Wednesday, 30 April 2025
TheStatesTimes

‘ติ๊ก ชีโร่’ ประกาศขายที่ดินทำเลดีใกล้ห้างดังเมืองโคราช หวังนำเงินมาเชื่อมต่อในส่วนวิกฤติของชีวิต

(25 มี.ค. 68) ‘ติ๊ก ชีโร่’ เดินหน้าฝ่าวิกฤติชีวิต หลังต้องหาเงินจ่ายคู่กรณีคดีรถชน ล่าสุดประกาศขายที่ดินใกล้ห้างดังในโคราช 

หลังจากเกิดการแชร์กันสนั่นโซเชียล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กรณี ‘ติ๊ก ชีโร่’ ศิลปินชื่อดัง ได้โพสต์รูปภาพปืน พร้อมระบุแคปชั่นว่า "โปรดติดตาม…ตอนต่อไป ว่าใจ จะไปได้ไกลแค่ไหน ภายในไม่กี่วันนี้ มีคำตอบให้ครับ ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณที่สนับสนุนครับ" จนหลายคนต่างเป็นห่วง

กระทั่งเมื่อวานนี้ได้ออกมาโพสต์ภาพยกมือไหว้ต่อหน้าพระ พร้อมระบุข้อความขอโทษทุกคนที่ทำให้เป็นห่วง "ผมยังเข้มแข็งอยู่นะครับ และยังเดินหน้าต่อไปเพื่อจัดการกับชีวิต ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง ขอโทษที่ทำให้ตกใจ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะครับ"

ล่าสุด ติ๊ก ชีโร่ ได้ออกมาเคลื่อนไหว โพสต์ขายที่ดินทำเลดีในตัวเมืองโคราช โดยระบุว่า 
"สวัสดีครับทุกๆท่านผมได้เดินทางไปโคราชในซอย 30 กันยาแยก 18 ตรงกันข้ามกับสนามกีฬากลางใกล้ ห้างเซ็นทรัล Central ใกล้ Mega home ติดกับ วิทยาลัย ชพน. (ซอยนี้เรียกว่าซอยบ้านเช่า) ผมต้องการขายที่ตรงนี้ พื้นที่ 194 ตารางวา เพื่อที่จะนำเงินมาเชื่อมต่อในส่วนวิกฤติของชีวิตใครสนใจอยากได้ ผมยินดีขายให้ขอบคุณมากๆนะครับ"

เตรียมเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่เดือนกรกฎาคมนี้ รับการท่องเที่ยวและธุรกิจเติบโต ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในเอเชีย

(25 มี.ค. 68) กัมพูชาประกาศเตรียมเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยจะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว หลังจากที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

สนามบินแห่งใหม่ของพนมเปญ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อ สนามบินนานาชาติเทโช เริ่มสร้างขึ้นในปี 2562 ครอบคลุมพื้นที่ 6,425 เอเคอร์ ตั้งอยู่ที่ชายแดนของจังหวัดกันดาลและตาแก้ว ห่างจากเมืองหลวงไปทางใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร

ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและภาคเอกชน จะเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมาตรฐานระดับสากล คาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 10 ล้านคนในปีแรกของการเปิดใช้งาน

โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างชาติ ท่ามกลางการเติบโตที่รวดเร็วของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดนี้

สถาปนิกของสนามบินแห่งนี้คือบริษัท Foster + Partners ของประเทศอังกฤษ โดยเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า “การออกแบบสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกที่แข็งแกร่งของสถานที่ และตอบสนองต่อสภาพภูมิอากาศแบบเขตร้อน”

ส่วนอาคารเทอร์มินัลตั้งอยู่ใต้สิ่งที่เรียกว่าหลังคาทรงโค้งเดี่ยวที่เป็นโครงเหล็กน้ำหนักเบา พร้อมหน้าจอนวัตกรรมที่กรองแสงธรรมชาติและส่องสว่างให้กับพื้นที่เทอร์มินัลอันกว้างใหญ่

การก่อสร้างจะดำเนินการเป็น 3 ระยะ โดยในระยะแรกคาดว่าสนามบินจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 13 ล้านคนต่อปี และจะเพิ่มความจุเป็น 30 ล้านคนหลังปี 2030 และสูงสุด 50 ล้านคนในปี 2050

สนามบินแห่งนี้จะเป็นสนามบินหลักแห่งที่สองของกัมพูชาที่จะเปิดให้บริการภายในระยะเวลาสองปี โดยในปี 2023 สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ-อังกอร์ ซึ่งได้รับเงินทุนจากจีนได้เริ่มเปิดให้บริการในจังหวัดเสียมเรียบทางตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากนครวัดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศซึ่งมีอายุกว่าหลายศตวรรษไปทางทิศตะวันออกประมาณ 40 กิโลเมตร 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้แต่ละประเทศในภูมิภาคต่างพยายามลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน กัมพูชาหวังว่าการเปิดสนามบินแห่งใหม่จะช่วยเสริมสร้างการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศ

สนามบินแห่งนี้จะเปิดให้บริการในช่วงฤดูร้อนของปี 2024 ซึ่งเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มฟื้นตัวหลังจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ของ COVID-19 โดยคาดว่าการเดินทางทางอากาศจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจของกัมพูชา ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยว กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 6.7 ล้านคนในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 23% จากปี 2023

ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชามั่นใจว่าโครงการสนามบินแห่งใหม่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในระยะยาว และจะช่วยให้ประเทศสามารถแข่งขันได้ในตลาดการท่องเที่ยวที่มีการแข่งขันสูงในภูมิภาคนี้

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ เนื่องในวันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ 

(25 มี.ค.68) รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ มอบหมายให้ น.อ.หญิง ปภัสร์พิมพ์ ชังเทศ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศและเวชระเบียนฯ ผู้แทน ผอ.รพ.ฯ พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ เนื่องในวันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า (วันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี)

โดยร่วมกิจกรรมจิตอาสา ทำความสะอาด และปรับปรุงภูมิทัศน์ ณ โดม 62 เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

คืบหน้า บ.ผู้ผลิต ‘2475 Dawn of Revolution’ ฟ้องประชาไท ปมเสนอข่าวให้คนอ่านเชื่อว่า “รับเงินจากกองทัพบกมาจัดทำแอนิเมชัน”

เมื่อวันที่ (25 มี.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘2475 Dawn of Revolution’ ได้โพสต์ข้อความว่า แจ้งความคืบหน้า กรณี บจก.นาคราพิวัฒน์ ผู้ผลิตแอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ฟ้อง มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน (ประชาไท) คดีหมิ่นประมาทและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากนำเสนอข่าว ให้คนอ่านเชื่อว่า “รับเงินจากกองทัพบกมาจัดทำแอนิเมชัน”

ล่าสุด ศาลอาญารัชดาสั่งประทับรับฟ้อง ชี้คดีมีมูล!

ทีมงานแอนิเมชัน ๒๔๗๕ ขออธิบายเรื่องราวดังนี้ 

หลังจากเราเผยแพร่แอนิเมชันทางออนไลน์ไปในวันที่ 13 มีนาคม 2567 ทางเว็บไซต์ข่าวประชาไท ก็ได้เสนอรายงานข่าวว่า ผู้ผลิตแอนิเมชัน ๒๔๗๕ รับจ้างกองทัพ 11 สัญญาโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า แอนิเมชัน ๒๔๗๕ ได้รับการสั่งจ้างจากกองทัพ จนเกิดผลกระทบตามมาสู่ทีมงาน ผู้ร่วมงาน และบริษัทของเราอย่างมาก เราจึงตัดสินใจฟ้อง ประชาไท ผู้บริหารประชาไท และ อินฟลูเอนเซอร์บางรายที่แชร์ข่าวออกไป ทำให้ขยายความเข้าใจผิดในวงกว้าง 

ในวันเบิกความ เรามีหลักฐานคอมเมนท์ของผู้รับสาร ที่อ่านข่าวประชาไทและโพสต์โจมตีแอนิเมชันจำนวนมาก อาทิ "ทหารจ้างทำไอโอ" "เอาภาษีมาอวยกันเอง" หรือ "เอาภาษีประชาชนมาสร้างความแตกแยก" ซึ่งสื่อฯดังกล่าวก็ละเลยที่จะแก้ไขความเข้าใจผิด แต่กลับปล่อยคอมเมนท์เหล่านั้นไว้ในโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นว่า การนำเสนอข่าวนี้มีส่วนชี้นำให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจเช่นนั้นจริงๆ

ล่าสุดวันนี้ 25 มีนาคม 2568 ศาลสั่งประทับรับฟ้อง ชี้คดีมีมูล
และให้เดินหน้า สอบคำให้การ และสืบพยานต่อไป

นี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกของกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น การต่อสู้คดียังอีกยาวไกล หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี ทีมงาน ๒๔๗๕ จะนำมาเสนอทุกท่านในโอกาสต่อไป

สำหรับคดีดังกล่าว บริษัท นาคราพิวัฒน์ จำกัด ซึ่งมี วิวัธน์ จิโรจน์กุล กรรมการผู้มีอำนาจ และผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนประวัติศาสตร์ “2475 Dawn of Revolution” เป็นโจทก์ฟ้อง มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน จำเลยที่ 1, เกษม ศิริสัมพันธ์ จำเลยที่ 2 และ เทวฤทธิ์ มณีฉาย อดีตบรรณาธิการบริหารประชาไท จำเลยที่ 3 และฟ้องบุคคลทั่วไปที่แชร์ข่าวอีก 3 รายเป็นจำเลยที่ 4,5 และ 6
ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14(1) และ (5) จากการนำเสนอข่าว “พบเจ้าของแอนิเมชัน '2475 Dawn of Revolution' รับโครงการทำสื่อแบบวิธีเฉพาะเจาะจง 'กองทัพบก' 11 สัญญา” เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567

ผลสำรวจชี้ ชาวโปแลนด์กว่าครึ่งไม่ต้องการเข้าร่วมการฝึกทหารอดีตหน่วยรบพิเศษ GROM ผิดหวัง เตือนควรตื่นตัวมากกว่านี้

(26 มี.ค. 68) ผลสำรวจโดย Opinia24 สำหรับสถานีวิทยุ RMF FM เผยให้เห็นว่า ประชาชนโปแลนด์มีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับโครงการฝึกทหารของรัฐบาล โดยมีเพียง 35% เท่านั้นที่พร้อมเข้าร่วมการฝึกโดยสมัครใจ ขณะที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากร (54%) ไม่ต้องการเข้าร่วม

สำหรับรายละเอียดของผลสำรวจพบว่า 14% ของผู้ตอบแบบสอบถาม “พร้อมอย่างแน่นอน” 21% “ค่อนข้างพร้อม” 21% “ค่อนข้างไม่พร้อม” 33% “ไม่พร้อมอย่างแน่นอน” และอีก 12% ระบุว่า "ไม่ทราบ/ยากที่จะตอบ" 

โดยโครงการฝึกอบรมทางทหารดังกล่าวเป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทุสก์ (Donald Tusk) ประกาศเมื่อต้นเดือนมีนาคม กำหนดให้ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคนต้องเข้ารับการฝึก ขณะที่ผู้หญิงสามารถเข้าร่วมได้โดยสมัครใจ

ด้าน พาเวล มาเตนชุก (Paweł Mateńczuk) อดีตทหารจากหน่วยรบพิเศษ GROM และปัจจุบันเป็นผู้แทนกระทรวงกลาโหมด้านเงื่อนไขการรับราชการทหาร ได้แสดงความผิดหวังต่อผลสำรวจดังกล่าว โดยเขาระบุว่า

“ผมมั่นใจในกองทัพโปแลนด์ในฐานะสถาบันที่พัฒนาตัวเองเพื่อปฏิบัติภารกิจปกป้องประเทศของเรา (แต่ผมรู้สึกเศร้าเมื่อเห็นสถิติเหล่านี้ เพราะผมคิดว่าเมื่อมีโอกาสในการฝึกทหาร และเรามีพรมแดนติดกับประเทศที่อยู่ในภาวะสงคราม สังคมของเราควรมีความกระตือรือร้นมากกว่านี้”

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นถึงกระแสต่อต้านจากประชาชนจำนวนมาก ซึ่งอาจมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาระหน้าที่ ความเสี่ยง และมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับนโยบายด้านกลาโหมของรัฐบาล

ขณะที่รัฐบาลยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกระแสต่อต้านจากประชาชน การสำรวจนี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อแนวทางการดำเนินนโยบายด้านความมั่นคงในอนาคต

โปรดเกล้าฯ ‘วิชัย ทองแตง’ นักธุรกิจมากประสบการณ์ นั่งนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ‘วิชัย ทองแตง’ ให้ดำรงตำแหน่ง นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ (25 มี.ค. 68) ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก โดยข้อความระบุว่า

ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีคำสั่ง ที่ ๓๙/๒๕๕๕๙ เรื่อง การจัดระเบียบ
และแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ลงวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๙ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้มีคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สกอ. ๑๔๕๒/๒๕๕๙ เรื่อง ให้ผู้ดำรงตำแหน่งพันจากตำแหน่งหน้าที่และแต่งตั้งบุคคลให้ปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ และ ที่ สกอ. ๑๓๑/๒๕๖๐

เรื่อง แต่งตั้งบุคคลในคณะบุคคลปฏิบัติหน้าที่แทนสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก(เพิ่มเติม) ลงวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๐ โดยให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภารสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่มีคำสั่งนี้ใช้บังคับพ้นจากตำแหน่งหน้าที่และแต่งตั้งคณะบุคคลปฏิบัติหน้าที่แทนสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕ (๑) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๔๘ ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่แทนสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ ได้มีมติเห็นชอบให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายวิชัย ทองแตง ดำรงตำแหน่ง นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก แต่โดยที่ได้มีกรณีร้องเรียนเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้พิจารณาข้อร้องเรียนแล้วเห็นว่า การดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องแล้ว กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจึงขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งตั้งต่อไป

บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งบุคคลดังกล่าว ให้ดำรงตำแหน่ง
นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๘

ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘

รางวัลเทพทองพระราชทาน 'สถาบันพระปกเกล้า-ผลิตไฟฟ้าราชบุรี -สภาทนายความ' คว้าองค์กรต้นแบบ ขณะที่ คนดัง-ศิลปิน-นักร้อง-ผู้ประกาศข่าว-นักจัดรายการ แห่รับรางวัลคับคั่ง

เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.68) ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบรางวัล เทพทอง ครั้งที่ 23 จัดโดยสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สวทท.) โดยมี นางสาวชุติพันธุ์ ลิมปะพันธุ์ นายกสมาคม นายสมชาย จรรยา อุปนายกฝ่ายโทรทัศน์และสื่อดิจิทัล นายพลภฤต เรืองจรัส เลขาธิการ พร้อมคณะกรรมการบริหาร ร่วมในพิธี 

ปีนี้มีผู้เข้ารับรางวัลทั้งสิ้น 72 รางวัล ประกอบด้วย องค์กรดีเด่น 26 รางวัล บุคคลดีเด่นด้านโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ 16 รางวัล บุคคลดีเด่นด้านวิทยุกระจายเสียง 11 รางวัล และผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานเทพทองครั้งนี้รับโล่เกียรติยศ จำนวน 19 รางวัล

สำหรับปีนี้ “องค์กรดีเด่น” ที่ทำคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง เทิดทูล สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นองค์กรที่มิได้ประกอบกิจการอันขัดต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีงามของบ้านเมือง ได้แก่ สถาบันพระปกเกล้า บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โค้ช เชโรงเรียนสอนเทควันโด้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริษัท เทรนด์ วีจี 3 จำกัด ผู้ผลิตเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ มูลนิธิธรรมดี องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสว่าง จังหวัดหนองคาย หน่วยทหารพรานกองทัพบก องค์การบริหารส่วนตำบลกุดค้า อำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดศรีสะเกษ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี ละครชาตรี คณะเพชรสุมาพร จังหวัดเพชรบุรี มูลนิธิยังมีเรา บริษัท ปิรามิด โซลูชั่น จำกัด จังหวัดภูเก็ต สำนักประชาสัมพันธ์เขต 4 จังหวัดพิษณุโลก 

วัดต้นพยอม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ผู้ใหญ่บ้าน ชุมชนบ้านปากช่อง หมู่ที่ 3 อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี สมาคมข้าราชการบำเหน็จบำนาญ กระทรวงสาธารณสุข (สาขากรุงเทพมหานคร) สมาคมสโมสรวัฒนธรรมหญิง ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สโมสรไลออนส์ พัทยา-บางละมุง จังหวัดชลบุรี บริษัท เอ็ม.เจ.บางกอกวาล์วและฟิตติ้ง จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ สถานีข่าวเอทีวี บริษัท ทีวีนิวส์ จำกัด จังหวัดอยุธยา โรงแรมอาร์อัส โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น บริษัท โมเดิร์นโกลด์เยาวราช จำกัน 

สำหรับบุคคลดีเด่นด้านโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ ได้แก่ นายสุวิกรม อัมระนันทน์ กรรมการผู้จัดการและพิธีกรรายการ รายการเปอร์-สเปกทิฟ (PERSPECTIVE) สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี หมายเลข 30 นายอดิศักดิ์ ศรีสม ผู้ผลิตและผู้บรรยายสารคดี รายการประวัติศาสตร์นอกตำรา ทางสื่อออนไลน์ (YouTube) นางสาวอุมาพร ธำรงวงศ์โสภณ บรรณาธิการข่าว และผู้ประกาศข่าว รายการสดข่าวเที่ยง สถานีโทรทัศน์ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 นางสาวประภาศรี สภานนท์ ผู้ช่วยบรรณาธิการออนไลน์ และผู้ประกาศข่าว รายการตลาดข่าว และรายการตลาดข่าวสุดสัปดาห์ สถานีโทรทัศน์ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ผลิตรายการและผู้ดำเนินรายการ รายการข่าวเป็นข่าว สถานีโทรทัศน์ ท็อปนิวส์ หมายเลข 18 เจเคเอ็น นางสาวอัจฉรา ชูสว่าง โปรดิวเซอร์และผู้สร้างสรรค์การผลิตรายการ รายการลายกนกยกสยาม สถานีโทรทัศน์ ท็อปนิวส์ หมายเลข 18 เจเคเอ็น นายวารินทร์ สัจเดว พิธีกร ผู้ประกาศข่าว และผู้ดำเนินรายการข่าว รายการ TNN World Today สถานีโทรทัศน์ทีเอ็นเอ็น ช่อง 16 นางสาวตะวันรุ่ง ปริสุทธิธรรม ผู้ประกาศข่าว และผู้ดำเนินรายการข่าว รายการ MONO ข่าวเช้า 

สถานีโทรทัศน์โมโน 29 ว่าที่ร้อยตรีภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์ ผู้ประกาศข่าว และผู้ดำเนินรายการข่าว รายการข่าวพร้อมบวก สถานีโทรทัศน์โมโน 29 นางรัสรินทร์ ปริยไชยพงศ์ ศิลปินนักแสดงอิสระ ฉายานางเอกหนังตลกร้อยล้าน (ชื่อในวงการ ปิยะมาศ โมนยะกุล) เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม นางสาวจิตรฉรีญา บุญธรรม นักร้องแนวลูกทุ่ง นักร้องหมอลำหญิงชาวไทย (ชื่อในวงการ บิว จิตรฉรีญา) เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม นายสุรพล ทองด้วง นักร้องหมอลำ แชมป์หมอลำไอดอลคนแรกจากรายการหมอลำไอดอล (ชื่อในวงการ อ๊อฟ สุรพล) สถานีโทรทัศน์ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 นายวีระพงษ์ วงศ์ศรี ศิลปิน หมอลำต้นแบบ และนักประพันธ์ (ชื่อในวงการ บิ๊ก ภูมารินทร์) เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม นายภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ พิธีกร วีเจ ศิลปินนักแสดง นักดนตรี และ เจ้าของเพจท่องเที่ยว Go Went Go นายจิตกร บุษบา ผู้ดำเนินรายการ กู๊ดมอร์นิ่งแนวหน้า ทางแนวหน้าออนไลน์ นางสาวกนกวรรณ ขวัญอ่อน นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการพิเศษและนักจัดรายการสื่อออนไลน์ เพจ “กลุ่มช่วยด้วยใจ” ผู้ให้การปรึกษาตามแนวพุทธจิตวิทยา 

บุคคลดีเด่นด้านวิทยุกระจายเสียง ได้แก่ นายวิชัย วรธานีวงศ์ นักจัดรายการวิทยุ รายการ ซีอีโอ วิชชั่น พลัส คลื่นความคิด เอฟเอ็ม 96.5 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวมลฤดี ลูกอินทร์ นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ และนักจัดรายการ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดศรีสะเกษ เอฟเอ็ม 100.25 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวปิยาภรณ์ กสิกรรมเมธากุล นักสื่อสารมวลชนปฏิบัติการ และนักจัดรายการ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดยโสธร เอฟเอ็ม 90.0 เมกะเฮิรตซ์ 

รองศาสตราจารย์พนิดา จงสุขสมสกุล นักจัดรายการวิทยุ สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร เอฟเอ็ม 107.25 เมกะเฮิรตซ์นางสาวสุพัตรา พรหมศร นักประชาสัมพันธ์เชี่ยวชาญ สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา เอฟเอ็ม 87.5 เมกะเฮิรตซ์ นายอานันท์ จันทร์ศรี นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา เอฟเอ็ม 87.5 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวอาทิตยา ปักกะทานัง นักประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เอฟเอ็ม 89.5 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวณัชชา โขมพัฒน์ ศิลปินนักร้องลูกทุ่ง ชื่อในวงการ นุจรี ศรีราชา นางสาวอรอุมา เกษตรพืชผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเค แมส จำกัด และผู้ดำเนินรายการวิทยุ รายการไอดอล สตอรี่ ทางสถานีวิทยุกองบัญชาการกองทัพไทย เอฟเอ็ม 101.0 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวสาลี่ อินทร์โพธิ์ ศิลปินนักร้อง ชื่อในวงการ สาลี่ ขนิษฐา นายไอยรา อัลราวีย์ บรัศว์ตฤณ บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวออนไลน์ The States Times และผู้ดำเนินรายการ NAVY TIME สถานีวิทยุกระจายเสียงจากทหารเรือ (ส.ทร.) วังนันทอุทยาน เอฟเอ็ม 93.0 เมกะเฮิรตซ

พระราชทานโล่เกียรติยศ อาทิ นางสุกานดา พันธุ์เสือ เจ้าของกิจการ บริษัท กานตนาทัวร์ จำกัด จังหวัดหนองคาย นางอารยา กุลธัญวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ร้านวีที แหนมเนือง จังหวัดหนองคาย นางสาวนฤมล รักษาภักดี กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นฤมลทัวร์ จังหวัดหนองคาย นายจิรายุ สีกะมุท กำนันตำบลโนนสว่าง จังหวัดหนองคาย ว่าที่พันตรี รุ่งโรจน์ โพธิ์ทอง ข้าราชการบำนาญ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม นายสุรเดช มณีไพศาลสกุล ที่ปรึกษาตลาดมหาชัยเมืองใหม่ จังหวัดสมุทรสาคร พระครูโสภณสาโรภาส (อภิวัฒน์ บางข่า) เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม นางสาวกนิษฐรินทร์ วามะศิริภัทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกร เดอะ เบสท์ จำกัด นางจริยา รอดเที่ยง ที่ปรึกษาสถานีโทรทัศน์ BMC TV ONLINE และที่ปรึกษาหน่วยเผยแพร่ศีลธรรม กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม นางสาวประภารัตน์ เชื้อเวียง ผู้บริหาร บริษัท ดับเบิ้ลเอ็มอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จังหวัดขอนแก่น แพทย์หญิงณัฐฐาภณิตา รพีพงษ์พัฒนา กรรมการ บริษัทเอเบิ้ล ทูบี จำกัด นายพีรณัฐ นาคสุวรรณ์ ประธานบริษัท แพรวาออยล์ จำกัด จังหวัดสุราษฎ์ธานี นายมหพล ฉันทสหวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มณีพาวเวอร์ จำกัด

เรืออากาศตรี กวิน สุยะนันทน์ กรรมการบริหาร บริษัท คิวเอ กรุ๊ป จำกัด นายวสันต์ พัดทอง ผู้ดำเนินรายการมิราเคิลพลังมู และผู้บริหารเพจเดี๋ยวรู้เรื่อง

ญี่ปุ่นยุคใหม่ เตรียมพึ่งพาแรงงานจากต่างแดนมากขึ้น คาด 10% ของประชากรจะเป็นชาวต่างชาติใน 20 ปี

(26 มี.ค. 68) รายงานล่าสุดจากสื่อญี่ปุ่นระบุว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนผ่านสู่สังคมที่มีชาวต่างชาติคิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด ท่ามกลางวิกฤติประชากรลดลงและแรงงานขาดแคลน

ญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาการลดลงของจำนวนประชากรอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอัตราการเกิดต่ำและประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงต้องปรับนโยบายเพื่อเปิดรับแรงงานต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ขาดแคลนแรงงาน เช่น การดูแลผู้สูงอายุ ก่อสร้าง และเทคโนโลยี

ข้อมูลจากนักวิชาการด้านประชากรศาสตร์ชี้ว่า หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ภายในปี 2045 ชาวต่างชาติอาจมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจญี่ปุ่น และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมของประเทศ

แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มี วัฒนธรรมแบบเอกลักษณ์และค่อนข้างปิดต่อแรงงานต่างชาติในอดีต แต่สถานการณ์ปัจจุบันบีบบังคับให้ต้องเปิดรับแรงงานจากต่างประเทศมากขึ้น รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น ขยายโครงการวีซ่าทำงาน และผ่อนปรนกฎระเบียบสำหรับแรงงานทักษะสูง เพื่อดึงดูดคนจากทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม แม้การเพิ่มขึ้นของชาวต่างชาติจะช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนแรงงาน แต่ก็อาจนำไปสู่ความท้าทายด้านการปรับตัวทางสังคมและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นระบบสวัสดิการ การศึกษา และการอยู่ร่วมกันของคนหลายเชื้อชาติ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า หากญี่ปุ่นสามารถปรับตัวได้ดี ประเทศอาจกลายเป็นสังคมที่เปิดกว้างมากขึ้น และใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต

‘มาดามแป้ง’ นั่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล 1 ปี ผลสำรวจชี้!! ดีขึ้นมาก - โดดเด่นเรื่องความโปร่งใส

(26 มี.ค. 68) ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจล่าสุดความพึงพอใจของแฟนบอลไทยจำนวน 1,672 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 10-17 มีนาคม 2568 โดยแบ่งเป็นเพศชาย 59.4% เพศหญิง 33.7% และไม่ต้องการระบุเพศสภาพ 6.9% พบว่า 92% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจในระดับ "มากที่สุด" (4.41 คะแนนจาก 5 คะแนน) ต่อการบริหารงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในปัจจุบัน โดยเฉพาะด้านความโปร่งใสและการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ซึ่งสะท้อนจากสถิติที่ชี้ว่า 97.2% เห็นว่าการทำงานของสมาคมฯ "ดีขึ้น" หรือ "ดีขึ้นมาก" เมื่อเทียบกับยุคก่อนหน้า

โดยผลงานที่โดดเด่นที่เข้าตาแฟนบอลไทย 7ลำดับแรก คือ การสร้างธรรมาภิบาลและความโปร่งใส (ทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้) ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุด (8.02 คะแนน จาก 10 คะแนน) ในฐานะผลงานเด่นของสมาคมฯ ในรอบปี รองลงมาการที่ฟุตซอลทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์ ไปฟุตซอลโลก 7 สมัยติดต่อกัน (7.79 คะแนน)แชมป์คิงส์คัพ ต่างจังหวัดครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ ที่จังหวัดสงขลา (7.74 คะแนน)นโยบายผลักดันฟุตบอลหญิงไทยกลับสู่เวทีโลก(7.71 คะแนน) การจัดประชุมฟีฟ่าคองเกรส ครั้งที่ 74 (7.70 คะแนน) การเพิ่มเงินสนับสนุนทุกลีก การจ่ายเงินสนับสนุนให้กับสโมสร เคลียร์เงินค้างจ่ายสโมสรและเงินตกค้าง (7.69คะแนน)และการ MOU กับต่างประเทศเพื่อพัฒนาฟุตบอลไทย (7.67คะแนน)

สำหรับความคาดหวังในอนาคต แฟนบอลส่วนใหญ่ (39.2%) ต้องการเห็นทีมชาติไทยก้าวไกลในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก ขณะที่ 29.7% เน้นย้ำความสำคัญของการรักษาความโปร่งใสในการบริหารงาน นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะสำคัญ เช่นการพัฒนาทีมชาติชุดใหญ่ (35.7%) การพัฒนาเยาวชน (26.4%) ยกระดับมาตรฐานการแข่งขันในประเทศ (15.0%)

นอกจากนี้แล้วมูลค่าทางเศรษฐกิจของการจัดการแข่งขันไทยลีก (T1 T2 T3) ปี 2567 นั้นก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 7,365.405 ล้านบาท (ไทยลีก 1: 4,654.758 ล้านบาท ไทยลีก 2: 1,507.405 ล้านบาท และไทยลีก 3: 1,203.242 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและบทบาทของฟุตบอลไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ประกอบกับข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ชี้ให้เห็นว่า กีฬาฟุตบอลสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศสูงถึง 59,513.28 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าทางตรง 44,347.16 ล้านบาท และมูลค่าทางอ้อม 15,166.12 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดการจ้างงานรวม 110,846 คน โดยเป็นการจ้างงานเต็มเวลาทางตรง 83,499 คน และทางอ้อม 27,347 คน สะท้อนให้เห็นว่า ฟุตบอลมีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า การทำงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในยุคปัจจุบัน ได้รับความชื่นชมในด้านธรรมาภิบาลและความโปร่งใส ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการ

สร้างความเชื่อมั่นให้กับแฟนบอล ทั้งนี้แฟนบอลไทยยังให้การสนับสนุนการทำงานของสมาคมฟุตบอลฯ ในยุคปัจจุบันอย่างชัดเจน แต่ยังคงจับตาการดำเนินงานตามเป้าหมายระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาทีมชาติและระบบเยาวชน เพื่อยกระดับฟุตบอลไทยสู่มาตรฐานสากลนอกจากนี้แล้วฟุตบอลไทยไม่เพียงเป็นกีฬายอดนิยม แต่ยังเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

อุตสาหกรรมดิจิทัลจีนพุ่งทะยานในปี 2024 รายได้แตะ 35 ล้านล้านหยวน (ราว 162 ล้านล้านบาท)

(26 มี.ค. 68) อุตสาหกรรมดิจิทัลของจีนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2024 โดยรายได้และกำไรของอุตสาหกรรมนี้มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ระบุว่า รายได้จากการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมดิจิทัลในปี 2024 ได้แตะระดับ 35 ล้านล้านหยวน (ราว 162 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ในขณะเดียวกัน กำไรรวม ของอุตสาหกรรมดิจิทัลจีนในปีนี้ก็เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.5 โดยมีมูลค่าถึง 2.7 ล้านล้านหยวน (ราว 12 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้ มูลค่าเพิ่มของผู้ผลิตรายใหญ่ในกลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์สื่อสาร, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ขยายตัวถึง ร้อยละ 11.8 ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.4 จุด จากปีที่ผ่านมา

ส่วนในภาคซอฟต์แวร์ของจีน ก็ได้รับการขับเคลื่อนจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI), แพลตฟอร์มคลาวด์, และธุรกิจรูปแบบใหม่อื่น ๆ ทำให้รายได้รวมในภาคนี้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10 โดยมีมูลค่าทั้งสิ้น 13.7 ล้านล้านหยวน (ราว 73 ล้านล้านบาท)

จีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนำไปสู่การยกระดับและปรับปรุงอุตสาหกรรมดั้งเดิมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลประจำปี 2025 ระบุว่า จีนจะเร่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของภาคการผลิต พร้อมทั้งส่งเสริมการเติบโตของผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงเพิ่มการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนยังเดินหน้าผลักดันโครงการ 'เอไอพลัส' (AI Plus) ซึ่งเน้นความร่วมมือในการผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับจุดแข็งด้านการผลิตและตลาดภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top