Friday, 13 June 2025
TheStatesTimes

14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 ‘พระเจ้าตากฯ’ สั่งทหาร ‘ทุบหม้อข้าว’ ออกศึกชี้ชะตา ปลุกขวัญกำลังใจกองทัพยึดเมืองจันท์คืนแผ่นดินสยาม

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนำทัพเข้าตีเมืองจันทบุรี หลังกรุงศรีอยุธยาแตกเพียง 2 เดือน โดยใช้กลยุทธ์ “ทุบหม้อข้าว” ปลุกขวัญกำลังใจทหารไทย ประกาศชัดว่าจะต้องไปกินข้าวเช้าในเมือง หากตีเมืองไม่ได้ก็พร้อมตายด้วยกันทั้งหมด

ในค่ำวันนั้น เวลา 19.00 น. พระองค์สั่งกองทัพลอบเข้าประจำจุดตามแผน เมื่อถึงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 15 มิถุนายน ได้ให้ยิงปืนเป็นสัญญาณเปิดฉากโจมตี และทรงนำช้างพังคีรีบัญชรไล่พังประตูเมือง ทหารจึงบุกเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว

ส่งผลให้กองกำลังฝ่ายจันทบุรีแตกพ่าย ชาวเมืองหนีตาย พระยาจันทบุรีนำครอบครัวหลบหนีทางเรือ เจ้าตากสามารถยึดเมืองได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งคืน ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญในการรวบรวมกำลังฟื้นฟูอาณาจักรไทยหลังการเสียกรุง

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกอบกู้แผ่นดิน โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทยในฐานะวีรบุรุษผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของชาติ

เอกสารลับรัสเซียเผย FSB กลัวจีนแทรกซึมล้วงข้อมูล อ้างปักกิ่งวางแผนผนวกดินแดน ‘วลาดิวอสต็อก’

(11 มิ.ย. 68) เอกสารลับของหน่วยข่าวกรองภายในรัสเซีย (F.S.B.) ที่เพิ่งถูกเปิดเผย ระบุว่าจีนเป็น 'ศัตรู' และกำลังแทรกซึมเพื่อขโมยเทคโนโลยีทางทหารของรัสเซีย รวมถึงพยายามชักชวนผู้เชี่ยวชาญรัสเซียให้ทำงานเป็นสายลับ

แม้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะประกาศมิตรภาพแน่นแฟ้นกับจีนอย่างเป็นทางการ แต่ภายใน F.S.B. ได้ดำเนินแผนต้านการจารกรรมจากจีนตั้งแต่ต้นปี 2022 ภายใต้ชื่อ 'Entente-4' พร้อมจับตานักวิชาการ นักข่าว และเจ้าหน้าที่ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน

รายงานระบุว่าจีนพยายามล้วงข้อมูลการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยมุ่งเรียนรู้เทคโนโลยีโดรน การรับมืออาวุธตะวันตก และกำลังจับตานักวิทยาศาสตร์การบินและอดีตวิศวกรโครงการยุทธศาสตร์โซเวียตที่ถูกยุบ

จีนยังถูกกล่าวหาว่าใช้มหาวิทยาลัยและบริษัทเหมืองแร่เป็นฉากหน้าในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาภูมิภาคอาร์กติกของรัสเซีย พร้อมทั้งขยายอิทธิพลในเอเชียกลางผ่านยุทธศาสตร์แลกเปลี่ยนเชิงมนุษยธรรม โดยเริ่มที่อุซเบกิสถาน

F.S.B. แสดงความกังวลว่าจีนกำลังพยายามสร้างข้ออ้างทางประวัติศาสตร์เพื่อเรียกร้องดินแดนในภาคตะวันออกไกลของรัสเซียอย่าง 'วลาดิวอสต็อก' และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการวิจัยที่อาจเชื่อมโยงถึงแนวคิด 'ทวงคืนดินแดน' 

สำหรับ วลาดิวอสต็อก (Vladivostok) เป็นเมืองท่าสำคัญทางตะวันออกไกลของรัสเซียในปัจจุบัน เคยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของจักรวรรดิจีนในสมัยราชวงศ์ชิง ก่อนที่จะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซียอย่างเป็นทางการในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ผ่านสนธิสัญญาที่ฝ่ายจีนมองว่าเป็น 'สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม'

นอกจากในรายงานยังอ้างถึงเจ้าหน้าที่รัสเซียได้รับคำสั่งให้สอดแนมผู้ใช้งานแอป WeChat รวมถึงตรวจสอบนักศึกษารัสเซียกว่า 20,000 คนในจีน โดยจีนยังพยายามสรรหาชาวรัสเซียที่แต่งงานกับชาวจีนเป็นสายลับ

แม้เอกสารจะแสดงความกังวลอย่างชัดเจน แต่ก็ระบุว่าการรักษาความสัมพันธ์กับจีนยังสำคัญยิ่ง เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องได้รับอนุมัติจากระดับสูงสุดก่อนจะดำเนินการใด ๆ ที่อาจกระทบสัมพันธ์ทวิภาคี

'เอกนัฏ' เปิดภาพร่วมโต๊ะ ‘พีระพันธุ์-อัครเดช’ สร้างความเชื่อมั่น ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ต้องไปต่อ

'เอกนัฏ' เปิดภาพทานอาหารเที่ยง ร่วม ‘พีระพันธุ์-อัครเดช’ เพิ่มความเชื่อมั่นรวมไทยสร้างชาติ ย้ำ ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวหน้า ‘เอกนัฏ’ เลขา ‘อัครเดช’ โฆษก เหมือนเดิม

(11 มิ.ย.68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภาพทานอาหารเที่ยงร่วมกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ  ผ่านเฟซบุ๊ก เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ (ขิง) ว่า

"ดีลใหม่ แต่ไม่ลับ ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้น ของหัวหน้าฯ
เบอร์เกอร์ ของเลขาฯ #รทสช ไปต่อ
หัวหน้าฯชื่อ พีระพันธุ์
เลขาฯชื่อ เอกนัฏ
โฆษกฯชื่อ อัครเดช
เหมือนเดิมครับ
#รวมไทยสร้างชาติ #เลขาขิง"

ซีอีโอของหัวเว่ย ยอมรับชิปจีนล้าหลังสหรัฐฯ แต่ไม่ยอมแพ้!!...มั่นใจใช้เทคนิคพิเศษทดแทนได้

(11 มิ.ย. 68) เหริน เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของหัวเว่ย เทคโนโลยี (Huawei) เปิดเผยว่า ชิป Ascend ของบริษัทยังล้าหลังกว่าของสหรัฐฯ ราวหนึ่งเจเนอเรชัน แต่สามารถบรรลุประสิทธิภาพระดับสูงสุดได้ด้วยเทคนิคการจัดเรียงและการประมวลผลแบบกลุ่ม โดยหัวเว่ยได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีในการวางชิปซ้อนกันเพื่อลดขนาดโปรเซสเซอร์

ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ People's Daily ซีอีโอของหัวเว่ยระบุว่า การคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ไม่สามารถหยุดยั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน โดยเฉพาะในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมชี้ว่าจีนมีข้อได้เปรียบหลายด้าน เช่น พลังงานไฟฟ้า เครือข่ายสื่อสาร และเยาวชนที่เก่งจำนวนมาก

เหริน เจิ้งเฟย กล่าวอีกว่า AI คือ “การปฏิวัติทางเทคโนโลยีครั้งสุดท้ายของมนุษยชาติ” ควบคู่กับพลังงานสะอาดจากนิวเคลียร์ฟิวชัน และระบุว่าอัลกอริธึม AI จะถูกใช้งานจริงในภาคพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน ถ่านหิน และยา ไม่ใช่แค่ในวงการเทคโนโลยีสารสนเทศเท่านั้น

บทสัมภาษณ์นี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดด้านเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่ว่า การใช้ชิป Ascend ของหัวเว่ยในที่ใดก็ตามทั่วโลก อาจละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ

ซีอีโอวัย 80 ปี เน้นย้ำว่าหัวเว่ยเป็นเพียงหนึ่งในบริษัทชิปของจีนอีกจำนวนมาก พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ “พูดเกินจริง” ถึงความสำเร็จของหัวเว่ย และย้ำว่าจีนควรลงทุนในงานวิจัยพื้นฐานเพื่อพึ่งพาตนเองในระยะยาว แทนที่จะนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างชาติ

15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ‘ศาลโลก’ ตัดสินคดีประวัติศาสตร์ ชี้ขาด ‘ปราสาทเขาพระวิหาร’ เป็นของกัมพูชา

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีคำพิพากษาชี้ขาดให้ ปราสาทเขาพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของประเทศกัมพูชา ด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3 หลังพิจารณาคดีนานถึง 3 ปี โดยมีการนัดสืบพยานถึง 73 ครั้ง ถือเป็นกรณีพิพาทด้านดินแดนที่ยืดเยื้อและซับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชา

ปราสาทเขาพระวิหาร หรือ 'เปรี๊ยะ วิเฮียร์' เป็นโบราณสถานศิลปะขอมโบราณ ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก สูง 657 เมตรจากระดับน้ำทะเล แม้ทางขึ้นหลักอยู่ฝั่งไทย แต่ตัวปราสาทส่วนใหญ่อยู่ในกัมพูชา ตัวปราสาทถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2442 โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์

คำตัดสินของศาลโลกส่งผลให้ไทยต้องยอมคืนพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารประมาณ 150 ไร่ให้กัมพูชา จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยโดยอนุญาตให้นักศึกษาเดินขบวนคัดค้าน และสั่งปิดทางขึ้นปราสาทที่อยู่ฝั่งไทย เหลือเพียงเส้นทางแคบจากฝั่งกัมพูชาเท่านั้น

แม้จะมีความตึงเครียดในช่วงแรก แต่ต่อมาไทยและกัมพูชาได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ เปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในบางช่วง ซึ่งปัจจุบันอุทยานฯ เขาพระวิหาร ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวผามออีแดงชั่วคราว หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณพื้นที่ช่องบก ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

เคทีซี จับมือ ททท. เดินหน้าแคมเปญ “เมืองน่าเที่ยว” หนุนสร้างรายได้ท่องเที่ยวในประเทศ 1.17 ล้านล้านบาท

(11 มิ.ย. 68) เคทีซี ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือ ททท. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ภายใต้แคมเปญ "เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration" มอบส่วนลดพิเศษจากโรงแรมชั้นนำสูงสุด 55% และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 500 บาท 

นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เคทีซีตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนแคมเปญ เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration ให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และผลักดันให้รายได้รวมด้านการท่องเที่ยวในปี 2568 อยู่ที่ 1.17 ล้านล้านบาท ตามที่ททท. ตั้งเป้าไว้ โดยเคทีซีพร้อมมอบสิทธิพิเศษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่  https://www.ktc.co.th/promotion/hotel-resort/domestic-hotel/amazing-secondary-cities#Northern

สำหรับแคมเปญเมืองน่าเที่ยว Year of Celebration เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 โดยความร่วมมือของภาครัฐบาล เอกชน และพันธมิตรทุกส่วนร่วมผลักดันให้เมืองน่าเที่ยวกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ กระจายรายได้สู่ชุมชน และเสริมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยให้อยู่ระดับสากล

(สุรินทร์)นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำยึดสันติวิธี ไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย

(11 มิ.ย. 68) เวลา 11.05 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และวางมาตรการช่วยเหลือประชาชนใน 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, บุรีรัมย์, สระแก้ว, จันทบุรี และตราด ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

สำหรับจ.สุรินทร์ มีพื้นที่ชายแดนยาว 125 กิโลเมตร ครอบคลุม 4 อำเภอ ได้แก่ บัวเชด สังขะ กาบเชิง และพนมดงรัก มีจุดผ่านแดนถาวร 1 แห่ง คือ ช่องจอม และช่องทางธรรมชาติ 54 ช่อง โดยพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ได้แก่ บริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาเมือนโต๊จ

จากการประเมิน หากเกิดเหตุสู้รบ อาจส่งผลกระทบต่อ 287 หมู่บ้าน ใน 22 ตำบล 4 อำเภอ มีประชาชนกว่า 144,000 คนอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ปัจจุบันมีหลุมหลบภัย 224 แห่ง แต่บางส่วนชำรุดและไม่เพียงพอ รัฐบาลจึงเร่งซ่อมแซมและจัดสร้างเพิ่มเติม พร้อมขอความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนร่วมบริจาควัสดุจำเป็น เช่น ท่อกลม กระสอบทราย และปูน โดยสามารถนำส่งได้ที่ที่ว่าการอำเภอทั้ง 4 แห่ง หรือในหมู่บ้านเป้าหมาย

ด้านแผนอพยพ จังหวัดสุรินทร์ได้เตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราว 65 แห่ง ในโรงเรียน วัด เทศบาล และ อบต. สำหรับรองรับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งมีจำนวนรวม 746 ราย ใน 4 อำเภอ พร้อมเตรียมย้ายโรงพยาบาลพนมดงรัก และโรงพยาบาลกาบเชิง เป็นโรงพยาบาลสนามหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

ในส่วนของงบประมาณ สามารถใช้งบ อปท. และเงินทดรองราชการช่วยเหลือได้ทันที แบ่งเป็นงบเชิงป้องกัน 10 ล้านบาท และกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน 20 ล้านบาท สำหรับใช้ในด้านอาหาร วัสดุอุปกรณ์ ค่าเจ้าหน้าที่ และค่าดำเนินการอื่น หากไม่เพียงพอจะของบสนับสนุนเพิ่มเติมจากส่วนกลางต่อไป

ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ -เอกชน ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ไลอ้อนแอร์ อุดรธานี-อู่ตะเภา (UTP)

(11 มิ.ย. 68) ณ อาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (UTP) การท่าอากาศยานอู่ตะเภา ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีและระยอง จัดกิจกรรมต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ของสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เที่ยวบินที่ SL588 เส้นทางบินจาก ทำอากาศยานนานาชาติอุดรธานี (UTH) มายัง ทำอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (UTP) 

โดยมี พล.ร.ท.เกียรติกูล สุวรรณ รองผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี และ นางปาณรดา อัตโตหิ รองปลัดเมืองพัทยา ร่วมให้การต้อนรับพร้อมมอบพวงมาลัยดอกไม้ ให้กับผู้โดยสารเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากผู้บริหารท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาและผู้บริหารของสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ผู้แทนภาครัฐ และผู้แทนภาคท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีและระยอง โดยท่าอากาศยานอู่ตะเภา ได้จัดพิธีต้อนรับแบบ Airplane welcome หรือ การทำอุโมงค์น้ำ สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสาร ซึ่งนั่งอยู่ในเครื่องบินเป็นอย่างมาก

สำหรับสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เริ่มให้บริการในเส้นทาง อู่ตะเภา – อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป หนุนมาตรการส่งเสริมเปิดเส้นทางบินสู่เมืองรอง  โดยจะมีให้บริการในวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ โดยเที่ยวบินขาไปจะออกเดินทางจากอู่ตะเภา เวลา 13.30 น. ถึงอุดรธานี เวลา 14.50 น. และเที่ยวบินขากลับออกเดินทางจากอุดรธานี เวลา 11.20 น. มาถึงอู่ตะเภาเวลา 12.40 น. ใช้เวลาในการบินเพียง 1 ชั่วโมง 20 นาที ในราคาบัตรโดยสารพิเศษ เริ่มต้นที่ 995 บาทต่อเที่ยวบิน พร้อมจัดส่วนลดพิเศษสำหรับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่ชลบุรีและระยอง อีกด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

‘ไอซ์ รักชนก’ ขยี้ซ้ำผลสอบ ‘ก.มหาดไทย’ ชัดเป็นไปตามที่เคยพูดราคาตึก SKYY9 แค่ 3 พันล้าน แต่ ‘ประกันสังคม’ ทุ่มซื้อ 7 พันล้าน ถามผู้เกี่ยวข้องจะรับผิดชอบอย่างไร เชียร์ ‘อนุทิน’ ทำให้ดูหน่อยฟันให้เด็ดขาด

เมื่อวันที่ (10 มิ.ย.68) น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน แชร์ข่าวเปิดผลสอบ กระทรวงมหาดไทย ศึกษาวิเคราะห์ราคาอาคาร SKYY9 ระบุความมีราคาซื้อขายในขณะนั้น ประมาณ 3.4-3.8 พันล้านบาทพร้อมระบุข้อความว่า สุดท้ายผลสอบก็จะออกมายืนยันสิ่งที่ไอซ์และเนมพูดมาตลอด ว่าราคาซื้อขายของตึกควรอยู่ที่ 3,000 ล้าน แต่ประกันสังคม ทุ่มเงิน 7,000ล้าน ซื้อของราคา 3,000ล้าน

ทีนี้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รับผิดชอบยังไง? 

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน MFC ตัวตั้งตัวตีเสนอตึกและหาคนมาตีราคา พร้อมตั้งทรัสต์ ดูแลจนจบกระบวนการ จะลอยตัวเนียน ๆ ไปแบบนี้ไหม?

กลต. จะทำอะไรกับ บริษัทที่ประเมินตัวเลขเวอร์ ๆ ไร้ธรรมาภิบาลหรือไม่? ต้องให้ไปชี้นิ้วบอกทีละเจ้าอีกไหม? บริษัทรับประเมินถ้าทำงานตรงไปตรงมาจริง อย่ากลัว ออกมาแถลงทีละบริษัทแมน ๆ ไปเลย ว่ายืนยันความบริสุทธิ์ ทำงานตรงไปตรงมา และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่จะขอข้อมูล ส่วนบริษัทไหนที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ กลต. รออะไร?

น.ส.รักชนก ระบุต่อว่า บอร์ดลงทุนประกันสังคม วันนั้นที่ตัดสินใจลงทุนไม่มีใครขัดขวางสักคนเลยหรอ มันตั้งใจ จงใจเกินไปไหม? เปิดออกมาให้หมดบันทึกการประชุม ใครพูดอะไร ลากชื่อมันออกมา

สุดท้ายนี้* ท่านอนุทิน ท่านปลัดมหาดไทย อย่าให้ใครครหาว่าทำเป็นเล่นขายของ ทำไปอย่างงั้นไม่ทำจริงจัง เอกสารที่บอกว่าขอจากเอกชนไม่ได้ อย่ามาตลกค่ะ กมธ.ติดตามงบยังขอได้เลย แล้วถ้าขอเอกชนไม่ได้ ขอประกันสังคมเลย วันนั้นอ่านอะไรกันบ้างถึงตัดสินใจซื้อตึกเปิดมาให้หมด คณะกรรมการนี้มีอำนาจเข้าถึงเอกสารที่อยากจะอ่านได้ทั้งหมดอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเอาจริงหรือป่าว 

“ทำให้ดูหน่อยค่ะท่านอนุทิน เอาให้เด็ดขาด ฟันมาให้ชัดอย่ากำกวม ดิฉันอยากเห็นคนถูกดำเนินคดีข้อหาทุจริต ดิฉันอยากเห็นคนที่ตอดกินเงินของผู้ประกันตนออกจากราชการ ดิฉันอยากเห็นคนติดคุก ถ้าท่านเอาจริงไม่มีอะไรเกินอำนาจบารมีที่ท่านจะจัดการได้ แล้วดิฉัน รักชนก ศรีนอก จะจดจำคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะคนจริงที่น่านับถือ” น.ส.รักชนก ระบุ 

น.ส.รักชนก ระบุต่อว่า ปล. บอกไปทุกคนอาจจะไม่เชื่อนะคะ แต่ถ้าเราไม่มาเปิดเผยเรื่องตึก SKYY9 ป่านนี้ผู้ประกันตนคงได้เป็นเจ้าของตึกเพิ่มอีกหนึ่งถึงสองตึกไปแล้ว เพราะมีคนเค้าเตรียมกันไว้แล้วค่ะ

‘ทรัมป์’ ประกาศสงครามการค้ากับจีนจบลง แต่ยังตรึงภาษีสินค้านำเข้าไว้ที่ 55%

(12 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนได้ 'จบแล้ว' โดยมีการคงอัตราภาษีสินค้าจีนไว้ที่ 55% โดยไม่ปรับเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และค้าปลีกเตือนว่า ความเสียหายต่อห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจ และผู้บริโภคสหรัฐฯ ยังไม่สิ้นสุด

อัตราภาษีที่สูงถึง 55% ทำให้บริษัทในสหรัฐฯ หลายพันแห่งเผชิญความเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนหรือตั้งราคาขายเพิ่มได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคเป็นฝ่ายรับภาระต้นทุนแทน ซึ่งอาจกระทบต่อราคาสินค้าช่วงเปิดเทอมและเทศกาลปลายปี

ขณะเดียวกัน ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนล่าสุดแสดงการเพิ่มขึ้นของราคาที่ต่ำกว่าคาด แต่ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีทำให้ผู้ประกอบการยังคงระวังต่อแผนสั่งสินค้านำเข้า โดยเฉพาะจากจีนและสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังเผชิญความลังเลจากผู้นำเข้าสหรัฐฯ

ภาคขนส่งและโลจิสติกส์ยังไม่ฟื้นตัว โดยปริมาณการขนส่งทั้งทางรถบรรทุกและรถไฟลดลงจากปีก่อนอย่างต่อเนื่อง ดัชนีการจองตู้คอนเทนเนอร์ทะเล (Ocean TEU Index) แสดงว่าปี 2025 มีปริมาณการขนส่งน้อยกว่าปีก่อนถึง 14% ซึ่งถือเป็นสัญญาณล่วงหน้าถึงความต้องการผู้บริโภคที่ลดลง

ในขณะที่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์พยายามเร่งนำเข้าสินค้าช่วงระยะเวลาชั่วคราวที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเว้นหรือชะลอการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ก่อนหมดเขตกลางเดือนสิงหาคม ปัญหาการสะสมของตู้คอนเทนเนอร์เปล่าที่ท่าเรือลอสแอนเจลิสและลองบีชยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ซึ่งอาจทำให้ผู้ส่งออกในสหรัฐฯ ประสบปัญหาขาดแคลนตู้สำหรับส่งสินค้า

แม้จะมีข้อตกลงเบื้องต้นกับจีน แต่ภาคธุรกิจยังรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากทั้งสองผู้นำ และจับตาว่าจะมีการเจรจาใด ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงยังเลือก 'รอดูท่าที' ก่อนจะเดินหน้าลงทุนหรือสั่งสินค้าเพิ่มเติมจากต่างประเทศในช่วงครึ่งหลังของปีนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top