Tuesday, 30 April 2024
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จันทบุรี - “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า” โปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วม กับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย

วันนี้ 18 ตุลาคม 2564 ที่หอเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสิน อ.เมือง จ.จันทบุรี นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี และคณะเดินทาง ประชุม พร้อมติดตามสถานะการณ์ความคืบหน้าในการแก้ไขสถานะการณ์อุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดยมี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับพร้อมรายงานสถานะการณ์อุทกภัย จากเหตุการณ์ภัยพิบัติ พายุโซนร้อน ไลออนร๊อก และพายุโซนร้อน คมปาซุ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 48 ตำบล 279 หมู่บ้าน 37 ชุมชน รวม 11,079ครัวเรือนบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 1,692 หลังคาเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 9452.50 ไร่สิ่งสาธารณประโยชน์เช่น ถนนคอสะพาน และสถานที่ราชการได้รับความเสียหาย

เพชรบูรณ์ - จัดพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่แก่ข้าราชการ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ที่ห้องรับรองชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายกฤษณ์ คงเมือง เป็นประธานในพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่ ให้แก่ข้าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ เข้าร่วมพิธี 

ทั้งนี้ สำนักพระราชวัง ได้จัดพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่ ให้กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยให้กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการมอบปฏิทินหลวงฯ ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 1 เล่ม และข้าราชการในจังหวัด ตามที่จังหวัดพิจารณาเห็นว่าเหมาะสม จำนวน 2 เล่ม โดยครั้งนี้จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดพิธีมอบปฏิทินหลวงให้แก่ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และนายสมศักดิ์ คณาคำ ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์

22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงผนวช ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงผนวช ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเสด็จฯ ไปประทับ ณ พระตำหนักปั้นหย่า วัดบวรนิเวศวรวิหาร

ก่อนที่จะถึงวันพระราชพิธีทรงผนวช ในวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชทานกระแสพระราชดำรัสในการที่จะทรงผนวชแก่พระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี คณะทูต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้าราช ซึ่งเข้าเฝ้าฯ ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย แจ้งข้อพระราชดำริที่จะบรรพชาอุปสมบท และขอให้ทุกฝ่ายสมัครสมานกันรักษาประเทศ ทรงขอบใจรัฐบาลที่รับภาระเตรียมการบรรพชาอุปสมบท

ครั้นเสร็จพระราชพิธีภายใน พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัยแล้ว จึงเสด็จฯ มายังพระที่นั่งสุทไธสวรรค์พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จออกสีหบัญชร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสว่า

“ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ท่านทั้งปวงได้มาประชุมกัน ณ ที่นี้ ขอถือโอกาสแจ้งดำริ ที่จะบรรพชาอุปสมบทให้อาณาประชาราษฎรทราบทั่วกัน

อันพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจําชาติของเรา ตามความอบรมที่ได้รับมาก็ดี ตามศรัทธาเชื่อถือส่วนตัวของข้าพเจ้าก็ดี เห็นเป็นศาสนาที่ดีศาสนาหนึ่ง มีคําสั่งสอนให้คนประพฤติตนเป็นคนดี ทั้งเพรียบพร้อมด้วยบรรดาสัจธรรมอันชอบด้วยเหตุผลน่าเสื่อมใสยิ่งนัก  ข้าพเจ้าเคยคิดอยู่ว่า ถ้าโอกาสอำนวยก็น่ารักได้อุปสมบทในพระศาสนาตาม ประเพณีสักเวลาหนึ่ง ซึ่งมักเป็นทางสนองพระเดชพระคุณพระราชบุพการีตามคตินิยมอีกโสดหนึ่งด้วย 

และนับตั้งแต่ข้าพเจ้าได้ขึ้นครองราชสมบัติสืบสันตติวงศ์มาเป็นเวลาช้านานพอสมควรแล้ว น่าจะเป็นโอกาสที่จะทําตามความตั้งใจไว้นั้นได้แล้วประการหนึ่ง อนึ่ง การที่สมเด็จพระสังฆราชซึ่งทรงมีพระคุณูปการในส่วนตัวข้าพเจ้าได้หายประชวรในครั้งหลังนี้ ก่อให้เกิดความปิติยินดีแก่ข้าพเจ้าเป็นอันมาก มาคํานึงเห็นว่า ถ้าในการที่ข้าพเจ้าจะอุปสมบทนี้ ได้พระองค์ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ด้วยแล้ว ก็จะเป็นการแสดงออกซึ่งความศรัทธา เคารพ ของข้าพเจ้าที่มีอยู่ในพระองค์ท่านได้อย่างเหมาะสมด้วยอีกประการหนึ่ง อาศัยเหตุเหล่านี้จึงได้ตกลงใจจะอุปสมบทในวันที่ 22 เดือนนี้

ในหลวง พระราชินี ทรงห่วงใยผู้สูญเสียจากโศกนาฏกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู โปรดเกล้าฯให้แพร่วีดิทัศน์ให้กำลังใจ พร้อมชวนทุกคนร่วมต่อต้านยาเสพติด เพื่อไม่ให้ทุกชีวิตต้องสูญเปล่า

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ หน่วยราชการในพระองค์ ได้เผยแพร่วีดิทัศน์ ‘กำลังใจ ห่วงใย อย่าให้ทุกชีวิตต้องสูญเปล่า จากในหลวง ร่วมกันต่อต้านยาเสพติด ชุดที่ 3  เพื่อเป็นการแสดงความอาลัย ต่อการจากไปของเด็ก ๆ และผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมกราดยิง ที่หนองบัวลำภู  

วีดิทัศน์ชุดนี้ เกิดขึ้นด้วยน้ำพระราชหฤทัยจากในหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้หน่วยราชการในพระองค์เผยแพร่วีดิทัศน์ ด้วยความรัก ความห่วงใย จากล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้ง 2 พระองค์

โดยมีภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และวีดิทัศน์ ในหลวง - พระราชินี ขณะทรางเยี่ยมและพระราชทานกำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย ที่จ.หนองบัวลำภู

'ท่านใหม่' แจงชัด!! ในหลวงโปรดกระหม่อมให้งดพระราชพิธีฉัตรมงคล เพราะต้องไปร่วมงานราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษพระองค์ใหม่

(28 เม.ย.66) หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือ 'ท่านใหม่' ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

รับรู้ไว้ แล้วก็อย่าดราม่ากันให้มาก 

สาเหตุที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้งดพระราชพิธีฉัตรมงคล ในวันที่ 2-4 พุทธศักราช 2566 นั้น เพราะจะต้องเสด็จพระราชดำเนินไปร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษพระองค์ใหม่ สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งจะมีขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในวันเสาร์ที่ 6 พ.ค.2566

ม.จ. จุลเจิม ยุคล


ที่มา: https://www.facebook.com/744788370/posts/pfbid0a3EUSvnZWaX5nPnmd6xnCNuzCqJmzLmxysAjLugiopV7tvepE4m8U1WpzWTHV2VLl/?mibextid=Nif5oz

ก.แรงงาน จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2566

วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ ถวายพระพรชัยมงคล และถวายสัตย์ปฏิญาณในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2566 โดยมี ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

‘พรเพชร’ เชื่อ ไม่เลื่อนวันโหวตประธานสภาฯ 4 ก.ค. คาดใช้เวลาไม่นาน ชี้ลงมติเลือกนายกฯ เสียง ส.ว. ไม่เป็นทิศทางเดียวกัน

วันที่ 26 มิ.ย. 2566 – ที่วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา วันที่ 3 ก.ค. ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา เวลา 17.00 น. โดยมี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ส.ส. และ ส.ว. สำหรับความพร้อมตนได้ลงพื้นที่ตรวจดูความเรียบร้อยแล้ว จะเป็นห่วงแค่แม้จะเป็นห้องโถงใหญ่ แต่เนื่องจากจะมีผู้เข้ามาร่วมจำนวนมาก เกรงว่าที่จะคับแคบ แต่คิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย และกำชับส่วนต่างๆ ให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

ส่วนการรายงานตัว ส.ส. ทราบใกล้จะครบแล้ว และจะประสานไปยังเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพราะในวันที่ 4 ก.ค. จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เวลา 09.00 – 09.30 น. สำหรับการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตประธานสภาฯ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยจะเป็นการประชุมลับและลงมติลับ ส่วนวิธีการโหวตทำได้ 2 แบบ โดยแบบแรก คือการกดปุ่มแสดงตน แต่วิธีนี้สามารถค้นหาย้อนหลังได้ว่าใครเลือกใคร ส่วนวิธีที่ 2 เป็นการหย่อนบัตร ซึ่งวิธีนี้จะใช้เวลานานหน่อย แต่ต้องดูว่าเขาจะใช้วิธีไหน

เมื่อถามว่า วันโหวตเลือกประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี จะมีการเลื่อนวันอีกหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่ดุลพินิจของตน ตนไม่มีดุลพินิจที่จะไปสั่งการอะไรทั้งสิ้น ถ้าสภาฯ พร้อมเมื่อไหร่ก็จะมีการแจ้งมา และก็จะดำเนินการ ทั้งนี้ การโหวตเลือกประธานสภาฯ ยังเป็นวันที่ 4 ก.ค. ยกเว้นหัวหน้าพรรคต่างๆ ไปตกลงกันใหม่ร่วมกัน อาจจะเปลี่ยนก็ได้ แต่ขณะนี้เชื่อว่าจะไม่เปลี่ยน และวันนั้นจะมีการโหวตเลือกรองประธานสภาฯ 2 คนด้วย

ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า คุณสมบัติของประธานสภาฯ ตนไม่สามารถให้ความคิดเห็นได้ว่า เป็นคนอายุน้อยหรือเป็นคนอายุมากที่มีประสบการณ์ เพราะการเลือกประธานสภาแต่ละครั้งมีเหตุผลต่างกัน แต่หลักที่ปฏิบัติกันมาตามปกติประธานสภาฯ จะเป็นของพรรคที่มีเสียงข้างมาก แต่บางครั้งก็ไม่เป็น แต่มันก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งเขาก็ต้องอธิบายได้

เมื่อถามว่า ทิศทางการโหวตนายกฯ ของ ส.ว. เสียงจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า พูดได้เลยว่าไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันหรอก ตนไม่ทราบว่าใครคิดยังไง เขามีความคิดของเขา แต่ละคนมีเหตุผลและวุฒิภาวะ เลือกที่จะตอบได้ว่าทำไมถึงเลือกและทำไมถึงไม่เลือกในการออกเสียง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้มาพูดคุยด้วยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่ได้มาพูดคุย เพราะท่านทราบดีว่าตนต้องทำหน้าที่เป็นกลาง ซึ่งไม่มีพรรคไหนมาคุยกับตน เพราะพวกเขาทราบว่าตนต้องทำหน้าที่อย่างไร

ส่วนวันโหวตนายกฯจะเรียบร้อยหรือไม่นั้น นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไรไม่เรียบร้อย แต่อาจจะมีความวุ่นวายในช่วงการอภิปราย ก็คิดว่าทุกท่านก็คงเข้าใจว่าต้องใช้สิทธิ์อยู่ในกรอบในการอภิปรายหรือการชี้แจงตามขอบเขต ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรวุ่นวาย

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ทาง ส.ว. จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ นายพรเพชร กล่าวว่า ไปทำอย่างนั้นไม่ได้ แต่ตนคิดเอาเองอาจจะมีการซักถาม หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยอะไร แต่ก็เป็นหน้าที่ของประธานสภาฯที่จะดูแลเรื่องความเรียบร้อย
สำหรับคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นนายกฯ นั้น นายพรเพชร กล่าวว่า เลือกคนดีคนเก่ง นี่เป็นหลักอย่างหนึ่ง ดีและเก่งสามารถนำพาประเทศชาติ ให้มีความมั่นคงในระบอบประชาธิปไตย ตนย้ำมาโดยตลอดขอให้ ส.ว. ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถ และที่สำคัญต้องคำนึงถึงประเทศชาติ

เมื่อถามว่า สังคมกดดันให้เลือกนายกฯ จากฝั่งรัฐบาลเสียงข้างมาก นายพรเพชร ถามกลับว่า สังคมหมายถึงใคร ผู้สื่อข่าวบอกว่า พรรคที่มีประชาชนเลือกมาเป็นอันดับ 1 นายพรเพชร กล่าวว่า ก็คงเป็นธรรมดาที่ประชาชนอยากให้พรรคที่เลือกได้สมประสงค์ แต่ก็ขอให้อยู่ในขอบเขต

รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566

(24 ก.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในนามรัฐบาลดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ดังนี้ 

1.  การจัดพิธีทางศาสนา
1.1 จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เวลา 07.00 น. ในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 172 รูป มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีพร้อมภริยา ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม 

1.2 จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาให้วัดทุกวัดในประเทศไทยจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล ในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 สำหรับวัดไทยในต่างประเทศให้พิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

2. จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 เวลา 07.45 น. โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนจะได้เชิญชวนหน่วยงานของรัฐจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงาน กำหนดระหว่างวันที่ 20-28 กรกฎาคม 2566 รวมทั้งเชิญชวนลงนามถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ทางเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ที่ www.ocsc.go.th กำหนดระหว่างวันที่ 1 - 31 กรกฎาคม 2566

3.  จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 เวลา 18.00 น. และเวลา 19.19 น. ตามลำดับ โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีพร้อมภริยา ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

4.จัดพิธีเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่มจากท้องสนามหลวงไปทูลเกล้าฯ ถวาย ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ในวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2566 เวลา 08.00 น. โดยกระทรวงกลาโหมเป็นหัวหน้าคณะเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่มไปทูลเกล้าฯ ถวาย และขอพระราชทานผู้แทนออกรับเครื่องราชสักการะและพานพุ่ม

5. จัดทำสาร สารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติฯ ในนามคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ เพื่อเผยแพร่ในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา

6. จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลเฉลิมพระเกียรติฯ ในเดือนกรกฎาคม 2566 ตามความเหมาะสม โดยประสานงานกับศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และสำนักงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักนายกรัฐมนตรี 

ในการนี้ นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแสดงความจงรักภักดี และร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ โดยจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ จัดตกแต่งสถานที่ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติไทยคู่กับธงอักษร พระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และประดับผ้าระบายสีเหลืองร่วมกับผ้าระบายสีขาว ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน จัดทำคำถวายพระพรชัยมงคลเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของหน่วยงาน และจัดลงนามถวายพระพรชัยมงคลภายในหน่วยงานหรือทางเว็บไซต์ ดำเนินการตลอดเดือนกรกฎาคม 2566 

‘มท.1’ มอบนโยบาย ‘พ่อเมืองทั่วไทย’  จัดงานพิธีมหามงคลในหลวง ร.10

(5 ก.พ.67) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ หลักสี่ กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า เนื่องจากปีนี้ถือเป็นปีมหามงคลครบ 6 รอบ พระชนมายุ 72 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กระทรวงมหาดไทย จึงต้องทำหน้าที่ให้พี่น้องประชาชนทุกคนตื่นตัวและแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ การเรียกผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศทุกคนมาในวันนี้ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าต้องเตรียมการว่ากิจกรรมต่างๆ เพื่อเทิดพระเกียรติ ถวายพระเกียรติ และทำกิจกรรมที่เป็นสาธารณกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพราะเรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุดเป็นภารกิจที่จะต้องทำความเข้าใจกันให้ตรงกัน เพื่อดำเนินการให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันก็จะติดตามการดำเนินนโยบายที่ตน และรมช.มหาดไทย ที่ได้มอบนโยบายไว้กับทางผู้บริหารกระทรวงฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดว่านโยบายทั้ง 11 ข้อที่ให้ไปมีความคืบหน้าอย่างไร บรรลุผลสัมฤทธิ์หรือไม่ และต้องการการสนับสนุนจากฝ่ายบริหารอย่างไรบ้าง โดยจะพบกันระหว่างผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการประจำ และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น พร้อมหารือถึงปัญหา และการสนับสนุนต่างๆ ที่ทางกระทรวงฯ จะทำได้

ส่วนความคืบหน้าการติดตามนโยบายเรื่องฝุ่น PM 2.5 นั้น ความเสี่ยงของฝุ่น PM 2.5 กระทรวงมหาดไทยได้เพิ่มเป็น 11 นโยบาย คือ นโยบายอากาศสะอาด นำความคิดเห็นจากผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ที่ประสบเหตุ ว่ามีมาตรการควบคุมป้องกันและช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบเรื่องฝุ่นอย่างไรบ้าง 

‘ท่านอ้น’ โพสต์ภาพกินมื้อเช้า พร้อมเมนูเด็ด ‘ไข่มดแดง’ เผยได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะ เป็นคนที่เติบโตในต่างแดน

(9 มี.ค.67) หลังจากที่ 'ท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์' โอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เดินทางมายังประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา

ท่านอ้น ได้เดินทางพักผ่อนในหลายๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นสยามในรอบ 10 ปี เป็นต้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ท่านอ้น โพสต์ภาพและข้อความลงใน “Vacharaesorn Vivacharawongse” ระบุว่า

กลับบ้านมาคราวนี้ได้ลองชิมอาหารที่แปลกใหม่สำหรับคนที่โตเมืองนอกเหมือนผม ครั้งแรกในชีวิต (42 ปี) ที่ได้ลองชิมไข่มดแดง 🐜 ใช้ได้เลยเชียว #หนุ่มอีสาน

Red ant’s eggs in my omelette for breakfast


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top