Saturday, 17 May 2025
WeekendNews

'กรณ์' ชี้!! ราคาน้ำมันลด เพราะกลไกตลาดโลก ยัน!! โรงกลั่นยังฟันกำไร ไม่ช่วยประชาชน

'กรณ์' ส่งจดหมาย และสติกเกอร์รณรงค์ ลดค่าการกลั่น = ลดราคาน้ำมัน ถึง นายก – รมว.พาณิชย์ - รมว.พลังงาน ชี้ลดราคาน้ำมันได้อีกมาก พร้อมระบุ  2-3 วันนี้ น้ำมันลดมาจากกลไกตลาดโลก ไม่เกี่ยวบริหารจัดการ ชี้โรงกลั่นยังฟันกำไร ไม่ช่วยประชาชน 

(8 ก.ค.65) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เดินทางไปยังศูนย์พัสดุสินค้า Flash Express พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคกล้า ภูเก็ต นายเทมส์ ไกรทัศน์ เพื่อส่งสติกเกอร์รณรงค์ “ลดค่าการกลั่นน้ำมัน = ลดราคาน้ำมัน” ให้กับ 3 ผู้มีอำนาจในการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง ได้แก่ นายกรัฐมนตรี, รมว.พาณิชย์, รมว.พลังงาน 

หัวหน้าพรรคกล้า ไลฟ์สดโดยระบุว่า วันนี้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊ซโซฮอลล์ลดลงสูงสุด 3 บาท แต่ความจริงสามารถลดได้มากกว่านี้ ซึ่งถ้าเทียบกับเมื่อเดือนมิถุนายนที่พรรคกล้าออกมาเรียกร้องให้ลดค่าการกลั่นจนถึงวันนี้ ค่าการกลั่นลดลงไปถึง 5 บาทต่อลิตรแล้ว แต่ราคาหน้าปั๊มยังไม่ลดลง 

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมจึงอยากจะช่วยนำเสนอวิธีการที่จะให้พวกเรามีส่วนร่วมที่จะส่งสัญญาณต่อผู้อำนาจในเรื่องนี้ คือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และในส่วนของรัฐบาลเองว่า ราคาน้ำมันลดลงมา 3 บาทนั้น ประชาชนยังเดือดร้อน ข้าวของยังแพงอยู่มาก และราคาที่ลดก็เพราะราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลด ยังไม่ได้ลดในส่วนของกำไรจากค่าการกลั่น และค่าการตลาดที่สูงเกินไปจากผู้ประกอบการแต่อย่างใด  

ประชาชนสอบถามมายังเพจส่วนตัวของผม และเพจของพรรคกล้าเป็นจำนวนมาก ว่าจะทำอย่างไร ที่จะส่งเสียงไปยังรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้รู้ว่าเขาเดือดร้อนกันมากจากปัญหาราคาน้ำมัน เราก็เลยเสนอง่ายๆ โดยการผลิตสติกเกอร์ ลดค่าการกลั่น=ลดค่าน้ำมัน ขึ้นมา ซี่งถ้าแฟนเพจท่านใดต้องการให้เราส่งให้ก็ขอให้ส่งชื่อที่อยู่เบอร์โทร.เข้ามาเราจะจัดส่งให้” หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรณ์ ได้ส่งสติกเกอร์และข้อความรณรงค์ ใส่ซอง และจ่าหน้าซองถึง 3 ผู้มีอำนาจโดยตรง ได้แก่ นายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยส่งไปที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้นำไปติดรถและกระตุ้นให้ใช้อำนาจที่กระทรวงพาณิชย์มี ด้วยกฎหมายที่มีในมือคือ พรบ.ราคาสินค้าและบริการบวกกับตำแหน่งของที่มีอยู่ในคณะกรรมการกำกับนโยบายพลังงานเพื่อช่วยขับเคลื่อนการปรับลดค่าการกลั่นในเรื่องของค่าการตลาดเพื่อนำไปลดราคาน้ำมันแบ่งเบาภาระภาระของประชาชน คนที่สองคือ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยส่งไปที่กระทรวงพลังงาน เนื่องจากมีบทบาทหน้าที่โดยตรงในการบริหารจัดการค่าการกลั่นและค่าการตลาด โดยนายกรณ์ระบุว่า ความจริงกระทรวงพลังงานก็อยู่ในบริเวณเดียวกันกับ ปตท. ซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันที่เป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ เพียงแค่ข้ามถนนผ่านร้านกาแฟอะเมซอนก็ถึงแล้ว ก็ขอฝากท่านรมว.พลังงาน ช่วยส่งถึง ปตท.ด้วย 

และสุดท้ายคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยส่งไปที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายกรณ์ได้แสดงความเห็นใจต่อภารกิจอันมากมายที่ท่านมี แต่ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องข้าวของที่แพงขึ้นมาก ก็เป็นเรื่องที่ตนและนายกรัฐมนตรีคิดตรงกัน  และโดยส่วนตัวตนก็ถือเป็นหน้าที่ของนักการเมืองคนหนึ่งที่จะเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อให้ท่านประกอบใช้ในการตัดสินใจ วันนี้ท่านอาจจะรู้สึกคลายความกดดันเพราะราคาน้ำมันลดลงมา แต่มันสามารถลดได้มากกว่านี้ เพราะราคาที่ลดลงมันเป็นเพราะราคาน้ำมันในตลาดโลก ไม่ใช่เกิดจากการบริหารจัดการ

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เสด็จพระราชดำเนิน ทอดพระเนตรสายการผลิตรถโดยสารไฟฟ้า-แบตฯ EA

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ทอดพระเนตรสายการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าและโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม ณ บริษัท แอ๊บโซลูท แอสแซมบลี จำกัด และ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด

(9 ก.ค.65) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสายการผลิตรถโดยสารไฟฟ้า ณ บริษัท แอ๊บโซลูท แอสแซมบลี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA) เป็นบริษัทพลังงานของคนไทย ที่เริ่มต้นจากธุรกิจไบโอดีเซล และขยายสุ่ธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของพลังงานสะอาดที่มีประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ ลดการนําเข้า เชื้อเพลิง และด้านสิ่งแวดล้อมที่ลดปัญหามลพิษ และลดภาวะโลกร้อน ให้ความสําคัญต่อการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ ประกอบกับการเปลี่ยนผ่านในเทคโนโลยียานยนต์แบบเดิมที่ใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนมาเป็นยานยนต์ไฟฟ้า เพิ่มเสถียรภาพของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพิ่มประสิทธิภาพในระบบผลิตและจําหน่ายไฟฟ้าของประเทศ ผลักดันให้เกิดผลสําเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็น New S-Curve ตามยุทธศาสตร์ ของประเทศ 

ในการนี้ ทรงทอดพระเนตรวีดิทัศน์กระบวนการเชื่อมรถการชุบสีรถโดยสารไฟฟ้า และสายการประกอบรถโดยสารไฟฟ้า ซึ่ง บริษัท แอ๊บโซลูท แอสแซมบลี จำกัด ได้สร้างโรงงานผลิตรถโดยสารไฟฟ้าภายในประเทศ ได้แก่ รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 'MINE Bus' เรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า 'MINE Smart Ferry' ที่เปิดให้บริการแล้วในแม่น้ำเจ้าพระยา และรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า ตลอดจนสถานีชาร์จ อัดประจุไฟฟ้าที่มีชื่อว่า 'EA Anywhere' เพื่อยกระดับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย ช่วยลดมลภาวะอย่างยั่งยืน

จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยัง บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งบริษัทในกลุ่มย่อยของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) โดยมีนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เข้าเฝ้าทูลรายงาน ซึ่งบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจรที่ทันสมัยและมีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน 

ในการนี้ ทอดพระเนตรอาคารผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า / นิทรรศการ Blue Mind City / ตัวอย่างวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน / ตัวอย่างชิ้นงานที่ถูกตัดด้วยกระบวนการ High Speed Die Cutting / กระบวนการอบสุญญากาศชิ้นงานให้แห้งสนิทเพื่อใช้ประกอบเป็นเซลล์แบตเตอรี่ จากนั้นฉลองพระองค์ชุดกาวน์ ทอดพระเนตรเครื่องจักรและกระบวนการกำจัดแก๊สออกจากเซลล์แบตเตอรี่ / ตัวอย่าง Cell Module ซึ่งเป็นการนำเซลล์แบตเตอรี่ที่ได้พ่วงต่อกันเพื่อให้ได้พลังงานที่สูงขึ้น เหมาะสมต่อการใช้งานของยานยนต์ไฟฟ้า

'จุติ' ยัน!! เบี้ยยังชีพพิเศษผู้สูงอายุ งวดแรกวันที่ 19 ก.ค.นี้ แน่นอน

(9 ก.ค.65) นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในรายการ 'คุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี' ว่า..

ผู้สูงอายุที่จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมเป็นเบี้ยยังชีพพิเศษ หลังได้รับผลกระทบช่วงโควิด-19 ตามมติคณะรัฐมนตรี ได้แก่ ผู้สูงอายุจำนวน 10.95 ล้านคน ระยะเวลา 6 เดือน ระหว่าง เม.ย. – ก.ย. 2565 จะแบ่งตามช่วงอายุ ระหว่าง 100 – 250 บาทต่อคนต่อเดือน เพื่อบรรเทาผลกระทบเศรษฐกิจ โดยจะเริ่มจ่ายครั้งแรกวันที่ 19 ก.ค. เป็นการจ่ายย้อนหลังตั้งแต่เดือน เม.ย. – ก.ค.  

ส่วนครั้งที่ 2 วันที่ 19 ส.ค. และครั้งที่ 3 วันที่ 19 ก.ย. จึงขอให้ผู้สูงอายุได้นำเงินที่รัฐบาลให้ไปใช้ประโยชน์ให้เต็มที่

หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นปลื้ม!! กรี๊ดสนั่น!! หลังได้แนบชิด 'แจ็คสัน หวัง'

(9 ก.ค.65) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ 'อุ๊งอิ๊ง' หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า...

Thank you for choosing @rosewoodbangkok 💙 we hope you and your team have the best time here. ไม่แปลกใจเลยทำไม #พี่แจ๊ค ถึงมีแฟนคลับทั่วโลก นอกจากความสามารถล้นเหลือแล้ว ยังเป็นคนที่น่ารักมากๆ อีกด้วย ประทับใจจจจ 🥰 #jacksonwang

'รศ.หริรักษ์' ชี้!! 'ธรรมศาสตร์' เคลียร์ปมเพลงคลุมเครือ ใครอยากใช้เพลงใดก็ได้ แต่ไม่เกี่ยวกับพวกเรา

(9 ก.ค.65) รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า...

ในที่สุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็มีคำชี้แจงเรื่องการใช้เพลงมหาวิทยาลัย เป็นเอกสารประชาสัมพันธ์ ยืนยันว่า เพลงพระราชนิพนธ์ยูงทองยังคงเป็นเพลงที่ใช้ในงานพิธี พิธีการ และงานที่เป็นทางการของมหาวิทยาลัยโดยมิได้มีการเปลี่ยนแปลง 

ก็เป็นเรื่องดีที่มหาวิทยาลัยมีความชัดเจนเกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทองเสียที ศิษย์เก่าจำนวนมากที่เข้าใจผิดบ้างถูกบ้างจะได้เข้าใจตรงกัน

อย่างไรก็ดี การชี้แจงของมหาวิทยาลัยต่อประกาศขององค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) เกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง ดูจะคลุมเครือยังไงไม่ทราบ เหมือนกับคำโบราณที่ว่า...

"ไปไหนมาสามวาสองศอก" มหาวิทยาลัยชี้แจงว่า...

"มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีเพลงที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น 20 เพลง (ซึ่งความจริงน่าจะมากกว่านั้น) 
.......... ทั้งนี้องค์การนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ) สภานักศึกษาและกลุ่มชุมนุมกิจกรรมนักศึกษาทั้งหมด 59 ชุมนุม สามารถเลือกใช้เพลงต่างๆ ข้างต้นในการดำเนินกิจกรรมของนักศึกษาได้ตามโอกาสและความเหมาะสม"

ในขณะที่ อมธ. ประกาศว่า...

"อมธ ประกาศให้ใช้เพลงประจำมหาวิทยาลัย ทำนองมอญดูดาวแทนเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทองในทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยอมธ"

คำชี้แจงของมหาวิทยาลัยแปลว่าอะไรกันแน่?

INTERLINK บุกภาคกลาง ยกทัพสินค้า หั่นราคา ถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!!

(9 ก.ค. 65) คุณสมบัติ อนันตรัมพร เปิดงาน Mid Year ภาคกลาง ตอกย้ำความมั่นใจ นำสินค้าคุณภาพดี ราคาถูก และรับประกันถึง 30 ปี พร้อมทั้ง Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการ ในงานลดกระหน่ำกลางปี เพื่อให้ลูกค้า ดีลเลอร์ได้ซื้อสินค้าราคาดีเพื่อทำธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและมีกำไรมากขึ้น โดยให้ความเชื่อมั่นว่าราคาสินค้าที่ซื้อในงาน Mid Year นี้จะเป็นราคาที่ดีที่สุดในปีนี้แน่นอน ด้วยบรรยากาศที่สนุกสนานทั้ง Onsite และ Online ผ่านระบบ zoom เรียกได้ว่าขนคาราวานสินค้ามาครบทุกหมวด Cabling, UTP, Networking, Fiber, LINK Rack, German Rack Tools & Tester Telephone Coaxial และ น้องใหม่มาแรงสายไฟฟ้า Solar 

'อีลอน มัสก์' เท Twitter ล้มดีลซื้อ 4.4 หมื่นล้านเหรียญ ทำหุ้น Twitter ร่วงทันตา ฟากผู้บริหาร Twitter จ่อฟ้อง

สายปั่นในตำนาน 'อีลอน มัสก์' ประกาศล้มดีลซื้อกิจการบริษัท Twitter มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว (8 ก.ค.) เนื่องจากฝ่ายหลังไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีปลอมในระบบ ทำเอาราคาหุ้น Twitter ดิ่งลงทันที 6%

ราคาหุ้น Twitter ร่วงลงอย่างหนัก 6% ในการซื้อขายหลังปิดตลาดวานนี้ (8 ก.ค.) จากการที่ นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเทสลา ประกาศในวันเดียวกันว่า เขาได้ ยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการ ทวิตเตอร์ อิงค์ วงเงิน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.56 แสนล้านบาทแล้ว หลังจากที่ทวิตเตอร์ไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีปลอมใน Twitter ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการซื้อกิจการครั้งนี้

การประกาศล้มดีลของนายอีลอน มัสก์ ทำให้ราคาหุ้น Twitter ปิดตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) ร่วงลง 5.10% และยังร่วงต่อเนื่อง 6% หลังปิดตลาด ขณะที่ราคาหุ้นเทสลาปิดพุ่งขึ้น 2.54% และยังคงพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในการซื้อขายหลังปิดตลาด

ทนายความของนายมัสก์ ระบุว่า Twitter ไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีปลอมหรือบัญชีสแปมใน Twitter ซึ่งถือเป็นปัจจัยพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจของ Twitter

‘ดร.นิว’ ติง ‘บิ๊กตู่’ สอบตกด้านความมั่นคง หลังสิงคโปร์ ‘เจอ-จับคนผิด’ วันเดียวเลี้ยวคุก

(9 ..65) เว็บไซต์ นสพ.The Straits Times ของสิงคโปร์ เสนอข่าว Man arrested for threatening PM Lee Hsien Loong on social media, following shooting of Japan's ex-PM Abe ระบุว่า เมื่อวันที่ 8 .. 2565 ตำรวจควบคุมตัวชายวัย 45 ปี หลังสืบทราบว่าชายคนดังกล่าวแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ ในลักษณะข่มขู่คุกคามให้ใช้ความรุนแรงกับ ลีเซียนลุง (Lee Hsien Loong) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ซึ่งวันดังกล่าวเป็นวันเดียวกับที่ ชินโซ อาเบะ (Shinzo Abe) อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงเสียชีวิต

โดยเกรียนคีย์บอร์ดคนดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในเวลา 15.10 . และถูกจับกุมได้ในอีก 5 ชั่วโมงต่อมา โดยตำรวจได้ยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถืออีก 4 เครื่องไปตรวจสอบ เบื้องต้นยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งหากถูกตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ใช้ความรุนแรง และศาลตัดสินว่าผิดจริงในจ้อหาดังกล่าว อาจถูกจำคุกได้สูงสุดถึง 5 ปี รวมถึงยังมีโทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย

สืบเนื่องจากเรื่องดังกล่าว ทางด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เรามีนายกอดีตทหารที่สอบตกด้านความมั่นคง

ประเทศสิงคโปร์สามารถรวบตัวคนที่โพสต์หมิ่นประมาทข่มขู่คุกคามนายกรัฐมนตรีได้ภายในวันเดียว อีกทั้งมีกระบวนการยุติธรรมที่รวดเร็วในการตัดสินคดีความที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง

เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทย เรามีนายกรัฐมนตรีที่เคยเป็นถึงอดีตผู้บัญชาการทหารบก แต่กลับไม่เคยสร้างอธิปไตยไซเบอร์ (Cyber Sovereignty) ปล่อยให้ประเทศชาติถูกรุกรานทางไซเบอร์มาโดยตลอด

นอกจากนายกรัฐมนตรีจะปล่อยให้ตัวเองถูกด่าแบบสาดเสียเทเสีย ยังไม่สามารถปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ ปล่อยให้มีการหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายกันอย่างเสรี

แม้คุณ ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha จะมีผลงานในด้านต่างๆ จำนวนไม่น้อย แต่กลับสอบตกด้านความมั่นคงอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะไร้สติปัญญาในการสร้างอธิปไตยไซเบอร์ และไม่มีน้ำยาในการผลักดันให้เกิดกระบวนการยุติธรรมที่รวดเร็วในการตัดสินคดีความที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง

ขณะที่ประเทศสิงคโปร์สามารถรวบตัวผู้กระทำความผิดด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะบนท้องถนนหรือในโลกออนไลน์ได้ภายในวันเดียว แล้วนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่รวดเร็วได้ในทันที

แต่ประเทศไทยกลับปล่อยให้มีการทำผิดกฎหมายและบ่อนทำลายความมั่นคงได้อย่างเสรี ตลอดจนมีกระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า แถมยังถูกแทรกแซงโดยขบวนการบ่อนทำลายความมั่นคงอีกเสียด้วย

อย่างที่บอกไปแล้ว คุณประยุทธ์มีผลงานไม่น้อยก็จริง แต่ผลงานด้านความมั่นคงและการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นสอบตกอย่างน่าอับอายที่สุด ไม่สมกับการเป็นชายชาติทหารเลยแม้แต่นิดเดียว

ถ้าประชาชนผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างผมหรือใครก็ได้ที่รู้หลักวิชา นั่งอยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรีในวันนั้น แล้วทำการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ระบอบประชาธิปไตยตามแนวทางที่ถูกต้องและมีความเป็นธรรม

นำไปสู่การทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนชาวไทยตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เราคงมีอำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชนอย่างแท้จริง อีกทั้งมีความมั่นคงแห่งรัฐที่แข็งแกร่งตามไปด้วย

‘ก้าวไกล’ แจงละเอียดปม 'เล่นบทสองหน้า' ฉะ ‘เพื่อไทย’ ทำศรัทธาปชช.ต่อก้าวไกลวูบ

(9 ..65) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส..บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิป พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีที่ประชุมรัฐสภา มีมติใช้สูตรหาร 500 คำนวณจำนวนส..บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง โดยมีรายละเอียดดังนี้…

ข้อเท็จจริง จากการประชุมวิปร่วมฝ่ายค้าน

ในการประชุมวิปของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ของเช้าวันอังคารที่ 5 กรกฎาคม เวลา10.00 น ณ ห้อง M1 หลังบัลลังก์ อาคารรัฐสภาโดยมีประธานวิปสุทิน คลังแสง เป็นประธานที่ประชุม และคุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว เข้าร่วม รวมถึงตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน ผม และส.. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ได้ยืนยันจุดยืนของพรรคก้าวไกลอย่างชัดเจนในที่ประชุม ว่าเราเห็นด้วยกับ สูตรหาร 100 ในแบบที่ ส..ปกรณ์วุฒิได้สงวนคำแปรญัตติ เพื่อให้แก้ไขปัญหา ส.. ปัดเศษที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดย ส..ปกรณ์วุฒิ ยังได้อธิบายในรายละเอียดของคำแปรญัตติ และวิธีการคำณวนให้ที่ประชุมได้รับทราบอีกด้วย

จึงเป็นที่มาที่พรรคก้าวไกล จะไม่ลงมติ “เห็นด้วย” กับร่างของกรรมาธิการที่ไม่มีการแก้ไข เพราะเป็นสูตรหาร 100 ที่ไม่ได้แก้ปัญหา ส.. ปัดเศษ

ซึ่งในที่ประชุม ผมยืนยันได้ว่า อย่างน้อย 2 ท่าน ที่รับทราบเจตนานี้เป็นอย่างดี ก็คือ คุณหมอชลน่าน และประธานวิปสุทิน เพราะเรายังถกกันต่อเนื่อง ว่า หากก้าวไกลยืนยันแบบนี้…

- การลงมติ ในคำถามที่ 1 และ 2 จะเป็นอย่างไร

- จะทำให้สูตรหาร 100 แพ้หรือไม่ เพราะเสียงของก้าวไกลจะไปรวมกับกลุ่มที่เอาสูตรหาร 500 ในคำถามแรก

ผมเองยังแสดงความเห็นว่า หากเรารวบรวมเสียงได้มากพอ ยังไงเราก็จะชนะในคำถามที่สองอยู่แล้ว ไม่น่าห่วง

(แต่หากเราชนะในคำถามที่หนึ่ง ก็จะได้สูตรหาร100 ที่ขาดความสมบูรณ์ ซึ่งต้องเรียนว่า พรรคก้าวไกล มีการหารือในที่ประชุม ส.. อย่างรอบคอบ ว่าเห็นด้วยให้ ส.. ปกรณ์วุฒิถอนคำแปรญัตติหรือไม่ แต่ที่ประชุมเห็นว่า สูตรหาร 100 แบบที่ ส..ปกรณ์วุฒิเสนอ จะสะท้อนเสียงของประชาชนได้อย่างแท้จริง เพราะแก้ไขปัญหา ส..ปัดเศษได้)

คุณหมอชลน่านยังได้เสนอให้ ส.. จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นผู้เสนอต่อประธานในที่ประชุม ขอให้ตั้งคำถามแรก ในลักษณะที่ให้ ที่ประชุมจะเลือกอะไร ระหว่างหาร 500 กับ หาร 100 ไปเลย เพื่อให้ก้าวไกลสามารถมาโหวตร่วมกับเพื่อไทยตั้งแต่คำถามแรก อีกด้วย

นอกจากนั้น ในรายงานการประชุมวิป จะเห็นได้ว่า ไม่มีการบันทึกว่า มติของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการลงมติประเด็นนี้คืออะไร เพราะหาข้อสรุปร่วมกันทุกพรรคไม่ได้

ผมเห็นว่า…

- การรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างๆ ทั้งที่อ้างอิงและไม่อ้างอิง คนของพรรคเพื่อไทย มีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงเป็นอย่างมาก

- การแสดงความเห็นของ พี่น้องประชาชน และ นักการเมือง ที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม ก็มีความเข้าใจผิด

- แต่หากเป็นผู้ที่เข้าร่วมการประชุมวิป ผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่า เข้าใจผิด หรือ จงใจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด??

ผมรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา ที่เป็นการแก้ไขวิธีการคำณวนเพียงเพื่อเป็นนั่งร้านให้กับพลเอกประยุทธ์ในการสืบทอดอำนาจ หรือ เพื่อประโยชน์ส่วนตนมากกว่าหลักการที่ถูกต้อง

และผมจะเสียใจเป็นอย่างมาก หากสูตรหาร 100 จะไม่ผ่านสภา เพราะเสียงของ ส.. พรรคก้าวไกล และคงจะเข้าใจความรู้สึกของพรรคเพื่อไทย หากแพ้โหวตเพราะก้าวไกล

แต่จากผลการลงมติ ในคำถามที่สอง เราเห็นได้ชัดว่า เพื่อไทย / ก้าวไกล และเสียงของกลุ่มที่เห็นด้วยในสูตรหาร 100 มีไม่มากพอที่จะชนะ

หรือแม้กระทั่งว่า พรรคก้าวไกล จะยอมโหวต “เห็นด้วย” ร่วมกับในคำถามที่ 1 แล้วได้สูตรหาร 100 ที่ไม่สมบูรณ์ ก็ไม่สามารถชนะอยู่ดี

พิษคอนเทนต์ตีกลับ 'นารา เครปกระเทย' ชีวิตพัง!! ไม่มีงาน ต้องเตรียมเงินสู้คดี112

จากกรณี 'นารา เครปกะเทย' หรือ นายอนิวัต ประทุมถิ่น เน็ตไอดอลชื่อดัง ได้ทำคลิปวิดีโอ และภาพนิ่งโปรโมตแคมเปญลดราคาสินค้าพิเศษ ซึ่งมีลักษณะล้อเลียนผู้พิการและพาดพิงสถาบันเบื้องสูง จนสร้างความไม่พอใจกันอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งบริษัทชื่อดัง ได้ออกแถลงการณ์น้อมรับผิดและเร่งดำเนินระงับการเผยแพร่คลิปทันทีนั้น

โดยล่าสุด นารา เครปกระเทย ได้โพสต์คลิปโปรโมตสินค้า พร้อมทั้งระบายกับมรสุมที่กำลังพบเจอในช่วงนี้ ว่า...

"ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณทุกคนที่บอกใหัสู้  มันเหนื่อยเหลือเกินที่เด็กคนนี้ที่จะรับได้

ตั้งแต่เกิดเรื่องมา นาราไม่มีงานไม่มีเงิน นาราพูดไม่อายหลอก ใครที่ต้องการให้นาราแย่ลง สาปแช่งนารา ด่าว่านารา ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนี้ประสบความสำเร็จแล้วนะ หัวเราะได้เต็มที่เลย นาราโดนหมายศาล 7 ทั้งค่าประกัน ทั้งค่าที่ต้องรับผิดชอบคนอื่น และไหน ค่าทนาย นาราไม่เหลือเพื่อนรอบข้าง นาราไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใคร แต่สิ่งสุดท้ายที่นาราจะทำ คือ ช่วยตัวเอง นาราขอขายของนารา สุดท้ายเพื่อไปช่วยเหลือสังคมอีก 3 ที่ และเตรียมเงินสู้คดี 112 ก่อนที่หนูคนนี้จะกลับไปขายเครปเหมือนเดิม วันที่เราไม่เหลือใคร หันไปไม่เจอใคร ทุกคนรู้ไหมมันโครตเจ็บใจ โครตเสียใจที่สุด แต่เราหมดค่าแล้ว ใครเขาอยากจะมีเรา ทุกอย่างที่สร้างมามันไปหมดแล้ว หวังว่า ผู้ใหญ่ทุกคนที่ต้องการให้ นาราเป็นแบบไหน สะใจแล้วนะ โอเคแล้วนะ ปล่อยให้หนูไปทำมาหากินเถอะ..."


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top