Tuesday, 30 April 2024
กทม

‘เอกเมธ’ ผู้สมัคร ส.ก.บางซื่อ ชู ‘สร้างแรงงานทักษะเฉพาะทาง’ ปรับถนนสายไม้เป็นแหล่งเรียนรู้งานฝีมือช่างไม้ ผ่านระบบออนไลน์

นายเอกเมธ กมลวรานนท์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางซื่อ หมายเลข 1 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่รับฟังความต้องการและเสนอแนวทางผลักดัน คอร์สเรียน “งานฝีมือช่างไม้” ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยความร่วมมือกับชุมชน ซอยประชานฤมิตร เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ

นายเอกเมธ กล่าวว่า ภูมิปัญญา งานฝีมือของช่างไม้ ในซอยประชานฤมิตร หรือ ถนนสายไม้บางโพ เขตบางซื่อ กำลังจะหายไปเนื่องด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามามีบทบาท ในอุตสาหกรรมงานไม้ ประกอบกับ ความต้องการของพี่น้องในชุมชนซอยประชานฤมิตร ที่อยากจะให้ ถนนสายไม้ เป็นเสมือนแหล่งรวมองค์ความรู้และผู้เชี่ยวชาญเรื่องไม้ของประเทศไทย จึงได้นำเสนอ คอร์สการสอนงานฝีมือช่างไม้ ของชาวประชานฤมิตร ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเป็นการนำภูมิปัญญาความรู้เรื่องไม้สู่โลกออนไลน์ ให้แก่ผู้ที่มีความสนใจทั่วประเทศและนำมาซึ่งชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นในนามถนนสายไม้แห่งเดียวในประเทศไทย

'เขตบางขุนเทียน' ขานรับนโยบาย 'ชัชชาติ' จัดหา 'ผ้าอนามัยแจกฟรี' ให้นักเรียนในพื้นที่

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเขตบางขุนเทียน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ได้จับมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดหาผ้าอนามัยฟรีให้กับนักเรียน ตามนโยบายนำร่องผ้าอนามัยฟรี โดยระบุว่า

“เชื่อหรือไม่ มีเด็กต้องขาดเรียน
…เพราะไม่มีผ้าอนามัย

จากการศึกษาในบางประเทศ และการลงพื้นที่พบว่า การขาดแคลนผ้าอนามัยส่งผลต่อการขาดเรียนหรือขาดงาน รวมถึงการเปลี่ยนผ้าอนามัยน้อยครั้ง หรือใช้วัสดุอื่นที่ไม่เหมาะสมแทน อาจเสี่ยงติดเชื้อและมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้

สำนักงานเขตบางขุนเทียน จึงได้จับมือ ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ประกอบด้วย เซ็นทรัล พระราม 2, ชมรมรักบางขุนเทียน, สโมสรกีฬาบางขุนเทียน สโมสรโรตารี กรุงเทพ บางขุนเทียน และเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม. นำร่องจัดหาผ้าอนามัยฟรีให้กับนักเรียน ตามนโยบายนำร่องผ้าอนามัยฟรี (เศรษฐกิจดี, สุขภาพดี) จำนวนกว่า 20,000 ชิ้น เพื่อลดภาระผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม. 16 โรงเรียน ที่มีนักเรียนหญิงประมาณ 2,000 คน โดยจะนำผ้าอนามัยไปจัดวางในห้องน้ำของโรงเรียน ห้องพยาบาล เพื่อให้เข้าถึงได้สะดวก”

ซึ่งสำนักงานเขตได้ระบุด้วยว่า มีคนเตรียมบริจาคเยอะมาก

ทั้งนี้ นโยบายนำร่องผ้าอนามัยฟรี เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายในด้าน เศรษฐกิจดีและสุขภาพดี ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพื่อลดภาระผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม. รวมถึงแก้ปัญหาความจนประจำเดือน ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและสุขภาพอนามัยของผู้มีประจำเดือน

'นายกฯ' หนุน ผู้ว่าฯ กทม. สั่งรถทหารช่วยขนประชาชนช่วงฝนตกหนัก

'บิ๊กตู่' สั่งการกองทัพหนุน กทม. ช่วยน้ำท่วมพร้อมส่งรถบรรทุกทหาร กำลังพล ช่วยเหลือผู้ประสบน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ทันที เพื่อเคลื่อนย้ายคน สิ่งของ และเครื่องกีดขวาง 

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนัก ตั้งแต่คืนวันที่ 20 กรกฎาคม ถึงช่วงเช้าวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนักในหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร จากปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสม โดยเฉพาะบนถนนหลักในกรุงเทพฯ มากกว่า 20 เส้นทาง และตามจุดท่วมขังซ้ำซาก รวมถึงย่านที่อยู่อาศัย ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้กองทัพ เร่งสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือ กทม. อย่างเต็มที่

เริ่มแล้ววันนี้!! กทม. ขยายเวลาเปิด-ปิด 3 สวนสาธารณะ ตอบสนองความต้องการของคนกรุง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม. ได้เปลี่ยนแปลงเวลาเปิด-ปิด 'สวนสาธารณะ' จำนวน 3 แห่ง ให้เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04.30 - 22.00 น. ซึ่งขยายเวลาจากเดิมที่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 - 21.00 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 65 เป็นวันแรก เพื่อให้ประชาชนกรุงเทพมหานครได้มาใช้สวนสาธารณะกันมากขึ้น จำนวน 3 สวน ได้แก่ สวนลุมพินี สวนจตุจักร และอุทยานเบญจสิริ ซึ่งเป็นการทดลองเปิดเพียง 3 สวนก่อน

ทั้งนี้เนื่องจากเป็นสวนที่มีคนใช้บริการเป็นจำนวนมาก สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ตรงจุด โดยในวันนี้ จากการลงพื้นที่อุทยานเบญจสิริพบว่ามีความพร้อมในส่วนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไฟฟ้าส่องสว่าง และห้องน้ำที่จะเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการตามที่ได้ขยายเวลา

'กรณ์' หนุน 'ชัชชาติ' ชวนอาสาฯ ร่วมกรอกทรายกันน้ำท่วม ย้ำ!! อย่าไปคิดให้เป็นประเด็นการเมืองว่าผู้ว่าฯ ใครเลือก-ใครไม่เลือก 

นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij' ระบุว่า...

ขนทรายช่วยชาวกรุงเทพฯ ก่อนลงร่วมงาน #เจี๊ยะฉ่ายภูเก็ต 

เมื่อเช้าก่อนขึ้นเครื่อง ผมเห็นผู้ว่า #ชัชชาติ ออกประกาศหาอาสาสมัครไปกรอกทรายทำกระสอบกั้นนํ้าท่วม 2.5 ล้านกระสอบ ผมก็เลยไลน์ชวนเพื่อนที่ #ชาติพัฒนากล้า (ยังเรียกไม่คล่องปากนัก 😅) บอกใครว่างมาช่วยกัน

เราเอาพลั่วติดไม้ติดมือไป แต่จริงๆ กทม. มีเตรียมไว้ให้ ถุงมือเอาไปเอง รองเท้าบูทปกติเอาไว้ยํ่านา #ข้าวอิ่ม ที่สารคาม และคู่เดิมนี้ใส่ตักทรายครั้งล่าสุดก็ช่วงนํ้าท่วมใหญ่ปี ‘54 

เจ้าหน้าที่ฝากบอกว่า ใครว่างมาช่วยด้วยนะครับ กำลังคนเขาไม่พอจริงๆ คนละไม้คนละมือ 

กลุ่ม ปตท. มอบบัตรเติมน้ำมัน 200,000 บาท สนับสนุน กทม. ทำงานบรรเทาเหตุน้ำท่วม

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้มอบบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 200,000 บาท ในนามกลุ่ม ปตท. แก่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กลางขวา) เพื่อสนับสนุนการทำงานของกรุงเทพมหานครในการช่วยเหลือเหตุอุทกภัย และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต กทม.

โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวด้วยว่า ปตท. ถือเป็นส่วนสำคัญของเมือง ทั้งในเรื่องการสร้างงานและเศรษฐกิจ ต้องขอขอบคุณทาง ปตท. เป็นอย่างมากที่ช่วย กทม. มาตลอด และหวังว่าจะร่วมมือกันต่อไป

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังได้กล่าวถึงโครงการ Saturday School Bangkok ซึ่งขณะนี้เปิดรับคุณครูอาสา (Volunteer Teacher) พร้อมเชิญชวนพนักงาน ปตท. มาช่วยสอนภาษาอังกฤษ สอนเรื่องพลังงาน เรื่องแยกขยะ ฯลฯ เพื่อให้พนักงานมีความเข้าใจปัญหาสังคม เข้าถึงเด็กๆ และได้ร่วมแบ่งปันโอกาสให้น้อง ๆ อีกด้วย

‘ชัชชาติ’ เร่งหาทางแก้ปัญหาราคา รฟฟ. สายสีเขียว หลังประชาชนโอดหนัก ‘ค่าโดยสารแพง’

รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (รถไฟฟ้าสายสีเขียว) หรือที่พวกเราเรียกสั้น ๆ ว่า รถไฟฟ้า BTS เป็นระบบรถไฟฟ้ายกระดับแห่งแรกของประเทศไทยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.สมุทรปราการ และ จ.ปทุมธานี โดยเปิดใช้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ในช่วงแรกได้เปิดให้บริการช่วงสถานีอ่อนนุช - สถานีหมอชิต และช่วงสถานีสะพานตากสิน - สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ 

ต่อมารถไฟฟ้า BTS มีการก่อสร้างส่วนต่อขยายออกไปเพิ่มเติมอีก 5 ระยะ แบ่งเป็น
ระยะที่ 1 จากสถานีสะพานตากสิน - สถานีวงเวียนใหญ่
ระยะที่ 2 จากสถานีวงเวียนใหญ่ - สถานีบางหว้า
ระยะที่ 3 จากสถานีแบริ่ง - สถานีเคหะฯ
ระยะที่ 4 จากสถานีหมอชิต - สถานีคูคต
ระยะที่ 5 จากสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ - สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ

โดยการหาเสียงเลือกตั้งของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการ กทม. รอบที่ผ่านมา ได้มีการหาเสียงในประเด็นเรื่องรถไฟฟ้า BTS โดยมี Key message คือ ‘ไม่ต่อสัญญา BTS เปิดเผยสัญญา เข้า พ.ร.บ ร่วมทุน ค่าโดยสาร 25-30 บาท’ 

นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังให้คำมั่นว่าจะขอใช้เวลา 1 เดือน ตรวจสอบรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยจะขอดูสัญญาที่เกี่ยวข้องทุกฉบับแล้วจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เบื้องต้นมีเรื่องต้องสะสาง 3 ส่วน ประกอบด้วย หนี้ที่รัฐบาลโอนให้กทม. กระบวนการรับหนี้ถูกต้องหรือไม่ ใครจะรับผิดชอบ เบื้องต้นเห็นว่ารัฐบาลควรต้องรับผิดชอบเพราะได้ประโยชน์หลายอย่าง เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าทุกสาย

ซึ่งนโยบายของนายชัชชาติกับรถไฟฟ้า BTS มี 5 ข้อ ได้แก่
1. ไม่เห็นด้วยกับการต่อสัญญาสัมปทานถึงปี 2602 อย่างแน่นอน และไม่ผ่านกระบวนการตาม พ.ร.บ ร่วมทุน ที่มีกระบวนการเรื่องความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูล การขอต่อสัญญาสัมปทานถึงปี 2602 เป็นเรื่องของ ม.44 ที่เห็นว่ากรรมการพิจารณาไม่กี่คน ประชุมกัน 10 ครั้ง สามารถชี้ชีวิตของคนกทม. 1 รุ่นเลย ถ้ามีคนจบใหม่วันนี้ ต้องทนกับค่าโดยสาร BTS ไปจนถึงเกษียณอายุ 60 ปี เปลี่ยนอะไรไม่ได้ โดยหากจะทำ ต้องทำตาม พรบ. ร่วมทุน

2. กทม. ต้องเจรจากับเรื่องนี้ เพราะมีส่วนขยาย 2 ที่ ทางรฟม. โยนหนี้มาให้ กทม. ราว 60,000 ล้านบาท และมีค่าอื่น ๆ รวมหนี้เป็น 100,000 ล้านบาท ซึ่งเรื่องหนี้ผมคิดว่า เป็นการใช้เงื่อนไขในการขยายสัมปทานให้ โดยอ้างว่า กทม. ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ดังนั้นต้องเจรจาเรื่องหนี้ไปก่อนเลย โดยให้รัฐรับผิดชอบในเรื่องการโยธาไป

3. ปัจจุบันเราให้วิ่งส่วนต่อขยายฟรีมาเกือบ 3 ปี ทำให้หนี้มันยิ่งพอกพูนขึ้นมาก มันเหมือนเป็นหนี้ที่รัดเราให้แน่นขึ้น ดังนั้นต้องรีบคุยเรื่องการเก็บค่าโดยสารส่วนนี้ เพราะสุดท้าย ผู้โดยสารส่วนขยาย 2 มันช่วยไปเติมให้ผู้โดยสารส่วนกลาง ซึ่งเป็นรายได้หลักของ BTS อยู่ จึงต้องอาศัยตรงนี้เป็นตัวต่อรอง และคิดราคาที่เหมาะสม แล้วเก็บค่าโดยสารเพิ่ม เพื่อลดหนี้ให้น้อยลง

4. ต้องเปิดเผยสัญญาจ้างเดินรถจนถึง 2585 ว่าต้นทุนเป็นเท่าไหร่ โดยหลังปี 2572 เป็นต้นไป กทม. จะคิดค่าโดยสารเท่าไหร่ก็ได้ เพราะถ้ายังไม่ต่อสัญญาสัมปทาน รายได้ทั้งหมดเป็นของ กทม. อยู่แล้ว แต่ต้องรู้ว่า ต้นทุนที่ต้องจ่ายให้ BTS เป็นเท่าไหร่ เนื่องจาก กทม. ไม่สามารถแบกรับการขาดทุนได้ และยังมีเรื่องที่ไปร้องเรียน ป.ป.ช. อยู่ด้วย

5. ต้องหา ‘รายได้อื่น’ มาประกอบ คือระบบการเดินทาง จะมีรายได้ 2 ส่วน คือรายได้จากค่าโดยสารที่ปัจจุบันอยู่ที่ 44+15 = 59 และตัวใหม่จะอยู่ที่ราคา 65 บาท สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีการโฆษณา มีพื้นที่ให้เช่าที่เป็นรายได้ทั้งนั้น และหลังปี 2572 ไปแล้ว รายได้ส่วนนี้ทั้งหมด ควรจะเข้ารัฐด้วย ซึ่งหลังปี 2572 รายได้จากค่าโฆษณา ค่าเช่าที่ต่างๆ ควรจะเข้า กทม. เต็มเม็ดเต็มหน่วย หากดูงบประมาณทางเอกชน รายได้ส่วนนี้อยู่ที่ปีละ 2,000 ล้านบาท ซึ่งนำมาจุนเจือค่าโดยสารได้

ปปส กทม จับมือฝ่ายสืบสวน และพิสูจน์หลักฐาน เปิดรถของกลาง 11 คันในผับจินหลิง เก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ พบยังไม่เคยถูกตรวจสอบ จากที่ตรวจยึดไว้ทั้งหมด 35 คัน ผอ.ปปส. กทม. เผย ยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องในคดี 4,400 ล้านแล้ว

วันนี้ (27 ธ.ค.65) เวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พ.ต.อ.กู้เกียรติ เจริญบุญ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด  นายอุดมชัย โลหณุต. ผอ.สำนักงาน ปปส.​กทม. และกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเปิดรถยนต์ของกลางจำนวน 11 คัน จากที่ตรวจยึดไว้ 35 คัน ในผับจินหลิง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 

โดยพบว่ารถทั้ง 11 คันยังไม่เคยถูกเปิดและเก็บลายนิ้วมือ รวมทั้งดีเอ็นเอและเอกสารภายในรถ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นรถของนายทุนจีนสีเทา ที่มีความเกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว โดยเฉพาะรถยนต์ อัลพาร์ด สีดำทะเบียน 7 กภ 1234 ซึ่ง จากเอกสารภายในรถพบว่าเป็นของนายหยาง เฉิน ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของนายตู้ห่าว 

และอีกคันคือรถยนต์โรลสรอยส์  ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท โดยพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีความเชื่อมโยงไปถึงคอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านตากสิน โดยก่อนหน้านี้มีการตรวจค้นไปแล้วสองครั้งและตรวจยึดอายัดทรัพย์สินไว้จำนวนมาก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นวันนี้เป็นการตรวจเก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอภายในรถแต่ละคันซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้เปิดตรวจ จึงต้องทำให้ครบถ้วนนอกจากนี้ยังมีหลักฐานอีกหลายรายการที่ไม่ได้ถูกตรวจเช่นกันไม่ว่าจะเป็นชิปแลกเงินสำหรับเล่นการพนัน ถาดรองไม้ซึ่งน่าจะใช้เป็นถาดรองยาเสพติดสำหรับสูดดม และยังมีหลอดสำหรับเสพยาตกกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ 

โดยยืนยันว่าขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้ ดำเนินการในส่วนของคดีนายตู้หาว ครบแล้ว 100% ที่เหลือเป็นส่วนของสำนวนการสอบสวนซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้รับผิดชอบ ทางทีมสืบสวน ไม่มีความเกี่ยวข้อง 

ส่วนปัญหาที่นายชูวิทย์ เป็นห่วงนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวลเพราะถึงปัจจุบันนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เข้ามาดูแลเรื่องสำนวนการสอบสวนด้วยตัวเองดังนั้นการทำงานจากนี้ไปก็ต้องเป็นไปตามกลไกส่วนจะมีการบันทึกหลักฐานชิ้นใดเกี่ยวข้องกับในคดีใดบ้างส่วนนี้เป็นหน้าที่ของนครบาล

ตรวจสอบได้!! เปิดงบดนตรีในสวนยุค 'ชัชชาติ' 52 ครั้ง เกือบ 9 ล้าน จ้าง 'อินฟลูฯ-ซื้อสื่อ' 8 หมื่น

เผยงบจัดงานดนตรีในสวน กทม.ยุคชัชชาติ 52 ครั้ง 8.9 ล้าน จ้างวงดนตรี 4 วง 1 แสน แสงสีเสียง 4 หมื่น เช่าเครื่องปั่นไฟ 2 เครื่อง 3 หมื่น ซื้อสื่อออนไลน์-จ้างอินฟลูเอนเซอร์ 4 ครั้ง 8 หมื่น จ้างผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน 4.5 หมื่น พบโยงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 

(7 ม.ค.66) จากกรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษมซึ่งได้หยุดเดินเรือไปก่อนหน้านี้ ในการแถลงข่าวที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า ที่ผ่านมามีผู้โดยสารน้อยมาก แต่ค่าจ้างเดินเรือยังมีอยู่ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2.4 ล้านบาทต่อเดือน มีผู้ใช้บริการเพียง14,000 คนต่อเดือน ค่าบริการต่อคนค่อนข้างสูงมาก ประมาณ 171 บาทต่อคน จะมีการพิจารณาว่าจะทำต่อไหม ถ้าทำต่อจะคุ้มค่าไหม หรือเอาเงินที่จ่ายไปทำอย่างอื่นที่คุ้มค่ากว่านี้ อาจเป็นรูปแบบใหม่ที่กระตุ้นให้คนใช้บริการมากขึ้น เช่น Shuttle Bus หรือทำเรื่องท่องเที่ยว

เรื่องดังกล่าวเรียกเสียงวิจารณ์จากโลกโซเชียลฯ เหราะเห็นว่าการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษมของอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนก่อนทำไว้ดีอยู่แล้วกลับยกเลิก ขณะเดียวกัน ยังหยิบยกกรณีที่กรุงเทพมหานครเพิ่มงบโครงการสัมมนาพาคนไปเที่ยวในหลายสำนักงานเขต มีถึง 72 โครงการ ใน 26 เขต รวมวงเงินสูงกว่า 111 ล้านบาท ที่มีผู้ร้องเรียนต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก่อนหน้านี้ ภายหลังนายชัชชาติอ้างว่าทำต่อ แต่ต้องประเมินสถานการณ์ เพราะค่าใช้จ่ายต่อหัวแพงมาก จึงต้องประเมินทางเลือกอื่นที่ทำให้ค่าใช้จ่ายถูกลง

ล่าสุดเฟซบุ๊กเพจ ‘ซึ่งต้องพิสูจน์’ โพสต์ข้อความระบุว่า "เปิดเอกสาร งบจัดงานดนตรีในสวน กทม.ยุคชัชชาติ 52 ครั้ง8.9 ล้าน เป็นค่าออกแแบบ จัดทำเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ทางสังคมออนไลน์ เช่น ทีวีออนไลน์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์เว็บ อินฟลูเอนเซอร์ ไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง 8 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังมีค่าตอบแทนวงดนตรี 100,000 จำนวน 52 ครั้ง5.2 ล้าน ค่าตอบแทนคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน 3 ท่าน ท่านละ 15,000 บาท 3 ท่าน 45,000 บาท ค่าอุปกรณ์ จัดการแสดงไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง 40,000 บาท จำนวน 52 ครั้ง 2 ล้าน" พร้อมแนบ http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER9/DRAWER020/GENERAL/DATA0004/00004427.PDF

เมื่อผู้สื่อข่าวพิจารณาเอกสาร พบว่า ระบุชื่อโครงการ ‘ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมดนตรีในสวนกรุงเทพมหานคร’ หน่วยงานที่รับผิดชอบ กองการสังคีต สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ปีงบประมาณ 2566 โดยพบว่าค่าใช้จ่ายในการจ้างเหมาจัดกิจกรรมดนตรีในสวนกรุงเทพมหานคร จำนวนเงิน 8,965,000 บาท จำนวน 52 ครั้ง ประกอบด้วย

1. ค่าออกแบบ จัดทำ เผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ กิจกรรมสู่กลุ่มเป้าหมายทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ทีวีออนไลน์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เว็บไซต์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ เป็นต้น ที่ได้รับความนิยม หรือมีผู้ติดตามไม่น้อยกว่า 500,000 คนจำนวนไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง (20,000 บาท x 4 ครั้ง) รวม 80,000 บาท

2. ค่าตอบแทนวงดนตรี เช่น วงสตริงคอมโบ้ วงแจ๊ซ วงบราสควินเต็ท วงเครื่องสาย วงออร์เคสตรา วงซิมโฟนิกแบนด์วงวนด์อองซอมเบิล วงสตริงอองซอมเบิล หรือวงดนตรีที่เหมาะสม จำนวนไม่น้อยกว่า 4 วงต่อครั้ง จำนวน 52 ครั้ง(100,000 บาท x 52 ครั้ง) รวม 5,200,000 บาท

3. ค่าตอบแทนคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน (15,000 บาท x 3 ท่าน) รวม 45,000 บาท

4. ค่าจัดหาระบบแสงพร้อมอุปกรณ์ไฟแอลอีดี ไฟซูเปอร์สแกน ไฟส่องสว่าง โครงสร้างสำหรับติดตั้งไฟ สายเมนไฟเครื่องควบคุมและเครื่องสำรองไฟฉุกเฉินให้เพียงพอกับการใช้งานในสถานที่แสดงและบรรยากาศโดยรอบ จำนวน52 ครั้ง โดยจะต้องติดตั้งและทดสอบให้เสร็จก่อนการจัดแสดงไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง (40,000 บาท x 52 ครั้ง) รวม2,080,000 บาท

5. ค่าจัดหาเครื่องปั่นไฟ ขนาด 100 เควีเอ จำนวนไม่น้อยกว่า 2 เครื่อง พร้อมน้ำมันให้เพียงพอสำหรับการจัดการแสดง และการซ้อมก่อนการแสดง จำนวน 52 ครั้ง (30,000 บาท x 52 ครั้ง) รวม 1,560,000 บาท

สำหรับหลักการและเหตุผล ระบุว่า นโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) 9 มิติ ที่ต้องการให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน มุ่งเน้นให้คนกรุงเทพฯ มีชีวิตที่มีความปลอดภัย เป็นสุข สุขภาพกายใจดี ได้แก่ ปลอดภัยดี เดินทางดี สุขภาพดี สร้างสรรค์ดี สิ่งแวดล้อมดี โครงสร้างดี บริหารจัดการดี เรียนดี และเศรษฐกิจดี และโดยเฉพาะด้านสร้างสรรค์ดี มีนโยบายในการเปิดพื้นที่ในสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร สร้างความสุขให้กับประชาชนได้รับความสุนทรีย์จากการชมการแสดงดนตรี

กองการสังคีต สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว พิจารณาเห็นว่าการนำกิจกรรมดนตรีในสวนมาเป็นสื่อสร้างความสุขในวันหยุดของคนเมือง พร้อมเปิดให้ชมฟรี ร่วมสร้างบรรยากาศและเชื่อมความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวซึ่งกิจกรรมดนตรีในสวนเป็นหนึ่งในนโยบาย 214 ข้อด้านสร้างสรรค์ดี คือ กรุงเทพฯ พื้นที่แห่งดนตรีและศิลปะการแสดง เป็นส่วนหนึ่งของการบริการสังคมของกรุงเทพมหานคร ที่ประชาชนจะได้เข้าไปพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกายในสวนอันร่มรื่น ได้ชมดนตรีในบรรยากาศที่อบอุ่นในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยไม่ต้องเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดปลูกฝังให้เด็กมีจิตใจร่าเริงและชื่นชอบในดนตรี เป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น

หนุ่มโพสต์ถูกกลุ่มวัยรุ่นย่าน MBK ขู่ห้ามใส่เสื้อลาย โอด!! ความปลอดภัยของประเทศไม่เคยดี

หนุ่มรายหนึ่งโพสต์ข้อความเตือนภัยหลังตนเองถูกกลุ่มวัยรุ่นย่าน MBK ขู่ห้ามใส่เสื้อลาย โอดความปลอดภัยของประเทศไม่เคยดี ก่อนถามชาวเน็ตแนะนำการแต่งตัวให้ที

เมื่อวันที่ (11 ม.ค. 66) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเตือนภัยหลังตนเองสวมเสื้อลายเดินอยู่แถวห้าง MBK กลับโดนกลุ่มวัยรุ่นเดินเข้ามาขู่พร้อมอาวุธในมือซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร ก่อนจะเอ่ยปากขู่ตนเองว่า คราวหน้าห้ามใส่เสื้อลายมาอีก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตกใจแก่ตัวผู้โพสต์เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า

“เตือนภัยนิดหนึ่งครับ!

สถานการณ์มันมีอยู่ว่า ผมบังเอิญจะไปขึ้นรถเมล์ครับ
ร้อยวันพันปีไม่เคยอยากขึ้นเลย วันนี้แค่อยากลองนั่ง

จังหวะเดินไปรอ ผมเดินจากสยามข้ามไปฝั่ง MBK
คิดว่าไม่น่ามีอะไร เพราะปกติก็ไม่เคยมีอะไร

ใช่ครับ ผมโดนวัยรุ่น ผช.เดินมาเช็ก!!


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top