Friday, 16 May 2025
World

ช่างแต่งหน้าที่อินโดนีเซีย เนรมิตเพื่อนสาว ให้กลายเป็น ‘หมูเด้ง’ ถอดแบบมาเป๊ะเวอร์ ‘จมูก-ปาก-ใบหู’ น่ารักน่าเอ็นดู เรียกเสียงฮือฮา

(19 ต.ค. 67) ‘ฮาเบล’ (Habel) อาร์ตติส-ช่างแต่งหน้าฝีมือยอดเยี่ยมจากประเทศอินโดนีเซีย เนรมิตเพื่อนสาวสุดน่ารักให้กลายเป็น ‘หมูเด้ง’

งานนี้ทำเอาโซเชียลฮือฮา เพราะฝีมือการแต่งหน้าของเธอขั้นเทพจริง ๆ ถอดแบบ ‘หมูเด้ง’ มาเป๊ะเวอร์ ไม่ว่าจะช่วงจมูก ปาก และใบหูที่เธอเนรมิตขึ้นใหม่ รวมทั้งลงสีผิว ออกมาน่ารัก น่าเอ็นดูสุด ๆ เรียกเสียงชมอย่างล้นหลาม

ฮาเบล เล่าถึงลุกส์นี้ว่า “ฉันเลือก หมูเด้ง เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งหน้าครั้งนี้ เพราะฉันเห็นหน้าเจ้าหมูเด้งเยอะมาก ๆ ในโซเชียลมีเดีย และนางแบบที่ฉันเลือกมาแต่งหน้าในครั้งนี้ ก็มีใบหน้าที่สมบูรณ์แบบซึ่งเหมาะกับการออกแบบลุกส์แต่งหน้าของฉัน”

พร้อมเสริมว่า “การแต่งหน้าทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนที่ยากที่สุดในการแต่งลุกส์นี้ก็คือ การติดกาวและเกลี่ยวัสดุโฟมลาเท็กซ์บนใบหน้าของนางแบบ”

ทั้งนี้เธอทิ้งท้ายถึงแฟน ๆ ชาวไทยว่า “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ฮาเบล ฉันเป็นช่างแต่งหน้าจากอินโดนีเซีย ฉันชอบออกแบบลุกส์แต่งหน้าที่ดูตลกและน่ารัก บางครั้งฉันก็แต่งหน้าแบบจริงจัง-สมจริงด้วย ฮ่า ๆ และขอบคุณที่ชอบการแต่งหน้าของฉันนะคะ”

‘อิสราเอล’ ทิ้งระเบิดใส่!! ‘กาซา’ ดับอนาถ 73 ราย ‘เลบานอน’ โต้กลับยิงถล่ม!! ใส่บ้าน ‘เนทันยาฮู’

(20 ต.ค. 67) อิสราเอลได้ออกปฏิบัติการทิ้งระเบิดถล่มเมืองเบตลาฮิยา ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 73 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก หลังจากอิสราเอลเพิ่งปลิดชีพ ยาห์ยา ซินวาร์’ ผู้นำของกลุ่มฮามาสได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

รายงานระบุว่าเมื่อวานนี้ ยังมีเครื่องบินอิสราเอลโปรยใบปลิวไปทั่วพื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยเป็นรูปภาพของซินวาร์ที่เพิ่งถูกสังหารไปพร้อมกับข้อความว่า ‘ฮามาสจะไม่ได้ปกครองกาซาอีกต่อไป’

ทั้งนี้ สำนักข่าวของกลุ่มฮามาสแถลงว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีดังกล่าวอย่างน้อย 73 ราย แม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะยังไม่ได้เผยแพร่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ แต่กองทัพอิสราเอลแถลงว่ากำลังตรวจสอบเหตุการณ์ โดยเชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่รายงานนั้นสูงเกินจริง และไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่กองทัพมี รวมถึงชนิดของอาวุธที่ใช้และความแม่นยำในการโจมตี ซึ่งกองทัพอิสราเอลยืนยันว่าเป้าหมายคือฐานที่มั่นของฮามาส

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์เผยว่า การปิดระบบโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตเป็นวันที่สองส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่ชาวบ้านและบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่รายงานว่า กองทัพอิสราเอลได้เพิ่มความเข้มงวดในการปิดล้อมค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ซึ่งเป็นค่ายที่ใหญ่ที่สุดจากทั้งหมด 8 แห่งในกาซา โดยส่งรถถังเข้าควบคุมเมืองใกล้เคียงอย่างเบตฮานุนและเบตลาฮิยา พร้อมทั้งออกคำสั่งให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่

ในวันเดียวกัน มีรายงานว่าอิสราเอลได้เข้าโจมตีพิ้นที่ทางตอนใต้ของกรุงเบรุต ในเลบานอน โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่คลังเก็บอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เพื่อตอบโต้กรณีที่ฮิซบอลเลาะห์ยิงขีปนาวุธเข้าถล่มตอนเหนือของอิสราเอลเมื่อวานนี้ และฝ่ายอิสราเอลอ้างว่ายังมีการยิงโดรนหมายถล่มบ้านพักตากอากาศของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูด้วย แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่อยู่บ้านดังกล่าวขณะโจมตีก็ตาม และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าตัวบ้านได้รับความเสียหายหรือไม่ 

‘ซูเบียนโต ปราโบโว’ สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ลั่น!! แก้คอร์รัปชัน ย้ำ!! ประชาธิปไตยต้องสุภาพ

(20 ต.ค. 67) อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ‘ซูเบียนโต ปราโบโว’ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซียแล้วในวัน นี้ โดยให้คำมั่นว่าจะต่อสู้กับปัญหาภายในต่างๆ เช่น การทุจริตคอร์รัปชันที่กัดกินประเทศ และจะทำให้ประเทศสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น

ปราโบโววัย 73 ปีผู้นี้เคยผ่านการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ จากอดีตผู้บัญชาการทหารที่เผชิญข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ กลายมาเป็นผู้กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งประเทศที่มีประชากร 280 ล้านคน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา

ในพิธีสาบานตนวันนี้ ปราโบโวสวมหมวกสีดำแบบดั้งเดิมและสูทสีน้ำเงินกรมท่า พร้อมโสร่งผ้าทอสีทองและแดงเลือดหมู มาในรถยนต์สีขาวคันโตที่เปิดช่วงหลังคาซันรูฟยืนขึ้นโบกมือทักทายประชาชนสองข้างทาง ก่อนจะเข้ารัฐสภาอินโดนีเซียและกล่าวสุนทรพจน์ที่เร่าร้อนต่อสมาชิกรัฐสภาว่า เขาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเพื่อชาวอินโดนีเซียทุกคน และกระตุ้นให้คนในชาติช่วยเขาจัดการกับปัญหาของประเทศ

“เราต้องตระหนักเสมอว่าประเทศที่เสรี คือประเทศที่ประชาชนมีอิสระ พวกเขาต้องปราศจากความกลัว ความยากจน ความหิวโหย ความไม่รู้ การกดขี่ และความทุกข์ทรมาน” ปราโบโวกล่าว

ในสุนทรพจน์ที่ครอบคลุมหลายประเด็นและกินเวลานานประมาณหนึ่งชั่วโมง ปราโบโวกล่าวว่าการพึ่งตนเองด้านอาหารจะเป็นไปได้ภายใน 5 ปี ขณะเดียวกันก็ให้คำมั่นว่าจะกลายเป็นประเทศที่พึ่งพาตนเอง

ประธานาธิบดีคนใหม่ให้คำมั่นว่าจะขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน และย้ำด้วยว่า แม้ว่าว่าตนจะต้องการดำรงอยู่ในระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ต้องเป็นไปอย่าง ‘สุภาพ’

ด้านสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีปราโบโว และระบุว่า จีนจะรักษา ‘การสื่อสารเชิงกลยุทธ์อย่างใกล้ชิด’ กับประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย 

"จีนและอินโดนีเซียเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรกันมาโดยตลอด และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมของทั้งสองประเทศยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องและได้เข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการสร้างอนาคตร่วมกัน" ผู้นำจีนระบุ

ยินดีต้อนรับ! ประธานาธิบดีอินโดนีเซียคนใหม่ ‘ซูเบียนโต ปราโบโว’ ประกาศชัด สัญญาจะทำให้ประเทศพึ่งพาตนเอง ทำสงครามกับความยากจน

(21 ต.ค. 67) ซูเบียนโต ปราโบโว ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย วัย 73 ปี สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โดยเขาสวมหมวกสีดำแบบดั้งเดิมและสูทสีกรมท่า พร้อมผ้าซารองสีน้ำตาลแดงทอและทอง เข้ารับตำแหน่งในรัฐสภาเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อสืบทอดตำแหน่งต่อจากโจโก วิโดโด ผู้นำฝ่ายประชานิยม

ปราโบโว ซึ่งเผชิญข้อกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชนเมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชนะการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ และเป็นผู้นำประเทศที่มีประชากร 280 ล้านคน ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นลำดับ 4 ของโลก

ในสุนทรพจน์เปิดตัว ประธานาธิบดีคนที่ 8 ของประเทศ สัญญาว่าจะทำให้อินโดนีเซียพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น เขากล่าวว่า แม้ว่าเขาต้องการใช้ชีวิตในระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ต้อง “สุภาพ”

“ความเห็นที่แตกต่างต้องเกิดขึ้นโดยไม่มีความเป็นศัตรู … การต่อสู้โดยไม่เกลียดชัง” เขากล่าว ปราโบโว ซึ่งเคยหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาแล้วถึง 3 ครั้ง ยังรับรองด้วยว่าเขาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีให้กับชาวอินโดนีเซียทุกคน และท้าทายประเทศให้ช่วยเขาจัดการกับปัญหาของประเทศ

“เราต้องตระหนักเสมอว่าประเทศเสรีคือประเทศที่ประชาชนมีอิสระ” ปราโบโวกล่าวด้วยเสียงที่ดังขึ้นเป็นบางครั้ง

“พวกเขาต้องปราศจากความกลัว ความยากจน ความหิวโหย ความไม่รู้ การกดขี่ และความทุกข์ทรมาน” เขากล่าว

เขาเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งโดยมีกิบราน รากาบูมิง รากา วัย 37 ปี ลูกชายคนโตของวิโดโด เพื่อนร่วมทีมของเขาเข้าร่วมด้วย

ตำรวจและทหารได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยส่งเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 100,000 นายทั่วจาการ์ตา รวมถึงมือปืนและหน่วยปราบจลาจล เพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

ปราโบโวชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ และใช้เวลาเก้าเดือนที่ผ่านมาในการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในรัฐสภา หลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของเขา ปราโบโวก็สวมหมวกเบสบอลและโบกมือจากซันรูฟของรถขณะมุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดี โดยผ่านกลุ่มผู้สนับสนุนที่โบกธงนับพันคนที่เดินอยู่บนท้องถนนในจาการ์ตาในบรรยากาศที่คล้ายกับงานเทศกาลป้ายดอกไม้ด้านนอกทำเนียบแสดงความยินดีกับปราโบโวและยิบรานหรือไม่ก็ขอบคุณวิโดโดสำหรับการรับใช้ประเทศตลอด 10 ปีของเขา

ผู้สนับสนุนของวิโดโดก็เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองเพื่ออำลาผู้นำอินโดนีเซียที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งเช่นกัน
อันเนตา ยูเนียร์ ผู้ยืนดูซึ่งโบกมือให้ขบวนรถของวิโดโดขณะที่ขบวนรถเคลื่อนผ่านผู้สนับสนุนอย่างช้าๆ ก่อนพิธีการ กล่าวว่าเธอจะคิดถึงเขา แต่ปราโบโวเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง

“ปราโบโวจะสานต่อการพัฒนาที่โจโกวีเริ่มต้นไว้ มีความต่อเนื่อง นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ” เธอกล่าว แต่โทเบียส บาซูกิ กรรมการผู้จัดการของ Aristoteles Consults บริษัทประเมินความเสี่ยงที่มีฐานอยู่ในจาการ์ตา กล่าวกับอัลจาซีราว่า แม้ว่าจะมีคำมั่นสัญญาเสมอเกี่ยวกับความต่อเนื่องเนื่องจากความเป็นพันธมิตรของเขากับวิโดโด แต่เขาคาดหวังว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในรูปแบบอื่นภายใต้การนำของปราโบโว

เขากล่าวว่า “ผมคิดว่าจะมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการมุ่งเน้นการสร้างทุนมนุษย์” เมื่อเทียบกับการมุ่งเน้นของวิโดโดในโครงสร้างพื้นฐาน

ในนโยบายต่างประเทศ บาซูกิคาดการณ์ว่าปราโบโวจะ “มีท่าทีโอ่อ่าและยิ่งใหญ่กว่า” เมื่อเทียบกับนโยบาย “มองเข้าข้างใน” ของอดีตประธานาธิบดีคนก่อนแต่เขายังกล่าวอีกว่าประธานาธิบดีคนใหม่น่าจะพยายามรักษาสมดุลของความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซียกับจีนและสหรัฐอเมริกา

ด้านประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนส่งข้อความแสดงความยินดีถึงปราโบโวเมื่อวันอาทิตย์ โดยระบุว่าเขาจะรักษา “การสื่อสารเชิงกลยุทธ์อย่างใกล้ชิด” กับคู่หูคนใหม่ของอินโดนีเซีย สถานีวิทยุกระจายเสียงของรัฐ CCTV รายงาน

‘พม่า’ ทะลักชายแดนแห่ขอทำ ‘บัตรหัว 0’ คึกคัก หวังฟอกขาวได้สัญชาติไทยแม้ราคาพุ่งใบละ 3 แสนบาท

(21 ต.ค. 67) ช่วงนี้เรื่องราวฝั่งเมียนมาน่าจะไม่ปังนัก เนื่องจากดิไอคอนส่องแสงสว่างวาบไปทั่วปฐพีขนาดคนพม่ายังรู้และเป็นกระแสในวงโซเชียลเมียนมาด้วย

แต่เอย่าอยากให้พักดรามาร้อน ๆ แล้วหันมารับรู้ประเด็นร้อนในโลกความเป็นจริงที่ฟังแล้วเราควรจะปวดขมับดีหรือจะชั่งมันดี

ประเด็นแรกมีอยู่ว่าตอนนี้ตามแนวชายแดนไทยมีคนพม่าจำนวนมากเข้ามาเพื่อจะทำ ‘บัตรหัว 0’

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่าบัตรหัว 0 คือบัตรอะไร? บัตรหัว 0 หรือบัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนไม่มีสัญชาติไทยนั่นเอง

ซึ่งหลายคนรู้จักกันในชื่อบัตรชมพู หรือบัตร 10 ปีที่เอย่าเคยเล่ามาในบทความก่อนๆแล้ว โดยข้อดีของบัตรนี้คือถ้าพ่อแม่ถือบัตรหัว 0 ลูกที่เกิดมาจะสามารถขอสัญชาติไทยได้เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์นั่นเอง นั่นทำให้คนพม่าแห่เข้ามาเพื่อมารอทำบัตรหัว 0 กันอย่างเนืองแน่น เพราะเขาคิดว่าหากถูกถอนสัญชาติหรือพาสปอร์ตหมดอายุและไม่ต่ออายุด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม คนกลุ่มนี้ก็สามารถอาศัยในไทยได้ เพราะใช้บัตรดังกล่าว แถมบัตรนี้ออกโดยทางการไทยจะขอลี้ภัยไปประเทศไหนก็ง่ายดายเพราะมีข้อมูลยืนยัน

และที่เป็นประเด็นร้อนในขณะนี้คือข้าราชการฝ่ายปกครองต่างพยายามออกบัตรหัว 0 กันอย่างคึกคัก เพราะคิดราคาต่อใบ ใบละ 200,000 - 300,000 บาทต่อคน จนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดต้องลงมาลุยเองเรื่องถึงได้เงียบลง แหม่ช่างเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนให้คึกคักเสียจริง

ประเด็นที่ 2 ก็ร้อนแรงไม่แพ้กันว่ากันว่ามีขบวนการพม่ารับขนเด็กจากชายแดนมายังกรุงเทพโดยขบวนการนี้จะทำการสวมสูติบัตรเด็กคนอื่นที่ไปเช่ามาใบละ 500-1,000 บาท

โดยเด็กกลุ่มที่มีฐานะดีหน่อยถูกพาไปหาพ่อแม่ตัวจริงในกรุงเทพ ในขณะที่เด็กอีกกลุ่มเป็นเด็กที่พ่อแม่ขายมาให้เป็นแรงงานในไทย โดยขบวนการนี้คิดค่าดำเนินการ 3,000-7,000 บาท  ข่าวว่ากันว่า กลุ่มที่ทำงานตรงนี้มี 2 กลุ่มคือกลุ่มพม่าเชื้อสายแขกกับกลุ่มพม่าชาติพันธุ์ที่อาศัยในไทยมาเป็นเวลานาน โดยมีข้าราชการไทยบางคนร่วมขบวนการ

เห็นเรื่องที่ 2 นี่เอย่าคิดถึงลุงตู่เลยที่ท่านพยายามอย่างหนักเพื่อให้ไทยเราปลอดการค้ามนุษย์แต่สุดท้ายก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ร่วมมือกับคนต่างด้าวทำลายชื่อเสียงของประเทศไทย

ว่าแล้ว....เราควรจะวางเฉยแล้วเสพดรามากันต่อไปหรือจะเริ่มสอดส่องภัยใกล้ตัวขึ้นอยู่ตัวพวกเราด้วยกันเอง

‘แบงก์ชาติจีน’ ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% หวังฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน - จูงใจคนซื้อบ้าน

(21 ต.ค. 67) ‘แบงก์ชาติจีน’ ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ระยะ 1 ปี และ 5 ปี ลง 0.25% ขณะที่นักวิเคราะห์มองการลดดอกเบี้ยอย่างเดียวอาจกระตุ้นเศรษฐกิจไม่พอ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีลง 0.25% สู่ระดับ 3.1% จากระดับ 3.35% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีลง 0.25% สู่ระดับ 3.6% จากระดับ 3.85%

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองบ้าน

การประกาศของ PBOC ในวันนี้สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และสอดคล้องกับที่พาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการ PBOC แถลงในการประชุมด้านการเงินที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) ว่า อัตราส่วนการกันสำรอง (RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ อาจลดลงอีก 0.25-0.50% ภายในสิ้นปี โดยขึ้นอยู่กับสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งเปิดโอกาสสำหรับการดำเนินมาตรการผ่อนคลายด้านนโยบายเพิ่มเติม

เชน โอลิเวอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ AMP กล่าวว่า จีนกำลังใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง โดยการลดอัตราดอกเบี้ย แต่เขาก็เตือนว่าแค่ลดดอกเบี้ยอย่างเดียวอาจไม่พอที่จะทำให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้ดีเท่าที่ควร จีนอาจต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐ หรือลดภาษี เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

จื้อเหว่ย จาง ประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Pinpoint Asset Management มองว่าอัตราดอกเบี้ยในจีนยังมีช่องว่างให้ปรับลดลงอีก และคาดการณ์ว่านโยบายการเงินของจีนจะยังคงผ่อนคลายต่อไปในอนาคตอันใกล้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ พานกล่าวในการประชุมดังกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 7 วันจะลดลง 0.20% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางจะลดลง 0.30% และยังกล่าวด้วยว่าอัตราดอกเบี้ย LPR จะลดลง 0.20-0.25% ในวันที่ 21 ต.ค.นี้

สหรัฐฯ กุมขมับ!! หลังเอกสารลับสุดยอดโผล่สื่อโซเชียล ยอมรับเป็นของจริง ปูดแผน ‘อิสราเอล’ เตรียมโจมตี ‘อิหร่าน’

(21 ต.ค. 67) รัฐบาลสหรัฐฯ เครียด! เมื่อปรากฏเอกสารลับสุดยอดหลุดออกไปเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ที่ระบุชัดว่า อิสราเอลกำลังเตรียมแผนการโจมตีอิหร่าน เพื่อตอบโต้ที่กรุงเทล-อาวีฟ ถูกอิหร่านระดมยิงด้วยขีปนาวุธ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2024 ที่ผ่านมา

โดย ไมค์ จอห์นสัน โฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อว่า ทางรัฐบาลวอชิงตันมีความกังวล เมื่อทราบว่ามีเอกสารลับสำคัญ 2 ชิ้นที่เอกสารดังกล่าวมาจากสำนักงานข่าวกรองเชิงพื้นที่แห่งสหรัฐอเมริกาและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ

เอกสารฉบับแรกมีชื่อว่า “อิสราเอล: กองทัพอากาศกำลังเตรียมการโจมตีอิหร่านและดำเนินการฝึกทหารกองใหญ่ครั้งที่ 2"

ส่วนฉบับที่สองชื่อ “อิสราเอล: กองกำลังป้องกันได้เตรียมอาวุธสำคัญ และ อากาศยานไร้คนขับ เกือบสมบูรณ์แล้วสำหรับการโจมตีอิหร่าน" 

ซึ่งเอกสารทั้ง 2 ฉบับ ระบุวันที่ 16 ตุลาคม 2024 หลังจากนั้นเพียงวันเดียว เอกสารก็ถูกเผยแพร่ลงในสื่อ Telegram ผ่านเพจสำนักข่าวสายอิหร่านในกรุงเตหะราน และที่สำคัญคือ ทางการสหรัฐฯ ยอมรับว่า เอกสารทั้ง 2 ฉบับเป็นของจริง

โดยปกติแล้ว เอกสารลับระดับนี้ จะถูกเผยแพร่เฉพาะแค่ในกลุ่ม “Five Eyes" พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐอเมริกา ที่ประกอบด้วย อังกฤษ, แคนาดา, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เท่านั้น

โฆษกสหรัฐฯ กล่าวว่า จะมีการสืบสวนร่วมกันระหว่าง กระทรวงกลาโหม, หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ และ FBI เพื่อตรวจสอบว่าเอกสารลับชิ้นหลุดออกไปได้อย่างไร ไม่ว่ามาจากสมาชิกคนในสำนักหน่วยข่าวกรอง หรือถูกแฮ็ก และใครเป็นคนเผยแพร่เอกสารลับทางออนไลน์เป็นคนแรก

ด้านกองทัพอิสราเอลไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ ที่เกี่ยวกับเอกสารลับสหรัฐฯ ที่พาดพิงถึงแผนปฏิบัติการทหารของตนในอิหร่าน 

ส่วนสื่ออิสราเอลออกมาคาดการณ์ว่า กองทัพอิสราเอลน่าจะใช้ขีปนาวุธ  Blue Sparrow ที่มีพิสัยยิงไกลถึง 2,000 กิโลเมตร และออกปฏิบัติการโจมตีไม่เกินเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งกองทัพอิสราเอลได้มีการทดสอบขีปนาวุธของตนอย่างลับๆมาตลอด เพราะข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของขีปนาวุธถือเป็นความลับสุดยอด ที่จะแพร่งพรายให้ศัตรูล่วงรู้ไม่ได้เด็ดขาด 

แต่จากข้อมูลลับของสหรัฐฯ ที่หลุดออกมา ทำให้เชื่อว่า อิสราเอลไม่น่าจะใช้หัวรบนิวเคลียร์โจมตีอิหร่าน ซึ่งเป็นไปตามข้อเรียกร้องของโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ที่เคยออกมากล่าวว่า สหรัฐอเมริกาไม่สนับสนุนการใช้อาวุธนิวเคลียร์ หรือโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน 

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ สงครามในตะวันออกกลางจะยังคงนองเลือดต่อไป แม้ ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกองกำลังฮามาสในกาซา จะถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลไปแล้วก็ตาม 

เพจดัง เผย โลกสองค่ายแบ่งข้างชัดเจน ‘พญามังกร-พญาอินทรี’ ทำยอด iPhone ในจีนตกฮวบ จากเหตุใช้งานในจีนลำบาก

(22 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘สะใภ้จีนbyฮูหยินปักกิ่ง’ ได้โพสต์ข้อความแสดงถึงความขัดแย้งทาง ‘ภูมิรัฐศาสตร์’ อย่างรุนแรงระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ผ่านการใช้มือถือ ความว่า

ตอนนี้โลกแบ่งเป็น2ค่ายอย่างเห็นได้ชัด

ถ้าใครจะมาทำงาน/เรียนที่จีนแนะนำให้ใช้แอนดรอยด์ทั้งหมด เพราะมันจะมีปัญหามาก …

โดยเฉพาะมือถือ/appในมือถือ/notebookของAppleในจีน
คนที่ทำงานระหว่างไทย-จีน-USA คือต้องมีทุกอย่างx2 เพราะ ปัญหามันเยอะขึ้นทุกวัน…เช่น
ใช้iPhoneเปิดlinkจีนไม่ได้ 
ใช้apple id ต่างชาติโหลดappจีนไม่ได้ 
ใช้iPhoneเปิดเอกสารที่คนจีนส่งต่อ ๆ มาไม่ได้

เวลาติดต่อกับราชการจีน การใช้iPhoneคือตุย แต่พอควักหัวเหว่ย/แอนดรอยด์ออกมา ทุกอย่างแก้ปัญหาได้ในมือถือเครื่องเดียว เครื่องiPhoneรุ่นใหม่ในจีนขายยาก ตัวล่าสุดก็ตัดfeatureเด็ดออก (Open Ai) พอจะเอารุ่นเก่าไปturnก็ไม่ได้ราคา เพราะตลาดมือ 2 คนจีนไม่เอา iPhone แล้ว 

(เราก็เป็นคนนึงที่ใช้iphoneทั้งset ต้องซื้อใหม่ทั้งเซ็ทเช่นกัน)

‘สหรัฐ’ ออกจดหมายเปิดผนึกขู่ ‘เกาหลีเหนือ’ หลังข่าวกรองแจ้งอาจแอบส่งทหารช่วย ‘รัสเซีย’

(22 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘หรรสาระ By Jeans Aroonrat’ ได้โพสต์ถึงสถานการณ์การรบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่อาจจะมีการส่งทหารจากเกาหลีเหนือเข้าไปเพิ่มเติม ความว่า 

หลังจากที่ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนได้ออกมาโวยวายหนักว่าพบทหารเกาหลีเหนือ แฝงตัวอยู่ในกองทัพรัสเซียนับหมื่นนาย ที่สอดคล้องกับรายงานของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ที่ยืนยันว่า รัฐบาลคิม จอง-อุน ได้ส่งหน่วยรบพิเศษเฟสแรกกว่า 1,200 นายไปฝึกรบที่รัสเซียเรียบร้อยแล้ว 

และมีการประเมินคร่าวๆว่า เกาหลีเหนือเตรียมที่จะส่งทหารไปเสริมให้กองทัพรัสเซียในเฟสต่อๆไป ไม่น้อยกว่า 10,000 นาย อีกทั้งยังมีคลิปวิดีโอ ที่มีการตั้งแถวแจกเครื่องแบบทหารรัสเซียให้กับกองทหารจากเกาหลีเหนือผ่านสื่อท้องถิ่นอีกด้วย

สายเกาหลีใต้ยังรายงานอีกด้วยว่า ตอนนี้มีทหารเกาหลีเหนือ ซ้อมรบปะปนอยู่ในค่ายทหารรัสเซียหลายแห่งในเมืองทางภาคตะวันออกไกล อาทิ วลาดีวอสตอค, อัสซูริสค์, คาบารอฟสค์ และ บลาโกเวชเชนสค์ พร้อมออกปฏิบัติการรบด่านหน้าเมื่อใดก็ได้

นอกจากนี้ยังมีการออกบัตรประจำตัวปลอมให้กับทหารเกาหลีเหนือ เพื่อจะใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงว่า พลทหารหน้าตาโอ้ปป้าแดนเหนือเหล่านี้ เป็นพลเมืองรัสเซียของแทร่ ไม่ใช่ทหารต่างด้าวของสหายคิม

เมื่อมีคนมาฟ้องเข้าหู พร้อมแจงหลักฐานประกอบ ก็ร้อนถึงทำเนียบขาว ในฐานะลูกพี่ใหญ่ของ NATO ที่จะอยู่เฉยไม่ได้ คณะกรรมาธิการสำนักหน่วยข่าวกรองจึงร่างจดหมายเปิดผนึกเผยแพร่ออกสื่อถึง โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เพื่อรายงานข้อมูลทหารเกาหลีเหนือในรัสเซีย ที่ได้รับเรื่องจาก เซเลนสกี้ และสายลับเกาหลีใต้ให้รับทราบทั่วกัน 

เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกยังเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐ และพันธมิตร NATO เตรียมรับมือกับการสนับสนุนด้านกำลังทหารของเกาหลีเหนือโดยทันที หากข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองของทั้ง 2 ชาติที่รายงานมาเป็นความจริง

และเมื่อใดก็ตามที่พบว่า มีทหารเกาหลีเหนือใช้อาวุธโจมตียูเครนจากพรมแดนรัสเซีย หรือบุกรุกข้ามฝั่งมายังยูเครน จะถือว่าเป็นการล้ำเส้น ที่สหรัฐอเมริกา และ NATO จะต้องตอบโต้เพื่อยับยั้งการขยายวงของสงครามที่จะรุนแรง บานปลายมากขึ้น 

แต่ทั้งนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจดหมายเปิดผนึกถึงทำเนียบขาว แต่เนื้อหาเหมือนการส่งสารเตือนไปยังเกาหลีเหนือ จะได้รับการตอบสนองจากบ้านคิมหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าทุกอย่างมีการวางแผนไว้พร้อมแล้ว ตั้งแต่ที่วลาดิมีร์ ปูติน มาเยือนเกาหลีเหนือเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน ผ่านมาแค่ไม่กี่เดือน ก็มีข่าวทั้งการส่งอาวุธ และ ทหารพร้อมรบจากเกาหลีเหนือไปรัสเซียอย่างต่อเนื่อง 

รวมถึงความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ การขู่โจมตีกันด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ หรือการส่งโดรนรุกล้ำชายแดน และวันนี้เกาหลีใต้ได้ออกมาแฉ แผนการส่งทหารเกาหลีเหนือไปยังรัสเซียอย่างละเอียด ที่แสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งของสงครามยูเครน ได้ขยายวงมายังเอเชียเรียบร้อยแล้ว

หลายฝ่ายจึงหวั่นเกรงว่า การส่งทหารเกาหลีเหนือไปรัสเซีย อาจเป็นชนวนเหตุที่นำไปสู่สงครามใหญ่ ที่ใกล้เคียงกับสงครามโลกได้เหมือนกัน ยกเว้นว่าหากมีทหารโอ้ปป้าโสมแดงถูกจับ จะพูดภาษารัสเซียได้ ร้องเพลงชาติรัสเซียเป็น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

จับตา ‘ละครสั้น’ Soft Power มาแรงจากดินแดนมังกร อุตสาหกรรมแสนล้าน ชง พัฒนาคุณภาพการถ่ายทำ-เนื้อเรื่อง

(22 ต.ค. 67) ทุกวันนี้น้อยคนที่จะหนีจาก ‘ละครสั้นจีน’ พ้น เพราะว่าละครสั้นจีนตามติดไปแทบจะทุก ๆ แพลตฟอร์มวิดีโอ

และด้วยทั้งพล็อตเรื่องและโครงเรื่องที่เรียบง่าย แต่สั้น-กระชับ น่าติดตามจึงทำให้มีแฟนคลับละครสั้นจีนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว 

โดยละครสั้นจากประเทศจีนได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดต่างประเทศ ตามข้อมูลจาก iiMedia Research ระบุว่า ในปี 2566 ขนาดตลาดละครสั้นออนไลน์ในจีนอยู่ที่ 37,390 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึง 267.65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมทั้งคาดการณ์ว่าภายในปี 2570 อัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 100,680 ล้านหยวน

และจากข้อมูลพบว่าเมื่อปี 2566 การถ่ายทำละครสั้นและขนาดเล็กของจีนที่ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้องของจีน มีจำนวน 3,574 เรื่อง และจำนวน 97,327 ตอน 

โดยลักษณะของละครสั้นจีน หรือที่มีอีกหลายชื่อ เช่น Micro-Drama, Short Play นั้นจะมีความยาวต่อตอนสั้นมาก คือไม่เกิน 2 นาที โดย 1 เรื่องมีไม่เกิน 100 ตอน สามารถรับชมจนจบเรื่องในเวลาเพียงประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น 

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ละครสั้นและขนาดเล็กเป็นกระแสที่มาแรงในสื่อออนไลน์จีน เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบันเปลี่ยนไปตามความเร่งรีบของสังคม ละครสั้นและขนาดเล็กจึงตอบโจทย์ของผู้ชมละครยุคใหม่ 

ประกอบกับผู้จัดทำละครสามารถผลิตละครออกมาในตลาดได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้ชม เนื่องจากต้นทุนการถ่ายทำไม่สูง เนื้อหาสั้นกระชับ แต่ทั้งนี้เนื้อหาของละครและคุณภาพของละครต้องถูกใจผู้ชมถึงจะสามารถแข่งขันได้ โดยปัจจุบันเนื้อเรื่องละครสั้นมีการสอดแทรกเรื่องการท่องเที่ยว ด้านศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนด้านธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ ซึ่งนำประโยชน์การต่อยอดไปยังธุรกิจสาขาอื่นๆ 

ทั้งนี้ ละครสั้นคือถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการพัฒนาธุรกิจละครไทย และเป็นอีกหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญในการส่งเสริมวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนสู่ต่างประเทศ รวมถึงเป็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยไปสู่ต่างประเทศอีกช่องทางหนึ่งด้วย

ไม่ใช่แค่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ที่เห็นโอกาสในกระแส ‘ละครสั้น’ เท่านั้น โดยในประเทศจีนเองเริ่มลงทุนและทำการตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ทำให้กระแสละครสั้นจีนได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วไปทั่วทุกมุมโลก

จากการสำรวจพบว่า ละครสั้นที่ได้รับความนิยม มักจะเป็นพล็อตเรื่องมักมีการหักมุม รวมไปถึงเนื้อหาแฟนตาซีเกินจริง ความแค้น และความรัก นอกจากนี้ยังมีการปรับเนื้อหาให้เข้ากับรสนิยมและวัฒนธรรมของผู้ชมในแต่ละประเทศ

ในระยะต่อไปนั้นเพื่อพัฒนาคุณภาพของละครสั้นจีนให้เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่ทรงพลังของประเทศ ทางการจีนได้วางแผนให้ผู้ผลิตละคร ทำการซื้อลิขสิทธิ์ของทั้งนวนิยาย มานฮวา ยอดนิยมของจีนมาทำเป็นละครสั้นเพื่อส่งออกวัฒนธรรมไปยังต่างประเทศอย่างจริงจัง 

และจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าลักษณะการจ่ายเงินเพื่อดูในปัจจุบันของละครสั้น ยังเป็นการจ่ายแบบรายตอนในราคาตอนละประมาณ 10 บาท หรือ 2 หยวน หากในอนาคตทางแพลตฟอร์มมีการปรับรูปแบบเป็นแบบ Subscription รายเดือน โอกาสในการทำการตลาดในไทยมีแนวโน้มสดใสมากกว่าในปัจจุบัน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top