‘อี้ แทนคุณ​’ จี้ ‘กสม. - พม.’ ตรวจสอบคนพรรคก้าวไกล หลังมีเหยื่อแฉ ถูกคนในพรรคล่วงละเมิดทางเพศ

(4 ก.ย. 66) ดร.แทนคุณ​ จิตต์​อิสระ ​รักษา​การ​ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ​พรรค​ประชา​ธ​ิ​ปัตย์​ กล่าว​ถึง​กรณี​นาย​เกรียง​ไกร อดีตผู้สมัคร สส. พรรคก้าวไกล ได้ละเมิดทางเพศโฆษกหญิงของพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งเป​็นเรื่องน่าเศร้าใจที่พรรคนี้กระทำผิดซ้ำ ๆ และไม่มีความจริงใจ​ในการออกมาขอโทษ รวมทั้งไม่มีความรับผิดชอบ​ใด ๆ ต่อการกระทำที่เกิดขึ้น​ โดยเฉพาะ​ความรับผิดชอบ​ต่อสังคมของพรรคก้าวไกล

จึงขอเรียกร้องให้นายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะเลขาธิการพรรคก้าวไกลที่อ้างมาตลอดว่าจะตรวจสอบ​การกระทำผิดของคนในพรรค นับตั้งแต่​คดี สส. ทำร้ายแฟนสาว การใช้เด็กเป็น​เครื่องมือ​ การสนับสนุน​การเคลื่อนไหว​ของกลุ่มทะลุวัง โดยเฉพาะ​ความเสียหายต่อเด็กและเยาวชน​ที่เกิดขึ้น ยังไม่นับรวมกรณี ‘หมออ๋อง’ ที่กระทำผิดกฎหมาย​จนโดนปรับเป็นเงิน 50,000 บาท แต่ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในตำแหน่ง​ต่อไปอย่างไม่ละอายใจใด ๆ และล่าสุดกรณีการละเมิด​ทางเพศ​ต่อโฆษกหญิงของพรรคการเมืองหนึ่ง

หากนายชัยธวัช​จริงใจจริงควรเชิญคณะกรรมการ​สิทธิมนุษยชน​แห่งชาติ (กสม.) และ พม. ได้เข้ามามีส่วนร่วม​ในการตรวจสอบการ​ละเมิดทางเพศ ละเมิดสิทธิเด็ก การทำร้ายร่างกายผู้หญิง​ของคนของก้าวไกล เนื่องจาก​ที่ผ่านมาไม่ได้​มีผลการสอบวินัยใดออกมาเลยทุกเรื่​องล้วนเงียบหมด เพื่อให้การช่วยเหลื​อเหยื่อที่ถูกคนของพรรคตัวเองทำร้ายซ้ำ ๆ จนมีข่าวอื้อฉาวไม่เว้นแต่ละอาทิตย์​ ทั้งผิดกฎหมายอาญาหลายครั้ง ไม่ต้องพูดถึง​จริยธรรม​ที่พรรคนี้มีการกระทำผิดเป็น​ปกติ โดยสังคมไทยควรตื่นตัวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป เพราะ ‘การละเมิด​ทางเพศ​ไม่ใช่​เรื่อง​ส่วนตัวแต่​เป็น​ปัญหาสังคม’ ที่เกิดจากอำนาจนิยมที่พรรคก้าวไกลผลิตซ้ำจาก สส. ผู้สมัคร สส. จนสังคมเชื่อว่ากลายเป็น​อัตลักษณ์​ของคนของก้าวไกลไปแล้ว

โดยตนอยากฝากไปถึง กสม. และกระทรวง​การพัฒนา​สังคม​และ​ความมั่นคง​ของ​มนุษย์​ (พม.) ให้แสดงออกถึงหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา​เด็กและเยาวชน ผู้หญิงที่ถูกละเมิดทางเพศ และถูกปลูกฝังความก้าวร้าวรุนแรง เหมือน​หลาย ๆ ประเทศ​ที่เริ่มตระหนักถึงพิษภัยเนื้อหาในโซเชียล​มีเดียที่มีทั้งการปลุกเร้ากามารมณ์​ ความรุนแรง การหลอกลวง การบูลลี่ และอบายมุขและสิ่งเสพติด​อีกมากมาย จนต้องทบทวนกระบวนการ​ป้องกันมิให้เนื้อหาไม่ดีดังกล่าว​เข้าถึงเด็กเยาวชน​ได้ง่าย เพื่อที่เยาวชน​ไม่ต้องตกเป็น​เหยื่อ​ของพรรคบางพรรคและเพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญา​ว่าด้วย​สิทธิ​เด็ก​ที่ไทยเคยลงนามไว้ ‘รัฐต้องป้องกันการแสวงหาประโยชน์​ทางการเมืองต่อเด็กและเยาวชน​ทุกรูปแบบ’ ไทยควรตระหนัก​เรื่องนี้เหมือน​ในหลายประเทศที่ยกระดับการเฝ้าระวังและให้ความรู้​แก่ผู้ปกครอง​อย่างจริงจังเพื่อป้องกัน​การใช้ประโยชน์​ทางการเมือง​ต่อไป