Monday, 29 April 2024
นิพนธ์

สงขลา - “เฉลิมชัย” ควง “นิพนธ์” ตรวจคลองอาทิตย์ และคลองร.1 มั่นใจแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ - น้ำแล้งสงขลา ทั้งระบบ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2564 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ฯ ม.9 ต.ท่าหินกิน อ.สทิงพระ  จ.สงขลา พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและรับทราบปัญหาอุปสรรค โดยมีนายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายไพโรจน์ ศรีละมุน นายอำเภอระโนด และส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่ร่วมติดตามและให้การต้อนรับ

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ฯ เป็นหนึ่งในโครงการบริหารจัดการน้ำคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ และอำเภอสิงหนครจังหวัดสงขลา ที่ผ่านมาประสบปัญหาอุทกภัยมาโดยตลอดเมื่อมีฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระยังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรเป็นประจำ เมื่อมีการรุกตัวของน้ำเค็มถึงทะเลสาบตอนบน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้ได้มีการขุดลอก และขยายคลองพลเอกอาทิตย์ฯ จากความกว้างเดิม 40 เมตรเป็น 70 เมตร และขุดขยายคลองหนัง บริเวณ อำเภอสทิงพระ เพื่อเพิ่มความสามารถในการเก็บกักน้ำ ก่อสร้างแก้มลิงรวมไปถึงปรับปรุงแก้มลิงเดิมเพื่อเพิ่มความสามารถในการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ก่อสร้างระบบกระจายน้ำจากแหล่งน้ำต้นทุนต่าง ๆ เข้าสู่พื้นที่การเกษตร ก่อสร้างสถานีสูบน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ซึ่งหากแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำจาก 2 ล้าน ลบ.ม. เป็น 7 ล้าน ลบ.ม. หรือมากกว่าเดิมกว่า 3 เท่าตัว โดยสามารถเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 12,000 ไร่ โดยมีแผนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2566 

ต่อจากนั้น ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และท่านนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาติดตามความก้าวหน้าโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) ณ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในตัวเมืองหาดใหญ่ และเก็บกักน้ำไว้สำหรับการเพาะปลูกด้านการเกษตร ผลิตน้ำประปาเพื่ออุปโภค อุตสาหกรรม สนองความต้องการใช้น้ำในด้านต่าง ๆ ในจังหวัดสงขลาที่กำลังขยายตัว

โดยการดำเนินงานจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองระบายน้ำ ร.1 ซึ่งเดิมสามารถระบายน้ำได้ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เมื่อรวมกับอัตราการระบายน้ำของคลองอู่ตะเภาที่ระบายน้ำได้ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะทำให้สามารถระบายน้ำได้สูงสุดรวม 1,665 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และเป็นแหล่งน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้งประมาณ 5.00 ล้านลูกบาศก์เมตร มีระยะเวลาโครงการ 8 ปี (พ.ศ.2558 – 2565) วงเงินงบประมาณ 6,500 ล้านบาท

"นิพนธ์" หนุน​ ศบค.ส่วนหน้าแก้โควิดใต้​ เชื่อ​มือ "บิ๊กเล็ก" มีประสบการณ์​ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล​ นายนิพนธ์​ บุญญามณี​ รมช.มหาดไทย​ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายศุภชัย​ ใจสมุทร​ ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ พรรคภูมิใจไทย​ คัดค้านการให้  พล.อ.ณัฐพล​ นาคพาณิชย์​ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี​ ซึ่งเป็นทหารมาเป็นผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศบค.ส่วนหน้า​ ว่า​ ความเห็นส่วนตัวของตน คิดว่าการแก้ปัญหาโควิด-19​ ในพื้นที่ภาคใต้ ทุกฝ่ายต้องพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด บูรณาการงานร่วมกันให้ได้ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ที่สำคัญคือการทำความเข้าใจกับประชาชน เนื่องจากขณะนี้ประชาชนบางส่วนคิดว่าวัคซีนไม่มีความจำเป็น ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจกับคนกลุ่มนี้ให้ได้ และภาครัฐเองต้องพร้อมที่จะส่งวัคซีนลงไปให้ทันต่อความต้องการ เชื่อว่าวัคซีนมีจำนวนเพียงพอในการที่จะจัดสรรลงไป แต่ต้องกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และให้เร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงคัดค้านการให้ทหารเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหา​ เพราะอยากให้แพทย์เป็นผู้รับผิดชอบมากกว่า นายนิพนธ์ กล่าวว่า การบูรณาการงานของทุกฝ่ายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพื้นที่ภาคใต้ เพราะยังมีคนออกนอกบ้านในเวลาเคอร์ฟิวอยู่ นั่นสะท้อนให้เห็นว่าเรายังมีช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้น การจะทำให้ทุกคนเคารพระเบียบเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสร้างวินัย จึงมองว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และฝ่ายๆอื่น โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลพื้นที่อยู่ต้องร่วมมือกัน​ เพราะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่พิเศษอยู่แล้ว

'นิพนธ์' ย้ำ! ไม่ผิด ปม ป.ป.ช.ชี้มูล157 เดินหน้า ยื่นศาลปกครองเพิกถอนคำสั่ง บอก มีหลักฐานชัดเอกชนฮั้วประมูล มั่นใจ! ไม่กระทบคุณสมบัติรัฐมนตรี

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด มาตรา 157 คดีไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ 2 คัน 50 ล้านบาทให้แก่เอกชนก่อนหน้านี้ และถูกยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ว่า ย้ำว่าเรื่องดังกล่าวขณะนี้เรื่องทางแพ่งอยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด ยังไม่มีมีการตัดสินและคดีอาญาที่ป.ป.ช  ชี้มูลว่าผิดมาตรา 157 ละเว้นการจ่ายเงินให้เอกชน ที่ภายหลังทราบว่ามีการฮั้วกันนั้น ตอนนี้ยังอยู่ที่อัยการและยังไม่ได้ฟ้องคดีต่อศาล และทราบว่ายังมีการตั้งข้อไม่สมบูรณ์16หน้ากระดาษ มีข้อบกพร่องในสำนวนอยู่หลายประเด็นมาก และเมื่อคดีหลักยังไม่ตัดสิน คดีปลายจะไปได้อย่างไร 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ตนจึงต้องไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางให้ช่วยถอนคำสั่ง เพราะว่าไม่ได้มีการกระทำความผิดใดๆ และการที่ไม่เซ็นก็เป็นการรักษาผลประโยชน์ด้านงบประมาณของจังหวัด ซึ่งจนถึงวันนี้เงิน 51 ล้าน ยังอยู่ที่ อบจ. สงขลา ยังไม่มีการจ่ายเงินสักบาท ขณะเดียวกัน สภ.เมืองสงขลามีคำสั่งฟ้องและส่งฟ้องมาที่กองบังคับการปราบปราม ขณะนี้กองปราบฯ พิจารณาสำนวนและยืนยันสั่งฟ้องบริษัทเอกชนและพวกแล้ว

เมื่อถามว่า ในเมื่อตำรวจสั่งฟ้องว่าบริษัทเอกชนว่าฮั้วประมูลแล้ว แต่ป.ป.ช.กลับชี้มูลความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า"อันนี้แหละที่เป็นเหตุให้ไปฟ้องศาลปกครองกลางให้เพิกถอนคำสั่ง ด้วยเหตุผลที่ผมไม่ได้ทำผิด และลงโทษทางวินัยผมโดยไม่ตั้งคณะกรรมการและป.ป.ช.ไม่ได้ชี้ผมว่าทุจริต ดังนั้นการจะลงโทษทางวินัยก็ต้องตั้งกรรมการมาสอบผมก่อน นอกจากนี้ ตามกฎหมาย อบจ.ถ้าจะลงโทษผม ต้องลงโทษภายใน2ปีนับจากวันที่ผมครบวาระ ผมเป็นนายกอบจ. ปี56 ครบวาระปี 60 ถ้าจะลงโทษผมก็ต้องภายในปี62 แต่นี่มาลงโทษปี64  ด้วยเหตุทั้งหมดนี้ ผมจึงต้องฟ้องศาลปกครองกลางให้เพิกถอนคำสี่งนี้เพราะเป็นคำสั่งโดยมิชอบ"

พังงา - “นิพนธ์ฯ” ย้ำ! ที่ดินคือชีวิต เพราะเป็นทั้งที่อยู่อาศัย – ที่ทำกิน และมรดกให้ลูกหลาน ก่อนมอบโฉนด 1,500 แปลง แก่ชาวจังหวัดพังงา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564  นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการมอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ตำบลบ้านท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ตามโครงการ “มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน” โดยมี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น.รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เจ้าพนักงานที่ดิน ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมมอบโฉนดที่ดินครั้งนี้ด้วย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า โครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทยนี้ เกิดขึ้นภายใต้หลักคิด ที่ดินคือชีวิต เพราะเป็นทั้งที่อยู่อาศัยที่ทำกินและเป็นมรดกให้ลูกหลาน ซึ่งเป็นนโยบาย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจังหวัดพังงาขณะนี้สามารถดำเนินการไปแล้วจำนวน 1,500 กว่าแปลง ตนต้องการที่จะเร่งรัดในการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้แก่พี่น้องประชาชนที่ถือครองที่ดินอยู่ ทำประโยชน์ในที่ดินนั้นมายาวนาน และที่ดินนั้นไม่ใช่ที่ดินของรัฐ

การมีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินของตนเอง ถือว่าเป็นความมั่นคงในการถือครองที่ดิน คืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชน สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในการเข้าถึงการใช้ทรัพยากรที่ดินของชาติ สร้างความมั่นใจ ประชาชนไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกที่ดินของทางราชการ สามารถนำโฉนดที่ดินไปประกอบการพัฒนาในอาชีพของตนเอง เพิ่มผลผลิตและรายได้ ซึ่งเป็นผลดีในทางเศรษฐกิจของตนเองได้ต่อไป ซึ่งเมื่อพี่น้องได้รับโฉนดที่ดินแล้วขอให้เก็บรักษาดูแลไว้ให้ดี ใช้ที่ดินทำกินให้เกิดประโยชน์ในการสร้างรายได้เลี้ยงชีพครอบครัว อย่ายกที่ดินให้คนอื่น ที่สำคัญให้ระมัดระวังเรื่องการทำนิติกรรมสัญญาใด ๆ เกี่ยวกับที่ดิน ขอให้รักษาที่ดินนี้ให้ดีเพื่อส่งมอบเป็นมรดกให้ลูกหลานของพี่น้องในรุ่นต่อไป นายนิพนธ์ กล่าว

 

สุราษฎร์ธานี - “นิพนธ์” ล่องใต้!! อ.กาญจนดิษฐ์ - ดอนสัก ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม กำชับทุกฝ่ายดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ตลอดฤดูมรสุมและเร่งรัดฟื้นฟูเยียวยาโดยเร็ว

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นตรวจเยี่ยมและให้กำลังผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ และตำบลชลคราม อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย จำนวน 200 ชุด ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 6 - 19 พฤศจิกายน 2564 ในพื้นที่ 14 อำเภอ และสถานการณ์คลี่คลายแล้วทั้งหมด แต่ยังมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ความเสียหายในภาพรวมประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 14 อำเภอ 52 ตำบล 268 หมู่บ้าน 3,147 ครัวเรือน 10,087 คน  มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 86 ล้านบาท

นายนิพนธ์ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนที่พี่น้องประชาชนกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้เร่งรัดฟื้นฟูเยียวยาประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยกระทรวงมหาดไทยนั้นมีภารกิจในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ซึ่งในฐานะที่ตนกำกับดูแลกรมปภ. มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนโดยตรงเมื่อเกิดทั้งภัยน้ำท่วมและน้ำแล้ง สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำคือการสร้างที่ให้น้ำอยู่ ทำทางให้น้ำไหล จะเป็นการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยจากน้ำได้อย่างครบวงจร สามารถบรรเทาความรุนแรงของภัยได้ รวมทั้งการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้รับทราบข้อมูลข่าวสารก่อนเกิดภัยก็จะมีส่วนช่วยให้ลดความรุนแรง ความสูญเสียได้อย่างมาก

 

กรุงเทพฯ - ‘นิพนธ์’ มอบแนวทางพัฒนาภาคใต้ชายแดน เน้นพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก – สร้างงาน - สร้างรายได้ ฟื้นเกษตรและท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ประชาชนฝากการบ้านลดความเหลื่อมล้ำทำให้เป็นจริง

ที่โรงแรมรอยัล ปริ้นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ นายนิพนธ์  บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานช่วยอำนวยการพิจารณาและกลั่นกรองแผนงานโครงการของ อ.ก.บ.ภ. ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานภายใต้คณะอนุกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาคใต้และภาคใต้ชายแดน ซึ่งมีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงบประมาณสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจราชการภาคใต้

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานของคณะทำงานช่วยอำนวยการพิจารณาและกลั่นกรองแผนงานโครงการของ อ.ก.บ.ภ. ภาคใต้และภาคใต้ชายแดนซึ่งได้ประชุมรวม 5 ครั้ง ทำให้ได้ผลการพิจารณากลั่นกรองมีความครบถ้วนสมบูรณ์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยพิจารณากลั่นกรองโครงการ 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1  คือโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดในภาคใต้ (11 จังหวัด) และภาคใต้ชายแดน (3 จังหวัด) และโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัดในภาคใต้ (2 กลุ่มจังหวัด) และภาคใต้ชายแดน (1 กลุ่มจังหวัด) ส่วนที่ 2 คือ โครงการของส่วนราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่มีความสอดคล้องกับ (ร่าง) ทิศทางการพัฒนาภาคใต้และภาคใต้ชายแดน (พ.ศ.2566-2570)

นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในการพิจารณากลั่นกรองโครงการครั้งนี้ ได้เห็นประเด็นปัญหาของการจัดทำโครงการทั้งของจังหวัด และกลุ่มจังหวัด เช่น โครงการขาดความพร้อมด้านต่าง ๆ และโครงการที่เป็นภารกิจถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น  ทั้งนี้ได้มอบแนวทาคมงการดำเนินงาน การแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน โดยควรดำเนินงานในลักษณะการบูรณาการ โดยใช้แนวคิดเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด รวมทั้งการพัฒนาคนให้มีองค์ความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ และมีความหลากหลายของประเภทโครงการ ครอบคลุมทุกมิติการพัฒนา โดยวางหลักในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากฐาน การสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ทั้งภาคการเกษตร ภาคการท่องเที่ยว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานลดความเหลี่ยมล้ำทางสังคม  ทางเศรษฐกิจ การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติ  รวมทั้งการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเกิดความเข้มแข็งจากระดับล่าง ประชาชนพึ่งพาตนเองได้

 

 

สงขลา - “นิพนธ์” เสริมทัพช่วย ‘สุภาพร’ หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 6 มั่นใจ!! ชาวสงขลาไม่ทอดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์

ที่สนามกีฬาสุขภาพ ต.พะตง บ้านทุ่งครุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 6 จังหวัดสงขลา นำทีมโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ พร้อมด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้  นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล และส.ส.คนรุ่นใหม่ อาทิ น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 6 จังหวัดสงขลาเพื่อขอเสียงประชาชนให้สนับสนุน น.ส. สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครส.ส.สงขลา เขต 6 เบอร์ 1 โดยมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก

นายนิพนธ์ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เหลืออีก 7 วัน จะถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อม ตนขอฝากคนที่มาแอบถ่ายคลิปการปราศรัยของพรรค ขอให้ไปรายงานให้ถูก ๆ หน่อยว่าคนมา 3 หมื่นกว่า ไม่ใช่ 5 พันคน วันนี้ตนมาหาเสียงพี่น้องชาวทุ่งลุงชาวสงขลา เขต 6 ซึ่งอีก 7 วันสุดท้ายนี้ใครมี รถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ นับแต่พรุ่งนี้เอารถออกจากบ้านมาช่วยหาเสียงให้กับ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครส.ส.สงขลา เขต 6 เบอร์ 1 ช่วยกันบอกกับญาติพี่น้องให้ช่วยเลือกน้องเบอร์ 1 เข้ามาเป็นส.ส. ส่วนใครที่ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ แต่มีโทรศัพท์มือถือก็ขอให้ใช้สังคมโซเชียลมีเดียช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้ามา

 

เชียงใหม่ - ‘นิพนธ์’ กำชับทุกหน่วยงาน! บูรณาการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอย่างใกล้ชิด พร้อมแนะ! ให้ทำความเข้าใจ กับประชาชน ในการเลิกพฤติกรรมการเผา เชื่อว่าจะทำให้การแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ

ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยมีนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม

นายนิพนธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาหมอกควันไฟป่า เป็นอย่างมาก โดยได้ออกข้อกำหนด มาตรการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา และกระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ก็จะต้องบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่ในการแก้ปัญหา สั่งการ ควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันที่เกิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดในพื้นจังหวัดเชียงใหม่ และให้กำหนดรายละเอียดการแบ่งพื้นที่ ผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะบูรณาการหน่วยงานแก้ไขปัญหาร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

พร้อมเน้นย้ำนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ให้มีการเฝ้าระวัง ออกลาดตระเวน และเตรียมความพร้อมในการเข้าไปดับไฟ หากเกิดไฟไหม้ป่าขึ้นในพื้นที่ เพื่อลดจุดความร้อน และแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และที่สำคัญจะต้องทำความเข้าใจและขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ในการ งด หรือ เลิก การเผา ถ้าพี่น้องประชาชนเข้าใจและเลิกพฤติกรรมดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้การการแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ

 

สุพรรณบุรี - "นิพนธ์" ตรวจภัยแล้งสุพรรณฯ มั่นใจ! ปีนี้ไม่ขาดแคลนน้ำใช้อุปโภค -บริโภค และน้ำเกษตร พร้อมกำชับป้องกันไฟป่า-หมอกควันอย่างใกล้ชิด

ที่อ่างกักเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างกักเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว โดยมีนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี ผอ.ศูนย์.ปภ.เขต 2 สุพรรณบุรี ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว นายอำเภอด่านช้าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมติดตามสถานการณ์

นายนิพนธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญปัญหาภัยแล้งมาโดยตลอด และตนในฐานะกำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหน้าที่ในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่พี่น้องประชาชน นั้น มีความตั้งใจจะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด จากการรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์ปริมาณเก็บกักน้ำในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว มีความจุที่ระดับน้ำสูงสุด 299,000 ล้าน ม.3 โดยวันนี้มีปริมาตรน้ำเก็บกัก 296 ล้าน ลบ.ม. (99.29%) และปริมาณการใช้น้ำ 256 ล้าน ลบ.ม. (99.18%)  ซึ่งคาดการณ์ว่ามีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ ทั้งในด้านการอุปโภคบริโภค และการทำการเกษตร จึงไม่มีความกังวลในประเด็นดังกล่าว ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือโดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ภัยแล้ง ปี 2565 และศูนย์อำนวยการและประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ภัยแล้ง) ระดับพื้นที่  จัดเตรียมกำลังคน วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้มีความพร้อมปฏิบัติงานตามแผนเผชิญเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังติดตามและเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วยทุกปี พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีมักจะประสบปัญหาความแห้งแล้งทำให้เอื้อต่อการเกิดไฟป่าได้ง่าย ซึ่งการเกิดไฟป่าแต่ละครั้งเป็นอันตรายและสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของประชาชนและราชการ และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาวิกฤตมลพิษหมอกควัน ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต สุขภาพอนามัยของประชาชน จึงให้ทุกฝ่ายบูรณาการร่วมกันดูแลให้คำแนะนำและประสานการปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้ทั่วถึงและรวดเร็ว รวมถึงเผยแพร่ความรู้ ให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากอัคคีภัย ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย

ปัตตานี - "นิพนธ์" รุดลงปัตตานี นำความห่วงใยรัฐบาล เร่งช่วยเหลือ ปชช. ประสบอุทกภัยในพื้นที่ สั่งระดมทุกหน่วยผนึกกำลัง พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด!!

วันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี และอ.แม่ลาน จ.ปัตตานี พร้อมมอบถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น บรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย บริเวณ 2 จุด จำนวนกว่า 500 ชุด โดยมีนายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้นำท้องที่ ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

ภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้รับผลกระทบจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงใกล้เกาะบอร์เนียว เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้พื้นที่จังหวัดปัตตานีมีฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่ช่วงวันที่ 23 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา 

จนกระทั่งวานนี้ (วันที่ 27 ก.พ. 65) หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณช่องแคบมะละกา ก็ยังคงเคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าปกคลุมเกาะสุมาตราตอนบน ในขณะที่ลมตะวันออกกำลังแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง จนเกิดฝนตกหนักสะสมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 6 อำเภอ 27 ตำบล 81 หมู่บ้าน 3 ชุมชน1,730 ครัวเรือน 5,598 คน ในส่วนของอำเภอเมืองปัตตานี ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน 2 ชุมชน 162 ครัวเรือน 810 คน และอำเภอแม่ลาน ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน 219 ครัวเรือน 913 คน ส่วนผลกระทบด้านอื่นๆ อาทิ ด้านการเกษตรมีพื้นที่เสียหาย จำนวน 3,167 ไร่ ด้านประมงและปศุสัตว์ มีความเสียหายเล็กน้อยนอกจากนี้ในส่วนของสิ่งสาธารณูปโภค ถนนได้รับความเสียหาย 5 สาย และมัสยิด 1 แห่ง ทั้งนี้ อปท. ในพื้นที่ ได้ให้ความช่วยเหลือโดยการแจกถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแล้ว

นายนิพนธ์ กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศในปีนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เกิดฝนนอกฤดูกาลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมาก ตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้ติดตาม/ประเมินสถานการณ์ พร้อมแจ้งเตือน/สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารไปสู่พี่น้องประชาชนผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ปัจจุบัน กรมอุตุมนิยมวิทยา กับ ปภ. ได้ทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น การคาดการณ์สถานการณ์ต่างๆ ของกรมอุตุนิยมวิทยามีความแม่นยำ ทำให้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าและรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยเองก็ได้ติดตามและเน้นย้ำแนวทางในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยและวาตภัย เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ บูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมีการสั่งเตรียมความพร้อมในพื้นที่มาโดยตลอดตั้งแต่ระดับจังหวัดลงไปจนถึง อปท. ซึ่งได้ประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีทั้งเรื่องของบุคลากร ลงไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องจักรกลต่าง ๆ อาทิ เรือท้องแบน รถราต่าง ๆ ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เบื้องต้น อปท. ในพื้นที่ กับ ปภ. ได้ดำเนินการตามแผนอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย และดูแลเรื่องอาหารการกินต่าง ๆ อย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายนิพนธ์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับแนวโน้มคาดการณ์ว่า จ.ปัตตานี สถานการณ์ในวันนี้ได้คลี่คลายลงแล้ว จนเกือบจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนปริมาณน้ำฝนที่ยังคั่งค้างอยู่ตามแนวเทือกเขาต่างๆ นั้น ก็จะไหลลงแม่น้ำหลัก อยากจะฝากไปถึงพี่น้องประชาชนให้ติดตามสถานการณ์และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และฝากเตือนถึงเรื่องการสัญจรไปมา ให้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น งดลงเล่นน้ำ เพราะหากมีเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นอีก อาจได้รับอันตรายจนถึงชีวิตได้ ซึ่งหลังจากนี้ หากสถานการณ์ทุกอย่างได้คลี่คลายลงแล้ว ตนก็สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้สำรวจ ตรวจตราความปลอดภัยของบ้านเรือน และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เพื่อบรรเทาความวิตกกังวล พร้อมสั่งดำเนินการสำรวจและประเมินความเสียหายอย่างเร่งด่วน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ตามระเบียบของทางทางราชการกันต่อไปราชการ และนอกจากนี้ ตนยังมีความห่วงใยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังคงมีการระบาด และมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้ปฏิบัติตนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เราทุกคนผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top