Monday, 26 May 2025
TheStatesTimes

‘น้องมิลค์’ คว้าชัยใน ‘ศึกโดรนชิงแชมป์โลก 2023’ ที่เกาหลีใต้ ป้องกันแชมป์ไว้ได้เป็นสมัยที่ 3 ด้วยวัยเพียง 16 ปี

(10 ต.ค. 66) นางสาววรรรญา วรรณผ่อง หรือ ‘น้องมิลค์’ ภายใต้สมาคมกีฬาทางอากาศและการบินแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์โลกเอฟพีวี หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘โดรน’ เป็นสมัยที่ 3 อย่างสมศักดิ์ศรี หลังชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทบุคคลหญิง มาครองได้สำเร็จ จากการแข่งขันรายการ ‘2023 FAI World Drone Racing Championship’ ที่เมืองนัมวอน สาธารณรัฐเกาหลี โดยมีนักกีฬา FPV กว่า 115 คน จาก 29 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ จัดโดยสหพันธ์กีฬาทางอากาศนานาชาติ (FAI)

โดยน้องมิลค์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 16 ปี โด่งดังตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากเป็นสาวน้อยยิ้มยาก แม้จะคว้าแชมป์ก็ยังหน้านิ่งเหมือนเดิม ยังได้รับเงินรางวัลอีกราว 8 ล้านวอน หรือประมาณ 2.1 แสนบาท

ก.แรงงาน ต้อนรับ กมธ.แรงงาน สภาผู้แทนราษฎร หารือช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล

วันที่ 10 ตุลาคม 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมร่วมกับ นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ในโอกาสศึกษาดูงานและรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของกระทรวงแรงงาน นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และแผนการดำเนินงานตามนโยบายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

นายสิรภพ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานขอขอบคุณคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร 
ในวันนี้ที่ได้มีโอกาสมาศึกษาดูงานและรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของกระทรวงแรงงาน ตลอดจนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และแผนการดำเนินงานตามนโยบายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินการของคณะกรรมาธิการการแรงงาน ถือได้ว่า เป็นการปฏิบัติงานที่เคียงคู่กับกระทรวงแรงงาน มีการเชิญผู้แทนจากกระทรวงแรงงาน ไปนำเสนอข้อมูลด้านต่าง ๆ อย่างครอบคลุมทุกมิติในการดูแลและพัฒนาแรงงาน อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ส่งผลให้กระทรวงแรงงานประสบความสำเร็จในด้านความช่วยเหลือให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานได้รับประโยชน์สูงสุด

ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังจากการประชุมถึงความคืบหน้าสถานการณ์ของแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลว่า ขณะนี้ยังได้รับรายงานจากทูตแรงงานที่กรุงเทลอาวีฟว่ามีผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 9 ราย และมีแรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 ราย 
มีแรงงานแจ้งความประสงค์กลับไทยผ่านช่องทางของสถานทูตเพิ่มเป็น 2,990 คน จากการที่คณะกรรมาธิการการแรงงาน ได้มาศึกษาดูงานที่กระทรวงแรงงานในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยหารือถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจในขณะนี้ ในส่วนของกระทรวงแรงงานท่านรัฐมนตรีพิพัฒน์ได้สั่งการทูตแรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟ เร่งให้ความคุ้มครอง ดูแล และช่วยเหลือพี่น้องแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่และรวดเร็วที่สุด รวมทั้งให้ประสานกระทรวงการต่างประเทศในการนำแรงงานไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย ซึ่งแรงงานชุดแรกจำนวน 15 คน จะเดินทางถึงไทยในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ กระทรวงแรงงานได้เตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกเพื่อให้แรงงานได้สิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่แรงงานพึงได้รับตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงแรงงาน ยังได้นำคณะกรรมาธิการการแรงงานตรวจเยี่ยมการ
ให้บริการของสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694 ตลอด 24 ชั่วโมง และ “ศูนย์ช่วยเหลือแรงงงานและติดตามสถานการณ์สู้รบในอิสราเอล กระทรวงแรงงาน” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 11 และชั้นล่างอาคารกระทรวงแรงงาน เพื่อรับข้อมูลและประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

‘ฉนวน Gaza’ เขตกักกันอันแสนสิ้นหวัง-ไร้มนุษยธรรม ที่ทั่วโลกมองข้าม ชนวนเหตุในการโต้ตอบด้วยความรุนแรงจากกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอล

ฉนวน Gaza เขตกักกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทำไมกลุ่ม ‘Hamas’ จึงกล้าโจมตีอิสราเอลอย่างบ้าเลือด ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าจะต้องถูกอิสราเอลตอบโต้เอาคืนอย่างรุนแรง เมื่อได้พยายามหาข้อมูลที่เขียนจากแหล่งข้อมูลที่มีความเป็นกลางที่สุด ก็ทำให้ได้บทความนี้มา ซึ่งเป็นบทความที่เขียนโดย ‘War Child International’ องค์กรเอกชนที่ไม่หวังผลกำไร (NGO) ที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามจากความขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธในที่ต่าง ๆ บนโลกนี้

คำเตือนที่สิ้นหวัง 
ชาว Gaza เรียกบ้านของพวกเขาว่าเป็น ‘เขตกักกัน’ ที่เสมือนกับเป็น ‘เรือนจำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ ด้วยจำนวนผู้คนร่วม 2 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ที่นี่ บนพื้นที่เพียง 365 ตารางกิโลเมตร ประชากรในฉนวน Gaza สองในสามอายุน้อยกว่า 25 ปี อาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ‘António Guterres’ เลขาธิการสหประชาชาติ ได้เตือนว่า ฉนวน Gaza จะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ภายในปี 2020 เว้นแต่จะมีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อปรับปรุงบริการและโครงสร้างพื้นฐาน

ด้วยผลจากการปิดล้อม ชาวปาเลสไตน์ในฉนวน Gaza ต้องดิ้นรนกับสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ อันเนื่องมาจากอัตราความยากจนและการว่างงานที่สูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ฉนวน Gaza มีความหนาแน่นของประชากรสูงมาก สำนักงานสถิติกลางกาซา ระบุว่า มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 5,453 คนต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งมากกว่าความหนาแน่นของประชากร 13 เท่าในพื้นที่ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง คือ 400 คนต่อตารางกิโลเมตร ความยาวของฉนวน Gaza ไม่เกิน 41 กม. และความกว้างระหว่าง 6 ถึง 12 กม. สถิติท้องถิ่นแสดงให้เห็นว่า อัตราการว่างงานในฉนวน Gaza เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยแตะระดับ 50.2% และเนื่องจากการปิดล้อมฉนวน Gaza อย่างต่อเนื่องและยาวนาน การโจมตีของอิสราเอล ทำให้ประชากรชาวปาเลสไตน์ในฉนวน Gaza ประมาณ 85% อยู่ในระดับที่ ‘ต่ำกว่าเส้นของความยากจน’

สงครามใหญ่ 4 ครั้งในรอบ 16 ปี

เด็ก ๆ และผู้ปกครองในฉนวน Gaza ไม่รู้อะไรเลยนอกจากชีวิตภายใต้การปิดล้อม และไม่สามารถออกไปไหนได้ แม้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวก็ตาม หนึ่งทศวรรษหลังจากที่กลุ่ม Hamas ยึดครองดินแดนที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ผู้อยู่อาศัยต้องมีชีวิตที่ต้องผ่านการสู้รบครั้งใหญ่ถึง 4 ครั้ง ในปี 2008-2009, 2012, 2014 และ 2021 และตอนนี้กำลังอยู่ในครั้งที่ 5

ตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2018 มีประชากรในฉนวน Gaza ได้รับบาดเจ็บแล้วกว่า 23,500 ราย มากกว่า 5,500 รายถูกยิงโดยกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอล ผลการประท้วงตามแนวชายแดนส่งผลให้มีเด็กได้รับบาดเจ็บ 4,250 ราย และมีผู้เสียชีวิต 31 ราย (ไม่นับรวบเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในห้วงเวลานี้)

การจัดการกับความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า
หลายปีมานี้ สถานการณ์ในฉนวน Gaza ย่ำแย่ลงจนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ระบบการดูแลสุขภาพและการศึกษาในท้องถิ่นจวนเจียนที่จะล่มสลาย และการเผชิญกับความรุนแรงในระยะยาวยังคงส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ ทั้งทางสุขภาพกายและสุขภาพทางใจของเด็ก ๆ และเยาวชน พ่อแม่ ผู้ดูแล และนักสังคมสงเคราะห์ต้องดิ้นรน เพื่อรับมือกับความเครียดในระดับที่ท่วมท้นและหันไปใช้วิธีทุก ๆ รูปแบบเพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาไม่สามารถให้การสนับสนุนแก่เด็ก ๆ ตามที่ต้องการได้

การวิจัยแสดงให้เห็นว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่มีอัตราสูงในฉนวน Gaza ทำให้เกิดภาวะทางจิตซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมมากมาย รวมถึงโรคความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า อาการเหล่านี้มีความรุนแรงในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เด็กกว่าครึ่งหนึ่งในฉนวน Gaza กล่าวว่า “พวกเขาไม่มีความหวังอะไรเลยสำหรับอนาคตของพวกเขา”

‘Rami’ เด็กชายชาวปาเลสไตน์วัย 10 ขวบ เติบโตภายใต้การปิดล้อมฉนวน Gaza ของอิสราเอล

เรื่องราวของ ‘Rami’ (10 ขวบ) ผู้ซึ่งเติบโตภายใต้การปิดล้อมฉนวน Gaza ของอิสราเอล
‘Rami’ เป็นเด็กชายชาวปาเลสไตน์วัย 10 ขวบ เขาและน้องชายอีก 3 คน ต้องใช้ชีวิตในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลยึดครองมาทั้งชีวิต ‘Haifa’ แม่ของเด็ก ๆ พยายามดิ้นรนเพื่อปกป้องลูก ๆ ของเธอจากความทุกข์ทรมานตลอดกาล และการถูกคุกคามจากความรุนแรง

“พื้นที่ที่เราอาศัยอยู่นั้นอันตรายมากในช่วงสงคราม มีการโจมตีด้วยขีปนาวุธเป็นประจำ” เธอกล่าว

ครอบครัวนี้ต้องอพยพออกจากบ้านหลายครั้งหลายหน เพื่อหลบหนีการโจมตีด้วยรถถังและระเบิดของอิสราเอล “หลายปีแห่งความหวาดกลัว มันหมายความว่า เราไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้ ไม่ใช่เพียงแค่ด้านจิตใจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านการเงินด้วย” เธอกล่าวเสริม โดยอ้างถึงนโยบายการปิดล้อมและการปิดเมืองอย่างถาวรที่บังคับใช้ในฉนวน Gaza

เพื่อเรียนรู้วิธีจัดการกับประสบการณ์ของเธอและช่วยเหลือลูก ๆ Haifa จึงเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการของ ‘War Child’ ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กในสภาวะสงคราม ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจการให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตของสังคมในฉนวน Gaza โดยเจ้าหน้าที่ของ War Child ได้สัมภาษณ์พวกเขาเกี่ยวกับเวลาที่พวกเขาเข้ามาร่วมโครงการ Haifa กล่าวว่า “ฉันรู้สึกสบายใจมากที่ได้อยู่กับกลุ่มนี้ ฉันสามารถปรับตัวได้ในเวลาไม่นาน และรู้สึกว่าได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนเป็นอย่างดี ฉันยังคงต้องฝึกหัดจินตนาการและผ่อนคลายมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งช่วยให้ฉันมีทัศนคติเชิงบวกมากขึ้น”

ก่อนที่จะเข้าร่วมกลุ่มที่รับการดูแลของ War Child ทำให้ Haifa พบว่า การแสดงความรู้สึกของเธอออกมานั้นเป็นเรื่องยาก เธอไม่อยากสร้างภาระให้คนรอบข้าง ในระหว่างการประชุม เธอเรียนรู้ที่จะเปิดใจอย่างช้า ๆ แต่แน่นอน สิ่งนี้ได้ช่วยให้ Haifa สร้างความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับแม่ของเธอ และเรียนรู้ที่จะพึ่งพาผู้อื่นเพื่อรับการสนับสนุน Haifa พบว่า แม่ของเธอสามารถให้ที่หลบภัยแก่เธอได้อย่างแท้จริง “ฉันกลัวมากในระหว่างการสู้รบ และลูก ๆ ของฉันก็ได้รับความหวาดกลัวนั้นไปด้วย”

Rami กับแม่และน้องชาย

ความฝันแรกของ Rami คือการเป็นศัลยแพทย์เพื่อที่เขาจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ Haifa ได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก ๆ ของเธอ เมื่อก่อนบางครั้งเธอก็อารมณ์เสีย แต่ตอนนี้เธอต้องนับหนึ่งถึงสิบเพื่อสงบสติอารมณ์ เธอยังสอนวิธีนี้ให้สามีของเธอและเตือนเขาเสมอเมื่อเขาโกรธลูก ๆ พ่อ-แม่ทั้งสองกลายเป็นผู้รับฟังที่ดีและพยายามให้กำลังใจลูกให้มากที่สุด Rami ได้เห็นความแตกต่างซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในตัวแม่ของเขา เธอไม่ดุเขาและน้อง ๆ ของเขาอีกแล้ว แต่กลับเล่นกับพวกเขาแทน นอกจากนั้นเธอยังแบ่งปันแบบฝึกหัดการผ่อนคลายกับพวกเขาอีกด้วย Rami กล่าวเสริมว่า “ตอนนี้ผมรู้สึกว่า มันง่ายขึ้นที่จะบอกแม่เกี่ยวกับความรู้สึกและปัญหาของตัวผมเอง หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็รู้สึกอายน้อยลง และตอนนี้ผมก็กล้าที่จะแสดงรู้สึกมากขึ้น” Rami บอก

กล้าที่จะฝัน
Rami มีความสุขมากที่ได้มีส่วนร่วมกับโปรแกรมของ War Child ในฉนวน Gaza “มันช่วยให้ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็รู้สึกเขินอายน้อยลง และทุกวันนี้ผมก็กล้าที่จะแสดงรู้สึกมากขึ้น” ตอนนี้เขาตั้งตารอถึงอนาคตและสิ่งที่เขาต้องการจะบรรลุในปีต่อ ๆ ไป “ความฝันแรกของผมคือ การเป็นศัลยแพทย์เพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้คนได้ เป็นคุณหมอมีความรัก ความฝันที่สองของผมคือ การสร้างครอบครัวและมีลูกเป็นของตัวเอง”

*ชื่อทั้งหมดในบทความนี้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมในโครงการของ War Child

ที่มา : https://www.warchildholland.org/stories-of-children/Rami/

ทางเข้าออกฉนวน Gaza ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของอิสราเอล

บทความนี้เป็นเรื่องราวอีกด้านที่เกิดขึ้นในฉนวน Gaza ภายใต้การปิดล้อมของอิสราเอล อันเป็นสาเหตุในการโจมตีอิสราเอลของกลุ่ม Hamas ส่วนตัวแล้วไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงใด ๆ ในการแก้ไขปัญหา เพราะประวัติศาสตร์ของโลก ไม่เคยมีครั้งใดที่สามารถการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งสำเร็จลงได้ ด้วยการใช้กำลังเข้าห้ำหั่นประหัตประหารกัน แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นลักษณะเลือดเข้าตาหรือจนตรอกของชาวปาเลสไตน์ก็ตาม สิ่งที่ประเทศตะวันตกปล่อยให้อิสราเอลกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ เป็นเรื่องราวที่ไม่ปรากฏในสื่อหลักของโลกตะวันตก ไม่ว่าการปิดล้อมฉนวน Gaza การให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวน Gaza มีไฟฟ้าใช้ได้เพียงวันละ 4 ชั่วโมง การขาดแคลนน้ำเพื่อการบริโภคอย่างหนักในฉนวน Gaza และการปิดล้อมไม่ให้นำอาหารและเวชภัณฑ์เข้าไปในฉนวน Gaza ของอิสราเอล ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น

ทางเข้าออกฉนวน Gaza ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของอิสราเอล

โดยอิสราเอลได้เพิ่มแรงกดดันต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวน Gaza นับตั้งแต่ปี 2007 ด้วยการสร้างกำแพงรักษาความปลอดภัยรอบฉนวน Gaza อันเป็นส่วนสำคัญของการลงโทษของอิสราเอลต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์ หลังจากชัยชนะของกลุ่ม Hamas ในการเลือกตั้งรัฐสภาปาเลสไตน์เมื่อต้นปี ค.ศ. 2006 และการยึดครองฉนวน Gaza ของกลุ่ม Hamas ในกลางปี 2007 กำแพงล้อมรอบฉนวน Gaza จากตะวันออกไปเหนือมีระยะทางประมาณ 65 กม. และสร้างอาคารสถานีคอนกรีต 6 แห่งตามแนวพรมแดนติดกับฉนวน Gaza ซึ่งอิสราเอลได้มีการควบคุมฉนวน Gaza ทั้งน่านน้ำและน่านฟ้าของตน และมีกำหนดข้อจำกัดที่เข้มงวดในการเคลื่อนย้ายผู้คนและสินค้าเข้าออกฉนวน Gaza ทั้งมีการปิดกั้นห้ามเคลื่อนย้ายผู้คนและสินค้าเข้าออกอยู่บ่อยครั้ง

เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวน Gaza มีทางเลือกเพียง 2 ทาง คือ 1.) การต่อสู้กับผู้ปิดล้อม หรือ 2.) ขอให้อิสราเอลยอมผ่อนปรนมาตรการลดการปิดล้อม และยอมปล่อยให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวน Gaza ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีตามปกติ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เหตุการณ์ความรุนแรงก็ต้องเกิดขึ้น เป็นเพราะกลุ่ม Hamas มองว่าเป็นความชอบธรรมในการเปิดฉากโจมตีอิสราเอล ด้วยเรื่องราวต่าง ๆ ที่อิสราเอลเป็นผู้กระทำต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวน Gaza และทำให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวน Gaza โดยกลุ่ม Hamas จึงต้องตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ 1 คือ การสู้รบกับอิสราเอลที่ปิดล้อมนั่นเอง

ซึ่งอันที่จริงแล้วสิ่งที่ประชาคมโลกควรจะทำ นอกจากการประณามต่อการใช้ความรุนแรงของกลุ่ม Hamas แล้ว ก็คือการกดดันให้อิสราเอลปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวน Gaza ด้วยความมีมนุษยธรรม เพื่อไม่ให้กลุ่ม Hamas มีเหตุผลอ้างในการโจมตีอิสราเอลอีกต่อไป

‘ใหม่ ดาวิกา’ ขึ้นแท่น Brand Ambassador ของ ‘Gucci-Gucci Beauty’ นับเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่ง แฟนคลับกรี๊ดสนั่นจนแท็กขึ้นเทรนด์

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 66 นับเป็นเรื่องน่ายินดี สำหรับนางเอกพันล้าน ‘ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่’ หลังจากเป็น Friend of House ของแบรนด์หรู Gucci มานานหลายปี เรียกได้ว่า “ปังแล้ว ปังอยู่ ปังต่อ จริง ๆ”

ในที่สุดวันนี้ ‘ใหม่ ดาวิกา’ ก็ได้รับตำแหน่ง Brand Ambassador ของ ‘Gucci’ และ ‘Gucci Beauty’ ซึ่ง ใหม่เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้

หลังจากประกาศอย่างเป็นทางการ แฟน ๆ หลายคนก็ดีใจกันยกใหญ่ พากันหวีดจนแฮชแท็ก #DavikaBAGucci ขึ้นเทรนด์ประเทศ

สาว ใหม่ เผยว่า “ตื่นเต้นมาก ๆ และดีใจมากที่ได้รับหน้าที่นี้ จะทำให้ดีที่สุด ตอนแรกที่รู้ข่าว คือ น้ำตาคลอ ไม่คิดว่าจะได้ ฝากทุกคนติดตามด้วยนะคะ”

นับว่าปีนี้เป็นปีทองของดาราไทยจริง ๆ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน ‘ไบร์ท วชิรวิชญ์’ ก็ได้รับตำแหน่ง Brand Ambassador ของ ‘Burberry’ และ ‘พีพี กฤษฏ์’ ได้เป็น Brand Ambassador ของ ‘Balenciaga’ ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกของแบรนด์เช่นกัน

ก็ไม่รู้คิวต่อไปมงจะลงที่ดาราหรือศิลปินคนไหน แต่นี้ก็เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวไทย ที่บุคคลมีชื่อเสียงของบ้านเราได้เติบโตไประดับโลก

'ดร.วินัย' อึ้ง!! คนปาเลสไตน์ลี้ภัย สุขใจ กทม.ยามโพล้เพล้ สะท้อน!! ชะตากรรมชีวิตที่แสนสาหัสยิ่งกว่าโรฮีนจา

(10 ต.ค.66) ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ผอ.ศวฮ.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก 'Dr.Winai Dahlan' ในหัวข้อ 'คนปาเลสไตน์' ความว่า...

ผมมีประสบการณ์ชีวิตที่อยากเขียนถึงคนปาเลสไตน์สักหน่อย ชนอาหรับที่กำลังมีปัญหาวิกฤติอยู่ในเวลานี้นั่นแหละ 

>> เรื่องแรกเกิดขึ้นหลายปีมาแล้ว ผมได้รับเชิญจากเกษตรกรไร่มะกอกชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสแบงค์ พวกเขารู้ว่าผมและทีมงานไปจัดหลักสูตรให้นักเรียนไทยในประเทศจอร์แดนตามคำเชิญของสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน จึงอยากเชิญผมและทีมงานไปช่วยจัดระบบการมาตรฐานฮาลาลการเกษตรให้กับไร่มะกอกของพวกเขาหน่อย 

การอบรมจัดที่โรงแรมในกรุงอัมมานของจอร์แดน ไม่ได้เข้าไปจัดในเขตเวสแบงค์ของปาเลสไตน์ 

เมื่อผมบินจากกรุงเทพฯไปถึงกรุงอัมมาน ปรากฏว่าเกษตรกรปาเลสไตน์เหล่านั้นผ่านชายแดนจากเวสแบงค์ออกมาที่จอร์แดนไม่ได้ เนื่องจากทหารอิสราเอลไม่อนุมัติ ผมไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนปาเลสไตน์ จึงผ่านเขตแดนประเทศของตนเองที่สหประชาชาติรับรองแล้วไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีส่วนใดที่ต้องผ่านดินแดนของอิสราเอลเลยแม้แต่น้อย 

มารู้ภายหลังว่าเขตเวสแบงค์ แม้อธิปไตยเป็นของปาเลสไตน์ ทว่าแผ่นดินมีแต่ทหารอิสราเอล ขณะที่คนปาเลสไตน์แทบไม่มีสิทธิ์อะไรในแผ่นดินของตนเองเลย ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อผ่านแดนออกมาแล้วยังต้องรีบกลับเข้าไป อยู่ข้างนอกนานไม่ได้ สุดท้ายเราอบรมได้วันเดียว โดยต้องยกเลิกการอบรมส่วนที่เหลือเนื่องจากความไม่สะดวกในการผ่านแดนอย่างที่บอก 

>> เรื่องที่สอง สำนักงานของผมมีคนปาเลสไตน์ชื่อ 'ฟูอ๊าด' ที่ลี้ภัยจากประเทศซีเรียมาทำงานอยู่ด้วยระยะหนึ่งขณะรอประเทศที่สามรับตัวไป ฟูอ๊าดจัดเป็นผู้ลี้ภัยสองชั้น (Double refugee) แม้อาศัยในซีเรีย โดยครอบครัวใหญ่ของเขาลี้ภัยมาจากปาเลสไตน์ช่วงสงครามหกวันเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว

ฟูอ๊าดเองเกิดและเติบโตในซีเรียโดยมีสถานะผู้ลี้ภัยตามครอบครัวใหญ่ แต่เมื่อซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น เขาพร้อมภรรยาและลูกเล็กหนีสงครามมาพักอยู่เมืองไทยในสถานะผู้ลี้ภัย เขาจึงกลายเป็นผู้ลี้ภัยสองชั้นอย่างที่บอก 

ฟูอ๊าดเช่าบ้านอยู่ใกล้บ้านผมที่อ่อนนุช ช่วงเช้าผมไปรับฟูอ๊าดมาทำงาน ช่วงเย็นบางวันก็รับเขาจากที่ทำงานกลับไปส่งที่บ้านเช่า โดยขึ้นทางด่วนจากด่านหัวลำโพง ฟูอ๊าดบอกผมว่าเขามีความสุขกับยามโพล้เพล้ในกรุงเทพฯ อย่างมาก ผมแปลกใจจึงถามกลับไปว่าในซีเรียไม่มียามโพล้เพล้ที่ดวงอาทิตย์ใกล้ตกอย่างนี้หรือไง เขาตอบว่าในสถานะผู้ลี้ภัย ตามกฎหมายของซีเรียเขาต้องรีบกลับเข้าบ้านก่อนดวงอาทิตย์ตก ทั้งชีวิตจึงไม่เคยเห็นท้องฟ้ายามโพล้เพล้ให้ได้มองไกล ๆ อย่างในกรุงเทพฯ บนทางด่วน ฟังแล้วสะเทือนใจบอกไม่ถูก 

คนปาเลสไตน์ไม่ว่าจะอยู่ในดินแดนของตนเอง หรือลี้ภัยในประเทศอื่น ต้องกล้ำกลืนความลำบากหนักหนาสาหัสเหลือทน ผมเคยได้ฟังเรื่องราวความเจ็บปวดของคนโรฮิงยาจากเมียนมามาแล้ว มาฟังปัญหาของคนปาเลสไตน์กลับพบว่ายิ่งรวดร้าวกว่า ผู้คนที่เคยมีประเทศของตนเองแล้ววันหนึ่งกลับสูญเสียไปเพียงเพราะโลกขาดความเป็นธรรมให้กับพวกเขา ผมพูดได้คำเดียวว่ามันสุดอัดอั้นในหัวใจ อยากให้คนภายนอกได้เห็นใจและสงสารพวกเขาบ้าง ก็เท่านั้น  

‘มท.’ ร่วมมือ ‘สตช.-ดีอีเอส’ ปราบปืนเถื่อน ออกมาตรการคุมใช้ปืนเข้ม สั่งห้ามออกใบอนุญาต-พกปืนในจังหวัด พร้อมสกัดซื้อ-ขายออนไลน์

(10 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบ ตามที่กระทรวงมหาดไทย รายงานความคืบหน้า มาตรการควบคุมการพกพาอาวุธปืนและกระสุนปืน รวมถึงสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ดัดแปลงเป็นอาวุธ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย หลังจากเกิดเหตุการณ์กราดยิงในห้างดัง เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา

โดยกระทรวงมหาดไทย ชี้แจง ครม.ว่าได้ออกคำสั่งให้ดำเนินมาตรการ ดังนี้
1.) ให้เข้มงวดเรื่องการออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ระเบิดและดอกไม้ไฟ หรือสิ่งเทียมอาวุธปืน โดยให้นายทะเบียนผู้มีอำนาจในการอนุญาตออกใบอนุญาต งดออกใบอนุญาต ในการสั่งนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนชนิดแบลงค์กันหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนอื่น ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธโดยง่าย

2.) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายทะเบียนในท้องที่ ให้แจ้งคนที่ครอบครองแบลงค์กันและสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ครอบครองอยู่ ให้มาลงทะเบียนลงบันทึกประจำวันในภูมิลำเนาที่อยู่

3.) การขอมีหรือใช้ซึ่งอาวุธปืน หรือการขอซื้อ สั่ง หรือนำเข้าเครื่องกระสุนปืนของสมาคมกีฬายิงปืน การอนุญาตออกใบ ป.3 หรือ ใบ ป.4 ให้แก่สมาคมกีฬายิงปืนให้อนุมัติเฉพาะที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมกีฬาเท่านั้น และเครื่องกระสุนปืนที่สั่งเข้ามาต้องตรงกับอาวุธปืนที่ครอบครอง ห้ามต่างชนิดกันเด็ดขาด

4.) การออกใบอนุญาตให้พกอาวุธปืนติดตัว ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการที่จะอนุญาตให้พกพาในจังหวัด จากนี้ให้งดห้ามออกใบอนุญาตพกพาภายในเขตจังหวัด

นอกจากนั้น ได้ขอความร่วมมือไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ร่วมมือกันปราบปรามการซื้อขายอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ผ่านช่องทางออนไลน์ และให้กรมศุลกากรตรวจสอบสิ่งเทียมอาวุธปืนที่นำเข้า ก่อนที่คำสั่งนี้จะประกาศใช้ ให้ตรวจเช็กว่าสิ่งเทียมอาวุธปืนดังกล่าวมีการดัดแปลงนำเข้ามาหรือไม่

นายชัย กล่าวว่า และให้สนามยิงปืนเข้มงวด ตรวจจำนวนผู้มาใช้บริการ โดยจดบันทึกรายละเอียดผู้เข้ามาใช้ทุกคน และอาวุธปืนที่นำมาใช้ต้องได้รับอนุญาต ส่วนกระสุนที่ใช้ในการซ้อมยิงห้ามนำออกจากสนามและต้องตรวจนับให้ชัดเจน

ห้องอาหารจีนหยก โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ “ติ่มซำ” ที่มีบริการบุฟเฟต์เฉพาะมื้อกลางวัน ทำใหม่สดทุกวัน ด้วยคุณภาพ รสชาติ

ห้องอาหารจีนหยก โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ “ติ่มซำ” ที่มีบริการบุฟเฟต์เฉพาะมื้อกลางวัน ทำใหม่สดทุกวัน ด้วยคุณภาพ รสชาติ ห้องอาหารจีนหยก ได้รับการตกแต่งให้มีบรรยากาศหรูหรา โอ่โถ่ง นั่งสบาย ทั้งภายในและภายนอก  บริการด้วยอาหารจีนกวางตุ้งสูตรต้นตำรับหลากหลายสไตล์ให้คุณได้เลือกลิ้มลองมากมาย ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ

โดยเฉพาะ “ติ่มซำ” ที่มีบริการในรูปแบบบุฟเฟต์เฉพาะมื้อกลางวัน ทำใหม่สดทุกวัน ด้วยคุณภาพ รสชาติและมาตรฐานการคัดสรรวัตถุดิบมากว่า 30 ปี ทั้งประเภทนึ่งและทอด เช่น ขนมจีบกุ้ง ซาลาเปาไส้ต่างๆ ฮะเก๋าหอยเชลล์  กรรเชียงปูนึ่งซีอิ๊ว  ปลากะพงซอสแดง ก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูแดงฮ่องกง เผือกทอด ฟองเต้าหู้ทอด ซี่โครงหมูอ่อนนึ่งเต้าซี่ และ เสี่ยวหลงเปา เป็นต้น  นอกจากนี้ยังสามารถเลือกอิ่มเพิ่มจาก หมวดออเดิร์ฟ (ไก่แช่เหล้า กุ้งทอดครีมสลัด หรือ ยำแมงกะพรุน) หมวดผัดผัก (กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ผักกาดแก้วน้ำมันหอย ผักบุ้งไฟแดง หรือ คะน้าฮ่องกงน้ำมันหอย) หมวดซุป (ซุปเสฉวน หรือ ซุปเยื่อไผ่) หมวดจานหลัก  (ข้าวผัดกุนเชียง หรือ โกยซีหมี่)  หมวดขนมหวาน (สาคูแคนตาลูป หรือ บัวลอยน้ำขิง) และ หมวดเครื่องดื่ม (เก๊กฮวย หรือ ชาจีน) เพียงท่านละ 999 บาท (จากปกติ 1,300 บาท)

ห้องอาหารจีนหยก โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์  เปิดบริการทุกวัน มื้อกลางวันเวลา 11.30 – 14.30 น. และมื้อค่ำ 18.00 – 22.00 น. ตั้งอยู่ชั้น 2 รองรับลูกค้าได้ถึง 220 ที่นั่ง พร้อมห้องส่วนตัวจำนวน 12 ห้อง เพื่อความสะดวกสบายตามความต้องการ

สมาคมแม่บ้านตำรวจเชิญชวนบุตรหลานข้าราชการตำรวจร่วมส่งผลงานการแต่งกลอน “ความภาคภูมิใจในครอบครัวตำรวจ” เนื่องในวันตำรวจ ประจำปี 2566 ชิงเงินรางวัล สร้างความภาคภูมิใจ สร้างขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัว

วันนี้ (10 ต.ค. 66) คุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เปิดเผยว่า สมาคมแม่บ้านตำรวจมีนโยบายมุ่งเน้นการดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดำเนินกิจกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจ และครอบครัว รวมถึงสนับสนุนภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจในอาชีพ ให้กับครอบครัวตำรวจ

เนื่องในวันตำรวจ ประจำปี 2566 สมาคมแม่บ้านตำรวจได้จัดกิจกรรมประกวดแต่งกลอน “ความภาคภูมิใจในครอบครัวตำรวจ” เพื่อเสริมสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นครอบครัวตำรวจ เพราะตำรวจเป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม เป็นที่พึ่งพาของประชาชน และเป็นผู้ปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย ครอบครัวตำรวจจึงเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ โดยรับสมัครผลงานจากบุตรข้าราชการตำรวจที่กำลังศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา และระดับปริญญาตรี

ผลงานที่ส่งเข้าประกวดเป็นวรรณกรรมประเภทบทกลอนสุภาพ หรือกลอนแปด หรือกาพย์ยานี 11 ขนาดความยาวไม่ต่ำกว่า 2 บท เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเอง มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับความภาคภูมิใจในครอบครัวตำรวจ ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงจากเรื่องใด ๆ หรือละเมิดลิขสิทธิ์โดยผู้ส่งผลงานเข้าประกวดมีสิทธิ์ส่งผลงานได้เพียง 1 เรื่อง สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณานั้น สมาคมแม่บ้านตำรวจจะพิจารณาจากเนื้อหาสาระเป็นไปตามวัตถุประสงค์ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สำนวนภาษาถูกต้องเหมาะสม มีอรรถรสชวนอ่าน มีคุณค่าในเชิงวรรณศิลป์ และมีองค์รวมของความเป็นวรรณกรรม 

นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า โอกาสนี้ ขอเชิญบุตรหลานข้าราชการตำรวจร่วมส่งผลงานการแต่งกลอน “ความภาคภูมิใจในครอบครัวตำรวจ” โดยมีรางวัลการประกวด หน่วยงานละ 3 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ จำนวน 5,000 บาท โดยรางวัลชนะเลิศของแต่ละกองบัญชาการ หรือเทียบเท่า และกองบังคับการในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะนำไปเผยแพร่ในแอปพลิเคชันแทนใจ , รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 จำนวน 3,000 บาท , รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 จำนวน 2,000 บาท โดยส่งผลงานได้ส่งผลงานทาง e-mail : [email protected] ภายในวันที่ 15 ต.ค.66 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์สมาคมแม่บ้านตำรวจ  https://policewives.police.go.th

เหตุไฉน!! นโยบายบางพรรคจากคนรุ่นใหม่ ไม่โดนใจทุกคน "ก็ใหญ่โตมาจากไหน ถึงมองสถาบันกษัตริย์ไทยไม่สำคัญล่ะ"

เด็กรุ่นใหม่ ๆ อายุยี่สิบต้น จนถึงสามสิบกลาง ๆ รวมถึงคนวัยใกล้ ๆ กันที่คิดต่างจากผมบางคน ชอบถามผมว่า เมื่อเห็นว่านโยบายของบางพรรคการเมืองที่มาจากคนรุ่นใหม่ดีถูกใจ ทำไมผมจึงยังไม่เลือกอยู่ดี ถามว่าทำไม? 

ผมมักตอบกลับไปยาว ๆ ว่า… 

การจะอ่านพฤติกรรมของนักการเมืองไทย ต้องอย่าดูแค่ ‘วาทกรรม’ แต่ต้องดู ‘พฤติกรรม’ ดูเจตนาลึก ๆ ที่ผ่าน ๆ มา ถ้าเราไม่ปัญญาเบา หรือมีอคติจนเกินไปก็จะมองออกได้ง่ายมาก ๆ พรรคการเมืองใดก็ตามที่ลึก ๆ กังขาสถาบันในเรื่องต่าง ๆ ไม่รู้สึกผูกพัน มองเป็นส่วนเกิน มองเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ มองไม่เห็นประโยชน์ จนถึงขั้นคิดล้มล้างทำลาย ก็จะแสดงออกถึงความเป็นปฏิปักษ์ให้สังคมเห็นในวิธีต่าง ๆ ส่วนคนที่จะเลือกพรรคการเมืองแบบนี้ ก็ต้องมีเหตุผลหนึ่งเหตุผลใดตรงกับ ‘แนวคิด’ หรือ ‘อุดมคติ’ ของพรรคการเมืองแบบนี้เท่านั้น 

แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยที่เลือก บางส่วนก็กลัวคนอื่นจะล่วงรู้ว่าตนเองก็แอบไม่เอาสถาบัน ไม่ได้นึกถึงว่าตนเองเกิด และเติบโตมาบนผืนแผ่นดินไทยนี้ได้อย่างร่มเย็น ผาสุข ส่วนสำคัญก็มาจากสถาบันกษัตริย์ไทย 

คำว่า ‘สถาบันกษัตริย์’ หาใช่พระมหากษัตริย์เพียงพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง แต่คือราก คือแก่น คือความสำคัญอันดับต้นในความเป็นชาติตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ด้วยบรรพบุรุษของกษัตริย์ กับคนไทยผู้หวงแหนแผ่นดิน ร่วมกันสร้างชาติจนเป็นชาติ ทำให้คนรุ่นต่อ ๆ มามีแผ่นดินอาศัย มีเอกราช มีเสรี มีความภูมิใจ ทำให้คนไทยที่คิดดีไม่กล้าคิดเนรคุณ หรือหลงลืมบุญคุณ ‘ชาติกษัตริย์ไทย’ เพราะจะมีความเชื่อคล้าย ๆ กันว่า คนที่คิดร้ายทำลายชาติ คิดเนรคุณแผ่นดินเกิดของตนเอง ย่อมนำเคราะห์ร้าย นำความหายนะมาสู่ชีวิตของตนเองในไม่ช้าก็เร็ว

แม้จะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของเหล่าคนรักสถาบันชาติกษัตริย์ไทย แต่ที่ผ่านมาก็มีฉายโชว์ให้เห็นจุดจบของคนคิดล้มล้างทำลายมาโดยตลอด 

ผมเกลียดนักการเมืองน้ำเน่า เกลียดการคอร์รัปชันโกงกินทุกรูปแบบ และฝันอยากได้นักการเมืองรุ่นใหม่ที่คิดดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนคนไทยโดยแท้จริง แต่ที่เห็นและมีอยู่ยังไม่เฉียดใกล้มาตรฐานของคนไทยที่รักสถาบันจริง ๆ เลยแม้แต่น้อย ผมอายตัวเอง ถ้าต้องได้ชื่อว่าเป็นคนไทยที่สนับสนุนการกัดเซาะ ล้มล้าง ทำลายสถาบันเบื้องสูงของตัวเอง เพราะสำหรับผม สถาบันคือความมั่นคงที่คนไทยต้องปกป้อง..รักษา ไม่ใช่สิ่งที่เสมอเทียมคนปกติแบบเรา ๆ

ผมคิดแบบนี้ เขาคิดแบบนั้น ผมและเขาเราจึงคุยกันไม่รู้เรื่อง 

นราธิวาส-ผู้การฯ สันติ ผบ.เฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ เตรียมยุทโธปกรณ์ รับมือภัยพิบัติ พร้อมช่วยเหลือประชาชน นราธิวาส

นาวาเอก สันติ เกศศรีพงษ์ศา ผู้บังคับการ กรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ในฐานะ ผู้อานวยการ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ เป็นประธานในพิธีตรวจความพร้อมในการปฏิบัติงานของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ประจาปี ๒๕๖๗ ณ ลานอเนกประสงค์ กองบังคับการ กรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

วันอังคารที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๐๐ น. นาวาเอก สันติ เกศศรีพงษ์ศา ผู้บังคับการ กรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ ๕ อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ประกอบด้วย อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอบาเจาะ อำเภอยี่งอ อำเภอตากใบ และอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ได้ตรวจความพร้อมของ กำลังพล กว่า 500 นาย  ยานพาหนะ ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ ประกอบด้วยเฮลิคอปเตอร์ เรือแอร์โบ๊ท เรือตรวจการ รถบรรเทาสาธารณสุข เครื่องมือ และอุปกรณ์ช่วยเหลือต่าง ๆ ของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ณ ลานอเนกประสงค์หน้า กองบังคับการ กรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้ ในห้วงที่ผ่านมา จังหวัดนราธิวาส โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตอำเภอตากใบและอำเภอสุไหงโก-ลก จะเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้ำกั้นระหว่างชายแดนไทย – มาเลเซีย และเป็นพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยร้ายแรงของจังหวัดทุกปีและในปีนี้ ชาวบ้านตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก ก็พึ่งได้รับความเดือดร้อนจากพลุระเบิด ทางหน่วยศูนย์ฯ จึงได้เตรียมความพร้อมเป็นพิเศษเพื่อความเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวมูโนะ  และประชาชนในทุกพื้นที่ ที่เกิดภัยพิบัติ จากอุทกภัยน้ำท่วมในช่วงเดือน พฤศจิกายน จนถึง มกราคม ของทุกปี จนส่งผลกระทบสร้างความเดือนร้อนต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เช่น ภัยธรรมชาติ และภัยพิบัติอื่น ๆ ซึ่งต้องได้รับการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน หน่วยจึงต้องมีความพร้อมทั้ง กำลังพล ยานพาหนะ เครื่องมือ และอุปกรณ์ช่วยเหลือต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาทางให้พี่น้องประชาชนได้รับการช่วยเหลือ และเกิดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของกำลังพล หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือเสมอมา ตามนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานของ พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ที่ให้กาลังพลของกองทัพเรือทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ สมดั่งคำที่ว่า “เทิดทูนสถาบัน ยึดมั่นระเบียบวินัย ประชาชนภูมิใจ ทะเลไทยมั่นคง”

นาวาเอก สันติ เกศศรีพงษ์ศา ผู้บังคับการกรมทหารราบที่3 กองพลนาวิกโยธินภาคใต้ค่ายจุฬาภรณ์ ให้ความเชื่อมั่นว่า สำหรับพี่น้องในจังหวัดนราธิวาสหรือพื้นที่ใกล้เคียง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนหน่วยเรามีชุดยุทโธปกรณ์ ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่า ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ จะสามารถช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทันเหตุการณ์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในปัจจุบันสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น มีความหลากหลาย สามารถสร้างความเสียหาย และความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ฉะนั้น ในฐานะที่พวกเราได้รับภารกิจในด้านการเบาเทาภัย จึงต้องมีความพร้อมที่จะต้องระดมทรัพย์กำลัง เครื่องมือ เครื่องใช้ เพื่อให้การช่วยเหลือชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top