รักษา​การ​ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ​พรรค​ประชา​ธ​ิ​ปัตย์​ กล่าว​ถึง​กรณี​นาย​เกรียง​ไกร อดีตผู้สมัคร สส. พรรคก้าวไกล ได้ละเมิดทางเพศโฆษกหญิงของพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งเป​็นเรื่องน่าเศร้าใจที่พรรคนี้กระทำผิดซ้ำ ๆ และไม่มีความจริงใจ​ในการออกมาขอโทษ รวมทั้งไม่มีความรับผิดชอบ​ใด ๆ ต่อการกระทำที่เกิดขึ้น​ โดยเฉพาะ​ความรับผิดชอบ​ต่อสังคมของพรรคก้าวไกล

จึงขอเรียกร้องให้นายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะเลขาธิการพรรคก้าวไกลที่อ้างมาตลอดว่าจะตรวจสอบ​การกระทำผิดของคนในพรรค นับตั้งแต่​คดี สส. ทำร้ายแฟนสาว การใช้เด็กเป็น​เครื่องมือ​ การสนับสนุน​การเคลื่อนไหว​ของกลุ่มทะลุวัง โดยเฉพาะ​ความเสียหายต่อเด็กและเยาวชน​ที่เกิดขึ้น ยังไม่นับรวมกรณี ‘หมออ๋อง’ ที่กระทำผิดกฎหมาย​จนโดนปรับเป็นเงิน 50,000 บาท แต่ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในตำแหน่ง​ต่อไปอย่างไม่ละอายใจใด ๆ และล่าสุดกรณีการละเมิด​ทางเพศ​ต่อโฆษกหญิงของพรรคการเมืองหนึ่ง

หากนายชัยธวัช​จริงใจจริงควรเชิญคณะกรรมการ​สิทธิมนุษยชน​แห่งชาติ (กสม.) และ พม. ได้เข้ามามีส่วนร่วม​ในการตรวจสอบการ​ละเมิดทางเพศ ละเมิดสิทธิเด็ก การทำร้ายร่างกายผู้หญิง​ของคนของก้าวไกล เนื่องจาก​ที่ผ่านมาไม่ได้​มีผลการสอบวินัยใดออกมาเลยทุกเรื่​องล้วนเงียบหมด เพื่อให้การช่วยเหลื​อเหยื่อที่ถูกคนของพรรคตัวเองทำร้ายซ้ำ ๆ จนมีข่าวอื้อฉาวไม่เว้นแต่ละอาทิตย์​ ทั้งผิดกฎหมายอาญาหลายครั้ง ไม่ต้องพูดถึง​จริยธรรม​ที่พรรคนี้มีการกระทำผิดเป็น​ปกติ โดยสังคมไทยควรตื่นตัวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป เพราะ ‘การละเมิด​ทางเพศ​ไม่ใช่​เรื่อง​ส่วนตัวแต่​เป็น​ปัญหาสังคม’ ที่เกิดจากอำนาจนิยมที่พรรคก้าวไกลผลิตซ้ำจาก สส. ผู้สมัคร สส. จนสังคมเชื่อว่ากลายเป็น​อัตลักษณ์​ของคนของก้าวไกลไปแล้ว

โดยตนอยากฝากไปถึง กสม. และกระทรวง​การพัฒนา​สังคม​และ​ความมั่นคง​ของ​มนุษย์​ (พม.) ให้แสดงออกถึงหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา​เด็กและเยาวชน ผู้หญิงที่ถูกละเมิดทางเพศ และถูกปลูกฝังความก้าวร้าวรุนแรง เหมือน​หลาย ๆ ประเทศ​ที่เริ่มตระหนักถึงพิษภัยเนื้อหาในโซเชียล​มีเดียที่มีทั้งการปลุกเร้ากามารมณ์​ ความรุนแรง การหลอกลวง การบูลลี่ และอบายมุขและสิ่งเสพติด​อีกมากมาย จนต้องทบทวนกระบวนการ​ป้องกันมิให้เนื้อหาไม่ดีดังกล่าว​เข้าถึงเด็กเยาวชน​ได้ง่าย เพื่อที่เยาวชน​ไม่ต้องตกเป็น​เหยื่อ​ของพรรคบางพรรคและเพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญา​ว่าด้วย​สิทธิ​เด็ก​ที่ไทยเคยลงนามไว้ ‘รัฐต้องป้องกันการแสวงหาประโยชน์​ทางการเมืองต่อเด็กและเยาวชน​ทุกรูปแบบ’ ไทยควรตระหนัก​เรื่องนี้เหมือน​ในหลายประเทศที่ยกระดับการเฝ้าระวังและให้ความรู้​แก่ผู้ปกครอง​อย่างจริงจังเพื่อป้องกัน​การใช้ประโยชน์​ทางการเมือง​ต่อไป

ไขข้อข้องใจ!! หลากวิธีที่อาจส่อคุกคามทางเพศ แม้ 'ชมหยอก' แต่อีกฝ่าย 'หวาดกลัว-อับอาย' เท่ากับเสี่ยง

อุปนิสัย ใจคอของคนไทยเรา เป็นคนใจดี ร่าเริง สนุกสนาน ยิ้มง่าย การพูดจาหยอกล้อ ระหว่างคนในครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน เพื่อเรียกเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม พฤติกรรมเช่นนี้จึงเป็นเรื่องที่อยู่กับสังคมไทยมาช้านาน 

แต่ในบางครั้ง เมื่อผู้พูดมีเจตนาไปในทางไม่เหมาะสม เช่นการพูดเรื่องสองแง่ สองง่าม พูดตลกเรื่องเพศ คู่สนทนาอาจไม่ได้มีความรู้สึกคล้อยตามคำพูดต่าง ๆ ของผู้พูด และทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ หรือเกิดความกลัว สิ่งเหล่านี้จะถือเป็นการคุกคามทางเพศต่อผู้ฟังหรือไม่ และมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

ตามประมวลกฎหมายอาญา กำหนดความผิดเกี่ยวกับความผิดทางเพศไว้ 4 ประเภทได้แก่ 

1.ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา  
2.ความผิดฐานกระทำอนาจาร 
3.ความผิดฐานค้าบุคคลเพื่อความใคร่ 
4. ความผิดฐานค้าสิ่งลามกอนาจาร 

ความผิดเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ ไม่ได้มีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะ แต่มีบททั่วไป วางเกณฑ์กว้าง ๆ ไว้ว่า ถ้ากระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามหรือ กระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ จะเป็นความผิดและมีโทษ 

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำในที่สาธารณสถาน หรือต่อหน้าธารกำนัลหรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ ก็จะได้รับโทษหนักขึ้น 

และหากอาศัยเหตุที่ผู้กระทำมีอำนาจเหนือผู้ถูกกระทำอันเนื่องจากความสัมพันธ์ในฐานะผู้บังคับบัญชาชา นายจ้าง หรือผู้มีอำนาจที่เหนือ ประการอื่น ก็จะต้องรับโทษหนักขึ้นไปอีก

การคุกคามทางเพศมีหลายวิธีการ เช่น การคุกคามทางเพศทางวาจาเช่น “ห้องพี่ว่างนะ” “มีค่าเทอมรึยัง”   การคุกคามทางเพศโดยการสัมผัสร่างกาย เช่น การตั้งใจยืนเบียดบนรถโดยสาร การคุกคามทางเพศโดยกิริยาท่าทาง เช่น การแสดงท่าทางที่ไม่เหมาะสม ผิวปากแซว หรือการคุกคามทางเพศทางออนไลน์ เช่นการส่งรูปเปลือยหรือรูปที่ไม่เหมาะสม ให้ผู้อื่น

ดังนั้น ตามที่ปรากฏข่าวว่ามีท่าน สส.ผู้ทรงเกียรติ ส่งข้อความชวนคุยเรื่องเพศ ถึงทีมงานหาเสียงในสังกัดของท่าน ที่เป็นสุภาพสตรี ไม่ว่าจะเกิดจากการ ‘ชมหยอก’ หรือเจตนาอื่น ซึ่งทำให้สุภาพสตรีท่านนั้น รู้สึกหวาดกลัว อับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ คนส่งอาจจะสนุกฝ่ายเดียว แต่ผู้รับคงไม่รู้สึกสนุกด้วย  และอาจมีความผิดตามกฎหมาย 

‘เพชร’ แจง เคสทำร้ายร่างกายภรรยา เป็นแค่สมาชิกร่วมลงพื้นที่ ยัน!! ไม่นิ่งนอนใจ หากพบทำผิดจริง พร้อมขับออกจากพรรค

(19 ต.ค. 66) ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคก้าวไกลทำร้ายร่างกายภรรยา ว่ายืนยันพรรคจะไม่อดทนกับการใช้กำลังในการตัดสินปัญหาและแก้ปัญหา รวมถึงชายทำร้ายหญิง หญิงทำร้ายชาย เราไม่สามารถยอมรับได้ แต่ขอเรียนว่าจากการสอบถามและค้นประวัติพบว่าเป็นเพียงสมาชิกพรรคที่สมัครเข้ามาเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา และตรวจสอบจากคณะทำงานของพรรคที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการบริหารพรรคไม่มีชื่อบุคคลดังกล่าว เราจึงมั่นใจได้ว่าบุคคลนี้ไม่ได้เป็นคณะทำงานแต่เป็นสมาชิกพรรคที่ร่วมลงพื้นที่กับคณะทำงานของพรรคเท่านั้น 

เมื่อถามถึงมาตรการในการดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว นายกรุณพล กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหรือ สส. ถ้าอยู่ในสังกัดพรรคก้าวไกล เราจะสอบสวนตามระเบียบกฎกติกาของสมาชิกพรรคอยู่แล้ว และถ้าผิดคงต้องขับออกจากพรรค ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนก็โดยขับออก แม้กรณีดังกล่าวจะมีคดีความแล้วก็ตาม แต่พรรคยืนยันเสมอไม่ว่าคดีทำร้ายร่างกายหรือ คดีมาตรา 112 ที่พยายามเรียกร้องว่าก่อนศาลตัดสินว่าผู้ใดกระทำผิด เราต้องเชื่อว่าบุคคลนั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เช่นเดียวกับคดีดังกล่าวไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่าเหตุใดจึงเกิดการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น และผู้ที่ทำร้ายร่างกายคือบุคคลนี้จริงหรือไม่ ถ้าใช่ ไม่ต้องกังวล พรรคขับออกแน่นอน 

เมื่อถามอีกว่าภายหลังจากนี้จะมีวิธีคัดกรองบุคคลเข้าเป็นทีมอย่างไร นายกรุณพล กล่าวว่า พรรคคัดกรองระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพราะคนที่เข้าไปเป็นทีมงานต้องรู้จักกับผู้สมัคร สส. และคณะทำงานจังหวัดอยู่แล้ว รวมถึงต้องดูประวัติย้อนหลังว่ามีอะไรที่น่ากังวลหรือไม่ แต่ตนเข้าใจว่าการคัดกรองคนดี ไม่ดี เราดูจากประวัติอาชญากรรมหรือพฤติกรรม แต่นิสัยส่วนตัวไม่ว่าจะติดยาเสพติด อารมณ์รุนแรง ชอบใช้กำลัง เราไม่สามารถดูได้หากไม่มีประวัติหรือการกระทำนั้นมาก่อน 

ต่อข้อถามว่าตอนนี้พรรคก้าวไกลมีแต่เรื่องการใช้ความรุนแรงทางเพศ นายกรุณพล กล่าวว่า ด้วยความที่พรรคมีสมาชิกพรรคและ สส. มากที่สุดในประเทศ รวมถึงเครือข่ายที่กำลังขยายในทุกระดับ จึงทำให้คนที่สนใจพรรคมีมากขึ้น อีกทั้งพรรคให้เสรีภาพกับประชาชนในการใช้โลโก้ผลิตสินค้าต่าง ๆ เช่น เสื้อ ของที่ระลึก เพื่อจำหน่าย จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ซึ่งพรรคพยายามตรวจสอบและตอบข้อสงสัยของประชาชนให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top